คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 10 :: “เพราะร่างกายของนายคือสิทธิของฉัน!!!!!!”
Chapter 10 :: “เพราะร่างกายของนายคือสิทธิของฉัน!!!!!!”
8.Talk
มันนานเกินไปแล้ว!
นี่มันเกือบจะสองอาทิตย์แล้วที่ไอ้บ้าเซนไม่โผล่หัวมาให้ผมเห็น ไปถามเพื่อนที่คณะก็บอกว่ามันไม่ได้เข้าเรียนมาเกือบสองอาทิตย์แล้วเช่นกัน
ไอ้บ้านั่นไปไหนวะ!?
ให้ตาย ถ้ามันจะหายไปไหนนานๆปกติมันต้องบอกผมนะ แต่นี่ … อยู่เฉยๆก็หายไป มันชักทะแม่งๆแล้วสิ
“พี่แป้ง ไอ้เซนมันได้มาทำงานมั้ย?”ผมเอ่ยพี่แป้งถามเมื่อเดินเข้ามาในร้านเรดแมงโก้ ร้านไอศกรีมที่เซนทำงานอยู่ พี่แป้งเงยหน้ามองผม สีหน้าของธอดูไม่ดีเท่าไหร่นัก
“ริท เซนไม่ได้มาทำงานเป็นอาทิตย์แล้ว แนนบอกว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนฝากเซนปิดร้าน แล้ววันต่อมาแนนก็เห็นร้านไม่ได้ล็อค แล้วก็มีอะไรนี่ตกอยู่ที่พื้น”เสียงเธอเหมือนจะร้องไห้ พี่แป้งชูสิ่งของในมือขึ้นให้ผมดู และสิ่งนั้นมันคือสิ่งที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“เป้ของเซน …นี่มันเป้ของเซนนี่พี่ ทำไมตกอยู่บนพื้นได้ล่ะ!?”ผมรับเป้นั่นมาสำรวจพร้อมเอ่ยถามเสียสั่นๆ มันชักไม่ดีแล้วนะแบบนี้ …
เป้ของเซนมันมีรอยขาดเหมือนโดนกระชาก ส่วนสิ่งของข้างในก็เหมือนถูกยัดๆลงไปไม่ได้ตั้งใจจัดทั้งที่เซนมันเป็นคนเรียบร้อยนะ ไม่น่าจะปล่อยให้เป้ตัวเองเละเทะแบบนี้
“มีกุญแจ แล้วผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ด้วยด้วยนะริท”พี่แป้งยื่นกุญแจที่มีพวงที่ห้อยเป็นสัญลักษณ์ของร้านเรดแมงโก้และผ้าเช็ดหน้าให้ผม ผมรับมันมาแล้วพิจารณา สิ่งของสองสิ่งนี่ผมไม่คุ้นเคยสักอย่าง
“กุญแจนั่นน่ะเป็นกุญแจที่แนนฝากให้เซนใช้ปิดร้าน ส่วนผ้าเช็ดหน้าเป็นของใครก็ไม่รู้”
“แล้วแนนมันยังบอกอีกว่า วันต่อมา เก้าอี้ โต๊ะล้มระเนระนาดไม่เป็นระเบียบเลยนะริท”ประโยคนี้ของพี่แป้งแทบทำให้ผมวิ่งถลาออกมาจากร้านโดยไม่ต้องคิดอะไรต่อไป ทุกสิ่งอย่างบอกว่าเพื่อนของผมไม่ได้หายไปเพราะจำเป็น … แต่เซนหายไปเพราะถูกลักพาตัว!
“ริทไปก่อนนะพี่แป้ง”ผมหยัดผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นใส่เป้ของเซนแล้วกระชากเอามันมาด้วย ตัวช่วยของผมตอนนี้คือพี่โตโน่ พี่ซิง และพี่แบงค์ … พอดีผมมันไม่ค่อยมีเพื่อสนิทน่ะ - -
ผมวิ่งให้เร็วที่สุดโดยใช้ทางลัดเพื่อไปที่หลังหอของพี่โตโน่ ผมมั่นใจว่าพวกเขาอยู่ที่นั่นเพราะวันนี้พี่โตโน่ไม่มีเรียน
“ไอ้โน่คนโก้ ~! มึงกับน้องริทตัวเล็กเป็นไงบ้างวะ”เสียงทะเล้นๆของพี่ซิงดังมาแต่ไกล นั่นทำให้ผมมั่นใจขึ้นไปอีกว่าพี่โตโน่ต้องอยู่ที่นั่นแน่ๆ
“อะไรของมึง - - หุบปากไปเลยไป”และนั่นก็คือเสียงพี่โตโน่คนโก้นั่นเอง ผมว่าแล้วว่าพวกเขาต้องอยู่ที่นี่
ฟุบ!
