คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #35 : นางร้าย 27
The villain
นาง(นาย)ร้าย ที่รัก
ตอนที่ 27
เรย์PART
ผมมองผู้ชายตรงหน้าด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
พยายามสกัดกลั้นความวาบหวิวที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้ตัวเองเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของเอเดน
ผมยอมรับว่าเขาช่ำชองมาก เจนจัดเสียจนผมแทบควบคุมสติไว้ไม่อยู่ รสจูบที่แสนรุนแรง เขาบดขยี้ริมฝีปากของผมเพื่อแสดงเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ
ตอกย้ำว่าผมเป็นของเขาแล้วก็ไม่มีวันที่จะหนีเขาไปได้
แล้วอีกอย่างเอเดนคงไม่ยอมที่จะปล่อยผมให้รอดเงื้อมมือเขาไปได้แน่ๆ
คงต้องยอมสินะ
เอเดนจูบไปที่ใบหน้าของผมจนพอใจแล้วเคลื่อนริมฝีผากไปที่ไซร้ที่ซอกคอบางพร้อมดูดเม้นจนเป็นรอยจ้ำแดงอีกครั้ง
หน้าอกของผมก็ถูกมือหนาบีบเค้นซะจนรู้สึกเจ็บ
ร่างกายและจิตใจของผมสั่นระริกอย่างหวาดกลัวแต่ก็ต้องทน
เพราะว่าสิ่งที่เขาทำมันทำให้นึกถึง...
เรื่องเมื่อครั้งก่อน...เมื่อครั้งที่เอเดนทำกับผมในห้องน้ำวันนั้น
มันยังฝังรากลึกจนรู้สึกหวาดกลัว
“ฮึก”
ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่นพยายามที่จะไม่เปล่งเสียงออกมา
แต่มันก็ดูช่างยากเย็นเหลือเกิน
ลิ้นอุ่นร้อนลากไล้ไปที่ลอคอบางแล้วเคลื่อนไปที่หน้าอกทั้งสองข้างพร้อมดูดสลับกันอย่างรุนแรง
มือของเขาก็จับไปที่แก่นกลางลำตัวของผม แล้วบีบเบาๆ
จนผมสะดุ้งเฮือกก่อนที่จะเริ่มรูดขึ้นลงช้าๆ สลับเร็ว
“อ่ะอ๊า”
พอเขาทำแบบนี้แล้วมันทำให้ผมควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่
ใบหน้าผมเชิดขึ้นแล้วเปล่งเสียงครางออกมาเบาๆ
มือก็จกลงไปบนที่นอนเพื่อระบายความเสียวซ่าน
“หึ”
เอเดนหัวเราะในลำคอเบาๆ
ผมปรือตามองเขาด้วยความยากลำบาก
เอเดนกำลังจับขาของผมให้แยกออกกว้างมากขึ้นกว่าเก่า
แล้วนั่น...มันก็ทำให้ผมเริ่มรู้ว่าเอเดนกำลังจะทำอะไร
“ฮึก!”
“อย่าเกร็ง”
เขาบอกพร้อมกับค่อยๆ
สอดนิ้วเข้ามาในตัวผม เพราะไม่มีสารหล่อลื่นเลยทำให้ผมเริ่มเกร็งตัวและเจ็บ
ช่องทางด้านหลังก็ปฏิเสธสิ่งแปลกปลอมที่สอดแทรกเข้ามา
เอเดนมองผมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการก่อนจะสอดนิ้วเข้ามาจนสุดในคราวเดียว
“จะ
เจ็บ”
ผมกัดฟันทน
ร้องบอกด้วยความทรมาน มันเจ็บจริงๆ นะ เหมือนร่างกายจะถูกแยกออกจากกันเลย
แต่ดูเหมือนว่าเอเดนจะไม่ฟังคำของผม
เขาหมุนคว้านนิ้วเป็นวงกว้างแล้วเริ่มกระแทกเข้าไปตรงจุดไวสัมผัสจนทำให้ผมสะดุ้งเฮือกหลายต่อหลายครั้ง
ถึงมันจะเจ็บแต่ก็ยังรู้สึกดีอยู่บ้างแล้วก็เริ่มปรับตัวให้กับสิ่งแปลกปลอม...
