ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Got7] Available @MarkBam #นบพกด is back!

    ลำดับตอนที่ #1 : 〖0〗✧ 折り紙。

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.22K
      27
      24 ธ.ค. 57




     
     












     
     
     
     
    When I first met you, I never would have imagined
    that I would have such strong feelings for you.
     
     
     
     
    "พี่ๆ จอดตรงนี้แหละครับ" ผมหันไปบอกโชเฟอร์แท็กซี่ที่กำลังโยกหัวไปตามจังหวะหมอลำอย่างสนุกสนาน โอโห ลาออกจากการขับแท็กซี่ไปออกซิงเกิลเลยมั้ย เห็นโยกมาตลอดทางจนผมจะลุกขึ้นเซิ้งตามละ
     
     
     
    "โทษนะน้อง พี่หนุกหนานไปหน่อย" พี่โชเฟอร์หันไปกดปิดเสียงเพลงแล้วหันมาคุยกับผม ถึงพี่เขาจะบอกว่า 'หนุกหนานไปหน่อย' แต่มันไม่หน่อยเลยอะ พี่เขาทำเหมือนมีตัวเองอยู่คนเดียวในรถและกำลังเตรียมตัวซ้อมเพลงอัลบั้มใหม่ที่กำลังจะออกวางแผงขายในสัปดาห์หน้า
     
     
     
    ผมไม่ได้ตอบอะไรแต่พยักหน้ารับแบบปลงๆ คนแปลกๆแบบนี้ผมเจอบ่อยแล้วละครับ ชินซะเถอะ จากนั้นผมก็หันไปมองที่จอมอนิเตอร์ ก็พบว่ามันโชว์เลข 143 เห็นแบบนั้นผมเลยควักกระเป๋าตังลายคุมะและหยิบธนบัตรจำนวน 140 บาทออกมา
     
     
     
    "อะพี่ 140 บาท ไม่ต้องทอนนะ คนกันเอง" ผมตบบ่าพี่เขาทีนึงแล้วยกกระเป๋าใบควาย 3 ใบ ออกมาจากรถอย่างรวดเร็ว 
     
     
     
    ปัง!!
     
     
     
    ผมปิดประตูรถได้สักพัก พี่โชเฟอร์แท็กซี่ถึงได้ขับออกไป บางทีเขาอาจกำลังนึกทบทวนเหตุการณ์เมื่อสักครู่ และถ้าเขาสมองดีสักหน่อยเขาคงจะคิดออกว่าเกิดอะไรขึ้น และกำลังงงผมอยู่แน่ๆ ประมาณว่า 'เอ๊ะ ก็ขาด 3 บาทนี่ แล้วจะทอนทำไมวะ' เออคือมันเป็นมุขครับ คนไม่ชิคจริงเขาไม่เข้าใจกันหรอก อีกอย่างมันเป็นการต่อรองราคาด้วย เหมือนเวลาที่เราไปซื้อเสื้อผ้ากับคุณแม่ สมมติเขาบอกว่า 279 ไรงี้ คุณแม่ก็ต้องพูดสวนกลับทันทีว่า '270 ได้มั้ยคะคนกันเอง' แหนะ แม่ใครไม่เคยต่อราคาแบบนี้ลองไปต่อนะครับ
     
     
     
    ผมเงยหน้าขึ้นและมองสถานที่ที่ผมเพิ่งมาถึง มันคือคอนโดหรูใจกลางเมืองครับ... จากนี้ไปคอนโดนี้จะเป็นที่อยู่ของผมยันจบมัธยมปลายเลยละมั้ง ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะครับผม!
     
