คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : Chapter 22 :: ผู้หญิง…อีกคน
Chapter 22 :: ผู้หญิง…อีกคน
5.Talk
ผมนั่งซังกะตายอยู่ที่พื้นเย็นๆของห้องเก่ง ตอนนี้เวลาบ่ายสามกว่าๆ ถ้าเป็นข้างนอกคงจะร้อนตับแตก แต่ผมกลับอยู่สบายเพราะเก่งเปิดแอร์ไว้ให้ก่อนจะออกไป ตอนเช้าหลังจากที่เขาไปข้างนอก เวลาต่อมาก็มีชายชุดดำคนนึงถือเสื้อผ้าขึ้นมาให้ผม แต่ก่อนที่ผมจะได้เข้าอาบน้ำก็ต้องได้รับการปลดโซ่ออกจากข้อเท้าเสียก่อน มันก็เป็นแบบนี้ทุกวันน่ะแหละ คนชุดดำเดินเข้ามาพร้อมกับเสื้อผ้าและกุญแจในมือ~ แต่วันนี้มันแตกต่างไปนิดนึงนั้นก็เพราะว่า…เอ่อ คุณก็รู้ใช่มั้ยว่าคนเพิ่งจะ…นั่นกันเสร็จมันเจ็บตรงนั้นอะ! ผมก็เป็นคนเหมือนกันมันก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดา ก็เลยต้องให้ชายชุดดำคนนั้นช่วยพยุงเข้าห้องน้ำโดยที่ผมใช้ผ้าห่มคลุมตัวไว้
เป็นเช้าที่อุบาทถ์จริงๆ!
แอ๊ด…
เสียงเปิดประตูทำให้ผมที่นั่งพิงผนังต้องเงยขึ้นไปมอง ร่างของคนที่ผมไม่ได้เจอมานานค่อยๆก้าวเข้ามาในห้อง ในมือเข้ามีถาดอาหารขนาดใหญ่ถือไว้อยู่ ซึ่งทำให้ผมกลัวเหลือเกินว่าเขาจะทรุดเสียก่อนเพราะขนาดถาดกับขนาดตัวเขามันไม่ค่อยจะสมดุลกันเท่าไรนัก
แกร๊ง
“ข้าว”เสียงหวานเอ่ยขึ้นทันทีที่เขาวางถาดนั่นลงตรงหน้าผม สายตาอ่อนโยนช้อนมองผมเล็กน้อยก่อนเจ้าตัวจะย้ายร่างของตัวเองไปนั่งอยู่ที่ปลายเตียงของพี่ชาย
ดีที่เมื่อเช้ามีคนมาเปลี่ยนที่นอน ไม่งั้นเขาต้องรู้แน่ๆเลยว่าผมกับพี่ชายของเขามีอะไรกัน
“ทำไมไม่กินล่ะ”ผมเผลอนั่งจ้องร่างเล็กนั่นจนกระทั่งกันหันมาเอ่ยถาม ผมรีบหลุบสายตาลงมามองข้าวผัดกับแก้วน้ำเปล่าตรงหน้าทันที
ผมมองข้าวจานนั้นอย่างชั่งใจ … จะว่าไปตั้งแต่ถูกจับมาผมก็แทบจะไม่ได้แตะข้าวเลยถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะถูกเก่งเอายัดปาก ที่ผมไม่กินก็เพราะว่าผมไม่มีกะจิตกะใจจะกิน ตลอดเวลาที่อยู่นี่ผมเอาแต่น้อยใจในโชคชาตและเคียดแค้นหัวหน้ามาเฟียคนนั้นที่เขาทำร้ายผม อะไรที่เป็นของของเขา ผมไม่อยากจะแตะต้องมัน!
แต่วันนี้มันเปลี่ยนไป ..แค่เห็นข้าวจ่ออยู่ตรงหน้าผมก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที
ไม่รู้เป็นเพราะ ‘เก่ง’ หรือน้องชายของเขาที่นานๆขึ้นมาหาผมทีกันแน่…
ผมค่อยๆใช้มือที่อ่อนล้าคว้าช้อนขึ้นมาถือไว้ ก่อนตักเข้าผัดที่แสนจะน่ากินนั่นเข้าปากอย่างช้าๆ ผมรู้ว่ากันกำลังมองการกระทำของผมอยู่เพราะผมสัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่แผ่ออกมาจากนัยน์ตาหวานคู่นั้น
อา.. ทำไมข้าวผัดธรรมดาๆมันอร่อยแบบนี้วะเนี่ย~! หรือเพราะผมหิวจนเกินไป ?
