ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ts6] - If … “ ถ้าหาก ” - [68*2345]_yaoi.story

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 4 :: นักแสดงมืออาชีพ ?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.78K
      2
      15 ธ.ค. 53

    Chapter 4 :: นักแสดงมืออาชีพ ?

     

     

     

                ว่าไงลูกสาว~”เสียงทุ้มของชายวัยกลางคนเรียกลูกสาวของตนเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เกรซและเก่งเดินตามกันเข้ามาก่อนนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหรู ต่อหน้าพวกเขามีอาหารหลากหลายเมนูที่ล้วนหน้าตาน่ารับประทาน

     

                    คิดถึงพ่อจังเลยเสียงหวานเอ่ยบอกพลางประทับจมูกสันโด่งของตนเองลงบนแก้มของบิดา ก่อนยื่นแก้มของตนให้ผู้เป็นพ่อหอมตอบ

     

                    เรากับเก่งเป็นยังไงบ้างล่ะน้ำเสียงอ่อนโยนถูกถ่ายทอดไปยังสองคนตรงข้าม ฟังดูเผินๆอาจจะเป็นประโยคที่อบอุ่น แต่เก่งและเกรซรู้ดีว่า มันแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์

     

                    ก็ดีครับเก่งเป็นฝ่ายตอบคำถาม น้ำเสียงแข็งกระด้างถูกดัดให้ฟังแล้วสบายหู แต่ชายวัยกลางคนก็รู้ว่ามันเป็นเพียงแค่มารยา

     

                    กินให้อิ่มเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจเขาพูดพร้อมรอยยิ้ม เก่งพยักหน้ารับส่งๆ ส่วนเกรซก็ฉีกยิ้มหวานกลับคืนให้บิดา

     

                    ภัตตาคารอาหารใจกลางเมือง เป็นสถานที่ที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนชนชั้นสูง หรือที่เรียกง่ายๆสั้นๆว่า รวย  คนเหล่านี้มักจะนัดพบเจอกันที่นี่เนื่องจากอาหารที่ดูมีระดับบวกกับฝีมือของเชฟนั้นช่างถูกปากถูกคอผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก ที่แห่งนี้มีทั้งหมดห้าชั้น แต่ละชั้นจะเรียงตามลำดับความหรูหราและราคาค่าอาหาร

     

                    ณ ตอนนี้ เกรซ พ่อของเธอ เก่ง และบอดิการ์ดอีกห้าคนอยู่ในห้องอาหารขนาดกว้างของชั้นห้าที่ถูกตกแต่งประดับประดาเสียดิบดี โต๊ะอาหารขนาดใหญ่ที่มีอาหารหลากหลายชนิดวางระรานอยู่ด้านบนทั้งที่มีคนกินเพียงแค่สามคนเท่านั้น

     

                    บรรยากาศในตอนนี้ดูจะดีมากถ้าหากมองข้ามละครฉากนี้ไป

     

                    ใช่ มันเป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น

     

                นักแสดงมืออาชีพสามคนกำลังฟาดฟันกันด้วยบทบาทที่แตกต่างกันไป ชายหนุ่มวัยกลางคนสวมบทคุณพ่อใจดีที่พร้อมจะยิ้มต้อนรับลูกสาวและคู่หมั้นของเธอ ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้น เขาเป็นผู้กำความลับและหุ้นส่วนการค้าห้าสิบเปอร์เซ็นของพ่อของเก่ง

     

                    ส่วนลูกสาวคนสวยก็ได้รับบทเด็กสาวผู้น่ารัก ค่อยพูดคะพูดขา ทำท่าน่าเอ็นดู เกาะแกะชายร่างสูงข้างตัวให้ดูว่าพวกเขาทั้งสองรักกันหวานชื่น ทั้งที่ในความจริง เธอมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วแต่ไม่เคยคิดจะบอกบิดา ส่วนความสัมพันของเธอกับเก่งนั้น เป็นเพียงหมอกควันสีจางที่ยามเช้าก็โผล่ขึ้นมา แล้วเวลาต่อมามันก็จะหายไป

