ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Larry Stylinson] .♡ - Valentine's Day。¦ - [1D Fanfiction]

    ลำดับตอนที่ #4 : 03 - ` Hold On 。 - LiLo Paylinson ❑ [2/2]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 387
      3
      25 ธ.ค. 56

    Supercell
    Hold On

     

     

     

    .Liam Payne & Louis Tomlinson

    .24/12/13



     

     











     
     

     

     

     

    ..

     

     

     

    .

     

     

     

                คิ้วได้รูปขมวดด้วยความหงุดหงิด ข้อมือยกขึ้นเพื่อดูนาฬิกาเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้ตั้งแต่บึ้งรถออกมาจากชานเมืองเข้าสู่ถนนใหญ่ เวลาบนหน้าปัดบอกว่าตอนนี้หกโมงสิบห้า แต่รถหลายต่อหลายคันก็ทำเอาการจราจรติดขัดจนแทบไม่ได้ขยับไปไหน เลียมคงไม่วุ่นวายใจขนาดนี้หากไม่ใช่เพราะคำพูด น้ำเสียง และแววตาของไนออลที่บอกให้เขากลับไปร้านตอนหกโมงตรงนั้นบ่งบอกว่าหากเขาไปไม่ทันอาจจะเกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้น

     

                จากคนเคยใจเย็นแปรมาเป็นเลือดร้อนเพียงเพราะคนคนเดียวที่รู้จักได้ไม่ถึงสามวันดี เลียมตัดสินใจหักเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆก่อนลัดเลาะไปตามทางโดยการเดาสุ่มไปตามความรู้สึก หลังจากใช้เวลาอยู่สักพักเขาก็กลับมาที่ถนนสายย่อยที่รถไม่มากเหมือนถนนหลัก ล้อสีทึบบดเบียดพื้นซีเมนต์ด้วยความเร็วที่มากขึ้นทุกที ขณะที่ดวงตาคอยลอบมองนาฬิกาเป็นระยะ ยิ่งเวลาล่วงเลยหัวใจเจ้ากรรมก็ยิ่งเต้นแรงและบีบรัดอย่างหนักหน่วงด้วยความกระวนกระวายใจ

     

               

     

                และก่อนที่จะได้เป็นบ้าตายไปจริงๆเลียมก็ถึงที่หมาย

     

     

     

                ร่างสูงไม่รอช้าแทบจะกระโจนลงจากรถสาวเท้ายาวๆก้าวไปยังประตูร้านที่บัดนี้ถูกปิดเอาไว้บอกชัดเจนว่าเข้าใกล้ยามราตรีและที่แห่งนี้กำลังจะเปลี่ยนจากร้านอาหารธรรมดาเป็นผับผิดศีลธรรม ทันทีที่ย่างผ่านธรณีประตู เสียงเพลงและเสียงพูดคุยโหวกเหวกของผู้คนก็ดังกระโสตประสาท ดวงตาคมกวาดมองด้วยความหวั่นใจ ก่อนที่เขาจะสบเข้ากับดวงเนตรสีฟ้าที่กำลังมองมาด้วยแววตาหวาดหวั่นไม่ต่างกัน

     

                ทำไมคุณมาช้าขนาดนี้ ไนออลในชุดพนักงานชุดเดิมว่าเสียงติดกังวล

     

                ลูอีอยู่ไหน

     

                อยู่ด้านใน ตามผมมา กล่าวจบก็เดินนำโดยมีเลียมตามไปติดๆ

     

                ไนออลพาเขาเข้ามาหลังม่านสีกำมะหยี่อันมีห้องหลายห้องใช้เป็นสถานที่ทำงานของคนขายบริการ คนตัวสูงเดินผ่านห้องแล้วห้องเล่า เลี้ยวซ้ายทีขวาทีจนในที่สุดหยุดลงตรงห้องติดผนังซึ่งมีประตูสีดำถูกปิดสนิท

     

                “คุณมีเงินเยอะใช่มั้ย

     

                “ถามทำไมอีก เงินฉันมันทำไม

     

                “คุณต้องซื้อลูจากคนพวกนั้น

     

                ตงิดใจกับคำว่าคนพวกนั้นไม่ทันจะได้เอ่ยถามไนออลก็เคาะประตูอย่างแรงด้วยท่าทางร้อนรนจนน่าแปลกใจ อึดใจเดียวเท่านั้นที่ต้องยืนรอก่อนบานประตูเปิดออกและเลียมก็เข้าใจในทันทีว่าเหตุใดไนออลถึงแสดงออกแบบนี้เพียงแค่เขามาไม่ตรงเวลา

     

                 คนเปิดประตูคือชายหนุ่มร่างสูงผิวคล้ำเปลือยอกหน้าตาไม่จัดว่าแย่กำลังมองมายังเลียมและไนออลแบบหัวเสียสุดๆ มองเลยเข้าไปมีเตียงขนาดใหญ่ที่กลางห้อง ถูกจับจ้องด้วยผู้ชายลักษณะคล้ายกันอีกสามคนช่วยกันทำอะไรสักอย่างกับใครบางคนที่ถูกบังจนเลียมแทบมองไม่เห็น

     

                หากหัวใจกระตุกอย่างแรงราวกับโดนเข็มเล่มใหญ่ปักกลางอกเพียงได้ยินเสียงสะอื้นหวานสั่นเครือดังเล็ดรอดออกมาจากเตียงนั่น

