คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : นางร้าย 22
The villain
นาง (นาย) ร้าย ที่รัก
ตอนที่ 22
ผมหน้าบูดบึ้งมองคนที่กำลังทำหน้ายิ้มแป้นอย่างไม่รู้สึกรู้สา นี่เขาจะรู้ตัวหรือเปล่านะว่าตัวเขาทำอะไรลงไป นี่ขนาดลงทุนปลอมตัวเข้ามาในบ้านของเอเดนเพื่อที่จะคุยกับผมเนี่ยนะ! บ้าหรือเปล่า...ถ้าเกิดถูกจับได้ขึ้นมาจะทำยังไง!
“มีอะไรก็พูดมาสิ!”
ผมกอดอกถาม ถ้าถามในเรื่องไม่เป็นเรื่องนะ...ผมจะ...จะ...โอ๊ย!!! ทำไมชีวิตผมจะต้องมาอยู่กับผู้ชายคนนี้ด้วยเนี่ย!!! แถมมือถือของผมก็ถูกยึดไปอีก ไม่สิ...เรียกได้ว่าขว้างออกไปนอกรถจะดีกว่า แบบจงใจสุดๆ ด้วย ก็ตอนที่ผมกำลังจะโทรให้คนมาช่วย จู่ๆ ตะวันก็เอื้อมมือมาแย่งแล้วก็โยนทิ้งนอกรถอย่างหน้าตาเฉย ทำให้ตอนนี้ผมไม่มีเครื่องมือสื่อสารอะไรติดตัวเลย! แล้วเขาก็ขับมาที่ไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันออกมานอกเส้นทางกรุงเทพฯ แล้ว!
“ย้ายมานั่งข้างหน้าซะ”
ตะวันออกคำสั่งอีกครั้ง
“ไม่! ฉันไม่ย้าย ฉันจะนั่งตรงนี้ นายนั่นแหละมีอะไรก็ถามมา!”
เรื่องอะไรที่ผมจะต้องย้ายไปนั่งหน้าด้วยละ ใครใช้ให้เขาปลอมตัวเป็นคนขับรถเอง อยากเป็นคนขับรถนักก็นั่งอยู่ตรงนั้นแหละ
“ถ้าไม่มาก็ขับเล่นอยู่แบบนี้แหละ”
“ตะวัน!”
“ครับ”
เขายังทำลอยหน้าลอยตา ไม่สนใจคำห้ามของผมเลย ต่อให้ผมทำท่าฟึดฟัดไม่พอใจตะวันก็คงจะไม่ยอมง่ายๆ แน่ๆ นี่ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย! ว่าภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉยและแน่นิ่งของเขาแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์จนน่าหมั่นไส้! ผมเองก็ไม่ยอมเหมือนกันดูซิว่าเขาจะทนได้สักกี่น้ำ ผมยังคงนั่งหน้าเชิดนิ่งอยู่แบบเดิม ส่วนตะวันก็ยังขับรถออกไปนอนเส้นทางเรื่อยๆ
โอ๊ย!!! นี่กะว่าให้ผมทำตามอย่างนั้นใช่ไหม! ได้ๆ ทำก็ได้!
“ฮึ๊ย!”
ผมสะบัดอารมณ์ออกมานิดหน่อยก่อนที่จะย้ายตัวเองไปนั่งด้านหน้า อย่าให้ถึงคราวผมมั่งนะ จะเอาให้หนักเลย!
“มีอะไรก็รีบๆ พูดมา...”
ปุ!
แต่ในขณะที่ผมยังไม่ทันจะพูดจบคำ อะไรบางอย่างก็มากระทบตัวรถทำให้ตะวันถึงกับขับเซเล็กน้อย ผมรีบหันไปมองทางด้านหลังอัตโนมัติเห็นว่ามีมอเตอร์ไซต์คันนึงกำลังขับตามรถที่ผมนั่งอยู่ พวกมันมีอยู่สองคน คนนึงขับอีกคนก็กำลังเล็งปืนมาทางผม ผมไม่เห็นหน้าพวกมันเพราะหมวกกันน็อคสีดำสนิทที่ใส่ปิดบังใบหน้า
ปุ! ปุ!
