ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Got7] Available @MarkBam #นบพกด is back!

    ลำดับตอนที่ #3 : 〖2〗✧ 折り紙。

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.76K
      9
      24 ธ.ค. 57









     

     
     




     
    Not a day goes by that I don't think of you.




     
     
    ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มสี่สิบครับ ผมซึ่งอาบน้ำและเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนลายปิกาจูสีเหลืองแล้ว กำลังนอนเหยียดขาบนโซฟาและเปลี่ยนช่องหาการ์ตูนไปเรื่อยๆ
     
     
     
    ตอนนี้ไม่มีการ์ตูนที่น่าสนุกเลยอะ
     
     
     
    ช่องบูมเมอแรงตอนนี้ก็มีทอมแอนด์เจอรี่ ซึ่งเป็นตอนที่ผมดูบ่อยจนจะจำบทพูดและเหตุการณ์ได้ทั้งหมดแล้ว
     
     
     
    ซึ่งตอนนี้ผมลองมาคิดดูดีๆนะ...วันนี้วันอังคารใช่ปะถ้าจำไม่ผิด? งั้นพรุ่งนี้ก็วันพุธ? วันพุธ? วันพุธ? วันพุธต้องทำอะไรอะครับนอกจากไปดูหนังในราคา 60 บาท
     
     
     
    ต้องไปโรงเรียนไงละครับ...
     
     
     
    ความทรมานที่สุดในรอบสัปดาห์
     
     
     
    ผมรู้สึกว่าใน 1 สัปดาห์มี 5 ปี กับอีก 2 ชั่วโมงเลยอะเอาจริงๆ 
     
     
     
    เคยคิดอยากเลิกเรียนไปไถนาแต่คิดไปคิดมาเออนี่ผมก็ 17 ละนะ สมองไม่น่าคิดได้แค่นี้อะ แม่อุตส่าห์เลี้ยงมา เด็กๆนี่ป้อนน้ำมันตับปลาทุกวัน ถ้าคิดสั้นๆขนาดนั้นก็คงเสียดายค่าน้ำมันตับปลาแย่อะ ขวดนึงไม่ใช่ถูกๆ
     
     
     
    ละลองคิดดูดีๆ ถ้าไปไถนาอะ มันต้องมี...
     
     
     
    ที่นา
     
     
     
    ควาย
     
     
     
    รถแทรกเตอร์
     
     
     
    พันธุ์ข้าว
     
     
     
    เกวียน
     
     
     
    ต้องหาโรงสี
     
     
     
    ต้องมีคนงานช่วย
     
     
     
    ค่าน้ำ
     
     
     
    ค่าไฟ 
     
     
     
    หลังสู้ฟ้า
     
     
     
    หน้าสู้ดิน
     
     
     
    อื้อหือ พระเจ้าช่วย...
     
     
     
    คิดแล้วผมไม่มีอะไรสักอย่าง เงินทุนผมยังไม่มีเลยละจะไปทำนาได้ยังไง สรุปคือยังไงก็ต้องเรียนอะครับ หนีไม่พ้นอยู่ดี
     
     
     
    พูดเหมือนการเรียนจะดูลำบากมาก แต่พอลองหันกลับไปดูคนที่ไม่มีอะไรเลย เรียนก็ไม่ได้เรียน ต้องทำงานหนักตั้งแต่อายุยังน้อย ก็คิดว่าเราสบายและโชคดีมากๆแล้วละครับ ที่พ่อแม่มีเงินส่งให้เราเรียนหนังสือ อยู่โรงเรียนดีๆ มีอาหารดีๆกิน มีที่อยู่ดีๆให้อยู่ มีสังคมที่ดี มีเพื่อนที่ดี เพราะฉะนั้นต้องไปเรียนแล้วละครับ ต้องขยันเพื่อตอบแทนพระคุณของพ่อแม่
     
     
     
    (พยายามขยันอะนะ)
     
     
     
    ¯`°.•°•.★* *★ ´¯`°.•°•.★* *★ .•°•.°´
     
     
     
    เมื่อคิดได้แล้วว่าหน้าที่ของเราคือต้องไปเรียน หมั่นเพียรศึกษา โตมากจะได้เป็นอนาคตของชาติ เด็กฉลาด ชาติเจริญ จึงเดินไปที่ตารางสอนลายชูการ์บันนี่ ที่แปะอยู่บนกำแพงข้างโต๊ะเขียนหนังสือ
     
     
     
    ยิ่งเห็นตารางสอนวันจันทร์ยิ่งอยากฆ่าตัวตาย
     
     
     
    เคมี
     
    ....ครูโครตขี้บ่นอะ
     
     
     
    คณิตพื้นฐาน
     
    ....สอนโครตน่าเบื่อ เหมือนสวดมนต์อะ
     
     
     
    ชีวะ
     
    ....ครูสอนเร็วมากกกกกก กันต์พิมุกต์จดตามไม่ทันนน
     
     
     
    อังกฤษ
     
    .....นี่ก็สั่งการบ้านเยอะ ส่งพรุ่งนี้ 8 หน้า ทำเสร็จไปเพียง 3 หน้ากว่าๆ
     
     
     
    ถ้าจะทำกันแบบนี้....
     
     
     
    ฆ่ากันให้ตายดีกว่า.......
     