     

                    ทางด้านหัวหน้ามาเฟียรูปหล่อก็ถูกบังคับให้เล่นบทคู่หมั้นอย่างช่วยไม่ได้ หน้าที่ของเขาก็คือรับมุกของเกรซเมื่อเธอหยอดคำหวานและทำท่าทางกระริ้มกระเหรี่ยใส่ นอกจากนั้นยังต้องคอยดัดจริตพูดสุภาพกับพ่อของหญิงสาว ทั้งที่ในใจเขาเกลียดคนทั้งสองอย่างกับอะไรดี แต่ความเกลียดก็ไม่สามารถเอาชนะคำขู่ของคุณพ่อจอมโหดที่ตอนนี้คงโลดแล่นใช้เงินทิ้งขว้างอยู่ในประเทศเกาหลีได้ เขาไม่ได้สนใจลูกชายที่ต้องคอยแสดงละครเพื่อเอาหน้าให้กับตนเองเลยสักนิด

     

                    พ่อเป็นยังไงบ้างล่ะเก่งประโยคขัดจังหวะรับประทานอาหารเอ่ยถาม เก่งเลิกสนใจอาหารตรงหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับเพื่อนคนสำคัญของพ่อ

     

                    ตอนนี้อยู่ที่เกาหลีครับ เขารู้สึกประดากปากทุกครั้งที่ต้องพูดคำว่า ครับ กับคนคนนี้ ทั้งที่คนคนนี้ไม่ได้มีดีอะไรให้น่านับถือเลยสักนิด!

     

                ได้ข่าวว่าพ่อนายได้กำไรพอสมควรนี่หัวข้อสนทนาถูกเปลี่ยนมาเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะน่าฟังเท่าไหร่นัก เด็กหนุ่มเหล่ของใบหน้าฝ่ายตรงข้ามใบหน้าที่เปี่ยมด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย

     

                    ก็คงแบบนั้นล่ะครับ ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณที่คอยสนับสนุนพ่อของผมเก่งตอบไปตามมารยาท แต่ประโยคหลังเขาตั้งใจพูดประชดเพื่อสนองความต้องการของชายตรงหน้า เขารู้อยู่แล้วว่าที่พ่อของเกรซยกเรื่องนี้มาพูดเพราะต้องการให้เขาก้มหัวขอบคุณ

     

                    ไม่เป็นไร ฉันกับพ่อของนายก็สนิทกัน เรื่องแค่นี้ เล็กน้อยคำสุดท้ายถูกเน้นให้หนักเพื่อแสดงให้รู้ว่า การหนุนหลังกิจการของพ่อของเก่งนั้นเพียงเรื่องกระจิ๊ดริดสำหรับคนรวยๆอย่างเขา ซึ่งแน่นอนว่าอารมณ์ของเก่งเริ่มจะเดือดขึ้นอีกสักสี่ถึงห้าองศา

     

                    คุณจะว่าอะไรหรือเปล่าถ้าหากผมจะขอตัวกลับตอนนี้ ลูกน้องอีกเป็นร้อยรอให้ผมไปคัดตัวพวกเขาอยู่ถึงแม้อารมณ์จะเริ่มปะทุขึ้นมา แต่เขาก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควร น้ำเสียงเรียบๆถูกกล่าวออกไปพร้อมกับร่างสูงเจ้าของเสียงถือวิสาสะลุกขึ้นยืนโดยไม่รอคำตอบ

     

                    ก็เอาสิ เชิญๆ แต่ช่วยไปส่งลูกสาวฉันด้วยแล้วกันนะชายวัยกลางคนหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนอนุญาตให้หัวหน้ามาเฟียกลับได้โดยมีข้อแม้คือต้องไปส่งลูกสาวของเขาเสียก่อน

     

                    ไม่มีปัญหาครับเก่งเหลือบมองเกรซที่นั่งเป็นใบ้ไปชั่วขณะและหันมาโค้งให้กับบิดาของคู่หมั้นอย่างไม่เต็มใจนัก หญิงสาวที่ไม่มีบทมานานรีบดื่มน้ำเปล่าและเช็ดปากก่อนยืนขึ้น