พวกมันยิงกระสุนใส่ตัวรถ ตะวันมองไปที่กระจกทางด้านหลังแล้วพยายามขับหนีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เอี๊ยด!
“นี่มันอะไรกันเนี่ย”
ตะวันถามไปพยายามบังคับรถไป ดูเขาแล้วก็คงจะงุนงงไม่น้อยแต่ก็หยุดรถไม่ได้เพราะถ้าจอดรถเมื่อไหร่เป็นอันจบเห่กันพอดี
“ฉันจะไปรู้เหรอ!”
“ก้มลงไปซะ!”
“อะ โอ๊ย! มากดหัวฉันทำไม ฉันไม่ก้ม!”
ผมร้องออกมาเมื่อตะวันก็จับหัวผมให้มุดลงไปที่เบาะที่นั่งคนขับ แรงอย่างกับควาย! ถ้าคอผมหักจะทำยังไงละ!
“เดี๋ยวก็ตายหรอก ก้มไปเถอะ!”
ปุ! ปุ!
เอี๊ยด!!!
ยิ่งสถานการณ์ย่ำแย่ลงทุกทีๆ ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะจงใจที่จะฆ่า...ฆ่าใคร? ฆ่าผมอย่างนั้นเหรอ...แล้วมันก็คงจะเป็นแบบนั้นจริงๆ แสดงว่าผู้ชายคนนั้นทำงานเร็วมาก คิดจะฆ่าผมทันทีที่ทำงานจบ หึ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ ธุรกิจแบบนี้ไม่เข้าใครออกใคร หมดประโยชน์เมื่อไหร่เป็นอันต้องถูกกำจัด แต่ตอนนี้ไม่ใช่จะมาห่วงเรื่องแบบนั้น! เพราะว่าสิ่งที่น่าห่วงที่สุดก็คือคนที่นั่งข้างๆ ผม เขากำลังขับรถหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้นคือตะวันกำลังโดนเล็ง!
ชายชุดดำสวมหมวกสีดำปิดบังใบหน้า ขับมอร์เตอร์ไซต์มาขนาบข้างด้านฝั่งที่ตะวันนั่งอยู่
“ตะวัน! ระวัง!”
ปุ!
เพล้ง!
เอี๊ยดด!!!!
ผมจับเบาะรถไว้แน่นหลับตาปี๋อัตโนมัติ รู้สึกถึงแรงเหวี่ยงของตัวรถมหาศาลเมื่อตะวันพยายามหักพวงมาลัยรถหลบไปอีกทางและพายามทรงตัวให้อยู่ ตอนนี้ไม่รู้อะไรเป็นอะไรแล้ว มันดูน่ากลัวไปหมดเลย ผมได้แต่ภาวนาขอให้มันจบลงโดยเร็ว
“โธ่เว้ย!”
ปุ! ปุ!
เอี๊ยด! เอี๊ยด!
ดูเหมือนว่าตะวันจะหัวเสียพอดู เขาสบถออกมาอย่างนึกโมโหแต่ก็ยังพยายามสะบัดให้หลุดจากผู้ร้ายทั้งสองคน เพราะถ้าไม่อย่างนั้นได้จบเห่กันแน่! จะทำยังไงดีนะ! พวกมันมีอาวุธ มีปืน แต่พวกเราไม่มีอะไรเลย จะเอาตัวรอดยังไงดี!!!
ตะวันพยายามปกป้องผม เขาไม่ถามด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น สีหน้าเคร่งเครียดของเขาในตอนนี้มันทำให้ผมรู้เลยว่าเขากำลังพยายามที่จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์แบบนี้ยังไง ส่วนผมก็คงทำได้แค่หลับตาแล้วก้มตัวหลบ
น่าสมเพชดีจัง
“ไม่เป็นไรแล้วเรย์”
เสียงทุ้มเอ่ยบอกกับผมพร้อมกับตัวรถที่ค่อยๆ ขับเคลื่อนช้าขึ้น ตะวันสะบัดพวกนั้นหลุดออกแล้ว แต่ดูท่าว่ารถของเขาจะได้รับความเสียหายมากพอดูเหมือนกัน เล่นโดนยิงซะขนาดนั้น ดีหน่อยที่พวกมันยิงไม่โดนตัวไม่อย่างนั้นป่านนี้ก็คงได้ตายไปแล้ว
“อะ อะไร”
ร่างสูงหันหน้ามามองผมด้วยสีหน้านิ่งเรียบ จนทำเอาใจคอผมสั่นไปหมด
“คนพวกนั้นเป็นใคร”
เขาถามพลางขับรถไปเรื่อยๆ
“คะ ใครมันจะไปรู้เล่า! ฉันก็มาพร้อมกับนายเนี่ย!”