     

                มีไรวะเจ้าของร่างสูงตรงหน้าเอ่ยถามเสียงห้วน เลียมในตอนนี้แทบไม่ได้สนใจเจ้าบ้านี่ด้วยซ้ำ ดวงตาเอาแต่จ้องมองเข้าไปด้านใน เห็นสวะตัวหนึ่งกำลังลากลิ้นสกปรกของมันไปตามซอกคอของลูอี อีกคนมอบรสจูบน่าขยะแขยงให้คนตัวเล็กโดยไม่สนใจหยาดน้ำใสที่ไหลนองดวงหน้าหวานนั่นเลยสักนิด และคนสุดท้ายที่กำลังยุ่งวุ่นวายกับเรียวขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำของลูอีก็ทำให้เลียมหมดความอดทน

     

                มือกว้างกำแน่นเช่นเดียว นัยน์ตาสีน้ำตาลที่เคยอ่อนโยนแข็งกระด้าง ก่อนเสียงทุ้มจะถูกเค้นรอดไรฟัน

     

    ออกไป

     

    ไปบ้าอะไรวะกำลังสนุก…”

     

     

     

    ผัวะ!

     

     

     

    หมัดหนักๆถูกซัดเข้าเต็มแรงตรงบริเวณแก้มซ้ายจนชายหนุ่มผิวคล้ำล้มไปกองกับพื้นก่อนได้พูดจบประโยค เลือดสีสดไหลซึมที่มุมปาก แต่แน่นอนว่าเลียมไม่สนใจหรอกสภาพเขาในตอนนี้แทบจะฆ่าคนได้ด้วยซ้ำ คนตัวสูงไม่รอช้าตรงเข้าไปเตะหนักๆกลางลำตัว เสียงทุ้มตะคอกอย่างเดือดดาล

     

    ฉันซื้อลูอีห้าเท่าจากที่พวกแกจ่าย! รีบไสหัวออกไปก่อนที่ฉันจะฆ่าพวกแกทุกคน!!!”

     

    ประโยคที่ทำให้คนทั้งสองหยุดการกระทำ และเมื่ออีกสามคนเห็นสภาพเพื่อนที่บัดนี้นอนแทบเท้าเลียมก็หันรีหันขวามองหน้ากันด้วยแววตาตื่นๆ ก่อนจะก้าวลงจากเตียงพร้อมใจกันเดินมาประจันหน้าด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด หนึ่งในนั้นทำท่าจะถลาเข้ามาชกเขาแต่เมื่อได้ยินประโยคต่อมาจากเจ้าของร่างสูงสง่าก็จำต้องยืนนิ่ง

     

     

    ฉันจะคืนเงินให้พวกแกสองเท่า

     

     

    รีบไสหัวไปไกลๆ!”

     

     

    มนุษย์โลภมากทุกคนเห็นเงินเป็นสิ่งสำคัญ

     

    ถ้าถือเอาอารมณ์เป็นใหญ่เลียมอาจจะต้องเจ็บตัวเล็กๆน้อยๆจากการมีเรื่องในเวลานี้ แต่เพราะคำว่า เงิน ที่ทำให้คนกลุ่มนั้นตัดสินใจยอมยกธง ทำได้แต่จัดการตัวเองแล้วปรายตามองเลียมด้วยแววตาเกลียดชังก่อนจะออกจากห้องไป เลียมฝากให้ไนออลจัดการเรื่องเงินที่ต้องจ่ายให้พวกเวรนั่นส่วนตัวเขาก็ปิดประตูล็อคกลอนให้ห้องทั้งห้องเหลือเพียงคนสองคน

     

    ลูอียังส่งเสียงสะอื้นไม่หยุด..และนั่นทำให้คนได้ยินอย่างเขาแทบขาดใจ ยิ่งเห็นกลีบปากบางบวมเจ่อ รอยมือบนพวงแก้ม และรอยช้ำเต็มซอกคอและแผ่นอกเปลือยเปล่าก็ยิ่งอยากฆ่าผู้กระทำให้ตายคามือ

     

    ไม่ต้องลังเลอะไรแล้วในเวลานี้

     

    ร่างบอบบางบนเตียงถูกโอบกอดด้วยเจ้าของกายสูงอบอุ่น เสื้อแขนยาวตัวโคร่งที่อยู่ปลายเตียงถูกสวมลงบนเรือนร่างบอบช้ำอย่างระมัดระวังขณะคนตัวเล็กสั่นสะท้านซุกหน้ากับแผ่นอกกว้างอย่างน่าสงสาร ริมฝีปากได้รูปประทับแผ่วที่บริเวณขมับพลางพร่ำเอ่ยเสียงนุ่มข้างใบหู

     

    ไม่เป็นไร ฉันอยู่ตรงนี้ฉันอยู่กับนาย ไม่ต้องกลัว

     

    ว่าพร้อมกระชับอ้อมแขนกระตรองกอดร่างเล็กเอาด้วยความทะนุถนอมเท่าที่คนอย่างเขาจะทำได้ ลูอีร้องไห้จนตัวสั่น มือน้อยกำอกเสื้อร่างสูงแน่น สัมผัสได้ถึงมือใหญ่อบอุ่นค่อยลูบแผ่นหลังอย่างช้าๆก่อนเปลี่ยนจับแผ่วเบาที่ปลายคางให้ลูอีได้เงยหน้าสบกับดวงตาสีน้ำตาลเต็มไปด้วยประกายอ่อนโยน

