ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sakura Hana House ภาษาญี่ปุ่น น่ารู้ ง่าย ๆ

    ลำดับตอนที่ #244 : [Off] หลักสูตรระยะยาว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 366
      0
      28 เม.ย. 57

    หลักสูตรระยะยาว

                หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว เป็นหลักสูตรสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจัง เพื่อใช้ในการทำงานในอนาคต หรือเพื่อศึกษาต่อในระดับสูงของญี่ปุ่น ใช้เวลาในการเรียนตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี โดยมีชั้นเรียนตั้งแต่เริ่มต้น สำหรับผู้เริ่มเรียนหรือไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อน ไปจนถึงระดับสูง สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพูนทักษะของตนเองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสำหรับการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลับ หรือวิทยาลัยอาชีวศึกษา หลักสูตรนี้จะเน้นพัฒนาความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นได้ครบทุกทักษะ ทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ในส่วนการเรียนการสอน จะมีเรียนทุกวัน จันทร์ ศุกร์ วันละ 4 ชั่วโมง หรือ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แบ่งเป็นรอบเข้าหรือรอบบ่าย ขึ้นอยู่กับระดับความสามารถทางด้านภาษา หรือบางโรงเรียนอาจมีการเรียนการสอนทั้งวัน ประมาณ 5 6 ชั่วโมง ตามปกติแล้วจำนวนนักเรียนต่อห้องจะไม่เกิน 20 คน และสอนโดยอาจารย์ขาวญี่ปุ่นทั้งหมด ด้วยวิธีการสอนที่ทำให้เข้าใจได้ง่าย ก่อนเข้าเรียนจะมีการทดสอบวัดระดับ เพื่อที่ได้จัดชั้นเรียนให้เหมาะสมกับระดับความรู้ของนักเรียน

     

    ประเภทของหลักสูตรที่เปิดสอนมีดังนี้

    หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป

                เน้นพัฒนาความเข้าใจและทักษะการใช้ภาษาของผู้เรียนทั้ง 4 ด้าน คือการฟัง พูด อ่าน และเขียน ให้มีประสิทธิภาพและความมั่นใจในการใช้มากขึ้น ซึ่งเนื้อหาจะครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่ระดับเบื้อยงต้นถึงระดับสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาภาษาญี่ปุ่นเพื่อใช้สื่อสารในชีวิต ประจำวัน หรือเพื่อประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคต รวมถึงเพื่อการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น สถาบันบางแห่งอาจมีวิชาเลือกให้เลือกนักเรียนตามความสนใจ เช่น คันจิ การออกเสียง เป็นต้น

     

    หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นเพื่อศึกษาต่อในระดับสูง

                เป็นหลักสูตรที่ช่วยทักษะการใช้ภาษาเชิงวิชาการ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่ต้อง การเข้าศึกษาต่อในระดับสูงของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยระดับปริญญาตรี โอ หรือเอก หรือเข้าศึกษาในวิทยาลัยอาชีวศึกษา ซึ่งโรงเรียนจะมีจัดสอนวิชาอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการศึกษาระดับสูงให้ด้วย เช่น วิชาที่ใช้สอบ EJU หรือ เสริมเสริมทักษะด้านการเขียนเรียงความและรายงาน การจดบันทึก การถกประเด็นในชั้นเรียนกลุ่มย่อยการฝึกฝนทำข้อสอบและฝึกสัมภาษณ์ ทั้งยังมีการแนะแนวการศึกษาต่อให้นักเรียนอย่างใกล้ชิดอีกด้วย และสถาบันบางแห่งมีข้อตกลงกับทางมหาวิทยาลัย หรือวิทยาลับอาชีวศึกษา ซึ่งจะต้องทำให้สามารถเข้าต่อในสถาบันนั้น ๆ ง่ายขึ้น

     

    หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นเพื่อธุรกิจ

                เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการพัฒนาภาษาญี่ปุ่น เพื่อสามารถนำใช้ได้จริงในการทำงานกลับบริษัทญี่ปุ่น ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศเน้นเกี่ยวกับการภาษาทางธุรกิจ การอ่านเชิงธุรกิจ และการเขียนจดหมายโต้ตอบทางธุรกิจ ทั้งยังสอนทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการทำงานอีกด้วย เช่น มารยาททางธุรกิจ การเขียนรายงานการประชุมการรับโทรศัพท์ การนำเสนอรายงาน เป็นต้น หลักสูตรนี้ผู้เรียนจำเป็นต้องมีพื้นฐานความรู้ทางภาษาญี่ปุ่นระดับกลางขึ้นไป

