ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    That Wolf...it's me {fic exo}

    ลำดับตอนที่ #36 : EXTRA CHAPTER 7 :: คริส

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2K
      5
      27 ต.ค. 56




    EXTRA CHAPTER 7 :: คริส

     

     

    ผมกระโดดลงมาจากแท็งก์น้ำบนดาดฟ้า รองเท้าคู่โปรดกระทบลงกับพื้นชื้นและมีตะไคร้น้ำเกาะทำให้ผมลื่นเสียหลักครู่หนึ่ง ผมใช้มือยันพื้นแล้วลุกขึ้นยืน เสียงฝีเท้าหนักแน่นวิ่งตามหลังมาทำให้ผมต้องรีบสาวเท้าวิ่งให้เร็วที่สุด ผมกำลังหนี...ในสิ่งที่ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร






    ผมเลี้ยวเข้าไปในโรงยิมแล้วซ่อนตัวอยู่หลังกรงเหล็กใส่ลูกบาส เจ้าของฝีเท้านั้นหยุดยืนเงียบอยู่หน้าโรงยิม เขาพยายามดมกลิ่นแต่กลิ่นน้ำหอมของผมมันฉุนจนทำให้กลิ่นเพี้ยนไป เขาค่อยๆถอยหลังกลับไปทางที่เดินมาก่อนจะลับหายไป ผมรอให้แน่ใจเสียก่อนว่าเขาไปแล้วจริงๆจึงค่อยๆก้าวออกมาจากที่ซ่อน ผมก้าวขาที่สั่นไปตามทางลัดเพื่อหนีออกจากโรงเรียน






    ผมหันซ้ายแลขวาอย่างระแวงก่อนจะรีบสาวเท้าเพื่อหนีจากที่แห่งนี้ แต่จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งวิ่งตามมา ผมรีบเร่งฝีเท้าก่อนที่เจ้าของเสียงนั้นจะตามมาทัน!







    “พี่คะ...”





    ผมหยุดชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก เสียงนั้นเป็นเสียงของผู้หญิงและผมก็จำเธอไม่ได้ว่าเธอคือใคร แต่ในเวลานี้ผมตระหนักได้ว่าควรรีบพาเธอหนีซะตอนนี้เลย ผมคว้าข้อมือเธอที่ยืนงงอยู่มาจับไว้แล้วรีบออกวิ่ง แต่เธอกลับไม่ยอมวิ่งและยืนงง













    “รีบวิ่งสิยัยโง่!












    ผมกระชากตัวเธอแล้วรีบวิ่งทันทีโดยไม่สนว่าเธอจะวิ่งทันหรือเปล่า ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ถามอะไรนอกจากวิ่งตามมาโดยดี









    “พี่คะ...เราจะไปไหนคะ?”













    ผมปล่อยข้อมือเธอและหยุดหายใจ เราวิ่งมาจนถึงรั้วโรงเรียน เธอทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแล้วหอบแฮ่ก ผมใช่มือปลดเนกไทออกแล้วใช้มันเกี่ยวกับเหล็กบนสันกำแพง ผมไม่ได้ตอบเธอแต่คว้ามือเธอมาแทน









    “เธอชื่ออะไร?”















    เด็กคนนั้นทำตาโตและอ่าปากค้าง เธอพยายามพูดออกมาแม้จะตะกุกตะกักบ้างแต่สุดท้ายคำพูดก็หลุดอออกมา













    “ปะ...ป๋ายยี้ค่ะ ฉันชื่อป๋ายยี้ ปี1 ห้อง A













    ผมพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะจับปลายเนกไทใส่มือของเธอ ผมหันไปมองข้างหลัง เมื่อไม่มีอะไรผมจึงย่อตัวลงนั่งกับพื้น










    “เอาล่ะป๋ายยี้...ฉันไม่รู้ว่าเธอมาที่นี่ทำไมในเวลาอย่างนี้ แต่ฉันขอให้เธอรีบออกไปซะ”










    “ค...คะ? แล้วทำไมเราถึงไม่ออกไปทางประตูหน้าล่ะคะ?”










