คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #244 : [Off] หลักสูตรระยะยาว
หลักสูตรระยะยาว
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว เป็นหลักสูตรสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจัง เพื่อใช้ในการทำงานในอนาคต หรือเพื่อศึกษาต่อในระดับสูงของญี่ปุ่น ใช้เวลาในการเรียนตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี โดยมีชั้นเรียนตั้งแต่เริ่มต้น สำหรับผู้เริ่มเรียนหรือไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อน ไปจนถึงระดับสูง สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพูนทักษะของตนเองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสำหรับการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลับ หรือวิทยาลัยอาชีวศึกษา หลักสูตรนี้จะเน้นพัฒนาความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นได้ครบทุกทักษะ ทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ในส่วนการเรียนการสอน จะมีเรียนทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ วันละ 4 ชั่วโมง หรือ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แบ่งเป็นรอบเข้าหรือรอบบ่าย ขึ้นอยู่กับระดับความสามารถทางด้านภาษา หรือบางโรงเรียนอาจมีการเรียนการสอนทั้งวัน ประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง ตามปกติแล้วจำนวนนักเรียนต่อห้องจะไม่เกิน 20 คน และสอนโดยอาจารย์ขาวญี่ปุ่นทั้งหมด ด้วยวิธีการสอนที่ทำให้เข้าใจได้ง่าย ก่อนเข้าเรียนจะมีการทดสอบวัดระดับ เพื่อที่ได้จัดชั้นเรียนให้เหมาะสมกับระดับความรู้ของนักเรียน
ประเภทของหลักสูตรที่เปิดสอนมีดังนี้
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป
เน้นพัฒนาความเข้าใจและทักษะการใช้ภาษาของผู้เรียนทั้ง 4 ด้าน คือการฟัง พูด อ่าน และเขียน ให้มีประสิทธิภาพและความมั่นใจในการใช้มากขึ้น ซึ่งเนื้อหาจะครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่ระดับเบื้อยงต้นถึงระดับสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาภาษาญี่ปุ่นเพื่อใช้สื่อสารในชีวิต ประจำวัน หรือเพื่อประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคต รวมถึงเพื่อการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น สถาบันบางแห่งอาจมีวิชาเลือกให้เลือกนักเรียนตามความสนใจ เช่น คันจิ การออกเสียง เป็นต้น
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นเพื่อศึกษาต่อในระดับสูง
เป็นหลักสูตรที่ช่วยทักษะการใช้ภาษาเชิงวิชาการ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่ต้อง การเข้าศึกษาต่อในระดับสูงของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยระดับปริญญาตรี โอ หรือเอก หรือเข้าศึกษาในวิทยาลัยอาชีวศึกษา ซึ่งโรงเรียนจะมีจัดสอนวิชาอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการศึกษาระดับสูงให้ด้วย เช่น วิชาที่ใช้สอบ EJU หรือ เสริมเสริมทักษะด้านการเขียนเรียงความและรายงาน การจดบันทึก การถกประเด็นในชั้นเรียนกลุ่มย่อยการฝึกฝนทำข้อสอบและฝึกสัมภาษณ์ ทั้งยังมีการแนะแนวการศึกษาต่อให้นักเรียนอย่างใกล้ชิดอีกด้วย และสถาบันบางแห่งมีข้อตกลงกับทางมหาวิทยาลัย หรือวิทยาลับอาชีวศึกษา ซึ่งจะต้องทำให้สามารถเข้าต่อในสถาบันนั้น ๆ ง่ายขึ้น
