ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Got7] Available @MarkBam #นบพกด is back!

    ลำดับตอนที่ #2 : 〖1〗✧ 折り紙。

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.07K
      12
      24 ธ.ค. 57


     

     








     
     
     
     

     
    I don't know what I want to talk about,
    but I want to talk to you.
     
     
     
     
    "เห้ย" ผมสะดุ้งนิดหน่อยแล้วถอยหลังมาครึ่งก้าว ไม่ใช่พี่เขาหน้าเละเป็นศพหรืออะไรนะครับ แต่นี่น่ะ...
     
     
     
    พี่ที่ผมเจอเมื่อตอนกลางวันอะครับ
     
     
     
    ...พี่มาร์ค
     
     
     
    อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ครับเนี่ย
     
     
     
    "ครับ?" พี่มาร์คทำหน้างงแล้วชี้มาที่ผมเหมือนว่าสงสัยอะไรหลายๆอย่าง ดูสภาพแล้วเหมือนเพิ่งแต่งตัวเสร็จอะครับ ผมยังเปียกอยู่เลย แล้วก็มีผ้าขนหนูสีเขียวพาดไว้ที่คอด้วย
     
     
     
    ถึงว่าทำไมออกมาเปิดประตูช้า
     
     
     
    อ่อ...หรือว่าตอนนั้น
     
     
     
    'พี่ต้องรีบไปแล้วละมีแข่งต่อ แล้วเจอกันนะครับ'
     
     
     
    นี่คงเพิ่งกลับมาจากแข่งกีฬาสินะ? เลยกลับมาแล้วรีบอาบน้ำ...คงจะเป็นอย่างนั้น
     
     
     
    "อ้าว ว่าไงครับน้องแบม"
     
     
     
    ...พี่เขาจำผมได้ด้วยละ
     
     
     
    "เอ่อ...คือ ผม..เอ๊ย แบมเพิ่งย้ายมาอยู่วันนี้..." ผมเกาหัวยิกๆแล้วเอานิ้วไขว้กันไปมาอย่างประหม่า 
     
     
     
    "แล้ว...คือ พี่แจ็คสันเป็นพี่ชายแบมอ่ะครับ เขาเป็นเจ้าของห้องคนเก่า เขาบอกว่าพี่ตรงข้ามห้องใจดีมาก เลยเอ่อ.." เป็นคนที่มีแต่คำว่าคือและเอ่อในรูปประโยค
     
     
     
    "จะมาทักว่างั้น?" พี่มาร์คต่อประโยคผมให้แล้วตบบ่าผมทีนึงเป็นเชิงว่าไม่ต้องประหม่านะ
     
     
     
    จะไม่ให้ประหม่าได้ไงอะครับ นี่มาแบบไม่มีสคริปเลยนะ แล้วยิ่งเห็นหน้าพี่นี่ยิ่งพูดไม่ออกเข้าไปใหญ่
     
     
     
    "ใช่ครับผม" ผมพยักหน้ารัวๆ แต่มือก็ยังจับนู้นจับนี่แก้ประหม่าไปเรื่อย โอ๊ยจะประหม่าอะไรนักหนาเนี่ยฮือT_T
     
     
     
    "แจ็คสันบอกไว้แล้วว่าจะมีน้องชายมาอยู่แทนมันอะ..." พี่มาร์คป้องปากทำเหมือนกระซิบความลับ แต่พี่เขาพูดด้วยเสียงปกติ ดูเหมือนจะเป็นท่าทางการพูดของพี่เขามากกว่า
     
     
     
    "สนิทกันหรอครับ" ผมคงไม่ต้องถามหรอกนะว่ารู้จักหรอ เพราะถ้าไม่รู้จักก็คงจะมาบอกกันไม่ได้ว่าผมจะย้ายเข้ามาอยู่แทน แถมยังบอกผมอีกว่าพี่มาร์คใจดีให้ทำความรู้จักไว้น่ะ
     
     
     
    "อ่า ก็พอตัวนะ รุ่นเดียวกันไงเลยคุยกันรู้เรื่องหน่อย..." พี่มาร์คหรี่ตาทำท่าเหมือนคิดอะไรออกแล้วพูดเสียงเบาลง "เพราะชั้นนี้น่ะมีแต่คนแก่ไม่ก็คนทำงานแล้ว พี่กับแจ็คสันเด็กแล้วก็หล่อสุดในชั้นแล้วล่ะจะบอกให้..." ครับ........
     
