คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : นางร้าย 18
The villain
นาง (นาย) ร้าย ที่รัก
ตอนที่ 18
เมื่อคืน...มันก็เป็นอีกคืนที่ผมนอนไม่หลับ...คอยวนเวียนแต่จะคิดเรื่องที่เขาพูดเอาไว้...
เริ่มต้นใหม่...อย่างนั้นเหรอ...
เหอะ!...มันก็แค่คำพูดที่สวยหรูก็แค่นั้นแหละ!...คำว่าเริ่มต้นใหม่สำหรับผมนะ...มันไม่มีอีกแล้ว...
ผมลุกออกมาจากห้องตัวเองแล้วเดินลงมาที่บันได
แต่ผมก็ลงมาได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น
สายตาของผมก็มองไปเห็นใครบางคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาห้องรับแขก...สงสัยคงต้องทักทายซะหน่อยละมั้ง...
“ว่าไงหนึ่ง...ตื่นเช้าจังนะ”
“ระ เรย์!...” หนึ่งเรียกผมด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
เชิงหวาดกลัว...แล้วก็เปลี่ยนเป็นลุกยืนขึ้นด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ
“เป็นอะไร? เสียงสั่นเชียว ไม่สบายเหรอ?” ผมถามแล้วเดินเข้าไปใกล้...
“ปะ เปล่า...เรย์มีอะไรกับหนึ่งเหรอ?”
หนึ่งยิ้มตอบ...พยายามทำตัวไม่ให้สั่น
แต่กลับค่อยๆ เขยิบตัวหนีทุกครั้งเวลาที่ผมเดินเข้าไปใกล้
“คิกๆ ไม่ได้กลัว...แล้วหนีทำไมละ?”
อา...ผมรู้สึกว่าเสียงหัวเราะของผมในตอนนี้มันช่างเหมือนผู้ร้ายซะจริง...
“คะ คือ...คือหนึ่ง...อะ โอ๊ย!!!”
ตุบ!
คงเป็นเพราะเดินไม่ถนัดและเอาแต่เดินถอยหลังหนีผมเลยทำให้หนึ่งสะดุดกับโต๊ะล้มแบบไม่รู้ตัว...
แล้วผมก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ
ผมเข้าไปประชิดตัวร่างบางที่ล้มระเนระนาดอยู่บนพื้นแล้วจับกระชากหัวอย่างรุนแรง
จนทำให้เจ้าตัวถึงกับเบ้หน้าด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย! เจ็บ! ระ เรย์ ฮึก หนึ่งเจ็บ!!! ปล่อยนะ!”
“อ่า...ขอโทษทีไม่ได้ตั้งใจ”
พูดไปยิ้มไปแต่การกระทำของผมกลับตรงกันข้ามเลย...
“เมื่อวาน...เรย์ทำให้หนึ่งต้องเจ็บขาสินะ?”
“ระ เรย์...” หนึ่งมองผมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว...
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็เอามือก็แล้วกันเนอะ...”
ตุบ!
ผมจับหัวของหนึ่งให้กระแทกลงไปบนพื้นแรงๆ
ถึงหัวจะไม่แตกแต่ผมก็รับรองเลยว่าคงจะเจ็บและมึนไม่น้อย
“เจ็บ!!! ฮือ ฮือ โอ๊ย เจ็บ...”
ดูสิ...หนึ่งร้องไห้เลย...
ว่าแล้วผมก็จับให้หนึ่งนอนคว่ำหน้าแล้วจับมือบางของเขาให้แนบลงกับพื้น...ดูสิ
สีหน้าของหนึ่งในตอนนี้ซีดเป็นไก่ต้มเลย...
“เรย์...จะทำ...อะไร...”
“ทำแบบที่หนึ่งคิดไง”
“อย่า!!!”
ผัวะ!
ผมไม่รอฟังเสียงร้องของอีกฝ่ายเลย
ฝ่าเท้าของผมก็เหยียบลงไปบนมือขาวๆ ของหนึ่งเต็มๆ แถมยังเป็นมือข้างขวาซะด้วย...
“ฮือ ฮือ เจ็บๆ ปล่อยๆ โอ๊ย! เรย์!!! หนึ่งเจ็บ!!!”
ฮ่าๆ
หนึ่งร้องเสียงหลงเลย...