“พี่โตโน่ แฮกๆ …”ผมวิ่งลัดพุ่มไม้มาก่อนเอ่ยเรียกชื่อพี่โตโน่ทั้งที่ตัวเองก็แทบไม่มีแรงหายใจ … ทำไมแค่วิ่งมันเหนื่อยขนาดนี้นะเนี่ย!
“โอ้ววว พูดถึงก็มาเลยวุ้ย~”พี่ซิงยังคงกวนตีนต่อไป ส่วนผมก็หอบแฮกๆอยู่สักพัก เมื่อหายใจได้เป็นปกติสุขก็รีบเดินเข้าไปหาพี่โตโน่อย่างรวดเร็ว
“นายจะมาลากฉันไปไหนอีกวันนี้”
“พี่ต้องช่วยริทนะ”ผมไม่ตอบคำถามแต่ฟุบนั่งลงที่เก้าอี้หินอ่อนข้างๆโตโน่แทน พี่แบงค์เหล่มองผมแบบงงๆผิดกับพี่ซิงที่ทำหน้าตาลั้นล้าชื่นบาน - -
“ช่วยอะไร?”
“เซนหายไป”ผมรีบเข้าเรื่องทันที ตอนนี้ในใจผมมันร้อนรนยิ่งกว่าไฟซะอีก ให้ตายจริงๆ
“หายไป?”พี่โตโน่ยังไม่เข้าใจในคำพูดของผมเท่าไหร่ ผมก็เลยถือโอกาสนี้เท่าเรื่องทั้งหมดให้พี่โตโน่ พี่ซิง และพี่แบงค์ฟังพร้อมๆกันซะเลย
“งั้น ไอ้เป้นี่ก็ของเพื่อนนาย?”พี่ซิงถามขึ้นหลังจากฟังผมเล่าประมาณห้านาที ผมพยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบ นึกอยากจะขอน้ำโค้กในมือพี่แบงค์มากระดกเข้าปากสักคำให้ชื่นใจเพราะตอนนี้ผมแทบไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว = =
“แล้วจะทำยังไง?”
“ริทก็ถึงมาขอให้พี่ช่วยนี่ไง”
“แล้วพวกฉันจะช่วยยังไงเนี่ย…”
“ก่อนอื่นพวกนายก็ต้องไปถามคนที่อยู่ใกล้ๆร้านว่าเห็นเหตุการณ์ตอนเซนถูกจับตัวไปรึเปล่า”นั่นเป็นประโยคแรกของพี่แบงค์ที่ผมได้ยิน เห็นเงียบๆนั่งกินแต่น้ำโค้กแบบนั้น … ที่จริงพี่แกก็ฉลาดเหมือนกันนี่หว่า - -;;
“เออ งั้นไป”พี่โตโน่ว่าแล้วลุกขึ้นทันที พวกเราทุกคนรีบลุกตามแล้วเดินตามกันไปที่ร้านเรดแมงโก้
ประสาทจะแดก! ใครหน้าไหนมันจับเพื่อนผมไปวะ! ให้ตาย ไอ้เซนมันจริงผอมๆอยู่ จับมันแรงๆทีเดียวกระดูกก็หักแล้วมั้งนั่นน่ะ อย่าให้รู้นะ ผมจะแจ้งตำรวจเอามันเข้าคุก!