     

    ประเภทวีซ่า

                นักเรียนจะได้รับวิซ่าประเภทนักศึกษาวิทยาลัย (College Student) สิทธิสำหรับผู้ถือวีซ่าประเภทนี้

    ·       นักเรียนสามารถทำงานพิเศษได้ไม่เกิน 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

    ·       การยื่นเรื่อง Re-entry สามารถทำแบบ Multiple เพื่อขอเข้า – ออก ประเทศชั่วคราวได้หลายครั้ง

    ·       หลังจบหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นแล้ว สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับการศึกษาที่สูงขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนประเภทวีซ่า

     

    คุณสมบัติ

    ·       ผู้สมัครต้องสำเร็จการศึกษาอย่างน้อย 12 ปี หรือเทียบเท่าระดับมัธยมตอนปลาย และมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

    ·       ผู้ที่สำเร็จการศึกระดับมัธยมศึกษาตอนปลายภายในระยะเวลา 10 หรือ 11 ปี และมีเป้าหมายที่จะศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่ญี่ปุ่นจะต้องเข้าเรียนภาษาญี่ปุ่นในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นที่เปิดสอน “หลักสูตรเตรียมเข้าศึกษาต่อ 1-2 ปี” ซึ่งได้รับการรับรองจากการทรวงศึกษาธิการฯ ญี่ปุ่นเท่านั้น (เช่น The Naganuma School)

     

    การรับสมัคร

                จะต้องยื่นสมัครเรียนล่วงหน้าประมาณ 5 – 6 เดือน ก่อนเปิดภาคเรียน เนื่องจากต้องดำเนินการยื่นขอสถานภาพการพำนัก (Certificate of Eligibility) จากกองตรวจคนเขาเมือง ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำไปประกอบการขอวีซ่านักเรียน

     

    ภาคเรียน

    ช่วงรับสมัคร

    ประกาศผลจากกองตรวจคนเข้าเมือง

    เดือนมกราคม (ฤดูหนาว)

    เดือนกรกฎาคม - ต้นเดือนกันยายน ปีก่อนหน้า

    ปลายเดือนพฤศจิกายน

    เดือนเมษายน (ฤดูใบไม้ผลิ)

    เดือนกันยายน - กลางเดือนพฤศจิกายน ปีก่อนหน้า

    ปลายเดือนกุมภาพันธ์

    เดือนกรกฎาคม (ฤดูร้อน)

    เดือนธันวาคม - เดือนมีนาคมปีถัดไป

    ปลายเดือนพฤษภาคม

    เดือนตุลาคม (ฤดูใบไม้ร่วง)

    เดือนกุมภาพันธ์ - สิ้นเดือนเมษายน

    ปลายเดือนสิงหาคม

     

    ·       โดยปกติภาคเรียนของโรงเรียนที่ญี่ปุ่นแบ่งเป็น 4 ภาคเรียน คือภาคเรียนเดือนมกราคม เมษายน กรกฎาคม และตุลาคม

    ·       ภาคเรียนเดือนมดราคม และกรกฎาคม จะเปิดรับเฉพาะบางโรงเรียนเท่านั้น สามารถตรวจสอบได้ทาง www.Jeducation.com หรือสอบถามกับเจ้าหน้าที่เจเอ็ดดูเคชั่นโดยตรง

    ·       กำหนัดการปิดรับสมัครในแต่ละภูมิภาคจะช้าเร็วต่างกัน ดังนั้นควรเช็คเวลาปิดรับสมัครกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

     

    Note:

      การย้ายโรงเรียนระหว่างโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นด้วยกันนั้น โดยหลักการแล้วไม่สามารถปฏิบัติได้ ดังนั้น ควรเลือกโรงเรียนอย่างรอบคอบ โดยรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด เช่นการสอบถามโดยตรงจากนักเรียนปัจจุบันหรือผู้ที่เรียนจบแล้ว

     

    เอกสารการขอวีซ่านักศึกษาวิทยาลัย (College Student)

    ·       หนังสือเดินทาง (ในวันยื่นวีซ่ามีหน้าว่างที่ไม่มีตราประทับมากกว่า 2 หน้าขึ้นไป หากมีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาแสดงด้วย)