พอเห็นว่าผมเริ่มที่จะปรับตัวได้เขาก็เปลี่ยนจากหนึ่งนิ้วเป็นสองนิ้วแล้วก็ทำแบบเดิม
ส่วนผมก็ยังขดตัวเกร็งแน่น ทั้งเจ็บ และจุก เมื่อจำนวนนิ้วเพิ่มเข้ามาเป็นสามนิ้ว
ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกเลย
“พร้อมละนะ”
เสียงทุ้มเอ่ยถาม
ผมมองเอเดนผ่านม่านน้ำตาบางๆ ด้วยความอ่อนแรง ขาทั้งสองข้างก็ถูกจับไปไว้ตรงบ่าแกร่ง
สะโพกมนก็ถูกยกขึ้นไว้บนตัก ผมหลับตาลงช้าๆ อยู่นิ่งๆ แล้วก็ทำใจยอมรับ
ต้องยอมรับให้ได้!
“เรียบร้อยแล้วครับ
ทางเราหาหลักฐานได้แล้วครับ”
ชายหนุ่มในชุดสูทสง่าเอ่ยรายงานรายงานแก่หญิงตรงหน้าพร้อมกับยื่นเอกสารให้เพื่อรายงานบางอย่าง...
บางอย่างที่เป็นหลักฐานสำคัญ!
“ติดต่อกับเจ้าหน้าที่หรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ”
‘โรส’ ยกยิ้มอย่างพอใจ
เมื่อเห็นลูกตัวเองเดือดร้อนมีเหรอที่คนเป็น ‘แม่’ จะอยู่เฉยๆ...ถ้าหากว่าไม่ใช่คำขอของเรย์ละก็เธอไม่มีวันที่จะอยู่นิ่งๆ
แบบนี้หรอก! จนกว่าจะถึงเวลาและจนกว่าจะหาหลักฐานได้
เรย์ถึงต้องเข้าไปอยู่ในดงเสือแบบนั้น!!!
“จัดการให้เรียบร้อย
แล้วก็เอาเรย์ออกมาจากบ้านหลังนั้นซะ”
“ครับ
นายหญิง”
ชายหนุ่มโค้งรับก่อนที่จะเดินออกไปเพื่อจัดการ
‘งาน’ ที่เหลืออยู่ให้เสร็จสิ้น งานชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่...
“อ๊ากก!!!”
ร่างสูงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเมื่อถูกชายฉกรรณ์รุมเหยียบย่ำตรงแผลที่ถูกยิง
ร่างหนากัดฟันทนความเจ็บปวดที่โถมเข้าหาเป็นระรอกคลื่น เจ็บที่กายไม่เท่าไหร่
แต่เจ็บที่ใจนี่สิ!
ภาพที่เรย์ถูกเอเดนจูบยังฉายชัดอยู่ในความทรงจำ
อยากจะเข้าไปห้าม อยากจะเข้าไปช่วยแล้วเอาตัวเรย์ออกมาใจแทบขาด
แต่ก็ติดตรงที่ตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงพอและถูกลูกน้องของเอเดนจับเอาไว้
เลยได้แต่ทนมองเหมือนใจจะขาดรอนๆ
ตุบ!
ผัวะ!
“อั๊ก!”
หยาดเลือดสีสดไหลทะลักออกมาจากปาก
ไม่มีการออมแรงของผู้กระทำแต่อย่างใด ในเมื่อมันเป็นคำสั่งและพวกเขาก็เป็นลูกน้อง
มีหน้าที่แค่ทำตามก็เท่านั้น
ปัง!
ปัง! ปัง!
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นมาจากอีกทางทำให้เหล่าลูกน้องของเอเดนหยุดชะงัก
“เฮ้ย
มึงไปเปิดดิ สงสัยนายมา”
หนึ่งในนั้นกล่าวขึ้น
“แต่นายเพิ่งไปไม่ใช่เหรอวะ”
“สงสัยจะมาดูผลงาน”
ทั้งสามคนยกยิ้มที่ใบหน้าทันทีเมื่อคิดถึงเงินจำนวนมากที่ตัวเองจะได้รับ
เพราะงานครั้งนี้เป็นแค่งานง่ายๆ
แค่ทำให้คนหายไปจากโลกนี้เพียงคนเดียวก็ได้เงินมาได้อย่างสบาย
แล้วดูท่าว่าพวกเขาจะทำงานได้ดีซะด้วย
เพียงแค่นี้ค่าตอบแทนก็คงจะได้มากพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องอีกนานแน่ๆ
พอคิดได้แค่นั้นชายคนหนึ่งก็เดินไปที่ประตูโกดังพร้อมกับค่อยๆ
เปิดประตูต้อนรับผู้เป็นนาย...หากแต่ว่าสิ่งที่รอรับพวกเขาไม่ใช่เป็นอย่างที่คิด
เพราะทันทีที่บานประตูถูกเปิดผู้มาใหม่ก็เข้ามาเยือน
“หยุด!
นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ!”
!!!
“Game
Over”
ผมนำวัตถุสีดำที่ถูกซ่อนเอาไว้ใต้หมอนมาจ่อที่หน้าผากของเอเดนโดยที่เขายังไม่ทันตั้งตัว
รอยยิ้มเหี้ยมแห่งชัยชนะฉายชัดบนใบหน้าของผม...แต่ดูเอเดนเขาคงกำลังตกใจมากพอดู
“เรย์!” เอเดนเรียกชื่อผมด้วยเสียงทุ่ม
“ออกไปซะ
อย่าคิดว่านี่เป็นของเล่น แค่ฉันลั่นไก นายได้ไปเฝ้ายมโลกแน่เอเดน”
ผมพูดพลางพยักหน้าให้เอเดนถอยห่างออกไปจากตัว
มือของผมก็ยังคงเอาปืนจ่อหน้าผากของเอเดนอยู่ ใช่!...อย่างที่บอก ปืนที่ผมถืออยู่มันเป็นของจริง
ถ้าเกิดว่าเขาจะทำอะไรผมแค่เพียงอีกนิดเดียว ผมจะยิงเขาแน่!เขาเล่นสนุกกับร่างกายของผมมากพอแล้ว
แล้วที่ผมยอมให้เขาทำอะไรต่อมิอะไรยกเว้นแต่สอดใส่ตัวตนเข้ามาก็แค่เพื่อ...
ถ่วงเวลา!
“มึงไม่กล้าหรอกเรย์”
เอเดนกระเถิบตัวถอยหลังแล้วพูดออกมาด้วยสีหน้านิ่งเรียบเหมือนอย่างเคย
“หึ
รู้ได้ยังไงว่าฉันไม่กล้า ฉันกล้ามากกว่าที่นายคิดอีกเอเดน”
เอาสิ...ถ้าอยากลองผมก็พร้อมที่จะให้ลอง
“มึงทรยศกู”
“ฮ่าๆ
เพิ่งรู้เหรอ ฉันบอกแล้วไง…Game Over!”
“มึง!”
ร่างสูงทำท่าจะทำร้ายผม
เขายกมือขึ้นแล้วพยายามเอามือขวามาปัดปืนที่จ่อหน้าผากเขาอยู่ออก
ปัง!
ปัง! ปัง!
“นายครับ!
แย่แล้ว ตำรวจมาครับนาย!”
แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไรมากกว่านั้น
บานประตูที่ถูกปิดสนิทก็ถูกเคาะจากคนด้านนอกพร้อมกับข่าวร้ายสำหรับเขา
แต่สำหรับผมมันเป็นข่าวดีซะจริง คนของผมทำงานเร็วเสมอ
เพียงแค่ชั่วอึดใจผมว่าตอนนี้มีคนของผมและตำรวจเต็มคฤหาสแล้วมั้ง
“เหี้ยเอ้ย!!!”
เอเดนสบถคำหยาบออกมา
เขามองหน้าผมอย่างคนโกรธแค้น แต่มันทำให้ผมรู้สึกสะใจดีเหลือเกิน
“ผมขอจับพวกคุณข้อหาพยายามฆ่า”
หมายจับถูกคลี่ออกมาให้เห็นพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รายลอบ
ทั้งเอเดนและบดินทร์ถูกจับ ลูกน้องของพวกเขาก็ด้วย
“ฮึ่ม!
พวกแกมีหลักฐานอะไร!”
บดินทร์ขบกรามแน่น
“ทางเรามีทั้งพยานและหลักฐาน
รวมทั้งคลิปเสียงครับ เชิญพวกคุณให้ปากคำที่โรงพักด้วยครับ”
“ปล่อย!
กูไม่ผิด! อย่าให้กูออกมาได้นะกูจะฟ้องร้องพวกมึงทุกตัว!
กูจะเรียกทนาย! ปล่อยกู!!!”