     

                    งั้นบ๊ายบายนะคะพ่อเธอกล่าวอำลาพลางก้มลงหอมแก้มบิดาแล้วเดินตามเก่งออกไป บอดิการ์ดสามในห้าคนรีบเดินตามคนหนุ่มสาวทั้งคู่เพื่อคุ้มกันภัยจากมาเฟียแก๊งอื่นๆ

     

                    พรุ่งนี้ฉันจะมาอีก ของเล่นชิ้นใหม่รอฉันอยู่ …”

     

                    ----------------------------------------

     

                20.00 น.

     

                    8.Talk

     

                    ขณะนี้เวลาสี่ทุ่มสามสิบสองวินาที เตรียมตัวเคารพธงชาติ! ประเทศไทย….~ เฮ้ย!  จะบ้าเหรอ - -^

     

                    นี่มันไม่ใช่เวลาจะมายืนตรงเคารพธงชาติเพราะผมกำลังยืนงะๆเงิ่นๆอยู่หน้าทางเข้าหอของพี่โตโน่

     

                    สงสัยใช่มั้ยล่ะว่าผมมาทำอะไร - -

     

                ก็ไอ้พี่โน่มันท้าไว้ตอนสายๆนั่นไงว่าวันนี้ตอนสี่ทุ่มให้มาหาที่หอแล้วมันจะพาผมไปคาฟ แล้วมีรึที่ริทจะปฏิเสธ ท้าใครไม่ท้า มาท้าริมคนโก้ แบบนี้ยอมไม่ได้ครับโผมมมมม!

     

                มาจริงๆด้วยสิ ไอ้เตี้ยเอ๊ย!”เสียงสบถอันเป็นเอกลักษณ์ดังแว่วๆมาจากด้านหลัง พอหันกลับไปมองก็เห็นพี่โตโน่กำลังยืนเกาผมฟูๆของตัวเองอยู่ ส่วนด้านซ้ายก็คือพี่ซิงและด้านขวาก็คือพี่แบงค์

     

                    ครบเซ็ต -_- !

     

                นี่กะจะไปจริงๆใช่มั้ยเนี่ย?”

     

                    เออสิ - -”เพราะผมชักจะรำคาญก็เลยตอบเสียงห้วนออกไป จีบเจิบอะไรค่อยไว้ทีหลัง - - ตอนนี้ทั้งง่วงทั้งรำราญวุ้ย!

     

                ฉันเตือนแล้วนะ ตามมานี่ประโยคแรกพี่โตโน่พึมพำเหมือนพูดกับตัวเอง ส่วนประโยคสองพี่แกก็หันมาพูดกับผม และเดินลิ่วๆนำหน้าไป - -^

     

                ไปกัน!”เสียงนี้คือเสียงของพี่ซิง ยังไม่พอ พี่เขายังยื่นมือมาจับข้อมือผมแล้วลากให้เดินตามพี่โตโน่ไปโดยมีพี่แบงค์บ่นงึมงำๆเดินตามหลัง

     

                    ขึ้นมาไอ้พี่โน่ (เริ่มพาล - -)ตบเบาะข้างคนขับดังป้าบๆพร้อมสั่งให้ผมขึ้นไปนั่ง ผมก็เดินอ้อมรถก่อนนั่งลงตรงที่พี่เขาให้นั่ง (หมดสิทธิ์ขัด) ส่วนพี่ซิงกับพี่แบงค์ก็นั่งอยู่เบาะหลัง

     

                    รถเก๋งบ้าอะไรวะ - - โคตรเหมือนรถแข่ง

     

                    ถ้ามีใครจับหรือทำอะไรนาย ให้ตะโกนดังๆแล้วเรียกชื่อฉัน เข้าใจมั้ย?”รถยังไม่ทันได้สตาร์ทพี่โตโน่ก็หันขวับมาสั่งผมอีกประโยค

     

                    เรียกชื่อพี่โตโน่ทำไมอะ?ผมถามออกไป ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือสายตาของพี่โน่ที่มองมาประมาณว่า ทำไมโง่แบบนี้วะ

     

                    เข้าใจมั้ย!?”นอกจากจะไม่อธิบายให้ผมหายสงสัยแล้วยังมีหน้ามาตะคอกใส่อีก -*- แต่เนื่องจากผมอยู่ในสถานะหมดสิทธิ์เถียงก็ต้องจำใจตอบตกลง

     

                    เข้าใจคร้าบบบบบ!”