     
     
    (ไหนเมื่อกี้ใครบอกคิดได้แล้ว)
     
     
     
    ¯`°.•°•.★* *★ ´¯`°.•°•.★* *★ .•°•.°´
     
     
     
    7.00 น
     
     
    ณ โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง 
    (คิดชื่อไม่ออก)
     
     
     
    เมื่อคืนนอนเร็วครับ นอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม ปกตินี่นั่งดูหนังยันเที่ยงคืน ไม่ใช่สารคดีสัตว์โลกหรืออะไรที่มีสาระ ช่องบูมเมอแรงอะ ที่มันฉายพวกการ์ตูนเด็ก มายลิตเติ้ลโพนี่ เบ็นเท็น สกู้ปปี้ดู ทวิตตี้ไรงี้ แต่เมื่อวานช่องบูมเมอแรงกว่าโพนี่จะมาก็ปาเข้าไปเกือบๆสี่ทุ่มละ ละพอดำเนินเรื่องไปไม่ถึง 5 นาที มันกลับค้างอยู่ที่หน้าแรริตี้ ผมหงุดหงิดนิดหน่อยเลยปิดทีวีละนอนซะ มันแบบโมโหอะ ขัดฟิลมาก เขากำลังแข่งวิ่งกันอยู่ กำลังลุ้นว่าเรนโบว์แดชจะชนะรึป่าว ละคือค้างนี่ไม่ไหวจริงๆ ฝากบอกให้เขามารับผิดชอบความผิดพลาดตรงนี้ด้วย
     
     
     
    ผมเดินขึ้นบันไดมาเรื่อยๆ คือนี่บันไดโรงเรียนหรือบันไดขึ้นยอดดอยอินทนนท์ครับ ชันมาก เยอะมาก เมื่อยมาก เดินขึ้นลงแบบนี้มาเกือบครึ่งชีวิตแล้วแต่ก็ยังบ่นอยู่นั่นแหละ ไม่ชินสักทีเลยกับความชันของบันไดนี้ เห้อ หอบเลยครับเนี่ย
     
     
     
    สุดท้ายผมก็เดินมาถึงห้องจนได้ ผมสูดลมหายใจเข้านิดหน่อยเพื่อเรียกสติตัวเอง ว่าวันนี้ต้องตั้งใจเรียนแล้วนะ อย่าหลับอีกนะ งานต้องส่งให้ครบนะ จะได้ไม่โดนครูว่าอีก แค่นี้คะแนนก็ง่อยจะตายแล้วครับ
     
     
     
    ฟืด
     
     
     
    ผมเลื่อนประตูกระจกแล้วเดินเข้าไปในห้อง
     
     
     
    "ไงครับภูวกุล" ยูคยอม เพื่อนสนิทของผมตั้งแต่จำความได้เอ่ยทักขึ้นมาทันทีที่มันเห็นผม ตอนเด็กๆผมจำอะไรไม่ค่อยได้เลย ถือว่าเป็นเด็กที่ปัญญาทึบและสมองปลาทองพอสมควร 
     
     
     
    ตอนนั้นจำได้แค่ว่ามีมันเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวเนี่ยแหละ นอน กินข้าว อาบน้ำ อ่านหนังสือ ดูการ์ตูน ทำการบ้าน ปลูกต้นไม้ ขี่จักรยาน ไปเที่ยว เล่นดินขุดทราย ทำบุญ ทำเลว ก็ทำกับมันทุกอย่างตั้งแต่เด็กยันโต รู้นิสัยกันแบบทะลุปรุโปร่ง อยู่โรงเรียนเดียวกันห้องเดียวกันตั้งแต่อนุบาล 1 ยันปัจจุบัน สื่อให้เห็นว่าเราไม่มีทางแยกจากกัน เพราะขนาดขึ้นมัธยม 4 ผมกับมันยังเลือกเรียนสายเดียวกันเลยครับ=_= 
     
     
     
    หลังจากที่มันยิ้มกวนส้นตีนและโบกมือบ๊ายบายอย่างน่ารักน่าชังให้ผม มันก็ก้มหน้าพับอะไรต่อไม่รู้ ผมเลยวางกระเป๋าที่โต๊ะเรียนข้างๆยูคแล้วกระแทกก้นลงบนเก้าอี้ข้างๆมันอีก ซึ่งอย่าถามว่าทำไมผมถึงทำแบบนี้ได้ เอ้า ก็นี่โต๊ะเรียนของผมหนิครับเห้อ
     
     
     
    "มึงพับเชี่ยไรเนี่ยยูค" ผมชะโงกหน้าแล้วเพ่งสายตามองกระดาษหลากสีที่ตอนนี้ไอ้ยูคกำลังพับทบไปมา ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าจะออกมาเป็นตัวอะไร
     
     
     
    "นกกระเรียนไงครับเพื่อน รู้จักป่าว"
     
     
     
    "รู้จักดิ รู้ว่ามันคือนกอะ แต่มึงจะพับไปทำอะไรวะ" ผมยังสงสัยไม่เลิก ก็งงหนิครับ นกกระเรียน? พับไปทำไมอะ รายได้เสริม?
     
     
     
    "น้องโมชิ หมาบ้านกูป่วยอะ กูได้ยินว่าคนป่วยถ้าพับนกกระเรียนครบ 1,000 ตัว เทพเจ้าจะประทานพรให้แข็งแรงขึ้น" 
     
     
     
    "ห้ะ นี่มึงรักหมาขนาดนั้นเลยหรอวะ ถ้ากูป่วยนี่จะพับให้กูบ้างมั้ย" พระเจ้าช่วย ผมเคยเห็นน้องโมชิหมาไอ้ยูคนะ รู้ด้วยว่ามันรักมาก แต่ไม่คิดว่าจะรักถึงกับพับนกกระเรียนให้ ละถ้าน้องโมชิอะไรนี่เป็นพันธุ์ปอม ชิวาวา ชิสุ ไรงี้ที่น่าทะนุถนอมผมจะไม่ว่าเลย 
     
     
     
    ...นี่พันธุ์ไรรู้มั้ยเอ่ย พิทบูล ดุชิบหาย น่ากลัวมาก น้ำลายไหลตลอดเวลา ถึกประดุจหินผา ใครกล้าเตะโมชินี่ผมนับถือเลยอะครับ คุณใจกล้ามาก ควรค่าแก่การคารวะสักสี่สิบเก้ารอบเศษ
     
     
     
    เอาจริงปะ ผมไม่เชื่อหรอกว่ามันจะพับให้หมาอะ ยังไงซะก็แกล้งทำซื่อไปก่อน เดี๋ยวมันก็เผยไต๋
     
     
     
    ....บางทีมันอาจจะมีความรักแล้วไม่ยอมบอกผมก็ได้นะ
     
     
     
    มันเป็นคนชอบปิดบังอะไรหลายๆอย่างกับผมอยู่ด้วย
     
     
     
    ทั้งๆที่ผมมั่นใจนะว่าผมเป็นเพื่อนที่มันคบด้วยนานที่สุดแล้ว แต่มันก็ไม่เคยบอกความลับอะไรสักอย่าง ทำเหมือนคนไม่มีความลับแต่จริงๆมีอยู่เต็มไปหมด
     
     
     
    ทำไมกันนะ ผมมันไม่น่าไว้ใจพออย่างนั้นเหรอ...
     
