NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภาวินทร์ภคนางค์

    ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 5 (3) ปฎิบัติการออดอ้อน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 67.79K
      346
      20 เม.ย. 67




    “สวัสดีครับป้าพัชรี สบายดีนะครับ”

    ภาวินทร์ยกมือไหว้ทักทายพัชรีที่เดินออกมาจากมุมหนึ่งของบ้านพร้อมคลี่ยิ้ม ก่อนจะลดมือลงเกาหลังให้ยายตัวเล็กที่ส่งเสียงประท้วงในลำคอ ได้แต่นึกเอ็นดูอยู่ในใจ ความเอาแต่ใจนี้หวังว่าคงไม่ใช่ได้มาจากเขาหรอกนะ

    “สวัสดีจ้ะคุณวินทร์”

    คนสูงวัยกว่ารับไหว้ด้วยรอยยิ้มพลางมองคนที่นอนซบอยู่บนอกให้พ่อเกาหลังให้ ขณะในมือน้อยๆ นั้นมียางกัดรูปองุ่นอันโปรด ไม่ทันไรก็ติดพ่อแล้วนะสินะน้องพลินทร์ แบบนี้แม่จะไม่น้อยใจแย่หรือไร รายนั้นยิ่งชอบคิดมากอยู่ด้วย

    “ป้าสบายดีจ้ะ แล้วคุณท่านทั้งสองเป็นยังไงบ้าง สบายดีนะจ๊ะ”

    “คุณแม่สบายดีครับ ส่วนคุณยายก็ป่วยนิดหน่อยตามประสาคนแก่”

    “ถ้าอย่างนั้นป้าฝากความห่วงใยไปให้คุณท่านทั้งสองด้วยนะจ๊ะ ขอให้คุณรัมภาหายป่วยเร็วๆ ด้วยจ้ะ”

    แม้ไม่ได้สนิทสนมมากนักแต่ก็รู้จักมักคุ้นกันมาหลายปี เพราะแต่ก่อนนางไปรับภคนางค์ที่คฤหาสน์ธีระธนภัทรค่อนข้างบ่อย พอหลานสาวโตขึ้นก็ไม่ค่อยได้ไปที่นั่นแล้วเนื่องจากภคนางค์สามารถเดินทางมาเชียงใหม่เองได้แล้ว

    ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับ”

    ชายหนุ่มยิ้มพลางพยักหน้ารับ พอมาคิดๆ ดูแล้วภาวินทร์ก็คาดไม่ถึงเลยว่าภคนางค์จะมาอยู่กับป้าของเธอที่เชียงใหม่ เรียกได้ว่าอยู่ใต้จมูกก็ไม่ผิดนัก แม้ไม่รู้ว่าบ้านของพัชรีอยู่ส่วนไหนของเชียงใหม่แต่ก็ไม่ยากที่จะตามหา เพียงแต่ว่าความทิฐิที่มีมหาศาลมันห้ามเอาไว้ไม่ให้สนใจไม่ให้ตามหาอดีตภรรยา ทว่าพอได้เจอแล้วภาวินทร์ก็ไม่คิดที่จะปล่อยไปไหนแล้ว เพราะเขาไม่ได้ต้องการแค่ลูก แต่ต้องการแม่ของลูกด้วย

    “เห็นยายนางค์บอกว่าคุณวินทร์จะพายายหนูไปกรุงเทพฯ ด้วย คุณท่านทั้งสองก็รู้เรื่องนี้แล้วใช่ไหมจ๊ะ”

    “ผมยังไม่ได้บอกครับ กลัวพวกท่านจะเอาแต่รอหลาน รอพายายหนูไปเจอเลยดีกว่าครับ”

    พัชรีพยักหน้าพลางยิ้มอย่างเข้าใจ หากภาวินทร์บอกเรื่องน้องพลินทร์ไป คนทางโน้นที่ไม่เคยทราบเรื่องทายาทตัวน้อยมาก่อนคงตื่นเต้นและเอาแต่เอาเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อเป็นแน่  

    “ดูซิ ใครมีพ่อแล้วนะ ไม่เห็นสนใจยายเลย”

    มองหลานสาวตัวน้อยที่ดูเหมือนจะติดพ่อแจแล้วอดยิ้มด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้ ยายว่ายังยิ้มร่าแล้วอ้อนพ่อต่อราวกับจะอวดว่าหนูมีพ่อแล้วนะ มองแล้วขอบตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมา ดีใจแทนหลานที่ได้มีพ่อมีแม่ครบพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ไปความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับแม่น้องพลินทร์จะเป็นไปในทิศทางใด ดูเหมือนแม่ยายหนูจะยังตึงๆ ใส่พ่อของลูกอยู่

