คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 3 (1) รอยรักตรึงใจ [ฝ้ายขออนุญาตลงเนื้อหานิยายนะคะ] 20
บทที่ 3
“เอี้ยด! / เฮ้ย!” เสียงห้าวของลูเซียนดังขึ้นพร้อมๆ
กับเสียงเสียดสีของขาเก้าอี้ที่ขยับตามแรง... ถีบ
“พี่ถีบเก้าอี้ผมทำไม!”
ผู้มาเยี่ยมเยียนโวยวายใส่คนเป็นเจ้าของสถานที่เสียงดัง
“ก็ถีบให้แกเลิกมองของของฉันไง”
เสียงของคนพูดนิ่งแต่แฝงการคุกคามเอาไว้ในทุกๆ คำที่เขาเอ่ยออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นชี้ไปในทิศทางที่วาดดาวเดินไป “คนนั้น”
แล้วจึงชี้นิ้วกลับมาที่อกแกร่งของตนเอง “เขาเป็นของฉัน!
แกมองเขาเยอะไป ฉันหวง”
“พี่จะมาหวงอะไรคุณครูของผมนักหนา”
“ใครของแก”
“ก็
‘คุณครูดาว’ คนสวยของผมไง”
“พูดแบบนี้แกไม่อยากแก่ตายใช่ไหม”
คนช่างหวงแค่นเสียงคำรามรอดไรฟัน
ลูเซียนหัวเราะเบาๆ
ในลำคอ เมื่อเห็นท่าทีของบาสเตียน ซึ่งดูเหมือนว่าพี่ชาย ‘ขาฟัน’ ของเขาจะยังไม่รู้ตัวเลยว่าท่าทางการหวงของใหม่ที่ยังไม่ได้ลิ่มลองของเจ้าตัวมันดูมากจนเกินไป...
“ผมเป็นน้องพี่นะ จะมาหวงอะไรนักหนา พี่บ้าป่ะเนี่ย” คนพูดกระเเทกเสียงใส่ด้วยสุ้มเสียง 'คล้าย' หงุดหงิด
“หุบปาก!”
“เด็กพี่เองก็หน้าเด็กไม่แพ้แฟนผมหรอก
ถามจริงเหอะดาวเขาจบไฮสคูลรึยัง นี่อย่าบอกนะว่าจะหลอกเด็กมาปู้ยี้ปู้ยำ”
“ไอ้เลวลูเซียน
แกพูดแบบนี้ได้ยังไง ไอ้บ้า ใครหลอกใครมาปู้ยี้ปู้ยำพูดให้มันดีๆ นะแก!”
คนถูกกล่าวหาว่าหลอกเด็กตะคอกใส่น้องชายเสียงเหี้ยม “ดาวเขาเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วโว้ย! เขาอายุพอๆ กับแฟนแกนั่นแหละ”
ลูเซียนหัวเราะในลำคอเบาๆ
เมื่อเห็นพี่ชายมีท่าทีร้อนรนของพี่ชายขณะที่บาสเตียนเอ่ยตอบคำถามของเขา “พี่คิดว่าเขาจะไม่รู้เลยเหรอว่าพี่กำลังหวังจะเขมือบเขาอยู่”
“ฉันคิดว่าไม่นะ”
“เขาไร้เดียงสาไปไหม
ทั้งๆ ที่สายตาพี่มันฟ้องขนาดนี้”
“ขนาดไหน”
“ขนาดที่ว่าใครมองปุ้บก็รู้ปั้บเลยไงว่าพี่กำลังมีความคิดที่จะลากเขาขึ้นเตียง”
“แกก็เว่อร์”
“เรื่องจริง
ตาพี่น่ะเวลามองเขามันฟ้องความคิดพี่ออกมาเลยว่าพี่น่ะอยากจะปลอกเปลือกลอกคราบเขาออกแล้วพาคุณแม่บ้านสุดสวยของพี่ไปทำหน้าที่อื่นที่นอกเหนือจากงานบ้าน”
“แกนี่มันจริงๆ
เลย คิดอะไรเป็นตุเป็นตะ”
“แต่ผู้หญิงคนนี้สวยมากจริงๆ
ว่ะพี่ ตาคม จมูกโด่ง หน้าเล็กนิดเดียว แต่ที่เด็ดสุดคือปากที่อิ่มสวยชวนให้จูบสุดๆ ”
“เออ!”
บาสเตียนส่งเสียเห็นด้วยกับสิ่งที่น้องชายเอ่ย ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือออกไปยกแก้วน้ำส้มที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมาจิบแก้กระหาย
เมื่อแวบนึกถึงปากของวาดดาวแล้วจินตนาการของเขามันดันเตลิดไปไกลถึงขันเพ้อคิดภาพว่าถ้าปากของเธอทาบลงบนจุดแห่งความภาคภูมิใจของบุรุษเพศของเขา...