     
     
    "เออดิรักมาก ถ้าสมมติมีรถจะมาชนหมากับกู กูเลือกให้ตัวเองโดนชนอะ ส่วนมึง ถ้าป่วยกูจะซื้อโจ๊กให้พอ" ผมสะบัดหัวไล่ความคิดมากของตัวเองออกไปแล้วหันมาฟังไอ้ยูคต่อ
     
     
    ...หื้อ นี่ยอมสละชีวิตเพื่อหมาว่างั้นเถอะ....แต่ว่าถ้ารถชนหมายูคนี่รถยุบอะพูดเลย
     
     
     
    "กูสำคัญน้อยกว่าหมามึงช้ะ งอนละ ง้อด้วย ถ้าจะง้อเอาโดโซะถุงนึง" ผมแกล้งบุ้ยปากแล้วขมวดคิ้วใส่มัน
     
     
     
    "ทำหน้างี้คิดว่าน่ารักตายแหละ กูไม่ง้อหรอก"
     
     
     
    "เหอะ"
     
     
     
    "แต่กูจะบอกไรให้ ถ้าใครมีความรักอะ เขาให้พับดาวละจะสมหวัง มึงลองพับดูบ้างปะ"
     
     
     
    "ดาว?" ดาวไร ผมก็มีดาวนะ เต็มเพดานห้องเลย เรืองแสงด้วยตอนกลางคืน มีดาวเสาร์ พระจันทร์ จรวด พระอาทิตย์ด้วย อยากได้ละสิ
     
     
     
    "อืม ดาว พับใส่โหลไรเงี้ยอะ ที่พวกคู่รักเขาพับให้กันวันครบรอบ วันวาเลนไทน์ วันคริสมาสต์ วันปีใหม่ วันภาษาไทย วันลอยกระทง วันสงกรานต์ วันเด็ก วันตรุษจีน วัน..."
     
     
     
    "มั่นใจในมุขตัวเองมากสินะมึงอะ"
     
     
     
    "กูก็แค่อยากเล่น ไม่ได้ช้ะ" ยูคสะบัดเสียงงอนๆ ท่าทางซุงแหลเป็นบ้า
     
     
     
    "เออ พี่ตรงข้ามห้องมึงคนนั้นไง....ที่มึงเล่าให้ฟังเมื่อคืนอะ พับดาวให้เขาดิ จัดเลยเว้ย กูอยากให้มึงมีแฟนสักที" ถูกละ ผมโทรไปเล่าเรื่องพี่มาร์คให้ไอ้ยูคฟังเมื่อคืนตอนก่อนจะอาบน้ำ ก็มันอัดอั้นอะครับโถ่ ผมว่าพี่เขาคุ้นแปลกๆแต่ก็จำไม่ได้ ละอีกอย่าง ปกติมีอะไรผมก็บอกมันทุกเรื่องอยู่แล้ว
     
     
     
    ก็เป็นเพื่อนสนิทกันนี่หน่า...
     
     
     
    ไม่เหมือนมันหรอก ที่ไม่บอกอะไรสักอย่าง
     
     
     
    "กูเพิ่งเจอพี่เขาครั้งแรก นี่ก็จะให้กูเต๊าะเขาแล้วหรอ ถ้าเขามีแฟนแล้วทำไงอะ"
     
     
    แล้วอีกอย่าง ความรู้สึกก็ยังไม่ได้ชอบอะไรมากมายขนาดนั้นด้วย แค่รู้สึกสนิทใจแล้วก็คุ้นๆก็เท่านั้น...
     
     
     
    "ไม่มีหรอก ถ้ามีเมื่อคืนเขาจะมายืนคุยงุ้งงิ้งกับมึงตั้งนานทำไม ถ้าเขามีแฟนเขาก็ไปกกอยู่กับแฟนนู้น คิดหน่อยสิเพื่อน ละพับกระดาษก็งานเล็ก แค่มีกระดาษกับใจก็พอละ ไม่ต้องลงทุน ทุ่มเทไรมาก เลิกชอบก็เลิกพับ ไม่เสียดายกระดาษ"
     
     
     
    "คำพูดมึงเหมาะกับไปเป็นนักสิ่งแวดล้อมโลกมาก แลดูมีการรียูสเกิดขึ้นในครัวเรือน"
     
     
     
    "แหมะ นี่ใคร คิมยูคยอม ตอนกูจะจีบสาวกูก็ใช้มุขนี้ทุกที พับดาว เขียนข้อความหวานๆ สาวติดตรึม"
     
     
     
    "พี่มาร์คเป็นผู้ชาย" ผมตอบมันเสียงเนือย พี่เขาเป็นผู้ชายนะครับ ไม่ใช่ผู้หญิงที่เห็นผู้ชายหน้าตาดีนิดหน่อยก็กรี๊ดๆตามแล้ว
     
     
     
    ...ผมไม่ได้หมายถึงผู้หญิงทุกคนนะครับ หมายถึงผู้หญิงประเภทแบบที่มาติดไอ้ยูคอะ
     
     
     
    "ผู้หญิงผู้ชายก็เหมือนกันอะ จะพับไม่พับเนี่ย อยากจีบมั้ย แต่กูอยากให้เพื่อนมีแฟนว้อย"
     
     
     
    "กูอยากพับกระดาษให้พี่เขาบ้างนะ คือไม่ได้เพราะอยากจีบหรืออะไร แต่พี่เขาก็ดีกับกูพอสมควร อยากตอบแทนไรพี่เขาบ้าง" ผมพูดไปตามความจริง เราควรจะทำอะไรให้พี่เขาประทับใจบ้างนะครับ ว่ามั้ย? เพราะในอนาคตผมว่าพี่เขาคงเป็นพี่ชายที่ช่วยเหลือผมได้พอสมควรแหละ
     
     
     
