ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC :: 4 ROMANCE :: [ Super junior ]

    ลำดับตอนที่ #2 : ธาราหิมาลัย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.56K
      22
      10 พ.ย. 53


    MusicPlaylist
    Music Playlist at MixPod.com











     

    ธาราหิมาลัย
    รักของธารา …แม้แต่ภูผายังสั่นคอน
     
     
     “ พ่อ.. ไร่ข้างๆเรามีคนมาอยู่แล้วเหรอ ” ปาร์คซึงโฮเงยหน้ามองเจ้าลูกชายคนเล็กที่ตอนนี้กำลังปีนอยู่บนหน้าต่างพร้อมกับเอากล้องส่องทางไกลส่องไปยังพื้นที่ข้างๆที่ตอนที่เขามาอยู่แรกๆ ยังคงเป็นพื้นที่ว่างๆแต่เมื่อสองสามปีที่ผ่านมาเห็นว่ามีคนมาติดต่อซื้อพื้นที่เพื่อที่จะมาลงทุนปลูกอะไรสักอย่าง แต่ได้ยินแว่วๆว่า ลูกชายเจ้าของไร่อยู่เมืองนอกรอกลับมาเพื่อที่จะมาบริหารต่อ ตอนนี้ดูเหมือนลูกชายเจ้าของไร่ข้างๆจะกลับมาแล้ว เพราะเห็นว่าเริ่มมีคนบ้ายข้าวของเดินไปเดินมากันให้วุ่น
     
    “ ทำตัวเป็นโรคจิตไปได้ฮยอกแจ ลงมากินข้าวดีดี ” คยูฮยอนสั่งน้องชายคนเล็กที่เพิ่งจะเรียนจบมาหมาดๆแต่ดูท่าทางและการกรทำไม่ต่างจากเด็กประถม อีฮยอกแจยังคงใส่ชุดเหมือนเด็กกะโปโลแถมยังชอบสะพายกล้องส่องทางไกลไว้ที่คออีกด้วย เหมือนพวกหัวหน้าแก๊งค์สมัยประถม
     
    “ เราต้องไปสืบนะพี่คังอิน เดี๋ยวเจ้าไร่นู้นทำไร่องุ่นแข่งกับเราทำไง แย่ดิ ” คังอินส่ายหัวพับหนังสือพิมพ์ที่อ่านค้างไว้วางไว้ข้างตัวก่อนจะเอื้อมมือมายีหัวเจ้าน้องชายที่ยังคงทำหน้าตาเคร่งเครียดยังกะปัญหาโลกแตก
     
    “ เอาเวลาไปศึกษาพันธ์องุ่นดีกว่านะ เจ้าน้องน้อย หนังสือที่พี่ให้ไปอ่านไปถึงสามหน้ารึยัง ” พอกลับมาพูดเรื่องเดิมๆอีฮยอกแจก็เบะปากก่อนจะหันหน้าหนีเอื้อมมือไปหยิบเครื่องปรุงมาเทใส่โจ๊กตรงหน้าเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่พี่ชายคนโตพูด คังอินหัวเราะกับท่าทางของฮยอกแจที่ดูเหมือนเด็กๆไม่มีผิด ร่างสูงเงยหน้ามองทั่วโต๊ะพบว่าน้องชายคนหนึ่งของเขาหายไป
     
    “ คิบอม ?”
     
    “ รายนั้นไม่ตื่นหรอก เพิ่งกลับมาตอนตี 4 ”
     
    กลายเป็นเสียงคยูฮยอนที่ตอบตามด้วยเสียงของฮยอกแจที่บ่นปาวๆว่า พี่คิบอมกลับมาพร้อมกับกลิ่นเหล้าเดินเซไปเซมา จนพี่คยูฮยอนต้องแบกขึ้นห้องด้วยความทุลักทุเล
     
    “ ถึงจะไม่ค่อยขยันแต่ก็ไม่เมาหัวราน้ำนะ ” นั่นคือประโยคสุดท้ายของอีฮยอกแจก่อนจะโดนฝ่ามือฟาดที่กลางศีรษะพอดิบพอดีร่างบางเงยหน้ามองตัวการก่อนจะยกมือตีคืนไม่หยุดหย่อน จนผุ้เป็นพ่อต้องมาห้ามทัพเมื่อเห็นว่าคู่นี้ทะเลาะกันตั้งแต่เด็กยันโต
     
