ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ts6] - If … “ ถ้าหาก ” - [68*2345]_yaoi.story

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 10 :: “เพราะร่างกายของนายคือสิทธิของฉัน!!!!!!”

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.39K
      4
      16 ธ.ค. 53

    Chapter 10 :: เพราะร่างกายของนายคือสิทธิของฉัน!!!!!!”


     

     

     

                8.Talk

     

                มันนานเกินไปแล้ว!

     

                นี่มันเกือบจะสองอาทิตย์แล้วที่ไอ้บ้าเซนไม่โผล่หัวมาให้ผมเห็น ไปถามเพื่อนที่คณะก็บอกว่ามันไม่ได้เข้าเรียนมาเกือบสองอาทิตย์แล้วเช่นกัน

     

                    ไอ้บ้านั่นไปไหนวะ!?

                ให้ตาย ถ้ามันจะหายไปไหนนานๆปกติมันต้องบอกผมนะ แต่นี่อยู่เฉยๆก็หายไป มันชักทะแม่งๆแล้วสิ

     

                    พี่แป้ง ไอ้เซนมันได้มาทำงานมั้ย?”ผมเอ่ยพี่แป้งถามเมื่อเดินเข้ามาในร้านเรดแมงโก้ ร้านไอศกรีมที่เซนทำงานอยู่ พี่แป้งเงยหน้ามองผม สีหน้าของธอดูไม่ดีเท่าไหร่นัก

     

                ริท เซนไม่ได้มาทำงานเป็นอาทิตย์แล้ว แนนบอกว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนฝากเซนปิดร้าน แล้ววันต่อมาแนนก็เห็นร้านไม่ได้ล็อค แล้วก็มีอะไรนี่ตกอยู่ที่พื้นเสียงเธอเหมือนจะร้องไห้ พี่แป้งชูสิ่งของในมือขึ้นให้ผมดู และสิ่งนั้นมันคือสิ่งที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี

     

                    เป้ของเซน นี่มันเป้ของเซนนี่พี่ ทำไมตกอยู่บนพื้นได้ล่ะ!?”ผมรับเป้นั่นมาสำรวจพร้อมเอ่ยถามเสียสั่นๆ มันชักไม่ดีแล้วนะแบบนี้

     

                เป้ของเซนมันมีรอยขาดเหมือนโดนกระชาก ส่วนสิ่งของข้างในก็เหมือนถูกยัดๆลงไปไม่ได้ตั้งใจจัดทั้งที่เซนมันเป็นคนเรียบร้อยนะ ไม่น่าจะปล่อยให้เป้ตัวเองเละเทะแบบนี้

     

                    มีกุญแจ แล้วผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ด้วยด้วยนะริทพี่แป้งยื่นกุญแจที่มีพวงที่ห้อยเป็นสัญลักษณ์ของร้านเรดแมงโก้และผ้าเช็ดหน้าให้ผม ผมรับมันมาแล้วพิจารณา สิ่งของสองสิ่งนี่ผมไม่คุ้นเคยสักอย่าง

     

                    กุญแจนั่นน่ะเป็นกุญแจที่แนนฝากให้เซนใช้ปิดร้าน ส่วนผ้าเช็ดหน้าเป็นของใครก็ไม่รู้

     

                    แล้วแนนมันยังบอกอีกว่า วันต่อมา เก้าอี้ โต๊ะล้มระเนระนาดไม่เป็นระเบียบเลยนะริทประโยคนี้ของพี่แป้งแทบทำให้ผมวิ่งถลาออกมาจากร้านโดยไม่ต้องคิดอะไรต่อไป ทุกสิ่งอย่างบอกว่าเพื่อนของผมไม่ได้หายไปเพราะจำเป็น แต่เซนหายไปเพราะถูกลักพาตัว!

     

                    ริทไปก่อนนะพี่แป้งผมหยัดผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นใส่เป้ของเซนแล้วกระชากเอามันมาด้วย ตัวช่วยของผมตอนนี้คือพี่โตโน่ พี่ซิง และพี่แบงค์ พอดีผมมันไม่ค่อยมีเพื่อสนิทน่ะ - -

     

                ผมวิ่งให้เร็วที่สุดโดยใช้ทางลัดเพื่อไปที่หลังหอของพี่โตโน่ ผมมั่นใจว่าพวกเขาอยู่ที่นั่นเพราะวันนี้พี่โตโน่ไม่มีเรียน

     

                    ไอ้โน่คนโก้ ~! มึงกับน้องริทตัวเล็กเป็นไงบ้างวะเสียงทะเล้นๆของพี่ซิงดังมาแต่ไกล นั่นทำให้ผมมั่นใจขึ้นไปอีกว่าพี่โตโน่ต้องอยู่ที่นั่นแน่ๆ

     

                อะไรของมึง - - หุบปากไปเลยไปและนั่นก็คือเสียงพี่โตโน่คนโก้นั่นเอง ผมว่าแล้วว่าพวกเขาต้องอยู่ที่นี่

     

                ฟุบ!

