มีโอกาสไปเที่ยวที่นี่ค่ะ ที่ที่เต็มไปด้วย เทือกเขา ภูเขา และเขาต่าง ๆ นานา แต่จะไปชมทั่วทุกที่นั้นไม่น่าจะได้เนื่องจากมีเวลาจำกัดนั่นเอง Eppan Misian Street.
เมื่อเดินทางไปถึงสถานที่แห่งนั้นก้อเป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว มีฝนตกปรอย บ้าง แต่ก้อไม่หนัก อากาศค่อนข้างเย็นสบาย เมื่อทำการเช็คอินเรียบร้อยแล้ว โอ้แม่เจ้า ที่โรงแรมไม่มีแอร์กับตู้เย็น ช่างประหยัดพลังงานจริง ๆ ระดับสามดาว หลังจากรับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ก็ออกทำการสำรวจบริเวณรอบ ๆ กันซะหน่อย เพื่อให้รู้ว่ารุ่งขึ้นตระเวณไปทางไหนได้บางตามประสา คนชอบเที่ยว
จากการสำรวจบริเวณรอบ ๆ โรงแรมตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ของเมืองนั้น ช่างอบอุ่น เพราะมีทั้งรถวิ่งผ่านไปมาและคนเข้าออกด้านตรงข้ามฝั่งด้านหน้าของโรงแรมเป็นชายเขา มีไร่องุ่นสลับกับแอปเปิ้ล ปลูกเรียงกันเป็นแนวจนสุดลูกตาส่วนด้านหลังก้อเป็นจุดชมวิวเขาที่ได้เก็บภาพมาให้ช่วยกันติ ส่วนด้านข้างก้อแน่นอน เป็นบ้านจัดสรรเรียงกันเป็นแนวตรอกซอกซอยกันเลยทีเดียว
แอบอิจฉาคนที่นี่ ที่เค้าอยู่กับ ธรรมชาติอันสวยงาม จริง ๆ ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร ต้นไม้ป่าไม้ที่ขึ้นหน้าแน่นตลอดแนวเขาตัดกับท้องฟ้า เฮ้อ!องค์ประกอบช่างลงตัวดีแท้ อากาศก็แสนจะดี ถนนก็สะอาดมากเลย ไม่มีขยะตกให้เห็นเลย (อยากให้บ้านเรามีป่าและต้นไม้ เยอะ อลังการงานสร้างแบบที่นี่จัง) วิถีชีวิตของคนที่นี้ มีความเป็นชาตินิยมส่วนใหญ่จะพูดภาษาแม่คือ อันดับเยอรมัน อันดับสองรองลงมาคือ อิตาลี และ ลาติน
อาชีพหลักของชาวเมืองนี้คือ ปลูกแอปเปิ้ลกับองุ่น หันไปทางไหนต้องเห็นเป็นไร่สองอย่างนี้ องุ่นนำไปผลิตไวน์ ส่วนแอปเปิ้ล ปลูกเพื่อทำการส่งออก
อากาศที่นี่ ค่อนข้างเย็นสบาย ไม่ร้อนและไม่หนาว พอดี ๆ
ส่วนกิจกรรมที่มีให้เห็นตั้งแต่เข้ามาในอาณาเขตนี้ก็คือ ขีจักรยาน มีให้เห็นมาก ๆ และมีจักรยานของเมืองนั้น ๆ ให้เช่ากันเลยทีเดียว แต่ส่วนใหญ่เป็น Mountainbike เพราะถ้าเป็นจักรยานธรรดา ไม่น่ารอดหากขึ้นเขา มีหวังต้องอัญเชิญเข็นขึ้น หรือเดินไปด้วยกัน หรือเดินขึ้นไปคนเดียวน่าจะสนุกกว่านะ
สำหรับพวกที่ชอบเอ็กซ์ตรีม มีกิจกรรมปีนเขา สำหรับพวกที่ชอบความสูง และมีทั้งเดินป่า เดินเขาให้ได้เลือกเหนื่อยกันหลายรูปแบบเลยทีเดียว แต่สำหรับคนที่ไม่อยากเหนื่อย สามารถขับรถขึ้นสุ่ยอดเสา เอ๊ย! ยอดเขาได้เลย