     
     
    ¯`°.•°•.★* *★ ´¯`°.•°•.★* *★ .•°•.°´
     
     
    ผมวางกระเป๋าเดินทางที่ภายในบรรจุเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ต่างๆไว้ที่พื้นสนามหญ้า ก่อนจะเดินสำรวจรอบๆคอนโด ที่นี่ก็ดีนะครับ ต้นไม้เยอะดี เงียบๆดีด้วย ตรงข้างๆคอนโดก็มีเซเว่น สบายละครับงานนี้
     
     
     
    ผมเดินวนรอบคอนโดจนกลับมาอยู่ที่เดิมที่วางกระเป๋า ก็นึกขึ้นได้ว่ามะม๊าบอกให้โทรหาพี่ชาย พี่ชายจะลงมาช่วยขนกระเป๋า
     
     
     
    ผมหยิบไอโฟน 5s สีดำ เคสลายโพนี่และผองเพื่อนออกมาอย่างสแว๊กจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะกดโทรออกไปที่ชื่อที่ผมเมมไว้ว่า
     
     
     
    'แจ็คสัน♡โอลาฟ'
     
     
     
    มีเสียงรอสายตื้ดๆๆสักพักใหญ่ก็มีคนรับ
     
     
     
    "สวัสดีคร้าบบบบ"
     
     
     
    "ฮัลโหล แจ็คสัน หวังใช่มั้ยครับ" ถามไปงั้นแหละ รู้อยู่แล้วว่าต้องใช่
     
     
     
    "น้องมาถูกเบอร์แล้วครับ นี่ใครเอ่ย" เออ ดูพี่เขาทำสิครับ ได้ดูชื่อคนที่โทรไปก่อนจะกดรับมั้ย หรือหลับหูหลับตาเอาโทรศัพท์มาแนบหูเลย
     
     
     
    "นี่แบม ดูชื่อคนโทรเข้าก่อนจะกดรับบ้างนะ ทีหลังอะ-_-" ผมตอบกลับไปเสียงเนือย
     
     
     
    "อ่าวแบมนี่เอง โทษๆเมื่อกี้วุ่นๆอยู่ มีไรครับผม"
     
     
     
    "แบมถึงหน้าคอนโดละเนี่ย นานละด้วย ไหนบอกจะมารับไงอะ เร็วๆเลยร้อน" ทำเหมือนถึงนานแล้วเนอะแต่เปล่า เพิ่งถึงเมื่อเกือบสิบนาทีก่อน
     
     
     
    "เห้ย บ้าอ่อ นี่เพิ่งห้าโมงนะเว้ย เราไม่ได้นัดกันทุ่มนึงหรอครับเตง" พี่แจ็คสันทำน้ำเสียงตกใจ(มากๆ)
     
     
     
    "ทุ่มนึงไรละ เมื่อวานพี่พูดกับม๊าเองว่าห้าโมง อัลไซเมอร์อ่อ เอาน้ำมันตับปลามั้ย หรือจะดูแชทไลน์เมื่อวานจะได้แคปส่งให้ นี่จะลีลาอีกนานปะ ลงมาเร็วๆเลย"
     
     
     
    "แบม พี่มีไรจะบอกว่ะ"
     
     
     
    "ไร" เวลาพี่เขาพูดเกริ่นแบบนี้ทีไรมันมักจะเป็นเรื่องไม่ค่อยดีเสมอ..
     
     
     
    แต่ก็ยังคงทำเสียงแข็งสู้
     
     
     
    "อย่าโกรธนะถ้าเค้าพูดไปอะ"
     
     
     
    "เออ ไม่โกรธมั้ง" อาจจะเกลียดไปเลย
     
     
     
    "จริงๆนะ"
     
     
     
    "อืมๆ"
     
     
     
    "จะพูดละนะ"
     
     
     
    "เอาดิ รออยู่" นี่พี่แจ็คสันลีลามากๆผมก็เริ่มใจไม่ดีละ ใครตกบันไดหัวเหอแตกแล้วอาการโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาลปะวะแม่ง
     
     
     
    "อย่ายิงพี่ทิ้งนะเว้ย"
     
     
     
    "เอออออ จะพูดก็พูดดิ ท่าเยอะทำไม" ตอนนี้เริ่มโมโหละครับ จากที่ผมลุ้นๆอยู่เนี่ย ลีลาดีจริงๆไอ้พี่บ้า
     
     
     