    ·       ใบคำร้องขอวีซ่า 1 ใบ (แบบฟอร์มมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย)

    ·       รูปถ่าย (ขนาด 2*2 นิ้ว สีหรือขาวดำ ที่มีพื้นหลังเป็นสีอ่อนไม่มีลวดลายไม่มีการแต่งภาพถ่าย จะต้องเป็นรูปถ่ายที่ชัดเจนและไม่ถ่านมาไม่เกิน 6 เดือน พร้อมติดรูปถ่ายในใบคำร้อง)

    ·       ทะเบียนบ้านหรือทะเบียนราษฎร ฉบับจริงพร้อมสำเนา (เฉพาะหน้าที่เป็นชื่อของผู้ที่ยื่นขอวีซ่า) 1ชุด

    ·       ใบรับรองสถานภาพการพำนักที่ได้รับจากกองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น (Certificate of Eligibility :: COE)

    ·       ผู้ที่เดินทางเป็นครั้งแรกหากเคยเปลี่ยนชื่อตัว - สกุล หรือผู้ที่ได้เปลี่ยนชื่อตัว - สกุล หลังจากเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งที่แล้ว ให้เตรียมเอกสารแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว - สกุล เช่น ใบเปลี่ยนชื่อ, ใบสำคัญการสมรส, ใบสำคัญการหย่า ฉบับจริงและสำเนา 1 ชุด

    ·       การยื่นขอวีซ่านักศึกษาวิทยาลัยนั้น จะสามารถทำได้ต่อเมื่อผู้สมัครได้รับใบรับรองสถานภาพการพำนักอยู่ญี่ปุ่นแล้วเท่านั้น

     

    หมายเหตุ ::

      สถานทูตอาจปฏิเสธไม่รับยื่นคำร้องขอวีซ่า หากเอกสารที่เตรียมมาไม่ถูกต้องตามระเบียบที่ระบุไว้

    สามารถยื่นขอวีซ่าที่ศูนย์รับยื่นวีซ่าประเทศญี่ปุ่น(JVAC) กรุงเทพฯ ชั้น 15 ยูนิต C ตึกสีลมคอมเพล็กซ์ สีลม บางรัก ในวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น. (ไม่มีพักกลางวัน) และรับคืนวีซ่า หลังจากวันที่ยื่นขออีก 5 วันทำการถัดไป ในวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น. (ไม่มีพักกลางวัน) และวันเสาร์เวลา 08.30 - 12.30 น.

    *สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แผนกกงสุล สถานทูตญี่ปุ่น หมายเลขโทรศัพท์ 0-2207-8503, 0-2696-3003

    http://www.th.emb-japan.go.jp/th/consular/visa9.htm หรือศูนย์รับยื่นวีซ่าประเทศญี่ปุ่น (JVAC) 0-2632-1541-4

     

    ขั้นตอนการสมัครเรียนกับสถาบันที่

    Jeducation เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทย

     

    หลักสูตรระยะยาว (วิซ่านักศึกษาวิทยาลัย)

                การสมัครเรียนกับทาง jeducation มีเจ้าหน้าที่มีประสบการณการเรียนและการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น คอบให้คำปรึกษา พร้อมให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เรื่องข้อมูลชองสถาบัน เอกสารต่าง ๆ และติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่ญี่ปุ่นอย่างละเอียดและเป็นกันเอง ส่วนขั้นตอนการสมัครจะเป็นแบบไหนนั้น มาดูกันเลย

     

    01.     สอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่แนะแนวของ Jeducation

    เริ่มต้นด้วยการพูดคุยกันเพื่อให้รู้ถึงเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อจะได้เตรียมตัวว่างแผนการเรียนให้เหมาะสม มีการแนะนำรายละเอียดของสถาบันต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการ มีทั้ง DVD และรูปประกอบจากสถานที่จริงให้ดูก่อนตัดสินใจด้วย

    ·       ถ้าจะสมัครหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว สามารถขอใบสมัครของสถาบันจากพี่ ๆ ได้เลย