    ผมไม่ตอบแต่จับข้อเท้าของเธอขึ้นมาจากพื้นแล้วยกวางบนบ่ากว้างของผม

    “เหยียบไหล่ฉันและข้ามไปเร็วๆ”




    ป๋ายยี้ยังคงนิ่งเฉย ผมขยับเข้าไปใกล้เธอแต่เธอกลับถอยห่าง

    “เร็วๆเข้าสิ!




    “ค...ค่ะ”

    เธอพยักหน้ารับคำกก่อนจะเดินเข้ามาใกล้และค่อยๆยกเท้าเหยียบบ่าผมเต็มแรงทั้งสองข้าง ก่อนจะส่งตัวเองข้ามกำแพงไป ผมลุกขึ้นยืนแม้จะปวดไหล่แค่ไหนก็ตาม ผมเอื้อมมือไปจับเนกไทที่ป๋ายยี้เขวี้ยงกลับมาให้แล้วปีนกำแพงขึ้นไป











    “นายคิดว่าฉันควรทำอะไรกับยัยนั่นดี...?”










    ผมชะงักและหันหลังกลับมาทันที ร่างสูงผอมของผู้ชายคนหนึ่งที่ผมน่าจะรู้จักค่อยๆก้าวเท้าเข้ามา ใจของผมเต้นแรงขึ้นและผมก็รู้สึกเหมือนหยุดหายใจ ตัวของผมขยับไม่ได้และเมื่อผู้ชายคนนั้นก้าวเข้ามาจนพ้นจากเงามืดของต้นไม้และอาคารแล้วผมก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ











    “คิดว่าฉันจะทำยังไงกับยัยนั่นดีล่ะ...หืม?”











    ผมมองเขาด้วยความไม่เข้าใจและสับสน ลู่หานเป็นคนวิ่งตามผมตอนนั้นหรอกเหรอ แต่ผมคิดว่าไม่ใช่คนด้วยซ้ำ มันดูคล้ายกับ...หมาหรือหมีตัวใหญ่



    “นายจะทำอะไรได้...”




    ผมไม่ชอบสายตาที่ลู่หานมองผม มันเป็นสายตาที่หยามเหยียดและผมคิดว่ามันน่ารังเกียจ ลู่หานหัวเราะหึแล้วมองขึ้นไปบนต้นไม้ เสียงนกตัวน้อยครางอยู่ใต้อ้อมอกแม่ ลู่หานจ้องมันสักพักและผมก็รู้สึกเหมือนกับว่าตาของเขากลายเป็นสีทองครู่หนึ่งแล้วก็กลับมาเป็นปกติ ภายในเวลาไม่กี่เสี้ยววินาทีลูกนกหลายตัวก็ร่วงลงมาบนพื้น ร่างเล็กจ้อยดิ้นทุรนทุรายและร้องจ้าหาแม่ เสียงดังจนผมคิดว่าต้องมีคนได้ยินแน่ ผมเบนสายตากลับมายังลู่หาน เขามองผมเหมือนเขานั้นกำลังถือไพ่เหนือกว่า ผมจ้องเขาราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน หน้าผมตอนนี้คงซีดเป็นไก่ต้ม





    “นายคิดว่าฉันทำอะไรได้อีกล่ะ?”

    “นะ...นายเป็นตัวอะไรกันแน่?”