    ภาวินทร์ฟังแล้วคลี่ยิ้มน้อยๆ ก่อนลดสายตาลงมองลูกสาวที่นอนซบอยู่บนอกกว้าง ดูเหมือนน้องพลินทร์จะชอบให้เกาหลังและสัมผัสตามเนื้อตัว เพราะพอเขาเกาให้เบาๆ ลูกก็นอนนิ่งแทะยางกัดพลางบ่นอืออาตามประสา พอหยุดเกาก็ส่งเสียงประท้วงในลำคอเหมือนขัดใจ เขาก็เลยต้องตามใจเพื่อความสุขของลูก

    “อ้อนพ่อใหญ่เลยนะเราน่ะ กลัวพ่อไม่รักไม่หลงหรือไงหือ

    ยายหนูของนางมีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งคือชอบทำให้คนหลงรัก ใครอยู่ใกล้เป็นต้องติดกับดักความน่ารักน่าเอ็นดูกันทุกราย แล้วดูซิ ออดอ้อนออเซาะขนาดนี้ คนเป็นพ่อจะไปไหนรอด

    พ่อของน้องพลินทร์หัวเราะเบาๆ กับคำพูดของป้าพัชรี เห็นทีจะเป็นอย่างที่ว่า ยายหนูขยันอ้อนให้เขาใจละลาย ทั้งรักทั้งหลงมากขึ้นทุกขณะ ในสายตาของภาวินทร์ไม่ว่าลูกจะทำอะไรก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูไปหมด

    เดี๋ยวป้าขอตัวก่อนนะจ๊ะ ต้องไปเตรียมของที่ร้านแล้ว”

    “ครับ”

    พัชรียิ้มให้ก่อนจะเดินออกมา แต่ยังไม่วายทิ้งสายตามองเข้าไปในบ้าน เด็กหญิงภควรินทร์อาจยังพูดไม่ได้ว่าอยากมีพ่อหรือไม่ แต่การที่ได้เห็นหลานสาวอยู่ในอ้อมแขนของพ่อแกแบบนั้นแล้วช่างเป็นภาพที่อบอุ่นและน่าประทับใจไม่ต่างจากตอนที่ได้เห็นภคนางค์โอบกอดน้องพลินทร์ไว้ในอ้อมอกตอนแรกเกิดเลยสักนิด นางอาจเคยคิดว่าน้องพลินทร์ไม่จำเป็นต้องมีพ่อก็ได้ แต่นั่นมันเป็นตอนที่ยังไม่รู้ความจริง ทว่าตอนนี้พัชรีเปลี่ยนความคิดใหม่แล้ว เพราะคิดว่ามันคงจะดีถ้าหลานมีครบทั้งพ่อและแม่

     

    **********

     

    “นมมาแล้วจ้ะ”

    ภคนางค์เดินกลับมาหาภาวินทร์กับลูกที่โซฟาพร้อมกับขวดนมหลังจากหายไปเกินครึ่งชั่วโมง เด็กน้อยตัวอวบน่าฟัดที่ซบอยู่กับอกพ่อรีบปล่อยยางกัดในมือทิ้งแล้วดี๊ด๊าใหญ่ ปากจิ้มลิ้มขยับคล้ายออกเสียงหม่ำๆ คนเป็นแม่เห็นแล้วได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ แล้วเข้าไปจัดแจงท่านอนให้ลูกใหม่

    “มา ม่ะ” มือน้อยๆ ของคนที่นอนอยู่บนตักพ่อไขว่คว้าจะเอาขวดนมจากมือแม่ ทั้งยังยิ้มกว้างบ่งบอกว่ากำลังอารมณ์ดีมากเพียงใด

    “ธุจ้าแม่ก่อน” 

    พอลูกยอมธุจ้าจึงส่งขวดนมให้ มือป้อมๆ ก็รีบคว้าหมับแล้วยัดใส่ปากทันที ภคนางค์ยิ้มแล้วก้มลงหอมแก้มย้วยๆ นั้นฟอดใหญ่ก่อนจะขยับออกมานั่งโดยเว้นระยะห่างเหมือนเดิมเพื่อเฝ้ามองลูกอยู่เงียบๆ

    “ลูกกินนมผงเหรอ”

    ชายหนุ่มละสายตาจากลูกในอ้อมแขนขณะที่มือหนายังช่วยประคองขวดนมให้ แล้วมองภคนางค์ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกันแต่กลับนั่งห่างราวกับรังเกียจเขา ถ้าลูกไม่อยู่ด้วยจะจับคนอวดดีมาสั่งสอนเสียให้เข็ด