     

                พี่โตโน่ แฮกๆ …”ผมวิ่งลัดพุ่มไม้มาก่อนเอ่ยเรียกชื่อพี่โตโน่ทั้งที่ตัวเองก็แทบไม่มีแรงหายใจ ทำไมแค่วิ่งมันเหนื่อยขนาดนี้นะเนี่ย!

     

                โอ้ววว พูดถึงก็มาเลยวุ้ย~”พี่ซิงยังคงกวนตีนต่อไป ส่วนผมก็หอบแฮกๆอยู่สักพัก เมื่อหายใจได้เป็นปกติสุขก็รีบเดินเข้าไปหาพี่โตโน่อย่างรวดเร็ว

     

                    นายจะมาลากฉันไปไหนอีกวันนี้

     

                พี่ต้องช่วยริทนะผมไม่ตอบคำถามแต่ฟุบนั่งลงที่เก้าอี้หินอ่อนข้างๆโตโน่แทน พี่แบงค์เหล่มองผมแบบงงๆผิดกับพี่ซิงที่ทำหน้าตาลั้นล้าชื่นบาน - -

     

                ช่วยอะไร?”

     

                    เซนหายไปผมรีบเข้าเรื่องทันที ตอนนี้ในใจผมมันร้อนรนยิ่งกว่าไฟซะอีก ให้ตายจริงๆ

     

                    หายไป?”พี่โตโน่ยังไม่เข้าใจในคำพูดของผมเท่าไหร่ ผมก็เลยถือโอกาสนี้เท่าเรื่องทั้งหมดให้พี่โตโน่ พี่ซิง และพี่แบงค์ฟังพร้อมๆกันซะเลย

     

                    งั้น ไอ้เป้นี่ก็ของเพื่อนนาย?”พี่ซิงถามขึ้นหลังจากฟังผมเล่าประมาณห้านาที ผมพยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบ นึกอยากจะขอน้ำโค้กในมือพี่แบงค์มากระดกเข้าปากสักคำให้ชื่นใจเพราะตอนนี้ผมแทบไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว = =

     

                แล้วจะทำยังไง?”

     

                ริทก็ถึงมาขอให้พี่ช่วยนี่ไง

     

                    แล้วพวกฉันจะช่วยยังไงเนี่ย…”

     

                    ก่อนอื่นพวกนายก็ต้องไปถามคนที่อยู่ใกล้ๆร้านว่าเห็นเหตุการณ์ตอนเซนถูกจับตัวไปรึเปล่านั่นเป็นประโยคแรกของพี่แบงค์ที่ผมได้ยิน เห็นเงียบๆนั่งกินแต่น้ำโค้กแบบนั้นที่จริงพี่แกก็ฉลาดเหมือนกันนี่หว่า - -;;

     

                เออ งั้นไปพี่โตโน่ว่าแล้วลุกขึ้นทันที พวกเราทุกคนรีบลุกตามแล้วเดินตามกันไปที่ร้านเรดแมงโก้

     

                    ประสาทจะแดก! ใครหน้าไหนมันจับเพื่อนผมไปวะ! ให้ตาย ไอ้เซนมันจริงผอมๆอยู่ จับมันแรงๆทีเดียวกระดูกก็หักแล้วมั้งนั่นน่ะ อย่าให้รู้นะ ผมจะแจ้งตำรวจเอามันเข้าคุก!

