คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ไม่รัก(คง)ไม่ห่วง (1)
ไม่รัก(คง)ไม่ห่วง
หลังจากวันนั้นมี่ฮวาก็ไม่โดนจ้าวเยว่เทียนเรียกออกมาอีกเลยจนกระทั่งวันเดินทางกลับถึงจะให้นางออกมาแล้วปลอมเป็นน้องสาวของเขาเหมือนเดิมเพื่อไม่ให้ผู้อื่นสงสัย
อาการมึนตึงของจ้าวเยว่เทียนทำให้ทุกคนรู้สึกอึดอัดยิ่งเงาในสังกัดยิ่งแทบไม่กล้ากระดิกตัวไปไหนหากไม่ได้รับอนุญาตจากเขา
เจิ้งหู่ที่โดนบทลงโทษโบยไปสองร้อยไม้ก็ไม่โดนเรียกออกมาเช่นเดียวกัน
เพราะถึงเรียกออกมาก็คงทำอะไรไม่ไหวด้วยเขาขอรับโทษแทนมี่ฮวาเองเนื่องจากเป็นแผนของเขา
วันนั้นเจิ้งซื่อไปกับจ้าวเยว่เทียนด้วยจึงพาเจิ้งหู่ที่โดนวางยานอนหลับจนไปนอนสลบไสลบนเตียงของนายอำเภอออกมาได้
ดีที่ช่วยออกมาได้ทันก่อนที่เขาจะสูญเสียเอกราชไปทำให้เจิ้งหู่รู้สึกผิดกับมี่ฮวาเพราะคิดว่าหากเป็นนางที่โดนคงแย่กว่านี้
นอกจากจะโดนบทลงโทษโบยไปสองร้อยไม้
ทั้งสองโดนเจิ้งซื่อให้คัดกฎขององครักษ์ร้อยจบโทษฐานฝ่าฝืนคำสั่งของนาย
มี่ฮวาจึงอาสาคัดแทนเจิ้งหู่เพราะว่าเขารับโทษโบยแทนนางไปแล้ว
อีกทั้งตอนนี้แผลที่หลังของเจิ้งหู่ยังไม่ทุเลาเท่าไหร่แค่ขยับแขนจะกินข้าวยังยกมือแทบไม่ขึ้น
ได้แต่นอนนิ่ง ๆให้นางหยอดน้ำข้าวต้ม
มี่ฮวารู้สึกผิดมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าวันนั้นจ้าวเยว่เทียนฝืนออกไปหานางทั้ง
ๆที่เขาพึ่งแก้พิษได้และพลังปราณกลับมาได้เพียงเจ็ดส่วนเท่านั้น
เนื่องจากหากไม่ใช่เขากับเจิ้งซื่อการจะไปมาอย่างไร้ร่องรอยคงทำไม่ได้ ผลของการใช้ร่างกายเกินกำลังในครั้งนั้นทำให้เขาล้มป่วยลงไปสองวัน
นางต้องแอบออกมาดูแลเขายามที่เขาหลับสนิทเท่านั้นเนื่องจากยังไม่กล้าสู้หน้าเขา
อีกทั้งไม่มีคำสั่งให้นางออกมา
“เป็นอย่างไรบ้าง”
นางหันไปถามเจิ้งหู่ที่กำลังบังคับรถม้าอยู่ นางต้องออกมานั่งคัดกฎนอกรถเพราะไม่อยากให้เหมยซือซักถาม
เจิ้งหู่ที่นั่งหลังตรงเนื่องจากแผลยังตึง
ๆอยู่ตอบเสียงอ่อยกลับมา “นั่นพี่เจิ้งสี่บุรุษแรงช้างสารเลยนะ
เจ้าคิดว่าหลังข้าจะหายเร็วได้หรือ” หลังไม่ขาดออกจากกันก็ดีแค่ไหนแล้ว
เขาเกือบสลบไปหลายรอบตอนโดนโบยดีที่สมุนไพรของมี่ฮวาออกฤทธิ์ได้ดีไม่อย่างนั้นคงยังนอนเป็นผักอยู่
“ว่าแต่ซื่อจื่อยอมคุยกับเจ้าหรือยัง”
ตั้งแต่วันนั้นจ้าวเยว่เทียนยังไม่ยอมคุยกับเจิ้งหู่เลยไม่ว่าเขาจะไปกอดขางอนง้อแค่ไหน
ก็ได้รับแต่บาทาประทับกลางอกมาเพียงเท่านั้น