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นเพื่อธุรกิจ
เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการพัฒนาภาษาญี่ปุ่น เพื่อสามารถนำใช้ได้จริงในการทำงานกลับบริษัทญี่ปุ่น ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศเน้นเกี่ยวกับการภาษาทางธุรกิจ การอ่านเชิงธุรกิจ และการเขียนจดหมายโต้ตอบทางธุรกิจ ทั้งยังสอนทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการทำงานอีกด้วย เช่น มารยาททางธุรกิจ การเขียนรายงานการประชุมการรับโทรศัพท์ การนำเสนอรายงาน เป็นต้น หลักสูตรนี้ผู้เรียนจำเป็นต้องมีพื้นฐานความรู้ทางภาษาญี่ปุ่นระดับกลางขึ้นไป
ประเภทวีซ่า
นักเรียนจะได้รับวิซ่าประเภทนักศึกษาวิทยาลัย (College Student) สิทธิสำหรับผู้ถือวีซ่าประเภทนี้
· นักเรียนสามารถทำงานพิเศษได้ไม่เกิน 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
· การยื่นเรื่อง Re-entry สามารถทำแบบ Multiple เพื่อขอเข้า – ออก ประเทศชั่วคราวได้หลายครั้ง
· หลังจบหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นแล้ว สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับการศึกษาที่สูงขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนประเภทวีซ่า
คุณสมบัติ
· ผู้สมัครต้องสำเร็จการศึกษาอย่างน้อย 12 ปี หรือเทียบเท่าระดับมัธยมตอนปลาย และมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
· ผู้ที่สำเร็จการศึกระดับมัธยมศึกษาตอนปลายภายในระยะเวลา 10 หรือ 11 ปี และมีเป้าหมายที่จะศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่ญี่ปุ่นจะต้องเข้าเรียนภาษาญี่ปุ่นในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นที่เปิดสอน “หลักสูตรเตรียมเข้าศึกษาต่อ 1-2 ปี” ซึ่งได้รับการรับรองจากการทรวงศึกษาธิการฯ ญี่ปุ่นเท่านั้น (เช่น The Naganuma School)
การรับสมัคร
จะต้องยื่นสมัครเรียนล่วงหน้าประมาณ 5 – 6 เดือน ก่อนเปิดภาคเรียน เนื่องจากต้องดำเนินการยื่นขอสถานภาพการพำนัก (Certificate of Eligibility) จากกองตรวจคนเขาเมือง ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำไปประกอบการขอวีซ่านักเรียน
ภาคเรียน |
ช่วงรับสมัคร |
ประกาศผลจากกองตรวจคนเข้าเมือง |
เดือนมกราคม (ฤดูหนาว) |
เดือนกรกฎาคม - ต้นเดือนกันยายน ปีก่อนหน้า |
ปลายเดือนพฤศจิกายน |
เดือนเมษายน (ฤดูใบไม้ผลิ) |
เดือนกันยายน - กลางเดือนพฤศจิกายน ปีก่อนหน้า |
ปลายเดือนกุมภาพันธ์ |
เดือนกรกฎาคม (ฤดูร้อน) |
เดือนธันวาคม - เดือนมีนาคมปีถัดไป |
ปลายเดือนพฤษภาคม |
เดือนตุลาคม (ฤดูใบไม้ร่วง) |
เดือนกุมภาพันธ์ - สิ้นเดือนเมษายน |
ปลายเดือนสิงหาคม |
· โดยปกติภาคเรียนของโรงเรียนที่ญี่ปุ่นแบ่งเป็น 4 ภาคเรียน คือภาคเรียนเดือนมกราคม เมษายน กรกฎาคม และตุลาคม
· ภาคเรียนเดือนมดราคม และกรกฎาคม จะเปิดรับเฉพาะบางโรงเรียนเท่านั้น สามารถตรวจสอบได้ทาง www.Jeducation.com หรือสอบถามกับเจ้าหน้าที่เจเอ็ดดูเคชั่นโดยตรง
· กำหนัดการปิดรับสมัครในแต่ละภูมิภาคจะช้าเร็วต่างกัน ดังนั้นควรเช็คเวลาปิดรับสมัครกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
Note:
การย้ายโรงเรียนระหว่างโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นด้วยกันนั้น โดยหลักการแล้วไม่สามารถปฏิบัติได้ ดังนั้น ควรเลือกโรงเรียนอย่างรอบคอบ โดยรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด เช่นการสอบถามโดยตรงจากนักเรียนปัจจุบันหรือผู้ที่เรียนจบแล้ว |
เอกสารการขอวีซ่านักศึกษาวิทยาลัย (College Student)
· หนังสือเดินทาง (ในวันยื่นวีซ่ามีหน้าว่างที่ไม่มีตราประทับมากกว่า 2 หน้าขึ้นไป หากมีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาแสดงด้วย)
· ใบคำร้องขอวีซ่า 1 ใบ (แบบฟอร์มมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย)
· รูปถ่าย (ขนาด 2*2 นิ้ว สีหรือขาวดำ ที่มีพื้นหลังเป็นสีอ่อนไม่มีลวดลายไม่มีการแต่งภาพถ่าย จะต้องเป็นรูปถ่ายที่ชัดเจนและไม่ถ่านมาไม่เกิน 6 เดือน พร้อมติดรูปถ่ายในใบคำร้อง)
· ทะเบียนบ้านหรือทะเบียนราษฎร ฉบับจริงพร้อมสำเนา (เฉพาะหน้าที่เป็นชื่อของผู้ที่ยื่นขอวีซ่า) 1ชุด
· ใบรับรองสถานภาพการพำนักที่ได้รับจากกองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น (Certificate of Eligibility :: COE)
· ผู้ที่เดินทางเป็นครั้งแรกหากเคยเปลี่ยนชื่อตัว - สกุล หรือผู้ที่ได้เปลี่ยนชื่อตัว - สกุล หลังจากเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งที่แล้ว ให้เตรียมเอกสารแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว - สกุล เช่น ใบเปลี่ยนชื่อ, ใบสำคัญการสมรส, ใบสำคัญการหย่า ฉบับจริงและสำเนา 1 ชุด
· การยื่นขอวีซ่านักศึกษาวิทยาลัยนั้น จะสามารถทำได้ต่อเมื่อผู้สมัครได้รับใบรับรองสถานภาพการพำนักอยู่ญี่ปุ่นแล้วเท่านั้น
หมายเหตุ ::
สถานทูตอาจปฏิเสธไม่รับยื่นคำร้องขอวีซ่า หากเอกสารที่เตรียมมาไม่ถูกต้องตามระเบียบที่ระบุไว้
สามารถยื่นขอวีซ่าที่ศูนย์รับยื่นวีซ่าประเทศญี่ปุ่น(JVAC) กรุงเทพฯ ชั้น 15 ยูนิต C ตึกสีลมคอมเพล็กซ์ สีลม บางรัก ในวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น. (ไม่มีพักกลางวัน) และรับคืนวีซ่า หลังจากวันที่ยื่นขออีก 5 วันทำการถัดไป ในวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น. (ไม่มีพักกลางวัน) และวันเสาร์เวลา 08.30 - 12.30 น.
*สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แผนกกงสุล สถานทูตญี่ปุ่น หมายเลขโทรศัพท์ 0-2207-8503, 0-2696-3003
http://www.th.emb-japan.go.jp/th/consular/visa9.htm หรือศูนย์รับยื่นวีซ่าประเทศญี่ปุ่น (JVAC) 0-2632-1541-4 |
ขั้นตอนการสมัครเรียนกับสถาบันที่
Jeducation เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทย
หลักสูตรระยะยาว (วิซ่านักศึกษาวิทยาลัย)
การสมัครเรียนกับทาง jeducation มีเจ้าหน้าที่มีประสบการณการเรียนและการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น คอบให้คำปรึกษา พร้อมให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เรื่องข้อมูลชองสถาบัน เอกสารต่าง ๆ และติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่ญี่ปุ่นอย่างละเอียดและเป็นกันเอง ส่วนขั้นตอนการสมัครจะเป็นแบบไหนนั้น มาดูกันเลย
01. สอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่แนะแนวของ Jeducation
เริ่มต้นด้วยการพูดคุยกันเพื่อให้รู้ถึงเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อจะได้เตรียมตัวว่างแผนการเรียนให้เหมาะสม มีการแนะนำรายละเอียดของสถาบันต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการ มีทั้ง DVD และรูปประกอบจากสถานที่จริงให้ดูก่อนตัดสินใจด้วย