     

                --------------------------------------

     

                หลังจากวันที่ถูกจับมานี่ก็ปาเข้าไปประมาณสองอาทิตย์แล้วที่เซนไม่ได้ทำอะไรนอกจากนอนอยู่บนเตียง โซ่เส้นใหญ่ทำหน้าที่กักตัวเขาไว้กับเตียงนี่ตลอดเวลา รวมไปถึงบาดแผลต่างๆที่ยังไม่หายดีและชายชุดดำร่างกายกำยำสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูโกดัง นั่นทำให้แผนการคิดหนีของเซนถูกตัดทิ้งไปทันที

     

                    ตลอดระยะเวลาที่เขานอนอยู่คนเตียงนี้ ในเวลาเย็นๆของทุกๆวันจะมีเสียงปืน เสียงคนต่อยกัน เสียงตะโกนนู้นนี่นั่นดังมาให้ได้ยินแทบจะทุกวัน ถ้าจะให้เดาก็คงเป็นการฝึกของชายชุดดำนับห้าร้อยคนที่วนเวียนอยู่ในเขตของรั้วบ้าน

     

                    และหลังจากวันนั้นนอกจากเกตที่มักจะเอาอาหารมาให้กับชายชุดดำสองสามคนที่เดินเข้ามาดูแลความเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีใครคนไหนโผล่เข้ามาในโรงนี้อีกเลยสักคนเดียว

     

                    นั่นรวมไปดึงเด็กหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งคนนั้นด้วย

     

                ร่างบางในสภาพใส่เฝือกที่ข้อมือด้านซ้าย บาดแผลตามใบหน้ายังมีรอยช้ำเป็นย่อมๆ อีกทั้งรอยแดงตามร่างกายและลำแขนยังปรากฏอยู่แม้ว่าจะเลือนลางจนแทบจะมองไม่เห็นนอนอยู่บนเตียงตัวเดิมที่เป็นที่พักพิงของเขานับสองอาทิตย์ บรรยากาศภายนอกเริ่มเข้าสู่ยามเย็นและเป็นเรื่องปกติที่วันนี้จะมีเสียงปึงปังจากภายนอกดังเล็ดรอดเข้ามารบกวนการอยู่ในโลกนิทราของเซน

     

                    เปลือกตาบางขยับขยุกขยิกด้วยความขัดใจเมื่อมีเสียงดังเข้าโสตประสาททำให้เขาหงุดหงิด แต่ไอ้เสียงพวกนั้นก็ไม่ได้ทำให้เซนตัดสินใจพาตนเองออกมาจากโลกแห่งความฝัน ร่างบางยังคงหลับตาพริ้มไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้นมาง่ายๆ

     

                    ตื่นได้แล้ว พี่เก่งต้องการตัวพี่เสียงใครสักคนดังก้องไปทั่วโกดังเป็นนาฬิกาปลุกชั้นดีที่สามารถทำให้เซนแทบจะสะดุ้งตื่น

     

                    ร่างสูงของเด็กหนุ่มวัยสิบห้าก้มลงปลดล็อคโซ่จากขาเตียงมาถือไว้ในมือ เซนมองการกระทำนั่นไม่วางตาไม่ใช่สิ.. ต้องพูดว่าเซนจ้องมองร่างแสนคุ้นเคยนั่นแทบไม่กระพริบตาต่างหาก

     

                    สิ่งที่พี่จะสนใจไม่ใช่ผม พี่ควรจะคิดว่าจะรับมือกับพี่เก่งยังไงมากกว่าลุกขึ้นแล้วเดินตามผมมาน้ำเสียงนั้นฟังดูเย็นชาจนคนได้ยินนั่งแข็งทื่ออยู่บนเตียง ไม่กล้าแม้แต่ละขยับหรือเอ่ยถามทุกสิ่งทุกอย่างที่สงสัยออกไป สายตาคมตวัดของเซนเป็นเชิงสั่ง ราวกับมีแรงกดดันทำให้เซนต้องรีบลุกขึ้นจากเตียงลงมายืนอยู่บนพื้นใกล้ๆไอซ์จนได้

     

                    ตามผมมาคำสั่งประโยคสุดท้ายก่อนร่างสูงนั่นก้าวเดินนำหน้า ในมือของไอซ์ยังถือโซ่ที่ล็อคไว้กับข้อเท้าของเซนไว้อยู่ ร่างบางรีบสาวเท้าเดินตามโดยเร็ว

     

                    แผ่นหลังกว้างตรงหน้าไม่เคยมีสักวันที่เซนจะลืมมัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านมาหนึ่งปีแล้วก็ตาม ความทรงจำทุกอย่างของคนตรงหน้าเขายังสามารถจดจำมันได้เป็นอย่างดี แม้ว่าไอซ์จะบอกให้ลืมไปตั้งตีปีก่อนแต่เหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ที่ไอซ์ทำข้าวเขาหกจนถึงวันที่คนคนนี้จากไป

     

                เซนสามารถจำมันได้ทุกอย่าง

     

                    ที่จริงแล้ว เขาไม่เคยคิดจะลืมมันต่างหาก

     

                    หมับ!