    ลู่หานหัวเราะออกมาเสียงดัง ผมพยายามที่จะขยับตัวหนีจากสิ่งที่ตรึงผมไว้ แต่ผมก็ขยับไม่ได้แม้แต่นิ้วมือด้วยซ้ำ ลู่หานแสยะยิ้มและก้าวเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ผมพยายามดิ้นแต่ก็ไม่สามารถละสายตาจากลู่หานได้ราวกับถูกสะกดยังไงยังงั้น


    “ถ้านายอยากรู้...ฉันก็จะแสดงให้นายดูก็ได้”



    ทันทีที่พูดจบลู่หานก็หมอบลงกับพื้นไม่ห่างจากผมมากนัก ภายในเวลาไม่ถึงสามสิบวินาที ร่างกายของเขาก็เปลี่ยนไป ขนหยาบงอกออกมาแทนเสื้อผ้าที่ปกคลุมตัว ร่างที่สูงผอมนั่นขยายใหญ่ขึ้นจนน่าตกใจและไม่น่าจะเป็นไปได้ เสียงขู่คล้ายเสียงหมาดังขึ้นและผมเดาว่าคงดังมาจากสิ่งมีชีวิตตรงหน้านี้!






    ...ก่อนที่ผมจะได้รับรู้อะไรไปมากกว่านี้ สติของผมก็ดับวูบไป

     

    ***

     

    ผมตื่นขึ้นมาในห้องนอนตามปกติ เช้าวันนี้เป็นเช้าวันเสาร์และผมไม่จำเป็นต้องตื่นเช้า แต่ผมกลับตื่นขึ้นมาซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลก ผมก้าวลงจากเตียงและเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาน้ำดื่มแก้กระหาย แต่ทันทีที่ผมปิดตู้เย็นผมก็มองเห็นร่างของใครบางคนยืนอยู่ข้างซิงค์ล้างจาน ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวเพราะรอยยิ้ม ผมสะดุ้งตกใจและรีบก้าวออกห่างจากเขา ภาพต่างๆไหลเข้ามา เรื่องที่เจอเมื่อคืนนี้...



    “ตกลงหรือยัง?”

    “ตะ...ตกลงอะไร”




    ลู่หานแสยะยิ้ม เขาใช้ถุงมือที่ใช้หยิบของจากไมโครเวฟดันมีดที่อยู่ใกล้ๆออกห่างจากตัวแล้วหันกลับมามองผม


    “อืม...ยังไงนายก็ไม่ต้องให้คำตอบหรอก เพราะไม่ว่ายังไงนายก็ไม่มีสิทธิ์เลือกอยู่แล้ว”



    ลู่หานพูดจบแล้วเขาก็หัวเราะเบาๆ เขาดูเหมือนคนจิตไม่ปกติและผมก็รู้สึกขนลุกเมื่อมองเข้าไปในตาเขา มีบางอย่างฝังลึกอยู่ แต่ผมไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร



    “นายเป็นทาสฉันตลอดไป...”



    ตาของผมถูกตรึงให้สะกดอยู่ที่หน้าของเขา อะไรบางอย่างพุ่งเข้าใส่ผม มันกดไหล่ผมให้ทรุดลงและควบคุมตัวเองไม่ได้ ผมร้องไห้และภาพความทรงจำแย่ๆก็ไหลออกมา แม่ทิ้งพ่อไป พ่อเองก็กลายเป็นคนเจ้าชู้ ผมต้องอยู่ตัวคนเดียวและเพื่อนๆที่หวังแต่ฐานะของผม ผมเกลียด...ชีวิตแบบนี้!




    “...ฉันเป็นทาสนาย”





    ลู่หานหัวเราะเบาๆ เขาใช้ปลายเท้าเชยคางผมขึ้น แววตาสมเพชของเขามองมาที่ผม...







    “งั้นก็เริ่มเลยล่ะกัน...”

     

    ***

     

    ผมนั่งอยู่ในห้องเรียนพิเศษ ลู่หานนั่งทอดสายตาไปข้างหน้า แต่อันที่จริงแล้วเขากำลังจับตามองผมต่างหาก ผมเปลี่ยนสายตาไปทางหน้าห้องแทนและสายตาของผมมักจะไปวางอยู่ที่หลังของเลย์ ผมมักพักสายตาด้วยการจ้องไปที่หลังของเขาและลู่หานก็มักมองไปที่มินซอกและผมเช่นกัน




    “ฉันจะลงมือคืนนี้...”




