คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : บทที่ 2 (2) ปฏิบัติการขุดหลุมรัก [ฝ้ายขออนุญาตลงเนื้อหานะคะ] 100
ดวงตาคู่สวยทอประกายหนักใจ
เมื่อลองเช็คอีเมลในโทรศัพท์มือถือเพื่อตรวจสอบดูว่ามีงานที่เธอไปสมัครเอาไว้เรียกไปสัมภาษณ์หรือไม่...
ซึ่งไม่มีเลย
วาดดาววางโทรศัพท์มือถือในมือลงบนโต๊ะตั้งเล็กข้างหัวเตียง
ก่อนดวงตาคู่งามจะเลื่อนสายตาไปทอดมองกรอบรูปที่ตั้งเอาไว้บนโต๊ะตัวนี้เช่นกัน
“แม่ขา
ดาวคิดถึงแม่ค่ะ”
นัยน์ตาคู่หวานรื้อน้ำตาขึ้นมาขณะมองรอยยิ้มของมารดาในรูปถ่าย
ขณะที่วาดดาวกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปขึ้นมาชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้น
“สักครู่นะคะ”
เธอตะโกนออกไป ก่อนจะพยายามปาดน้ำตาที่หยดรดพ่วงแก้มของตัวเอง
แล้วจึงเดินไปปลดล็อคประตู “คุณมีอะไรรึเปล่าคะ”
ร่างแบบบางเดินก้าวออกมาจากห้องเมื่อบาสเตียนก้าวถอยหลังพาร่างสูงของเขาออกห่างจากประตู
เพื่อเว้นระยะให้เธอได้ก้าวออกมาจากห้องของตัวเอง
วาดดาวเอ่ยถามเจ้าของร่างสูงตรงหน้าด้วยน้ำเสียงสุภาพ
แต่สายตาของเธอมองเขาด้วยแววตามีคำถามและมีร่องรอยระมัดระวังอยู่ในที
“ร้องไห้เหรอ”
เสียงทุ้มห้าวเอ่ยถาม ขณะดวงตาคมกล้าของเขาจ้องนิ่งมองนัยน์ตาที่เรื่อแดงของเธอ
วาดดาวไม่ตอบ
แต่หญิงสาวเสเปลี่ยนเรื่อง “คุณมีอะไรรึเปล่า”
“ตอนเย็นคุณทานข้าวไปน้อยมาก
ผมเลยเอานมอุ่นๆ มาให้”
เขายอมโอนอ่อนด้วยการไหลตามเรื่องที่เธอเปลี่ยนอย่างไม่คิดขัด
“ขอบคุณค่ะ”
เธอเอื้อมมือไปรับแก้วนมอุ่นๆ จากเขามาประคองถือเอาไว้
“แล้วก็นี่”
เขายื่นส่งสิ่งที่อยู่ในมืออีกข้างให้เธอ “เมื่อวานผมถือโอกาสจำว่าคุณใช้คอนเทคเลนส์สายตาสั้นเท่าไหร่
วันนี้เลยไปซื้อมาให้คุณ เผื่ออันที่ใส่อยู่หายหรือหมดอายุคุณจะได้มีอันสำรองไว้ใส่”
วาดดาวมองสิ่งที่ชายหนุ่มยื่นส่งให้
ก่อนจะเลือนสายตาขึ้นมามองหน้าบาสเตียน
ซึ่งดวงตาของเธอฉายชัดถึงความซาบซึ้งในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ชายหนุ่มทำให้
“จริงๆ
พรุ่งนี้ฉันก็กะว่าจะไปจัดแว่นมาใส่ใหม่อยู่แล้วค่ะ แต่ก็ขอบคุณคุณมากนะคะ
ไว้ฉันจะรีบหาเงินมาจ่ายให้คุณ”
“เรื่องเงินน่ะไม่ต้องหรอก
ส่วนเรื่องแว่นเดี๋ยวไว้ว่างๆ ผมจะพาคุณไปตัดใหม่”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปตัดแว่นเองเลยดีกว่า
จะได้มีแว่นใส่เร็วๆ เพราะจริงๆ แล้วฉันเองก็ไม่ชอบใส่คอนเทคเลนส์เท่าไหร่ ที่มีติดไว้ก็เผื่อเวลาฉุกเฉินเฉยๆ”
“วาดดาว...