     
     
    พี่มาร์ครุ่นเดียวกับพี่แจ็คสัน? ตอนนี้ก็คง 19 แล้วสินะ มหาลัยปี 1 แล้วสิ
     
     
     
    "อ่อ....แล้วนี่พี่แจ็คสันบอกนานรึยังอะครับว่าแบมจะมาอยู่แทน"
     
     
     
    "อ่า บอกเมื่อเดือนก่อนเองนะ เอารูปให้ดูด้วย แล้วก็พูดประมาณว่า 'น้องคนนี้นะน้องชายแท้ๆ ฝากดูด้วยมันยิ่งเอ๋อๆงงๆอยู่' แบบนี้อะครับ" พี่มาร์คพูดไปหัวเราะเล็กๆไป ผมไม่ได้เอ๋อๆงงๆสักหน่อยนะ ผมน่ะ swag จะตาย
     
     
     
    "ตอนนั้นที่เจอเราเมื่อตอนกลางวันพี่ก็จำได้แล้วละว่าเป็นน้องแจ็คสัน..." ถึงว่า ทำไมพี่เขาถึงเรียกผมว่าน้อง เพราะแบบนี้นี่เอง
     
     
     
    ไขข้อสงสัยได้อีกหนึ่ง
     
     
     
    ผมฟังพี่เขาพูดเพลินๆจนลืมความประหม่าในตอนแรกไปเลย...
     
     
     
    พี่เขาเก่งนะเนี่ย
     
     
     
    "แต่แบมไม่ได้งงๆแบบที่พี่แจ็คสันบอกจริงๆนะครับ" ผมยู่ปากหนึ่งทีก่อนจะล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อเก็บคีย์การ์ดลงในกระเป๋า แต่กลับ...
     
     
     
    ตุ้บ
     
     
     
    คีย์การ์ดที่ตั้งใจจะเก็บลงกระเป๋ากลับตกลงมานอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้น
     
     
     
    "....นี่ไม่งงจริงดิ" พี่มาร์คหัวเราะ (อีกแล้ว) และยืนมองผมเก็บคีย์การ์ดขึ้นมาก่อนจะค่อยๆนำใส่กระเป๋ากางเกงแบบระวังที่สุด
     
     
     
    จะช่วยเก็บขึ้นมาหน่อยก็ไม่ได้รึไงเล่า...คนอะไรหัวเราะอย่างเดียวเลย
     
     
     
    "มันเป็นอุบัติเหตุ...คีย์การ์ดมันลื่นต่างหาก" ผมเริ่มทำคิ้วขมวดใส่พี่เข้า นอกจากจะยืนขำอย่างเดียวแล้วยังจะมาล้ออีกนะ....
     
     
     
    "เชื่อครับเชื่อ"
     
     
     
    "หน้าพี่เหมือนเชื่อมากเลยเนอะ"
     
     
     
    "นี่เราอายุเท่าไหร่ละ"
     
     
     
    "พี่แจ็คสันไม่ได้บอกรึไงครับ" ...ทีวีรกรรมนู้นนี่ยังบอกเลยนะ
     
     
     
    "บอกแล้วแต่พี่ลืมอะ จำได้แต่ที่มันบอกว่าน้องแบมมึนๆงงๆ" ครับ น้ำตาจะไหล
     
     
     
    "อายุ 17 ครับ อยู่ ม.5"
     