เขายังคงดิ้นไม่หยุดระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพาออกไป
ส่วนเอเดนเขากุมท่าทีได้ดีเลยทีเดียว ไม่เหมือนคนเป็นพ่อสักนิด
แต่ดูท่าแล้วเขาคงจะแค้นผมมากพอดู
ก็แน่ละ...เล่นถูกดัดหลังขนาดนั้นถ้าไม่แค้นนี่ก็แปลกแล้ว...ผมยืนยิ้มอยู่ที่ระเบียงพลางมองไปที่คนพวกนั้นที่เดินไปจนลับตา
มันจบแล้วสินะ
ทุกอย่างมันจบแล้ว
“เรย์”
ผมหันไปมองยังเสียงผู้หญิงที่เรียกผมจากอีกทาง
“คุณแม่”
ผมคลี่ยิ้มบางให้
คุณแม่เดินมาอยู่ตรงหน้าผมพลางโอบกอดผมไว้ด้วยไออุ่น ผมหลับตานิ่งแล้วโอบกอดท่านไว้เช่นกัน
เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้น
เรื่องที่ผมมาอยู่กับเอเดน เรื่องของพ่อ...ทุกอย่างมันเป็นแค่แผนการที่ผมวางไว้เท่านั้น
แต่ที่ทำทุกอย่างได้ถึงขนาดนี้ก็เพราะว่ามีแม่คอยช่วยเหลือและอยู่เบื้องหลัง
ผมถึงได้หาหลักฐานมาเอาผิดได้...ตั้งแต่แรก
ในวันที่ผมเข้าโรงพยาบาลเพราะถูกผู้หญิงคนนั้นชน
ถึงตอนแรกคนที่ผมลืมตาขึ้นมาจะเป็นเอเดนก็จริง... เอเดนยื่นข้อเสนอมาให้อีกครั้งพร้อมกับบอกว่าใครเป็นคนร้ายพร้อมกับผู้ที่อยู่เบื้องหลัง
เขาบอกว่า ‘พ่อ’ ของผมเป็นคนสั่งให้ผู้หญิงคนนั้นทำ
เอเดนบอกผมว่าถ้าแค่กำจัดผมทิ้งไป ทุกอย่างที่เป็นของผมก็จะตกเป็นของหนึ่งโดยทันที
แต่ว่า...ทุกอย่างมันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด
ทันทีที่เอเดนเดินออกไปได้ไม่นานก็มีคนที่เข้ามาใหม่ แล้วคนๆ นั้นก็คือ ‘แม่’ ของผม
อ้อมกอดที่คุ้นเคยกับเสียงร่ำไห้เพราะความเสียใจ
มันทำให้ผมรู้ว่าผมไม่ได้ฝันไปเองแน่ๆ แม่เล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟัง
เรื่องที่ไปจากผม เรื่องที่ความจำเสื่อมแล้วก็เรื่องความทรงจำที่กลับมา แม่บอกว่าจะพาผมไปอยู่ด้วยแล้วไปเริ่มต้นใหม่ด้วยกันที่นั่น
ไปมีชีวิตใหม่ด้วยกันแล้วลืมทุกอย่างไปซะ... ผมกอดแม่เอาไว้
โหยหาในความรักที่ขาดมานาน แต่แวบหนึ่งผมกับคิดถึงคำพูดของบดินทร์
‘ฆ่ามันซะ’
ผมพยายามไล่ความคิดนั้นออกไป
พยายามที่จะไม่สนใจเรื่องของผู้ชายคนนั้น จะเป็นจะตายยังไงมันก็เรื่องของเขา...
แต่ผมกลับทำมันไม่ได้
ผมปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้
ผมเลยวางแผนซ้อนแผน
ร่วมมือกับเอเดนเพื่อหาหลักฐานว่าพวกเขาทำอะไรและวางแผนอะไรบ้าง
ทำให้พวกเขาเชื่อใจให้มากที่สุด ยอมแม้กระทั้งเข้าพิธีหมั่นหลอกๆ ท่ามกลางสายตาผู้คนนับร้อย
แต่ข่าวที่แพร่สะพัดออกไปมันทำให้ผมคิดว่าแผนได้ดำเนินการมาเกือบครึ่งทางแล้ว
ที่เหลือก็เพียงแค่หาหลักฐานเท่านั้น คนของผมแทรกซึมเข้ามาในบ้านหลังนี้
คอยปกป้องผมห่างๆ แล้วก็รายงานทุกอย่างให้ผมฟังอยู่เสมอ...
ส่วนเรื่องของผู้หญิงคนนั้นที่ทำร้ายผม เขาพยายามฆ่าผมให้ตายผมก็เลยไปทำร้ายหนึ่ง
ลูกชายที่เขารักมากที่สุด มันเป็นผลพลอยได้ในเรื่องเอเดนเหมือนกัน
แม้ว่าผมจะรู้ว่าหนึ่งไม่ได้ทำอะไรผิดแต่ถ้าจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นเจ็บก็ต้องทำหนึ่ง!