ผมไม่สนหรอก
ผมบดขยี้อย่างแรงจนมือของหนึ่งแดงอย่างน่ากลัว ผมเหยียบเข้าไปซ้ำๆ
ราวกับว่ามันเป็นสิ่งของที่น่าจะทำลาย...ไม่สิ...มันก็น่าทำลายจริงๆ นั่นแหละ
“ฮือ ฮือ ช่วยด้วย! ใครก็ได้...ช่วยด้วย...”
ตุบ
ตุบ ตุบ
ร้องเข้าไป...ขอความช่วยเหลือเข้าไป...แล้วยิ่งหนึ่งร้องก็ยิ่งทำให้ผมเกิดอยากที่จะทำให้แรงขึ้นไปอีก
ผมไม่ออมมือหรอกนะ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเจ็บมากแค่ไหนก็ตาม...
“เรย์!!! พอเถอะนะ หนึ่งเจ็บ ฮือ ฮือ ฮึก พอๆ เจ็บๆ”
ผมเพิ่มแรงขยี้ไปที่นิ้วเล็กๆ
อีกมือนึงของหนึ่งก็พยายามจับเท้าของผมเอาไว้เพื่อห้าม...แต่คิดว่าจะห้ามผมได้เหรอ
ฮ่าๆ คิดผิดซะแล้วละ...บอกเลยว่าแค่นี้ห้ามผมไม่ได้หรอก
ร้องเข้าไป!...
อ้อนวอนเข้าไป!...
ยิ่งร้องผมก็ยิ่งสะใจ!
อยากทำให้เจ็บเหมือนกับที่ผมเคยเจอ...
“หนึ่ง!!! ไอ้เรย์!!!”
“กรี๊ดด คุณหนึ่ง!!!”
แล้วเพียงไม่นานผมก็ได้ยินเสียงร้องจากคนรอบข้าง
พวกเขามองผมอย่างตกตะลึงก่อนที่จะพากันมาผลักผมให้ออกห่างๆ
“ฮือ ฮือ คุณแม่...”
หนึ่งร้องไห้โฮแล้วพาร่างกายที่สะบักสะบอมลุกขึ้นลุกไปหาผู้หญิงคนนั้น...
“โธ่หนึ่ง เจ็บไหมลูก...”
เธอมองไปที่มือของลูกชายตัวเองแล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง...
“คุณเรย์ ทำไมทำคุณหนึ่งแบบนี้ละคะ” นิดถามผม...
“ใช่คะ! ทำไมทำแบบนี้ละคะ” น้อยพูดขึ้น...
“ฮ่าๆ สะใจไงละ”
ผมหัวเราะออกมาแล้วก็ตอบ...ก็แล้วยังไงในเมื่อผมรู้สึกสะใจจริงๆ
นี่นา...ไม่! ผมไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย
ไม่เคยมีความคิดแบบนั้นใส่หัวสักนิดเลยละ...แล้วที่ผมเลือกทำมือขวาแทนที่จะเป็นมือซ้าย
เพราะมือขวานะ...
หนึ่งถนัดในการใช้เล่นเปียโน!...
“ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ! ฉันจะฟ้องคุณพจน์!!!”
แม่ของหนึ่งพูดขึ้นอย่างเหลืออด
เธอมองผมราวกับว่าอยากจะกินเลือดกินเนื้อเลยก็ว่าได้
“ฮ่าๆ ฟ้องไปเลย! อยากจะฟ้องอะไรก็ฟ้องไป ฮ่าๆๆ”
“แก!!!”
“แต่ก่อนที่จะฟ้องนะ ผมขอทำอะไรให้มันคุ้มหน่อยก็แล้วกัน!”
พูดจบ...ผมก็ตรงดิ่งไปยังสองแม่ลูกนั่น
แล้วผลักให้ผู้หญิงคนนั้นถอยออกอย่างแรง
จนเธอล้มไปอีกทาง...ส่วนนิดกับน้อยก็มัวแต่ตะลึงอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
เลยทำให้พวกเขาห้ามผมไม่ทัน...กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่หนึ่งมาอยู่ในมือผมแล้ว...
“มานี่!!!”
“โอ๊ย!!! คุณแม่!!!”
“กรี๊ด!!! ปล่อยลูกของฉันนะ!!!”
