คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 :: ณ ร้านไอศกรีม...
Chapter 3 :: ณ ร้านไอศกรีม...
“พี่คะ เกรซคิดถึงพี่จังเลย~”เสียงหวานใสของเด็กสาววัยสิบหกพูดอย่างกระริ้มกระเหรี่ย มือไม้อ่อนช้อยไปตามรูปร่างของผู้มาเยือน ดวงตาสวยส่งกระแสออดอ้อนชวนหลงใหล
“อยู่เฉยๆน่า”คนตัวสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่เอ่ยเสียงเนือยๆ สองมือก็ผลักร่างบอบบางของเด็กสาวให้ห่างออกจากตัวเขา
“พี่อะ!”เธอกระฟัดกระเฟียด ใบหน้าสวยหงิกหงอเมื่อไม่ได้ดั่งใจ แต่ร่างสูงข้างๆตัวไม่มีท่าทีจะสนใจเธอเลย
“เหอะ โอเคๆ วันนี้ไม่มีอะไรมาก พี่แค่ต้องไปกินข้าวกับพ่อเกรซตอนเที่ยงแค่นั้นแหละ”เธอยอมแพ้ในที่สุด มือขาวเอื้อมไปหยิบแผ่นกระดาษมามองดูแผนการที่ถูกกำหนดไว้โดยบิดาของเธอ
“ว่าไงนะ?”แขกผู้มาเยือนหันขวับทันทีด้วยความงงงวย
“ตามนั้นแหละ พี่ก็ทำเหมือนที่พี่เคยทำ มันจะไปยากอะไรกับอีแค่การแสดงละครว่าเรารักกันหวานชื่น หัวหน้ามาเฟียอย่างพี่คงทำได้อยู่แล้วแหละ พี่เก่ง”คำพูดของเกรซเหมือนจะจิกกัดเก่งเป็นนัยๆ แต่หัวหน้ามาเฟียคนเก่งก็ทำเป็นหูทวนลมต่อไป~
“แผนการบ้าบออะไรวะ แบบนี้เรียกคลุมถุงชนชัดๆ”
“พี่จะคิดมากทำไม ในเมื่อพี่ก็ไม่ได้รักเกรซ เกรซก็ไม่ได้รักพี่ ก็แสดงให้พ่อเกรซเห็นก็พอ ไม่งั้น…พ่อพี่อาจจะต้องเสียกิจการนะ”เธอฉีกยิ้มหวานที่อาบไปด้วยยาพิษให้ชายผู้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘คู่หมั้น’
“เหอะ”เก่งหัวเราะในลำคอ ใบหน้านิ่วด้วยความไม่พอใจ
Rrrr ~ Rrrr~ Rrrr~
เสียงของเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้นพร้อมสั่นครืดๆ เด็กสาวรีบคว้ามันมาก่อนกดรับอย่างรวดเร็ว
“ว่าไงคะพ่อ”
“อ๋อ ได้ค่ะ ตอนนี้เลยก็ได้”
“โอเคค่ะ เดี๋ยวเราจะรีบไป”
“พี่เก่ง พ่อเลื่อนเวลานัดกินข้าวบอกให้เราไปตอนนี้เลย”เมื่อกดตัดสายเสร็จเธอก็หันขวับมาบอกร่างสูงใกล้ตัว มือเรียวบางยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ขายาว และคว้าเอากระเป๋าสะพายราคาแพงมาสะพายไว้
“ชิบเอ๊ย”เสียงสบถของหัวหน้ามาเฟียคนเก่งดังขึ้นด้วยความขัดใจ แต่ก็ยอมเดินตามร่างสูงเพรียวของเกรซออกจากบ้านอย่างโดยดี
“เธอนี่มัน … เลวทั้งพ่อทั้งลูก”
---------------------------------
8.Talk
“เฮ้ยเซน~ แกช่วยอะไรฉันอย่างดิวะ”ผมผละจากถ้วยไอติมสีสดใสเงยหน้าขึ้นไปหาเพื่อนผู้แสนดีที่ตอนนี้นั่งประจำเคาเตอร์พิมพ์นู้นพิมพ์นี้งกๆๆ
“แกเห็นฉันว่างมากขนาดนั้น?”มันถามทั้งที่ตาและมือก็ยังไม่ละจากสิ่งตรงหน้า
“แกรู้แล้วเหรอว่าฉันจะให้ช่วยเรื่องอะไร”
“แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องมีสาระและได้ประโยชน์สักเท่าไหร่”ดูมัน - -^
“แสนรู้จริง”
“แกกำลังทำให้ฉันรวมยอดเงินผิดนะไอ้เตี้ย” ประโยคนี้ … ริทจี๊ดครับ!