     

                ไวกว่าความคิดเมื่อร่างทั้งร่างโถมเข้ากอดร่างสูงโปร่งไว้เต็มแรง แรงทั้งหมดยื้อให้ไอซ์หยุดเดินแล้วกลายเป็นหินที่ได้แต่ยืนแข็งทื่อ

     

                    นายกลับมา…”น้ำเสียงเจือไปด้วยความดีใจและความเจ็บปวดที่คละเคล้ากันเอ่ยออกมาแผ่วเบา ใบหน้าขาวซบลงบนแผ่นหลังกว้าง เรียวแขนขาวทั้งสองข้างกอดร่างสูงให้แน่นขึ้นราวกับโหยหามานานแสนนาน

     

                    ปล่อยไอซ์กล่าวเสียงเรียบพร้อมด้วยอุ้งมือแข็งแรงทั้งสองข้างแกะลำแขนของเซนออก แต่ร่างบางไม่ยอม แรงทั้งหมดที่มีพยายามโอบกอดไอซ์ให้นานที่สุด

     

                เมื่อให้ความอบอุ่นของร่างสูงทดแทนรอยความปวดร้าวที่มีมาตลอดหนึ่งปี

     

                ตั้งแต่วันที่นายเดินจากไป ฉันไม่เคยลืมเรื่องของนาย ไม่เคยลืมเรื่องของเรา…”เซนเอ่ยอู้อี้ๆในลำคอเหมือนคนบ้าที่ไร้สติ ใบหน้ายังคงซบลงบนแผ่นหลังแข็งแรงนั่น ร่างบางไม่สนใจแรงขัดขืนของไอซ์ เขาคิดเพียงแค่ว่าแค่เวลานี้ ขออยู่แบบนี้ให้นานที่สุด

     

                    ผมบอกให้ปล่อยไอซ์เริ่มขึ้นเสียงเป็นคำสั่ง แต่ร่างบางไม่ยอมให้ร่างสูงออกจากอ้อมกอดตนง่ายๆ แรงทั้งหมดถูกโอนมาที่เรียวแขนทั้งสองข้างที่ถูกใช้เป็นสิ่งยึดไอซ์ไว้กับเขา

     

                    บอกให้ปล่อยไงเล่า!!!”คำตวาดตามด้วยแรงที่มีมากกว่าสองเท่าผลักร่างบอบบางจนกระเด็นออกไปก่อนล้มลงกับพื้น สายตาไม่ใยดีถูกส่งไปให้อดีตคนรักร่างสูงกระตุกโซ่ในมือเบาๆเป็นการสั่งให้เซนลุกขึ้นมา

     

                    ทำไมโอ๊ย!”ยังไม่ทันที่จะเอ่ยอะไรไปมากกว่านั้น แรงลากโซ่ที่กระชากอาข้อเท้าของเซนทำให้ร่างทั้งร่างถูกลากไปกับพื้นเป็นเหตุทำให้ร่างบางส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเสบ ไอซ์หยุดมือที่กำลังลากโซ่ไว้เพียงแค่นั้นก่อนมองด้วยแววตาแข็งกร้าว

     

                    ลุก!”ประโยคคะตอกนี้ทำให้เซนรีบลุกขึ้นยืนทั้งที่สองแสบข้อเท้าไม่หาย ไอซ์ไม่เอ่ยอะไรอีกนอกจากเดินนำหน้าออกไปจากโรงเพื่อตรงไปยังบ้านใหญ่

     

                    ทำไมพึ่งมา ฉันว่าฉันสั่งแต่แต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้วแล้วนะไอซ์ประตูห้องนอนถูกเปิดออกตามมาด้วยสองร่างที่เดินเข้ามาในห้อง

     

                    เขาหลับอยู่ ผมก็เลยพยายามปลุกแน่นอนว่านั่นเป็นแค่ข้ออ้าง

     

                    วิธีปลุกที่เร็วกว่านี้มี แกก็รู้

     

