NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภาวินทร์ภคนางค์

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 2 (1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 53.78K
      293
      20 เม.ย. 67




    บทที่ 2

    “แม่ฝันว่ามีคนเอาหีบใส่แก้ว แหวน เงิน ทองมาให้อีกแล้วนะวิ ช่วงนี้ฝันถี่เหลือเกิน

    คุณรัมภา หญิงชราวัยแปดสิบเก้าปี ผมสีดอกเลารำพันถึงความฝันเรื่องเดิมๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยเหลือเกินในระยะหลังมานี้ให้กับลูกสาวฟัง ท่านฝันบ่อยจนรู้สึกแปลกใจ จะสื่อว่ามีลางอะไรบางอย่างหรือเปล่าก็ไม่น่าใช่ เพราะหลังจากที่ฝันแล้วก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเลย

    “อาจจะมีข่าวดีก็ได้นะคะคุณแม่ อย่าคิดมากไปเลย

    คุณรวิตายื่นมือเข้าไปกุมมือที่เหี่ยวย่นตามวัยของมารดาพร้อมระบายยิ้ม ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นลูกชายเพียงคนเดียวเดินเข้าบ้านมาพอดี เมื่อครู่ได้ยินเสียงรถแว่วๆ แต่ไม่คิดว่าลูกจะกลับมา เพราะปกติไม่กลับเวลานี้

    “อ้าว ตาวินทร์ ทำไมวันนี้กลับแต่หัววันได้ล่ะลูก” ถามด้วยความสงสัยปนเหน็บแนม ปกติถ้าไม่มืดค่ำก็ไม่ได้เห็นหน้าลูกชาย ทำงานหนักจนแม่กับยายจะลืมหน้าอยู่แล้ว บอกให้เพลาๆ ลงบ้างก็ไม่เชื่อฟังกันเลยสักนิด

    ภาวินทร์คลี่ยิ้มบางเบาแล้วเดินเข้าไปทรุดนั่งที่โซฟาด้วยสีหน้าผ่อนคลาย “ไม่มีงานที่ไหนต่อเลยกลับเร็วครับ แล้วคุณแม่กับคุณยายกินข้าวกันหรือยังครับ”

    ความจริงแล้วชายหนุ่มแทบไม่มีสมาธิทำงานเลยตลอดทั้งวัน เพราะมีแต่เรื่องของภคนางค์วนเวียนอยู่ในหัวเป็นกระแสแทรกซึมสู่หัวใจ ตัวก็ไม่อยู่แล้วยังไม่วายก่อกวนจิตใจให้เขารู้สึกหงุดหงิด ทั้งที่ปกติไม่ใช่คนอารมณ์เสียง่าย แต่วันนี้กลับพาลไปเสียทุกเรื่องจนเลขาฯ เข้าหน้ากันแทบไม่ติด

    “ยังเลยจ้ะ แล้วเราล่ะ กินอะไรมาหรือยัง ถ้ายังแม่จะให้เด็กตั้งโต๊ะเลย” คนเป็นแม่ตอบด้วยรอยยิ้ม หวังว่าวันนี้จะได้กินข้าวกับลูกชายอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเสียที

    “ยังครับ กำลังหิวพอดีเลย”

    “ดีเลยจ้ะ งั้นพาคุณยายไปห้องอาหารกัน”

    ชายหนุ่มยิ้มอบอุ่นตอบรับ ก่อนจะลุกขึ้นไปประคองคุณรัมภาเพื่อไปยังห้องอาหารตามที่คุณรวิตาบอก ใจก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่ทำแต่งานจนละเลยมารดาและคุณยาย ปล่อยให้ท่านดูแลกันตามลำพัง อาจเป็นเพราะความเคยชินในอดีตที่มีภคนางค์คอยช่วยดูแล จนลูกชายและหลานแท้ๆ อย่างเขาแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะหญิงสาวทำแทนแทบทุกอย่าง

    “เห็นไข่ตุ๋นแล้วก็อดคิดถึงยายนางค์ไม่ได้นะ รายนั้นน่ะชอบกินไข่ตุ๋นตั้งแต่เด็กจนหน้าจะเป็นไข่”