“เดี๋ยวถีบหน้าเลยไอ้บ้า!”ผมขู่เสียงต่ำหวังให้มันกลัวบ้างอะไรบ้าง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือน้ำเสียงกวนตีนของเพื่อนสนิท
“กลัวตาย” แล้วก็หันไปสนใจไอ้งานบ้าๆนี่ต่อ = =
ผมก็ไม่สนใจแล้วมันเหมือนกัน นั่งกินไอติมต่อก็ได้วะ ชิ!
เออลืมบอก ตอนนี้ผมนั่งอยู่ร้านไอศกรีมครับ เป็นร้านที่ไอ้เซนทำงานอยู่ ผมเลยมานั่งกินแล้วให้มันจ่ายบ่อยๆ
แต่ที่นี่ก็โอเคนะ ลูกค้าเยอะทุกวัน บางวันเซนมันก็จะเป็นเด็กเสิร์ฟ แต่บางวันก็นั่งประจำเคาเตอร์คอยคิดเงิน แต่จะทำหน้าที่ไหนมันก็ดูดีไปหมด - -;; (อิจฉาเว้ย!)
“แก พนักงานน่ารักจังเลยอะ ถ้าไปขอถ่ายรูปน้องเขาจะให้ถ่ายมั้ยวะ”เสียงจะแร๊ดแจ๊ดแจ๋ของพี่ผู้หญิงโต๊ะข้างๆดังขึ้น ผมเลยเงยหน้ามอง เห็นพี่เขามองไอ้เซนตาเคลิ้ม~ ในมือถือโทรศัพท์พร้อมทำท่าอายๆ
… ทำไมผมต้องอิจฉาไอ้เซนที่มันดูดีกว่า?
ผมก็น่ารักนะ T^T ทำไมไม่สนใจผมเลยอะ!
“แกก็ลองขอดูสิ”เพื่อนของพี่ผู้หญิงคนนั้นตอบพลางผลักร่างพี่เขาให้เดินไปที่เคาเตอร์
แล้วดูไอ้เซน … ผู้หญิงสวยๆมายืนตรงหน้ามันไม่สนใจฮะ ยังพิมพ์บ้าบอคอแตกนั่นไม่หยุด โคตรน่าเตะ - -+
“น้องคะ คือ..พี่ขอถ่ายรูปน้องหน่อยได้มั้ย ><”
“หา? หือ… อ๋อ ได้ฮะ”เซนผงกหัวขึ้นมาอย่างงงๆ พอเห็นพี่ผู้หญิงคนนั้นถือโทรศัพท์อยู่ มันก็ไม่รอช้าตอบตกลงไปในทันที …
ทำไมพี่ไม่มาขอถ่ายรูปผมบ้างอะ? ผมจะให้ถ่ายร้อยแชะแบบไม่คิดตังเลยนะ! (อยู่ในสถานะอิจฉาเพื่อน - -)
“เฮ้ยไอ้ซิง! มึงช่วยหุบปากสักสามนาทีได้มั้ยวะ พูดมากจริง”เสียงทุ้มๆคุ้นๆดังขึ้นมาจากทางหน้าร้าน … เอ มันคุ้นๆอยู่น้า
เมื่อคิดได้ผมก็รีบหันขวับไปมองโดยไม่สนใจไอ้เซนอีกต่อไป
เฮ้ย!!! ไอ้พี่โตโน่นี่หว่า!
“โห่ คุณเพื่อนครับ มึงก็ช่วยหยุดบ่นสักห้านาทีได้มั้ย เป็นเพื่อนหรือพ่อวะเนี่ย สั่งอยู่ได้”และนั่นก็คือเสียงพี่ซิง พี่ซิงยืนข้างซ้ายของพี่โตโน่ ส่วนพี่แบงค์ก็ยืนขนาบซ้ายของพี่ซิงอีกทีนึง
สรุป … พี่โตโน่มันยืนอยู่ตรงกับประตูร้านพอดีเลยเว้ยครับ!!!
