คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : HYDE : 02
H Y D E : 02
ก๊อกๆ
“ครับ” ฮันบินขานรับ ละสายตาจากหน้าต่างบานใหญ่ที่ตอนนี้บอกสภาพอากาศมืดครึ้มเหมือนฝนใกล้จะตกไปที่ประตูห้อง
“ลงมาทานอาหารเย็นได้แล้วนะคะคุณฮันบิน” เสียงใจดีของป้าเยจินดังขึ้น ฮันบินขานรับอีกครั้งก่อนจะลุกจากเตียงและมุ่งไปที่ห้องอาหาร
พอไปถึงก็ต้องถอนหายใจออกมา แทนที่จะมีเพียงพี่ชายของเขาที่รออยู่เหมือนปกติ ตอนนี้กลับมีแขกคนเดิมที่ไม่ยอมกลับไปสักทีนั่งร่วมอยู่ด้วย ฮาอีส่งยิ้มหวานมาให้เหมือนทุกครั้ง รอยยิ้มที่ฮันบินไม่เคยนึกชอบมันเลยสักครั้ง
จีวอนนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะเหมือนทุกครั้ง ฮับบินนั่งทางขวามือของจีวอนตรงข้ามกับฮาอี ฮันบินใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะไม่มองไปข้างหน้า ก้มหน้าทานข้าวเงียบๆ แต่ก็คอยฟังทั้งสองคนที่คุยกันอย่างออกรส มีบ้างที่พี่จีวอนหันมาคุยกับเขา แต่เพราะความไม่สบอารมณ์หรืออะไรก็แล้วแต่ทำให้เขาตอบกลับไปห้วนๆตัดจบบทสนทนาทุกครั้ง พี่จีวอนเลยเหมือนยอมแพ้และหันกลับไปคุยกับฮาอีแทน
ทันทีที่ทานอาหารเสร็จ ฮันบินก็ขอตัวออกมาทันทีโดยไม่ฟังเสียงเรียกของจีวอน เดินตรงไปยังห้องครัว หวังว่าจะมาคุยกับป้าเยจินแทนจีวอนที่ตอนนี้อยู่กับแฟนสาวด้านนอก แต่ในห้องครัวกลับว่างเปล่า
ฮันบินกำลังจะหันหลังกลับออกไปแต่ก็เจอหญิงสาวยืนขวางทางเอาไว้ ฮาอีส่งยิ้มเหมือนที่ชอบทำ แต่เขากลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนี้มันต่างออกไปจากทุกครั้ง
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
ฮาอียืนอยู่อย่างนั้นไม่พูดอะไรสักที จนสุดท้ายฮันบินที่ทนกับความอึดอัดนี้ไม่ไหวจึงพูดทำลายความเงียบขึ้นมา เธอสะดุ้ง (แบบที่ดูแสร้งทำในความคิดของฮันบิน) เล็กน้อย
“อ้ะ เปล่าหรอกค่ะ ฉันแค่คิดว่าความจริงแล้วฮันบินก็หล่อเหมือนกันนะคะ”
“เอ่อ-- ขอบคุณครับ แค่นี้ใช่ไหม ?” ฮันบินขอบคุณงงๆ กำลังจะเดินหนีออกมาแต่หญิงสาวก็ดึงฮันบินกลับไปที่เดิมก่อนจะเอาแขนโอบรอบคอฮันบินเอาไว้ ดันเอากายแนบชิด ช้อนสายตาขึ้นมอง
“เดี๋ยวสิคะ” ฮาอีพยายามจับมือของฮันบินที่กำลังแกะมือของเธอออกเอาไว้
“….”