    "แบบ..คือแบบ พี่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนว่ะ แต่แบบ..แบบมันฉุกเฉินเว้ย คือรูมเมทพี่อะ ที่หอที่พี่จะย้ายเข้าไป จำได้ปะ เออนั่นละ เขาขนของเข้าหอเว้ย ละทำลังตกใส่เท้า เขาเลยโทรมาบอกพี่ให้มาช่วยดูอาการเขาหน่อย พี่เลยเออ ไหนๆก็จะย้ายเข้าไปอยู่ละไง เลยขนของไปหอเลย พอถึงหอปรากฎว่าเขาต้องไปโรงพยาบาลว่ะ เท้านี่อาการหนักอยู่ ม่วงเชียว และด้วยความแมนของพี่ พี่เลยพาไป ตอนนี้พี่อยู่โรงพยาบาล รอเขาตรวจอยู่ พี่ไปรับแบมไม่ได้จริงๆ พี่รักแบมนะ แต่พี่ก็ทิ้งรูมเมทพี่ไม่ได้เว้ย เขาน่ารักมากอ่ะ อยู่คนเดียวด้วย พ่อแม่เขาไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ ละหน้านี่เหมือนแฟนในอนาคตพี่เปี๊ยบ จากที่พี่ไปดูดวงกับหมอมาเมื่ออาทิตย์ก่อน ลักษณะคือใช่เลยอะ นี่พี่รู้เว้ยว่า..." เป็นมนุษย์ที่มีแต่ข้ออ้างและข้อแก้ตัว
     
     
     
    "พล่ามจบยังอะ สรุปเลยได้ปะ เมื่อย" ยังไงผมก็รู้จุดจบของตัวเองแล้วละครับ ว่าพี่แจ็คสันจะไม่มารับ เขาจะดูแลรูมเมทเขา-_-
     
     
     
    "สรุปคือตอนนี้พี่อยู่ที่..."
     
     
     
    "ขอเนื้อๆไม่เอาน้ำผสม"
     
     
     
    "แบมขนของไปได้ป่าว กุญแจอยู่ที่แบมละหนิ ห้อง1600 ชั้น14นะ เปิดลิฟต์เดินไปขวามือสุด ในห้องพี่จัดการเรียบร้อย สะอาดเสมือนพี่ไม่เคยอยู่มาก่อน แม่บ้านปัดกวาดเช็ดถูดียิ่งกว่าโรงแรม ไม่ซกมกแน่นอน พวกหนังโป๊พี่เก็บหมดละไม่ต้องห่วง นิตยสารลามกอะไรแบบนี้นี่เก็บเรียบ ไม่เหลือร่องรอยแน่นอน เอาหัวเป็นประกันเลย ละถ้าสงสัยไรอะ เคาะประตูถามห้องตรงข้ามได้นะ เขาใจดีเว้ย หล่อด้วยแหละแบมอาจชอบ รักนะจุ๊บๆ พี่ต้องไปแล้วละหมอเรียกพี่แล้ว พี่ต้องทำหน้าที่แฟนในอนาคตให้ดีก่อนอะเนอะ บ๊ายบาย"
     
     
     
    ติ้ดๆๆๆๆ
     
     
     
    "ไอ้พี่บ้า" ผมโยนโทรศัพท์ลงกับกระเป๋าเดินทางละทรุดตัวนั่งที่พื้นหน้าคอนโดนั่นแหละ เออจำไว้ เห็นรูมเมทดีกว่าน้องในไส้สินะ ได้เลย แจ็คสัน หวัง ได้เลย
     
     
     
    ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใหม่ เปิดแอฟไลน์ธีมมายเมโลดี้ขึ้นมาละกดไปที่ชื่อม๊า พร้อมพิมพ์ข้อความว่า
     
     
     
     
    BamX2 : ม๊า พี่แจ็คเขาไม่มารับแบม ทิ้งแบมให้ขนของคนเดียว ของก็เยอะ แบมหนักมากอะ จัดการหักเงินค่าขนมพี่แจ็คเลยนะ

     
     
    Mama : แจ็คนี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ เดี๋ยวม๊าจัดการให้น้องแบมเองนะ ม๊าจะยึดโอลาฟเน่าของแจ็คด้วยดีมั้ย
     