     

                    เออ ก็แค่นั้นพี่แกพูดหน่ายๆก่อนสตาร์ทรถและขับออกไป

     

                    ไม่นาน (ย้ำ! ไม่นาน ) พวกเราก็มายืนอยู่หน้าร้านคาเฟ่หรืออะไรสักอย่างที่มีป้ายอันบักเอ้บแปะอยู่บนหลังคา(?) เขียนว่า ‘Cafe’ … มันอ่านว่าคาเฟ่ไม่ใช่เหรอวะ?

     

                นั่นมันชื่อร้านหลอกคนอื่นเฉยๆ คาเฟ่บ้านนายมีเบียร์มีเหล้าขายรึไง?”ผมว่าหน้าผมก็ไม่ได้แสดงความโง่ชัดเจนขนาดนั้นนะ ทำไมไอ้บ้านี่มันรู้ทันตลอดเลย?

     

                ยังไม่ได้ถาม - -”

     

                    เหอะๆ เดินตามมาหัวเราะเบาๆเสร็จก็เดินนำหน้าผม(อีกแล้ว)เข้าไปในร้าน ผมก็ต้องรีบเดินตามสิฮะ ร้านนี้มันเล็กซะที่ไหน เกิดหลงมีซวย

     

                    เฮ้ย! เด็กใครวะๆๆๆ เด็กแกเหรอไอ้โน่? เอ๊ะหรือเด็กไอ้ซิง!? เฮ้ยยย หรือเดี๋ยวนี้ไอ้แบงค์เริ่มเล่นเด็กแล้ววะ!!??”เสียงตะโกนโหวกเหวกดังมาจากทางซ้ายมือของผม มีคนสามสี่คนนั่งกระดกแก้วที่บรรจุของเหลวสีเหลืองๆนั่นเข้าปาก หนึ่งในนั้นลุกขึ้นชี้มาที่ผมแล้วก็ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม

     

                    หุบปากไปก่อนติดตีนกูพี่โตโน่สวนกลับแบบเย็นๆและนั่งลงข้างๆพี่ผู้หญิงที่นั่งสลบเหมือดอยู่ จากนั้นก็ดึงให้ผมนั่นลงข้างๆเขา

     

                    ดุซะด้วย สงสัยเด็กไอ้โน่แน่เลยว่ะ ฮ่าๆๆๆ

     

                    มึงอยากกลับหอดีๆหรือกลับแบบไร้วิญญาณ?”

     

                    ครับๆ หุบปากแล้วคร้าบบบ

     

                ริทปวดฉี่ผมกระซิบพี่โตโน่เบาๆเนื่องจาก เออ ผมปวดฉี่  = =;;

     

                    ห้องน้ำอยู่ทางนั้น ฉันให้เวลาหนึ่งนาที ถ้ายังไม่กลับมานายตายพี่โตโน่ชี้ๆไปทางหลังร้านพ่วงด้วยคำขู่ที่โคตรจะน่ากลัว ดังนั้นผมจึงรีบบบ ลุกจากที่นั่งวิ่งสวนผู้คนที่กำลังเริงระบำชาวเกาะกันอยู่กลางร้านอย่างเมามันส์วิ่งจ้วดเข้าห้องน้ำทันที

     

                คงไม่ต้องให้ผมบรรยายหรอกนะว่าพอเข้าห้องน้ำแล้วผมจะทำอะไรบ้าง - -*

     

                ซ่า!