“ยังน่ะสิ ขนาดวันนี้ที่ออกมายังให้องครักษ์เกามาบอกข้าแทนเลย”
“เฮ้อ! ดูท่าครานี้เราคงไปแตะเกล็ดย้อนของซื่อจื่อเข้าให้แล้วมั้ยล่ะ”
“ใครใช้ให้พวกเราดันไปขัดคำสั่งเจ้านายกันล่ะ”
เพราะมันเป็นการไม่ให้เกียรติเจ้านาย
เจิ้งหู่สายหัวก่อนจะอธิบาย
“เจ้าเข้าใจผิดแล้วล่ะ เกล็ดย้อนของซื่อจื่อคือเจ้าต่างหาก”
เขาหันไปบอกสหายที่เขาไม่แน่ใจว่าโง่งมหรือว่าไม่ยอมรับความจริงกันแน่
“เกี่ยวอะไรกับข้า?”
“มี่ฮวาเพื่อนยากเอ๋ย...เจ้าคิดว่าข้ากับเจ้าแหกคอกฝ่าฝืนคำสั่งกันมากี่ครั้งแล้ว
จำไม่ได้เลยหรือ” ถ้าให้เขานับใช้นิ้วมือบวกนิ้วเท้าของคนทั้งสองมานับก็คงไม่หมด
“แต่พวกนั้นเราทำแล้วมันไม่มีปัญหาอย่างไรเล่า”
“ย่อมไม่ใช่...ซื่อจื่อโกรธที่ข้าใช้เจ้าเป็นตัวล่อต่างหาก
อีกทั้งซื่อจื่อรู้เรื่องที่เจ้านั่นวางยาเพื่อหวังทำมิดีมิร้าย
ดีที่ข้าโดนไม่ใช่เจ้าไม่เช่นนั้นสิบชีวิตก็ไม่พอชดใช้หรอก”
เขาคิดแล้วก็ยังสยอง
เพราะเขาไม่ใช่มี่ฮวาจึงไม่รู้ว่าในอาหารที่กินเข้าไปมียานอนหลับอยู่
แต่ถ้าหากพวกนั้นคิดจะใช้กำลังบังคับมี่ฮวาก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เนื่องจากพวกเขามีคนน้อยกว่า
หากเกิดอันใดขึ้นมาเจิ้งหู่ก็ไม่อาจรับประกันว่าจะปกป้องนางได้
“ว่าง
ๆก็คลานเข่าพร้อมดอกไม้ไปขอโทษซื่อจื่อเสียสิ”
เสียงแนะนำลอยมาตามลมก่อนจะพบว่าเป็นเจิ้งสี่ที่เข้ามาอยู่ด้านบนรถม้าของพวกนาง
“พวกเจ้าสองคนนี่ขยันหาเรื่องเสียจริง
ไม่สงสารซื่อจื่อบ้างหรือที่ต้องมาควบคุมเด็กแบบพวกเจ้า”
“เด็กแบบพวกข้ามันเป็นอย่างไรหรือพี่เจิ้งสี่”
เจิ้งหู่ถามพร้อมกับทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“พวกเจ้าอย่าเอานิสัยคนเลี้ยงมาสิ
ตัวอย่างดี ๆมีให้เห็นก็ตั้งมากกลับไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง”
“แบบพี่น่ะหรือเจ้าคะ”
มี่ฮวาแกล้งถามเมื่อเห็นจากทางหางตาว่ามีสีขาวสะท้อนแสงผ่านมาแวบหนึ่ง แต่เหมือนคนที่นินทายังไม่รู้ตัว
“ใช่น่ะสิ
พวกเจ้าต้องสุขุมและเยือกเย็นมากกว่านี้เข้าใจหรือไม่”
“อย่างเจ้าเรียกว่าสมองทึบคิดช้าหาใช่สุขุมและรอบคอบ”
เสียงเย็นยะเยือกมาก่อนตัวทำให้เจิ้งสี่สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปท้าทายผู้ที่มาใหม่ทันที
“จะลองดูไหมเล่า”
“อ้อ! ป่าเถื่อนและไร้อารยะด้วย”
เจิ้งซื่อพูดก่อนจะทำเป็นไม่สนใจและมานั่งข้างๆมี่ฮวาทันที
“ทำไมตัวหนังสือเจ้าแย่ลงคัดหลายรอบมันย่อมต้องดีขึ้นไม่ใช่รึ?”