    “คิบอม นั่งๆกินข้าวลูก ” ซึ่งโฮบอกลูกชายที่เดินกุมขมับมาฝั่งตรงข้ามก่อนจะนั่งลงโดยมีพี่ชายซักไซ้ว่าเมื่อคืนงานเลี้ยงอะไรคิบอมก็บอกว่า งานวันเกิดเพื่อนโดยมีเสียงอีฮยอกแจแว่วๆว่า เมื่อวานก็วันเกิดเพื่อน สองวันที่แล้วก็วันเกิดเพื่อน พี่คิบอมคงมีเพื่อน 365 คนเลยเกิดมันทุกวันคิบอมเลยได้แต่เอื้อมมือมาหยิกแก้มเจ้าน้องชายอย่างหมั่นเขี้ยว จนคังอินเริ่มปวดหัวไม่รู้จะห้ามใครดี คยูฮยอนส่ายหน้ากับความวุ่นวายยนโต๊ะแต่ซึงโฮกับมองด้วยรอยยิ้ม
     
    ในเมื่อทั้งหมดเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุกวัน
     



    ………..
    …………………………..
     

    ท้ายไร่ของบ้านไร่ปลายฝันเป็นสถานที่ที่อีฮยอกแจชอบมากที่สุด ธารน้ำตกที่ติดมากับพื้นที่ไร่เป็นธรรมชาติที่ฮยอกแจคิดว่าสวยที่สุด ธารน้ำสายนี้คล้ายกับว่าเป็นเขตแดนที่กั้นระหว่างไร่ของเขากับไร่ตรงข้าม อีฮยอกแจชะเง้อมองผ่านรั้วไม้เตี้ยๆผ่านไปยังพื้นที่ตรงข้ามที่ดูเหมือนกำลังปรับปรุงผิวหน้าดิน อีฮยอกแจอยากจะรู้ให้มันชัดเจนไปเลยว่าไร่ข้างๆนี่จะทำไร่องุ่นตามไร่เขาหรือเปล่า ฮยอกแจค่อยๆเดินตามสะพานไม้ที่สร้างไว้เพื่อให้เดินข้าม อีกฝั่งพร้อมกับยืนเกาะรั้วมองเข้าไปแต่มองยังไงก็ดูเหมือนว่าจะไม่ชัด ฮยอกแจเลยยกกล้องส่องทางไกลที่ห้อยติดกับตัวส่องเข้าไป ร่างบางพยายามส่องไปทางซ้ายทางขวาแต่ก็ยังมองไม่ชัด จนกระทั่งเลนส์กล้องมืดสนิท …
     
    ฮยอกแจค่อยๆยกกล้องส่องทางไกลลงก่อนจะพบว่า มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนกอดอกพร้อมกับมองเขาด้วยสายตาไม่ไว้วางใจสุดๆ ฮยอกแจมอเงยหน้ามองใบหน้าที่นิ่ง ปราศจากรอยยิ้ม เสื้อเชิ๊ดที่บ่งบอกราคาพร้อมกับแว่นยี่ห้อหรูที่ห้อยไว้กับคอเสื้อทำให้ฮยอกแจเดาได้ว่า คงเป็นคุณชายลูกเจ้าของไร่ข้างๆ


     
    “ นายเป็นใคร ? ”  


     
    ร่างสูงเอ่ยถามน้ำเสียงที่เย็นเฉียบจนทำให้ฮยอกแจทำตัวไม่ถูกถ้าบอกว่าเป็นลูกเจ้าของไร่คาดว่าคนตรงหน้าก็คงไม่เชื่ออย่างแน่ๆด้วยสภาพการแต่งตัวที่ดูมอมแมม รวมทั้งพฤติกรรมที่เพิ่งไปสอดส่องไร่เขาอีก ฮยอกแจเม้มปากแน่นพร้อมกับค่อยๆหันหลังกลับสองแขนพยายามเกาะราวไม้ของสะพานก่อนจะค่อยๆหายลับไปเหลือเพียงแต่กล้องส่องทางไกลที่ตกอยู่ตรงหน้าร่างสูง


     
    “ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ พ่อเลี้ยงซีวอน ”
     


    ร่างสูงยักไหล่พร้อมกับก้มลงหยิบกล้องส่องทางไกลที่ตกอยู่ขึ้นมามองก่อนจะชะเง้อไปตามทางที่ร่างบางวิ่งไป
     
     



    ……..
    ………………….
     

    ธารธารา ไหลเรื่อย
    แต่เมื่อเจอกับภูผา อาจมีการเปลี่ยนทิศทาง
     
    ……..
    …………………..
     