อาจจะใช่ก็ได้ สงสัยตอนนี้ต่อให้เอาตับไตไส้พุงสดๆมาประเคนให้ผมก็ไม่เกี่ยงแล้วมั้งเนี่ย
“อร่อยมั้ย”ขณะที่ผมกำลังยัดข้าวผัดใส่ปากอย่างเมามันส์อยู่นั้นเอง เสียงของกันก็ทำให้ผมสำนึกได้ว่าในห้องไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวเหมือนทุกวัน ยังมีคนตัวเล็กอีกคนที่นั่งจ้องผมจากบนเตียงอยู่ ผมวางช้อนไว้แล้วเงยหน้ามองเขา ตาหวานๆแป๊วๆนั่นมองผมเหมือนคาดคั้นเอาคำตอบ
“อื้อ”ผมตอบอ้อมแอ้มในลำคอแล้วตักข้าวเข้าปากอีกคำโดยไม่เงยหน้าขึ้นไปมองกันอีก ความเงียบเกิดขึ้นเมื่อเราต่างคนต่างไม่ปริปาก ผมก็จัดการซัดข้าวผัดนี่จนเกลี้ยงจานตามด้วยกระดกน้ำเปล่าในแก้วทรงสูงเข้าปากอย่างรวดเร็ว
แต่ดูเหมือนจะเร็วเกินไปหน่อยเพราะว่า …
“แค่กๆๆๆ”ผมสำลักน้ำ!
“เป็นอะไรน่ะ!”กันเอ่ยถามเสียงตกใจแล้วรีบเดินมาหาผม ผมก็ไอหน้าดำหน้าแดง รู้สึกเหมือนกับอาหารที่เพิ่งกินเข้าไปมันพร้อมจะขย่อนออกมาทุกทีๆ
“ไปห้องน้ำเถอะ”ร่างเล็กว่าแบบนั้นก่อนจะค่อยๆประคองผมที่ทำหน้าพะอืดพะอมเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับความรู้สึกเจ็บแปล๊บอันเกิดจากกิจกรรมเมื่อคืน ทันทีที่เห็นอ่างล้างหน้าอยู่ตรงหน้า ผมก็ปล่อยของที่เพิ่งกินเข้าไปเมื่อกี้ลงสู่อ่างทันที
“อ้วกกกก!” โฮกกกก! ข้าวผัดแสนอร่อย! มันไปแล้วววว
“อ้วกกกกกกก!!!”
“นี่ เป็นไรมากมั้ยอะ”กันถามขณะทื่มือเล็กๆข้างหนึ่งลูบหลังผมไปเรื่อยๆส่วนอีกข้างก็ประครองผมไว้ ผมอยากจะบอกไปจริงๆเลยว่า ‘ไม่เป็นไร’ แต่สภาพผมตอนนี้คงจะเหมาะกับคำว่า ‘เป็นมากกก’ ซะมากกว่า!