     

    มือคู่เดิมเลื่อนมาที่พวงแก้มบวมช้ำ สัมผัสซ้ำๆอย่างเบามือราวกับลูอีเป็นสิ่งล้ำค่าที่อีกฝ่ายพร้อมดูแลปกป้องด้วยชีวิต พาลให้น้ำตามากมายหลั่งไหลจนยากจะหยุดยั้งด้วยไม่เคยคิดว่าจะได้รับความอ่อนโยนแบบนี้จากใคร

     

    เลียมปล่อยให้คนตัวเล็กร้องไห้กับอกเขาไปเรื่อยๆหวังเพียงแค่ว่าลูอีจะได้ระบายอะไรๆออกมาบ้าง เลียมเชื่อว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูอีเจอเรื่องแบบนี้ แต่เพราะว่าไม่ใช่ครั้งแรกคนในอ้อมกอดถึงได้น่าสงสารและน่าปกป้องมากนัก กายบอบบางคู่ควรแก่การถูกถนอมมากกว่าถูกกระทำด้วยความรุนแรงอย่างที่เป็นมาตลอดแปดเดือน จินตนาการไม่ออกเลยว่าลูอีต้องทุกข์ทรมานมากแค่ไหนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่

     

    ต้องยอมให้มือสกปรกกี่ร้อยมือสัมผัสได้ตามใจชอบ

     

    ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะอ้อนวอนขอความเมตตา ในเมื่อนี่คือสิ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ

     

     

     

    พวกมันทำอะไรบ้างเสียงทุ้มแผ่วตัดสินใจเอ่ยถามหลังจากเห็นว่าร่างในวงแขนเริ่มสงบลง มีเพียงอาการสั่นน้อยๆและยังสะอื้นเท่านั้น

     

    คนถูกถามผละจากอกกว้าง ดวงหน้าเปื้อนน้ำตาเงยขึ้นใช้ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความหวาดกลัวมองกลับก่อนตอบพวกเขาเขาเขาเข้ามาแล้วก็จับฉันไว้แล้วเขาก็เริ่ม…”

     

    มันจูบนายด้วยใช่มั้ย

     

    คำตอบคือศีรษะที่ถูกปกคลุมด้วยผมสีเข้มอ่อนหน้ารับคำ

     

                เขาตบแล้วก็จูบฮึกเขาเอาแต่บังคับให้ฉันจูบเขาตอบมันมันเจ็บเขาพวกเขาผลัดกันแต่มันเจ็บฮึกเจ็บทุกคนเลย คำพูดที่ออกจากกลีบบางแห้งผากเคล้าไปด้วยเสียงสะอื้นทั้งน้ำตายังคงรินไหลเป็นสายธารส่งผลให้เรียวแขนแข็งแรงกระชับกอดมากยิ่งขึ้น

     

                คนตัวสูงนิ่งไปสักพักหนึ่งด้วยกำลังประมวลบางสิ่งบางอย่างภายในใจ เมื่อมั่นใจกับความคิดตัวเองก็ตัดสินใจถามออกไป

     

                ให้ฉันเอาสัมผัสของคนพวกนั้นออกให้มั้ย

     

                ลูอีมองมาอย่างไม่เข้าใจกับประโยคคำถามของเขา

     

                เลียมไม่พูดอะไรเป็นคำตอบ แต่กลับประทับเรียวบากลงบนริมฝีปากบางของร่างน้อยในอ้อมแขน

     

                ความอ่อนโยนของอีกฝ่ายทำให้ลูอียินยอมน้อมรับสัมผัสจากร่างสูงผู้โอบประครองตนเอาไว้ ไม่มีการรุกล้ำใดๆจากเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่น.. เป็นเพียงการค้างริมฝีปากบนริมฝีปากเท่านั้น หากลูอีรู้สึกได้ความอ่อนโยนมากมายที่ได้รับมาช่วยชะล้างสัมผัสรุนแรงที่ได้เคยรับให้สลายหายไป ร่างกายอ่อนแรงที่รู้ตนเองดีว่าพร้อมจะแตกสลายลงได้ทุกเมื่อถูกโอบหุ้มเอาไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแรงราวถูกปกป้องด้วยอัศวินผู้มีเมตตา เช่นเดียวกับหัวใจดวงน้อยที่คิดเสมอว่าไร้ค่าในบัดนี้มีคนถ่อมตนมาสนใยใจดี

     

                ให้ชีวิตที่เคยมืดมนได้แลเห็นแสงสว่างอีกครั้ง..แม้เพียงริบหรี่ก็ตามที

     

                หลังจากผละออกมาเลียมก็ค่อยๆประครองให้ลูอีนอนลงด้วยความเป็นห่วงว่าร่ายกายบอบช้ำจะได้รับการกระทบกระเทือนจากการกระทำของเขา คนตรงหน้าตอนนี้เหมือนแก้วเปราะบางที่พร้อมแหลกสลายได้ตลอดเวลา ควรคู่กับการสัมผัสอย่างแผ่วเบาให้มีเพียงความอ่อนโยนแตะลงบนพื้นผิวแก้วใบนี้ เอวบางถูกรั้งให้แนบชิดกับร่างกายของผู้แข็งแรงกว่าหวังให้ความหนาวเหน็บและความทุกข์มากมายที่ลูอีต้องแบกรับเอาไว้คลายลงบ้างแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี

     

               

     

                ไม่ต้องกลัวนะ

     

     

     

                “ฉันอยู่ตรงนี้

     

     

     

    จะไม่ให้ใครหน้าไหนมาทำอะไรนายได้ทั้งนั้น 

     

     

     

     

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

     

     

     

     

    The one you should call

    Was standing here all along..