ผมแสร้งทำเป็นไม่รู้แล้วเบี่ยงหน้าหนีไปทางอื่น ต้องทำตัวไม่ให้น่าสงสัยที่สุดไม่อย่างนั้นคนอย่างตะวันถามไม่หยุดแน่ๆ
“หึ ดี...ถ้าไม่บอกก็อยู่กับแบบนี้แหละ!”
แต่แทนที่ตะวันจะซักไซ้ตามที่ผมคิดแต่ผมก็กลับคิดผิดเมื่อจู่ๆ เขาก็ประกาศกร้าวขึ้นมา ถ้าหากว่าผมไม่ยอมบอกเขาก็คงจะพาผมไปแบบนี้เรื่อยๆ อย่างแน่นอน
“ตะวัน! นายจะพาฉันไปไหน ฉันไม่ไป! พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ! ตะวัน!!!”
!!!
“บัดซบ!”
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
“ปล่อยมันหนีไปได้ยังไง!”
บดินทร์ฟาดมือไปยังใบหน้าของลูกน้องตัวเองด้วยความโมโห หลังจากที่พวกมันปล่อยให้เรย์หนีไปได้ ทั้งๆ ที่เขาอุตสาห์ไม่ส่งคนตามแล้วเชียว! แถมยังสั่งไม่ให้คนของเอเดนคุมอีก ก็ยังจะทำงานผิดพลาดกันได้! มันน่าโมโหนักเชียว!
“ขอโทษครับ”
“ขอโทษครับนาย”
ร่างสูงใหญ่ก้มหน้ารับความผิด
“ฮึ๊ย! ไป! ไปหน้าพ้นหน้าฉัน! ถ้ากำจัดมันได้เมื่อไหร่ค่อยโผล่หน้ากลับมา!”
บดินทร์ชี้นิ้วไล่ ทำให้ลูกน้องทั้งสองคนรีบปรี่ออกไปทันที
นับว่าโชคดีนักนะที่สามารถหนีรอดไปได้ แต่จะรอดได้สักกี่น้ำ เชื่อได้เถอะว่าอีกไม่นานบดินทร์จะต้องได้รับข่าวดีแน่ๆ ถ้ากำจัดเรย์ได้เมื่อไหร่เรื่องทำลายหลักฐานก็ไม่ต้องห่วงเลย แค่มีเงินและมีอำนาจแค่นั้น ทุกอย่างก็สามารถดลบันดาลให้ทุกอย่าง ถึงแม้ว่าเรย์ในตอนนี้จะอยู่ในสถานะของคู่หมั่นลูกชายตัวเองก็ตาม
ปัง!
“คุณพ่อ!”
บานประตูที่ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของเอเดนเดินสาวเท้าเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแลดูถึงความโกรธจัด
“กลับมาแล้วเหรอ”
บดินทร์คลี่ยิ้มให้เหมือนอย่างเคย
“พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง!”
แต่สิ่งที่เอ่ยออกมาจากริมฝีปากของเอเดนมันกลับทำให้บดินทร์รู้สึกแปลกใจไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแสดงสีหน้าทำเหมือนไม่รู้เรื่อง
“อะไร?”
“พ่อส่งคนไปฆ่าเรย์!”
เอเดนแสดงถึงความโกรธจัด ใช่! ตอนนี้เขากำลังโกรธบดินทร์! ที่สั่งคนไปฆ่าเรย์ลับหลังเขาแบบนี้! ถึงว่าช่วงนี้บดินทร์ถึงได้ให้งานหนักๆ แถมยังส่งปำงานที่อื่นอีก นี่ถ้าหากว่าเขาไม่นึกเอ๊ะใจและไม่สั่งให้คนแอบตามสืบคงไม่รู้ว่าพ่อของตัวเองกำลังมีแผนการสังหารเรย์อยู่เป็นแน่!