--------------------------------------
หลังจากวันที่ถูกจับมา…นี่ก็ปาเข้าไปประมาณสองอาทิตย์แล้วที่เซนไม่ได้ทำอะไรนอกจากนอนอยู่บนเตียง โซ่เส้นใหญ่ทำหน้าที่กักตัวเขาไว้กับเตียงนี่ตลอดเวลา รวมไปถึงบาดแผลต่างๆที่ยังไม่หายดีและชายชุดดำร่างกายกำยำสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูโกดัง นั่นทำให้แผนการคิดหนีของเซนถูกตัดทิ้งไปทันที
ตลอดระยะเวลาที่เขานอนอยู่คนเตียงนี้ ในเวลาเย็นๆของทุกๆวันจะมีเสียงปืน เสียงคนต่อยกัน เสียงตะโกนนู้นนี่นั่นดังมาให้ได้ยินแทบจะทุกวัน ถ้าจะให้เดาก็คงเป็นการฝึกของชายชุดดำนับห้าร้อยคนที่วนเวียนอยู่ในเขตของรั้วบ้าน
และหลังจากวันนั้น…นอกจากเกตที่มักจะเอาอาหารมาให้กับชายชุดดำสองสามคนที่เดินเข้ามาดูแลความเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีใครคนไหนโผล่เข้ามาในโรงนี้อีกเลยสักคนเดียว
นั่นรวมไปดึงเด็กหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งคนนั้นด้วย…
ร่างบางในสภาพใส่เฝือกที่ข้อมือด้านซ้าย บาดแผลตามใบหน้ายังมีรอยช้ำเป็นย่อมๆ อีกทั้งรอยแดงตามร่างกายและลำแขนยังปรากฏอยู่แม้ว่าจะเลือนลางจนแทบจะมองไม่เห็นนอนอยู่บนเตียงตัวเดิมที่เป็นที่พักพิงของเขานับสองอาทิตย์ บรรยากาศภายนอกเริ่มเข้าสู่ยามเย็นและเป็นเรื่องปกติที่วันนี้จะมีเสียงปึงปังจากภายนอกดังเล็ดรอดเข้ามารบกวนการอยู่ในโลกนิทราของเซน
เปลือกตาบางขยับขยุกขยิกด้วยความขัดใจเมื่อมีเสียงดังเข้าโสตประสาททำให้เขาหงุดหงิด แต่ไอ้เสียงพวกนั้นก็ไม่ได้ทำให้เซนตัดสินใจพาตนเองออกมาจากโลกแห่งความฝัน ร่างบางยังคงหลับตาพริ้มไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้นมาง่ายๆ
“ตื่นได้แล้ว พี่เก่งต้องการตัวพี่”เสียงใครสักคนดังก้องไปทั่วโกดังเป็นนาฬิกาปลุกชั้นดีที่สามารถทำให้เซนแทบจะสะดุ้งตื่น
ร่างสูงของเด็กหนุ่มวัยสิบห้าก้มลงปลดล็อคโซ่จากขาเตียงมาถือไว้ในมือ เซนมองการกระทำนั่นไม่วางตา… ไม่ใช่สิ.. ต้องพูดว่าเซนจ้องมองร่างแสนคุ้นเคยนั่นแทบไม่กระพริบตาต่างหาก
“สิ่งที่พี่จะสนใจไม่ใช่ผม พี่ควรจะคิดว่าจะรับมือกับพี่เก่งยังไงมากกว่า …ลุกขึ้นแล้วเดินตามผมมา”น้ำเสียงนั้นฟังดูเย็นชาจนคนได้ยินนั่งแข็งทื่ออยู่บนเตียง ไม่กล้าแม้แต่ละขยับหรือเอ่ยถามทุกสิ่งทุกอย่างที่สงสัยออกไป สายตาคมตวัดของเซนเป็นเชิงสั่ง ราวกับมีแรงกดดันทำให้เซนต้องรีบลุกขึ้นจากเตียงลงมายืนอยู่บนพื้นใกล้ๆไอซ์จนได้
“ตามผมมา”คำสั่งประโยคสุดท้ายก่อนร่างสูงนั่นก้าวเดินนำหน้า ในมือของไอซ์ยังถือโซ่ที่ล็อคไว้กับข้อเท้าของเซนไว้อยู่ ร่างบางรีบสาวเท้าเดินตามโดยเร็ว
แผ่นหลังกว้างตรงหน้า … ไม่เคยมีสักวันที่เซนจะลืมมัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านมาหนึ่งปีแล้วก็ตาม ความทรงจำทุกอย่างของคนตรงหน้าเขายังสามารถจดจำมันได้เป็นอย่างดี แม้ว่าไอซ์จะบอกให้ลืมไปตั้งตีปีก่อน… แต่เหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ที่ไอซ์ทำข้าวเขาหกจนถึงวันที่คนคนนี้จากไป …
เซนสามารถจำมันได้ทุกอย่าง
…ที่จริงแล้ว ‘เขาไม่เคยคิดจะลืมมัน’ ต่างหาก
หมับ!