“เซน ยืมไอติมแก้วนึง เดี๋ยวจ่ายเอง”ผมว่าอย่างนั้นแล้วคว้าเอาแก้วไอศกรีมรสมะนาวที่ถูกผมกินไปแล้วเศษหนึ่งส่วนสี่ของถ้วยมาถือ ไม่รอช้า ผมก็รีบลุกจากเก้าอี้เดินไปที่หน้าร้านทันที
ฟึบ!
“กินติมมะ?”
-----------------------------------------
6.Talk
ฟึบ!
“กินติมมะ?”
จู่ๆขณะที่พวกผมสามคนกำลังเดินไปข้างหน้า ถ้วยเรียวๆยาวๆสักอย่างก็โผล่ฟุบจ่ออยู่ที่หน้าผม มาพร้อมกับเสียงของใครบางคนที่ผมรู้สึกว่า มันโคตรจะคุ้นเคย!
“นายอีกแล้วเหรอ?”ผมชะงักขาแล้วมองไอ้รุ่นน้องตัวเตี้ยที่ยืนยื่นถ้วยไอติมให้อย่างหน่ายๆ
เออ … มันแหละครับ ไอ้เด็กปีหนึ่งที่ริอาจหอมแก้มผมไปเมื่อวาน!!
“กินติมมะ?”ประโยคถามถูกมันพ่นออกมาอีกครั้ง แต่แน่นอนว่า คำตอบก็ของผมก็คือ
“ไม่”ตอบเสียงห้วนเสร็จก็ก้าวฉับไปด้านขวาให้พ้นรัศมีถ้วยไอติม แต่มันไม่จบเท่านั้นเมื่อไอ้ตัวเล็กนี่ดันไวพอที่จะก้าวขาสั้นๆพาร่างเล็กๆของตัวมายืนบังผมได้ทันเวลาพอดิบพอดี
เออ เอาเข้าไป - -^
“ริทเลี้ยงเอง”เหมือนมันจะไปยอมแพ้ พูดไปพร้อมกับเลียแลบๆที่ช้อนไอติมไปมา คิดจะยั่วให้ผมอยาก? ไม่มีทางเหอะ
อ่อ … เด็กนี่ชื่อ ริท ฮะ = = …. ว่าแต่ใครอยากรู้ชื่อมันเนี่ย!?
“ฉันมีปัญญาพอที่จะซื้อกินเองได้น่า”ว่าแล้วก็ก้าวไปทางขวาอีกหนึ่งก้าว … แต่ผมก็ตรัสรู้ได้ว่า มันไร้ประโยชน์ - -
“งั้นไปนั่งเป็นเพื่อนหน่อย”หมอนั่นพูดจบก็กระชากแขนผมเข้าไปในร้านทำให้ผมที่ยังไม่ทันตั้งตัวจำเป็นต้องก้าวขาไปตามแรงดึง
รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ริทมันลากผมเข้ามาแล้วข่มให้ผมนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใกล้ๆเคาเตอร์
“ชั้นไม่ว่างมานั่งดูเด็กกินไอติมหรอกนะ”ผมทำท่าจะลุกจากเก้าอี้ แต่ไอ้นี่ก็อุตส่าห์กดไหล่ผมไว้ไม่ให้ลุกไปไหน
ทำไมมันแรงควายละครับ - - ?
“เฮ้ย! แกจะบ้าเหรอ ใครบอกว่าเราไม่ว่าง มีเรียนตั้งห้าโมง อย่ามั่วๆ … พวกพี่นั่งด้วยได้มั้ยครับน้องริท ^ ^”และแล้วอาการม่อของไอ้ซิงก็กำเริบขึ้นอีกครั้ง - - ผู้ชายแม่งก็ยังไม่เว้น
“ได้สิฮะ^^”ริทตอบยิ้มๆ แล้วไอ้ซิงก็ซิทดาวน์ลงบนเก้าอี้ข้างๆผมทันที
“แกว่าง แต่ฉันไม่ว่างเว้ย!”
“อะไร! แกจะไปไหน?”