“หึ ใช่ ฉันเป็นคนสั่งเอง”
“พ่อทำแบบนี้กับผมได้ยังไง! พ่อสัญญากับผมแล้ว อีกอย่างตอนนี้เรย์ก็เป็นคู่หมั่นผม!”
“แล้วแกคิดจริงๆ เหรอว่าฉันจะให้แกแต่งงานกับผู้ชาย ห่ะ!”
“แต่!...”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น! อย่าลืมสิเอเดน ตระกูลเรายังต้องการทายาท เรย์ให้แกไม่ได้ แล้วอีกอย่างขนาดพ่อมันมันยังหักหลังมาแล้ว คิดเหรอว่าคนที่เป็นคนอื่นแบบแกกับฉันเรย์จะหักหลังไม่ได้! อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับธุรกิจ... เข้าใจไหมเอเดน”
คำกล่าวอ้างถึงเหตุผลต่างๆ นาๆ ทำให้เอเดนนิ่งงันไปชั่วครู่ เขามองหน้าผู้เป็นพ่อด้วยสายตาที่แสดงถึงความผิดหวัง เอเดนกำลังผิดหวังในตัวบดินทร์แต่ก็ไม่อาจถกเถียงถึงสิ่งที่เอ่ยกล่าวออกมาได้แต่อย่างใด บดินทร์พูดถูกทุกอย่าง ขนาดพ่อของเรย์...เรย์ยังทำมาแล้วได้เลย นับประสาอะไรกับคนอื่นอย่างเขา มันไม่มีทางที่เรย์จะหวังทำดีด้วยได้อยู่แล้ว ถึงตอนนี้เรย์อาจไม่คิดแต่ภายในอนาคตใครมันจะไปรู้
บดินทร์ยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าเอเดนกำลังคิดตามตัวเอง นี่แหละ...มันต้องฉลาดแบบนี้ ผู้ที่จะรีบสืบทอดบริษัทฯ ต่อจากเขา ชายวัยกลางคนจับไปที่บ่าของลูกชายตัวเอง
“ต่อจากนี้แกจะรักใครชอบใครหรืออยากเล่นๆ กับใครฉันจะไม่ว่า ตามใจแก...กลับไปทำงานซะ ส่วนเรื่องเรย์ ฉันจะจัดการทุกอย่างเอง”
“แต่สำหรับผมมันไม่ใช่! เรย์เป็นของผม! พ่อไม่มีสิทธิ์มายุ่ง!”
เอเดนหันไปมองบดินทร์ด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ
“แกรักมัน?”
บดินทร์ข่มความโกรธเอาไว้แล้วกัดฟันถาม นึกแค้นใจนักที่ผู้ชายคนเดียวทำให้เอเดนเกิดอาการต่อต้าน ทั้งที่ผ่านมาไม่เคยมีสักครั้งที่เอเดนจะไม่เชื่อฟังเขา
ทั้งหมดมันเป็นเพราะเรย์!
เพราะเรย์เพียงคนเดียว!!!
“ผมไม่รู้ ผมรู้แต่ว่าผมต้องการเรย์! แล้วพ่อก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเรย์!”
“เอเดน! เอเดน! โธ่เว้ย!”
เอเดนตอบเสียงกร้าวก่อนที่จะหันหลังเดินจากออกไปโดยที่ไม่ได้สนใจเสียงเรียกของบดินทร์ที่ดังมาตามหลัง
ร่างสูงขบกรามแน่นพลางคิดถึงคนร่างเล็กที่ตอนนี้กำลังหนีหายอย่างไร้ร่องรอย สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้คือตามหาตัวเรย์ให้พบ ส่วนเรื่องหลังจากนั้นค่อยว่ากันทีหลัง ถ้าครอบครัวของเรย์จะถูกกำจัดให้หายออกไปจากโลกนี้ยังไงซะเขาก็ไม่สน แต่เพียงแค่เรย์เท่านั้น! ที่ไม่สามารถปล่อยไปได้
‘นายต้องเป็นของฉัน เรย์!’
“ตะวัน! นายปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!!”
ปัง! ปัง! ปัง!