    ผมเริ่มพูดต่ออีกครั้ง "แต่แบบ ดาวแม่งซ้ำซากอะ จำเจไปมั้ย อยากได้อะไรที่มัน different ดีไอวายบายแบมแบมกันต์พิมุกต์มากกว่านี้"
     
     
     
    "มึงจะพับอะไรละ ถุงปาท่องโก๋มั้ย หรือจะพับจรวด ซองจดหมายก็ได้นะ ที่เราเคยพับเล่นกันตอนเด็กๆ"
     
     
     
    "พ่อมึงเปิดคณะตลกหรอยูค"
     
     
     
    "เอ้า กูก็นึกว่ามึงเลือกที่จะแตกต่างไง"
     
     
     
    "ขอแตกต่างแบบสร้างสรรค์ไม่เอาแตกต่างแบบคิดสั้นได้มั้ย"
     
     
     
    "โว๊ะ กูไม่ใช่ศิลปินนะเว้ย ที่จะมีสมองเป็นสีรุ้งอะ อยากได้อะไรดีๆก็คิดเองดิ นู้นก็ไม่เอานี่ก็ไม่เอา"
     
     
     
    "จำไว้เลย จำไว้เลยนะยูค จำวันนี้ให้ดี กูจะไม่ช่วยมึงลอกการบ้านอีกต่อไป" สะบัดหน้างอน 45 องศา ฉับพลันตาของผมก็ไปเจ๊อะกับกระต่ายน้อยบนโต๊ะเรียนของตัวเองที่ถูกวาดไว้ด้วยปากกามูจิสีดำ (ผมวาดเองแหละกูเลยรู้ยี่ห้อ คือพ่อไม่ได้ทำโรงงานวิเคราะห์ปากกานะครับ ที่เห็นปุ๊บจะรู้ยี่ห้อเลย)
     
     
     
    "เชี่ยยูคคคค กูนึกอะไรดีๆออกแล้ว!!!!" ตบโต๊ะดังป๊าบและลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้ เห้ยๆๆๆๆ ผมรู้ละ รู้แล้วๆๆ รู้แล้วว่าจะพับอะไร!
     
     
     
    ¯`°.•°•.★* *★ ´¯`°.•°•.★* *★ .•°•.°´
     
     
     
    "ท่านภูวกุลเป็นอะไรครับ นั่งลงก่อนผองเพื่อนมองหมดแล้ว" ยูคยอมดึงขาผมเพื่อจะให้ผมลงจากเก้าอี้ เออจริง ทุกคนในห้องหันมามองผมเป็นตาเดียว ผมทำอะไรผิดครับ ก็แค่ตื่นเต้นเฉยๆเองนะ
     
     
     
    "โทษๆ ทำงานกันต่อได้เลยเนอะ" ผมหันไปยิ้มแหยๆให้เด็กหน้าห้องที่ก่อนหน้านี้กำลังนั่งอ่านหนังสือ แต่ตอนนี้กำลังหันมามองหน้าผมตาขวาง
     
     
     
    เหอะ กลัวตายละ
     
     
     
    "ยูค มึงเห็นกระต่ายบนโต๊ะกูมั้ย"
     
     
     
    "เห็น"
     
     
     
    "เห็นกระต่ายละนึกถึงไร"
     
     
     
    "แครอท" นั่นก็ตื้นไป
     
     
     
    "ลึกกว่านี้ละ"
     
     
     
    "ทุ่งหญ้า" ตื้นไปอีก ตื้นเหมือนสมองยูคตอนนี้เลย-_-
     
     
     
    "ลึกกว่านี้"
     
     
     
    "กรงกระต่าย" นี่แกล้งหรืออะไรอะครับ พับกรงกระต่ายคงสนุกสนานกันน่าดู
     
     
     
    "ลึกอีก"
     
     
     
    "ขนกระต่าย" ผมแพ้ขนกระต่ายอะครับ คงไม่ทำอะไรแบบนั้น เจอทีไรฮัดชิ๊วทุกที
     
     
     
    "ลึกอีกๆ"
     
     
     
    "กูเห็นกระต่าย 2 ตัวกำลังปี้กัน" ....นี่ก็สิบแปดบวกไปนะครับ เพื่อนใครวะเนี่ย
     
     
     
    "พอๆๆๆ มึงแม่ง อะไรเนี่ย เสื่อม" 
     
     
     
    "เหี้ยไร ก็มึงบอกให้ลึกๆๆอยู่นั่น นี่กูคิดลึกสุดละ ลึกกว่านี้นี่กูต้องนึกถึงจำนวนโครโมโซมของกระต่ายเลยปะ"
     
     
     
    "กูหมายถึงมองกว้างกว้างงงงงงอะ มะกี้เว้ย กูเห็นกระต่าย ละคือสัตว์ทุกตัวแม่งก็ต้องมีความหมายช้ะ"
     
     
     
    "ไรวะแบม ช่วยขยายความประโยคมึงได้มั้ย กูงง"
     
     
     
    "โถ่ไอ้บ้า เช่น หมาคือความซื่อสัตย์ สิงโตคือผู้นำอะไรแบบนี้อะ"
     
     
     
    "อ๋อ แล้วไมวะ"
     
     
     
    "กูจะพับกระดาษให้พี่เขาเป็นรูปสัตว์ เอาตัวที่ความหมายดีๆอะ แล้วเอาไปให้พี่เขา"
     
     
     
    "มึงดูซีรีย์มากไปใช่มั้ยตอนปิดเทอมที่ผ่านมา"
     
     
     
    "มันออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจกูต่างหาก different and interesting ใช่มั้ยละยูค"
     
     
     
    "ถ้ามึงสามารถพับได้มันก็ different and interesting แหละ แต่ถ้าพับไม่ได้มันจะ be boring"
     
     
     
    "เรา same เด็กนานาชาติเลยว่ามั้ย" 
     
     
     
    "บอกเลยกูพูด very มั่ว"
     
     
     
    "กูก็ very มั่ว same มึง ส่วนเรื่องพับกระดาษ เดี๋ยวกูจะเริ่มพับตอนเย็นวันนี้เลย"
     
     
     
     
    ....
     