     

     

     

     

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

     

     

     

     

              เป็นเวลาเกือบสองอาทิตย์แล้วที่เลียมแทบจะได้เรียกได้ว่ามานอนค้างที่ผับแห่งนี้ผ่านการซื้อลูอีตั้งแต่เย็นถึงเช้า แต่ถึงวันไหนต้องไปติดต่อธุรกิจกับทางบ้านเขาก็จะซื้อตัวลูอีไว้อยู่ดี ซึ่งทุกสิ่งเกิดขึ้นจากเหตุการณ์วันนั้นที่เลียมได้รู้ว่าคนขายสามารถบริการครั้งละมากกว่าหนึ่งคนได้ เขาไม่ต้องการให้ลูอีโดนการกระทำโหดร้ายแบบนั้นถึงได้ยอมเสียเงินซื้อลูอีไว้ทุกวัน พ่อเคยถามว่าทำไมเงินในบัตรถึงได้หดหายเร็วเป็นว่าเล่น เขาก็ตอบไปตามความจริง นอกจากจะไม่โดนด่าแล้วพ่อยังสนับสนุนอีกต่างหาก ถึงขั้นโทรไปบอกแม่ที่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศว่าลูกชายตัวเองกำลังทำตัวเป็นคนดีครั้งใหญ่ทุ่มทุนหลายสตางค์

     

                ก็ต้องขอบคุณปู่ย่าตายายที่เลี้ยงพ่อกับแม่มาด้วยความเมตตา ไม่ตีกรอบแบ่งชนชั้นของคนด้วยฐานะ ทำให้พ่อกับแม่สั่งสอนเขามาด้วยตรรกะแบบเดียวกัน

     

                ใส่ไปสิผ้าพันคอน่ะ ไม่หนาวรึไง

     

                และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เลียมเอาตัวเองมาขลุกอยู่ในห้องสี่เหลียมร่วมกับคนตัวเล็กในชุดกางเกงยีนส์ขายาวและเสื้อไหมพรหมขนาดพอดีตัวที่เลียมซื้อมาให้(โดยการลากคอเซนไปช่วยเลือก)เมื่อสามวันก่อน พอไม่ได้ให้บริการเรื่องอย่างว่ากับใครลูอีก็ดูอาการดีขึ้นกว่าสองอาทิตย์ก่อนมาก อย่างน้อยนัยน์ตาก็ไม่ได้เต็มไปด้วยความหม่นหมองอย่างที่ผ่านมา และเมื่อสี่ห้าวันก่อนตอนที่เลียมซื้ออาหารมากมายมากินด้วยกันวันนั้นเป็นวันแรกที่เลียมเห็นคนตัวเล็กยิ้มให้เขา

     

                สาบานว่ามันเป็นรอยยิ้มที่น่ารักที่สุดในโลกตั้งแต่เลียมเคยเห็นมา

     

                นายของพวกนี้มันแพงมากมั้ย คำถามเดิมๆตั้งแต่เลียมเริ่มซื้อนั่นซื้อนี่มาให้ถูกเอ่ยผ่านริมฝีปากบางที่มีเลือดฝาดไม่แห้งผากเหมือนอย่างเคย เลียมก็ตอบไปแบบที่เคยตอบไม่รู้กี่ครั้ง

     

                ถ้านายไม่ใส่มันฉันจะกลับตอนนี้แหละ การตอบรับก็ยังเป็นเหมือนเดิมคือลูอีรีบจัดการพันผ้าพันพอไหมพรหมสีเทารอบคอตัวเองแทบจะทันที มันเกิดขึ้นทุกครั้งเพียงแค่เลียมบอกว่าจะกลับหากลูอีไม่ทำตาม และเมื่อเห็นปฏิกิริยาแบบนั้นของคนตรงหน้าก็เรียกรอยยิ้มอบอุ่นฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลาด้วยความเอ็นดู

     

                เหมือนลูอีไม่อยากให้เขาไปไหน

     

                อยากให้อยู่ด้วยกัน

     

                มานี่มา เรียกให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ตนที่นั่งอยู่ปลายเตียง ลูอีก็ว่าง่ายยอมเดินมาหาก่อนผ้าพันคอที่ถูกพันไว้ลวกๆจะถูกจัดให้ใหม่โดยคนตัวสูงเจ้าขอรอยยิ้มบาง เห็นลูอียืนนิ่งแล้วก็อยากรวบตัวมานอนกอดให้รู้แล้วรู้รอด แต่เพราะเป็นวันนี้ถึงทำแบบนั้นไม่ได้

     

                เพราะวันนี้เป็นวันที่ 24 ธันวาคม

     

                เพราะวันนี้คือคริสมาสต์อีฟ

     

                เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของลูอี (รู้จากข้อมูลที่เซนหามา)

     

              สิ่งที่เลียมจะทำมันมากมายกว่าการนอนกอดร่างเล็กนี่บนเตียงอีก

     

