ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the villain - นาง(นาย)ร้าย ที่รัก(yaoi) END

    ลำดับตอนที่ #41 : นางร้าย 32

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.05K
      37
      13 ก.ย. 58



     

     

     

    The  villain

    นาง(นาย)ร้าย ที่รัก

     

    ตอนที่ 32

    “ตะวัน...จะไปจริงๆ เหรอ อย่าเพิ่งไปเลยนะ”

    ร่างเล็กห้ามผมเอาไว้ทันทีเมื่อเห็นว่าผมกำลังเก็บเสื้อผ้าเพื่อกลับอเมริกา ดวงตาทั้งสองข้างต่างก็เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง ผมลูบหัวเบาๆ พลางยิ้มให้ ความจริงผมเองก็ยังไม่หายดีหรอก บาดแผลทางกายยังคงต้องรักษา แต่ว่าบาดแผลทางใจมันหนักยิ่งกว่า

    “ฮึก อย่าไปเลยนะ”

    “ไม่ได้หรอกหนึ่ง”

    “ทะ ทำไมละ ตะวันไม่สงสารฉันเหรอ”

    ผมละมือออกจากผมสีดำขลับ

    “ขอโทษนะ”

    แต่สิ่งที่ผมทำได้มีเพียงแค่เท่านี้

    “ฮึกตะวันฮือ ฮือ”

    ร่างบางโผเข้ากอดผมอย่างเต็มแรง เสียงสะอื้นเบาๆ ของเจ้าตัวทำให้ผมเลือกที่จะอยู่เฉยๆ ไม่มีการโอบตอบหรือปลอบใจ เพราะถ้าทำแบบนั้นมันจะทำให้หนึ่งคิดไปไกลมากกว่านี้

    “อย่าไปเลยนะ ตะวันยังเจ็บอยู่...เรย์เขาตายแล้ว ยอมรับความจริงเถอะนะ”

    “...”

    “ตะวัน ฮึก”

    “ปล่อยเถอะหนึ่ง”

    ผมรั้งแขนบางออก แต่หนึ่งก็ยังคงกอดผมไว้แน่นเหมือนเดิม

    “ฮึก ฉัน...ฉันรักนายนะตะวัน”

    ความในใจถูกส่งมายังผมพร้อมด้วยใบหน้านองน้ำตา ดวงตาหม่นทั้งสองข้างมองผมด้วยความเว้าวอน ผมยิ้มให้กับร่างเล็กบางๆ

    “ขอบคุณ”

    “ตะวัน...” หนึ่งเผยยิ้มเบาๆ

    “แต่สักวันนายจะต้องเจอคนที่รักนายและนายก็รักเขามากกว่าฉันแน่ๆ”

    แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นร่างเล็กก็หุบยิ้มทันที ทั้งหมดมันเป็นความรู้สึกของผมที่มีต่อหนึ่ง...ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีหนึ่งก็ยังคงเป็นเพื่อนของผมเสมอ เขาเป็นเพื่อนที่ดีและน่ารัก แต่ผมก็ไม่อาจที่จะมอบความรู้สึกแบบอื่นเพื่อตอบแทนเขาได้ หนึ่งมีคนที่รักเขามากมายพออยู่แล้ว

    แต่เรย์ไม่มี...

    ไม่มีใครอยู่เคียงข้างเขามาตั้งแต่ต้น สิ่งที่อยู่เป็นเพื่อนมีเพียงแค่คราบน้ำตาและความเหงา...เป็นแค่เพียงคนอ่อนแอที่ทำเป็นเข้มแข็ง เพราะฉะนั้น...ผมจึงเลือกที่จะรักเรย์ เพื่ออยู่เคียงข้างพร้อมเดินไปด้วยกัน

    รักที่เรย์เป็นเรย์

    เป็นนางร้ายของทุกคน

    “รักเรย์มากเลยเหรอ” หนึ่งถามเสียงสั่น

    “อืม”

    ผมยิ้มตอบ...ถึงจะเป็นคำตอบเพียงสั้นๆ แต่มันเป็นความรู้สึกทั้งหมดของผมที่มีต่อเรย์

    “เข้าใจแล้ว” หนึ่งยิ้ม “ขอให้โชคดีนะตะวัน”

    แต่มันช่างเป็นรอยยิ้มที่แสนเศร้า คงพยายามยิ้มเพื่อผม...ทั้งหนึ่งกับเรย์ก็เป็นเหมือนเหรียญสองด้าน ด้านหนึ่งคือหนึ่งที่เป็นคนอ่อนแอ ส่วนอีกด้านก็เป็นเรย์ที่เป็นคนเข้มแข็ง พวกเขาไม่เหมือนกันถึงได้ดึงดูดซึ่งกันและกันโดยที่ไม่รู้ตัว แต่ลึกๆ แล้วผมว่าพวกเขาอาจจะเหมือนกันมากก็ได้

