ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the villain - นาง(นาย)ร้าย ที่รัก(yaoi) END

    ลำดับตอนที่ #43 : นางร้าย 34 END

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.78K
      50
      25 ก.ย. 58






    The  villain

    นาง(นาย)ร้าย ที่รัก

     

    ตอนที่ 34

    ผมยังไม่ตาย

    ผมยังมีชีวิตอยู่

    แล้วผมก็กำลังจะเริ่มต้นใหม่กับที่ใหม่ๆ

    ความจริงที่ถูกปิดบัง ความจริงที่ถูกซ่อนเอาไว้หลังจากที่รถที่ผมระเบิดเมื่อครั้งนั้น ผู้จ้างวานไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคนของเอเดน... เอเดนเกลียดผมมาก ก่อนที่เขาจะถูกตัดสินจำคุก เขาได้ใช้มูลทรัพย์ประกันตัวแล้วก็จ้างวานนักฆ่าเพื่อที่จะมาฆ่าผม แต่สุดท้ายแล้วก็หนีไม่รอด ตำรวจสืบสาวราวเรื่องจนได้พบต้นตอที่แท้จริง

    ผมรู้ว่าคนอย่างเอเดนไม่ปล่อยผมไปได้ง่ายๆ แน่ ก่อนที่รถจะระเบิดทั้งผมและแม่รวมทั้งคนขับรถก็ได้ออกมาจากรถได้ทัน เพียงแค่เสี้ยววินาทีรถก็เกิดระเบิดขึ้น ด้วยอำนาจเงินมันจึงเป็นเรื่องไม่ยากเลยที่จะกลบเกลื่อนข่าวที่ออกไป แล้วผมก็อาศัยช่วงจังหวะที่ชุลมุนกลับอเมริกาพร้อมกับแม่ ทั้งเปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนที่อยู่ใหม่

    เป็นเรย์คนใหม่ ที่ไม่ใช่คนเดิม

    หลังจากที่ผมมาอยู่ที่อเมริกากับแม่ผมก็ได้เจอกับริชาร์ตผู้เป็นแฟนใหม่ของแม่ เขาเป็นนักธุรกิจชื่อดัง เคยลงนิตยสารหลายๆ ฉบับๆ ว่าเป็นนักธุรกิจที่น่าจับตามองอันดับต้นๆ ของประเทศ แม่กับริชาร์ตมีลูกด้วยกันหนึ่งคน เขาเป็นน้องของผม อายุห่างกันก็พอสมควร เด็กคนนั้นเป็นเด็กน่ารัก ผมสีบรอนด์เหมือนกับเด็กฝรั่งทั่วๆ ไปแต่มีนัยน์ตาสีดำสนิทเหมือนกับแม่ น้องชายของผมอายุเพียงแค่ 10 ขวบ เท่านั้น เขามีชื่อว่า ลัคกี้... ลักกี้เป็นเด็กขี้อายและอ่อนแอนิดหน่อย เป็นเด็กที่ค่อนข้างแตกต่างจากผมเลย แต่เพราะเป็นน้องเลยทำให้ผมรู้สึกดีด้วย อีกอย่าง...รอยยิ้มของลักกี้มันก็ทำให้ผมคิดถึงหนูนา

    ถึงผมจะจากมาที่นี่แต่ผมก็ไม่ได้ทิ้งเด็กกำพร้า ไม่ได้ทิ้งหนูนา ผมยังรับอุปภัมพ์อยู่แต่ใช้ชื่อในนามอื่นและพาไปอยู่ที่อื่นที่ดีกว่านี้

    “ลักกี้ มารู้จักพี่ของลูกซะสิ”

    แม่พูดเป็นภาษาอังกฤษบอกให้ลักกี้มาทักทายผม เด็กน้อยดวงตากลมโตมองผมด้วยความหวาดหวั่นเมื่อเห็นคนแปลกหน้า

    “ไม่เอา”

    ลักกี้ส่ายหน้าตอบพลางหลบไปที่ด้านหลังแต่เขาก็ยังคงมองผมอยู่

    “ลักกี้”

    “งื้อ~”