ไวกว่าความคิดเมื่อร่างทั้งร่างโถมเข้ากอดร่างสูงโปร่งไว้เต็มแรง แรงทั้งหมดยื้อให้ไอซ์หยุดเดินแล้วกลายเป็นหินที่ได้แต่ยืนแข็งทื่อ
“นายกลับมา…”น้ำเสียงเจือไปด้วยความดีใจและความเจ็บปวดที่คละเคล้ากันเอ่ยออกมาแผ่วเบา ใบหน้าขาวซบลงบนแผ่นหลังกว้าง เรียวแขนขาวทั้งสองข้างกอดร่างสูงให้แน่นขึ้นราวกับโหยหามานานแสนนาน
“ปล่อย”ไอซ์กล่าวเสียงเรียบพร้อมด้วยอุ้งมือแข็งแรงทั้งสองข้างแกะลำแขนของเซนออก แต่ร่างบางไม่ยอม แรงทั้งหมดที่มีพยายามโอบกอดไอซ์ให้นานที่สุด…
เมื่อให้ความอบอุ่นของร่างสูงทดแทนรอยความปวดร้าวที่มีมาตลอดหนึ่งปี
“ตั้งแต่วันที่นายเดินจากไป …ฉันไม่เคยลืมเรื่องของนาย ไม่เคยลืมเรื่องของเรา…”เซนเอ่ยอู้อี้ๆในลำคอเหมือนคนบ้าที่ไร้สติ ใบหน้ายังคงซบลงบนแผ่นหลังแข็งแรงนั่น ร่างบางไม่สนใจแรงขัดขืนของไอซ์ เขาคิดเพียงแค่ว่า… แค่เวลานี้ ขออยู่แบบนี้ให้นานที่สุด
“ผมบอกให้ปล่อย”ไอซ์เริ่มขึ้นเสียงเป็นคำสั่ง แต่ร่างบางไม่ยอมให้ร่างสูงออกจากอ้อมกอดตนง่ายๆ แรงทั้งหมดถูกโอนมาที่เรียวแขนทั้งสองข้างที่ถูกใช้เป็นสิ่งยึดไอซ์ไว้กับเขา
“บอกให้ปล่อยไงเล่า!!!”คำตวาดตามด้วยแรงที่มีมากกว่าสองเท่าผลักร่างบอบบางจนกระเด็นออกไปก่อนล้มลงกับพื้น สายตาไม่ใยดีถูกส่งไปให้ ‘อดีตคนรัก’ ร่างสูงกระตุกโซ่ในมือเบาๆเป็นการสั่งให้เซนลุกขึ้นมา
“ทำไม…โอ๊ย!”ยังไม่ทันที่จะเอ่ยอะไรไปมากกว่านั้น แรงลากโซ่ที่กระชากอาข้อเท้าของเซนทำให้ร่างทั้งร่างถูกลากไปกับพื้นเป็นเหตุทำให้ร่างบางส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเสบ ไอซ์หยุดมือที่กำลังลากโซ่ไว้เพียงแค่นั้นก่อนมองด้วยแววตาแข็งกร้าว
“ลุก!”ประโยคคะตอกนี้ทำให้เซนรีบลุกขึ้นยืนทั้งที่สองแสบข้อเท้าไม่หาย ไอซ์ไม่เอ่ยอะไรอีกนอกจากเดินนำหน้าออกไปจากโรงเพื่อตรงไปยังบ้านใหญ่
“ทำไมพึ่งมา ฉันว่าฉันสั่งแต่แต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้วแล้วนะไอซ์”ประตูห้องนอนถูกเปิดออกตามมาด้วยสองร่างที่เดินเข้ามาในห้อง
“เขาหลับอยู่ ผมก็เลยพยายามปลุก”แน่นอนว่านั่นเป็นแค่ข้ออ้าง
“วิธีปลุกที่เร็วกว่านี้มี แกก็รู้”
“ผมจะเก็บไว้ให้พี่จัดการเองไง อะ”ไอซ์ว่าอย่างนั้นพลางโยนปลายโซ่ในมือให้กับเก่ง หัวเราะมาเฟียรับมันมาพร้อมหัวเราะในลำคอ ร่างโปร่งมองเซนด้วยหางตา นัยน์ตาคู่นั้นปรากฏประกายดุดันและระริกระรี้ไปพร้อมๆกัน
“ขอบใจ ไปได้แล้ว”เก่งหันไปสั่งไอซ์ เด็กหนุ่มยักไหล่น้อยๆก่อนเดินออกมาโดยไม่ลืมที่จะกดล็อคประตูจากด้านในให้เจ้าของห้องได้สนุกกับการเล่นของเล่นอย่างเต็มที
“ผมขอโทษ”ร่างสูงกล่าวกับตัวเองเบาๆ แววตาคู่เดิมที่เคยมองเซนด้วยความเย็นชาบัดนี้มันกลับจ้องมองไปที่บานประตูห้องของเก่งด้วยความรู้สึกผิดและนึกสงสารคนเคยรักของตนเองที่ต้องกลายมาเป็นของเล่นและคนใช้ของหัวหน้าคนนั้น
โลกกลมเกินไป … หรือเป็นเพราะในชาติก่อนเซนทำกรรมไว้มากเกินไปถึงต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายพวกนี้ ?
