คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 4 :: นักแสดงมืออาชีพ ?
Chapter 4 :: นักแสดงมืออาชีพ ?
“ว่าไงลูกสาว~”เสียงทุ้มของชายวัยกลางคนเรียกลูกสาวของตนเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เกรซและเก่งเดินตามกันเข้ามาก่อนนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหรู ต่อหน้าพวกเขามีอาหารหลากหลายเมนูที่ล้วนหน้าตาน่ารับประทาน
“คิดถึงพ่อจังเลย”เสียงหวานเอ่ยบอกพลางประทับจมูกสันโด่งของตนเองลงบนแก้มของบิดา ก่อนยื่นแก้มของตนให้ผู้เป็นพ่อหอมตอบ
“เรากับเก่งเป็นยังไงบ้างล่ะ”น้ำเสียงอ่อนโยนถูกถ่ายทอดไปยังสองคนตรงข้าม ฟังดูเผินๆอาจจะเป็นประโยคที่อบอุ่น แต่เก่งและเกรซรู้ดีว่า มันแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์
“ก็ดีครับ”เก่งเป็นฝ่ายตอบคำถาม น้ำเสียงแข็งกระด้างถูกดัดให้ฟังแล้วสบายหู แต่ชายวัยกลางคนก็รู้ว่ามันเป็นเพียงแค่มารยา
“กินให้อิ่มเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม เก่งพยักหน้ารับส่งๆ ส่วนเกรซก็ฉีกยิ้มหวานกลับคืนให้บิดา
ภัตตาคารอาหารใจกลางเมือง เป็นสถานที่ที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนชนชั้นสูง หรือที่เรียกง่ายๆสั้นๆว่า ‘รวย’ คนเหล่านี้มักจะนัดพบเจอกันที่นี่เนื่องจากอาหารที่ดูมีระดับบวกกับฝีมือของเชฟนั้นช่างถูกปากถูกคอผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก ที่แห่งนี้มีทั้งหมดห้าชั้น แต่ละชั้นจะเรียงตามลำดับความหรูหราและราคาค่าอาหาร
ณ ตอนนี้ เกรซ พ่อของเธอ เก่ง และบอดิการ์ดอีกห้าคนอยู่ในห้องอาหารขนาดกว้างของชั้นห้าที่ถูกตกแต่งประดับประดาเสียดิบดี โต๊ะอาหารขนาดใหญ่ที่มีอาหารหลากหลายชนิดวางระรานอยู่ด้านบนทั้งที่มีคนกินเพียงแค่สามคนเท่านั้น
บรรยากาศในตอนนี้ดูจะดีมากถ้าหากมองข้ามละครฉากนี้ไป
ใช่ … มันเป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น …
นักแสดงมืออาชีพสามคนกำลังฟาดฟันกันด้วยบทบาทที่แตกต่างกันไป ชายหนุ่มวัยกลางคนสวมบทคุณพ่อใจดีที่พร้อมจะยิ้มต้อนรับลูกสาวและคู่หมั้นของเธอ ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้น … เขาเป็นผู้กำความลับและหุ้นส่วนการค้าห้าสิบเปอร์เซ็นของพ่อของเก่ง
ส่วนลูกสาวคนสวยก็ได้รับบทเด็กสาวผู้น่ารัก ค่อยพูดคะพูดขา ทำท่าน่าเอ็นดู เกาะแกะชายร่างสูงข้างตัวให้ดูว่าพวกเขาทั้งสองรักกันหวานชื่น ทั้งที่ในความจริง … เธอมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วแต่ไม่เคยคิดจะบอกบิดา ส่วนความสัมพันของเธอกับเก่งนั้น เป็นเพียงหมอกควันสีจางที่ยามเช้าก็โผล่ขึ้นมา แล้วเวลาต่อมามันก็จะหายไป