     
     
    BamX2 : ยึดเลย ให้นอนร้องไห้ขี้มูกโป่งเลย ยึดสัก 1 เดือนนะครับ หมั่นไส้มาก มีการบอกว่าจะอยู่ดูรูมเมทด้วย-_-

     
     
    ....สะใจอะครับ โดนแน่ไอ้เด็กโข่งติดตุ๊กตา 
     
     
     
    เสร็จภารกิจไป1ขั้น หลังจากนั้นก็กดไปที่ชื่อแจ็คสัน หวัง ที่มีรูปดิสเป็นเจ้าโอลาฟมนุษย์หิมะจมูกแครอทแสนติงต๊อง
     
     
     
    BamX2 : โดนยึดโอลาฟแน่ สะใจมากอะครับเห้อ

     
     
    ผมทำหน้าเหี้ยมใส่โทรศัพท์ ก่อนจะกดล็อคเครื่อง และเก็บใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิม
     
     
     
    "นี่สรุปว่าต้องขนกระเป๋าใบควาย 3 ใบนี้ขึ้นชั้น 14 ไปอย่างโดดเดี่ยวสินะ..."
     
     
     
    ¯`°.•°•.★* *★ ´¯`°.•°•.★* *★ .•°•.°´
     
     
     
    บั๊ก!!! 
     
     
     
    ในจังหวะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นจากพื้นก็มีลูกเชี่ยไรไม่รู้ฟาดเข้าที่กลางหัวอย่างแรง  และมันทำให้ผมทรุดลงไปนั่งกับพื้นอีกรอบ เมื่อกี้ถึงกับสมองชา ลืมชื่อพ่อชื่อแม่ไปชั่วขณะ พอหันไปก็เจอลูกวอลเล่ย์นอนนิ่งอยู่ที่พื้นสนามหญ้า
     
     
     
    นี่สินะตัวการ....
     
     
     
    "ขอโทษครับ ผมโยนมันแรงไปหน่อย"
     
     
     
    อื้อหือ นี่ไม่ใช่แรงธรรมดาแล้วอะ มันแรงมากๆๆเลยนะ นี่โยนแรงขนาดนี้โมโหใครมาหรอครับ โดนเผาสนามวอลเล่ย์มาใช่มั้ย กำลังจะหันไปด่าแต่พอเงยหน้าขึ้นสบตา...
     
     
     
    แม่ครับ พี่เขาหน้าตาดีจังเลยT_T
     
     
     
    "ไม่เป็นไรครับผม แบมโอเคอยู่ๆ" ผมยิ้มแหยๆแล้วโบกมือหยอยๆเป็นการบอกว่าผมไม่เป็นอะไรมากจริงๆ ก่อนจะสะบัดหัวเพื่อไล่ความงุนงงจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่ นี่ไม่เป็นไรจริงๆครับ แค่มึนๆนิดเดียวเอง......
     
     
     
    "ผมขอโทษนะครับ น้อง..."
     
     
     
    "แบมครับผม" ผมสวนกลับไปทันทีที่พี่เขาทำเหมือนจะเรียกชื่อผม
     
     
     
    "อ่า...มาร์คครับ" มาร์คหรอ...พี่มาร์คก้มหัวลงนิดหน่อยเพื่อเป็นการทักทาย ก่อนจะยิ้มบางๆให้
     
     
     
    "อ่าครับ พี่มาร์ค นี่ลูกวอลเล่ย์ของพี่สินะครับ" ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปเก็บลูกวอลเล่ย์มาก่อนจะปัดๆแล้วยื่นให้พี่เขา
     
     
     
    "ขอบคุณครับ...เอ้อ....จริงสิ..." ประโยคแรกพี่มาร์คพูดกับผม แต่ประโยคหลังเหมือนจะพึมพำคนเดียวมากกว่า พี่เขาชะงักไปสักพักและทำเหมือนนึกอะไรออก ก่อนจะลูบคางนิดหน่อยและหันมาพูดกับผม
     
     
     
    "พี่ต้องรีบไปแล้วละมีแข่งต่อ แล้วเจอกันนะครับ" ตอนแรกพี่เขาใช้สรรพนามแทนตัวเองว่าผมใช่ปะ...ละนี่คืออะไรนะ...พี่หรอ พี่....สรรพนามมันเปลี่ยนได้ไงอะเหอ น่าร้ากT_T
     
     
     
    พี่เขาดึงลูกวอลเล่ย์ไปจากมือผมก่อนจะโค้งเล็กๆให้อีกรอบ ทำให้ผมต้องโค้งตามอย่างช่วยไม่ได้...
     