-----------------------------------------
“ดีที่รากนายมันไม่งอกติดกับเตียง เพราะไอ้สวะพวกนั้นแท้ๆทำให้ฉันต้องเลื่อนเวลาการเล่นกับนายไปอีกตั้งสองอาทิตย์”ปากก็เอ่ยไปอย่างอารมณ์ดีมือก็จัดการล็อคโซ่นั่นไว้กับขาเตียงพร้อมล็อคแม่กุญแจใหญ่ไว้อย่างหนาแน่น
คงจะไม่ให้เซนได้มีโอกาสหนีเลยสินะ
“คุณจับผมมาทำไม”ร่างบางยืนประชันหน้ากับเก่งอย่างไม่เกรงกลัว หัวหน้ามาเฟียที่มีผิวขาวโอโม่ยิ้มเหยียดๆบริเวณมุมปากพร้อมเขยิบเข้าใกล้ของเล่นของเขาอย่างนึกสนุก
“นายคิดว่าฉันจับนายมาทำไมล่ะ?”น้ำเสียงฟังดูไม่จริงจังขัดกับแววตาเจ้าเล่ห์นั่นโดยสิ้นเชิง มือขาวเชยค้างมนของคนตัวเล็กกว่าให้ตาสวยของเซนสบกับสายตาของเขาตรงๆ
“อย่ามาแตะต้องตัวผม!”แต่เซนไม่รับมุกของร่างสูงโปร่งตรงหน้า ใบหน้าเรียวสะบัดไปอีกทางพร้อมตะโกนถ่อยคำที่หยิ่งในศักดิ์ศรี
ถึงจะเป็นแค่คนจนๆคนหนึ่ง … เขาก็ยังมีศักดิ์เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกันล่ะวะ!
“นายคิดว่านายเป็นใครถึงมาสะบัดหน้าหนีฉัน!!!”เก่งตะวาดเสียงดังลั่นห้องจนร่างบางเผลอก้าวถอยหลังด้วยความกลัว แววตาดุดันจ้องลึกลงไปในนัยน์ตาสีสวยที่สั่นระริก ขายาวๆนั่นก้าวตามเซนจนตัวของเขาปะชิดกับแผ่นอกแบนราบ
“เป็นคนที่คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้!!!”ใจดีสู้เสือเห็นจะเป็นสำนวนที่เข้าท่าที่สุด แม้ร่างกายจะเริ่มถดถ้อยด้วยความหวาดกลัว แต่ปากเจ้ากรรมก็ดันเถียงออกไปก่อนที่สมองจะสั่ง สิ่งที่ได้กลับมาคือดวงตาคมที่ถลึงมองเขาอย่างโกรธเกรี้ยว
“ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ์!!!! นายคิดว่าที่ฉันจับนายมาเพื่อให้นายมตั้งหน้าตั้งเถียฉันคอเป็นเอ็นรึไงกัน!!!!!!”อารมณ์เดือดที่ฉุดเอาไว้ไม่อยู่ ร่างสูงโปร่งตะคอกใส่หน้าเซนเสียงดังพร้อมกับใบหน้าหล่อใสนั่นเข้าไปใกล้พวงแก้มขาวจนริมฝีปากของเก่งจะประจบกับแก้มของเซนอยู่รำไร
“อะ ออกไปนะ!!!”เสียงสั่นเครือสั่งอย่างหวาดๆ แต่มีหรือที่หัวหน้ามาเฟียผู้ไม่เคยยอมใครจะทำตามโดยง่าย เก่งเพียงแค่หัวเราะหึหึพร้อมรอยยิ้มแสยะที่เล่นเอาเซนขนลุก
“ฟังไว้นะ … ตราบในที่นายยังอยู่ที่นี่ นายคือของของฉัน!!!”