     
     
    "ห่างกับพี่ 2 ปีแหนะ แต่ตัวจะเท่ากันแล้วอะ" พี่มาร์คจากที่ยืนพิงขอบประตูห้องตัวเองก็มายืนตรงๆข้างหน้าผมแล้วยกมือขวาขึ้นมาเหมือนจะวัดส่วนสูง
     
     
     
    "นี่แบมใส่รองเท้านะ พี่ไม่ได้ใส่หนิ" ผมถอดรองเท้าผ้าใบที่ใส่ทับส้นอยู่ออกแล้วยืนตรงๆให้พี่เขาวัดใหม่
     
     
     
    ...ทำไปทำไมครับยังงงอยู่ นี่เรามาทดสอบสมรรถภาพกันหรือยังไง มีวัดส่วนสูงด้วย แต่สถานที่กลับกลายเป็นทางเดินระหว่างห้องพี่มาร์คกับห้องของผม
     
     
     
    พี่มาร์คยกมือขวาขึ้นมาใหม่แล้ววาดมือจากหัวพี่เขามาถึงหัวผม
     
     
     
    "เอ้อ ค่อยยังช่วยหน่อย แบมเตี้ยกว่าพี่แล้ว"
     
     
     
    "ครับ" ในเมื่อพี่เขาสบายใจแล้วผมก็กลับมาใส่รองเท้าตามเดิมครับ แต่ระหว่างที่จะเอาเท้ายัดใส่รองเท้านั้น...
     
     
     
    "เดี๋ยว" พี่มาร์คดึงแขนผมเอาไว้
     
     
     
    "ครับ?" ผมหันไปเลิกคิ้วใส่แบบงงๆ
     
     
     
    "อย่าเพิ่งใส่ดิ ใส่แล้วเดี๋ยวก็สูงเท่ากันอะ" คำพูดนี่...สาบานว่าอายุ 19
     
     
     
    "เอ้า อะไรของพี่เนี่ย"
     
     
     
    "มานี่ๆๆ เดี๋ยวพี่ใส่เอง" พี่มาร์คแย่งรองเท้าผมไปใส่แบบทับส้นก่อนจะยืนตัวตรงอีกที
     
     
     
    ไม่น่าเชื่อนะว่าพี่เขาใส่รองเท้าผมได้น่ะ
     
     
     
    "คราวนี้ก็สูงกว่าเยอะแล้วนะ"
     
     
     
    "อยากสูงก็กินนมดิโห่" ผมแกล้งผลักแขนพี่เขาเบาๆทีนึง
     
     
     
    "กินป่านนี้พี่ก็ไม่สูงแล้วเหอะ"
     
     
     
    "เขาบอกว่าเราสูงได้ถึงตอนอายุ 25 ไม่ใช่อ่อ"
     
     
     
    "เขานี่เขาไหนอะ อย่าไปเชื่อเลย พี่หยุดสูงตั้งแต่อายุเท่าน้องแบมละ"
     
     
     
    "ตอนเด็กๆไม่ยอมกินนมเอง" ผมพึมพำเบาๆ
     
     
     
    "ได้ยินนะ" แต่เหมือนพี่มาร์คจะหูดีเกินไป....
     
     
     
    ¯`°.•°•.★* *★ ´¯`°.•°•.★* *★ .•°•.°´
     
     
     
    เวลาผ่านไปกี่นาทีแล้วผมก็ไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ผมกับพี่มาร์คได้ลงมานั่งขัดสมาธิที่พื้นกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ เพราะด้วยความที่ห้องของเราสองคนเป็นห้องในสุด ข้างๆก็เป็นหน้าต่างเปิดรับลม ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนเดินผ่านมา
     
     
     
    "เอ้อ ลืมไปเลยครับ" ผมหยิบถุงปีโป้มาจากด้านหลังแล้วยื่นให้พี่มาร์ค
     
     
     
    "ครับ?"
     