    แม่เรียกร่างเล็กอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าลักกี้จะไม่ยอมง่ายๆ คงเพราะเห็นว่าผมเป็นคนอื่น เด็กคนนี้จึงไม่ยอมเข้าใกล้ ก็แน่ละ...เล่นคิดว่าเป็นลูกคนเดียวมาตลอดแต่จู่ๆ กลับมามีพี่แบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้เป็นใครใครก็คงจะทำใจลำบาก...พอคิดได้แบบนั้นผมก็ยิ้มบางให้แล้วยื่นมือไปให้เด็กน้อยตรงหน้า

    “พี่ชื่อเรย์...ยินดีที่ได้รู้จัก”

    ลักกี่มองผมอย่างชั่งใจ ตอนแรกก็ดูลังเลอยู่เหมือนกัน แต่คงเห็นแม่ยิ้มแล้วพยักหน้าให้เป็นเชิงบอกนัยๆ ว่าไม่มีอะไรหรอก ลักกี้ก็เลยค่อยๆ ที่จะผละร่างเล็กๆ ออกมายืนอยู่ตรงหน้าผม

    “สะ สวัสดีครับ”

    เด็กน้อยทำหน้าเขินอาย แล้วนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมคิดว่าตัวเองกำลังเริ่มที่จะมีครอบครัว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ส่วนหนึ่งในใจของผมกลับรู้สึกเหงาเล็กๆ ที่นี่ผมไม่มีคนรู้จักและไม่มีใครรู้จักผม แต่ในทุกๆ วันที่ผมอยู่กลับเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง ความรู้สึกที่ยังค้างคามันยังคงมีอยู่ภายในใจที่เปล่าเปลี่ยว

    ผมเป็นห่วงตะวัน

    เป็นห่วงเขามากเหลือเกิน ป่านนี้เขาจะฟื้นหรือยังนะ...ป่านนี้แล้วเขาจะรู้หรือยังว่าผมตายไปแล้ว แล้วถ้าเกิดว่าตะวันรู้เขาจะทำหน้ายังไง ทั้งคำถามและคำตอบมันตีวนอยู่ในหัวสมองของผมซ้ำไปซ้ำมา คิดจนหัวแทบระเบิดและคิดถึงใจแทบขาด

    แต่ผม...กลับไปไม่ได้แล้ว

    “...เรย์...เรย์!

    “คะ ครับ”

    ผมสะดุ้งตกใจเบาๆ เมื่อจู่ๆ ก็มีเสียงเรียกจากทางด้านหลัง

    “กำลังคิดอะไรอยู่”

    แม่ถามแล้วนั่งลงข้างๆ สายตาที่อ่อนโยนมองตรงมายังผม

    “...เปล่าครับ”ผมตอบเสียงเบา

    “อย่าฝืนเลยนะเรย์”

    แต่ดูเหมือนว่าท่านจะไม่เชื่อผมสักเท่าไหร่นัก ฝ่ามือที่อบอุ่นจับไปที่มือของเพื่อให้กำลังใจ แต่ผมกลับได้แต่นิ่งเงียบ ผมรู้ว่าแม่เป็นห่วงผม แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

    ผมใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ มีครอบครัวใหม่ที่น่ารัก มีน้องชายที่กำลังเริ่มสนิทกันดี ต้องไม่ใส่ใจและไม่คิดถึงวันเก่าๆ รวมทั้งคิดเรื่องของตะวันและผู้ชายคนนั้นด้วย ป่านนี้แล้วทุกคนที่นั่นก็คงเข้าใจว่าผมตายไปแล้วด้วย ไม่ต้องไปใส่ใจแล้วใช้ชีวิตใหม่ของตัวเองที่นี่ไปก็พอ ผมเริ่มสมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฯ ใหม่ และช่วยงานที่บริษัทฯ ของริชาร์ตไปด้วยพลางๆ ริชาร์ตเป็นคนเก่งมากเลยทีเดียว ทุกคนให้ความรักผมเป็นอย่างดี จนบางครั้งผมก็แทบลืมไปเลยว่าส่วนลึกของจิตใจผมก็ยังคงเหงาอยู่ก็ตาม

    “คุณเรียกผมมีอะไรหรือเปล่าครับ”

    ผมถามเป็นภาษาอังกฤษทันทีที่เมื่อเห็นหน้าผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของแม่และเป็นพ่อเลี้ยงของผม ริชาร์ตเรียกผมมาพบเป็นการส่วนตัวภายในห้องทำงานของเขา

    “ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากจะคุยกับเธอเท่านั้น”

    ริชาร์ตตอบ ใบหน้าที่มีหนวดเคราเล็กๆ กระตุกตามริมฝีปากที่คลี่ยิ้มให้กับผม มันทั้งดูอ่อนโยนและแข็งแกร่ง น่าเกรงขามในคราวเดียวกัน

    “ครับ?”