“ไป…” … ไม่ได้คิดไว้แฮะ - -;;
“เห็นมั้ยๆ เนี่ย ไอ้แบงค์มันสั่งไปแล้วเรียบร้อย แกกล้าลากมันออกจากร้านเหรอวะ?”ซิงสะกิดให้ดูไอ้แบงค์ที่นั่ง
อยู่ตรงโต๊ะมุมๆ บนโต๊ะของมันมีถ้วยไอติมสีสดสวยวางอยู่
… เวรล่ะ =O= มันไปตอนไหนวะนั่น
“ฮึ่ย! เออ ก็ได้วะ ออกจากร้านแกตายแน่ ไอ้เวรซิง!”ในที่สุดผมก็ต้องยอมครับ แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะคาดโทษไอ้เพื่อนตัวดีเอาไว้ก่อน
อย่าสงสัยทำไมผมยอม - - ไม่มีใครกล้าลากแบงค์ออกจากร้านอาหารครับ โดยเฉพาะพวกของหวานอย่างไอติม เห็นมันนิ่งๆเงียบๆเย็นๆแบบนั้นน่ะ มันชอบกินของหวานเป็นชีวิตจิตใจ และถ้าขืนผมไปลากมันออกมา ผมนี่แหละ… ตายคนแรก
“สั่งสิ”ริท(ที่ไม่มีบทประมาณสามวิ)บอกพลางยื่นเมนูให้ ผมก็เออออรับมาเปิดๆดู ในนั้นมีรูปไอศกรีมหลากหลายรูปแบบ หน้าตาโคตรน่ารักและน่ากิน แต่ติดที่ว่า … ราคามัน... - -^^^
“ก็บอกไงว่าริทเลี่ยง”เหมือนไอ้ตัวเล็กจะอ่านความคิดผมออกถึงกับพูดดักไว้ทีเดียว
“เออน่า”ผมบอกปัดและพยายามไม่สนใจเด็กปีหนึ่งตัวเล็กๆที่นั่งโซ้ยไอศกรีมรสมะมาวอย่างเอาจริงเอาจังอยู่ตรงหน้า
ผมเผลอมองมันกินอยู่สักพักมันก็เงยพรวดขึ้นมาสบตากับผม … เล่นเอาตกอกตกใจหลบตาแทบไม่ทัน
… ผมหลบสายตาริทงั้นเหรอ = [ ] =!? …
เชี่ย! ผมไม่ได้หลบนะเว้ย แค่ตกใจเฉยๆ
“สั่งสิพี่โตโน่ .. ริทไม่จับพี่ปล้ำกลางที่สารธารณะหรอกน่า จีบคือจีบ ไม่ใช่ข่มขืน จะระแวงอะไรขนาดนั้น”ริทพูดพลางจ้องหน้าผม พูดจบก็ส่ายหน้าเบาๆก่อนก้มลงไปกินไอติมต่อ
…เด็กนี่แม่ง ตาแป๊วใช่ได้แฮะ ~ …
เอ่อ … ผมหมายถึง ตาใสๆซื่อๆน่ะ - -///
“เอาอันนี้ครับ”ผมเงยหน้าขึ้นไปสั่งพี่พนักงาน นิ้วก็ชี้ๆไปที่รูปอันที่อยากกิน … พี่แกมองผมตาเยิ้มเลยแฮะ - -*
“ริท …ใคร?”เสียงแทรกดังขึ้นมาจากทางเคาเตอร์ ผมก็เลยหันไปดู เห็นผู้ชายผิวขาว หน้าตากระเดียดไปทางน่ารักมากกว่าหล่อ ใส่ชุดพนักงานของร้านกำลังมองมาทางพวกผมอย่างสงสัย
“ทำงานไปเลย เดี๋ยวเล่าให้ฟัง”ริทตอบแบบขอไปทีจนเพื่อนของหมอนี่ได้แต่ทำหน้าเบ้ แล้วยอมกลับไปทำงานต่อ
“ไอ้โน่ วันนี้แกจะไปคาฟมั้ยวะ”ไอ้ซิงที่เงียบไปสักพักก็ถึงคราวเห่าหอนต่อ - - มันถามทั้งที่ปากก็ยังคาบช้อนไอติมอยู่ ทุเรศจริงๆเพื่อนใครวะ?