“มะ..มัน อ้วกกก!!!”ผมอ้าปากจะตอบ แต่พออ้าเท่านั้นแหละผมก็อ้วกออกมาอีกระลอก ถ้าลำไส้ใหญ่มันไม่ติดกับผนังเนื้อล่ะก็ ผมคิดว่ามันต้องออกมาทางปากแน่ๆ
“พี่กัน!!!”เสียงบุคคลที่สามดังมาจากหน้าห้อง ไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าใครเพราะผมคุ้นชินกับน้ำเสียงนั้นดี
เพราะผมไม่เคยลืมเสียงของเขาเลย…
“ไอซ์! ไอซ์! ซะ เซนเป็นอะไรไม่รู้อะ ไอซ์มาดูหน่อยสิ”กันเอ่ยเสียงสั่นๆพร้อมกับผละออกไปจากตัวผม ส่วนผมน่ะ…ต้องค้ำอ่างล้างหน้าไว้ไม่งั้นเป็นได้ทรุดไปกองอยู่ที่พื้นห้องน้ำแน่ๆ
“หะ? …พี่เซน! พี่เซน!!”ร่างของผมค่อยๆทรุดลงไปกับพื้นอย่างอ่อนแรง อาหารมื้อแรกที่ได้กินอย่างเต็มที่ไปกองรวมกันอยู่ที่อ่างล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว ผมรู้สึกมึนๆแปลกๆ แต่ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะล้มลงไปกระแทกกับพื้น ลำแขนที่อบอุ่นก็เอื้อมมารองรับตัวของผมไว้ได้ทันเวลา
“พี่กัน เปิดประตูห้องให้ผมหน่อย!”เสียงไอซ์สั่งกันตามมาด้วยความรู้สึกโหวงๆเนื่องจากร่างสูงช้อนผมเข้าสู่อ้อมกอด ภาพด้านหน้าเริ่มพร่ามัวเพราะเปลือกตาที่เหมือนจะหนักขึ้นทุกทีๆ ผมรู้สึกว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรง อาจจะเพราะทานอาหารไม่เพียงพอ ร่างของผมถูกไอซ์อุ้มมายังโรงด้านล่างอย่างรวดเร็ว โรงที่คุ้นเคย โรงที่ผมนอนอยู่ในนั้นหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ
“เกต! เอาโออาเอสไปผสมน้ำอุ่น”เขาวางผมลงบนเตียงที่ใช้สำหรับพยาบาลลูกน้องที่บาดเจ็บ เสียงห้วนของไอซ์เอ่ยสั่งผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นคนเดียวกับที่คอยดูแลผมตอนที่ต้องนอนที่โรงนี่ เกตพยักหน้ารับหน้าตื่น ส่วนไอซ์หยิบขวดน้ำเปล่ามาเทใส่แก้ว กันที่ตามมาทีหลังเดินมาหยุดอยู่ข้างๆผม
“พี่เซน น้ำ…ครับ”น้ำเสียงแบบนี้อีกแล้ว… ทำไมไอซ์ต้องพูดกับผมด้วยน้ำเสียงแบบนี้ด้วย… ทำไมเขาไม่พูดกับผมด้วยเสียงแข็งกระด้างเหมือนแต่ก่อน …
เขาจะรู้มั้ยว่าหัวใจของผมเต้นแรงเพียงเพราะได้ยินน้ำเสียงอ่อนโยนจากริมฝีปากนั่น
กันนั่งลงบนเตียงแล้วช่วยประครองผมให้ลุกขึ้นนั่ง ซึ่งผมเองก็ไม่มีแรงแม้แต่จะปฏิเสธการช่วยเหลือของเขาก็เลยจำใจปล่อยให้ร่างเล็กประครองผมไป ไอซ์ยื่นแก้วน้ำเปล่ามาให้ เขามองหน้าผมด้วยแววตาที่ยากจะเข้าใจ แต่อย่างน้อย…มันก็ไม่ได้เย็นชาเหมือนที่แล้วๆมา
“โออาเอสได้แล้วค่ะ”ผมรับน้ำมาดื่ม รสขมๆในปากถูกน้ำเปล่าล้างออกจนผมรู้สึกดีขึ้น อาการไร้เรี้ยงแรงเมื่อครู่ก็ดีขึ้นนิดหน่อย แต่ถ้าผมอวดเก่งลุกขึ้นยืนตอนนี้ล่ะก็มีหวังล้มหัวแตกแน่ๆ
“เกลือแร่”ไอซ์รับเอาแก้วน้ำสีขุ่นมาจากเกต เขายื่นมันมาให้ผม ผมมองแก้วนั่นอย่างงงๆ โออาเอส…มันคืออะไร?