ผมทุบไปที่บานประตูรัวๆ อย่างโมโห! ใช่! ผมกำลังโมโหมาก!!! มากถึงมากที่สุด! ตะวันพาผมมาที่ไหนก็ไม่รู้ รู้สึกว่าผมจะอยู่แถวๆ แม่ฮ่องสอนที่อยู่ตรงไหนสักที่นี่แหละ พอมาถึงเขาก็ลากผมเข้ามาในบ้าน ผมที่พยายามหนีแล้วหนีอีกก็หนีไม่พ้นจนถูกจับมาขังแบบนี้แหละ
“นายก็บอกฉันมาสักทีสิ ว่าพวกนั้นเป็นใคร”
ตะวันที่อยู่อีกฝากประตูพูดขึ้นเกี่ยวกับเหตุการณ์เดิมๆ ที่ผมเพิ่งเอาตัวรอดไปหมาดๆ
“ฉันจะไปรู้ไหมเล่า! ปล่อยฉันนะ!”
“แค่นายบอกฉันมาว่าพวกนั้นเป็นใคร ทำไมถึงตามล่านาย แล้วสิ่งต่างๆ ที่นายทำ ฉันก็พร้อมที่จะปล่อยนายออกมา”
“ฉันก็บอกว่าไม่ไม่รู้เรื่องไงเล่า! ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง อีกอย่างคนที่พวกนั้นตามอาจจะเป็นนายก็ได้”
“อย่าคิดว่าฉันโง่นะเรย์ ฉันไม่เคยมีศัตรูที่ไหน”
ตะวันยังคงทำตัวดื้อดึงเหมือนเดิม ก็จริงที่เขาพูด...ตะวันไม่เคยมีศัตรูที่ไหน เพราะฉะนั้นคนๆ เดียวที่จะถูกตามล่าได้ก็มีแค่ผม
“ไม่รู้! ก็บอกว่าไม่รู้ไงเล่า!”
“ถ้าอย่างนั้นนายก็อยู่ในนั้นไปนั่นแหละ”
“ตะวัน! ตะวัน!!!”
ปัง! ปัง! ปัง!
แต่ดูท่าทีแล้วตะวันคงไม่ยอมเปิดให้ผมง่ายๆ แน่ๆ แล้วตอนนี้ผมก็เจ็บมือมากด้วยกับอาการอ่อนเพลียของร่างกายที่เพิ่งเจอมา มันก็เลยทำให้ผมหยุดทุบประตูเซ๋งเคร็งนี่แล้วพาร่างตัวเองไปที่เตียง ตะวันกล้าดียังไงมาสั่งผม! เขากล้ามากที่มาขังผมด้วย! รู้จักกันมาตั้งนานนะแต่ผมไม่เคยรู้เลยว่าตะวันจะกลายเป็นคนแบบนี้ ทั้งเอาแต่ใจและยังชอบบังคับอีก!
ฮึ๊ย! คิดแล้วขัดใจ!
แล้วก็ด้วยความเบื่อหน่ายที่ต้องมาจับเจ่าอยู่กับที่เลยทำให้ผมเลือกที่จะเอนตัวนอนพลางนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นาน ผมเพิ่งทำงานให้เขาเสร็จก็สั่งเก็บผมเลยเหรอเนี่ย ฮ่าๆ มันน่าตลกดีนะ ทำเหมือนกับในละครเลย ผมรู้...คนอย่างบดินทร์ไม่คิดที่จะปล่อยผมให้รอดไปได้ง่ายๆ แน่ๆ เขาจะต้องหาทางกำจัดผมอีก แล้วถ้าเป็นแบบนั้นตะวันก็จะตกอยู่ในอันตราย
“ไม่ๆ คิดอะไรเนี่ย!”
ผมส่ายหัวตัวเองไปมาเพื่อไล่ความคิด ทำไมต้องไปห่วงผู้ชายพรรณนั้นด้วย! เขาทำตัวของเขาเอง มายุ่งกับผมเอง ถ้าจะตายมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับผมนี่
ไม่เกี่ยวกันเลยสักนิด
TAKE
เทคอาจเขียนไม่ค่อยดีนัก ดราม่าเริ่มลดลง แต่ก็ขอบคุณสำหรับทุกเม้นที่ยังติดตาม ขอบคุณครับ^^ แม้ว่าเรื่องนี้จะยังไม่มีเอ็นซี #ปวดใจแปป
เอ็นซีฉันหายไปหนายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ความคิดเห็น