    ผมกับมินซอกเพื่อนร่วมชะตากรรมมองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย ลู่หานยิ้มเย็นยะเยือกให้แล้วเดินจากไป เพื่อนๆในคลาสกำลังจับกลุ่มคุยเรื่องวันหยุดปิดเทอมกัน ผมและมินซอกนั่งเงียบและนิ่ง เราไม่ได้รู้จักกันเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว ครู่ต่อมาเพื่อนในห้องก็พากันตื่นเต้นกับพระจันทร์เต็มดวง แต่ผมกับมินซอกทำได้เพียงนิ่งเงียบเพราะรู้ดีว่ามันเป็นเครื่องหมายแห่งความหายนะ!




    ผมได้ยินเสียงกรี๊ด...




    ลู่หานลงมือแล้ว! เขาทำมันแล้ว! ศพแรกของเขา ผมและมินซอกรีบลุกขึ้นยืนแล้วตามออกไปดู พระเจ้า! เธอตายแล้ว เยจินตายสนิท ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาควบคุมผมอยู่ ลู่หานบังคับให้ขาผมก้าวเข้าไปและยืนมองกองศพเยจินอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งทุกคนมาครบ ผมมองลู่หาน ฆาตกรเลือดเย็น เขาทำหน้านิ่งพร้อมกับก้มลงกับพื้นหาหลักฐาน ผมยิ้มเยาะตัวเอง...ผมไม่ใช่คนชอบโกหก และเพื่อนๆของผมก็รู้ดี







    แต่หลังจากนี้ไป...สิ่งที่ผมเกลียดเท่านั้นที่จะทำให้ผมรอด!

     

    ***

     

    ศพที่สอง...แทมิน




    ผมอาเจียนออกมาเมื่อเห็นสภาพศพแทมินชัดๆ และวิธีการฆ่าของลู่หาน มินซอกถึงกับตัวสั่นและร้องไห้ออกมา เราสองคนยืนเงียบๆในมุมมืดของโรงยิม หลังจากที่ลู่หานปลิดชีวิตแทมินเสร็จเขาก็หายไปสักพัก ผมกับมินซอกยืนขาสั่นอยู่ตรงนั้นร่วมชั่วโมงเพราะขยับไม่ได้ หลังจากที่ลู่หานยอมคลายมนต์ผมก็แยกย้ายกับมินซอกกลับบ้าน เสียงอะไรบางอย่างกระซิบที่ข้างหูเมื่อผมกำลังคิดจะบอกความจริงกับทุกคน




    ทั้งหมดมันยังแค่เริ่มต้น...ความสนุกมันอยู่หลังจากนี้ต่างหาก

     

    ***

     

    เรามาเข้าค่ายกัน และลู่หานก็กระหยิ่มใจ เขาวางแผนทุกอย่างไว้ โดยไม่มีใครรู้นอกจากผมและเขา ผมแต่มินซอกก็ยังไม่รู้ เขาฆ่าครูแทยอนทันทีที่ไปถึง ตกดึกของคืนที่สองลู่หานออกมาจากบ้านพัก เขาไม่ได้พูดอะไรนอกจากรีบวิ่งออกไป ผมมองตามเขาและรู้สึกว่ามันแปลกๆ และก็จริงอย่างที่ว่า ลู่หานเปลี่ยนเป็นหมาตัวใหญ่และจ้องมองสักพักแล้วตัดสินใจจะกลับบ้านพพักเพราะไม่สามารถทนเห็นภาพแสนอัปยศนี้ได้




    “...อย่าไป”