“เกลือแร่น่ะ ดื่มเข้าไปเถอะจะได้มีแรง …แม้ว่ารสชาติมันจะห่วยแตกก็ตาม”กันอธิบายเหมือนเข้าใจในสิ่งที่ผมสงสัย ผมพยักน้าเบาๆแล้วเอาแก้วนั่นมาจรดริมฝีปาก …ให้ตาย รสชาติมันห่วยแตกจริงๆด้วย
“ดื่มมันให้หมดนะ”ไอซ์กำชับเสียงเรียบ ผมเหล่มองเขาเล็กน้อยแต่ร่างสูงนั่นไม่ได้มองผมอยู่ ผมถอนหายใจกับตัวเองแล้วฝืนใจดื่มน้ำเกลือแร่นี่ลงคอ กันนั่งมองผมเงียบๆขณะทีไอซ์ก็เอาแต่จ้องมองร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างผม
รักเขามากสินะ …
เซน … นายคงรักเขามากเกินไป
ไม่อย่างนั้น ..หัวใจคงไม่เจ็บขนาดนี้
---------------------
6.Talk
ร้อนเว้ย!
ทำไมไอ้พวกนี้มันไม่บอกวะว่าเปิดท้ายมันเริ่มห้าโมง! พวกเราก็เลยต้องมานั่งให้แดดแผดเผาอยู่แบบนี้!
“ไอ้โน่! เพราะมึงคนเดียวลากพวกกูออกมา ดำหมดแล้วเนี่ยเห็นป่ะ!”ไอ้ซิงบ่นอย่างหงุดหงิด มือก็ขยี้หัวตัวเองไปมา สารรูปแต่ละคนทุเรศอย่าบอกใคร - -;; ไอ้แบงค์ที่ดูดีตลอดยังมีแต่เหงื่อเลย
“ก็พวกมึงไม่บอกกูว่ามันเริ่มห้าโมงนี่หว่า อย่ามาโทษกูคนเดียวดิเฮ้ย!”
“อ่าว! ก็มึงอะแหละนำออกมาแบบไม่ถามอะไรเลย! รำไม่ดีอย่าโทษปี่โทษกองสิวะ!”ต่อยเพื่อนตัวเองนี่เข้าคุกป่ะ? ถ้าไม่เข้า ผมเอามันตายจริงๆนะวันนี้!
“ไอ้เวร! ก็ไม่ใช่เพราะมึงเรอะที่…”
“โว๊ยยยยยย! พวกพี่จะเถียงกันทำไมวะครับ!? แค่นี้ก็หงุดหงิดจะตายอยู่แล้ว”ไอ้เตี้ยโวยวายขึ้นมาด้วยใบหน้าบูดๆ ผมกับไอ้ซิงก็เลยต้องปิดปากเงียบ แน่นอนว่าเวลาริทตะบะแตกน่ากลัวยิ่งกว่าอะไรดี ทางที่ดีอย่าไปแหย่เขาจะดีกว่า _ _
“น้ำ”ไอ้กราฟยื่นน้ำโค้กให้พวกเราคนละกระป๋อง แหม คนดีแห่งปี อุตส่าห์เดินไปซื้อมาให้ ซึ้งใจจริงๆ -*-
“ขอบคุณฮะ^O^”แล้วไอ้ตัวเล็กก็ขอบคุณเสียงหวาน - -
เพื่อ!?
“เฮ้ย! ไปช่วยพวกพี่รุจจัดร้านกันดีกว่าว่ะ!”ไอ้ซิงหางานมาให้พวกเราทำอีกแล้วครับท่าน! - - มึงจะช่วยหุบปากไม่ต้องออกความเห็นสักสิบนาทีจะได้มั้ยเนี่ย!?
“พี่รุจไหนอีกวะ ญาติเยอะจังเลยนะมึงนี่”ผมประชดมันเข้าให้ เดี๋ยวไอ้กราฟ เดี๋ยวพี่รุจ คนต่อไปจะไม่ใช่พี่บี้เหรอไอ้ห่า - - ญาติมึงนี่ชื่ออินเตอร์จริงๆ
“โง่อีก = = เดือนคณะเทคโนฯไง! บ้านนอกมากเลยว่ะเพื่อนกู”ไอ้ซิงว่าพร้อมทำหน้าระอา
ทำหน้างี้นี่ …มึงต่อยกับเพื่อนกูมั้ย -o-! (ไอ้ซิงมันก็เพื่อนแกไม่ใช่เหรอเฮีย - -)
“พี่รุจหล่อป่ะพี่ซิง *O*”ริทถามด้วยแววตาเปล่งประตายปิ๊งๆ!
จะทำหน้าแบบนั้นเพื่ออะไรวะ!?