    คุณรัมภาทอดกายลงนั่งบนเก้าอี้ที่หลานชายช่วยเลื่อนให้ มองเห็นชามไข่ตุ๋นใส่ใบตำลึงก็อดยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นไม่ได้ เมนูนี้ไม่ค่อยได้ให้แม่ครัวทำขึ้นโต๊ะบ่อยนักหรอก เพราะคนชอบกินไม่อยู่แล้ว แต่เห็นแล้วก็อดคิดถึงไม่ได้จริงๆ วันนี้ท่านออกไปเดินเล่นสูดอากาศในสวน เห็นตำลึงข้างรั้วแตกยอดงามก็เลยให้เด็กเด็ดมาไว้ทำกับข้าว ก็คงทำกันด้วยความเคยชิน เพราะบ้านนี้ตำลึงมักจะอยู่ในไข่ตุ๋นมากกว่าจะเป็นแกงจืดหรืออย่างอื่น

    ภาวินทร์ที่เดินไปนั่งหัวโต๊ะมองไปยังชามไข่ตุ๋นที่ว่า พลันใบหน้าทรงเสน่ห์ก็เรียบขรึมขึ้นมาทันที ก่อนจะเบนสายตาหนีเมื่อจู่ๆ สมองมันก็คิดไปถึงภาพตอนที่ภคนางค์นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวข้างๆ แล้วตักของโปรดของเธอใส่ปากด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความสุข

    ให้ตาย…ยิ่งเขาพยายามลบภาพของภคนางค์ออกไปจากหัวมากเพียงใดก็ยิ่งดูเหมือนความพยายามนั้นจะไร้ค่าเหลือเกิน เพราะมันมีแต่เรื่องของเธอคอยวนเวียนอยู่รอบตัวเต็มไปหมด

    “นั่นสิคะ ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง เลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย แต่ใจจืดใจดำไม่ยอมติดต่อมาหาบ้างเลย”

    คุณรวิตารำพันด้วยความน้อยใจ ภคนางค์ไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนี้ต่อนางก็ไม่ห้ามเลยสักนิด เพราะรู้ว่าคงลำบากใจที่จะอยู่ร่วมชายคากับอดีตสามี แต่น่าจะติดต่อมาหากันบ้างจะได้รู้ว่าสุขสบายดีไหม ทว่ากลับหายเงียบไปเลยทั้งที่ให้สัญญากับนางเอาไว้ดิบดี น่าตีที่สุด

    “ก็คงสบายดีนั่นละ ปล่อยให้เขาได้ไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองบ้างเถอะ อย่าเป็นกังวลนักเลย เราก็รู้ว่ายายนางค์น่ะเอาตัวรอดเก่งแค่ไหน”

    คนเป็นมารดาว่าก่อนถอนใจเบาๆ ไม่ใช่ว่าไม่รักไม่ห่วง แต่คุณรัมภารู้ว่าตอนนี้ภคนางค์ต้องอยู่อย่างสุขสบายทั้งกายและใจ ท่านเลี้ยงมาเองกับมือ ย่อมรู้นิสัยเป็นอย่างดีว่าเด็กคนนั้นจะไม่ทำให้เป็นห่วงอย่างแน่นอน

    “วิรู้ค่ะ แต่ก็อดห่วงอดคิดถึงไม่ได้นี่คะ” นางเลี้ยงของนางมาตั้งแต่เล็กก็รักไม่ต่างจากลูกเลยสักนิด

    คนเป็นมารดาอย่างคุณรัมภาฟังแล้วได้แต่ส่ายหน้าช้าๆ อย่างอ่อนใจ เพราะลูกสาวบ่นคิดถึงบ่นน้อยใจภคนางค์บ่อยเหลือเกิน ท่านก็พยายามเลี่ยงจะพูดถึง แต่บางทีก็อดไม่ได้เหมือนกัน อยู่ด้วยกันมาตั้งนานก็ย่อมมีความผูกพันเป็นธรรมดา แต่ท่านจะไม่ตำหนิหรอกที่ภคนางค์ไม่ติดต่อมาหา เนื่องจากคิดว่าคงมีเหตุผลถึงทำเช่นนี้

    “อ้าวตาวินทร์ ไหนว่าหิว ทำไมไม่กินล่ะลูก”

    คุณรวิตาท้วงเมื่อหันไปเห็นลูกชายยังคงนั่งนิ่งด้วยสีหน้าเหม่อลอยคล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง อย่าบอกนะว่าเก็บเรื่องงานมาคิดในเวลากินข้าว ไม่อย่างนั้นแม่จะบิดให้เนื้อเขียวเลยคอยดู