     
     
    "ตอนแรกแบมจะเอามาให้พี่อะ แบบมาฝากตัวไรงี้..." ผมก้มหน้าจนคางจะชิดอก วันนี้ไม่ว่าจะทำอะไรผมก็เสียความมั่นใจไปซะหมดเลยเห้อ
     
     
     
    "ฮะๆ ปีโป้อะนะ" พี่มาร์คดึงถุงปีโป้ไปจากมือผมแล้วฉีกมันออกมา ก่อนจะหยิบบางส่วนออกมาแล้วโยนๆมาบนตักผม
     
     
     
    "ครับ?" ผมมองปีโป้บนตักอย่างไม่เข้าใจ
     
     
     
    "แบ่งกันกินดิ กินคนเดียวจะอร่อยได้ไง"
     
     
     
    "ขอบคุณนะครับ" พี่มาร์คแม่ง...
     
     
     
    ทำไมต้องยิ้มแบบนี้ด้วยวะ
     
     
     
    "แบมชอบกินสีไร"
     
     
     
    "แบมชอบสีเขียวกับแดงครับ"
     
     
     
    "ว้า ตอนแรกว่าจะให้เพิ่มสักหน่อย แต่นี่ชอบสีเดียวกับพี่เป๊ะเลย ไม่ให้แล้ว" พี่มาร์คแกล้งเอาถุงปีโป้ซ่อนไว้ข้างหลัง
     
     
     
    "นี่มันของแบมนะ" ผมคลานอ้อมหลังพี่เขาเพื่อไปแย่งถุงปีโป้กลับมา
     
     
     
    "แต่นี่แบมให้พี่ไม่ใช่รึไง"
     
     
     
    "แต่ตอนแรกมันก็ของแบมนะ แบ่งกันคนละครึ่งดิ ต้องยุติธรรมนะ"
     
     
     
    "ไม่จริงอะ ให้แล้วให้เลยของพี่คนเดียว"
     
     
     
    "นิสัยไม่ดี!"
     
     
     
    "ใครกันแน่เหอะ"
     
     
     
    "เปลี่ยนเรื่องดีกว่า เถียงกับพี่มาร์คชาตินี้ก็ไม่จบหรอก" ผมบุ้ยหน้าใส่พี่เขา พี่มาร์คเลยทำท่าเหมือนจะเขกหัวผม
     
     
     
    "เดี๋ยวจะฟ้องพี่แจ็คสัน" 
     
     
     
    "ไม่กลัวหรอก ตัวก็สั้น"
     
     
     
    "แบมแอบอัดเสียงไว้ด้วยแหละ เดี๋ยวจะเอาไปเปิดให้พี่แจ็คสันฟัง" ผมแกล้งตบไปที่กระเป๋ากางเกงข้างซ้ายที่มีโทรศัพท์อยู่ แต่ความจริงไม่ได้อัดหรอก
     
     
     
    "โห แอบอัดไว้ตั้งแต่แรกเลยดิ เพราะเมื่อกี้พี่ไม่เห็นแบมเอาโทรศัพท์ขึ้นมา นี่กะจะเอาเสียงพี่ไปฟังก่อนนอนอ่อ:p" 
     
     
     
    "พี่บ้า ไม่ใช่สักหน่อยมั่ว"
     
     
     
    "เอ้า ก็อัดไว้ทำไมละ"
     
     
     
    "แบมไม่ได้อัด!"
     
