ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sakura Hana House ภาษาญี่ปุ่น น่ารู้ ง่าย ๆ

    ลำดับตอนที่ #7 : ภาษาญี่ปุ่นชั้นต้น 1 (3) 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.6K
      15
      11 พ.ค. 51

    1.ประโยคบอกเล่า ในภาษาญี่ปุ่นจะมีลักษณะโครงสร้างคือ n1 wa n2 desu // n1 n2 です。N1,n2 = คำนาม1 และคำนาม2 ตามลำดับ เหตุที่แยกระหว่างคำนาม1 และ 2 เพราะต้องการชี้ให้เห็นว่า 2 ตำแหน่งนี้จะต้องเป็นคำนามคนละคำกัน (wa)เป็ฯคำช่วยในภาษาญี่ปุ่นที่ชี้ให้เห็นว่าคำนามที่อยู่ข้างหน้าเป็นประธานของประโยคนั้น ๆ เสมอแต่คำช่วย (wa) จะไม่แปล です(desu) เป็นคำกริยาแปลว่า เป็น อยู่ คือ ดังนั้นประโยค 1 ในบทสนทนาที่ว่า (โดยปกติแล้ว อ่านว่า ha แต่ถ้าเป็นคำช่วยจะอ่านออกเสียงว่า wa)
    わてしは 木村 です。  จะแปลได้ว่า ผม/ดิฉัน ชื่อคิมุระ
    Watashi wa kimura desu.
    ประโยคตัวอย่าง
    あのひとは がくせい です。 คนโน้นคืดนักเรียน
    Anohito wa gakusei desu.
     
    わたしは エンジニア です。 ฉันเป็นวิศวกร
    Watashi wa enjinia sedu.
     
    แต่ในบางกรณีสามารถละประธานเอาไว้ได้ดังเช่นประโยค 2 ในบทสนทนา
    ダオ です。 Dao desu. ชื่อดาวค่ะ
     
    2.ダオさんは ちゅうごく人 ですか。 โครงสร้างประโยค n1 wa n2 desu ka// n1 n2 ですか。เป็นประโยคคำถาม โดยการเติม (ka) เข้าไปที่ท้ายของประโยคบอกเล่า เพียงเท่านี้ก็จะเป็นรูปประโยคคำถามในประโยคบอกเล่า (n1,n2 = คำนาม 1 และคำนาม2ตามลำดับ)
    เพราะฉะนั้น ประโยคที่ว่า ダオさんは ちゅうごく人 ですか。จะแปลว่าคุณดาวเป็นคนจีนหรือเปล่า    dao san wa chugokujin desu ka.
    ประโยคตัวอย่าง
    あなたは にほん人 ですか。 คุณคือคนญี่ปุ่นหรือเปล่า
    Anata wa nihonjin desu ka.
    木村さんは ぎんこういん ですか。 คุณคิมุระเป็นพนักงานธนาคารหรือเปล่า
    Kimurasan wa ginkouin desu ka.
     
    ในตำแหน่งคำนาม 2 สามารถเติมคำที่เป็นคำถามเข้าไปได้ เช่น
    あの ひとは だれ ですか。 คนโน้นคือใคร
    Ano hito wa dare desu ka.
    あの かたは どなた ですか。 ท่านผู้โน้นคือใคร
    Ano kata wa donate desu ka.
    ในกรณีที่ใช้คำว่า あのひと(ano hito)เราก็จะใช้คำว่า だれ(dare) และเมื่อเราใช้ あのかた(ano kata) เราก็となたจะใช้คำว่า (donate) เนื่อจาก เวลาที่เราใช้คำนานที่สุภาพ เราก็จะใช้คำถามที่สุภาพด้วย้ช่นกัน
     
    3.ประโยคปฏิเสธ ในประโยคปฏิเสธจะมีโครงสร้างประโยคคือ n1 wa n2 ja arimasen. // n1 n2 じゃありません。 เมื่อเติมคกว่า  じゃありません。(ja arimasen) เข้าไปหลังคำนานประโยคนั้น ๆ ก็จะเป็นประโยคปฏิเสธ ที่แปลว่าไม่ใช่ เช่น
    わたしは にほん人 じゃありません。 ฉันไม่ใช่คนญี่ปุ่น
    Watashi wa nihonjin jaarimasen.
    あの ひとは せんせい ではありません。 คนโน้นไม่ใช่คุณครู
    คำว่า じゃありません และ ではありません มีความหมายเหมือนกัน เป็นภาษาพูด ภาษาเขียนตามลำดับ (N1,n2 = คำนาม1 และคำนาม2 ตามลำดับ)
     