“ฉันอยากจะรู้ว่าถ้าฮันบินเรียนจบแล้วเนี่ย ฮันบินจะได้เป็นประธานบริษัทต่อจากคุณคิมใช่ไหมคะ”
“ทำไมเหรอครับ” พูดพลางพยายามดันตัวอีกคนออกอีกครั้ง แต่คำพูดต่อมาของหญิงสาวก็ทำให้มือของฮันบินหยุดชะงัก
“แหม— ถึงเวลานั้นแล้วฮันบินก็คงโตเป็นหนุ่มไฟแรง แล้วก็คงเก่งกว่าจีวอนแน่เลยใช่ไหมคะ”
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ตวัดสายตามองคนตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ
“ไม่หรอกครับ พี่จีวอนเก่งกว่าผมอยู่แล้ว”
“ถึงจะแบบนั้นก็เถอะค่ะ ยังไงคนที่เป็นแค่ลูกเลี้ยงก็คง-- ”
“ช่วยถอยออกไปด้วยครับ”
ฮันบินพูดขัดออกมาก่อนที่จะได้ฟังจบประโยค ทั้งๆที่เธอเป็นแฟนของพี่จีวอน แต่เธอกลับพูดเรื่องอดีตของจีวอนแบบนี้ได้ยังไง
“แล้วก็อย่าพูดถึงพี่ชายของผมแบบนั้นอีก”
ฮาอีขยับถอยห่างออกมาแต่ก็ยังส่งยิ้ม ทำไม่สะทกสะท้านอะไร
“ความจริงแล้ว ฉันชอบฮันบินมากกว่าจีวอนอีกนะคะ แต่ว่าเพราะคุณพ่อ…”
“ผมไม่ได้อยากรู้เลยครับ” ฮันบินพูดแทรกออกไปอีกครั้งอย่างนึกรำคาญ น้ำเสียงบ่งบอกได้ว่าตอนนี้เขาเกือบจะทนหญิงสาวตรงหน้าไม่ไหวแล้ว
“ใจร้ายจังเลยนะคะ”
หญิงสาวแสร้งทำเป็นเสียอกเสียใจ ฮันบินกลอกตามองเพดาน ดันเธอออกไปให้พ้นทางก่อนจะเดินหนีออกมาด้วยความรวดเร็วโดยไม่ปล่อยโอกาสให้เธอรั้งเขาไว้อีกครั้ง ผ่านร่างของใครบางคนที่ยืนอยู่ข้างประตูไปโดยไม่ทันสังเกต
เป็นจีวอนที่มองตามร่างของอีกคนจนหายไปจากสายตา ร่างสูงก้มหน้าลง ยิ้มออกมาบางๆให้กับความจริงที่ได้ฟังจากปากของแฟนสาวของเขาเอง
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าน้องชายของเขาสมบูรณ์แบบขนาดไหน
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเขาไม่มีทางเทียบเท่าน้องชายได้
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าฮาอีสนใจในตัวฮันบินตั้งแต่แรกเห็น
ทำไมเขาจะไม่รู้
จีวอนหันไปมองหญิงสาวที่พึ่งเดินออกมา เธอหันมามองจีวอนด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตนั่นเบิกกว้าง ท่าทางเหมือนคนที่ทำผิดแล้วโดนจับได้ ฮาอียืนอ้ำอึ้ง ในหัวพยายามสรรหาคำมาพูดแก้ตัวให้กับตัวเอง
แต่แล้วจีวอนก็ส่งยิ้มให้เธอเหมือนเคย
รอยยิ้มจริงใจของเขาทำให้หญิงสาวใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย
“เอ่อ— คือ”
“มาอยู่ตรงนี้เอง ผมหาตั้งนาน นี่ก็ดึกแล้วจะกลับเลยไหมครับเดี๋ยวผมขับรถไปส่ง”
ท่าทีกระอักกระอ่วนในตอนแรกเปลี่ยนไป ฮาอีคลายมือที่กำแน่นก่อนจะส่งยิ้มตอบกลับ พยักหน้ารับให้กับคำถามของอีกคน
รถยนต์คันหรูจอดลงเมื่อถึงที่หมาย จีวอนเดินอ้อมไปเปิดประตูรถให้กับฮาอี เมื่อลงมาจากรถหญิงสาวก็ส่งยิ้มให้กับเขาและพูดประโยคที่เขาได้ฟังอยู่เป็นประจำอีกครั้ง
“ฉันรักคุณนะคะ”