ทางด้านหัวหน้ามาเฟียรูปหล่อก็ถูกบังคับให้เล่นบทคู่หมั้นอย่างช่วยไม่ได้ หน้าที่ของเขาก็คือรับมุกของเกรซเมื่อเธอหยอดคำหวานและทำท่าทางกระริ้มกระเหรี่ยใส่ นอกจากนั้นยังต้องคอยดัดจริตพูดสุภาพกับพ่อของหญิงสาว ทั้งที่ในใจ … เขาเกลียดคนทั้งสองอย่างกับอะไรดี แต่ความเกลียดก็ไม่สามารถเอาชนะคำขู่ของคุณพ่อจอมโหดที่ตอนนี้คงโลดแล่นใช้เงินทิ้งขว้างอยู่ในประเทศเกาหลีได้ เขาไม่ได้สนใจลูกชายที่ต้องคอยแสดงละครเพื่อเอาหน้าให้กับตนเองเลยสักนิด
“พ่อเป็นยังไงบ้างล่ะเก่ง”ประโยคขัดจังหวะรับประทานอาหารเอ่ยถาม เก่งเลิกสนใจอาหารตรงหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับเพื่อน ‘คนสำคัญ’ ของพ่อ
“ตอนนี้อยู่ที่เกาหลี…ครับ” เขารู้สึกประดากปากทุกครั้งที่ต้องพูดคำว่า ครับ กับคนคนนี้ … ทั้งที่คนคนนี้ไม่ได้มีดีอะไรให้น่านับถือเลยสักนิด!
“ได้ข่าวว่าพ่อนายได้กำไรพอสมควรนี่”หัวข้อสนทนาถูกเปลี่ยนมาเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะน่าฟังเท่าไหร่นัก เด็กหนุ่มเหล่ของใบหน้าฝ่ายตรงข้าม … ใบหน้าที่เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม ‘เยาะเย้ย’
“ก็คงแบบนั้นล่ะครับ … ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณที่คอยสนับสนุนพ่อของผม”เก่งตอบไปตามมารยาท แต่ประโยคหลังเขาตั้งใจพูดประชดเพื่อสนองความต้องการของชายตรงหน้า … เขารู้อยู่แล้วว่าที่พ่อของเกรซยกเรื่องนี้มาพูดเพราะต้องการให้เขาก้มหัวขอบคุณ
“ไม่เป็นไร ฉันกับพ่อของนายก็สนิทกัน เรื่องแค่นี้ เล็กน้อย”คำสุดท้ายถูกเน้นให้หนักเพื่อแสดงให้รู้ว่า การหนุนหลังกิจการของพ่อของเก่งนั้นเพียงเรื่องกระจิ๊ดริดสำหรับคนรวยๆอย่างเขา ซึ่งแน่นอนว่าอารมณ์ของเก่งเริ่มจะเดือดขึ้นอีกสักสี่ถึงห้าองศา
“คุณจะว่าอะไรหรือเปล่าถ้าหากผมจะขอตัวกลับตอนนี้ ลูกน้องอีกเป็นร้อยรอให้ผมไปคัดตัวพวกเขาอยู่”ถึงแม้อารมณ์จะเริ่มปะทุขึ้นมา แต่เขาก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควร น้ำเสียงเรียบๆถูกกล่าวออกไปพร้อมกับร่างสูงเจ้าของเสียงถือวิสาสะลุกขึ้นยืนโดยไม่รอคำตอบ
“ก็เอาสิ เชิญๆ แต่ช่วยไปส่งลูกสาวฉันด้วยแล้วกันนะ”ชายวัยกลางคนหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนอนุญาตให้หัวหน้ามาเฟียกลับได้โดยมีข้อแม้คือต้องไปส่งลูกสาวของเขาเสียก่อน
“ไม่มีปัญหาครับ”เก่งเหลือบมองเกรซที่นั่งเป็นใบ้ไปชั่วขณะและหันมาโค้งให้กับบิดาของคู่หมั้นอย่างไม่เต็มใจนัก หญิงสาวที่ไม่มีบทมานานรีบดื่มน้ำเปล่าและเช็ดปากก่อนยืนขึ้น
“งั้นบ๊ายบายนะคะพ่อ”เธอกล่าวอำลาพลางก้มลงหอมแก้มบิดาแล้วเดินตามเก่งออกไป บอดิการ์ดสามในห้าคนรีบเดินตามคนหนุ่มสาวทั้งคู่เพื่อคุ้มกันภัยจากมาเฟียแก๊งอื่นๆ
“พรุ่งนี้ฉันจะมาอีก ของเล่นชิ้นใหม่รอฉันอยู่ …”
----------------------------------------
20.00 น.