“โธ่...พี่ซื่อข้าอยู่บนรถม้านะเจ้าคะ
โยกเยกขนาดนี้ข้าไม่ทำหมึกเลอะก็ดีแค่ไหนแล้ว” มี่ฮวาโอดครวญกับเขา
เจิ้งซื่อไม่สนใจก่อนจะกระดิกนิวเป็นเชิงบอกให้นางส่งพู่กันมา
ก่อนเขาจะสั่งให้เจิ้งหู่เร่งม้าให้เร็วขึ้นพร้อมกับตวัดพู่กันเป็นตัวอย่างก่อนจะยื่นกระดาษมาให้นาง
มี่ฮวาได้แต่คอตกด้วยความจำนนก่อนจะคัดกฎต่อไปเมื่อเห็นลายเส้นที่สวยงามของเจิ้งซื่อ
“อย่าให้ใครมาว่าได้ว่าข้าเลี้ยงเจ้าได้ไม่ดี
หากเป็นคนอื่นดูแลพวกเจ้าคร้านจะไม่ทันได้โต”
เขาพูดจบก็หายไปอยู่กับจ้าวเยว่เทียนทันที
“เขียนหนังสือสวยบนรถม้านี่เอาไปใช้ประโยชน์ทางด้านไหนได้บ้าง?”
เจิ้งหู่แอบกระซิบกระซาบกับนางตอนที่เจิ้งซื่อหายไป
มี่ฮวาได้แต่พยักหน้าหงึกหงักเพราะไม่กล้าร่วมวงนินทาเท่าใดนัก
“เจ้านี่เมื่อไหร่จะเลิกวางท่าเสียทีน่าเบื่อชะมัด”
เจิ้งสี่พึมพำเสียงเบาหลังจากเขาจากไป
“ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ท่านเถียงตอนที่เขาอยู่”
เจิ้งหู่หันมาบอกอย่างเอือมระอา หัวหน้าเขาเป็นแบบนี้หน่วยเขาถึงได้เป็นเบ๊ให้กับหน่วยของมี่ฮวากับเจิ้งซื่ออย่างไรเล่า!