จีวอนส่งยิ้มกลับไปเหมือนทุกครั้งที่ได้ฟังคำบอกรักจากคนที่เขารัก ถึงแม้เขาจะแสดงออกไปแบบนั้น แต่ตอนนี้ความรู้สึกในใจลึกๆของเขากลับเปลี่ยนไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว
เขาดึงคนตรงหน้าเข้ามากอด กดจูบลงบนเส้นผมสีอ่อนเบาๆ สูดกลิ่นหอมจากกายของอีกคน ก่อนจะตอบกลับคำพูดของเธอเหมือนที่เคยทำ แต่มันต่างออกไปตรงที่ใบหน้าของเขาตอนนี้ไม่มีรอยยิ้มหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
“ครับ ผมก็รักคุณเหมือนกัน”
เสียงเครื่องยนต์หน้าบ้านดับลงทำให้ฮันบินรู้ว่าตอนนี้จีวอนได้กลับมาแล้ว
ฮันบินเอาหูแนบกับประตูฟังเสียงฝีเท้าของพี่ชายที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆก่อนจะหายไปพร้อมกับเสียงปิดประตู ร่างเล็กทรุดนั่งลงบนพื้น สายตาก็มองนาฬิกาบนผนังเป็นระยะ จนกระทั่งถึงเวลาที่คิดว่าคนทั้งบ้านได้นอนกันหมดแล้ว ค่อยๆเปิดประตูออกมา กดล็อค และลองหมุนลูกบิดดูอีกครั้งว่าล็อคเรียบร้อยดีหรือไม่
ไฟในบ้านทุกดวงถูกดับลง โชคดีที่ตรงบันไดมีหน้าต่างบานใหญ่อยู่จึงทำให้แสงจากดวงจันทร์ส่องเข้ามาภายใน เมื่อสายตาเริ่มปรับให้เข้ากับความมืดได้เขาจึงสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
ฮันบินค่อยๆเดินลงมาตามบันไดทีละก้าว ทีละก้าว อย่างระมัดระวัง สายตาสอดส่ายไปรอบๆ แต่นอกจากความมืดแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไรที่ผิดปกติ
ทันทีที่เท้าเหยียบถึงชั้นล่าง ฮันบินก็รีบวิ่งไปที่ห้องเก็บของ มองหาอาวุธที่พอจะสามารถใช้ป้องกันตัว แล้วสุดท้ายก็ได้ค้อนขนาดกำลังดีมาหนึ่งอัน
กำลังจะหันหลังกลับไปแต่ก็ถอยไปชนโดนของที่แขวนเอาไว้ข้างหลัง เสียงของมันถึงจะไม่ดังมากแต่ในตอนที่รอบข้างมืดสนิทและเงียบขนาดนี้มันสามารถทำให้ฮันบินตกใจจนสะดุ้งเฮือกได้ไม่ยาก ฮันบินจิ้ปากอย่างขัดใจ พยายามข่มความกลัวของตัวเองในตอนนี้ เพราะมันทำให้เขาเริ่มหลอนตัวเอง
เมื่อทุกอย่างกลับมาเงียบอีกครั้งฮันบินก็ค่อยๆเดินกลับไปที่ชั้นสาม ยืนให้กำลังใจตัวเองสักพักก่อนจะเข้าไปหลบในตู้ริมทางเดินที่ตอนนี้ว่างเปล่าเพราะเขาเอาของย้ายเข้าไปในห้องตัวเองตั้งแต่ตอนบ่าย ฮันบินปาดเหงื่อของตัวเองที่ตอนนี้ไหลราวกับว่าเขาร้อนนักหนาออก แง้มประตูตู้เล็กน้อยให้พอมองเห็นด้านนอก ข้างหน้าเป็นปลายทางเดินที่มีภาพวาดโง่ๆ รูปคนในครอบครัวและกระจกบานใหญ่ติดเอาไว้ หันไปทางซ้ายก็เห็นประตูห้องของเขา ทางขวาไกลออกไปเล็กน้อยก็เห็นประตูห้องพี่จีวอน
เก๊ง!
เสียงดังกังวานของนาฬิกาลูกตุ้มข้างๆตู้ทำให้ฮันบินสะดุ้งอีกครั้ง ร่างบางสบถออกมาอย่างหงุดหงิด เอามือทาบอกตัวเองที่ตอนนี้หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาเอาไว้ พ้นวันนี้เขาจะเอามันไปทุบทิ้งจริงๆให้ตาย
ตีหนึ่งแล้วสินะ
ยิ่งดึกมากเท่าไหร่แสงสว่างก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น ตอนนี้ฮันบินมองอะไรแทบจะไม่เห็น
ตึง!