“ทำไม เขาหล่อแล้วทำไม นายจะจีบรึไง!?”ผมถามประชดด้วยอารมณ์หงุดหงิด… หงุดหงิดเพราะอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าผมหงุดหงิดอะ! -^-
“จีบทำไม -*- ริทก็จีบพี่โตโน่อยู่นี่ไง ..ไม่รู้ติดไม่ติด ชิส์” เอ้า! มันบอกว่าจีบผม แล้วจะมางอนใส่ทำไมวะเฮ้ย!? เมนส์ไม่มามา? ตกวิชาอังกฤษ?? หรือมันสอบฟิสิกไม่ผ่าน???
“นายจะมาช้งมาชิทำไมเนี่ย - - ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
“ก็ไม่ได้บอกว่าว่าสักคำนี่ -0- พี่โตโน่บ้าป่ะ?” หะ!? ผมผิดเหรอ!? ผมผิดใช่มั้ยเนี่ยยย???
อะไรของมันว้าาาา T^T
“พอๆ เลิกเล่นพ่อแง่แม่งอนแล้วตามกูมาซะดีๆ”ไอ้ซิงตัดบทแล้วเดินออกจากศาลาไปหน้าตาเฉย =[]=! ตามด้วยไอ้แบงค์ที่ไม่สนใจอะไรมากมายถ้ามีโค้กในมือเดินตามไป ไอ้กราฟหันมากลอกตาใส่ผมแล้วเดินไปด้วยอีกคน
“พี่จะนั่งบื้ออีกนายมั้ยฮะ? - - ” สาบานเถอะว่าไอ้เตี้ยนี่มันจะจีบผมด้วยประโยคเลวร้ายแบบนั้นน่ะ TOT!
“ก็ไปสิ - -;;”ว่าแล้วผมก็เดินนำออกมา เสียงวิ่งเหยาะๆดังขึ้นก่อนที่ร่างเล็กๆนั่นจะมายืนควบคู่ไปกับผม พวกเราทั้งหมดเดินไปยังถนนที่เขาใช้เป็นที่จัดเปิดท้ายขายของซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก ตอนนี้สี่โมงเกือบจะห้าโมงแล้วก็เลยมีคนมาตั้งร้านมากมายก่ายกอง ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเสื้อผ้า แต่ผมก็ไม่รู้ว่าร้านพี่รุจที่ไอ้ซิงจะพาไปนี่มันคือร้านอะไร
………….
โอเค - - ผมรู้แล้ว!
“โตโน่~! มาช่วยพี่ยกของหน่อย”พี่รุจหันมาขอความช่วยหลือจากผม ผมมองเขาแบบอึ้งๆ … ร้านพี่รุจมันเป็นร้านสักลายครับ =[]=!!!
โคตรเถื่อนเหอะ T_T!
“ค่ะ ..ครับๆ”ผมจำใจเดินไปช่วยพี่รุจยกกล่องอะไรมากมายลงมาจากท้ายรถ ส่วนใหญ่ก็มีแต่พวกอุปกรณ์สัก บลาๆๆ นั่นแหละ - -
“น้องริทครับ น้ำอยู่ในถังนะ ถ้าหิวก็เอามาดื่มเลย”ทีพูดกับผมนี่สั่งได้สั่งดี - - พูดกับริทนี่หวานได้หวานเอา!
ว้อยยย!!! หงุดหงิด! -*-
“ขอบคุณฮะ ^ ^” แล้วแกจะไปตอบรับหน้าระรื่นทำไมหะไอ้เตี้ย!?
ตุบ!
“โอเค ขอบคุณมากโตโน่ ^ ^” อย่ายิ้มสิครับพี่ - - เพราะพี่ยิ้มแล้วผมดูด๋อยทันทีเลย!