    ภาวินทร์หลุดจากภวังค์ความคิดแล้วยิ้มให้มารดาเล็กน้อย ก่อนเริ่มลงมือรับประทานอาหารด้วยท่าทีปกติ ทั้งที่ตอนนี้รู้สึกตื้อจนไม่อยากจะกลืนอะไรลงคอด้วยซ้ำ วันนี้มันวันอะไรกัน ทำไมถึงมีแต่คนเอ่ยถึงเรื่องภคนางค์ให้ได้ยิน พานทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย หมดกำลังใจ ไม่อยากจะทำอะไรอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อีกทั้งใจยังรู้สึกห่อเหี่ยวอย่างบอกไม่ถูก

    ให้ตายเถอะ! มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ได้แต่สบถถามตัวเองอยู่ในใจด้วยความรู้สึกหงุดหงิด

    “อาทิตย์หน้าผมจะไปทำงานที่เชียงใหม่ คุณแม่กับคุณยายจะไปด้วยกันไหมครับ เผื่ออยากไปพักผ่อนที่บ้าน ตอนนี้อากาศคงกำลังดี

    หลังจากกินข้าวไปได้แค่สองคำ ภาวินทร์ก็รวบช้อนแล้วยกแก้วน้ำขึ้นจิบก่อนเอ่ยถามเพื่อกลบเกลื่อนอารมณ์หงุดหงิดและอาการไม่อยากอาหารของตัวเองไปในตัว ไม่ใช่วันนี้กับข้าวไม่อร่อย แต่เขากินไม่ลงเองต่างหาก รู้สึกฝืดคอจนไม่อยากกลืนอะไร  

    “ไปเถอะลูก จะไปทำงานไม่ใช่หรือ”

    คุณรัมภามองหน้าหลานชายด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้ไปเยี่ยมบ้านที่เชียงใหม่นานแล้วเหมือนกัน พอภาวินทร์พูดขึ้นมาก็อดคิดถึงคุณประจักษ์ สามีผู้ล่วงลับไปแล้วไม่ได้ เพราะที่ดินผืนนั้นที่หลานชายไปสร้างบ้านพักตากอากาศเอาไว้เป็นที่ดินที่สามีนางซื้อเก็บเอาไว้ช่วงที่เริ่มตั้งตัวได้ใหม่ๆ จากคนที่ไม่มีอะไรเลย เรียกได้ว่าเริ่มจากศูนย์เลยด้วยซ้ำ แต่สามารถสร้างอาณาจักรธีรากรุ๊ป บริษัทรับเหมาก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ แม้ทำธุรกิจจนร่ำรวย แต่ก็ทำงานหนักเพื่อสร้างรากฐานอันมั่นคงไว้ให้หลานชายเข้ามาสานต่อจนรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่าภาวินทร์ได้นิสัยบ้างานมาจากใคร

    “พอมีเวลาว่างอยู่บ้างครับ”

    “แม่ว่าเอาไว้รอบหน้าดีกว่าจ้ะ ยังไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรเลย อีกอย่างลูกก็ไปทำงาน ไม่อยากให้คอยเป็นห่วง”

    คุณรวิตาเสริม ด้วยสุขภาพของคุณรัมภาที่ไม่ค่อยเอื้อต่อการเดินทางเท่าไรนัก จึงไม่อยากให้ภาวินทร์คอยห่วงแม่กับยาย อยากให้ทำงานอย่างเต็มที่มากกว่า อีกอย่างอยู่ที่นี่ก็มีคนคอยดูแลเต็มบ้าน

    “ครับ”

    ชายหนุ่มรับคำพร้อมยิ้มก่อนจะนั่งมองมารดาและคุณรัมภานั่งกินข้าวอย่างเงียบๆ คอยตักกับข้าวให้อย่างเอาใจเหมือนที่ใครบางคนชอบทำ เพราะเธอมักเอาใจใส่คนรอบข้างก่อนตัวเองเสมอ แม่กับยายของเขาถึงได้รักและเอ็นดูมาก จนถึงขั้นอยากให้ใช้นามสกุลธีระธนภัทร เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาและภคนางค์ได้เป็นสามีภรรยากัน แต่แล้วทุกอย่างมันก็จบลงตามเงื่อนไขที่พ่วงมากับการเริ่มต้นชีวิตคู่…



    +++++

    มีความคิดเห็นยังไง ฝากคอมเม้นให้กำลังใจด้วยนะคะ

    ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ / อิงธารา

    e-book >> https://goo.gl/K5N86N

    หรือ get it now ค่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×