· ถ้าจะสมัครหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว สามารถขอใบสมัครของสถาบันจากพี่ ๆ ได้เลย
· ถ้าจะเรียนต่อระดับปริญญาตรีหรือวิทยาลัยอาชีวศึกษาบางสถาบันมีการจัดสอบที่เมืองไทยด้วยโดยจัดสอยปีละครั้งประมาณปริญญาตรีเดือนพฤศจิกายนของทุกปีที่ Jeducation Center ส่วนใหญ่จะสอบทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์ บางสถาบันอาจารย์จะบินมาสอบสัมภาษณ์เอง บางสถาบันก็จะสัมภาษณ์ On line ทางอินเตอร์เน็ต (แน่นอนว่าสอบเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ ฉะนั้น น้อง ๆ ที่จะสอบเข้าเรียนในวิทยาลัยอาชีวศึกษา จะต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่น 2 แล้ว ส่วนมหาวิทยาลัยก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่สถาบัน)
· ส่วนน้อง ๆ ที่จะเรียนต่อมัธยมศึกษาตอนปลาย จะต้องสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์พร้อมผู้ปกครองก่อน มีการจัดสอบปีละ 2 ครั้ง ประมาณเดือนพฤษภาคมและพฤศจิกายนของทุกปี น้องๆ ไม่ต้องกังวล เพราะสอบข้อเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนกาสัมภาษณ์ จะมีพี่ล่ามคนไทยช่วยแปลให้นะ
ส่วนรายละเอียดการสอบ สามารถสอบถามกับทางเจเอ็ดดูเคชั้น และเมื่อสอบผ่านแล้วพี่ ๆ จะแจ้งผลให้ทราบ หลังจากนั้นก็เตรียมเอกสารเพื่อยื่นสมัครเรียนได้เลย
02. ยื่นใบสมัคร / ชำระค่าสมัครเรียน
ระหว่างการยื่นใบสมัครและเอกสารต่าง ๆ ให้คำแนะนำการกรอกใบสมัครที่ถูกต้อง และขั้นตอนนี้ต้องชำระค่าสมัครด้วยนะ
03. ตรวจเช็คเอกสาร – ส่งเอกสารไปญี่ปุ่น
เมื่อเตรียมเอกสารต่าง ๆ พร้อมแล้ว พี่ ๆ จะตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง หากเอกสารมีปัญหาจะรีบติดจ่อกลับทันที ถ้าเรียบร้อยแล้วจะจัดส่งไปที่สถาบันที่น้องสมัครเรียน เพื่อดำเนินการยื่นขอสถานภาพการพำนัก (สถานภาพนักศึกษา) ที่กองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น
04. แจ้งผลการตอบรับ จองที่พักและจองตั๋วเครื่องบิน
หลังจากรอลุ้นผลได้ประมาณ 4 เดือน พี่ ๆ จะโทรแจ้งให้ทราบทันที ว่าได้รับใบรับรองสถานภาพการพำนัก (Certificate of Eligibility) จากกองตรวจคนเข้าเมืองแล้ว แล้วก็ดำเนินการจอกที่พักและตั๋วเครื่องบิน
05. ชำระค่าเล่าเรียนและที่พัก
ทางสถาบันจะส่งใบแจ้งค่าเล่าเรียน (และค่าหอพัก) มาให้ เพื่อนำไปใช้โอนเงินเข้าบัญชีที่ญี่ปุ่นโดยตรง แล้วทางสถาบันจะส่ง Certificate of Eligibility ฉบับจริงมาเพื่อนำไปใช้ในการขอวิซ่า
06. ยื่นขอวิซ่านักเรียน (College Student Visa)
นำใบ Certificate of Eligibility พร้อมใบรับรองจากสถาบันและส่งเอกสารที่จำเป็นต่าง ๆ ไปใช้ในการยื่นประกอบการขอวิซ่านักเรียนได้เลย จะไปพร้อมพวกพี่ ๆ หรือจะไปกันเองก็ได้ สำหรับขั้นตอนนี้ขอบอกว่าสบายมาก หลังจากยื่นขอแล้ว อีก 5 วันให้ไปรับวิซ่า แล้วกลับมาแพ็คกระเป๋าเตรียมพร้อมกันได้เลย
07. ปฐมนิเทศก่อนเดินทาง
ทางเจเอ็ดดูเคชั่น ได้จัดปฐมนิเทศให้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับเตรียมตัวเตรียมใจก่อนไปญี่ปุ่น แถมคู่มือแนะนำการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นฉบับพกพา ให้พสกเรานำติดตัวไปอ่านที่ญี่ปุ่นด้วย
เมื่อพร้อมแล้ว เอ้า พวกเรา ลุย!!!!