    4.การตอบคำถาม การตอบคำถามสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท 1.คือการตอบคำถามที่มีปุจฉาสรรพนามกับ 2.คำถามที่ไม่มีปุจฉาสรรพนาม ประโยคที่มีอุจฉาสรรพนาม ก็คือประโยคที่มีคำที่เป็นคำถามเช่นใคร อะไร ที่ไหน เป็นต้น คำถามประเภทเหล่านี้นั้นจะตอบโดยที่ไม่มี คำตอบคำว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่ ซึ่งก็คือ はい(hai)กับ いいえ(iie) นั่นเอง
    ประโยคตัวอย่าง
    ประโยคที่ 1 และ 2 เป็นประโยค ที่มีคำที่เป็นคำถามส่วนประโยคที่3เป็นประโยคที่ไม่มีคำที่เป็นคำถาม
    1 A: あの 人は だれ ですか。 คนโน้นคือ ใคร
               Ano hiwa dare desu ka.
       B: 木村さん です。      คือคุณคิมุระ
                     Kimura san desu.
    2 A: さとうさんは なに人 ですか。  คุณซาโต้เป็นคนชาติอะไร
                     Sato san wa nanijin desu ka.
       B: にほんじん です。        เป็นคนญี่ปุ่น
                    Nihonjin desu.
    3 たなかさんは アメリカ人 ですか。  คุณทานากะเป็นคนอเมริกาใช่ไหม
         Tanakasan wa amerika jin desu ka.
      いいえ、アメリカ人 じゃ(では)ありません。เปล่าไม่ใช่คนอเมริกา
         Iie, amerila jin ja (dewa) arimasen.
    5.noun1 mo noun2 desu. noun1 noun2 です。
    (mo)เป็นคำช่วยแปลว่า ก็.....ด้วย ใช้ตามหลังประธาน ดังนั้นเมื่อมีคำช่วย (mo)เราจะไม่เติมคำช่วย (wa) เช่น あの 人 がくせい です。 Ano hito mo gakusei desu.  คนโน้นก็เป็นนักเรียน
    คำช่วย (mo) เราจะใช้กล่าวถึงสิ่งที่เราได้กล่าวมาแล้ว และเป็นกล่าวซ้ำถึงสิ่งเดียวกัน
    เช่น わたしは りゅうがくせいです。  ผมเป็นนักเรียนต่างชาติ
           Watashi wa ryugakusei desu.
         あの 人 りゅうがくせい です。 คนโน้นก็เป็นนักเรียนต่างชาติ
           Ano hito mo ryugakusei desu.
    เนื่องจากคำว่าりゅうがくせい (ryugakusei) ได้ถูกกล่าวซ้ำในประโยคที่ 2 เราจึงเติมคำช่วย (mo)
    ข้อควรระวัง ในกรณีที่คำถามใช้คำช่วย (mo) นั้น ถ้าเป็นกรณีที่ตอบว่า はい(hai) เราสามารถตอบโดยการทวนคำถามโดยใช้คำช่วย (mo) ได้ แต่ ถ้าเป็นการตอบแบบปฏเสธนั้นเราจะต้องเปลี่ยนจากคำช่วย (mo) เป็น คำช่วย (wa) เช่น
    あなたエンジニアですか。   คุณก็เป็นวิศวกรใช่ไหม
    Anata mo enjinia desu ka.
    はい、わたしエンジニアです。 ใช่ ผมก็เป็นวิศวกร
    Hai, watashi mo enjinia desu.
     
    あなたエンジニアですか。         คุณก็เป็นวิศวกรใช่ไหม
    Anata mo enjinia desu ka.
    いいえ、わたしはエンジニアじゃありません。 เปล่า ผมไม่ใช่วิศวกร
    6. …..人 …..jin แปลว่าชาว..... หากเราเติมชื่อประเทศลงไปข้างหน้าคำว่า (jin) ก็จะหมายถึงคนชาตินั้น ๆ เช่น にほん人(nihon jin)、アメリカ人(amerika jin)、ちゅうごく人(cyugoku jin) เป็นต้น
    7.คำว่า さん(san) ที่เติมหลังซื่อคนแปลว่า คุณ ใช้ในกรณีท่เราจะเรียนศื่อคนอื่นที่ไม่ใช้ตัวเราดังนั้นเวบาที่เราแนะนำตัวเราให้คนอื่น เราจะไม่ใช้ さん(san) หลังซื่อเรา เช่น
    あの 人は 木村さん です。  คนโน้นคือคุณคิมุระ
    Ano hito wa kimura san desu
     
    わたしは たなが です。    ผมซื่อทานากะครับ
    Watashi wa tanaga desu.
    อาชีพ
    ช้างล่างเป็นซื่ออาชะที่ควรทราบ

    けんきゅうしゃ
    Kenkyusya
    นักวิจัยคันคว้า
    きょうし
    Kyoshi
    อาจารย์ ใช้ในการบอกอาชีพ
    しゃいん
    Sya in
    พนักงานบริษัท ใช้ในการบอกอาชีพ
    こうむいん
    Koumuin
    ข้าราชการ
    えきいん
    Eki in
    นายสถานีรถไผ
    てんいん
    tenin
    พนักงานในร้านขายของ
    べんごし
    bengoshi
    ทนายความ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×