prigglua
ดู Blog ทั้งหมด

ทำความสะอาดศาล

เขียนโดย prigglua
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่อากาศค่อนข้างขุ่นมัว
ฉันตื่นแต่เช้าขึ้นมากว่าทุกวันที่ผ่านมาหลังจาโรงเรียนปิด
ฉันเริ่มคุ้ยหาเสื้อผ้าวางไว้ และเดินลงไปอาบน้ำ
ไม่นานฉันก็มานั่งเหม่อลอยรอรถเมล์อยู่ที่ป้ายรถ
วันนี้ฉันกะเหล่าเพื่อนฝูงอีก 8 ชีวิตนัดเจอกันที่โรงเรียน
เพื่อนที่จะแก้บนแม่ย่า(ศาลเจ้าที่ในโรงเรียน)
ท่านนั้นขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ซึ่งพวกเราได้บนเรื่องฟิสิกส์งานกลุ่มเอาไว้
และท่านก็ได้ช่วยให้ผ่านสมใจ
ในการแก้บนของเราคือไปแก้บนด้วยมะพร้าว 2 ลูก มาลัย 2 พวง
และทำความสะอาดศาล
ซึ่งศาลนั้นมีสภาพเหมือนกับว่าไม่ได้ทำความสะอาดมานาน
เเละเมื่อเรามาครบกันทุกคนแล้วเราก็เริ่มละเลงกันอย่างเต็มที่
งานเริ่มทำกันตั้งแต่เก้าโมง ซึ่งตอนนั้นแดดร้อนมาก
แต่ไม่นานก็หายร้อนเพราะว่าเมฆฝนที่ตั้งเค้ามา
กว่าที่เราจะทำความสะอาดศาลเสร็จก็ปาไปเที่ยงแล้ว
หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกันมาครึ่งวันเราก็ไปต่อกันที่ห้างสรรพสินค้า
เดินเล่นร้องเกะ เล่นเกมส์ ถึงแม้ว่าฉันจะเล่นแพ้เพื่อนไปเกมส์ แต่อีก 3 เกมส์ที่เหลือฉันก็ชนะมาตลอด
เมื่อเราออกจากห้างก้อเกือบเย็นแล้ว ฉันก็เลยไปเล่นเกมส์ต่อในร้านเกมส์ ซึ่งสนุกมาก แต่เล่ได้ไม่นาน(ประมาณ 2 ชั่วโมง) ฉันก็ต้องออกมาจากร้านเกมส์ เพราะใกล้ได้เวลาที่จะต้องกลับแล้ว
เมื่อฉันเดินมาถึงป้ายรถ ฝนก็เริ่มตกลงมา บรรยากาศรอบกายดูน่ากลัวมาก คงเพราะเย็นมากแล้ว และฝรก็ตกอีก ทำให้ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาดูบางตา ฉันจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทรไปหาใครสักคน ที่ฉันคิดว่าเค้าน่าจะอยู่คุยกับฉันได้ 
ขณะที่ฉันกำลังมีความสุข เพื่อนฉัน 2 คนก็วิ่งผ่านฝนมา
"พริกรถท่าโบสถ์ออกไปหรือยัง" อ้อยถามฉัน
ฉันพยักหน้ารับ ก่อนที่จะตอบกลับไปว่า "นานแล้วล่ะ" 
สุดท้ายไอซ์ก็ต้องไปส่งอ้อย โดยที่ฝากของไว้กัยฉัน
ไอซ์ไปนานเท่าไหร่ฉันไม่รู้ แต่ตอนนี้รถของฉันมาแล้วแต่ไอซ์ก็ยังไม่กลับมา ฉันโทรเข้ามือถือไอซ์ เสียงโทรศัพท์ของใครบางคนดังขึ้นข้างๆกายฉันที่ยืนหลบฝนอยู่คนเดียว
-_-" ไอซ์ไม่ได้เอาโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย ฉันมองซ้ายมองขวาก่อนที่จะตัดสินใจคว้ากระเป๋าขึ้นรถเมล์ไปด้วย
ในช่วงเวลา 2 นาทีก่อนที่รถเมล์จะออก อ้อยก็โทรเข้ามา แล้วบอกให้เอากระเป๋าไอซ์ไปวางไว้บนโต๊ะที่อยู่ข้างร้านค้า ฉันรีบหันกลับไปมองทันที มันไกลจากที่รถจอดมากเลยนะ แถมฝนยังไม่หยุดตกด้วย
แต่ฉันเองก็ไม่อยากที่จะเอากระเป๋ามาคืนไอซ์วันหลัง แต่รถเมล์เที่ยวนี้ก็เที่ยวสุดท้ายแล้ว ในช่วงจังหวะนั้นฉันตัดสินใจลุกขึ้น แล้ววิ่งฝ่าฝนไป
ก่อนที่จะวิ่งกลับมาขึ้นรถเมล์เพียงชั่ววินาทีก่อนที่รถจะออก
เนื้อตัวของฉันเปียกปอน ฉันหันไปมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมืออย่างเป็นห่วง ก่อนที่จะยกโทรศัพท์แนบหู
"กำ กำจริงๆ" เสียงปลายสายบ่นออกมา
ฉันหัวเราะแฮะๆ ขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวออกจากท่ารถ ฉันอยากจะบอกกับคนปลายสายเหลือเกินว่า 'ขอบคุณมากนะที่คุยอยู่เป็นเพื่อนตั้งนาน' แต่ฉันก็ตัดสินใจที่จะไม่พูดออกไป นอกเสียจากจะนั่งยิ้มออกมาน้อยๆอย่างมีความสุข
เพราะถึงแม้ว่าวันนี้ฉันจะเหนื่อยมากมาย ถึงแม้ว่าจะพบเจอกับเรื่องต่างๆมาเยอะแยะ แต่ว่าตอนนี้ทุกอย่างมันได้ห่ยไปแล้ว ท้องฟ้าเริ่มเปิดอีกครั้ง
ในขณะที่สายโทรศัพท์กำลังถูกตัดลงด้วยมือของฉันเอง
    .........ขอบคุณมากนะ ที่คอยอยู่ข้างๆกัน...........

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น