                จะพาไปข้างนอกนะ พูดเหมือนมันเป็นเรื่องปกติมือพลางเอื้อมไปคว้าบีนนี่สีเดียวกับผ้าพันคอมาสวมทับบนกลุ่มผมนุ่ม ไม่วายเผลอช่วยจัดผมด้านหน้าให้อีกฝ่ายขณะที่ลูอียืนมองเขาด้วยสายตาตั้งคำถาม

     

                ไปไหน

     

                “ไปเที่ยว ตอบกลับแบบกำปั้นทุบดินด้วยน้ำเสียงนิ่งๆเหมือนเดิมไม่นำพาต่อใบหน้าคิ้วขมวดของคนตัวเล็กกว่าที่ดูเหมือนจะยังสงสัยไม่เลิก เลียมหัวเราะเบาๆแล้วดึงชายเสื้อไหมพรหมของลูอีลงจนสุด แล้วจับอีกคนหันไปหันมาเพื่อเช็คความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกายเพราะรู้ว่าข้างนอกนั่นพวกเขาต้องเผชิญกับอากาศหนาวกว่าในนี้มาก ไม่รู้ว่าติดลบกี่องศาแต่มันก็เป็นเรื่องปกติของฤดูกาล

     

                ดีซะอีกที่หนาว พรุ่งนี้ก็วันคริสมาสต์แล้ว ถ้าคริสมาสต์ไม่หนาวมันจะเป็นคริสมาสต์ได้ยังไง

     

                “..แล้วฉันออกไปได้เหรอ

     

                “ไนออลบอกว่าได้นี่ ตอนนี้นายเป็นคนของฉันนะใครมีสิทธิ์อะไรมาห้าม กล่าวอย่างไม่จริงจังนักมือคว้ามือเล็กเย็นเฉียบของลูอีมากุมไว้ ส่วนมืออีกข้างหยิบของจำเป็นของตนเองแล้วเริ่มจูงมือคนตัวเล็กเดินออกจากห้องมาด้วยกัน

     

                ไนออลที่ยืนบริการแขกอยู่ที่บาร์ยิ้มกว้างเมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กถูกร่างสูงกุมมือเดินเคียงข้างกัน เด็กหนุ่มผมบลอนด์ยิ้มร่าเดินเข้าไปหา

     

                จะพาลูไปแล้วเหรอเอ่ยถามเลียมระหว่างเอื้อมมือไปตบปุๆลงบนบีนนี่จนโดนลูอีจับมือไว้แน่น เลียมยิ้มส่งให้พลางตอบรับเสียงหนักแน่น

     

                อือ ไม่อยากรอนานกว่านี้แล้วล่ะ

     

                ดีแล้ว ขอบคุณคุณมากนะ ขอบคุณจริงๆว่าพร้อมคว้ามือหนามาเขย่ารัวๆบอกให้รู้ว่าเขากล่าวขอบคุณจากใจจริง ซึ่งเลียมก็ได้แต่ยิ้มแล้วจับมือไนออลตอบ

     

                ฉันเต็มใจทำ ดวงตาเหลือบมองคนตัวเล็กที่ยังจับมืออีกข้างของไนออลเอาไว้แล้วก็ต้องอมยิ้มเพราะลูอีกำลังมองสลับไปมาระหว่างเขากับไนออลด้วยแววตาคนขี้สงสัยที่พักนี้เลียมเห็นจนชินตา ไนออลกอดลูอีอยู่นานสองนานก่อนจะบอกลาแล้วผละไปทำงานของตนเองต่อ เลียมถึงได้พาร่างเล็กออกมาจากร้าน ดันให้อีกฝ่ายขึ้นรถแล้วบังคับให้ล้อเคลื่อนไปตามทาง

     

                ลูอีดูตื่นตาตื่นใจกับอะไรๆหลายอย่างที่ค่อยๆประจักษ์แก่สายตา สังเกตได้จากอาการหันซ้ายหันขวาและถามนู่นถามนี่ตลอดทาง ยิ่งเข้าใกล้ใจกลางเมืองที่มีรถติดมหาศาลแต่ตามตึกสูงแทบทุกตึก ต้นไม้แทบทุกต้นถูกตกแต่งด้วยไฟหลากสีลูอีก็ยิ่งแสดงอาการตื่นเต้นออกมามากเท่านั้น ดูน่ารักเหมือนเด็กๆจนคนที่ได้แต่เฝ้ามองอดยิ้มออกมาไม่ได้

     

                เพราะพรุ่งนี้เป็นวันคริสมาสต์วันสำคัญของใครหลายคนบนโลก วันที่เด็กๆจะได้ของขวัญ วันที่ครอบครัวจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หากสำหรับเลียมแล้วคริสมาสต์ปีนี้คงไม่ใช่ปีที่เขาจะใช้เวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนอย่างที่เคยเป็น

     

                ก็ตั้งใจไว้ว่าจะฉลองคริสมาสต์กับลูอี

     

                แต่ก่อนอื่นเขาต้องทำวันนี้ให้มันผ่านพ้นไปได้ด้วยดีซะก่อน

     

                ใช้เวลาไม่นานนักร่างสูงก็เลี้ยวรถจอดที่บริเวณล้านกว้างเต็มไปด้วยรถยนต์หลายสิบคัน คงทีจุดประสงค์เดียวกันคือจอดรถทิ้งไว้แล้วเดินไปรอบๆเชยชมบรรยากาศของคืนก่อนวันคริสมาสต์เช่นเดียวกับที่เลียมกำลังจะทำ

     