     
    “ รออยู่ตรงนี้ได้ป่ะ มันร้อน ” ฮยอกแจถอดหมวกออกมาพัดๆก่อนจะบอกพี่ชายคนโตที่แวะเข้ามาดูเมล็ดพันธ์องุ่นในตลาดกลางคังอินเลยได้แต่ปล่อยๆให้เจ้าน้องชายนั่งอยู่หน้าร้าน ฮยอกแจยังคงพัดๆไปมาตามอุณหภูมิที่ค่อยๆร้อนขึ้นเมื่อพบว่ามันใกล้จะเที่ยงวัน ฮยอกแจลุกขึ้นเดินไปตามทางร้านค้าที่เอาเมล็ดพันธ์ผัก ผลไม้ต่างๆมาวางขาย เพราะไร่ของเขาเน้นเฉพาะองุ่นเลยไม่ค่อยได้สนใจเมล้ดพันธ์อย่างอื่นสักเท่าไหร่ ฮยอกแจยังคงเดินดูไปเรื่อยๆ


     


    เพราะฮยอกแจใจเย็นเหมือนสายน้ำ
    ใครๆก็ต่างบอก อยู่ใกล้ฮยอกแจแล้วจะรู้สึกสดชื่น




     
    ฮยอกแจมองดูผลส้มสีเหลืองทองที่วางอยู่ตรงหน้าบางทีส้มก็น่าจะมีแนวโน้มในการผลิตได้ดีเหมือนกันนะเนี่ย ฮยอกแจหยิบผลส้มขึ้นมาก่อนจะยกขึ้นมามองใกล้ๆ ผิวส้มเรียบน่าสัมผัสพอจับแล้วก็รู้สึกว่าข้างในต้องรสชาติดีแน่ๆ
     
    “ นายจับส้มแรงไปนะ เดี๋ยวผิวก็ช้ำหมด ”
     
    เสียงที่ดังขึ้นทำให้ฮยอกแจเกือบจะทำส้มหลุดออกมาจากมือ แต่ดีที่จับไว้ทันไม่งั้นแม่ค้าได้ด่าเขาเปิงแน่ๆร่างสูงที่ยินอยู่ตรงหน้าทำให้ฮยอกแจได้แต่ยืนนิ่ง ถึงแม่วันนี้คนตรงหน้าเขาจะอยู่ในชุดสบายๆกางเกงสามส่วนเสื้อโปโล หมวกสานๆรองเท้าแตะแต่ยังคงคาดคุณชายได้อย่างไม่ผิดเพี้ยนไปจากคอนเสป
     
    “ นายลืมอะไรไว้รึเปล่า เมื่อวาน ” ซีวอนกอดอกถามแต่ฮยอกแจก็รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่ติดตัวเขาตลอดมันหายไปไหนกว่าจะรู้ว่าทำตกไว้ที่ข้างรั้วของอีกฝ่ายก็ไม่กล้าจะกลับไปเอา
     
    “ กล้องส่องทางไกล ” ฮยอกแจไม่กล้าแม้แต่จะตอบเต็มเสียงเหมือนเด็กที่แอบทำความผิด ก็ไปส่องไร่เขายังกะจะขโมยอะไรสักอย่างนี่ ร่างสูงเดินกลับไปที่รถก่อนจะยื่นกล้องส่องทางไกลให้ฮยอกแจ ร่างบางยิ้มนิดๆเมือ่เห็นสื่งที่ติดตัวมาตลอดอยู่ในสภาพดี แต่พอยื่นมือไปรับข้อมือบางกลับถูกจับไว้แน่น !!
     
    “ บอกมาก่อน ว่านายเป็นใคร แล้วมาส่องกล้องที่ไร่ของฉันทำไม ”
     
    ฮยอกแจอ้าปากค้างก่อนจะค่อยๆบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมแต่ดูเหมือนร่างสูงจะจับแน่นกว่าที่เคย จนร่างบางต้องเบ้หน้า ซีวอนเห็นดังนั้นจึงค่อยๆผล่อนแรงลงและดูเหมือนซีวอนจะไม่ปล่อยง่ายๆถ้าเขาไม่ตอบอะไรสักอย่าง
     