ผมยังไม่ได้บอกสินะว่าพี่รุจอะไรนี่โคตรหล่อ! หล่อมากเถอะครับ T^T! หล่อแบบผมดูอุบาทถ์ลงไปทันตา! นั่นเป็นเหตุที่ผมไม่ชอบให้พี่แกยิ้มเพราะมันมีออร่า แล้วผมก็กลายเป็นไอ้งั่งT.T
“พี่ว่าพวกนายไปเดินดีกว่า ร้านเปิดเยอะแล้วนี่ ขอบใจมากที่มาช่วย”พี่รุจหยิบน้ำโค้กให้ไอ้แบงค์พร้อมเอ่ยบอกพวกเรา ผมก็เลยพยักหน้าหงึกหงัก พวกเราทุกคนบอกลาพี่รุจแล้วเดินออกมาจากร้าน ตามสองข้างทางมีร้านขายของเต็มไปหมด สมกับเป็นเปิดท้ายจริงๆ
“เฮ้ย! กีต้าร์นี่หว่า แบงค์! ไปเป็นเพื่อนกูหน่อย …เอ้ออ พวกแกเดินไปเลยนะ ไม่ต้องรอ”ไอ้ซิงผู้ชื่นชอบกีต้าร์เป็นรองจากผู้หญิงว่าแล้วลากไอ้แบงค์ที่ตีหน้าเบื่อโลกให้เดินตามไปมันไป ผม ริท และกราฟก็เลยต้องเดินกันแค่สามคน
“หวังว่าคราวนี้นายคงไม่อยากได้ตุ๊กตาสกั๊งใช่มั้ย”ผมแซวริทเล่นๆเมื่อนึกย้อนไปถึงตอนที่ผมหมอนี่พาผมไปเดินตลาดนอกมอ ตอนนั้นริทหงุดหงิดเพราะไม่ได้ตุ๊กตาสกั๊ง เอาแต่ทำหน้ามู่ทู่ ตลกซะไม่มี ฮ่าๆๆ
“ไม่แล้วน่า พี่กราฟเอาตุ๊กตาสกั๊งให้ริทแล้วนี่ เนอะพี่กราฟ~”พูดคนเดียวไม่พอต้องหันไปขอความเห็นจากไอ้กราฟด้วยรึไง? ไอ้หน้าสวยนั่นก็ยิ้มรับหน้าลั้ลล้า - - เดี๋ยวพ่อเอาตีนยันเข้าให้!
เฮ้ย! นี่ผมหงุดหงิดอีกแล้วเหรอวะเนี่ย -O-!?
“กราฟ มึงไปเลย ไปไหนก็ไป จะไปหาซื้ออุปกรณ์สืบชู้ของมึงก็เชิญ ไม่ต้องตามพวกกูมา ไปๆ ชิ่วๆ!”ผมหงุดหงิดแล้วชอบพาลครับ - - จะหาว่าผมเลวหรืออะไรก็เชิญเลย
“เอ้า! อะไรของมึงเนี่ย - - ก็มาด้วยกันจะไล่กูไปไหนวะ!”ไปไกลๆส้นตีนกูไง !
“ไม่รู้เว้ย! อยากแดกอะไรก็แดก อยากแดกตับหมามึงก็ไปร้านขายหมา ไม่ต้องตามพวกกู! ริท มานี่เลย”ผมพูดห้วนๆด้วยอารมณ์หงุดหงิดแล้วดึงข้อมือริทให้เดินตามผมมา ไอ้กราฟยืนมองพวกเราแบบงงๆแต่ก็ยอมผละไปดูร้านขายหมา =[]=! นี่มึงอยากกินตับหมาจริงๆเหรอไอ้หน้าสวย!?
“พี่โตโน่ไปไล่พี่กราฟเค้าทำไมเนี่ย -3-”
“ช่างฉันเถอะน่า มาช่วยเลือกเสื้อหน่อยดิ๊”ผมพาริทเดินเข้ามาในร้านขายเสื้อสำหรับผู้ชาย แต่ละตัวที่แขวนอยู่นี่ใหญ่หอกจนผมคิดว่าสามารถยัดไอ้ริทสองคนเข้าไปได้ ริทเบะปากน้อยๆก่อนเดินดูรอบร้านๆ ผมก็เลือกดูเสื้อลายเท่ๆที่ถูกใจ กะว่าจะซื้อไปตุนๆไว้เพราะผมขี้เกียจซักผ้า = =;
“ตัวนี้ๆ ลายเท่ดี”ริทเดินกลับมาพร้อมกับเสื้อสีเทาๆที่มีลายหยึกหยักๆเหมือนลายแมงมุมตรงชายเสื้อ
เรียบๆ แต่เจิด!