นี่แค่น้ำจิ้มสำหรับหน้าร้อน ของหน้าหนาวก็มีให้ไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว แต่กิจกรรมพวกนี้น่าสนใจ เพราะอย่างน้อยช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ แต่ภาวะโรคเลิฟ ลดไม่ได้จริง ๆ เลยทีเดียว โปรดติดตามภาคต่อจากนี้ ทะเลสาบการด้า
เขานี้คือ Mandelpass สูงจากระดับน้ำทะเล 1,363 เมตร (เลขสวยดีนิ อย่าตามนะ)
ไม่รับรองอาจถูกกินได้ ยอดเขานี้คุณตาท่านนึงเป็นชาวอิตาลี อายุ 82 ปี
ทุกวันนี้ แกยังไปปีนขึ้นปีนลงอยู่เลย เสียดาย คุณตาไม่ชอบถ่ายรูป
บอกว่ากลัวดัง เลยไม่มีรูปคุณตามาอวดกัน
ด้านข้างของปราสาท
ทะเลสาบ Kaltern ยามฟ้าครึ้ม อันนี้น่าจะอาบลมมากกว่าอาบแดดนะ
แต่ก้อแอบสงสัย
คนที่เล่นวินเซิร์ฟ จะหนาวกันบ้างมั้ยหนอ
ภัตคารริมทะเล เหมือนบ้านเราเลย จะกางร่มทำไม แดดไม่มี
เห็นแบบนี้แล้วอย่านึกว่าจะเก็บง่าย ๆ นะ เพราะว่า จะมีระยะที่เค้าฉีดยา
ขืนเก็บสุ่มสี่สุ่มห้า ยังไม่หมดระยะฉีดยา คิดเอาเองละกัน
ขืนเก็บสุ่มสี่สุ่มห้า ยังไม่หมดระยะฉีดยา คิดเอาเองละกัน
คงจะไม่ต้องบอกหรอกนะว่าอะไรเอ่ย
ถ่ายภาพนี้ตอนกลางคืนได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ถ่ายภาพนี้ตอนกลางคืนได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ส่วน ภาพนี้คือ Hihgeppan Castle ตั้งตามชื่อเมือง มีความสำคัญอย่างไร ขอไปทำการบ้านก่อน
อกองทัพต้องเดินด้วยท้องฉันใด อ่านะ ขอนิดนึง อันนี้คือ ออร์เดิร์ฟ
ไม่ต้องแปลกใจนะ ไม่ดื่มเหล้าทั้งเข้าพรรษาและออกพรรษา
ไปขอเค้าถ่ายมาให้ดูไม่ใช่ของเราหรอก ยืมโต๊ะอื่นเค้าถ่ายน่ะ
เป็น ซีฟูดสลัดของทางโรงแรมเค้าจัดมา
ไปขอเค้าถ่ายมาให้ดูไม่ใช่ของเราหรอก ยืมโต๊ะอื่นเค้าถ่ายน่ะ
เป็น ซีฟูดสลัดของทางโรงแรมเค้าจัดมา
อันนี้ทานกันจริงและนะแต่ เราอิ่มตั้งแต่สองอย่างแรกแล้วล่ะ เฮ้อ! กินอะไรกันนักหนา
ส่วนอันนี้ ไม่ได้ทาน เพราะอิ่มซะก่อน พุดดิ้งครีมราดซอสเบอร์รี่
ห่างจากที่พักประมาณ 500 เมตร นี่ก็ไร่องุ่น องู้น องุ่น อุ่นไอรัก
อะแน่ แอบคิดชิมิว่า พักที่นี่รึเปล่า ขอบอก
ถ่ายมาดูเล่นเฉย ๆ ชอบแบบบ้านเค้า
ความคิดเห็น
เพลง เพราะดีน่ะ คร้าบบบบบ !!!!!
และน้ำมันมะกอกลงไปนะ ไม่งั้นมันจะมีรสเปรี้ยวรสเดียวเลยจ้ะ