8.Talk
ขณะนี้เวลาสี่ทุ่มสามสิบสองวินาที เตรียมตัวเคารพธงชาติ! ประเทศไทย….~ เฮ้ย! จะบ้าเหรอ - -^
นี่มันไม่ใช่เวลาจะมายืนตรงเคารพธงชาติเพราะผมกำลังยืนงะๆเงิ่นๆอยู่หน้าทางเข้าหอของพี่โตโน่
สงสัยใช่มั้ยล่ะว่าผมมาทำอะไร - -
ก็ไอ้พี่โน่มันท้าไว้ตอนสายๆนั่นไงว่าวันนี้ตอนสี่ทุ่มให้มาหาที่หอแล้วมันจะพาผมไปคาฟ แล้วมีรึที่ริทจะปฏิเสธ ท้าใครไม่ท้า มาท้าริมคนโก้ แบบนี้ยอมไม่ได้ครับโผมมมมม!
“มาจริงๆด้วยสิ ไอ้เตี้ยเอ๊ย!”เสียงสบถอันเป็นเอกลักษณ์ดังแว่วๆมาจากด้านหลัง พอหันกลับไปมองก็เห็นพี่โตโน่กำลังยืนเกาผมฟูๆของตัวเองอยู่ ส่วนด้านซ้ายก็คือพี่ซิงและด้านขวาก็คือพี่แบงค์
ครบเซ็ต -_- !
“นี่กะจะไปจริงๆใช่มั้ยเนี่ย?”
“เออสิ - -”เพราะผมชักจะรำคาญก็เลยตอบเสียงห้วนออกไป จีบเจิบอะไรค่อยไว้ทีหลัง - - ตอนนี้ทั้งง่วงทั้งรำราญวุ้ย!
“ฉันเตือนแล้วนะ… ตามมานี่”ประโยคแรกพี่โตโน่พึมพำเหมือนพูดกับตัวเอง ส่วนประโยคสองพี่แกก็หันมาพูดกับผม และเดินลิ่วๆนำหน้าไป - -^
“ไปกัน!”เสียงนี้คือเสียงของพี่ซิง ยังไม่พอ พี่เขายังยื่นมือมาจับข้อมือผมแล้วลากให้เดินตามพี่โตโน่ไปโดยมีพี่แบงค์บ่นงึมงำๆเดินตามหลัง
“ขึ้นมา”ไอ้พี่โน่ (เริ่มพาล - -)ตบเบาะข้างคนขับดังป้าบๆพร้อมสั่งให้ผมขึ้นไปนั่ง ผมก็เดินอ้อมรถก่อนนั่งลงตรงที่พี่เขาให้นั่ง (หมดสิทธิ์ขัด) ส่วนพี่ซิงกับพี่แบงค์ก็นั่งอยู่เบาะหลัง
รถเก๋งบ้าอะไรวะ - - โคตรเหมือนรถแข่ง
“ถ้ามีใครจับหรือทำอะไรนาย ให้ตะโกนดังๆแล้วเรียกชื่อฉัน เข้าใจมั้ย?”รถยังไม่ทันได้สตาร์ทพี่โตโน่ก็หันขวับมาสั่งผมอีกประโยค
“เรียกชื่อพี่โตโน่ทำไมอะ?”ผมถามออกไป ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือสายตาของพี่โน่ที่มองมาประมาณว่า ‘ทำไมโง่แบบนี้วะ’
“เข้าใจมั้ย!?”นอกจากจะไม่อธิบายให้ผมหายสงสัยแล้วยังมีหน้ามาตะคอกใส่อีก -*- แต่เนื่องจากผมอยู่ในสถานะหมดสิทธิ์เถียงก็ต้องจำใจตอบตกลง
“เข้าใจคร้าบบบบบ!”