     
     
    "หว่าย ยอมรับแล้วเด็กขี้ตู่"
     
     
     
    "ไม่ใช่เด็กขี้ตู่ ก็พี่เริ่มว่าพี่แจ็คสันก่อนอะ"
     
     
     
    "ไม่ได้ว่าแค่พูดความจริง" พี่มาร์คกัดปีโป้สีเขียวเข้าปากแล้วยักไหล่ทีนึง
     
     
     
    "ไม่เอาละๆๆ เลิกคุยๆ เอาขนมมาด้วยเลย" ผมโกยปีโป้ที่กระจายเต็มพื้นเข้าถุง รวมถึงปีโป้บนตักตัวเองและบนตักพี่เขาด้วย ก่อนจะทำท่าลุกขึ้นยืน
     
     
     
    "เห้ยๆๆ ไรเนี่ย" พี่มาร์คดึงถุงปีโป้อีกข้างเอาไว้ ทำให้ตอนนี้เราสองคนกำลังยื้อถุงปีโป้กันไปมา
     
     
     
    "จะกลับห้องแล้ว นี่จะสามทุ่มแล้วเนี่ย" ครับ...ตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆสามทุ่ม เพราะตอนนั้นผมถึงคอนโดก็ห้าโมงเย็นแล้ว กว่าจะจัดห้องนู้นนี่เสร็จก็หกโมงครึ่ง ออกมาหาพี่มาร์คก็เกือบๆทุ่มนึงแหนะ
     
     
     
    "ก็กลับดิ แต่เอาปีโป้มา" ...เห็นแก่กินนี่เอง
     
     
     
    "ไม่อะ เมื่อกี้ก็กินไปแล้วไง" ดึงถุงมา
     
     
     
    "มันของพี่ทั้งหมดนะนั่น" พี่มาร์คดึงถุงกลับ
     
     
     
    "แต่ตอนนี้แบมจะเอาคืนแล้ว"
     
     
     
    "งั้นก็แบ่งกันคนละครึ่ง" พี่มาร์คเสนอทางเลือกใหม่ให้
     
     
     
    "ก็ได้ๆๆ" ผมนั่งลงบนพื้นอีกรอบแล้วเทปีโป้ที่เหลือทั้งหมดลงมา ก่อนจะนับ
     
     
     
    "2...4....6....8....9" เหลืออยู่ 9 อันครับผม!
     
     
     
    "แบ่งคนละ 4 แล้วอีกอันนึงก็วางไว้นี่เนี่ยละ" พี่มาร์คเลือกหยิบสีแดงกับเขียวไปอย่างละ 2 อัน แล้วทำท่าจะลุกขึ้น
     
     
     
    "เห้ยเดี๋ยว หมายความว่าไงเนี่ยไอ้วางไว้นี่แหละ?" 
     
     
     
    "ก็มันเหลือเศษอะ ใครได้ไปมากกว่าก็ไม่ยุติธรรมดิ งั้นก็วางไว้นี่แหละ ใครเดินมาเจอก็ให้เขากินไป" ง่ายเนอะครับ
     
     
     
    "ตลกละๆ"
     
     
     
    "งั้นให้พี่ทำไงละหื้อ"
     
     
     
    "ก็แบ่งกันคนละครึ่งดิ สีเขียวนั่นอะ" ผมชี้ไปที่ปีโป้สีเขียวอันเดียวบนพื้นที่เหลืออยู่ เพราะมันต่างเป็นสีที่ผมและพี่มาร์คชอบ
     
     
     
    "แบ่งไงอะ?" ถึงพี่มาร์คจะพูดแบบนั้น แต่มือนี่ก็แกะปีโป้อันที่ว่าละครับ
     
     
     
    "เอาไงดีอะ...." ผมชะงักไปนิดหน่อย เออก็จริง จะแบ่งไง ไม่ใช่โดโซะสักหน่อยที่จะหักครึ่งแล้วแบ่งกันกินได้เลย
     
     
     
    "เอางี้ เดี๋ยวกัดกันคนละครึ่ง"
     
     
     
    "ห้ะ?" ผมหันขวับไปมองหน้าพี่เขาทันที ให้ตาย...เอาจริงดิ
     
     
     
    "ก็ไม่มีทางอื่นละ จะให้หักแบ่งขึ้นเดี๋ยวจากปีโป้หวานๆกลายเป็นเค็มอะ หรือไม่ก็วางไว้ตรงนี้แบบที่พี่บอกตอนแรก" มาเป็นชุดเลยครับ...
     