     
     
     
     
    'วิธีการพับกระดาษ' 
     
     
     
    พอพิมพ์คำนี้ไปในกูลเกิ้ล ข้อความมากมายเกี่ยวกับการพับกระดาษก็เด้งขึ้นมาบนหน้าจอคอม ส่วนใหญ่จะเป็นพับกุหลาบอะ มีทั้งคลิป ภาพนิ่ง ขั้นตอนแบบละเอียด แต่พอดูละขอบายอะ จะพับทบไปทบมาอะไรนักหนาวะ คิดว่าผมจะทำได้มั้ย ซื้อกุหลาบปลอมมาให้ง่ายกว่า
     
     
     
    แต่ในวิธีทำเขาก็บอกว่ามันเป็นพื้นฐานและง่ายมาก พอมาเลื่อนดูคอมเม้นท์นี่ยิ่งอึ้ง
     
     
     
    คห.3 : ยากจังเลยค่ะ อยากพับให้แฟนแต่พับเท่าไหร่ก็พับไม่เป็นกุหลาบ เป็นดอกหน้าวัวทุกที
     
     
     
    คห.4 ตอบกลับ : แค่นี้พับไม่ได้ก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไรแล้วค่ะ ไม่มีความเป็นกุลสตรี เดี๋ยวแฟนก็ทิ้งค่ะ ผู้ชายไม่ชอบคนทำอะไรง่อยๆค่ะ
     
     
     
    โห ไอ้บ้า แค่พับไม่ได้นี่จำเป็นต้องด่าเลยหรอ พ่อนี่เป็นคนคิดวิธีพับไง๊ เดือดร้อนแทนเขาจังเนี่ย ละกุลสตรีไรวะ ถ้าผมพับได้นี่ต้องเป็นกุลบุรุษมั้ย 
     
     
     
    ...เครียด เครียดหนักกว่าเดิม ดอกกุหลาบผมยังพับไม่ได้เลย หมูหมีหมากาไก่นี่อย่าหวังจะพับได้อะเอาจริง
     
     
     
    เลื่อนลงไปดูคอมเม้นท์อีก
     
     
     
    คห.17 : จะพับไปทำไม ถ้าคนที่จะให้เขาไม่ต้องการ
     
     
     
    รู้สึกเจ็บแปลบในอก อกหักมาสินะคนนี้ ผมต้องให้กำลังใจเขาหน่อยแล้ว
     
     
     
    คห.101 ตอบกลับ : พับไปเถอะครับ เสียเหงื่อให้กระดาษ ดีกว่าเสียน้ำตาให้ยาเสพติด
     
     
     
    ครืด
     
     
     
     
    โทรศัพท์ของผมที่วางอยู่ข้างคอมสั่นครืดครืด ผมจึงหยิบขึ้นมาดูแล้วพบว่าเป็นไอ้ยูคยอมไลน์มา
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : How are you?
     
     
     
    BamX2 : I'm fine thank you sit down please
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : thank you teacher 
     
    ญูคญอมคนกาก : and good morning นะครับผม
     
     
     
    BamX2 : นี่เย็นแล้วมั้ย มึงเห็นพระอาทิตย์ยิ้มแฉ่งอยู่บนท้องฟ้าหรอ
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : งั้นก็ good evening my teacher❤️
     
     
     
    BamX2 : เลิกเล่นกันม่ะมึง
     
    BamX2 : สรุปมึงมีไรครับ
     
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : มึงพับได้ยัง
     
    ญูคญอมคนกาก : กระดาษอะ
     
     
     
    BamX2 : ยัง
     
    BamX2 : ศึกษาอยู่
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : มีไรให้ช่วยก็บอก 
     
    ญูคญอมคนกาก : นี่เซียนพับกระดาษ
     
     
     
    BamX2 : ช่วยทุกตรง
     
    BamX2 : กูงงมาก
     
    BamX2 : นอกจากหน้าตาดีแล้วกูก็ไม่มีความสามารถพิเศษไรเลย
     
    BamX2 : มาหาที่คอนโดหน่อย
     
     
    ญูคญอมคนกาก : ชวนกูเข้าห้องอ่อ
     
    ญูคญอมคนกาก : ไม่งามเลย
     
     
     
    BamX2 : จะให้สอนพับกระดาษเหอะ
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : คราวหน้านะเพื่อน
     
    ญูคญอมคนกาก : ขี้เกียจ นี่อาบน้ำละ
     
     
     
    BamX2 : นี่เพิ่ง 5 โมง มึงรีบหรอ
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : กูไม่ได้ซกมกแบบมึง
     
     
     
    BamX2 : กูสะอาด ทำไมคนอื่นชอบคิดไปเองว่ากูสกปรก

     
     
    ญูคญอมคนกาก : มึงมโนไปเองว่าตัวเองสะอาด
     
    ญูคญอมคนกาก : หยุดส่งสตกที่ไม่เข้ากับเบ้าหน้ามึงมาสักที
     
     
     
    BamX2 : เดี๋ยวกูซื้อสติ๊กเกอร์ชินจังลายใหม่ให้ม่ะ
     
    BamX2 : เข้ากับหน้ามึงเลย
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : กูจะเป็นสไปรท์เดอร์แมน 3 จะปล่อยใยแมงมุม
     
    ญูคญอมคนกาก : อยากเป็นซุปเปอร์ฮีโร่

     
     
    BamX2 : คนเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ต้องช่วยเหลือคนอื่น
     
    BamX2 : งั้นกูให้มึงเป็นสไปรทเดอร์แมนก็ด้ะ
     
    BamX2 : ขอแปลงร่างเป็นนางเอกเรื่องนี้แปปนะ ชื่อไร เกวนปะ??
     