                มือน้อยเย็นเฉียบถูกกอบกุมด้วยมือใหญ่ที่อุ่นกว่า กระชับให้มือเล็กๆนั่นอยู่ในอุ้งมือมั่น เลียมพาลูอีเดินไปตามทางเท้า ร้านขายของหลายร้านเรียงรายเต็มข้างทาง เช่นเดียวกับผู้คนมากหน้าหลายตาทั้งเดินสวนมาและเดินตามกันไป บ้างสอดประสานจูงมือกันแนบแน่นเหมือนอย่างเขาทั้งคู่ บ้างเดินกับกลุ่มเพื่อนส่งเสียงหัวเราะเฮฮา หรือแม้แต่เดินเอื่อยมองดูของไปตามทางคนเดียวก็ยังมี

     

    นายรู้จักซานต้าครอสรึเปล่า ถามทั้งตายังมองของรอบกายไม่ได้ทอดมองไปที่ลูอีโดยตรง คนตัวเล็กสายหัวดิกแทนการตอบเพราะตาก็เอาแต่ให้ความสนใจกับสิ่งต่างๆที่ไม่ได้พบเจอมานานเหมือนกัน ท่าทางน่ารักจนรู้สึกหมั้นเขี้ยวต้องดึงบีนนี่ออกจากหัวแล้วจัดการขยี้ผมคนเคียงข้างอย่างมันมือ

     

    เลียม ผมยุ่งแล้วผมแทงตาด้วยลูอีก็ยังเป็นลูอีที่โวยวายได้น่ารักเหมือนเดิม มือเล็กๆพยายามจับมือเลียมให้เลิกยุ่งกับผมตัวเอง เจ้าของดวงหน้าหวานส่งสายตาละห้อยออดอ้อนให้เขาเลิกแกล้ง สายตาที่เห็นแล้วก็ใจอ่อนยอมสวมบีนนี่ให้อีกฝ่ายตามเดิมก่อนคว้ามือลูอีมากุมออกเดินไปพร้อมกันอีกครั้ง

     

    ไม่รู้จักซานต้าครอสได้ยังไงกันเนี่ยเขาออกจะดัง

     

    ใช่คนที่คอยแจกของขวัญวันคริสมาสต์รึเปล่า

     

    ไหนบอกไม่รู้จักไง

     

    เคยได้ยินป้าพูดให้ล็อตตี้ฟัง

     

    นั่นแหละ ซานต้าครอสเป็นตาแก่อ้วนๆพุงเผละที่มีเคราสีขาวหนาเหมือนขนแกะ ก่อนจะถึงวันคริสมาสต์ทุกๆปีซานต้าจะผลิตของขวัญไว้มากมาย ฉันไม่แน่ใจว่าเขาเริ่มแจกของขวัญวันไหนแต่คิดว่าจะน่าจะเป็นคืนก่อนคริสมาสต์นะ ถ้าแจกแค่วันคริสมาสต์วันเดียวก็คงแจกไม่หมด ใช่ไหมล่ะก้มหน้าถามคนด้านข้างพอเป็นพิธี ลูอีก็พยักหน้ารับถึงดวงตาจะเอาแต่มองนั่นมองนี่ก็เถอะ

     

    คนตัวสูงยิ้มเอ็นดูคนข้างกายที่แก่กว่าเขาตั้งสองปีแต่ดันทำตัวเหมือนเด็กๆก่อนเล่าต่อ

     

    ซานต้ามาจากขั้วโลกเหนือโดยเลื่อนบินได้ที่ถูกลากโดยกวางวิเศษ ไอ้ตัวที่คอยนำทางเป็นกวางจมูกแดงเรืองแสงได้ชื่อวูดอล์ฟ พอมาถึงที่นี่ซานต้าก็จะแอบเข้าไปเอาของขวัญใส่ถุงเท้าที่ถูกแขวนไว้ตามบ้าน ตาแก่นี่เก่งมากเลยนะ เขาแอบเข้าทางปล่องไฟทั้งที่พุงโตขนาดนั้นได้ด้วย ว่าจบก็ได้เสียงหัวเราะน่ารักจากลูอีเป็นการตอบรับ

     

    รอยยิ้มกว้างถูกจุดบนดวงหน้าหวาน ตามีแต่ประกายแห่งความสุข ง่ายดายต่อการเรียกให้คนเห็นพลอยยิ้มตามไปด้วย ลูอียิ้มแบบนี้ไม่บ่อยนัก แต่เลียมก็ยังจำครั้งแรกที่เขาได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้จากคนคนนี้ได้ดี.. เป็นรอยยิ้มน่ารักที่ทำให้เลียมมีความสุข ยิ่งตัวเขาเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยยิ้มแบบนั้นบนใบหน้าได้รูปก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกดี คิดแค่ว่าอยากจะเห็นลูอียิ้มให้ตนแบบนี้ในทุกๆวัน

     

    นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เลียมยอมทำอะไรเกินตัว

     

    นายรู้ไหมว่าซานต้าให้ของขวัญนายแล้วนะ

     

    ให้ฉันเหรอ

     

    ใช่ วันนี้วันเกิดนายด้วยนี่

     

                สิ้นคำ คนที่เอาแต่สนใจสิ่งรอบข้างก็หันขวับมามองเลียมด้วยความแปลกใจ ดวงตาเบิกกว้าง

     

    รู้รู้ได้ยังไง

     