เสียงบางอย่างกระทบกันดังออกมาจากห้องของจีวอนทำให้ฮันบินสะดุ้งเป็นรอบที่สาม ฮันบินขยี้หัวตัวเองระบายอารมณ์ก่อนจะส่องสายตาออกไปที่ประตูห้องของจีวอน เงี่ยหูฟังอีกครั้งว่ามันเป็นเสียงอะไรกันแน่ แต่ไม่ทันที่จะได้ยินอีกครั้งประตูห้องของจีวอนก็เปิดออกอย่างแรง
ฮันบินเพ่งมองเห็นเพียงว่าเป็นเงาตะคุ่มของใครสักคนเดินออกมา มันเกือบจะปกติแล้วถ้าร่างนั้นไม่ได้ถืออะไรบางอย่างแล้วลากมากับพื้นจนมีเสียงดัง ครืด ครืด มาตามทาง และถ้าฮันบินเดาไม่ผิดมันน่าจะเป็นขวานไม่ใช่หมอนข้างหรือตุ๊กตาแน่ๆ
มันทำอะไรพี่จีวอนรึเปล่า
ถ้ามันทำร้ายพี่จีวอนไปแล้วล่ะ
แล้วตอนนี้เขาควรจะทำยังไง
ก่อนที่ฮันบินจะฟุ้งซ่านมากไปกว่านี้ ร่างนั้นก็เดินจากห้องของพี่จีวอนมุ่งมาทางตู้ที่เขากำลังหลบอยู่ช้าๆ จากที่เขากังวลเป็นห่วงคนที่อยู่ในห้อง ตอนนี้เขากำลังตื่นเต้นและกลัวปะปนจนไม่รู้ว่าอันไหนที่รู้สึกมากกว่ากันกันแน่ แต่ที่รู้คือเขาหายใจถี่และแรงจนต้องเอามืดขึ้นมาปิดเอาไว้ หัวใจเต้นแรงจนได้ยินเสียงตุบๆอยู่ในหัว เหงื่อออกมากจนรู้สึกเปียกไปหมด
ครืด ครืด
มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนสุดท้ายฮันบินก็ได้แต่หลับตาภาวนาขอให้มีชีวิตรอดไปจากคืนบ้าๆนี่
แกร๊ก
เสียงบิดลูกบิดดังขึ้นทำให้ฮันบินค่อยๆลืมตาขึ้นมา เห็นเงานั้นกำลังจับลูกบิดของเขาค้างไว้ นิ่งไปสักพักก่อนจะเขย่าอย่างบ้าคลั่ง เสียงของมันยิ่งฟังนานๆยิ่งทำให้ฮันบินหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ มันทำแบบนั้นอยู่สักพักจนเห็นว่ายังไงก็ไม่สามารถเข้าไปได้ จึงหยิบขวานขึ้นมาจามไปที่ลูกบิดอย่างแรงจนขวานกระเด็นหลุดมือมาตกอยู่ตรงหน้าตู้ที่เขาอยู่ตอนนี้
ฮันบินแทบหยุดหายใจเมื่อเห็นว่ามันตกอยู่ตรงหน้าอย่างพอดิบพอดี
ไอฉิบหา---
ร่างนั้นค่อยๆหันหลัง แล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตู้ ก่อนจะก้มหยิบขวานไปช้าๆ
ทันทีที่ใบหน้านั้นเคลื่อนผ่านมาให้เห็นแบบเต็มตา ทำให้ฮันบินต้องเบิกตากว้างยิ่งกว่าเก่า เขาตกใจจนเผลอส่งเสียงในลำคอออกมาเบาๆ พอรู้สึกตัวก็รีบปิดปากแน่นเมื่อร่างนั้นจ้องเข้ามาด้วยความสงสัย
เก๊ง! เก๊ง!
มือที่เอื้อมมากำลังจะเปิดตู้ชะงักลง นิ่งไปอีกครั้งก่อนจะหันกลับไปพังประตูเขาตามเดิม
หัวของฮันบินตื้อไปหมด
นี่มันอะไรกัน
“ฉันอยู่ตรงนี้ทั้งคน”
พี่ครับ
“ถ้าเกิดอะไรขึ้น แค่นายเรียกฉันดังๆ นายต้องตะโกนเรียกฉันดังๆเลยเข้าใจไหม”
ผมจะไปทำแบบนั้นได้ยังไง
ในเมื่อคนคนนั้นมันคือพี่…
qiwye :
กลับมาแล้วค่ะ
55555555555555555555 /หลบเกิบ
อ่านตอนนี้แล้วพอจะเดาเรื่องได้กันแล้วใช่ไหมคะ ?
เห็นมีคนถูกด้วย 555555555555555
ขอบคุณที่ยังรอกันนะคะ
จะพัฒนาให้มันออกมาดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ
เจอคำผิดบอกได้น้า
please comment <3
#ฮดบบ
ความคิดเห็น