เหลืออีกเพียงไม่กี่วันทั้งหมดก็จะเดินทางถึงเมืองหลวง
พวกเขาไม่ค่อยเร่งการเดินทางมากนักเนื่องจากต้องการเวลาให้จ้าวเยว่เทียนฟื้นฟูลมปราณไปในตัว
อีกทั้งมี่ฮวายังคัดกฎไม่เสร็จเจิ้งหู่จึงแอบไปบอกให้คนขับรถม้าคันของจ้าวเยว่เทียนชะลอหน่อย
เพราะเจิ้งซื่อบอกว่าหากถึงเมืองหลวงแล้วยังไม่เสร็จจะให้คัดเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว
คนขับรถม้าที่เป็นลูกน้องของเขาก็ทำหน้าที่ได้ดีมากทำให้กำหนดการเดิมพวกเขาควรได้พักในโรงเตี๊ยมในเมืองที่เป็นทางผ่านกลับต้องมาพำนักกลางป่าแทน
ทำให้เจิ้งซื่อคาดโทษทั้งสองอีกครั้งว่าหากยังเล่นเล่ห์อีกจะโดนหนักกว่านี้สุดท้ายเจิ้งหู่จึงต้องมาช่วยมี่ฮวาปั่นงานส่ง
เหมยซือตั้งแต่จ้าวเยว่เทียนถอนพิษได้ก็มีอาการป่วยบ่อยขึ้นเนื่องจากการถอนพิษขั้นสุดท้ายได้ใช้เลือดของนางไปเป็นจำนวนมากยิ่งต้องมาระหกระเหินเดินทางไกลสุขภาพนางยิ่งทรุดลง
ดีที่มีเกาเทียนฉีคอยดูแลอยู่ตลอด
เจิ้งหู่บอกว่าเห็นดอกท้อบานรอบตัวพวกเขาอยู่ตลอด
“เฮ้อ...มีแต่คนมีความรักข้าชักจะอิจฉาเสียแล้วสิ”
เขาบ่นขณะที่กำลังทำอาหารเนื่องจากเหมยซือลุกไม่ไหวหน้าที่นี้จึงเป็นของเขา
“นายอำเภอนั่นไงที่รักเจ้า”
มี่ฮวาตอบกลับอย่างเจ็บแสบ พร้อมกับหั่นไก่ป่าที่จับได้อย่างคล่องแคล่ว
“อย่าพูดถึงได้หรือไม่มันเสียเชิงชาย”
มี่ฮวาเอาแต่ย้ำอยู่ได้เขาหงุดหงิดแต่ก็ไม่รู้จะตอบโต้ไปอย่างไร “ว่าแต่วันนั้นเจ้ายังไม่บอกข้าเลยนะว่าซื่อจื่อเห็นชุดนั่นของเจ้าแล้วเขาทำยังไง”
เจิ้งหู่ยื่นหน้ามากระซิบเสียงเบากับนางด้วยกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน
“ไม่ได้พูดอันใดหนิ”
นางตอบพร้อมกับพยายามซ่อนหน้าที่แดงขึ้นอย่างรวดเร็วเอาไว้
“แน่ใจเร้อ...ข้าว่าวันนั้นเจ้าก็งามอยู่หนาซื่อจื่อจะไม่หวั่นไหวจริงรึ”
“แค่นั้นจะนับว่าเป็นอันใดได้อย่าลืมว่าซื่อจื่อเจอมากกว่านี้มานักต่อนักแล้ว”
มี่ฮวาพยายามบอกปัดเขา
ทันใดนั้นเจิ้งหู่ก็หันมามองนางอย่างจริงจัง
“สมมติว่าวันนั้นข้าเป็นคนอุ้มเจ้าออกจากจวนเทียบกับซื่อจื่อ เจ้าชอบอันไหนมากกว่ากัน”
“แล้วมันเกี่ยวอันใดกันเล่าถามแปลก ๆ”
“เกี่ยวสิ
เจ้าไม่ได้รักข้าหนิข้าทำอันใดไปเจ้าสนรึ
แต่หากเป็นซื่อจื่อเจ้าย่อมประทับใจใช่ไหมล่ะ”
เขากล่าวพร้อมกับวางท่าดั่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรักทั้ง ๆที่ยังไม่เคยมี
“ก็เหมือนซื่อจื่อไม่ได้รักชมชอบแม่นางผู้อื่นหากเทียบกับเจ้าเขาย่อมหวั่นไหวกว่าอยู่แล้ว”