    ฉันเก่ง ตอบอย่างทะเล้นพร้อมหัวเราะปิดท้าย ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนเดินมาจนทางเท้าแล้ว ถ้าเดินต่อไปก็ไม่มีร้านอะไรขาย เลียมถึงได้จูงมือลูอีเลี้ยวมาอีกทาง

     

    คนทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่ที่ใต้อาคารแสดงงานศิลปะที่เปิดไฟสว่างจ้าไปทั่วบริเวณแต่กลับไร้ผู้คนด้วยหมดเวลาทำการแล้ว มือหนึ่งคู่ยังสอดประสานกันไว้ไม่ยอมให้หลุดออก ก่อนที่คนตัวสูงจะเปลี่ยนจากยืนเคียงข้างเดินอ้อมมายืนด้านหน้าลูอีแทน หลังจากอมพะนำมาหลายวันเห็นทีว่ามันถึงเวลาที่เขาต้องบอกอะไรบางอย่าง

     

    อะไรบางอย่างที่เป็นเรื่องดีและเกี่ยวกับลูอีโดยตรง

     

    กระแสเสียงนุ่มทุ้มถูกเปล่งผ่านเรียวปากหยักกระทบโสตคนฟัง

     

    ไม่ต้องกลับไปที่นั่นอีกแล้วนะ

     

                ดวงตาคู่โตเบิกกว้างด้วยความตกใจระคนสับสน หากสายตาแน่วแน่ที่ทอดมองมากอปรกับคำพูดหนักแน่นเมื่อครู่ทำให้ลูอีสงบลงแทบจะทันที เสียงหวานตะกุกตะกักเพราะความไม่แน่ใจ

     

                ..หมายความว่าไงทำไมฉัน…”

     

                “ฉันใช้หนี้ให้นายหมดแล้ว ฉันซื้อตัวนายออกมาแล้วด้วย

     

                แต่แต่ว่ามันหนี้นั่นมันเยอะมากเลยนะ

     

                “มันก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่หรอก ว่าพร้อมกวาดรอยยิ้มบางส่งให้ ก่อนปลายนิ้วเรียวยาวจะเอื้อมไปสัมผัสแผ่วบริเวณพวงแก้มเนียนที่ตอนนี้เย็นเพราะอุณหภูมิ ลูบไล้ไปมาด้วยความอ่อนโยนเพียงเพื่อต้องการสัมผัสให้ได้รู้ว่าตอนนี้ ที่นี่ ลูอีอยู่ตรงนี้กับเขาแล้วจริงๆ สัมผัสเพื่อให้รู้ว่าต่อจากนี้ไปฐานะระหว่างเขากับลูอีไม่ใช่เพียงผู้ใช้และผู้บริการ สัมผัสเพื่อให้แน่ใจว่าคนที่เลียมยอมทำอะไรเกินตัวเพื่อช่วยออกมาจากสถานที่โสมมแห่งนั้นคือลูอีจริงๆไม่ได้เผลอจูงมือใครผิดมา

     

                แล้วก็รู้ รู้ว่านี่คือลูอีจริงๆ

     

                คือคนที่เขาต้องการจริงๆ

     

                ตะ..แต่ฉันฉันจะคืนให้แต่นายต้องรอคือฉัน…”

     

                “ของขวัญเกิดไง

     

                “หา…”

     

                “นี่คือของขวัญวันเกิดจากฉันให้นาย เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องคืนหรอก

     

     

     

              มากเกินไป

     

    เลียมทำให้เขามากเกินไปแล้ว

     

    ความตื้นตันในอกตีตื้นขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอก่อนความรู้สึกมากมายจะประเดประดังรวมตัวกันจนในที่สุดมันก็กลั่นตัวเป็นหยดน้ำตารินไหลออกจากขอบตา ภาพใบหน้าของเลียมพลันพร่ามัวจนต้องซบใบหน้าลงกับฝ่ามือแล้วส่งเสียงสะอื้นอย่างไม่อาจควบคุมได้ ไหล่เล็กสั่นสะท้านเช่นเดียวกับกายบอบบางที่ดูอ่อนแรงคล้ายจะล้มลงได้ทุกเมื่อ ร้อนถึงคนตัวโตกว่าต้องรั้งคนขี้แยเข้าสู่อ้อมแขน รอยยิ้มเอ็นดูยังฉายชัดบนดวงหน้าขณะเอนตัวไปมาเหมือนปลอบเด็ก

     

    ร้องไห้ทำไมเนี่ย เสียงทุ้มกลั้วหัวเราะถามทั้งมือยังประครองร่างเล็กกว่าเอาไว้แนบอก รับรู้ถึงอาการสั่นน้อยๆและความเปียกชื้นบริเวณแผ่นอกจากน้ำตาของลูอีที่ยังไหลเหมือนเขื่อนแตก สถานการณ์แบบนี้มันไม่ควรขำหรอกนะแต่ลูอีน่ารักจนเลียมหลุดหัวเราะ ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะร้องไห้ทำไมในเมื่อเขาไม่ได้บอกว่าซื้อลูอีมาฆ่าสักหน่อย

     

    ฉันฮึกขอบคุณนะ….ขอบคุณนะเลียม….ขอบคุณฮึกขอบคุณนะเลียมขอบคุณ

     

    พูดครั้งเดียวฉันก็เข้าใจแล้วน่า

     

    ฉะ..ฉันจะคืนให้ฉันจะทยอยคืนนี่มันมากเกินไปฮึกนายให้ฉันมากเกินไป

     