แล้วมันก็ได้ผลซะด้วย...ผมทำให้เธอแทบคลั่งแล้วแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา...ใบหน้าที่แสนร้ายกาจถูกปกปิดด้วยรอยยิ้มที่ใจดี
ทั้งๆ ที่ตัวตนของเธอนั้นร้ายกาจมากพอดู
“กลับกันเถอะเรย์
เรื่องทุกอย่างมันจบลงแล้ว”
แม่ลูบผมของผมเบาๆ
เป็นเชิงปลอบประโลม
“...คุณแม่
แล้ว...”
ผมเงยหน้าสบตามองแม่
อยากถามเหลือเกินว่าตะวันเป็นยังไงบ้าง...แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกไป
“ผู้ชายคนนั้นแม่ให้คนพาไปโรงพยาบาลแล้ว
ไม่ต้องห่วง”
“...ครับ”
ผมยกยิ้มบางๆ
ให้พลางโอบกอดแม่อีกครั้ง...
ตะวันปลอดภัยแล้วสินะ...โชคดีจริงๆ
ที่เขาไม่เป็นอะไร อย่างน้อยการที่ผมกำลังจะจากไปที่นี่ผมก็จะได้ไม่ต้องติดค้างเขา
เพราะหลังจากที่เสร็จเรื่องของเอเดน ผมก็จะไปจากที่นี่ทันที
หลังจากนั้นผมก็กลับไปที่คอนโดที่แม่อาศัยอยู่ชั่วคราวที่ประเทศไทย
ข่าวของเอเดนดังกระฉ่อนไปทั่ว เรื่องที่ฉ้อโกง ค้าอาวุธเถื่อนและคดีพยายามฆ่า
บริษัทฯ ต่างๆ ที่ทำสัญญาซื้อขายกับพวกเขาเอาไว้ต่างก็พากันถอนหุ้นไปหมด
จนตอนนี้แทบเรียกได้ว่าทั้งบดินทร์และเอเดนกลับกลายเป็นคนล้มละลายในชั่วพริบตา
ถึงจะเอาทนายมาขู่ฟ้องกลับแต่หลักฐานมัดตัวขนาดนั้นก็คงจะรอดยากอยู่
แค่เรื่องพยายามฆ่านี่ก็คงติดคุกไปเป็นสิบๆ ปีแล้ว ส่วนเรื่องของผมกับเอเดนไม่มีการพูดถึง
ส่วนนึงเพราะแม่ช่วยปิดข่าวให้
ซึ่งมันก็ดีมากสำหรับตัวผมแล้ว...เพราะแค่นี้เรื่องของผมก็คงจะเป็นที่นินทาสนุกปากไปแล้วละ
แต่อย่างว่า...อำนาจเงินมักพึ่งพาได้เสมอ
“แม่ฟังคำขอของลูกมามากพอแล้วนะเรย์
ต่อไปนี้ฟังคำของแม่บ้าง”
ใบหน้าของแม่เคร่งขรึมมองผมด้วยแววตาจริงจัง
“คุณแม่?”
แม่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกันนะ?
“เรื่องผู้หญิงคนนั้น...แม่ไม่ยอมให้มันเสวยสุขหรอกนะ!”
“แม่หมายความว่า...”
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
ไม่อยากนึกถึงสิ่งที่แม่กำลังจะพูดมาเลย...
“นังนั่น!
แม่จะเอามันเข้าคุก!”
!!!
“แต่…”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น!
แม่ให้อิสระมันมากพอแล้วเรย์ แม่ไม่ยอมให้ลูกเจ็บตัวฟรีๆ เด็ดขาด!”
ผมรู้ว่าแม่พูดจริงทำจริงแน่
แล้วที่ท่านยอมอยู่เฉยๆ
จนถึงวันนี้ก็คงเป็นเพราะคำขอร้องของผมว่าอย่าเพิ่งยุ่งเรื่องนี้จนกว่าทุกอย่างจะจบลง
พอทุกอย่างเรียบร้อยก็คงจะถึงตาของแม่ผมบ้างแล้วสินะ...
แต่เอาเถอะ
อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด
ปล่อยให้ทุกอย่างมันไปตามเวรตามกรรมก็แล้วกัน
TAKE
ความคิดเห็น