    ผมทำหน้าฉงน สบดวงตาคู่นั้น

    “เป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เธอเริ่มชินหรือยัง”

    อา...ให้ตายสิ ผมไม่ชอบที่เขาเรียกผมว่า เธอ’ เลย มันฟังดูเหมือนเป็นผู้หญิงยังไงก็ไม่รู้

    “ครับ ก็ดีแล้ว ผมเริ่มที่จะชินแล้ว”

    “ก็ดีแล้ว ฉันดีใจนะที่เธอเริ่มสดใสร่าเริงขึ้น”

    น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอกกับผม ถึงเขาจะไม่ได้มีท่าทีรุกรามก็เถอะแต่การมาอยู่แบบนี้มันก็ทำให้ผมอึดอัดเหมือนกันแฮะ

    “เธอรู้ไหมตอนที่ฉันพบกับแม่ของเธอครั้งแรกฉันก็ตกหลุมรักเลย”

    “ครับ?”

    ผมเอียงคอมองเขานิดหน่อย นี่เขาต้องการจะพูดอะไรกันแน่ จู่ๆ ก็มาพูดเรื่องอดีตตอนที่พบกับแม่ผมซะอย่างนั้น

    “เราเจอกันครั้งแรกที่เกาะที่แม่ของเธอพักอาศัยอยู่ โรสเป็นคนสวยมาก ชุดที่เธอใส่ครั้งแรกที่เราเจอกันก็เป็นเสื้อสีแดงสดนี่แหละ ฉันพยายามจีบแม่ของเธออยู่นานเลย แต่โรสเป็นผู้หญิงที่ใจแข็งสุดๆ แล้วก็ยังไม่ยอมลงกับใครง่ายๆ ฉันในตอนนั้นนะใช้แผนทุกอย่างเพื่อให้ได้แม่ของเธอมาครอบครอง บอกได้เลยว่าชั่วสารพัดอย่าง ฮ่าๆ”

    เอ่อ ชั่วสารพัดอย่าง? ไม่น่าเชื่อจริงๆ เลยว่าผู้ชายแบบนี้จะทำเรื่องเลวร้ายไปได้ แถมยังจะนั่งหัวเราะได้หน้าตาเฉยอีก

    “ถึงฉันจะเป็นคนชั่วในสายตาคนอื่นแต่สิ่งที่ฉันต้องการก็เพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น คือความรักจากแม่ของเธอ”

    ประโยคสุดท้ายที่ริชาร์ตเอ่ยบอกมันทำให้ใจของผมกระตุกอยู่วูบนึง

    “คุณหมายความว่ายังไง”

    “มีคนต้องการที่จะพบเธอนะ ไปตามหาสิ่งที่เธอต้องการซะ”

    ริชาร์ตยื่นเอกสารบางอย่างให้กับผม ผมมองแผ่นกระดาษบางๆ ที่อยู่ตรงหน้าก่อนที่ดวงตาของผมจะเบิกกว้างด้วยความตกใจ ขอความในนั้นแม้ว่าผมจะไม่ต้องอ่านจนจบแต่ก็สรุปได้ง่ายๆ ว่ากำลังมีคนตามสืบเรื่องของผมอยู่ แล้วคนๆ นั้นๆ ก็คือตะวัน...

    นี่เขา...ตามหาผมถึงนี่เลยเหรอ

    เขาไม่คิดจะเชื่อหรือไงนะว่าผมได้ตายจากไปแล้ว

    คนบ้า...