    น่ารัก

     

    รู้แล้วว่าลูอีน่ารัก แต่ไม่คิดว่าจะน่ารักได้มากขนาดนี้ ได้ข่าวว่าบอกไปแล้วว่าไม่ต้องคืนให้ เต็มใจทำให้ ลูอีก็ยังเอาแต่พูดอยู่ได้ว่าจะคืนจะคืน

     

    เอาจริงแล้วหนี้กับค่าตัวลูอีรวมกันมันก็ถือว่าเยอะ แต่เงินแค่นั้นมันไม่ทำให้ครอบครัวเขาได้รับการกระทบกระเทือนอะไรหรอกนะจริงๆ

     

    งั้นเอางี้ อยากนายอยากคืนจริงๆ ฉันมีข้อเสนอให้

     

    พูดด้วยรอยยิ้มทะเล้น แสร้งทำหน้าตาครุ่นคิดให้อีกฝ่ายคอยสดับ

     

     

    “…”

     

     

     

     

     

    ฉันสัญญากับป้านายเอาไว้ว่าพอช่วยนายออกมาได้ ฉันจะช่วยดูแลครอบครัวนายด้วย

     

     

     

     

    ข้อเสนอแรก นายจะกลับไปอยู่กับป้าและน้องๆก็ได้ แต่ทำใจไว้เลยว่าฉันจะไปหานายทุกวันแน่ จะนอนค้างด้วย

     

     

     

     

     

    แล้วก็ข้อเสนอที่สอง ฉันกะจะซื้อบ้านในหมู่บ้านใกล้ๆกับบ้านฉันให้ครอบครัวนาย ส่วนนายก็ต้องมาอยู่ที่บ้านฉัน แต่จะไปหาป้ากับน้องตอนไหนก็ได้ แล้วก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น

     

     

     

     

    ถ้านายยอมรับข้อเสนอหนึ่งในสองข้อนี้ นั่นเท่ากับว่านายคืนเงินฉันแล้ว …. ว่าไง

     

     

     

    ฉันไม่รู้คือฉัน…….”

     

     

     

     

    ก็แปลว่าตกลง งั้นต่อจากนี้นายไม่ใช่คนให้บริการแล้วนะ แล้วฉันก็ไม่ใช่คนใช้บริการแล้วด้วย เราเปลี่ยนสถานะกันแล้ว

     

     

     

     

     

    “..เปลี่ยนอะไร

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ก็เปลี่ยนเป็นฉันคือคนของนาย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    และนายก็คือคนของฉันไง

     

     

     

     

     

     

     

    พูดจบก็ถือโอสกาสที่คนตัวเล็กทำสีหน้ามึนงงเหมือนกำลังประมวลผลคำพูดของเขาใช้มือเรียวเกลี่ยน้ำตาบริเวณพวงแก้มออกให้ ก่อนริมฝีปากอุ่นจะประทับลงแก้มเปียกชื้นอย่างรวดเร็วแล้วผละออก รอยยิ้มแห่งความสุขปรากฏบนวงหน้าสลัก

     

                สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวต้องแอบขโมยหอมแก้มเนียนใสอีกจนได้เพราะลูอีที่เหมือนเพิ่งเข้าใจอะไรๆทำปากยื่นเหมือนจะร้องไห้ออกมาอีกรอบ

     

     

              น่ารักเกิ๊น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แล้วก็อ้อ... เลียมไม่ได้บอกลูอีหรอกนะว่าซานต้าครอสของเด็กๆทั่วโลกมีชื่อว่า เซนต์นิโครัส

     

     

               

                นั่นก็เพราะซานต้าครอสคนนั้นไม่ใช่ซานต้าครอสของลูอี

     

     

     

                ก็ซานต้าครอสของลูอีน่ะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

           ชื่อว่า เลียม เพย์น ต่างหาก J

     

     

     

     

    (แล้วเขาก็หล่อกว่าตาลุงนั่น แถมยังไม่อ้วนพุงพลุ้ยด้วย)

     

     

     

     

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

     

     

     

     

    Just close your eyes

    Each lovin' day

    And know this feeling won't go away

    Every word I say is true

    This I promise you..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    - - - - - - - - - - This I promise you - - - - - - - - - - - -

     

     

     

     

     

     

     

             

     

     

     

     

     

    @puppapxiion

     

    เป็น SF ที่กัดกินวิญญาณมากจริงๆ

    คือลูมาเกิดอะไรอาทิตย์ชาวบ้านเขาสอบ TOT

    อ่านหนังสือไปแว๊บมาปั่นฟิคไปโธ่….

     

    รู้สึกมันไม่ค่อยดี คือยาวเกิ๊น แต่ตัดออกไม่ได้จริงๆ

    ปั๊บรู้ว่ามันน่าเบื่อ แต่ก็ขอบคุณคนที่อ่านจบนะคะ TT *จุ๊บสามที*

    คือจบอนาถใจมาก ขออภัย 5555555555555555555555555

     

    ก่อนไปคือจะบอกว่า เวิ่นลงทวิตด้วยแท็ก #4loveforLOU นะตะเองน้องขอ *O*

    แล้วก็สุขสันต์วันคริสมาสต์นะครัชทุกคน

     

     

     

    เหนือสิ่งอื่นใด สุขสันต์วันเกิดนะลูอี ทอมลินสัน เลิ้ฟ :3


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×