ผมจับร่างเล็กๆ
ของหนึ่งแล้วกระชากให้เดินตามมาอย่างแรง
ด้วยความที่ว่ายังไม่ทันตั้งตัวเลยทำให้หนึ่งล้มลุกคลุกคลานไปบ้าง
ยัง...มันยังไม่จบแค่นั้น...
ผมลากหนึ่งไปทางหน้าบ้านตรงสระว่ายน้ำ
โดยที่มีเสียงร้องห้ามดังมาตามหลังเป็นระรอกๆ
“โอ๊ย!!! ปล่อย! เรย์...ปล่อย!!! เจ็บๆ”
“หึหึหึ ปล่อยแน่...”
ผมแสยะยิ้มร้าย...
“จะ...ทำ...อะไร!”
หนึ่งถามเสียงสั่นๆ...
“ก็ทำอย่างที่หนึ่งคิดไงละ”
“ม่าย!!!”
ตูม!
ผมผลักหนึ่งตกน้ำ
แล้วหัวเราะออกมานิดหน่อยด้วยความสะใจแบบสุดๆ
แต่ก่อนที่พวกนั้นจะตามมาห้ามได้ทันผมก็ต้องเล่นอะไรสักหน่อย...
“แค่ก แค่ก แค่ก ช่วย...”
“อ้าว จะรีบขึ้นมาทำไม อยู่ในนั้นก่อนสิ”
คำพูดที่แสนเย็นชาและการกระทำที่แสนเย็นชา...ผมไม่ให้หนึ่งได้ขึ้นมาจากในน้ำได้
ผมเอื้อมมือไปจับหัวของหนึ่งเอาไว้แล้วกดลงไปในน้ำ
ไม่สิ...เขาเรียกว่าจิกผมเลยละ...
หนึ่งที่กำลังเจ็บแขนเจ็บขาอยู่ก็ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
เขาดิ้นทุรนทุรายอยู่ในน้ำพยายามที่จะเอาชีวิตรอด...ส่วนผมนะเหรอ?
ไม่มีความสงสารเลย...มีแต่หัวเราะสะใจล้วนๆ
“เรย์!!! ปล่อยหนึ่ง!!! แค่ก แค่ก แค่ก”
ซ่า...
“ปล่อย!!!”
ตูม!...
“ปล่อย อึก!”
ฮ่าๆ
คิดว่าผมจะปล่อยเหรอ? ไม่มีทางซะหรอก!...
“กรี๊ด!!! หนึ่ง!!! ไอ้ชั่ว ไอ้เลว!!! แกปล่อยลูกฉันนะ!!!”
“คุณหนึ่ง!/คุณหนึ่ง!”
แล้วหลังจากนั้นความโกลาหลก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง
เมื่อผู้หญิงคนนั้นและนิดกับน้อยตามมาได้ทันก่อนที่หนึ่งจะเริ่มขาดอากาศหายใจ
พวกเขาผลักผมให้ออกห่างแล้วรีบช่วยหนึ่งขึ้นมาจากน้ำ
แววตาที่ดุดันของเธอมองมายังผมด้วยความโกรธแค้นแบบสุดๆ
ร่างของผมเองก็ถูกจับจากนิดกับน้อย
พวกเขาต่างก็พยายามจับผมไว้แน่นเพื่อกันไปทำร้ายหนึ่งอีก...ผมไม่ดิ้น ไม่หนี
ไม่ทำอะไรทั้งนั้น อยากจับหรือทำอะไรทำเลย...
“ฉันจะตบสั่งสอนแกสักหน่อยเถอะ!”
อา...นี่ละนะ
นิสัยของผู้หญิง
กำลังจะเริ่มออกมาแล้วละ...ในเมื่อทำคนเดียวไม่ได้ก็อาศัยคนที่มากกว่ารุม
เพี๊ยะ!
ใบหน้าผมถูกตบไปทางด้านซ้ายอย่างแรง...เพียงแค่ฉาดเดียวที่โดนแต่ผมก็รู้สึกเจ็บมากอยู่เหมือนกัน...
“...”
ผมนิ่ง...ไม่หือ ไม่อือ ไม่ร้องออกมา ก่อนที่จะค่อยๆ
หันหน้าไปมองผู้หญิงคนนั้นช้าๆ
“หึ”
ผมหัวเราะออกมาเบาๆ...