    ความเหมือน...ที่แตกต่าง

     

    หลังจากนั้นผมก็ให้ไคมาส่งที่สนามบิน อีกไม่นานเครื่องก็จะออกแล้ว...ผมกับไคเป็นเพื่อนกันมานาน อยู่ด้วยกันมาก็ตั้งหลายปีพอต้องจากกันแบบนี้มันก็ทำให้อดที่จะรู้สึกโหวงๆ ไม่ได้เหมือนกัน

    “โชคดีนะ”

    “อืม นายเองก็เหมือนกัน”

    “ไปถึงโน่นแล้วก็อย่าลืมโทรมาละ”

    “เออ รู้แล้วน่า”

    “...โชคดีนะ”

    เสียงเล็กเอ่ยยิ้มให้กับผม

    “นายเองก็เหมือนกัน”

    ผมจับไปที่เรือนผมสีดำเบาๆ ก่อนที่จะละตัวออกมาแล้วเดินหันหลังไปยังบานประตูที่ถูกเปิดไว้อยู่ ถ้ากลับไปพ่อกับแม่คงจะต้องตกใจมากแน่ๆ แล้วผมก็คงจะโดนต่อว่า...ยังไม่หายดีแท้ๆ แต่กลับฝืนร่างกายเดินทางตั้งหลายชั่วโมง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็จะทำ

    รอฉันก่อนนะเรย์

     

    “ฮึก...”

    ลับหลังร่างสูงที่เดินจากไปแล้ว ใบหน้าหวานก็คลอไปด้วยน้ำตา มือเล็กๆ ถูกยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาของตัวเองที่ไหล ทั้งเสียใจและเศร้าใจ ความรักที่มีให้คนร่างสูงมานานกลับต้องมาพังทลายลงเพียงแค่ไม่กี่นาที หนึ่งที่ฝืนยิ้มมาตลอดตอนนี้กลับทนไม่ไหวซะแล้ว มันทำใจลำบากที่จะต้องสูญเสียคนที่รักไปแต่หนึ่งก็รั้งตะวันไว้ไม่ได้ เขาร่างเล็กรู้ตัวดีว่าตะวันไม่มีทางหันมามองตัวเองเด็ดขาด

    เพราะหัวใจของเขามีแค่เรย์คนเดียว

    “กลับกันเถอะ”

    “อื้อ”

    หนึ่งพยักหน้าเบาๆ ตอบ

    มือหนาของไคกุมมือร่างเล็กไว้แน่น ความรู้สึกอุ่นถูกส่งผ่านมือคู่นี้เหมือนกับว่าไคกำลังต้องการที่จะให้กำลังใจดวงน้อยที่ยังบอบช้ำ

    ส่วนลึกของจิตใจแล้ว หนึ่งอิจฉาเรย์...

    อิจฉาเหลือเกิน...

    เขาไม่เหมือนตัวเองสักอย่าง ทั้งเข้มแข็ง แข็งแกร่งและอ่อนโยน...ก็สมควรแล้วที่ตะวันจะรัก เพราะเป็นแบบนี้ไงหนึ่งถึงได้ยอมแพ้ง่ายๆ แล้วขอแค่บอกความรู้สึกของตัวเองออกไปก็พอ

    ฉันรักนายนะ...ตะวัน

     

    “กลับมาแล้วเหรอพ่อตัวดี”

    คำทักทายของพ่อเกิดขึ้นทันทีที่ผมเดินทางมาถึงบ้านของตัวเอง แต่กว่าจะมาถึงได้เล่นทำเอาผมแทบไข้ขึ้นอีกรอบเพราะการอักเสบของแผล โชคดีหน่อยที่พ่อให้คนไปรับที่สนามบิน ไม่อย่างนั้นผมคงถูกหามเข้าส่งโรงพยาบาลก่อนที่จะเข้าบ้านแน่ๆ

    “กลับมาแล้วเหรอตะวัน”

    “กลับมาแล้วครับคุณแม่”

    เสียงใสๆ ของคุณแม่กล่าวต้อนรับพร้อมกับร่างอ้อนแอ้นเข้ามาโอบกอดด้วยความคิดถึง ผมเองก็คิดถึงแม่มากเช่นเดียวกัน ไม่เจอกันตั้งนานดูคุณแม่ยังเหมือนเดิมเลย ไม่สิ...สวยขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่าเนี่ย