    ผมหยุดชะงัก เสียงดังมาจากใครบางคน น่าจะเป็นลู่หาน ผมหันกลับมามองเขา ผมเห็นเพียงหลังสั่นเทิ้มของเขา สาบานได้ว่าพึ่งเคยเห็นหมาร้องไห้ ผมยืนมองเขาเงียบๆอยู่อย่างนั้น




    “อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน...จะไม่มองก็ได้”




    ผมตัดสินใจมองไปทางอื่น หลังจากที่ลู่หานเริ่มทนไม่ไหว เขาออกจากที่ซ่อนและเข้าไปขย้ำเหยื่อ ผมหลับตาแต่หูของผมยังคงได้ยิน ราวกับได้ยินเสียงร้องไห้จากใครบางคนในที่ตรงนั้น ผมมองเห็นเซฮุน ลู่หานใช้เวลานานกว่าที่เขาจะจัดการกับเซฮุนได้...เขาจ้องศพเซฮุนเนิ่นนาน จากนั้นเขาก็เริ่มหอนยาวนาน ลู่หานครางหงิงแล้วหมอบลงกับพื้นข้างๆศพเซฮุน ผมยืนมองด้วยความสลดใจ ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับทั้งคู่ แต่ลู่หานทำเหมือนกับว่าไม่อยากให้เซฮุนตาย...แต่เขาฆ่าเซฮุนไปแล้ว



     

    ***

     

    ผมกับลู่หานรีบวิ่งเข้ามาในบ้านก่อนที่จื่อเทาจะหาทางกลับเจอ แบคฮยอนกำลังยืนคุยกับมินซอกหน้าห้อง ผมเข้าไปก่อนลู่หานและดูเหมือนแบคฮยอนกำลังเข้าใจว่าผมเป็นฆาตกรตัวเหม็นนั่น แต่พักต่อมาลู่หานก็ตามเข้ามา...แน่นอนว่าเขาโกหกอีกแล้ว ผมได้แต่มองเขาด้วยความสมเพช

     


     

     

    “เร็วเข้า! ออกไปรอฉันข้างนอก”

    “นายจะไปตอนไหน?”

    “เอาน่า ออกไปเร็ว!




    ลู่หานบอกผมและเดินออกไปจากห้อง ผมรีบเก็บข้าวของที่จำเป็นใส่เป้แล้วปีนออกไปทางหน้าต่าง สักพักใหญ่ๆเขาก็ออกมาในรูปแบบของหมาตัวใหญ่ เขาทรุดลงตรงหน้าผมและเปลี่ยนกลับเป็นคนเหมือนเดิม ผมตรงเข้าไปช่วยเขาและพาเขาหนีไป นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีโอกาสใช้ความคิดตัวเอง




    “น้ำ...ฉันต้องการน้ำ”




    ลู่หานครางหงิง ตัวของเขาร้อนจนผมไม่คิดว่าเขาจะยังมีสติ เขานอนดิ้นทุรนทุรายไปมา ผมใช้เสื้อตัวในจุ่มน้ำในลำธารมาเช็ดตัวให้ลู่หาน เขาไม่ได้ดีขึ้นเลย ผมเองก็เข้าใจว่าเขาเป็นอะไร ผมคิดไปก็เอาเสื้อจุ่มน้ำไป  เงาในน้ำสะท้อนให้เห็นใครบางคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม ผมเงยหน้าขึ้นมอง ชานยอลยืนมองผมจากฝั่งตรงข้าม สีหน้าของเขาบ่งบอกว่าดีใจที่ได้เจอผม เขาเหลือบมองลู่หานที่นอนหายใจรวยระรินอยู่ข้างหลังผม อะไรบางอย่างที่ควบคุมสมองผมเริ่มทำงาน ผมลุกขึ้นยืนอัตโนมัติและตรงเข้าไปพยุงลู่หานแล้วรีบพาเขาเข้าป่าเพื่อหนี ชานยอลพยายามตะโกนเรียก แต่ผมกลับหยุดเดินไม่ได้ ลู่หานสั่งให้ผมรีบหนีไปให้ไกลจากตรงนี้