    ·       ถ้าจะเรียนต่อระดับปริญญาตรีหรือวิทยาลัยอาชีวศึกษาบางสถาบันมีการจัดสอบที่เมืองไทยด้วยโดยจัดสอยปีละครั้งประมาณปริญญาตรีเดือนพฤศจิกายนของทุกปีที่ Jeducation Center ส่วนใหญ่จะสอบทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์ บางสถาบันอาจารย์จะบินมาสอบสัมภาษณ์เอง บางสถาบันก็จะสัมภาษณ์ On line ทางอินเตอร์เน็ต (แน่นอนว่าสอบเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ ฉะนั้น น้อง ๆ ที่จะสอบเข้าเรียนในวิทยาลัยอาชีวศึกษา จะต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่น 2 แล้ว ส่วนมหาวิทยาลัยก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่สถาบัน)

    ·       ส่วนน้อง ๆ ที่จะเรียนต่อมัธยมศึกษาตอนปลาย จะต้องสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์พร้อมผู้ปกครองก่อน มีการจัดสอบปีละ 2 ครั้ง ประมาณเดือนพฤษภาคมและพฤศจิกายนของทุกปี น้องๆ ไม่ต้องกังวล เพราะสอบข้อเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนกาสัมภาษณ์ จะมีพี่ล่ามคนไทยช่วยแปลให้นะ

    ส่วนรายละเอียดการสอบ สามารถสอบถามกับทางเจเอ็ดดูเคชั้น และเมื่อสอบผ่านแล้วพี่ ๆ จะแจ้งผลให้ทราบ หลังจากนั้นก็เตรียมเอกสารเพื่อยื่นสมัครเรียนได้เลย

     

    02.     ยื่นใบสมัคร / ชำระค่าสมัครเรียน

    ระหว่างการยื่นใบสมัครและเอกสารต่าง ๆ ให้คำแนะนำการกรอกใบสมัครที่ถูกต้อง และขั้นตอนนี้ต้องชำระค่าสมัครด้วยนะ

     

    03.     ตรวจเช็คเอกสาร ส่งเอกสารไปญี่ปุ่น

    เมื่อเตรียมเอกสารต่าง ๆ พร้อมแล้ว พี่ ๆ จะตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง หากเอกสารมีปัญหาจะรีบติดจ่อกลับทันที ถ้าเรียบร้อยแล้วจะจัดส่งไปที่สถาบันที่น้องสมัครเรียน เพื่อดำเนินการยื่นขอสถานภาพการพำนัก (สถานภาพนักศึกษา) ที่กองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น

     

    04.     แจ้งผลการตอบรับ จองที่พักและจองตั๋วเครื่องบิน

    หลังจากรอลุ้นผลได้ประมาณ 4 เดือน พี่ ๆ จะโทรแจ้งให้ทราบทันที ว่าได้รับใบรับรองสถานภาพการพำนัก (Certificate of Eligibility) จากกองตรวจคนเข้าเมืองแล้ว แล้วก็ดำเนินการจอกที่พักและตั๋วเครื่องบิน

     

    05.    ชำระค่าเล่าเรียนและที่พัก

    ทางสถาบันจะส่งใบแจ้งค่าเล่าเรียน (และค่าหอพัก) มาให้ เพื่อนำไปใช้โอนเงินเข้าบัญชีที่ญี่ปุ่นโดยตรง แล้วทางสถาบันจะส่ง Certificate of Eligibility ฉบับจริงมาเพื่อนำไปใช้ในการขอวิซ่า

     

    06.     ยื่นขอวิซ่านักเรียน (College Student Visa)

    นำใบ Certificate of Eligibility พร้อมใบรับรองจากสถาบันและส่งเอกสารที่จำเป็นต่าง ๆ ไปใช้ในการยื่นประกอบการขอวิซ่านักเรียนได้เลย จะไปพร้อมพวกพี่ ๆ หรือจะไปกันเองก็ได้ สำหรับขั้นตอนนี้ขอบอกว่าสบายมาก หลังจากยื่นขอแล้ว อีก 5 วันให้ไปรับวิซ่า แล้วกลับมาแพ็คกระเป๋าเตรียมพร้อมกันได้เลย

     

    07.     ปฐมนิเทศก่อนเดินทาง

    ทางเจเอ็ดดูเคชั่น ได้จัดปฐมนิเทศให้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับเตรียมตัวเตรียมใจก่อนไปญี่ปุ่น แถมคู่มือแนะนำการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นฉบับพกพา ให้พสกเรานำติดตัวไปอ่านที่ญี่ปุ่นด้วย

    เมื่อพร้อมแล้ว เอ้า พวกเรา ลุย!!!!