จนความหฤหรรษ์ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย
“เบื่อเมื่อไหร่ส่งมาได้เลยนะ
คนนี้ผมพร้อมรับต่อ”
คำพูดของลูเซียนดึงบาสเตียนกลับคืนสู่โลกความจริง
ชายหนุ่มกระแทกแก้วน้ำในมือลงบนโต๊ะจนเกิดเสียงดัง
ส่วนลูเซียนถึงกลับกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
เมื่อเห็นหน้าของคนที่ปกติชอบตีหน้าตาย แถมปกตอบาสเตียนยังชอบทำตัวเอื่อยๆ เฉื่อยๆ เหมือนคนไม่สนใจโลก
แต่บัดนี้สีหน้าของพี่ชายบอกชัดว่าอยากจะกระโจนข้ามโต๊ะมาขบหัวเขาให้ขาด เมื่อเขาเอ่ย
‘ขอ’ วาดดาวออกไปแบบนั้น
แต่ดูเหมือนปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นของบาสเตียนในตอนนี้จะเกินกว่าที่เขาคาดไว้
ลูเซียนจึงต้องแก้ไขสถานการณ์ด้วยการทำท่ายกมือขึ้นราวกับยอมแพ้
“โอเคพี่
ผมแค่ล้อเล่น ใจเย็นๆ พี่ๆ ผมขอโทษที่ปากไม่ดี”
“ถ้าฉันได้ยินแกพูดแบบนี้อีกฉันเอาแกตายแน่” เสียงของเขาไม่ดัง แต่สายตาที่บาสเตียนใช้จ้องน้องชายมันเลือดเย็นจนขนอ่อนที่หลังคอของคนถูกมองลุกเกรียวขึ้นมา
ลูเซียนอือออรับคำในลำคอ
ก่อนจะเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น เพื่อกอบกู้สถานการณ์ของบรรยากาศรอบกาย ซึ่งตอนนี้มันเลวร้ายอย่างที่เขาสามารถสัมผัสความรู้สึกเย็นยะเยือกที่พี่ชายส่งผ่านมาทางสายตาได้
“ถามจริงๆ
เหอะ พี่เห็นผมว่างมากนักใช่ไหม ถึงได้มาดึงเอาเวลาช่วงเย็นของทุกวันผมไปแบบนี้”
คนถูกบังคับให้มาตกลงกับอาจารย์สุดสวยเรื่องเรียนภาษาไทยเอ่ยออกมาในที่สุด
เมื่อแน่ใจว่าวาดดาวจะไม่ได้ยินบทสนทนาของเขาและพี่ชาย
“ใจจริงฉันตั้งใจจะให้แกลาออกจากงานมาเรียนอย่างเดียวเลย
ดาวเขาจะได้ไม่ต้องไปหางานทำให้เหนื่อย”
“พ่อได้ด่าผมตาย
ถ้าผมลาออกมาเรียนภาษาไทยเพื่อเอาใจแฟน” ลูเซียนกระแทกเสียงใส่คู่สนทนา ที่อีกฝ่ายพูดประโยคเมื่อกี้ออกมาด้วยท่าทางสบายๆ
“แต่พี่อย่าลืมนะว่าเขาบอกว่าถ้าเขามีเงินเขาจะย้ายออก”
“ฉันมีวิธีทำให้เขาไม่ย้ายออกไปไหนก็แล้วกัน”
“ไหนลองบอกผมมาสิว่าพี่จะใช้วิธีไหน”
บาสเตียนเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์
ก่อนจะเอ่ยวิธีการของตนให้น้องชายร่วมรับรู้
“พี่นี่มันคนทุเรศ!”
ลูเซียนเอ่ยต่อว่าพี่ชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ฟังวิธีการที่พี่ชายจะใช่เหนี่ยวรั้งตัววาดดาวเอาไว้
“จะทำให้เขาขาดตัวเองไม่ได้ด้วยการใช้เซ็กส์เป็นเครื่องมือเนี่ยนะ เลว!”
“ด่าฉันแบบนี้จะไม่กินใช่ไหมต้มยำกุ้ง
ปีกไก่ทอกตะไคร้ ไข่เจียวปูที่แกรีเควสให้ดาวทำให้น่ะ”
“โห้พี่!
มาเบียดเบียนเวลาช่วงเย็นของน้องชายไปแล้ว ยังกล้าจะไม่ให้ผมกินข้าวอีกเหรอ
ถ้าพี่กล้าไล่ผมกลับบ้านทั้งๆ ที่ยังไม่ได้กินข้าวอีกนี่พี่เข้าขั้นเลวเลยนะ”
“เเก้คำพูดของเเกเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย เพราะคนอย่างฉันน่ะมันไม่ใช่คนเลวธรรมดาเเต่เป็นคนมาก”
บาสเตียนลากเสียงยาวด้วยท่าทีที่กระเดียดไปทางภาคภูมิใจในความเลวของตัวเอง
“แกก็น่าจะรู้ดีไม่ใช่เหรอว่าพี่แกนิสัยยังไง”
คนเป็นน้องเบ้ปากเมื่อเห็นสีหน้าภูมิอกภูมิใจของพี่ชาย
“ขอบคุณที่อย่างน้อยพี่ก็รู้ว่าตัวเองน่ะมันโคตรเลว!”
ความคิดเห็น