     

                มันเป็นเรื่องธรรมดาที่พอเข้าห้องน้ำทำธุระเสร็จแล้วพวกคุณจะออกมาล้างมือทำความสะอาดใช่มั้ยครับ?

     

                เออ ผมกำลังล้างมืออยู่แหละ =_=

     

                    เฮ้ย เด็กใหม่เหรอเรา ทำไมไม่เคยเห็น?”คำถามที่มาพร้อมกับแรงตะปบลงบนหัวไหล่ข้างซ้ายเล่นเอาผมสะดุ้ง

     

                    เปล่าฮะผมก้มหน้าตอบไป ไอ้บ้านี่เป็นใครวะ ผมว่าผมไม่เคยรู้จักนะ

     

                    งั้นก็ดีสิ อยู่เล่นกับฉันหน่อยเป็นไง หึหึหมอนั่นพูดเสียงเจ้าเล่ห์ น้ำเสียงแบบนั้นบวกกับหน้าตาที่ออกแนวโรคจิตๆชักทำให้ผมกลัวแล้วนะ(เว้ย)

     

                    ผมไม่ว่าง ขอตัวนะฮะผมพยายามพูดเสียงนอบน้อมที่สุดแล้วค่อยๆปัดมือที่กุมไหล่ออก ผมกำลังจะก้าวออกจากส่วนห้องน้ำ แต่ไอ้บ้านี่ก็ดั๊น! คว้าข้อมือผมทัน

     

                    ชิบแล้วไง T^T

     

                    แป๊บเดียวเองน่า~”น้ำเสียงชวนสยิวกล่าว

     

                    ปึก!

     

                เจ็บ! T___T ไอ้โรคจิตนี่มันดันผมจนหลังกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรง

     

                    และดูเหมือนสวรรค์จะไม่เข้าข้างผมเลย เพราะห้องน้ำนี่ดันไม่มีใครเดินเข้ามาหรือเดินออกไป มีเพียงแค่ผมกับมัน สองคน TOT

     

                ผมบอกว่าผมไม่ว่างไงผมพยายามอ้างเหตุผลเดิมๆอีกครั้ง ตอนนี้มันไม่จับแค่ข้อมือแล้ว เล่นดันไหล่ผมไว้ทั้งสองข้าง พยายามจะดันตัวเองออกมาก็ทำไม่ได้

     

                    ผมตัวเล็วกกว่าไอ้บ้านี่สองเท่าได้ T T!

     

                    โฮกกก ใครก็ได้ ช่วยริทด้วย!!!

     

                ห้านาที เล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อยน่า~~”

     

                    เฮ้ย!!!”ผมร้องเล่นเมื่อไอ้หื่นนี่มัน มันซุกหน้าลงกับซอกคอผมอะ! ไอ้เลวเอ๊ย!

     

                ปล่อยผม!!!”ผมพยายามแหกปากให้เสียงดังที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ตัวก็ดิ้นๆให้หลุดจากกำมือไอ้เลวนี่สักที แต่ดูเหมือนมันไม่ช่วยอะไรเลย T_T ไอ้บ้านี่แรงควาย(โคตร!) ดิ้นจนเหนื่อยมันก็ไม่หลุดอ่า

     

                    อยู่นิ่งๆคนที่กำลังซุกไซร้ซอกผมเอ่ยบอกเสียงแผ่ว มือข้างหนึ่งปล่อยจากไหล่แล้วเอื้อมมาปิดปากผมไว้ซะแน่น เป็นสัญญาณว่า.. ผมไม่สามารถจะร้องสักแอะ

     

                    อื้อ!!! อ่อยอ๋มอะเอ้ยยย!!!”” (ปล่อยผมนะเว้ย!!!) แต่จะให้อยู่นิ่งๆเงียบๆตามที่มันบอกน่ะเหรอ ไม่มีทาง!

     

                งับ!