    “กินนมแม่อย่างเดียวค่ะ 

    เธอตอบแล้วเสหลบตา เม้มเรียวปากเข้าหากัน เพราะเพียงแว่บเดียวที่สบตากับเขาก็ทำเอาใจสั่นสะท้าน พวงแก้มพลันร้อนผะผ่าวด้วยความเอียงอาย

    “ตัวอวบน่าฟัด สงสัยจะกินเก่งน่าดู

    เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้นขณะสัมผัสขาอวบๆ น่ากัดและเนื้อตัวนุ่มๆ ของลูก ริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้มอบอุ่นยามทอดมองคนตัวเล็กในอ้อมแขนที่กำลังดูดนมอักๆ ด้วยความหิว ในยามที่สบตากลมโตของลูกนั้นคล้ายมีแรงดึงดูดอย่างมหาศาลให้ตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไรอย่างนั้น ได้อยู่ด้วยยังไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำก็ทำเอาพ่อหลงหัวปักหัวปำซะแล้ว เป็นแบบนี้แล้วภาวินทร์จะยอมให้ลูกห่างจากอกได้อย่างไร เลยต้องหาวิธีกักขังไว้ทั้งแม่และลูก...

    ภคนางค์มองลูกสาวที่นอนกินนมอยู่บนตักพ่ออย่างเรียบร้อยด้วยความหมั่นไส้ ไม่มีหรอกยกแข้งยกขาอวบๆ เหมือนตอนอยู่กับแม่ แถมคนเก่งยังไม่ยอมจับขวดนมเองอีกต่างหาก ต้องให้พ่อช่วยจับแล้วใช้มือน้อยๆ จับมือพ่ออีกที ทั้งยังมองตาแป๋วราวกับกำลังออดอ้อนให้พ่อรักพ่อหลง แทบไม่สนใจไม่ร้องหาแม่เลยสักนิด สองมาตรฐานจริงๆ ลูกสาวแม่

    ‘เฮ้อ...ไม่ทันไรหมาน้อยของแม่ก็ติดพ่อซะแล้วสินะ’

    คิดด้วยความหมั่นไส้มากกว่าจะน้อยใจ ยายหนูเริ่มติดพ่ออย่างรวดเร็วทั้งที่เพิ่งอยู่ด้วยกันได้ไม่ทันไร ไม่อยากคิดถึงตอนที่ภาวินทร์จะกลับเลย น้องพลินทร์คงร้องตามเขาแน่ๆ เพราะถ้าลูกสาวเธอได้ติดใครแล้วติดหนึบมากจริงๆ

    “แล้วคุณกินอะไรมาหรือยังคะ” 

    เสียงอ่อนหวานอ้อมแอ้มถามหลังจากพยายามรวบรวมความกล้าอยู่พอสมควร ไม่รู้ว่าทำไมแค่ถามอดีตสามีแค่นี้ เธอจะต้องอายจนแก้มร้อนด้วย

    คนถูกถามนิ่งไปเล็กน้อยก่อนหันมองอดีตภรรยา แล้วตอบออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “กินแค่กาแฟก่อนออกมา”

    ภคนางค์เม้มปากแดงสดราวกับกลีบกุหลาบเข้าหากันเล็กน้อยในยามที่สบตาคมทรงเสน่ห์ ใบหน้าอ่อนหวานเริ่มร้อนขึ้นมาอีกครา เพราะแววตาที่สบประสานนั้นแฝงเร้นไปด้วยอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอหายใจไม่ทั่วท้อง มิหนำซ้ำใจยังพานคิดไปถึงเหตุการณ์วาบหวามที่ข้างบ้าน…

    “เดี๋ยวนางค์ไปหาอะไรมาให้กินค่ะ”

    บอกเสียงเบาก่อนจะลุกออกมาอย่างเงียบๆ อะไรที่ทำให้เลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดพ่อของลูกได้ภคนางค์ก็พร้อมจะทำ ส่วนยายหนูนั้นไม่ค่อยห่วงเพราะติดพ่อหนึบไปเรียบร้อยแล้ว

    “อิ่มแล้วเหรอครับ”

    ทอดถามเสียงนุ่มเมื่อน้องพลินทร์คายจุกนมออกจากปากหลังจากกินจนหมดขวด จากนั้นยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้เต็มพลัง ชายหนุ่มวางขวดนมเปล่านั้นลงข้างตัว ก่อนจะจับลูกขึ้นอุ้มพาดบ่า แล้วพาลุกเดินสำรวจบ้านหลังน้อย มือหนายกขึ้นลูบแผ่นหลังเล็กเบาๆ ดวงตาสีเข้มหลุบมองใบหน้าแสนน่ารักที่ซุกเข้าหาซอกคอพ่อแล้วระบายยิ้มบางๆ ใจละลายเพราะการกระทำของยายตัวเล็ก