     

    เรื่องของตะวันมันทำให้ผมสับสนอยู่พอสมควร ผมไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับเขาดี จะอยู่เฉยๆ แล้วทำไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างนี้ดีหรือเปล่านะ แต่อีกใจนึงมันก็...ก็อยากที่จะพบตะวัน จนแล้วจนรอดผมก็ทนไม่ไหวกับความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองก็เลยเลือกที่จะไปยังสุสานปลอมๆ ของตัวเองที่เป็นคนสร้างขึ้น นัยนึงก็เพื่อหลอกทุกคนว่าผมตายไปแล้วแล้วก็ฝังทุกอย่างเกี่ยวกับผมลงไป

    แต่ใครมันจะไปคิดว่าผมเจอตะวันที่นั่นด้วย เขากำลังร้องไห้หน้าป้ายหลุมศพของผม...น้ำตาของเขามันทำให้ผมปวดใจ อยากเดินเข้าไปหา อยากเดินเข้าไปใกล้ๆ ผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ตัวเองเดินไปเหยียบกิ่งไม้เล็กๆ ซะแล้ว

    แกร็ก

    ผมยืนตกตะลึงชั่วครู่ ตะวันก็หันมองผม ในคราวแรกเขาเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเองสักเท่าไหร่ แต่เพียงไม่นานรอยยิ้มก็เผยที่ใบหน้า เขากำลังดีใจที่ได้เจอผม...แต่ผมก็ทำได้แค่เดินหนี หนีให้ไกลจากตรงนี้เพราะรอยยิ้มของเขามันทำให้ผมใจสั่นแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก

    “เรย์!

    เสียงเรียกจากทางด้านหลัง ตะวันกำลังเรียกชื่อของผมแต่ตัวของเขาถูกการ์ดของผมจับเอาไว้ น้ำเสียงที่สั่นเครือและเต็มไปด้วยความดีใจกำลังร่ำร้องให้ผมหยุด ร่างของเขาถูกซ้อมอย่างสะบักสะบอมเพราะไม่ยอมหยุดที่จะเข้าหาผม

    ผมสั่งให้พวกเขาหยุดเพื่อที่จะต้องไม่ทำร้ายตะวันไปมากกว่านี้ แทนที่ตะวันจะหยุดแต่เขากลับไม่หยุด เขาวิ่งตามผมพร้อมกับร้องเรียกชื่อของผมไปด้วย ผมมองผ่านร่างที่วิ่งอย่างทุลัดทุเล ล้มบ้าง วิ่งบ้าง ความจริงแล้วผมสามารถให้คนขับรถขับรถเร็วๆ เพื่อหนีไปจากเขาได้ แต่ทำไมผมถึงได้สั่งให้ขับไปช้าๆ กันนะ น้ำตาของที่ไหลสะอื้นออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง

    ร่างกายของเขาก็เริ่มเต็มไปด้วยบาดแผล เนื้อตัวก็เต็มไปด้วยฝุ่น ผมพยายามที่จะสกัดกลั้นมันไม่ให้ไหลออกมาแล้วนะแต่มันทำไม่ได้จริงๆ

    มันเจ็บปวดเหลือเกิน

    “หยุดรถ”

    เอี๊ยด!

    ทันทีที่ผมสั่งตัวรถที่กำลังขับเคลื่อนอยู่ก็หยุดลง ผมรีบก้าวลงจากรถแล้ววิ่งไปหาร่างที่กำลังล้มอยู่ ตะวันค่อยๆ ทอดสายตามองผม

    “นายยังไม่ตาย นายจริงๆ ด้วย เรย์!

    ตะวันโผเข้ากอดผมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ดวงตาทั้งสองข้างผมเบิกกว้างด้วยความตกใจแต่ทำไมผมถึงได้ไม่ผลักเขาออกไปนะ

    “กลับไปซะ แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”

    “เรย์...”

    “เรย์ได้ตายไปแล้ว นายกลับไปซะเถอะแล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ต่อไปนี้เราสองคนจะไม่รู้จักกัน”

    “ไม่!

    เขากอดผมแน่นกว่าเดิมจนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของเขา... มันเต้นเพราะกลัวว่าจะสูญเสียผมไปอีกครั้งหรือว่าเป็นเพราะดีใจที่ได้เจอผมกันแน่ แต่จะยังไงก็ช่างเพราะเสียงหัวใจของเขามันทำให้หัวใจของผมเต้นแรงไปด้วย

    ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

    ตะวัน...ตะวัน...ตะวัน...