                    ผมจะเก็บไว้ให้พี่จัดการเองไง อะไอซ์ว่าอย่างนั้นพลางโยนปลายโซ่ในมือให้กับเก่ง หัวเราะมาเฟียรับมันมาพร้อมหัวเราะในลำคอ ร่างโปร่งมองเซนด้วยหางตา นัยน์ตาคู่นั้นปรากฏประกายดุดันและระริกระรี้ไปพร้อมๆกัน

     

                    ขอบใจ ไปได้แล้วเก่งหันไปสั่งไอซ์ เด็กหนุ่มยักไหล่น้อยๆก่อนเดินออกมาโดยไม่ลืมที่จะกดล็อคประตูจากด้านในให้เจ้าของห้องได้สนุกกับการเล่นของเล่นอย่างเต็มที

     

                    ผมขอโทษร่างสูงกล่าวกับตัวเองเบาๆ แววตาคู่เดิมที่เคยมองเซนด้วยความเย็นชาบัดนี้มันกลับจ้องมองไปที่บานประตูห้องของเก่งด้วยความรู้สึกผิดและนึกสงสารคนเคยรักของตนเองที่ต้องกลายมาเป็นของเล่นและคนใช้ของหัวหน้าคนนั้น

     

                    โลกกลมเกินไป หรือเป็นเพราะในชาติก่อนเซนทำกรรมไว้มากเกินไปถึงต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายพวกนี้ ?

     

                -----------------------------------------

     

                ดีที่รากนายมันไม่งอกติดกับเตียง เพราะไอ้สวะพวกนั้นแท้ๆทำให้ฉันต้องเลื่อนเวลาการเล่นกับนายไปอีกตั้งสองอาทิตย์ปากก็เอ่ยไปอย่างอารมณ์ดีมือก็จัดการล็อคโซ่นั่นไว้กับขาเตียงพร้อมล็อคแม่กุญแจใหญ่ไว้อย่างหนาแน่น

     

                    คงจะไม่ให้เซนได้มีโอกาสหนีเลยสินะ

     

                คุณจับผมมาทำไมร่างบางยืนประชันหน้ากับเก่งอย่างไม่เกรงกลัว หัวหน้ามาเฟียที่มีผิวขาวโอโม่ยิ้มเหยียดๆบริเวณมุมปากพร้อมเขยิบเข้าใกล้ของเล่นของเขาอย่างนึกสนุก

     

                    นายคิดว่าฉันจับนายมาทำไมล่ะ?”น้ำเสียงฟังดูไม่จริงจังขัดกับแววตาเจ้าเล่ห์นั่นโดยสิ้นเชิง มือขาวเชยค้างมนของคนตัวเล็กกว่าให้ตาสวยของเซนสบกับสายตาของเขาตรงๆ

     

                    อย่ามาแตะต้องตัวผม!”แต่เซนไม่รับมุกของร่างสูงโปร่งตรงหน้า ใบหน้าเรียวสะบัดไปอีกทางพร้อมตะโกนถ่อยคำที่หยิ่งในศักดิ์ศรี

     

                ถึงจะเป็นแค่คนจนๆคนหนึ่ง เขาก็ยังมีศักดิ์เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกันล่ะวะ!

     

                นายคิดว่านายเป็นใครถึงมาสะบัดหน้าหนีฉัน!!!”เก่งตะวาดเสียงดังลั่นห้องจนร่างบางเผลอก้าวถอยหลังด้วยความกลัว แววตาดุดันจ้องลึกลงไปในนัยน์ตาสีสวยที่สั่นระริก ขายาวๆนั่นก้าวตามเซนจนตัวของเขาปะชิดกับแผ่นอกแบนราบ

     

                    เป็นคนที่คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้!!!”ใจดีสู้เสือเห็นจะเป็นสำนวนที่เข้าท่าที่สุด แม้ร่างกายจะเริ่มถดถ้อยด้วยความหวาดกลัว แต่ปากเจ้ากรรมก็ดันเถียงออกไปก่อนที่สมองจะสั่ง สิ่งที่ได้กลับมาคือดวงตาคมที่ถลึงมองเขาอย่างโกรธเกรี้ยว

     

                    ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ์!!!! นายคิดว่าที่ฉันจับนายมาเพื่อให้นายมตั้งหน้าตั้งเถียฉันคอเป็นเอ็นรึไงกัน!!!!!!”อารมณ์เดือดที่ฉุดเอาไว้ไม่อยู่ ร่างสูงโปร่งตะคอกใส่หน้าเซนเสียงดังพร้อมกับใบหน้าหล่อใสนั่นเข้าไปใกล้พวงแก้มขาวจนริมฝีปากของเก่งจะประจบกับแก้มของเซนอยู่รำไร