    ...เหมือนที่ผมเองก็อยากจะหนีไปให้ไกลเหตุการณ์นี้เหลือเกิน

     

    ***

     

    ...ผมสงสารเขา

    ผมนั่งมองลู่หานที่นอนขดตัวอยู่ใต้ต้นไม้ ตอนนี้เหลือเพียงสี่คน ผม ลู่หาน ชานยอลและแบคฮยอน ลู่หานมักซึมเศร้าเวลาเงียบๆ ผมเองไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรและผมเองไม่สามารถคิดได้เพราะเขาจะทำให้ผมปวดหัวจนแทบระเบิด



    ชานยอลที่ถูกหลอกมานั่งกอดเข่าเงียบอยู่ห่างๆเรา ลู่หานรอเวลาที่เขาจะกลับมามีพลังอีกครั้งและเขาจะจัดการกับชานยอล ผมมองชานยอลที่ยังคงรู้สึกผิด ผมเองก็เสียใจที่หลอกเขา แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นผมไม่ได้ทำมัน ลู่หานเป็นคนบังคับทั้งหมด เพียงไม่กี่นาทีต่อมาชานยอลก็หายไป ลู่หานโกรธมาก เขารีบพาร่างกายที่อิดโรยเต็มทีออกไปจัดการกับชานยอล ผมหลับตาลงหวังจะฟังเพียงเสียงร้องโหยหวนของชานยอลเท่านั้น แต่ไม่มีเสียงใดเกิดขึ้นจนกระทั่งลู่หานกลับมา ไม่มีเสียงร้อง ชานยอลถูกกำจัดด้วยวิธีเงียบๆหรืออย่างไร?



    “ฉันไม่ได้ฆ่ามัน...”

    “แล้วนายทำอะไร?”



    ใจของผมเต้นแรงด้วยความหวัง บางทีลู่หานอาจจะคิดได้ว่าสิ่งที่เขาทำมันผิดและไร้เหตุผล ผมเผลอยิ้มกว้างออกไป





    “ฉันแค่กัดมันไป...เท่านั้นเอง”

    “อะไรนะ!





    ผมสะดุ้งตัวขึ้น ชานยอลถูกกัด! เขาจะถูกพิษมันรุมเร้ากลายเป็นตัวประหลาดเหม็นโฉ่แบบลู่หาน ลู่หานจะใช้ชานยอลเป็นเครื่องมืองั้นหรือ? เพื่อฆ่าใครล่ะ? แบคฮยอน?





    ไม่ต้องห่วงหรอก...เกมมันจบแล้ว

     

    ***

     

    แบคฮยอนยังไม่ตาย...


    นี่เป็นความจริงที่ผมเองยังไม่เข้าใจ ลู่หานหวังให้ชานยอลคลุ้มคลั่งพิษจนพลั้งฆ่าชานยอล แต่ไม่เป็นผล แบคฮยอนยังไม่ตาย เขามุ่งหน้านำศพชานยอลกลับไปที่บ้านพัก ลู่หานมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า ผมถูกบังคับให้เดินไปยืนในป่าอีกด้าน ลู่หานหายไป พักต่อมาเขาก็เริ่มแสดงละครหุ่นเชิดโดยมีผมเป็นตัวละครหลัก



    ผมวิ่งตามที่ลู่หานกำหนดมาจนเข้ามาในป่าลึก จู่ๆผมก็วิ่งโดยไม่ได้ถูกบังคับ ความคิดกลับมามีความหมายอีกครั้ง ลู่หานไม่ได้บังคับผมแล้ว ผมชะลอฝีเท้าลง เสียงแบคฮยอนที่ตามมาก็หยุดเช่นกัน


    “รู้อะไรมั้ย...การโดนบังคับเป็นสิ่งที่ฉันไม่ชอบเลย”

    แบคฮยอนยังคงไม่เข้าใจ

    “เขาบังคับฉัน...”