     
     
    "โอเคๆ เอางี้ก็ได้ แต่แบมขอกัดก่อน" ผมยื่นมือไปขอปีโป้จากพี่เขา ถ้าให้ผมกัดทีหลังก็แปลกๆปะ เออมันแปลกๆอะบอกไม่ถูก-_-
     
     
     
    "ได้สิ" พี่มาร์ควางปีโป้บนมือของผมแล้วสะบัดคางเป็นเชิงให้กินๆซะ
     
     
     
    ผมลังเลนิดหน่อยก่อนจะมองกะระยะให้ถึงกึ่งหนึ่งแล้วบีบมันขึ้นมาก่อนจะกัดลงไป
     
     
     
    ผมเงยหน้ามองพี่มาร์คนิดนึง ก็พบว่าพี่เขานั่งยองๆแล้วกอดเข่าจ้องผมอยู่
     
     
     
    จ้องทำไม....
     
     
     
    "เอ้า ครึ่งนึงพอดีนะครับ แบมไม่โกง" ผมยื่นปีโป้ที่เหลือให้พี่เขา มันก็น่าจะครึ่งนึงพอดีน่ะนะถ้าผมสายตายังดีอยู่
     
     
     
    "ก็ไม่ได้ว่าไร" พี่มาร์คยักไหล่ทีนึงแล้วกรอกปีโป้ที่เหลือเข้าปาก ก่อนจะโยนไอ้พลาสติกที่ใส่ปีโป้ลงถังขยะข้างๆ
     
     
     
    "ปะ นอนกัน" พี่มาร์คลุกขึ้นยืนแล้วก้มลงมาดึงแขนผมให้ลุกตามด้วย
     
     
     
    ไอ้พี่บ้า ใครให้มาดึงแขนวะ...
     
     
     
    "อิ่มแล้วก็ไล่เลยนะ" ผมแกล้งพูดแล้วทำหน้าตาล้อเลียนพี่เขา
     
     
     
    "เอ้า ก็ตอนนั้นเราบอกจะเข้าห้องแล้วนี่หน่า..." เออลืม
     
     
     
    "เคๆ งั้นแยกย้ายกันนะครับ บ๊ายบาย" ผมหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาแสกนแล้วเดินเข้าไปในห้อง ผมหมุนตัวจะหันกลับมาปิดประตู ก็พบพี่มาร์คยืนยิ้มแป้นอยู่หน้าห้องแล้วโบกมือบ๊ายบาย
     
     
     
    "ฝันดีครับ"
     
     
     
    "คืนนี้ผมฝันร้ายแน่เลย" ผมแลบลิ้นใส่พี่เขาทีนึงแล้วปิดประตูลง
     
     
     
    ปัง!
     
     
     
    เมื่อผมเดินเข้ามาในห้องก็มองนาฬิกาเป็นอย่างแรกเลยครับ ก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มสิบนาที
     
     
     
    ตอนคุยกับพี่มาร์คก็เกือบๆทุ่ม ตอนนี้สามทุ่มสิบ...
     
     
     
    นี่เรายืนๆนั่งๆคุยกันตั้ง 2 ชั่วโมงเลยหรอ นี่มันนานมากๆเลยนะเนี่ย
     
     
     
    ...มันไม่น่าเชื่อเลยนะว่าเราเพิ่งเจอแล้วก็คุยกันวันแรกน่ะ
     
     
     
    ผมคุยกับพี่เขาได้แบบสนิทใจโครตๆ เหมือนกับว่าเรารู้จักกันมาเป็น 10 ปี ทั้งๆที่ความจริงเราไม่เคยเจอกันมาก่อนแท้ๆ
     
     
     
    ทำไมกันนะ....
     
     
     


     
     
    #นบพกด
     
     
     
     
    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×