หมายเหตุ
· สมัครเรียนกับสถาบันที่ เจเอ็ดดูเคชั่น เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทย ไม่ต้องเสียค่าดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งค่าส่งเอกสารไปญี่ปุ่นด้วย เรียกว่าสะดวกสบายแถมไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
· หลังจากชำระค่าสมัครแล้วจะไม่ได้รับคืนไม่ว่ากรณีใด นะ
· เรื่องตั๋วเครื่องบินสามารถจองกับทางเจเอดดูเคชั่นได้ พี่ ๆ จะจองตั๋วเครื่องบินราคานักเรียนให้ และถ้าคุณพ่อคุณแม่จะไปส่งหรือไปเยี่ยมทางเจเอ็ดดูเคชั่นก็ช่วยแนะนำเรื่องวิซ่า โรงแรมหรือตั๋วเครื่องบินให้ได้ด้วยนะ
· ในกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ของสถาบันไปรับที่สนามบิน นักเรียนต้องเสียค่าบริการและค่าพาหนะเอง (ค่าช้จ่ายตากต่างกันไปแล้วแต่ท่านสถาบัน)
เอกสารประกอบการสมัครเรียน (หลักสูตรระยะยาว)
เอกสารผู้สมัคร |
||
หลักฐานการศึกษาระดับสูงสุด |
กรณีจบการศึกษาแล้ว
· หนังสือรับรองจบการศึกษา / ประกาศนียบัตร (สถาบันการศึกษาระดับสูงสุด)
· กรณีที่จบการศึกษามานานกว่า 5 ปี ต้องมีจดหมายชี้แจงประวัติการทำงานโดยละเอียด รวมถึงความจำเป็นในการไปศึกษาต่อที่ญี่ปุ่น และเป้าหมายหลังจบการศึกษาที่ชัดเจน
กรณีที่กำลังจะจบการศึกษา
· หนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาระบุช่วงเวลาที่คาดว่าจะสำเร็จการศึกษา
· หากกำลังศึกษาอยู่ในระดับวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยให้ใช้หลักฐานของระดับมัธยมศึกษาตอนปลายยื่นด้วย |
ฉบับจริง |
หลักฐานแสดงผลการเรียน |
ใบแสดงผลการเรียนจากสถาบันการศึกษาระดับสูงสุด
เช่น ใบ ร.บ. หรือ Transcript |
ฉบับจริง |
ใบรับรองการศึกษาภาษาญี่ปุ่น |
หนังสือรับรองหรือประกาศนียบัตรจากสถาบันที่ศึกษาภาษาญี่ปุ่น
· กรณีที่เคยสอบวัดระดับ ใช้ประกาศนียบัตรพร้อมผลคะแนนมาแสดงด้วย |
ฉบับจริง |
หนังสือรับรองการทำงาน |
หนังสือรับรองการทำงานที่ทำงาน
· ระบุตำแหน่งงาน ระยะเวลาการทำงานและเงินเดือน |
ฉบับจริง |
สำเนาหนังสือเดินทาง |
สำเนาหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน และเล่มเก่าที่เคยเข้าประเทศญี่ปุ่น
· หน้าแรกที่มีรูปถ่ายผู้ถือหนังสือเดินทาง
· หน้าที่มีการต่ออายุ หรือมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อ – นามสกุล
· หน้าวิซ่าญี่ปุ่น และหน้าที่มีประทับวันที่เข้า – ออกประเทศญี่ปุ่นทุกหน้า
(โดยต้องเห็นตัวเลขที่ระบุไว้อย่างชัดเจน) |
|
ทะเบียนบ้าน |
ขอคัดแบบรายการทะเบียนราษฎร จากที่ว่าการอำเภอหรือที่ว่าการเขตหน้าของผู้สมัคร |
ฉบับจริง |
รูปถ่าย 9 ใบ |
รูปถ่ายหน้าตรง สีหรือขาวดำ ขนาด 1 นิ้วครึ่ง
· แต่งกายสุภาพ ไม่ต้องให้ชุดครุย ถ่ายไว้ไม่เกิน 3 เดือน
· เขียนชื่อนามสกุลภาษาอังกฤษให้ตรงตามหนังสือเดินทางไว้หลังรูปทุกใบ |
|
สำเนาเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล |
เฉพาะกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล |
|
หมายเหตุ
· เอกสารทุกฉบับนอกจากที่ระบุว่าเป็นสำเนา จะต้องเป็นฉบับจริงเท่านั้น
· เอกสารที่ยื่นเช้ากองตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่นจะไม่ได้รับคืน
· เอกสารทั้งหมดต้องมีอายุไม่เกิน 3 เดือน
· เอกสารที่สามารถขอต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษได้ กรุณาใช้ฉบับภาษาอังกฤษ เช่น หนังสือรับรองการศึกษาเป็นต้น