    “แม่ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปหาที่ไทย เห็นไคบอกว่าบาดเจ็บ เป็นอะไรมากหรือเปล่า” คุณแม่พูดแล้วสำรวจร่างกายของผมไปด้วย

    “อย่าไปโอ๋มันมากสิคุณ”

    “อุ๊ย คุณคะ”

    ร่างของแม่ถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นสามีซึ่งก็คือคุณพ่อของผมนั่นแหละ คุณพ่อรักคุณแม่มากขนาดผมที่เป็นลูกยังหวงมากเลย

    “ลูกของเรามันแกร่งจะตาย แค่นี้ไม่ตายหรอกน่า”

    “คุณอาทิตย์ก็นี่แนะ”

    “โอ๊ย! ผมเจ็บนะคุณมิเชล”

    “สมน้ำหน้า”

    คุณแม่หยิกไปที่ลำแขนของคุณพ่อ มันสร้างเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงคุณพ่อจะพูดจาขวานผ่าซากแบบนั้น แต่สำหรับคุณแม่และผมต่างก็รู้ดีเลยว่าแท้จริงแล้วคุณพ่อก็เป็นห่วงผมไม่น้อยเหมือนกัน เพียงแต่ว่าท่านเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นนักธุรกิจที่ต้องปกครองผู้คนหลายพันคนจำเป็นที่จะต้องรักษามาดเอาไว้ แต่ก็แค่ต่อหน้าคนทั่วไปแค่นั้นแหละ พออยู่ต่อหน้าคุณแม่จริงๆ คุณพ่อกลายเป็นแมวเชื่องๆ ได้เลยละ

    “ไหนตะวัน...เล่าให้แม่ฟังหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้รับบาดเจ็บแบบนี้” คุณแม่พาผมไปนั่งตรงโซฟา...

    หลังจากนั้นผมก็เล่าเรื่องต่างๆ ให้กับคุณพ่อและคุณแม่ได้ฟังอีกครั้ง ถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศไทย...เรื่องของเรย์

    ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ก็ฟังผมแบบไม่ถามสักคำ เหมือนกับที่ผมเอาแต่นั่งฟังพ่อของหนึ่ง...สีหน้าและแววตาของท่านทั้งคู่เต็มไปด้วยความกังวลและเศร้าใจ ความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้

    “แล้วตะวันมั่นใจได้ยังไงว่าเด็กคนนั้นยังไม่ตาย”

    “นั่นสิ เด็กคนนั้นอาจจะตายไปแล้วก็ได้”

    ทั้งคุณแม่และคุณพ่อต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน ผมก้มหน้าประสานมือตัวเองเอาไว้แน่น

    “...ผมไม่รู้”

    ใช่ผมไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องของเรย์สักอย่าง

    “ตะวัน...”

    “แต่ผมเชื่อ...ผมเชื่อว่าเรย์ยังไม่ตายแล้วผมจะตามหาเรย์ให้พบ”

    ผมเงยหน้าขึ้นมองท่านทั้งสอง

    “ถ้าพบแล้วจะทำยังไง” คุณพ่อถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ดวงตาคมที่เหมือนกับผมจ้องมองมาอย่างไม่ละสายตา

    “ผมจะอยู่เคียงข้างเรย์”

    ผมตอบด้วยแววตามุ่งมั่นแล้วผมก็เชื่อในสัญชาติญาณของตัวเอง ถึงจะต้องใช้เวลาหาตลอดชีวิตผมก็จะต้องตามหาเรย์ให้เจอ

    “หึ เข้าใจแล้ว”

    คุณพ่อลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

    “เชื่อมือฉันที่เป็นพ่อแกเถอะ”

    !!!

     

    หลังจากนั้นทั้งผมและคุณพ่อก็ช่วยกันสืบค้นหาที่อยู่ของเรย์ ในเมื่อคุณพ่อเป็นคนพูดเองแบบนี้ผมคิดว่าไม่นานนักก็คงจะเจอตัวแน่ๆ อเมริกามันกว้างใหญ่มากก็จริง แต่ถ้ามีนักสืบฝีมือดีๆ ก็คงไม่นานที่ผมจะเจอตัว ป่านนี้เรย์จะเป็นยังไงบ้างนะ ดูแลตัวเองบ้างหรือเปล่า หรือว่ากำลังร้องไห้อยู่

    รู้ไหมว่าฉันคิดถึงนายเหลือเกิน

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    “ตะวัน ขอแม่เข้าไปหน่อยได้ไหม”

    เสียงคุณแม่เคาะเรียกจากด้านนอก

    “ครับ”