“เอ้อ ใช้ได้ นายนี่ตาถึงเหมือนกันนะเนี่ย”ผมพิจารณาเสื้อตัวนั้น เมื่อเห็นว่ามันดูดีใช้ได้ก็เลยแซวริทเล่นๆพอสะใจ
มันแปลความได้ว่า หมอนี่เลือกเสื้อให้ผู้ชายเก่งดีเนอะ ~
“ริทก็เป็นผู้ชายนะพี่ - - ถ้าไม่ติดว่ามันตัวใหญ่ริทใส่เองแล้ว”
“อ้อเหรอ~! . .พี่คร้าบบบ เอาตัวนี้ฮะ”ผมร้องเรียกพี่คนขายก่อนภัยจะเข้าถึงตัวเพราะริทเริ่มขมวดคิ้วมองผมแบบอาฆาต
ทำไมผมรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นสามีที่กลัวภรรยายังไงยังงั้นเลยล่ะวะครับ???
------------------
[22.30 น.]
เอี๊ยดดด~!
เสียงดริฟล้อของรถยนต์คันหรูดังขึ้น เหล่าชายชุดดำต่างรู้หน้าที่ตัวเองดีว่าพวกเขาควรทำเช่นไร ทันทีที่รถจอดสนิท ชายร่างสูงก็ลงมาจากฝั่งคนขับตามด้วยหญิงสาวร่างบางใบหน้าเปรอะไปด้วยน้ำตาเดินตามลงมา คนชุดดำต่างงงวยกับภาพที่เห็นเนื่องจากหญิงสาวคนนั้นก็คือคู่หมั้นของเจ้านายของพวกเขานั่นเอง
“พี่เก่งกลับมา… เกรซ?”กันกำลังจะเดินเข้ามาทักทายพี่ชายแต่เมื่อดวงตาหวานสังเกตเห็นสาวร่างสูงที่ยืนร้องไห้อยู่หลังพี่ชายก็ต้องชะงัก กันขมวดคิ้วพลางมองสาวเจ้าด้วยความงง
“เกรซเป็นอะไรเหรอฮะ?”
“มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ กันไปอาบน้ำได้แล้ว”เก่งเลือกที่จะไม่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ให้น้องชายฟัง มิหนำซ้ำยังตัดบทด้วยการไล่กันให้ไปอาบน้ำ ร่างเล็กจิ๊ปากเบาๆแต่ก็ยอมผละเดินจากไป
“ตามฉันมานี่”หัวหน้ามาเฟียเอ่ยเสียงเรียบก่อนสองขายาวจะสาวท้าวขึ้นไปบันไดไป ร่างบางเดินตามคู่หมั้นของเธออย่างว่าง่ายหากแต่น้ำตายังรินไหลจากหน่วยตาไม่ขาดสาย
แอ๊ด
เก่งเปิดประตูห้องของตนเองเข้าไป ไฟนีออนในห้องถูกเปิดไว้ ตรงหน้าปรากฏร่างบางของของเล่นของเขาที่เพิ่งถูกไอซ์พากลับมาที่ห้องหลังจากนอนพักอยู่ที่โรงด้านล่างเนื่องจากขย่อนเอาของในห้องออกไปจนหมดเปลือก
“หน้าที่ที่สามของนาย… อย่าปริปากพูดอะไรจนกว่าฉันจะอนุญาต”เสียงแข็งกระด้างเอ่ยสั่งทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นวูบ เซนมองร่างตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา
ทั้งที่เมื่อเช้าคนคนนี้ยังพูดคำว่า ‘ครับ’ กับเขา
ทั้งที่เมื่อเช้าคนคนนี้ยังจูบเขาอย่างอ่อนโยน
ทั้งที่เมื่อเช้าคนคนนี้ยังโอบกอดเขาด้วยความอบอุ่น
แต่ทำไม … ถึงเปลี่ยนไป
หรือเป็นเพราะ … ผู้อีกคนนี้
ผู้หญิงอีกคน … ที่เก่งพาขึ้นห้องทั้งที่เขาก็ยังอยู่
ผู้หญิง … ที่มองเขาด้วยแววตาริษยา !
To Be Cotinue ….. Chapter 23
ความคิดเห็น