     
     
    ทำไมเป็นคนมารยาทดีขนาดนี้นะ ทั้งๆที่พี่เขาก็โตกว่าแท้ๆ ไม่มีความจำเป็นเลยด้วยซ้ำที่ต้องมาโค้งให้เด็กแบบผมแต่พี่เขาก็ยังโค้งเล็กๆให้ตั้ง 2 รอบ
     
     
     
    ผมยืนมองพี่เขาเดินออกจากคอนโดไปและเดินควงลูกวอลเล่ย์ไปตามฟุตบาทริมถนน ยิ่งมองยิ่งรู้สึกคุ้นแบบ...บอกไม่ถูก
     
     
     
    เอ้อ...เมื่อกี้ลืมถามอายุพี่เขาเลยสิว่าอายุเท่าไหร่น่ะ แต่เดี๋ยวก่อนนะ...พี่เขารู้ได้ยังไงว่าผมเด็กกว่า...
     
     
     
    'ผมขอโทษนะครับ น้อง...' พี่เขาเรียกผมว่าน้องก่อนเลยนะ ทั้งๆที่มันไม่น่ามีอะไรที่บอกได้ว่าผมเด็กกว่าพี่เขา เพราะนี่ผมก็ใส่ชุดไปรเวท ส่วนสูงก็พอๆกัน ดูจากหน้ารึไงนะ...
     
     
     
    แต่ช่างมันเถอะ...
     
     
     
     
    ¯`°.•°•.★* *★ ´¯`°.•°•.★* *★ .•°•.°´
     
     
     
    -10 minute later-
     
     
     
    ในที่สุดผมก็ขึ้นมาอยู่บนห้องเป็นที่เรียบร้อย อย่าถามว่าทำไมเร็ว เพราะมีรถเข็นกระเป๋าอะ...ตอนแรกก็ยืนโง่หน้าลิฟต์ตั้งนาน สักพักก็มีพนักงานชี้ทางสว่าง เข็นรถเข็นมาให้ ดีนะไม่เข็นมาให้ตอนที่ผมถึงชั้น 14 แล้วอะ
     
     
     
    "ห้องนี้กว้างดีอะ ชอบจัง" หลังจากเดินสำรวจห้องอยู่พักนึงผมก็ลงมานอนแผ่ที่โซฟา
     
     
     
    คือจริงๆห้องนี้เป็นห้องที่ม๊าซื้อให้พี่แจ็คสันอยู่เมื่อปีก่อน ส่วนผมอะอยู่หอของโรงเรียน แต่พอปีนี้พี่เขาก็ไปอยู่มหาลัยละช้ะ หอที่มหาลัยมันสะดวกกว่าไง ม๊าเลยยกคอนโดนี้ให้ผม ส่วนพี่แจ็คสันก็ดูไม่อาลัยอาวรณ์คอนโดนี้สักนิด เห็นนั่งเก็บของในคอนโดตั้งแต่เดือนก่อนละ 
     
     
     
    สงสัยจะบ้า....
     
     
     
    ผมนอนมองนู้นมองนี่รอบๆห้องไปสักพักก็พบว่า....
     
     
     
    ห้องนี่จืดมาก...ทำไมมีแต่สีขาวดำละ
     
     
     
    อ่า...ผมรู้ครับว่าเป็นสไตล์แบบ 'โมเดิร์น' แต่ผมไม่ค่อยชอบสีโทนนี้สักเท่าไหร่น่ะสิ
     
     
     
    แต่ไม่ต้องห่วงนะ ผมเตรียมของมาเปลี่ยนห้องนี้แล้วละครับ
     
     
     
    ผมเดินไปหยิบกระเป๋าสีฟ้าหน้าประตูและลากมันมาวางไว้ในโซนห้องรับแขก ก่อนจะนั่งลงรูดซิบเปิดกระเป๋าและ...
     