“เออ ก็แค่นั้น”พี่แกพูดหน่ายๆก่อนสตาร์ทรถและขับออกไป
ไม่นาน (ย้ำ! ไม่นาน ) พวกเราก็มายืนอยู่หน้าร้านคาเฟ่หรืออะไรสักอย่างที่มีป้ายอันบักเอ้บแปะอยู่บนหลังคา(?) เขียนว่า ‘Cafe’ … มันอ่านว่าคาเฟ่ไม่ใช่เหรอวะ?
“นั่นมันชื่อร้านหลอกคนอื่นเฉยๆ คาเฟ่บ้านนายมีเบียร์มีเหล้าขายรึไง?”ผมว่าหน้าผมก็ไม่ได้แสดงความโง่ชัดเจนขนาดนั้นนะ ทำไมไอ้บ้านี่มันรู้ทันตลอดเลย?
“ยังไม่ได้ถาม - -”
“เหอะๆ เดินตามมา”หัวเราะเบาๆเสร็จก็เดินนำหน้าผม(อีกแล้ว)เข้าไปในร้าน ผมก็ต้องรีบเดินตามสิฮะ ร้านนี้มันเล็กซะที่ไหน เกิดหลงมีซวย
“เฮ้ย! เด็กใครวะๆๆๆ เด็กแกเหรอไอ้โน่? เอ๊ะหรือเด็กไอ้ซิง!? เฮ้ยยย หรือเดี๋ยวนี้ไอ้แบงค์เริ่มเล่นเด็กแล้ววะ!!??”เสียงตะโกนโหวกเหวกดังมาจากทางซ้ายมือของผม มีคนสามสี่คนนั่งกระดกแก้วที่บรรจุของเหลวสีเหลืองๆนั่นเข้าปาก หนึ่งในนั้นลุกขึ้นชี้มาที่ผมแล้วก็ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม
“หุบปากไปก่อนติดตีนกู”พี่โตโน่สวนกลับแบบเย็นๆและนั่งลงข้างๆพี่ผู้หญิงที่นั่งสลบเหมือดอยู่ จากนั้นก็ดึงให้ผมนั่นลงข้างๆเขา
“ดุซะด้วย … สงสัยเด็กไอ้โน่แน่เลยว่ะ ฮ่าๆๆๆ”
“มึงอยากกลับหอดีๆหรือกลับแบบไร้วิญญาณ?”
“ครับๆ หุบปากแล้วคร้าบบบ”
“ริทปวดฉี่”ผมกระซิบพี่โตโน่เบาๆเนื่องจาก …เออ ผมปวดฉี่ = =;;
“ห้องน้ำอยู่ทางนั้น ฉันให้เวลาหนึ่งนาที ถ้ายังไม่กลับมานายตาย”พี่โตโน่ชี้ๆไปทางหลังร้านพ่วงด้วยคำขู่ที่โคตรจะน่ากลัว ดังนั้นผมจึงรีบบบ ลุกจากที่นั่งวิ่งสวนผู้คนที่กำลังเริงระบำชาวเกาะกันอยู่กลางร้านอย่างเมามันส์วิ่งจ้วดเข้าห้องน้ำทันที
คงไม่ต้องให้ผมบรรยายหรอกนะว่าพอเข้าห้องน้ำแล้วผมจะทำอะไรบ้าง - -*
ซ่า!