    BamX2 : พี่สไปรท์เดอร์แมน ช่วยเกวนหน่อยค่า เกวนมีปัญหา
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : จะให้พี่สไปรท์เดอร์แมนช่วยอะไรหรอครับน้องเกวน
     
     
     
    BamX2 : น้องเกวนต้องเริ่มจากตรงไหนดีครับ พับกระดาษเนี่ย
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : ถ้าเกวนที่รัก ไม่มีพื้นฐานเลยก็ต้องเริ่มจากอะไรง่ายๆก่อนนะ เปิดกูลเกิ้ลหาวิธีทำเอา ตอนแรกก็พับดาวก่อน พอเริ่มได้แล้วก็พับหัวใจ หัวใจได้เสร็จก็พับนก นกเสร็จก็คงเริ่มพับสิงสาราสัตว์ได้แล้วล่ะมั้ง ลองไปทำดูนะ ตอนพี่ฝึกก็ทำแบบนี้ละ
     
     
     
    BamX2 : น่ารักจังเลยพี่สไปรท์เดอร์แมน
     
    BamX2 : ยอมให้หล่อกว่าวันนึง
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : กูหล่อกว่ามึงทุกวัน
     
     
     
    BamX2 : เอาที่มึงสบายใจเลยนะ สไปรทเดอร์ยูค 
     
    BamX2 : ว่าแต่ ถามไรหน่อยดิ
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : ว่า?
     
     
     
    BamX2 : มึงฝึกพับกระดาษไปทำอะไรเยอะแยะวะยูค
     
    BamX2 : จีบสาว?
     
    BamX2 : อย่าคิดว่ากูเชื่อเรื่องหมามึง
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : เสือก
     
    ญูคญอมคนกาก : กูไม่จำเป็นต้องบอกมึง
     
     
     
    BamX2 : มึงก็พูดงี้ตลอดเวลากูถามอะไร
     
    BamX2 : ถ้ามึงมีปัญหาอะไรก็บอกกูได้นะเว้ย
     
    BamX2 : ตั้งแต่ที่รู้จักมึงมา มีแต่มึงที่เป็นฝ่ายช่วยกูตลอดอะยูค
     
     
     
    ญูคญอมคนกาก : เลิกทำซึ้งสักที
     
    ญูคญอมคนกาก : คิดว่าประโยคของมึงมันหวาวแหววแก้วมังกรมากหรอไง
     
     
     
    ยูคแม่ง เป็นแบบนี้ตลอดอะเวลาที่ผมจะพูดอะไรที่มีสาระ มันไม่เคยมาปรึกษาปัญหาชีวิตกับผม ทำเหมือนคนไม่เคยเครียดอะไรเลยทั้งๆที่มันก็มี ผมอยู่กับมันมาตั้งแต่เกิดละมั้ง แค่มองหน้าก็รู้แล้วว่ามันคิดอะไรอยู่แต่เลือกที่จะเก็บไว้ตลอด โดยเฉพาะช่วงเดือนนี้มันยิ่งดูเครียดเข้าไปอีก 
     
     
     
    ต่างจากผมที่มีอะไรนิดหน่อยก็บอกมันแล้ว ไม่เคยจะมีความลับ มีอะไรผมบอกมันจนหมดไส้หมดพุง มดกัดยังส่งสแนปไปให้มันดูอะ พอถามว่ามีปัญหาอะไรมันก็จะกวนตีนกลับมาแบบนี้ทุกที บางทีผมก็จนปัญญาละ เดี๋ยวถ้ามันอึดอัดมากๆก็คงบอกเอง ขี้เกียจเซ้าซี้ให้มันรำคาญ
     
     
     
    BamX2 : เหอะ
     
    BamX2 : พรุ่งนี้เจอกันนะมึง
     
     
     
    ผมตอบแค่นั้นแล้วก็ล็อคโทรศัพท์วางไว้ที่เดิม หลังจากนั้นก็หันไปจดจ่อกับคอมพิวเตอร์ต่อ
     
     
     
    ¯`°.•°•.★* *★ ´¯`°.•°•.★* *★ .•°•.°´
     
     
     
    ผมหยิบกระดาษที่ใช้แล้วมาวางเป็นกองไว้บนโต๊ะ กระดาษพวกนี้ผมเอามาจากลังพี่แจ็คสันซุกไว้ใต้เตียง มันเป็นพวกโน๊ตเพลง รายงานที่ทำผิด และกระดาษวาดรูป 
     
     
     
    เหอะ ไหนบอกทำความสะอาดเรียบร้อย ซุกขยะไว้เพียบเลยสิ 
     
     
     
    นี่ยังไม่รวมพวกผ้าเย็นที่ซุกไว้แบบลวกๆข้างตู้เสื้อผ้า ถัมเพื่อครัยฟร้ะ ทิ้งลงถังขยะแบบที่คนปกติเขาทำกันได้มั้ย ละแม่บ้านนี่ไม่เห็นเลยหรอว่ามีของแบบนี้ซุกๆหมกๆอยู่ทั่วห้อง
     
     
     
     
    ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มเกือบจะตรงแต่ยังไม่ตรงเพราะตอนนี้เวลา 18.58 น. ผมกำลังฝึกพับนกอยู่ จริงๆผมใช้เวลาในการพับดาวกับหัวใจตั้งชั่วโมงกว่าแล้วแม้มันจะพับง่ายก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีรูป มีวีดิโอประกอบ แต่ผมก็ต้องดูซ้ำไปซ้ำมามากกว่า 5 รอบเพราะผมไม่เคยพับ และไม่มีพื้นฐานเลยสักนิด ตอนพับก็คิดนะว่าผมจะต้องมาทำอะไรยุ่งยากและทุ่มเทกับคนที่เคยคุยกันแค่ครั้งเดียวทำไมขนาดนี้ ญาติก็ไม่ใช่ ผู้มีพระคุณก็ไม่ใช่ หรือเพราะเราเจอกันในสนามรบรึเปล่า (รบแรกพัก) หรือเพราะตอนอยู่ใกล้พี่มาร์คแล้วมันเป็นฟิลเดียวกับตอนที่อยู่กับพี่ชายคนนั้นรึเปล่า ผมเริ่มจำได้ลางๆเกี่ยวกับความรู้สึกที่โครตจะคุ้นนั่น
     
     
     
    'ลูกโป่งของแบมหายไปบนท้องฟ้าแล้ว มะม๊า มะม๊า มะม๊า ท้องฟ้าขโมยลูกโป่งของแบมไป'
     
     
     
    'ท้องฟ้าไม่ได้ขโมยไปสักหน่อย น้องแบมจับมันไม่แน่นพอต่างหาก'
     
     
     