     
     
    โครม
     
     
     
    เทของภายในนั้นออกมา
     
     
     
    ก็พบกับน้องๆตุ๊กตาจากหลายค่าย ไม่ว่าจะเป็นดิสนีย์ ซานริโอ การ์ตูนเน็ตเวิร์คลงมานอนแอ้งแม้งอยู่กลางพื้น
     
     
     
    ผมจับน้องๆแยกเป็นประเภทก่อนจะลุกขึ้นยืนอีกครั้งและรวบอุ้มน้องๆไปที่โซนต่างๆในห้อง พวกจานชามเล็กๆก็ใส่ในครัว ตุ๊กตาก็โยนๆไว้บนเตียง หมอนอิงกับผ้าห่มเล็กๆก็พาดๆไว้ที่โซฟา ส่วนพวกอุปกรณ์เครื่องเขียนนู้นนี่ก็กองๆไว้บนโต๊ะก่อน อย่าเพิ่งจัดเลยครับ จัดไปก็กลับมารกอยู่ดี
     
     
     
    เห้อ...ตอนนี้ห้องที่มีสีขาวและดำก็มีสีสันแซมบ้างแล้วละครับ มันไม่น่าอึดอัดอีกต่อไปสำหรับผม (แต่สำหรับพี่แจ็คสันก็ไม่รู้อะนะ)
     
     
     
    เคยคิดนะว่าตัวเองประสาทรึเปล่าทำไมต้องชอบอะไรที่ดูตุ๊ด เออตอนนี้ผมก็คิดอยู่เมื่อตอนเด็กๆหลายคนเคยคนถามว่าทำไมไม่ชอบบาคุกัน เล่นเบรเบรด ใส่นาฬิกาเบ็นเท็น ต่อกันดั้ม ใส่ชุดซุปเปอร์แมนเหมือนเด็กผู้ชายคนอื่น ตอบเลยว่าเพราะตั้งแต่ที่ลืมตาดูโลกและจำความได้ ม๊าก็แต่งห้องให้เป็นสีชมพู ให้ใส่รองเท้าคิตตี้ ซื้อตุ๊กตาแอเรียลให้เล่น อะไรที่มันฟรุ้งฟริ้งงุ้งงิ้งม๊าเอามาให้หมด ละอะไรที่เด็กผู้ชายปกติเขาเล่นกันนะ ม๊าจะห้าม เออทำไมวะ ยังสงสัย ตอนป.2เคยโดนม๊าดุเพราะไปเล่นโยโย่กับเพื่อน โยโย่ยังห้ามอะคิดดู พอถามม๊าว่าทำไมถึงห้ามนู้นห้ามนี่น้องแบมจังเลย แต่ทำไมไม่ห้ามพี่แจ็คสันบ้าง ม๊าก็ตอบว่า
     
     
     
    'น้องแบมเป็นเจ้าหญิงของม๊า ส่วนพี่แจ็คเป็นเจ้าชายของม๊าไงคะ'
     
     
     
    เพราะได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เด็กรึเปล่าว่าให้เล่น ให้ชอบอะไรที่มันฟรุ้งฟริ้ง โตมาเลยเป็นงี้ แต่นี่ไม่ได้ตุ๊ดนะ ยังแมนอยู่นะ ยังไม่ได้อยากแต่งหน้าทาเล็บไว้ผมยาวหรือทำนมแต่อย่างใด
     
     
     
    แต่พี่แจ็คสันก็ชอบแกล้งพูดว่าตุ๊ด แล้วก็บอกว่าปัญญาอ่อนมากๆๆๆ เหมือนเด็กยังไม่หย่านมแม่เลย...
     