    ฉัน...รัก...

    “ฉันรักนายนะเรย์...รัก...ฉันรักเธอ”

    ในขณะที่ผมอยู่ในห้วงความคิด จู่ๆ ตะวันก็พูดออกมาซ้อนทับกับความคิดของผม...ตะวันกำลังบอกว่ารักผมอยู่ ความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นในจิตใจมันทำให้ผมแทบอยากจะโอบกอดเขาตอบ แต่ผมก็ทำได้แค่เพียงกำมือตัวเองแน่นแล้วพยายามผลักร่างสูงให้ออกห่าง

    ไม่ได้ผมจะทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาดจะยอมแพ้ให้กับความรู้สึกของตัวเองไม่ได้!

    “ปล่อยฉันนะ!

    “กลับมาเถอะนะเรย์ กลับมาหาฉัน ฮึก อย่าจากฉันไปอีกเลยนะ ฮึก”

    แต่เสียงสะอื้นเบาๆ ของตะวันมันทำให้ผมหยุด...เขากำลังร้องไห้เพราะผม แล้วทำไมน้ำตาของเขามันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดไปด้วยนะ ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ เลย

    “ฉันรักนาย อย่าจากฉันไปอีกเลยนะ ฉันรักนายนะเรย์”

    เขาบอกกับเขาซ้ำๆ

    “...ทำไม นายถึงรักฉัน”

    ผมถามเสียงเบาแต่มันก็ดังพอที่จะทำให้เราสองคนได้ยินชัดเจน

    “เรย์”

    “ฉันมีอะไรดี...ฉันเป็นนางร้าย ฉันเป็นคนไม่ดี นายจะยังรักฉันอีกเหรอ”

    “รักสิ...ฉันรักนาย รักที่นายเป็นนาย รักในตัวของนาย...ถึงนายจะร้ายแต่ฉันก็จะรัก”

    ร่างสูงยิ้มบางให้แล้วละหน้าออกมามองผม เราสองคนสบตากันอย่างสื่อความหมายแล้วมันก็ทำให้หัวใจของผมเต้นแรงมากขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าที่ถูกทาบทับจากดวงตะวันจากทางด้านหลังดูจริงจังมากกว่าเคย จนผมอดคิดไม่ได้ว่าบางทีผมกำลังถูกมนต์สะกดเลยทำให้แทบขยับตัวไม่ได้เลย

    “ฉันรักนาย นางร้ายของฉัน”

    แล้วผมก็กำลังคิดว่าบางทีความรักของผมคงกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

    ต่อจากนี้และตลอดไป

     

    ปีผ่านไป

    กาลเวลาหมุนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกสิ่งรอบตัวกำลังดำเนินไปตามวิธีชีวิตของมัน รอบตัวของผมก็เปลี่ยนไป ทั้งสิ่งก่อสร้าง เทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกต่างๆ รวมแม้กระทั่งผู้คน เมื่อเวลาผ่านพ้นไปทุกคนก็ย่อมมีวุฒิภาวะที่เพิ่มขึ้น ตัวผมเองก็เหมือนกัน... จากวันเลื่อนเป็นเดือน จากหนึ่งเดือนก็กลายเป็นสองเดือนและสามเดือนจวบจนกระทั่งผ่านไปเป็นปี นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ที่ผมเริ่มต้นชีวิตใหม่ก็ผ่านไป ปีแล้วสินะ...ผมไม่ใช่เด็กๆ ที่เอาแต่ใจไปวันๆ อีกต่อไปแล้ว แทบเรียกได้ว่าตัวผมในตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนด้วยซ้ำ

    ทุกคนเปลี่ยนไป

    ผมก็เปลี่ยนไป

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    “เรย์...เสร็จหรือยัง”

    ริชาร์ตเปิดประตูเข้ามาแล้วแล้วเดินมาตรงผมที่กำลังนั่งอยู่ที่หน้ากระจก

    “เสร็จแล้วครับ”

    ผมลุกขึ้นแล้วหันไปยิ้มตอบ

    “ไปกันเถอะ ทุกคนรออยู่”

    “ครับ”