    'ไม่เอา ไม่ฟังมะม๊า จะเอาลูกโป่งคืน ฮึก จะเอาลูกสีแดงด้วย ฮือ'
     
     
     
    'เอาของเค้าไปก็ได้ เค้าโตแล้วไม่เล่นลูกโป่งแล้ว'
     
     
     
    'จริงหรอ ตัวให้เค้าหรอ ฮึก สีแดง'
     
     
     
    'เค้าให้ตัว คราวนี้ก็จับมันให้แน่นๆนะ'
     
     
     
    มันเป็นเรื่องราวของผมเมื่อตอนอายุ 6 ขวบได้มั้ง อันที่จริงผมความจำสั้นมากเหอะ จำอะไรในวัยเด็กไม่ค่อยได้ เรื่องที่จำได้แม่นๆเลยคือเรื่องยูค เรื่องพี่แจ็คสันที่ไปก่อวีรกรรมบางอย่าง แล้วก็เรื่องพี่ชายคนนั้นแหละที่พอจะจำได้แบบลางๆ
     
     
     
    ความจริง ผมอยากเจอพี่คนนั้นอีกสักครั้ง คนที่เอาลูกโป่งใบใหม่มาให้ผมน่
     
     
     
    คนที่ทำให้ผมจับลูกโป่งให้แน่นมาโดยตลอด...
     
     
     
    ¯`°.•°•.★* *★ ´¯`°.•°•.★* *★ .•°•.°´
     
     
     
    ก๊อกๆๆ
     
     
     
    ก๊อกๆๆ
     
     
     
    เสียงเคาะประตูทำให้ผมสะดุ้งและเลิกนึกถึงอดีต (ที่จำอะไรไม่ค่อยได้) ตอนแรกก็งงๆว่าเสียงเคาะประตูนี่คือห้องผมรึเปล่า แต่พอฟังอีกที
     
     
     
    ก๊อกๆๆ
     
     
     
    เออ ห้องผมเองแหละ
     
     
     
    ผมลุกจากเก้าอี้และเดินไปเปิดประตูแบบเนือยๆ เมื่อยมากอะ ปวดแขนปวดตาด้วย โอโห นี่ผมนั่งพับกระดาษหรือนั่งตำน้ำพริกวะครับเนี่ย
     
     
     
    แอ๊ด
     
     
     
    "ครับ?" ทันทีที่เปิดประตูแล้วเจอคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าผมนี่งงเลยสิครับ เลยยืนยิ้มแห้งๆให้และล้วงกระเป๋ากางเกงแก้เก้อ ล้วงมันเข้าไปนะกระเป๋าอะ ล้วงทะลุเล้ย
     
     
     
    "ไง" อ่า...คนที่มาเคาะห้องผมคือพี่มาร์คแหละครับ พี่เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าและกางเกงยีนเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก แต่ตาผมก็เหลือบไปเห็นกรงอะไรสักอย่างในมือพี่เขา
     
     
     
    "มีอะไรหรอครับ"
     
     
     
    "เอ่อ คือพี่..." พี่เขายิ้ม พูดอ้ำๆอึ้งๆ แล้วเอามือเกาหัวอย่างประหม่า 
     
     
     
    ไม่เหมือนตอนแย่งขนมกับผมเมื่อคืนเล้ย
     
     
     
    ผมจ้องตาพี่เขาอย่างรอคำตอบ จะอ้ำๆอึ้งๆกันอีกนานมั้ยครับเนี่ย ทำตัวเหมือนผมตอนแรกๆไปได้
     
     
     
    "พี่จะฝากน้องช็อคโกล่าไว้กับน้องแบมได้มั้ยอะครับ คือพี่..."
     
     
     
    "ห้ะ อะไรครับ?" ผมชี้ไปที่กรงเล็กๆที่พี่เขาถืออยู่ในมือโดยที่พี่เขายังพูดไม่จบ ช็อคโกล่านี่คือไรวะ ชื่อแม่มดสาวหัวใจกุ๊กกิ๊กที่มีเพื่อนชื่อวนิลาละไปแอบชอบปิแอร์ไม่ใช่รึไง...
     
     
     
    เดี๋ยวนะ....
     
     
     
    "เห้ย อย่าทำหน้าลำบากใจแบบนั้นสิ มันเป็นสัตว์เลี้ยงนะ ไม่ใช่งูหรืออะไรที่พิสดารแบบนั้น..."
     
     
     
    "เปล่าครับ แบมแค่ตกใจชื่อ..." ผมพูดเสียงเบาแล้วแอบหันหลังไปขำ
     
     
     
    "อะไรนะครับ?"
     
     
     
    "ไม่ๆๆ ไม่มีอะไรครับ เอ่อ แล้วช็อคโกล่านี่คือ..."
     
     
     
    "มันคือเม่นแคระอะครับน้องแบม" พี่เขาเปิดผ้าที่คลุมกรงออกมา ทำให้ผมเห็นเม่นตัวจึ๋งนึงวิ่งไปมาอยู่ในกรง
     
     
     
    "พี่เลี้ยงน้องไว้ตั้งแต่เมื่อ 2 เดือนก่อนแล้วละ แต่ว่าน้องไม่ค่อยชอบความเงียบเท่าไหร่ เมื่อก่อนเวลาพี่ไม่อยู่เลยฝากแจ็คสันเอาไว้ แต่ตอนนี้แจ็คสันมันก็ไปอยู่หอของมหาลัยแล้ว.."
     