“ไป”
“โอเค สี่ทุ่ม ยิปปี้ ~~~!!!” สาบานเถอะว่าไอ้ซิงมันอายุเท่ากับผม ไม่ใช่เด็กอนุบาลแถวบ้าน
“ริทไปด้วยได้มั้ยพี่ซิง”และก็เป็นไอ้ตัวเล็กที่เสนอหน้าเข้ามาร่วมวงสนทนาในสถาการณ์ที่ไม่ควร - -!
“ไปได้สิ ไปๆๆๆ” ส่วนไอ้ซิงก็ดูกระดี้กระด้าเมื่อรู้ว่ามีรุ่นน้องหน้าตาน่ารักอยากจะไปคาฟกับมัน
“แกจะบ้าเหรอ! ริทมันเพิ่งปีหนึ่ง จะให้ไปทำเบื๊อกอะไร”แล้วก็เป็นผมที่ออกปากคัดค้าน
“ไอ้บ้า ปีหนึ่งก็อายุสิบเก้าแล้ว เขาให้เข้าแล้วเว้ย!”ไอ้ซิงยังคงไม่ยอมแพ้ ใจมันคงอยากจะลากริทไปด้วยให้ได้แหงๆ
“ไม่ได้เว้ย! ฉันไม่ให้ไป มีไรมั้ย - -+?”ผมปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมส่งสานอาฆาตแค้น(โคตร)ไปให้เพื่อนรัก
ไม่ใช่อะไรหรอก คาฟน่ะ มันไม่ใช่ที่ที่ริทสมควรไป ที่นั่นมีแต่ผู้ชายหื่นๆ ขี้เมา เสเพล กับผู้หญิงหน้าด้านที่ไม่คิดจะรักนวลสงวนตัว- - ทุเรศสิ้นดี
เพราะฉะนั้น … ศาลตัดสินว่าไอ้ริทไม่สมควรไป จบ!
“เออๆ ไม่ไปก็ไม่ไปวะ ( ._. )”ไอ้ซิงหน้าจ๋อยแล้วก้มลงไปกินไอติมของตัวเองต่อ ส่วนผมก็หันไปคาดโทษริทเป็นรายต่อไป
“นายจะไปทำไม?”
“ก็พวกพี่ยังไปได้ ริทก็ไปได้เหมือนกันนี่”ไอ้เด็กนี่เริ่มตั้งหน้าตั้งตาเถียงแล้วครับ
“นายรู้รึไงว่ามันคืออะไร”
“กะ…ก็ไม่รู้แหละ _ _” เริ่มเถียงไม่ออกแล้วเหรอไอ้หนู - -
“แล้วจะไปทำไม”
“ก็อยากรู้ว่าที่นั่นมันมีดีอะไรพวกพี่ถึงชอบไปกันนักนี่หว่า”ริทเถียงค้างๆคูๆพร้อมก้มหน้างุดๆ ดูไม่เก่งเหมือนเมื่อกี้เลยสักนิด
“อยากโดนปล้ำรึไง?”
“หะ!?”ไอ้ตัวเล็กผงกหัวตัวเองขึ้นมาทันทีที่ผมพูดประโยคนั้นจบ หน้าตาดูตกใจจนตาแป๊วๆนั่นเบิกกว้าง
“ถามว่าอยากโดนปล้ำเหรอ”
“ปล้ำอะไร? ทำไมไปแล้วต้องโดนปล้ำอะ???”ตอนนี้หน้าของริทมีแต่เครื่องหมายปรัศนีอยู่นับสิบตัวเลยฮะ
“สี่ทุ่ม นายมาหาฉันที่พอ แล้วนายจะรู้ว่าทำไมไปแล้วต้องโดนปล้ำ”
ในเมื่อดื้อนัก ก็อย่าได้ห้ามมันเลย ~ ไว้มันโดนปล้ำจริงค่อยอัดไอ้เวรนั่นแล้วกัน
“หา???”
“อ่อ ไอติมนั่นน่ะ จ่ายเองแล้วก็กินเองด้วย ฉันไปล่ะ”ผมตัดบทด้วยการเดินหนีออกมาจากร้านโดยไม่สนใจใบหน้างงงวยของริทและไอ้ซิงที่พยายามอ้อนวอนให้ไอ้แบงค์หยุดกินแล้วเดินตามผมออกมา
…. ให้ตาย! ทำไมผมรู้สึก ‘เป็นห่วง’ หมอนั่นวะเนี่ย!? ….
To Be Continue ...... Chapter 4
ความคิดเห็น