     

                    อะ ออกไปนะ!!!”เสียงสั่นเครือสั่งอย่างหวาดๆ แต่มีหรือที่หัวหน้ามาเฟียผู้ไม่เคยยอมใครจะทำตามโดยง่าย เก่งเพียงแค่หัวเราะหึหึพร้อมรอยยิ้มแสยะที่เล่นเอาเซนขนลุก

     

                    ฟังไว้นะ ตราบในที่นายยังอยู่ที่นี่ นายคือของของฉัน!!!”

     

                    อุ๊บ…!!!”

     

                    สิ้นประโยคแสดงความเป็นเจ้าของ ริมฝีปากอบอุ่นก็ประทับเข้าจรดที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายทันทีอย่างรวดเร็ว สองมือใหญ่จับแขนทั้งสองของร่างบางให้อยู่นิ่งๆ ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าภายในโพรงปากอุ่นอย่างชำนาญ เซนพยายามขัดขืนทั้งดิ้นทั้งเม้มริมฝีปากไว้ แต่แน่นอนว่าแรงของเขาไม่สามารถสู้กับคนที่ตัวใหญ่กว่าได้ เก่งเปลี่ยนมาเป็นกอดรัดร่างบอบบางนั่นไว้แน่น

     

                    อื้อ!”เสียงอื้ออึงในลำคอเป็นสัญญาณให้เก่งหยุดการกระทำนี้ซะ แต่ร่างสูงเลือกที่จะไม่สนใจ ลิ้นร้อนยังคงบุกรุกอาณาเขตภายในโพรงปากของเหยื่อไปเรื่อยๆ ความหอมหวานที่ทำให้เก่งติดใจจนไม่อาจปล่อยไปได้ง่ายๆ ลิ้นเรียวตวัดไปทั่วโพรงปาก กอบกอมเอาความอบอุ่น ความอ่อนหวานจากข้างในให้สมกับที่เขาต้องการ

     

                    อื้อ! อื้อ!! อื้อออ!!!!!”เซนเริ่มดิ้นเร่าๆในอ้อมกอดเก่งอีกครั้ง คราวนี้หัวหน้ามาเฟียยอมผละริมฝีปากออกมา เก่งเลียริมฝีปากตัวเองไปมาพร้อมทำท่าจะก้มลงจูบร่างบางอีกรอบ

     

                    เพี๊ยะ!!!

                ผมไม่ใช่ของของคุณ!!!!!”

     

                    ก่อนที่จะถูกล่วงเกินครั้งที่สอง ฝ่ามือเรียวที่ไม่ได้ใส่เฝือกรีบฟาดไปที่แก้มของร่างสูงโปร่งตรงหน้าเต็มแรง ใบหน้าของเก่งหันตามแรงตบ รอยแดงเริ่มปรากฏขึ้นที่แก้มด้านขวาของเขาทีละนิดๆ

     

                    หึ…”เขาหัวเราะเสียงเหี้ยมพร้อมค่อยๆหันใบหน้าตนเองมาสบตากับเซน ดวงตาทั้งสองข้างดูแข็งกร้าวและน่ากลัวจนทำให้เซนเผลอตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ

     

                    หมับ!

                ฉันสามารถจะทำอะไรกับนายก็ได้…”เขากล่าวเสียงรอดไรฟัน มือข้างหนึ่งบีบแก้มของเซนอย่างแรง เก่งผลักร่างบางจนแผ่นหลังของเซนติดกับผนัง ก่อนข่มไหล่ให้นั่งลงกับพื้น เพราะร่างกายของนายคือสิทธิของฉัน!!!!!!!!!!!!”ว่าจบแล้วเก่งก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองโดนตบรอบสอง จมูกโด่งฝังลงบนซอกคอช้ำอย่างแรงเป็นเหตุให้ร่างบางส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บ

     

                    ร่างสูงเริ่มไซร้ใบหน้าไปมาโดยไม่สนใจเสียงของเซนที่ตะโกนสั่งให้เขาหยุด สองมือที่ว่างโอบกอดร่างบางไว้พร้อมกับค่อยๆถลกเสื้อตัวบางของเซนขึ้นมาจากด้านหลัง…!

     

               

     

                To Be Continue ….. Chapter 11

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×