แล้วอาศัยแรงที่มากกว่าผู้หญิง
ก็แน่ละ...ผมเป็นผู้ชายนี่นา...ยังไงซะแรงก็ต้องมากกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว
ผมสะบัดตัวอย่างแรงแล้วผลักให้นิดกับน้อยตกน้ำ
“ว้าย!”
“ว้าย!”
ตูม!
ตูม!
ส่วนผู้หญิงคนนั้นพอไร้คนช่วยก็เกิดอาการหวาดกลัว
แต่ผมก็ไม่รอให้เธอตั้งตัวได้เช่นกันก็ผลักเธอล้มลงไปกับพื้นอย่างรุนแรง
“ว้าย!!!”
“คุณแม่!!!”
หนึ่งประคองร่างที่เจ็บออดๆ
แอดๆ ของตัวเองเข้าหา...
ยังไม่สะใจผมเท่าไหร่เลย...ผมหัวเราะนิดหน่อยก่อนที่จะเดินออกมา
ได้ยินเสียงด่าทอมาตามหลังด้วยละ แต่ก็แล้วยังไง? ผมไม่สนใจอยู่แล้ว...
“แก! ไอ้ลูกที่ไม่มีใครสั่งสอน!!! ไอ้ชั่ว! ฉันจะฟ้องคุณพจน์!
ฉันจะฟ้องคุณพจน์!!!”
“ฮ่าๆ”
ตามสบายครับ...คุณแม่!!!...
“เชิญครับ”
พอมาถึงหน้าบ้านก็มีคนรถมารอรับผมอยู่
ผมพยักหน้าเบาๆ ให้แล้วขึ้นไปนั่ง
จากนั้นก็หันไปมองบ้านที่ตัวเองเพิ่งกลับมาอยู่หมาดๆ
อยู่ได้แค่เพียงไม่กี่วันผมก็ต้องจากไปอีกแล้ว...
แต่มันก็ดีแล้วละ...ผมรู้สึกว่าไม่ค่อยอยากที่จะอยู่ที่นี่นานๆ
สักเท่าไหร่ รีบๆ ทำงานให้เสร็จๆ แล้วก็จบไปซะ...
ลาก่อน...
อีกด้านหนึ่ง
พจน์ที่กำลังประชุมอย่างเคร่งเครียดในห้องประชุมใหญ่
เหล่ากรรมการและผู้บริหารทั้งหมดแสดงสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันอย่างถ้วนหน้า...
ปัง!
เอกสารถูกวางอยู่บนโต๊ะอย่างแรงเพื่อต้องการคำตอบที่ชัดเจน...
“มันเป็นแบบนี้ได้ไง!”
พจน์กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน...เพียงแค่คืนเดียวแต่กลับทำให้บริษัทฯ
ถึงกับเกือบล้มเพราะธุรกิจ!
แต่ทุกอย่างที่ถามไปกลับมีเพียงแต่ความเงียบตอบกลับมาเท่านั้น...เหล่าคนที่นั่งประชุมอยู่ที่นี่มีแต่ก้มหน้าก้มตามองพื้น
ไม่มีใครสักคนที่จะตอบคำถามเขาสักนิด
“ผมถามพวกคุณเพื่อต้องการทางแก้! ไม่ใช่ให้มานั่งเงียบแบบนี้!!!”
พจน์ถามอีกครั้ง...
“พวกเราก็อยากหาทางแก้ให้นะครับคุณพจน์
แต่ตอนนี้ทางพวกเราเองก็มืดแปดด้านจริงๆ”
“ใช่ ใครมันจะคิดว่าบริษัทฯ เราจะล้มเพียงข้ามคืน”
เหล่าคณะกรรมการบริหารพยายามที่จะเสนอเหตุผลออกไป
แล้วนั่นมันก็ทำให้พจน์ถึงกับแทบควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
“เฮ้อ...”
พจน์กุมขมับตัวเองด้วยความปวดหัว
แล้วพยายามเก็บอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในเมื่อธุรกิจกำลังมีปัญหา
อาจถึงขั้นล้มละลายได้...ทางที่ดีที่สุดในตอนนี้คือหาทางแก้
เพื่อปรับให้หุ่นที่ตกอยู่กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
แต่สิ่งที่คาใจพจน์มากที่สุดคือใคร! ที่มันทำแบบนี้ได้
เพราะดูจากสถานการณ์แล้วข้อมูลของบริษัทฯ รั่วไหลแน่นอนเลยทำให้สินค้าที่ส่งออกบางตัวถูกระงับและมีคู่แข่งคนอื่นสวมรอยแทน
ไหนจะหุ้นที่ตกอีก ถ้าหากว่าไม่หาทางแก้ในตอนนี้...