    “ทำไมอ้อนเก่งจังเลยหือเราน่ะ จะให้พ่อรักพ่อหลงไปถึงไหนกัน แค่นี้ก็หลงจะแย่แล้วนะลูก”

    รำพันถามเสียงนุ่มนวลด้วยความสุขใจแล้วหอมกระหม่อมเล็กเบาๆ ด้วยความรักใคร่ น้องพลินทร์เลยตอบรับคำถามของพ่อด้วยเสียงบ่นไม่เป็นคำ ภาวินทร์ได้แต่ยิ้มด้วยความเอ็นดู เช้านี้เขายิ้มไปกี่รอบแล้วนะ คงนับไม่ถ้วนแล้วแน่ๆ

    ปู้ดดด ปู้ดดด

    เสียงเป่าปากพ่นน้ำลายจากปากสีชมพูสดอย่างเอาจริงเอาจังนั้นทำให้ภาวินทร์ยิ้มขันแล้วแกล้งทำเป็นตกใจ พอเห็นดังนั้นยายหนูก็เหมือนจะชอบใจ เป่าปากปู้ดๆ ใส่พ่อใหญ่ พลอยให้คนเป็นพ่อยิ้มกับความน่ารักและไร้เดียงสานั้น ทำอะไรก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูไปหมดเลยยายหนูของเขา

    “สนุกมากเหรอลูกเล่นน้ำลายน่ะ เป่าปู้ดๆ ใหญ่เลย”

    “แอ้!” 

    ยายหนูตอบพ่อแล้วยิ้มร่า ชอบนักที่มีคนคุยด้วย ทำให้ภาวินทร์ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ เขาห้ามใจตัวเองไม่ได้เลยที่จะไม่ให้ตกหลุมรักยายตัวเล็ก เด็กอะไรก็ไม่รู้น่ารักน่าหลงชะมัด ทำเอาพ่อใจบางหมดแล้ว

    “ดูซิ นี่รูปใครนะ รูปหนูหรือเปล่าลูก”

    ภาวินทร์คุยกับลูกพลางมองกรอบรูปที่ติดอยู่ข้างผนัง ดูเหมือนน้องพลินทร์จะพกความน่ารักและแก้มเป็นพวงมาตั้งแต่เกิด ส่วนยายตัวเล็กก็ให้ความสนใจ ชี้ไปที่กรอบรูปคุยอ้อแอ้โต้ตอบอย่างน่าเอ็นดู คนเป็นพ่อจึงขยับเข้าไปใกล้ๆ ให้นิ้วเล็กๆ นั้นได้สัมผัสกับรูปถ่ายของตัวเอง ก่อนขยับออกห่างเล็กน้อย เพราะกลัวลูกจะคว้าเอากรอบรูปติดมือมาด้วย

    “รูปหนูใช่ไหมครับ น่ารักน่าชังจังเลย ตัวอวบๆ เหมือนเดิมเลยนะเนี่ยลูกสาวพ่อ”

    ว่าอย่างหยอกเย้าแล้วสัมผัสที่พุงกลมๆ หลังจากมองรูปถ่ายเด็กน้อยแก้มย้วยตัวกลมที่ยิ้มแป้นใส่กล้อง ดูแล้วน่าจะเพิ่งถ่ายได้ไม่นาน มองไปรอบๆ บ้านแทบไม่มีมุมไหนเลยที่ไม่มีรูปถ่ายของน้องพลินทร์ มีบางรูปที่ถ่ายกับแม่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรูปยายหนูเสียมากกว่า พลอยทำให้คิดว่าถ้าที่คฤหาสน์ธีระธนภัทรมีรูปถ่ายแสนน่ารักติดอยู่เยอะๆ ก็คงมีความสุขไม่น้อยเวลามอง

    แม้เดินออกมาจากบ้านแล้วแต่ภคนางค์ก็ยังแอบมองสองพ่อลูก ผู้ชายแสนเคร่งขรึมอย่างภาวินทร์กลายเป็นคนอบอุ่นและอ่อนโยนในยามที่อยู่กับลูก ส่วนเด็กหญิงภควรินทร์ก็ดูเหมือนจะว่าง่ายกว่าทุกวัน ออดอ้อนออเซาะพ่อไม่ห่าง ซึ่งคนเป็นแม่อย่างภคนางค์รู้ดีว่านั่นเป็นการหลอกพ่อให้รักให้หลง ไม่นานก็แผลงฤทธิ์ความซุกซนให้รับมืออย่างแน่นอน


     

    +++++

    มีความคิดเห็นยังไง ฝากคอมเม้นให้กำลังใจด้วยนะคะ

    ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ / อิงธารา

    e-book >> https://goo.gl/K5N86N

    หรือ get it now ค่ะ

     




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×