    ผมลุกขึ้นไปเปิดประตู

    คุณแม่เดินเข้ามาข้างในด้วยรอยยิ้มหวาน มันเป็นรอยยิ้มที่ผมชอบ ดูใจดีและมีเมตตา ดังนั้นผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณพ่อถึงได้หวงแหนคุณแม่นัก

    “ยังเจ็บแผลอยู่ไหมตะวัน”

    “ไม่ครับ”

    “ไม่ต้องห่วงนะตะวัน เด็กคนนั้น...คุณพ่อจะต้องตามเขาเจอแน่ๆ”

    “...ครับ”

    ผมโผเข้ากอดร่างอ้อนแอ้นของคุณแม่อย่างเต็มรัก อาจจะมองว่าผมเป็นเหมือนลูกแหง่ แต่สำหรับผมกลับคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าอายสักนิด

    ชื่อของผมที่คุณแม่ตั้ง ส่วนหนึ่งจะได้เข้ากับคุณพ่อที่ชื่ออาทิตย์ก็จริง แต่คุณแม่บอกผมว่าชื่อนี้มันมีความหมายลึกซึ้งมากกว่านั้น คุณแม่อยากให้ผมเติบโตเป็นเด็กที่แข็งแรงและอบอุ่นเหมือนดวงตะวัน แต่ผมในตอนนี้กลับคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับชื่อนี้สักนิด เพราะกว่าดวงตะวันจะส่องแสงไปถึง คนที่ผมรักสุดหัวใจก็หายไปจากสายตาซะแล้ว

    “คุณแม่...เรย์จะยกโทษให้ผมไหม”

    “ตะวัน...”

    “ผมเคยทำผิดต่อเรย์ เขาจะยังยกโทษให้ผมไหม”

    ผมละตัวออกมาถาม สบตานิ่ง...ถึงจะบอกว่าต่อให้ได้อยู่ในฐานะอะไรผมก็ยอม แต่อีกใจนึงผมก็กลัว...กลัวว่าผมจะไม่ได้เจอเรย์อีกแล้ว กลัวว่าเรย์จะไม่ยกโทษให้

    “ตะวัน...ฟังแม่นะ” คุณแม่ยิ้ม “คนเราทุกคนย่อมเคยทำผิดพลาด ไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์กันทุกคนหรอกนะ ทุกคนย่อมเคยทำผิด...คนทำผิดแล้วรู้สำนึกไม่มีใครไม่ให้อภัยหรอกนะ”

    คำปลอบโยนที่คุณแม่เอื้อนเอ่ยอีกครั้ง มันทำให้ใจของผมที่สั่นระรัวสงบนิ่ง ภายในใจก็ได้แต่ขอภาวนาขอให้ผมได้เจอกับเรย์เร็วๆ

    แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งที่ผมคิดมันจะผิด

     

    ฟิ้วว...

    สายลมที่พัดผ่านร่างเบาๆ ผมมองไปยังเบื้องหน้าด้วยหัวใจปวดร้าว หลังจากที่ผมให้พ่อช่วยตามหาคนที่ผมรัก แน่นอน...ว่าผมเจอ แต่สิ่งที่ผมเห็นอยากให้มันเป็นเพียงแค่ฝันร้ายเท่านั้น ป้ายหลุมศพตรงหน้าเป็นชื่อของเรย์อย่างชัดเจน รวมทั้งรูปถ่ายด้วยเหมือนกัน มันบ่งบอกได้ดีเลยทีเดียวว่าสิ่งที่ผมเชื่อมาตลอดมันเป็นความคิดที่ผิด

    เรย์ตายแล้ว

    “เรย์...”

    ผมเอื้อมมือไปจับป้ายหลุมศพตรงหน้าอย่างเบามือ น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ค่อยๆ ไหลลงมาจากดวงตาทั้งสองข้างอย่างช้า

    ความเจ็บปวด

    ความเศร้า

     

    มันทำให้ผมอยากกรีดร้องออกมา แต่ผมก็ทำได้แค่ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเงียบๆ ไม่ใช่ว่าผมไม่เจ็บ...แต่มันเจ็บจนร้องไห้ไม่ออกต่างหากเข้าทั้งสองข้างทรุดลงกับพื้นด้วยความอ่อนแรง มันคงจบแล้วจริงๆ สินะ...ต่อไปนี้จะไม่มีเรย์อีกแล้ว

     

     

    TAKE

    ขอบคุณมากครับที่ยังชอบเรื่องนี้อยู่ ถึงจะไม่มีเอ็นซี และยังตามมาจากที่ไทยบอยด้วย ทั้งๆ ที่เทคเองก็ลงค้างๆ คาๆ

    ดีใจอ่ะ ><

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×