     

                เฮ้ย!!!” ไอ้บ้านั่นกระเด้งตัวออกทันทีที่ผมฝังรอยกัดลงบนมือมันอย่างแรง เลือดสีแดงๆไหลออกมาจากมือข้างขวาของหมอนั่น

     

                    มันไม่ใช่เวลาที่ผมจะมาบรรยายแผลไอ้นี่นี่หว่า ผมต้องหนีเซ่!

     

                จะไปไหนเล่า!”…ไม่ทันครับ TT^TT มันกระชากแขนซ้ายผมไว้ทันพอดี กระชากแล้วยังเหวี่ยงร่างผมให้ไปติดฝาผนัง(อีกรอบ) หลังจะหักมั้ยเนี่ย T T??

     

                หึเขาสบถในลำคอ คราวนี้ใบหน้านั่นค่อยๆโน้มลงมาก่อนจมูกโด่งๆจะฝังลงที่แก้มของผม

     

                    โหยยย! ไอ้หอก! ผมจะร้องไห้แล้วนะว้อยยย TOT!!

     

                ผลัก! ผัวะ!

     

                มึงทำอะไร!!??”แต่ก่อนที่ริมฝีปากของไอ้โรคจิตมันจะมาโดนริมฝีปากของผม ร่างของเขาก็ถูกกระชากออกไป เสียงผัวะที่ดังตามมา ถ้าตามที่ผมเห็นก็คือเสียงหมัดหนักๆกระแทกกับใบหน้าหมอนั่น แล้วเขาก็ล้มลงไปกองกับพื้น

     

                    มึงต่อยกูทำไม!?”แต่มันยังไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นมาเถียงคนที่ประเคนหมัดให้ตัวเองเสียงดัง

     

                    นั่นรุ่นน้องกู มึงไม่มีสิทธิ์!!!!”เสียงทุ้มที่ผมคุ้นเลยประกาศกร้าว แถมโบนัสให้ไอ้หื่นด้วยอีกหนึ่งหมัดจนมันล้มไปคลุกฝุ่นของพื้นห้องน้ำอีกรอบ

     

                    สมน้ำหน้า! : (

     

                    ส่วนนาย มานี่!”เขาคนนั้น คนที่แจกหมัดให้ไอ้เวรนั่นไปสองหมัดหันมาทำสายตาดุๆใส่ผมก่อนคว้าข้อมือแล้วดึงให้ผมเดินตามเขา

     

                    ซวย T.T!

     

                    มันทำอะไรนาย!?” พี่โตโน่ถามพลางจับตัวผมหมุนสามร้อยหกสิบองศา

     

                    ใช่ เขาคือคนที่ไปช่วยผมไว้เมื่อกี้แหละ ฮู้ววว

     

                    ริทไม่เป็นไรผมก็ตอบไปตามความจริง แค่โดนไซร้พอกับหอมแก้มแค่นั้นเอง แค่นั้นเองจริงๆนะ T T

     

                แต่เมื่อกี้ฉันเห็นมันหอมแก้มนาย!” แล้วมันจะตะโกนทำไมวะฮะ!?

     

                พี่จะมาเดือดร้อนอะไรแทนริทเนี่ย?”ผมถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ - - ไม่เข้าใจจริงๆ

     

                    “…” ไร้เสียงตอบรับ - -^

     

                จะไปส่งหอ กลับได้แล้วนอกจากจะไม่ตอบคำถามผม ยังพูดเสียงแข็งๆแล้วก้าวฉับๆเดินนำไปจากร้าน(อีกแล้ว!)

     

                    อะไรของเค้าวะเนี่ย  - - ???

     

                พี่ซิง พี่แบงค์ ริทกลับแล้วนะ สวัสดีฮะผมไม่ลืมที่จะหันไปบอกลาพี่ซิงและพี่แบงค์นั่งอยู่โต๊ะเดิมไม่ยอมลุกไปไหน พี่สองคนพยักหน้าให้น้อยๆ จากนั้นผมก็รีบเดินตามพี่โน่ออกไป

     

                    ผมไม่เข้าไอ้รุ่นพี่บ้านี่เลยจริงๆ -  - !?  

     

                    To Bo Continue …. Chapter 5

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×