    “ใคร?”




    แบคฮยอนถามกลับมา ผมหัวเราะสมเพชตัวเองก่อนจะหันกลับมามองเขา



    “ลู่หาน...เขาบังคับฉันให้คอยหนุนหลังเขา”




    ผมส่งสายตาเว้าวอนขอให้แบคฮยอนเชื่อผม ขอเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่แบคฮยอนก็ยังคงทำหน้าไม่ไว้ใจ แว่นของเขาคงร้าวเสียจนมองหน้าผมไม่ชัด



    “ลู่หานจะฆ่าผู้หญิงคนหนึ่ง...เป็นรุ่นน้องที่แอบชอบฉัน เธอชื่อป๋ายยี้ แต่ฉันรู้เลยห้ามไว้ เขาเลยยื่นข้อเสนอให้ฉันช่วยเขาปกปิด แต่วันนี้ฉันจะไม่ปิดบังมันอีกต่อไปแล้ว ฉันกำลังจะบอกนาย...ว่าเขาคือหมาป่า!




    ผมค่อยๆเดินเข้าไปใกล้แบคฮยอนแล้วตบบ่าเขาเบาๆ




    “เขาฆ่าทุกคนนั่นแหละ...เชื่อฉันสิ”

    “อย่าไปเชื่อเขานะ...”





    เสียงนั้นดังมาจากด้านหลังผม ลู่หานเป็นคนพูดออกมาแบคฮยอนเริ่มสับสน




    “หมอนั่น...เป็นหมาป่า เขาใส่ร้ายฉัน”




    ผมหัวเราะกับสีหน้าร้อนรนของลู่หาน ถ้าให้เดาเขาคงกำลังอ่อนแรงจนไม่สามารถควบคุมผมได้






    “เขาหายไปเสมอตอนหมาป่าโผล่ออกมา...”

    “หืม?...แน่ใจเหรอลู่หาน”

    ผมเดินอ้อมไปจับบ่าแบคฮยอนแล้วดันเข้าไปหาลู่หาน

    “ไปสิ...ฆ่าเขาเลย”




    แบคฮยอนส่ายหน้า ลู่หานใช้โอกาสนั้นหนีไป ผมรีบปล่อยแบคฮยอนแล้ววิ่งตามเขาไป ลู่หานหนีหายไป ผมยืนงงสักพักก็จับทางได้ว่าเขากำลังวิ่งไปทางด้านขวา ผมไล่ตามเสียงไปก็พบว่าแบคฮยอนกับลู่หานกำลังเผชิญหน้ากันอยู่





    “ฆ่าเขาสิ...”





    ผมกระซิบเบาๆ แบคฮยอนหันมามองผม เขาดูจะลังเลไม่น้อย ลู่หานมองผมด้วยความเคียดแค้น



    “เขาหนีนาย แสดงว่าเขากลัวนายจะฆ่าเขา เพราะอะไรล่ะ? ก็เพราะเขาเป็นหมาป่าน่ะสิ!



    ผมมองลู่หานอย่างสมเพชตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะเขาไม่มีแรงที่จะทำอะไรนอกจากหายใจแล้ว



    “ไปเลยสิ...กดมีดลงบนผิวเขาก่อนที่เขาจะฆ่านาย”




    ผมกระซิบเขาเบาๆพร้อมกับผลักเขาไปด้านหน้า แบคฮยอนหลับตาลง เขากระชับมีดในมือแล้วเงื้อมือขว้างมันออกไป...

























    มีดปักลงบนอกผม...ผมล้มพับลงกับพื้น แบคฮยอนทำอะไรของเขา...ผมไม่ได้ทำอะไรผิด





     

    จบแล้วก็ยังติดแท็กได้อยู่นะคะ T^T


     

    #ficThatWolf
    @SuperJONGin

     

    Ha .ha
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×