     
     
    มันปัญญาอ่อนหรอ เห้อผมว่าก็ไม่นะ ถ้าเทียบกับโอลาฟแล้วละก็....
     
     
     
    โอลาฟติงต๊องกว่าเยอะ!
     
     
     
    พอผมจัดการห้องเสร็จเรียบร้อย ท้องก็เริ่มร้องละครับ ผมเลยเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหาอะไรกินสักหน่อย กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะครับ เคยได้ยินมั้ยประโยคนี้ ตอนนี้ไม่มีความอ้วนหรือความตะกละผสมนะครับ ที่กินนี่เพื่อความอยู่รอดโดยเฉพาะ ถ้าไม่กินข้าว กินขนม เราจะตาลาย เวียนหัว ปวดท้อง เป็นโรคกระเพาะ คลื่นไส้อาเจียน เดินไม่ได้ นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ใจเต้นแรง ขึ้นบรรไดไม่ไหว เดินไปโรงเรียนไม่ได้ มือไม้สั่น หูตาลาย โห เยอะอะ 1 หน้ากระดาษเอสี่ยังไม่จบ เลยเลือกที่จะอวบอย่างน่ารักดีกว่า แต่ในขณะที่กำลังคุ้ยของกินในตู้เย็นอยู่นั้น ผมก็นึกถึงประโยคที่พี่แจ็คสันพูดขึ้นมา...
     
     
     
    'ละถ้าสงสัยไรอะ เคาะประตูถามห้องตรงข้ามได้นะ เขาใจดีเว้ย'
     
     
     
    การที่มาอยู่คอนโดคนเดียวแบบนี้ มันก็ต้องมีเพื่อนบ้านใช่มั้ย? เพราะเราจะอยู่คนเดียวบนคอนโดนี้ไม่ได้หรอก ถ้าเรามีปัญหาใครจะช่วยเราละ เราต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีนะครับผม ว่าละก็หยิบปีโป้ถุงใหญ่ขึ้นมา 1 ถุง อย่าถามว่าหยิบมาทำไม ผมจะเอาไปทำความรู้จักกับพี่ชายข้างห้องสักหน่อยอะครับ..
     
     
     
    ¯`°.•°•.★* *★ ´¯`°.•°•.★* *★ .•°•.°´
     
     
     
    -3 minute later-
     
     
     
    ผมก็มาหยุดที่หน้าประตูห้องตรงข้ามกับห้องผม พร้อมกับปีโป้ถุงใหญ่ 1 ถุงในมือ หน้าประตูเขียนว่า 1602 เออมันก็คือเลขห้องนั่นแหละครับ-_- กำลังลังเลจะเคาะดีไม่เคาะดี แต่พี่แจ็คสันคอนเฟิร์มว่าใจดี เอาเป็นว่าลองเคาะก็ได้
     
     
     
    ก๊อกๆๆ
     
     
    เงียบ....
     
     
     
    ก๊อกๆๆ
     
     
    เงียบ....
     
     
    ....มีคนอยู่มั้ยครับเนี่ย
     
     
     
    ก๊อกๆๆๆ
     
     
    เงียบ....
     
     
     
    เอาอีกครั้งนะ
     
     
    ก๊อกๆๆ
     
     
     
    เงียบกริบ...
     
     
    อีกทีนึงละกัน
     
     
     
    ก๊อกๆๆๆๆๆ
     
     
    เงียบสนิท...
     
     
     
    คนใจดีคนนั้นเขาคงไม่อยู่สินะ....โอเค ปีโป้ถุงนี้ผมกินเองก็ได้ แต่ในระหว่างที่กำลังจะหมุนตัวกลับ
     
     
     
    แอ๊ด
     
     
     
    "ว่าไงครับ" เสียงเปิดประตูทำให้ผมหันหลังกลับมาที่ห้อง 1602 ใหม่ แต่คนที่เปิดประตูห้องออกมา เขาทำให้ผมอึ้งพอตัวเลยละครับ
     
     
     
    อื้อหือ
     
     
     
    นี่พรหมลิขิตปะครับเนี่ย
     
     
     

     
     
     
     #นบพกด 


     
    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×