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่พอเข้าห้องน้ำทำธุระเสร็จแล้วพวกคุณจะออกมาล้างมือทำความสะอาดใช่มั้ยครับ?
เออ ผมกำลังล้างมืออยู่แหละ =_=
“เฮ้ย … เด็กใหม่เหรอเรา ทำไมไม่เคยเห็น?”คำถามที่มาพร้อมกับแรงตะปบลงบนหัวไหล่ข้างซ้ายเล่นเอาผมสะดุ้ง
“เปล่าฮะ”ผมก้มหน้าตอบไป ไอ้บ้านี่เป็นใครวะ ผมว่าผมไม่เคยรู้จักนะ
“งั้นก็ดีสิ อยู่เล่นกับฉันหน่อยเป็นไง หึหึ”หมอนั่นพูดเสียงเจ้าเล่ห์ น้ำเสียงแบบนั้นบวกกับหน้าตาที่ออกแนวโรคจิตๆชักทำให้ผมกลัวแล้วนะ(เว้ย)
“ผมไม่ว่าง ขอตัวนะฮะ”ผมพยายามพูดเสียงนอบน้อมที่สุดแล้วค่อยๆปัดมือที่กุมไหล่ออก ผมกำลังจะก้าวออกจากส่วนห้องน้ำ แต่ไอ้บ้านี่ก็ดั๊น! คว้าข้อมือผมทัน
ชิบแล้วไง T^T
“แป๊บเดียวเองน่า~”น้ำเสียงชวนสยิวกล่าว
ปึก!
เจ็บ! T___T ไอ้โรคจิตนี่มันดันผมจนหลังกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรง
และดูเหมือนสวรรค์จะไม่เข้าข้างผมเลย เพราะห้องน้ำนี่ดันไม่มีใครเดินเข้ามาหรือเดินออกไป มีเพียงแค่ผมกับมัน … สองคน TOT
“ผมบอกว่าผมไม่ว่างไง”ผมพยายามอ้างเหตุผลเดิมๆอีกครั้ง ตอนนี้มันไม่จับแค่ข้อมือแล้ว เล่นดันไหล่ผมไว้ทั้งสองข้าง พยายามจะดันตัวเองออกมาก็ทำไม่ได้
ผมตัวเล็วกกว่าไอ้บ้านี่สองเท่าได้ T T!
โฮกกก ใครก็ได้ ช่วยริทด้วย!!!
“ห้านาที เล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อยน่า~~”
“เฮ้ย!!!”ผมร้องเล่นเมื่อไอ้หื่นนี่มัน … มันซุกหน้าลงกับซอกคอผมอะ! ไอ้เลวเอ๊ย!
“ปล่อยผม!!!”ผมพยายามแหกปากให้เสียงดังที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ตัวก็ดิ้นๆให้หลุดจากกำมือไอ้เลวนี่สักที แต่ดูเหมือนมันไม่ช่วยอะไรเลย T_T ไอ้บ้านี่แรงควาย(โคตร!) ดิ้นจนเหนื่อยมันก็ไม่หลุดอ่า
“อยู่นิ่งๆ”คนที่กำลังซุกไซร้ซอกผมเอ่ยบอกเสียงแผ่ว มือข้างหนึ่งปล่อยจากไหล่แล้วเอื้อมมาปิดปากผมไว้ซะแน่น เป็นสัญญาณว่า.. ผมไม่สามารถจะร้องสักแอะ
“อื้อ!!! อ่อยอ๋มอะเอ้ยยย!!!”” (ปล่อยผมนะเว้ย!!!) แต่จะให้อยู่นิ่งๆเงียบๆตามที่มันบอกน่ะเหรอ ไม่มีทาง!
งับ!