     
     
    "เลยจะฝากแบม?" ผมเอียงคอแล้วชี้ไปที่ตัวเอง โห หน้าตาผมนี่ดูรักสัตว์และดูน่าไว้วางใจได้สินะครับ
     
     
     
    "เอ่อ ก็ประมาณนั้นแหละครับ แต่ถ้าน้องแบมไม่ชอบสัตว์เดี๋ยวพี่จะลองเอาไปฝากกับรปภข้างล่างให้เปิดเพลงให้น้องฟัง แต่เขาอาจจะมีแต่เพลงของหญิงลีก็ได้นะ พี่ก็ไม่รู้ว่าช็อคโกล่าจะรอดรึเปล่า เพราะปกติน้องจะฟังแต่เพลงโมสาร์ท" พี่มาร์คคว่ำปากแล้วทำหน้าเศร้า โห โมสาร์ท ไม่เคยฟังอะ เคยกินแต่กระยาสารท only
     
     
     
    "ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ ฝากแบมก็ได้ โถ่อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เดี๋ยวแบมช่วยดูน้องช็อคโกล่าเองเนอะ" ผมรีบดึงกรงน้องเม่นจากมือพี่มาร์คแล้วเอามาถือไว้เอง พูดซะเห็นภาพเลย ถ้าน้องเม่นฟังเพลงหญิงลีแล้วดิ้นแด่วๆๆอยู่ในกรงนี่ต้องหรรษามากแน่ๆ อยู่กับพี่แบมเนอะเดี๋ยวจะเปิดเพลงเอให้ฟัง
     
     
     
    "เห้ยจริงดิ ขอบคุณมากๆนะครับ พี่ฝากแปปเดียวจริงๆ เดี๋ยวตอนประมาณ 6 โมงเช้าพี่ก็กลับมาแล้วแหละ"
     
     
     
    "ห้ะ 6 โมงเช้า?" 6 โมงเช้านี่แปปเดียวของประเทศพี่แกหรอครับ....ตลกหรอครับ ท่าทางแบบนี้ ออกจากบ้านหัวค่ำแบบนี้ กลับเช้าแบบนี้นี่...
     
     
     
    "อย่าทำหน้าแบบนี้สิ พี่ไม่ได้หนีเที่ยวสักหน่อย เพื่อนพี่มันมีปัญหาเลยจะไปนั่งเป็นเพื่อนเฉยๆ นั่งเฉยๆจริงๆนะ ไม่กิน ไม่ทำอะไรทั้งนั้น แค่นั่งฟัง นั่งฟังจริงๆ" พี่มาร์คลนลาน พูดลิ้นพันกันจนจะฟังไม่รู้เรื่อง และโบกมือไปมากลางอากาศแล้วส่ายหัวอย่างน่ารัก
     
     
     
    "แล้วทำไมต้องกลับห้อง 6 โมงเช้าด้วยละครับ" ผมหรี่ตามองพี่เขาอย่างจับผิด แหม นี่ก็ทำเหมือนแฟนพี่เขาเลยเนอะ
     
     
     
    "พี่กะเวลาเอาไว้เฉยๆ...มันอาจจะเร็วกว่านั้นก็ได้นะถ้าปัญหาของเพื่อนพี่มันไม่ยาวมาก" 
     
     
     
    "นี่กะจะปรึกษากันข้ามคืนแล้วทิ้งน้องช็อคโกล่าไว้คนเดียวสินะครับ"
     
     
     
    พี่มาร์คเริ่มไม่อยู่สุข เหงื่อเริ่มไหลออกมาตามใบหน้า เห้ย นี่รู้สึกผิดต่อเม่นขนาดนั้นเลยดิ
     
     
     
    งั้นแกล้งอีก
     
     
     
    (แก้แค้นที่เมื่อคืนเอาปีโป้สีแดงกับเขียวไปซะเกือบหมดถุง)
     
     
     
    "ทั้งที่รู้ว่าน้องไม่ชอบความเงียบแท้ๆ ก็ยังทิ้งน้องไว้กับแบมจนถึงเช้า..."
     
     
     
    "พี่..."
     
     
     
    "แบมไม่เคยเลี้ยงสัตว์ด้วย ไม่รู้จะทำมันตายรึเปล่า"
     
     
     
    "เอ่อ..."
     
     
     
    "หรือบางทีแบมอาจทำกรงที่มีน้องอยู่ตกลงพื้น"
     
     
     
    "....."
     
     
     
     
    "โป๊ะ! แผล๊ะ! น้องตกพื้นและนอนเละเน่าเหม็นตายในห้องแบม"
     
     
     
    "..."
     
     
     
    "เป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้า สาเหตุเกิดจากเจ้าของหนีเที่ยว แล้วเอาเม่นน้อยผู้น่าสงสารฝากไว้กับคนที่เลี้ยงไม่เป็น"
     
     
     
    "แบมอ่า..."
     
     
     
    "น่าสลดใจมากๆ เลยนะครับ พี่มาร์คว่ามั้ย?"
     
     
     
    "โอเคๆๆ พี่ยอมแล้ว" พี่มาร์คยกมือขึ้นเหนือหัวเป็นเชิงยอมแพ้
     
     
     
    "พี่จะกลับมารับน้องตอน 4 ทุ่ม โอเคมั้ยครับ 4 ทุ่มนะ แค่ 4 ทุ่ม 3 ชั่วโมงเท่านั้นที่พี่จะฝากน้องไว้ น้องแบมห้ามทำน้องหล่นน้องตายน้องตกใจนะครับ โอเคมั้ย พี่ไม่เที่ยวแล้วครับ ไม่เที่ยวแล้ว ไปหาเพื่อนอย่างเดียวจริงๆนะคราวนี้ เดี๋ยวจะรีบกลับมาเลยT_T"
     
     
     
    "โอเคก็ได้ครับ ถ้าพี่มาช้ากว่านั้น แบมจะเอาน้องมาวางไว้นอกห้องแหละ" ประโยคนี้คุ้นๆพอตัวนะครับ เหมือนตอนที่พี่เขาบอกว่าจะวางปีโป้อันนั้นให้คนเก็บมากินเลย-_- ใช่ละ ผมก็อปประโยคพี่เขามานิดนึงแหละ
     
     
     
    "เห้ย ห้ามนะห้ามๆๆๆ"
     
     
     
    "พี่ก็อย่าเลทดิ"
     
     
     
    "โอเค 4 ทุ่มตรงพี่จะรีบกลับมารับน้องนะแบม"
     
     
     
    พี่มาร์คหันหลังเตรียมจะลงลิฟต์ไปข้างล่าง แต่พี่เขาเหมือนนึกอะไรขึ้นได้เลยหมุนตัวกลับมา
     
     
     
     
     
     
    "อย่าหลับก่อนนะครับ"
     
     
     
     
    #นบพกด 
     

     
    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×