เมื่อเห็นว่าเรื่องมันเริ่มเข้าตัวนางเรื่อย
ๆมี่ฮวาเลยเดินออกมาให้เจิ้งหู่จัดการที่เหลือเพียงลำพัง
แต่เขายังไม่วายตะโกนตามหลังนางมาอีกว่าให้คิดให้ดี
จนคนอื่นหันมามองกันหมดมี่ฮวาเลยเดินหนีไปที่อื่นแทน
ตอนนี้นางรู้และยอมรับอย่างเต็มอกว่าจ้าวเยว่เทียนคิดอย่างไรกับนาง
นางเชื่อและไม่คิดจะหาข้อพิสูจน์อันใดให้ยุ่งยากอีกแล้ว
เพราะแค่เพียงนางเลิกอคตินางก็รับรู้ได้ในทันที
มี่ฮวาคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อนจนได้ยินเสียงน้ำตกจึงคิดจะไปนั่งเล่นที่นั่นเพื่อผ่อนคลาย
ใครบอกว่าองครักษ์เงาไม่ต้องการการพักผ่อนนางขอค้านหัวชนฝา
แต่เดินไปจนเห็นน้ำตกนางกลับต้องชะงักแทนเมื่อเจอจ้าวเยว่เทียนอยู่ที่นั่นด้วย
นางคิดจะเดินกลับไปแต่เมื่อมองดูรอบ
ๆไม่มีใครเฝ้าเขานางจึงขึ้นไปบนกิ่งไม้ก่อนจะมองดูอย่างเงียบ ๆ
แผ่นหลังที่ตอนเด็ก
ๆนางก็คิดว่ากว้างแล้วยามนี้มันกลับกว้างกว่าเดิมอีกทั้งยังคุ้มครองนางได้ตลอดเสมอมา
หากให้ทิ้งอคติไปจริง
ๆสิ่งที่จ้าวเยว่เทียนดูแลนางก็มีมากกว่าเรื่องเสียเพียงเรื่องเดียวที่เขาทำในช่วงหลังมานี้
ถ้าไม่ได้จ้าวเยว่เทียนตอนนี้นางก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตนางจะเป็นไรอย่างไร
เขาก็เหมือนพระจันทร์ที่ช่วยส่องแสงลงมาหานางในยามกลางคืนที่มืดมิด
จ้าวเยว่เทียนที่รู้ว่ามีโจรเด็ดบุปผาแอบอยู่บนกิ่งไม้ยังไม่ไปไหนจึงคิดจะแกล้งนาง
เขาจึงค่อย ๆถอดเสื้อออกทีละตัวอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะเดินลงไปในน้ำที่ลึกถึงอก
พร้อมกับแหวกว่ายไปมา
ผิวขาวสะท้อนแสงจันทร์ของเขาทำให้นางหน้าแดงพลันคิดไปถึงคำพูดของเจิ้งหู่เมื่อครู่
นางเห็นเจิ้งหู่ถอดเสื้อผ้าเป็นปกติไม่เคยเขินอายยามมองเขาแต่พอเป็นจ้าวเยว่เทียนนางกลับ...
มี่ฮวารีบสะบัดหัวเมื่อเริ่มคิดฟุ้งซ่านก่อนจะรีบกลับไป
แต่ไม่ทันไรนางกลับโดนอุ้มลงจากกิ่งไม้แล้วพากระโดดลงไปในน้ำทันที
ตูม! เสียงกระทบน้ำดังขึ้นพร้อมกับก่อคลื่นเป็นวงใหญ่ยามทั้งสองตกลงไปในน้ำ
มี่ฮวาทะลึ่งตัวพรวดขึ้นมาเนื่องจากไม่ทันตั้งตัวได้แต่สำลักน้ำไม่หยุดผิดกับจ้าวเยว่เทียนที่เตรียมพร้อมก่อนแล้วเขาจึงไม่รู้สึกรู้สาอันใด
“เจ้ามัวแต่คิดอันใดอยู่จึงไม่รู้ว่าข้าเข้าใกล้”
เขาถามพร้อมกับปัดผมให้นางที่ยุ่งเหยิงจากการโดนน้ำ
“ข้า...เปล่า”
จะให้นางบอกได้ไงว่านางเมากล้ามเขาคิดแล้วก็หน้าแดง
“อ้อ...ข้าก็คิดว่าเจ้าเหม่อมองข้าเสียอีก”