“อุ๊บ…!!!”
สิ้นประโยคแสดงความเป็นเจ้าของ ริมฝีปากอบอุ่นก็ประทับเข้าจรดที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายทันทีอย่างรวดเร็ว สองมือใหญ่จับแขนทั้งสองของร่างบางให้อยู่นิ่งๆ ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าภายในโพรงปากอุ่นอย่างชำนาญ เซนพยายามขัดขืนทั้งดิ้นทั้งเม้มริมฝีปากไว้ แต่แน่นอนว่าแรงของเขาไม่สามารถสู้กับคนที่ตัวใหญ่กว่าได้ เก่งเปลี่ยนมาเป็นกอดรัดร่างบอบบางนั่นไว้แน่น
“อื้อ!”เสียงอื้ออึงในลำคอเป็นสัญญาณให้เก่งหยุดการกระทำนี้ซะ แต่ร่างสูงเลือกที่จะไม่สนใจ ลิ้นร้อนยังคงบุกรุกอาณาเขตภายในโพรงปากของเหยื่อไปเรื่อยๆ ความหอมหวานที่ทำให้เก่งติดใจจนไม่อาจปล่อยไปได้ง่ายๆ ลิ้นเรียวตวัดไปทั่วโพรงปาก กอบกอมเอาความอบอุ่น ความอ่อนหวานจากข้างในให้สมกับที่เขาต้องการ
“อื้อ! อื้อ!! อื้อออ!!!!!”เซนเริ่มดิ้นเร่าๆในอ้อมกอดเก่งอีกครั้ง คราวนี้หัวหน้ามาเฟียยอมผละริมฝีปากออกมา เก่งเลียริมฝีปากตัวเองไปมาพร้อมทำท่าจะก้มลงจูบร่างบางอีกรอบ
เพี๊ยะ!!!
“ผมไม่ใช่ของของคุณ!!!!!”
ก่อนที่จะถูกล่วงเกินครั้งที่สอง ฝ่ามือเรียวที่ไม่ได้ใส่เฝือกรีบฟาดไปที่แก้มของร่างสูงโปร่งตรงหน้าเต็มแรง ใบหน้าของเก่งหันตามแรงตบ รอยแดงเริ่มปรากฏขึ้นที่แก้มด้านขวาของเขาทีละนิดๆ
“หึ…”เขาหัวเราะเสียงเหี้ยมพร้อมค่อยๆหันใบหน้าตนเองมาสบตากับเซน ดวงตาทั้งสองข้างดูแข็งกร้าวและน่ากลัวจนทำให้เซนเผลอตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ
หมับ!
“ฉันสามารถจะทำอะไรกับนายก็ได้…”เขากล่าวเสียงรอดไรฟัน มือข้างหนึ่งบีบแก้มของเซนอย่างแรง เก่งผลักร่างบางจนแผ่นหลังของเซนติดกับผนัง ก่อนข่มไหล่ให้นั่งลงกับพื้น “เพราะร่างกายของนายคือสิทธิของฉัน!!!!!!!!!!!!”ว่าจบแล้วเก่งก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองโดนตบรอบสอง จมูกโด่งฝังลงบนซอกคอช้ำอย่างแรงเป็นเหตุให้ร่างบางส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บ
ร่างสูงเริ่มไซร้ใบหน้าไปมาโดยไม่สนใจเสียงของเซนที่ตะโกนสั่งให้เขาหยุด สองมือที่ว่างโอบกอดร่างบางไว้พร้อมกับค่อยๆถลกเสื้อตัวบางของเซนขึ้นมาจากด้านหลัง…!
To Be Continue ….. Chapter 11
ความคิดเห็น