พจน์หมดตัวแน่ๆ!!!...
“ใคร...เป็นคนทำ”
ปัง!...
“มีอะไรให้ผมช่วยไหมละคุณพจน์!”
!!!
บานประตูที่ถูกเปิดออกจาบุคคลภายนอก
กับคำพูดที่ถูกเอ่ยออกมาทำให้คนในห้องประชุมหันไปมองเป็นตาเดียว
ไม่เว้นแม้แต่พจน์เองก็เหมือนกัน...
บดินทร์!!!...
“กลับมาแล้วเหรอคะคุณเรย์”
“อืม...”
ทันทีที่ผมกลับมาที่ๆ
เดิม...ไม่สิ ที่ๆ ผมอาศัยอยู่มาร่วมเดือนต่างหาก
คนรับใช้ก็ออกมาต้อนรับผมพร้อมกับหาน้ำมาให้ มันเหมือนกับเป็นภาพซ้อนเลย...
ภาพที่ใครบางคนที่แสนจะคิดถึงกำลังทำแบบนี้กับผม
เธอดูแลผมด้วยรอยยิ้ม เธอห่วงผม หวงผมและรักผมยิ่งกว่าใคร...
คิดถึง...
‘คุณเรย์คะ’
เธอกำลังเรียกผมอยู่
ผมหันไปมองเธอเช่นกัน...
‘น้ำคะ’
เธอยกน้ำมาให้ผมพร้อมกับนั่งลงข้าง...
รอยยิ้มของเธอ
เสียงหัวเราะของเธอ ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว...มีแต่ผมคนเดียวที่ต้องเผชิญชะตากรรม
มีแต่ต้องคิดถึง...
สวบ
“คิดอะไรอยู่ หืม”
ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นชินเอ่ยถาม
เอเดนนั่งลงข้างๆ ผมแล้วใช้หลังมือเกลี่ยผมของผมเบาๆ
ทั้งสีหน้าและแววตาที่เขามองมายังผมเต็มไปด้วยความหวงแหนและรักใคร่
“...เปล่า”
“ฉันดีใจที่นายกลับมา”
“อืม”
ผมพยักหน้าตอบเบาๆ...
ดีใจที่ผมกลับมาอย่างนั้นเหรอ...มันก็คงต้องเป็นแบบนั้น
ผมต้องดีใจใช่ไหมที่ได้กลับมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง ผมจะต้องดีใจ...แต่ว่า....
ทำไม...
ผมถึงได้เจ็บปวดแบบนี้นะ...
หลังจากนั้นผมก็ขอตัวขึ้นมาบนห้อง
ห้องที่ผมอาศัยอยู่นานเกือบเดือน ถึงห้องที่ผมอยู่จะดูหรูหรามากเท่าไหร่
แต่ผมก็ยังไม่รู้สึกคุ้นชินมันอยู่ดี
ผมนั่งกอดเขาอยู่เงียบๆ
ในห้องของตัวเอง ในหัวมันก็คิดแต่เรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ วนไปวนมาอยู่แบบเดิม...
ตาของผมก็มองไปยังนาฬิกาที่อยู่บนหัวเตียง
ตอนนี้ก็กินเวลาไปเกือบบ่ายแล้ว แล้วทางนั้นคงกำลังเดือดร้อนกันยกใหญ่แน่ๆ
ก็แหงละ...ก็ธุรกิจกำลังสั่นสะเทือนนี่นา...เป็นใครก็คงจะอยู่นิ่งไม่ได้หรอก...
====================
แอบซะใจเล็กๆ ฮ่าๆ เขียนฉากแบบนี้ไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ ถ้าไม่สมจริงกะขอโทษน้าาา
ปล.ช่วงนี้เทคงานยุ่งมากๆ ถ้าเทคไม่แต่งทยอยลง คงไม่จบง่ายๆ แน่ๆ เทคจะมาบ่อยๆ ละกันเน้อ แต่อาจจะมาทีละนิดๆ คงไม่ว่ากันนั้นน้าาา
ความคิดเห็น