แต่ผมว่าถ้าช่วงเวลาปกติคุณควรใส่คอนเทคเลนส์นะ ผมว่ามันน่าจะทำให้คุณทำอะไรสะดวกคล่องตัวกว่าเวลาคุณใส่แว่นนะ”
เขาแนะนำ “แล้วนี่ดึกมากแล้วทำไมคุณยังไม่อาบน้ำอีกอีก” บาสเตียนเปลี่ยนเรื่องเมื่อสังเกตเห็นว่าวาดดาวยังอยู่ในชุดเดิมกับเมื่อตอนเย็น
“คือว่าฉัน” วาดดาวอึกอัก
“นี่อยากบอกนะว่าคุณยังหลอน
เพราะกลัวว่าเหตุการณ์เหมือนเมื่อคืนจะเกิดขึ้นอีก”
“ก็... ฉัน...”วาดดาวอยากจะปฏิเสธ
แต่พอเห็นสีหน้ารู้ทันของบาสเตียนคำพูดของเธอก็ติดอยู่ที่ปลายลิ้น
“เมื่อคืนมันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ
ผมเองก็ลืมบอกคุณว่าห้องน้ำเราสองคนใช้ร่วมกัน มันเลยเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมา
แต่ถ้าคุณไม่สบายใจจริงๆ เดี๋ยวผมออกมาใช้ห้องน้ำข้างนอกเองก็ได้”
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างผู้เสียงสละ
“ไม่เป็นไรค่ะ
ให้ฉันเป็นคนออกมาใช้ห้องน้ำอีกห้องเองดีกว่า คุณไม่ต้องลำบากหรอก”
“ไม่ลำบาก”
เขาบอกแค่นั้น “ตกลงเอาเป็นว่าคุณใช้ห้องเดิมไป ส่วนผมจะใช้ห้องใหม่เอง
แล้วเรื่องงานคุณก็ไม่ต้องคิดมาก ผมจะคอยเป็นกำลังใจให้” เขาบอกเสียงอ่อนโยน
“ขอบคุณนะคะ”
คำพูดของชายหนุ่มทำให้โลกของเธอที่เคยโดดเดียวพลันเปลี่ยนไปทันที
“เด็กขี้แง”
บาสเตียนาล้อเลียนวาดดาวด้วยน้ำเสียงนุ่มหูชวนฟัง เมื่อชายหนุ่มเห็นประกายน้ำตาในดวงตาคู่สวยของเธอ “ดื่มนมให้หมดแก้วด้วยนะ แล้วก็ไปอาบน้ำนอนได้แล้วเพราะนี่มันถึงเวลาที่คุณจะควรพักผ่อน
ส่วนงานสอนภาษาน้องชายผม พรุ่งนี้ตอนเย็นลูเซียนมันจะเข้ามาคุยกับคุณ แล้วเดี๋ยวพวกคุณสองคนลองคุยกันดูจะได้นัดกันว่าจะเรียนช่วงไหนบ้าง”
“ขอบคุณคุณมากนะคะ”
เธอบอกเขาด้วยแววตาซาบซึ้ง
โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังถูกซาตานล่อลวงด้วยความหวังดีจอมปลอม
เรียวหน้าแกร่งของชายหนุ่มเคลื่อนขยับโน้มต่ำลงมาให้ระดับที่สายตาของเขาอยู่เทียบเท่าหญิงสาวตรงหน้า
เพื่อที่เขาจะสามารถมองจ้องประสานสบตาเธอได้
ก่อนที่บาสเตียนจะเอ่ยพูดกับเธอด้วยสุ้มเสียงเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน
ซึ่งน้ำเสียงและสีหน้าในตอนนี้ของชายหนุ่มมันกำลังช่วยประโลมปลอบหัวใจที่กำลังหลงทางไร้ที่พึ่งของวาดดาว
“ขอแต่คุณจำไว้ว่าผมคนนี้จะคอยอยู่เคียงข้างคุณเสมอ”
สิ่งที่ชายหนุ่มเอ่ยทำให้หัวใจคนฟังอุ่นซ่านขึ้นมา...
ความคิดเห็น