    ว่าจบผมก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปนอกห้อง ทางเดินที่เงียบสงบในคราวแรกค่อยๆ มีเสียงดังเล็ดลอดออกมาจากบานประตูที่อยู่ตรงด้านหน้าเบาๆ รู้สึกตื่นเต้นจนประหม่าเลย

    แอ๊ดด

    บานประตูที่ปิดสนิทถูกเปิดออกพร้อมกับแสงสว่างจ้าที่สว่างไสว มันสาดส่องโดนตัวของผมจากแสงเล็กๆ และเริ่มใหญ่ขึ้นๆ เรื่อยๆ ผมเดินไปทางพื้นพรมสีแดงที่นุ่มนิ่มด้วยใจสั่นระรัว ทุกคนกำลังรอผมอยู่ พวกเขาต่างก็มีสีหน้าที่แสดงถึงความยินดี ผมเดินไปอยู่เคียงข้างคนที่รอผมอยู่ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว

    แล้วคำปฏิญาณก็เริ่มขึ้น

    พิธีแต่งงานของพวกเราสองคน

    ทุกอย่างดำเนินไปตามพิธี ทั้งครอบครัวของผม ริชาร์ตและลักกี้ และครอบครัวของตะวันต่างก็แสดงความยินดี งานแต่งงานของพวกเราสองคนต่างก็ไม่มีใครคัดค้านและไม่ได้เป็นข่าวดัง ผมกับตะวันต้องการที่จะจัดงานกันอย่างเงียบๆ ไม่ต้องหรูหรา ไม่ต้องฟุ้มเฟือย แค่เราสองคนมีความสุขก็เพียงพอ

    “ขอให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวจุมพิตซึ่งกันและกัน”

    บาทหลางเอ่ยประโยคสุดท้ายหลังจากที่พวกเราทั้งคู่แลกแหวนซึ่งกันและกัน

    “จูบเลยๆ จูบเลยๆ”

    “เอาเลยๆ จูบเลยๆ”

    “กรี๊ดดดด”

    เสียงโห่ร้องที่ดังกึกก้อง ตะวันจับไปที่แก้มนิ่มของผมทั้งสองข้างเพื่อประคองใบหน้าให้เงยขึ้นไปสบตาก่อนที่ริมฝีปากอุ่นชื้นจะประกบลงมาเบาๆ เป็นจูบที่แสนเบาหวิว ไม่ได้หวาบหวาม แต่มันก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่คุ้นเคย

    ปีที่ผมจากมาอยู่ที่อเมริกา

    ปีที่ตะวันอยู่เคียงข้างผม

    4 ปีที่ได้เราได้เรียนรู้ซึ้งกันและกัน

    และ ปี ที่เขารักผม

    มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานแต่ก็แสนสั้นด้วยเช่นกัน ขอบคุณที่อยู่ยอมอยู่กับคนร้ายๆ แบบผม คนที่คนอื่นมองไม่ดีคนนี้

    ขอบคุณ



    TAKE

     

     

    จบแล้วคร๊าบบบ จบแล้ววววในที่สุดก็มาถึงตอนจบสักที หลังจากที่แต่งมาเนิ่นนาน แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่เทคตัดฉากไป 4 ปีต่อมาเลย...บางทีเทคคิดว่าหลังจากนี้เรย์ก็จะมีความสุขกับครอบครัวใหม่ กับคนที่รัก

    พูดง่ายๆ เลยคือจบแบบละครไทยอะนะ ฮ่าๆ ไม่มีไรมาก ไหนๆ ก็มาถึงตอนสุดท้ายละ เม้นส่งท้ายน้องเรย์เทคหน่อยน้าาาาาาาาา

    #อ้อนๆ

    ปล.หนังสืออาจได้เปิดจองช่วงธัญวาคมนะครัช! ช่วงระหว่างนี้เทคต้องรอคิวต่อจากเดธ พอฮาเร็มทาสเดธเสร็จก็ถึงคราวน้องเรย์ของเทคละ ช่วงนี้ก็เก็บเงินกันน้าาาา

    ปล.ถ้าไม่ชอบตอนจบของนิยายที่เทคแต่งก็ขอโทษด้วยนะ ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังนะครับ

                            

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×