จ้าวเยว่เทียนรีบเย้าเมื่อเห็นอาการหน้าแดงของนางหลังจากนั้นเขาก็เงียบไปไม่พูดอะไรอีก
มี่ฮวาอึดอัดเมื่อเขาไม่พูดอะไรต่อแถมยังไม่ยอมปล่อยตัวนางไปนางพึ่งมาสังเกตว่าถ้าหากไม่ใช่เรื่องงานแล้วจ้าวเยว่เทียนมักจะเป็นคนที่เริ่มคุยกับนางก่อนเสมอในเมื่อตอนนี้เขาไม่ยอมพูดต่อบทสนทนาจึงไม่เกิด
จ้าวเยว่เทียนรออยู่นานว่านางจะยอมพูดออกมาหรือไม่แต่เมื่อเห็นนางนิ่งเงียบจึงผละตัวออกมาแล้วเตรียมเดินขึ้นจากน้ำ
ทันทีที่เขากำลังจะขึ้นฝั่งมือของเขาก็โดนดึงเอาไว้
“ขอโทษเจ้าค่ะ”
มี่ฮวาได้โอกาสบอกเขาหลังจากที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานตอนนั้นนางมัวแต่มีทิฐิไม่ยอมมองว่าเขาเป็นห่วงจึงไม่คิดจะขอโทษ
แต่เมื่อมาพิจารณาดูดี ๆที่เขาทำไปก็เพื่อตัวนางเอง
แม้กระทั่งเริ่มบทสนทนาในครั้งนี้เขาก็เป็นคนที่โอนอ่อนยอมคุยกับนางก่อน
แล้วจะให้นางปฏิเสธเขาต่อไปเพื่ออะไร
“รู้ตัวแล้วหรือว่าผิด”
จ้าวเยว่เทียนยังคงหันหลังให้นางอยู่ทำให้นางไม่เห็นสีหน้าของเขาว่าเขารู้สึกอย่างไร
“ขอโทษแล้วก็...ขอบคุณเจ้าค่ะที่ไปช่วยข้า”
จริง
ๆจ้าวเยว่เทียนจะปล่อยนางไปเผชิญอันตรายอย่างไรก็ได้เพราะเขาเป็นเจ้านายของนางไม่จำเป็นต้องเอาตัวมาเสี่ยงเพื่อนางถึงเพียงนี้
แต่เขาก็ไม่ทำจ้าวเยว่เทียนมักจะไม่ปล่อยให้ลูกน้องของเขาทำเรื่องอันตรายเกินไป
เขามักวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุดอยู่เสมอ
เขาไม่เคยใช้พวกนางแบบทิ้งขว้างไม่สนใจชีวิต
“รับปากข้า...ต่อจากนี้ไปจะไม่ทำเรื่องเช่นนี้อีก”
“เจ้าค่ะ...”
นางรวบรวมความกล้าก่อนจะพูดเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะหายตัวไปทันที
จ้าวเยว่เทียนได้แต่หัวเราะตามหลังนางที่รีบหนีไปหลังจากมาข่วนหัวใจของเขาเล่น
เจ้าค่ะ...พี่เยว่เทียน
เขาได้ยินชัดเต็มสองหูเลยล่ะว่านางเรียกเขาเช่นนี้
ฟินเลยสิพี่เยว่ ♥
ส่วนเจิ้งหู่น้านนนน ยังคงคอนเซปคนซวย2019ต่อไปนะคะ
ตอนนี้ก็เกือบครึ่งเรื่องแล้วหลังจากนี้เราจะออกจากป่ากันแล้วค่ะได้เวลาไปใช้ชีวิตในเมือง
ไรท์จะอัพให้ได้ถึง60%ของเนื้อเรื่องนะคะเพราะว่าเป็นข้อตกลงกับสนพ. แต่สัญญาว่าจะไม่ให้ค้างแน่นอนค่ะ เพราะตรงที่ตัดเฉลยปมของเรื่องพอดี ส่วนใครรอแบบหนังสือรอกันหน่อย ถ้ามีความคืบหน้าจะมารายงานให้ทราบค่ะ
ขอโทษที่หายไปนานนะคะ พอดีช่วงนี้ยุ่ง ๆแล้วลืมลงเรื่องนี้ไปด้วย (บ่าวขอโทษบ่าวผิดไปแล้ว T T โบยบ่าวได้เลยเจ้าค่ะ)
อย่าลืมคอมเม้นต์ให้ไรท์ด้วยนะคะจะได้มีแรงมาอัพให้
ความคิดเห็น