“เฮ้ย!!!” ไอ้บ้านั่นกระเด้งตัวออกทันทีที่ผมฝังรอยกัดลงบนมือมันอย่างแรง เลือดสีแดงๆไหลออกมาจากมือข้างขวาของหมอนั่น
มันไม่ใช่เวลาที่ผมจะมาบรรยายแผลไอ้นี่นี่หว่า ผมต้องหนีเซ่!
“จะไปไหนเล่า!”…ไม่ทันครับ TT^TT มันกระชากแขนซ้ายผมไว้ทันพอดี กระชากแล้วยังเหวี่ยงร่างผมให้ไปติดฝาผนัง(อีกรอบ) หลังจะหักมั้ยเนี่ย T T??
“หึ”เขาสบถในลำคอ คราวนี้ใบหน้านั่นค่อยๆโน้มลงมาก่อนจมูกโด่งๆจะฝังลงที่แก้มของผม
โหยยย! ไอ้หอก! ผมจะร้องไห้แล้วนะว้อยยย TOT!!
ผลัก! ผัวะ!
“มึงทำอะไร!!??”แต่ก่อนที่ริมฝีปากของไอ้โรคจิตมันจะมาโดนริมฝีปากของผม ร่างของเขาก็ถูกกระชากออกไป เสียงผัวะที่ดังตามมา ถ้าตามที่ผมเห็นก็คือเสียงหมัดหนักๆกระแทกกับใบหน้าหมอนั่น แล้วเขาก็ล้มลงไปกองกับพื้น
“มึงต่อยกูทำไม!?”แต่มันยังไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นมาเถียงคนที่ประเคนหมัดให้ตัวเองเสียงดัง
“นั่นรุ่นน้องกู มึงไม่มีสิทธิ์!!!!”เสียงทุ้มที่ผมคุ้นเลยประกาศกร้าว แถมโบนัสให้ไอ้หื่นด้วยอีกหนึ่งหมัดจนมันล้มไปคลุกฝุ่นของพื้นห้องน้ำอีกรอบ
สมน้ำหน้า! : (
“ส่วนนาย มานี่!”เขาคนนั้น … คนที่แจกหมัดให้ไอ้เวรนั่นไปสองหมัดหันมาทำสายตาดุๆใส่ผมก่อนคว้าข้อมือแล้วดึงให้ผมเดินตามเขา
ซวย T.T!
“มันทำอะไรนาย!?” พี่โตโน่ถามพลางจับตัวผมหมุนสามร้อยหกสิบองศา
ใช่ เขาคือคนที่ไปช่วยผมไว้เมื่อกี้แหละ ฮู้ววว
“ริทไม่เป็นไร”ผมก็ตอบไปตามความจริง แค่โดนไซร้พอกับหอมแก้มแค่นั้นเอง … แค่นั้นเองจริงๆนะ T T
“แต่เมื่อกี้ฉันเห็นมันหอมแก้มนาย!” แล้วมันจะตะโกนทำไมวะฮะ!?
“พี่จะมาเดือดร้อนอะไรแทนริทเนี่ย?”ผมถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ - - ไม่เข้าใจจริงๆ
“…” ไร้เสียงตอบรับ - -^
“จะไปส่งหอ กลับได้แล้ว”นอกจากจะไม่ตอบคำถามผม ยังพูดเสียงแข็งๆแล้วก้าวฉับๆเดินนำไปจากร้าน(อีกแล้ว!)
อะไรของเค้าวะเนี่ย - - ???
“พี่ซิง พี่แบงค์ ริทกลับแล้วนะ สวัสดีฮะ”ผมไม่ลืมที่จะหันไปบอกลาพี่ซิงและพี่แบงค์นั่งอยู่โต๊ะเดิมไม่ยอมลุกไปไหน พี่สองคนพยักหน้าให้น้อยๆ จากนั้นผมก็รีบเดินตามพี่โน่ออกไป
… ผมไม่เข้าไอ้รุ่นพี่บ้านี่เลยจริงๆ - - !? …
To Bo Continue …. Chapter 5
ความคิดเห็น