     

     

    หมายเหตุ

    ·       สมัครเรียนกับสถาบันที่ เจเอ็ดดูเคชั่น เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทย ไม่ต้องเสียค่าดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งค่าส่งเอกสารไปญี่ปุ่นด้วย เรียกว่าสะดวกสบายแถมไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม

    ·       หลังจากชำระค่าสมัครแล้วจะไม่ได้รับคืนไม่ว่ากรณีใด นะ

    ·       เรื่องตั๋วเครื่องบินสามารถจองกับทางเจเอดดูเคชั่นได้ พี่ ๆ จะจองตั๋วเครื่องบินราคานักเรียนให้ และถ้าคุณพ่อคุณแม่จะไปส่งหรือไปเยี่ยมทางเจเอ็ดดูเคชั่นก็ช่วยแนะนำเรื่องวิซ่า โรงแรมหรือตั๋วเครื่องบินให้ได้ด้วยนะ

    ·       ในกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ของสถาบันไปรับที่สนามบิน นักเรียนต้องเสียค่าบริการและค่าพาหนะเอง (ค่าช้จ่ายตากต่างกันไปแล้วแต่ท่านสถาบัน)

     

    เอกสารประกอบการสมัครเรียน (หลักสูตรระยะยาว)

     

    เอกสารผู้สมัคร

     

     

     

     

     

     

    หลักฐานการศึกษาระดับสูงสุด

    กรณีจบการศึกษาแล้ว

    ·       หนังสือรับรองจบการศึกษา / ประกาศนียบัตร (สถาบันการศึกษาระดับสูงสุด)

    ·       กรณีที่จบการศึกษามานานกว่า 5 ปี ต้องมีจดหมายชี้แจงประวัติการทำงานโดยละเอียด รวมถึงความจำเป็นในการไปศึกษาต่อที่ญี่ปุ่น และเป้าหมายหลังจบการศึกษาที่ชัดเจน

    กรณีที่กำลังจะจบการศึกษา

    ·       หนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาระบุช่วงเวลาที่คาดว่าจะสำเร็จการศึกษา

    ·       หากกำลังศึกษาอยู่ในระดับวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยให้ใช้หลักฐานของระดับมัธยมศึกษาตอนปลายยื่นด้วย

    ฉบับจริง

    หลักฐานแสดงผลการเรียน

    ใบแสดงผลการเรียนจากสถาบันการศึกษาระดับสูงสุด

    เช่น ใบ ร.บ. หรือ Transcript

    ฉบับจริง

    ใบรับรองการศึกษาภาษาญี่ปุ่น

    หนังสือรับรองหรือประกาศนียบัตรจากสถาบันที่ศึกษาภาษาญี่ปุ่น

    ·       กรณีที่เคยสอบวัดระดับ ใช้ประกาศนียบัตรพร้อมผลคะแนนมาแสดงด้วย

    ฉบับจริง

    หนังสือรับรองการทำงาน

    หนังสือรับรองการทำงานที่ทำงาน

    ·       ระบุตำแหน่งงาน ระยะเวลาการทำงานและเงินเดือน

    ฉบับจริง

    สำเนาหนังสือเดินทาง

    สำเนาหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน และเล่มเก่าที่เคยเข้าประเทศญี่ปุ่น

    ·       หน้าแรกที่มีรูปถ่ายผู้ถือหนังสือเดินทาง

    ·       หน้าที่มีการต่ออายุ หรือมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อ นามสกุล

    ·       หน้าวิซ่าญี่ปุ่น และหน้าที่มีประทับวันที่เข้า ออกประเทศญี่ปุ่นทุกหน้า

    (โดยต้องเห็นตัวเลขที่ระบุไว้อย่างชัดเจน)

     

    ทะเบียนบ้าน

    ขอคัดแบบรายการทะเบียนราษฎร จากที่ว่าการอำเภอหรือที่ว่าการเขตหน้าของผู้สมัคร

    ฉบับจริง

    รูปถ่าย 9 ใบ

    รูปถ่ายหน้าตรง สีหรือขาวดำ ขนาด 1 นิ้วครึ่ง

    ·       แต่งกายสุภาพ ไม่ต้องให้ชุดครุย ถ่ายไว้ไม่เกิน 3 เดือน

    ·       เขียนชื่อนามสกุลภาษาอังกฤษให้ตรงตามหนังสือเดินทางไว้หลังรูปทุกใบ

     

    สำเนาเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล

    เฉพาะกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล

     

     

    หมายเหตุ

    ·       เอกสารทุกฉบับนอกจากที่ระบุว่าเป็นสำเนา จะต้องเป็นฉบับจริงเท่านั้น

    ·       เอกสารที่ยื่นเช้ากองตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่นจะไม่ได้รับคืน

    ·       เอกสารทั้งหมดต้องมีอายุไม่เกิน 3 เดือน

    ·       เอกสารที่สามารถขอต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษได้ กรุณาใช้ฉบับภาษาอังกฤษ เช่น หนังสือรับรองการศึกษาเป็นต้น

    ·       เอกสารที่เป็นภาษาไทย จะต้องแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น (บางสถาบันต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น)

    ·       ทางโรงเรียนอาจขอเอกสารหรือจดหมายชี้แจงเพิ่มเติม ในกรณีที่จำเป็น

     

    เอกสารของผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่อยู่ในประเทศไทย

     

     

     

     

    หนังสือรับรองการทำงาน

    กรณีพนังงานบริษัท, ข้าราชการ, หรือรัฐวิสาหกิจ

    ·       ใช้จกหมายรับรองการทำงานออกโดยหน่วยงาน ระบุตำแหน่งงานระยะเวลาการทำงาน เงินเดือนและรายได้

    กรณีผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว

    ·       ใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือใบอนุญาตประกอบกิจการหรือสำเนาทะเบียนการค้า ซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการ

    ฉบับจริง

    เอกสารแสดงรายได้

    ·             สำเนาแบบการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี (ภงด.90/91) พร้อมสำเนาใบเสร็จ หรือสำเนาหนังสือรับรองการหักภาษีจากที่ทำงาน

     

    หนังสือรับรองทางการเงิน

    (ไม่ใช่ Bank Statement)

    หนังสือรับรองเงิน (บัญชีออมทรัพย์หรือฝากประจำ) ออกโดยธนาคารหนังสือรับรองพันธบัตรรัฐบาล / สลากออมสิน ออกโดยธนาคาร

    ·       ต้องเป็นบัญชีชื่อของผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย

    (กรณีเป็นชื่อบุคคลอื่น หรือชื่อร่วมต้องเขียนจดหมายชี้แจง)

    ·       จำนานเงินไม่ต่ำกว่า 8 แสนบาท

    (ต้องระบุจำนวนเงินเป็นตัวเลขที่ชัดเจน)

    ฉบับจริง

    สำเนาสมุดบัญชี

    สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากทุกหน้าหรือสำเนาสลากออมสิน หรือสำเนาพันธบัตร

     

    หลักฐานแสดงความสัมพันธ์กับผู้สมัคร

    พ่อแม่ พี่น้อง หรือญาติซึ่งห่างไม่เกิน 2 ลำดับชั้น

    ·       ขอคัดแบบรายการทะเบียนราษฎร จากที่ว่าดารอำเภอ หรือที่ส่าการเขต หรือเอกสารที่สามารถเชื่อมโยงความเกี่ยวข้องกันได้

    ฉบับจริง

    สำเนาเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล

    เฉพาะกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล

     

     

    เอกสารเพิ่มเติมกรณีผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายอยู่ในประทศญี่ปุ่น

    สำเนาทะเบียนบ้านที่ญี่ปุ่น

    แสดงรายชื่อสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด

    สำเนาบัตรประจะตัวคนต่างชาติ

     

    สำเนาหนังสือเดินทาง

     

    สำเนาหนังสือทะเบียนสมรส

     

    สำเนาใบรับรองตราประทับ

     

     

    หากต้องการเอกสารอธิบายหลักฐานของผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเป็นภาษาญี่ปุ่น กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่

    ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น เป็นตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันการศึกษาในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง ผู้สมัครจึงไม่ต้องเสียค่าดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น รวมถึงค่าจัดส่งเอกสารไปญี่ปุ่น

     

    สอบถามข้อมูล สมัครเรียนได้ที่

    ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชัน เลขที่ 287 อาคาร

    ลิเบอร์ตี้สแควร์ ชั้น 23 ห้อง 2301 ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก

    กรุงเทพฯ 10500 โทร. 02-2677726 ต่อ 101 104 แฟกซ์. 02-6312040

    www.jeducation.com หรือ Email: ask@jeducation.com

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×