· เอกสารที่เป็นภาษาไทย จะต้องแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น (บางสถาบันต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น)
· ทางโรงเรียนอาจขอเอกสารหรือจดหมายชี้แจงเพิ่มเติม ในกรณีที่จำเป็น
เอกสารของผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่อยู่ในประเทศไทย |
||
หนังสือรับรองการทำงาน |
กรณีพนังงานบริษัท, ข้าราชการ, หรือรัฐวิสาหกิจ
· ใช้จกหมายรับรองการทำงานออกโดยหน่วยงาน ระบุตำแหน่งงานระยะเวลาการทำงาน เงินเดือนและรายได้
กรณีผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว
· ใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือใบอนุญาตประกอบกิจการหรือสำเนาทะเบียนการค้า ซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการ |
ฉบับจริง |
เอกสารแสดงรายได้ |
· สำเนาแบบการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี (ภงด.90/91) พร้อมสำเนาใบเสร็จ หรือสำเนาหนังสือรับรองการหักภาษีจากที่ทำงาน |
|
หนังสือรับรองทางการเงิน
(ไม่ใช่ Bank Statement) |
หนังสือรับรองเงิน (บัญชีออมทรัพย์หรือฝากประจำ) ออกโดยธนาคารหนังสือรับรองพันธบัตรรัฐบาล / สลากออมสิน ออกโดยธนาคาร
· ต้องเป็นบัญชีชื่อของผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
(กรณีเป็นชื่อบุคคลอื่น หรือชื่อร่วมต้องเขียนจดหมายชี้แจง)
· จำนานเงินไม่ต่ำกว่า 8 แสนบาท
(ต้องระบุจำนวนเงินเป็นตัวเลขที่ชัดเจน) |
ฉบับจริง |
สำเนาสมุดบัญชี |
สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากทุกหน้าหรือสำเนาสลากออมสิน หรือสำเนาพันธบัตร |
|
หลักฐานแสดงความสัมพันธ์กับผู้สมัคร |
พ่อแม่ พี่น้อง หรือญาติซึ่งห่างไม่เกิน 2 ลำดับชั้น
· ขอคัดแบบรายการทะเบียนราษฎร จากที่ว่าดารอำเภอ หรือที่ส่าการเขต หรือเอกสารที่สามารถเชื่อมโยงความเกี่ยวข้องกันได้ |
ฉบับจริง |
สำเนาเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล |
เฉพาะกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล |
|
เอกสารเพิ่มเติมกรณีผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายอยู่ในประทศญี่ปุ่น |
|
สำเนาทะเบียนบ้านที่ญี่ปุ่น |
แสดงรายชื่อสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด |
สำเนาบัตรประจะตัวคนต่างชาติ |
|
สำเนาหนังสือเดินทาง |
|
สำเนาหนังสือทะเบียนสมรส |
|
สำเนาใบรับรองตราประทับ |
|
หากต้องการเอกสารอธิบายหลักฐานของผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเป็นภาษาญี่ปุ่น กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น เป็นตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันการศึกษาในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง ผู้สมัครจึงไม่ต้องเสียค่าดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น รวมถึงค่าจัดส่งเอกสารไปญี่ปุ่น
สอบถามข้อมูล – สมัครเรียนได้ที่
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชัน เลขที่ 287 อาคาร
ลิเบอร์ตี้สแควร์ ชั้น 23 ห้อง 2301 ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก
กรุงเทพฯ 10500 โทร. 02-2677726 ต่อ 101 – 104 แฟกซ์. 02-6312040
www.jeducation.com หรือ Email: ask@jeducation.com
ความคิดเห็น