    “ ก็เป็นคนของไร่นู้น ก็แค่อยากรู้ว่าทำอะไรกัน ไม่ได้ตั้งใจไปแอบดูนะ ” ฮยอกแจอธิบายด้วยท่าทางจริงจังแต่อีกฝ่ายกลับเลิกคิ้วขึ้นมาคล้ายกับว่าไม่เชื่อ แต่พอร่างสูงก้มลงมองเสื้อยืดที่มีตราประจำไร่อยู่ตรงกระเป๋าเสื้อทำให้ซีวอนคิดว่าบางทีคนตรงหน้าอาจจะเป็นลูกชายของคนงานในไร่นู้นก็ได้  เสียงเรียกของคังอินทำให้ซีวอนปล่อยมือจากข้อมือบาง ฮยอกแจมองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะค่อยๆเดินไปหาพี่ชายที่หอบของพะลุงพะลังมาที่รถ พอนั่งประจำที่เรียบร้อยฮยอกแจเงยหน้ามองกระจกหลังที่ร่างสูงยังคงยืนอยู่ที่เดิม


     
    ……..
    ………………..


     
    เสียงน้ำที่ไหลเอื่อยของธารน้ำทำให้ฮยอกแจรู้สึกผ่อนคลายร่างบางนอนหนุนแขนตัวเองพร้อมกับหลับตาลง โดยไม่รู้ตัวว่าไร่ฝั่งตรงข้ามเปิดประตูรั้วที่ไม่ได้เปิดมานานถึง 3 ปีก้าวเข้ามาร่างสูงยืนมองร่างบางที่นอนหลับสบาย ก่อนจะก้มลงหยิบก้อนหินก้อนเล็กๆขึ้นมาพร้อมกับตั้งใจเขวี้ยงลงน้ำให้น้ำแตกกระจายจนโดนใบหน้าของร่างบางที่หลับตาพริ้มอยู่
     
    ฮยอกแจลืมตาขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นนั่งมองร่างสูงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ร่างบางหน้างอง้ำคล้ายไม่ชอบใจที่ถูกแกล้ง ฮยอกแจลุกขึ้นยืนเตรียมตัวจะหันหลังกลับ
     
    “ อยู่ว่างๆ มาช่วยงานไร่นี้หน่อยสิ ” ฮยอกแจหยุดกะทันหันก่อนจะหันกลับมาร่างบางมั่นใจได้เลยว่า รอยยิ้มที่ถูกส่งมาเป็นรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ที่สุดในบรรดารอยยิ้มที่พบเจอมา ร่างบางยิ้มตอบก่อนจะเดินข้ามสะพานมาหยุดอยู่ตรงหน้าร่างสูง
     
    “ ไร่คุณมีอะไรให้เล่นบ้างล่ะ ”
     
    ซีวอนไม่ตอบแต่เดินนำให้ฮยอกแจเดินตามเข้ามาร่างบางชะเง้อเข้ามามองชั่งใจว่าจะเข้ามาดีหรือเปล่าแต่ในที่สุดสองขาก็ก้าวเข้ามาพร้อมกับเบิกตากว้างกับสิ่งที่เห็น
     
    ไร่ส้มสีเหลืองอร่ามที่พร้อมใจกับเบ่งบานไปทั่วทั้งไร่
    สีของส้มทำให้ทั่วทั้งไร่สว่างไสว
     
    “ ไร่คุณปลูกส้มเหรอ สวยจังเลยเนอะ ” ฮยอกแจยกมือขึ้นบังแดดที่ส่องลงมาเพื่อมองให้เห็นส้มชัดๆ ซีวอนกอดอกก่อนจะยิ้มออกมาไร่ที่เขาสร้างมากับมือ วันนี้มันเจริญเติบโตจนสวยงาม
     
    “ ไม่มีงานทำที่ไร่นู้นเหรอไง ถึงนอนสบายใจเฉิบอยู่ริมน้ำ ”
     
    “ หืมม ..อ้อ เออ ก็ว่างๆน่ะ ไม่รู้จะทำอะไร ”
     
    “ เดี๋ยวก็โดนไล่ออกหรอก ”
     
    “ เอ่อ ..มาทำงานไร่คุณก่อนได้ไหมล่ะ จำได้เรียนรู้งานไง ”
     
    ฮยอกแจไม่รู้ตัวว่าพูดประโยคนี้ออกไปได้ยังไงซีวอนหันมามองก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา พลางบอกว่าฮยอกแจเป็นคนงานที่ประหลาดมีงานให้ทำอยู่แล้วแท้ๆยังจะมาขอทำงานที่ไร่เขาอีก อยากได้เงินเพิ่มหรือยังไง ซีวอนมองเสี้ยวหน้าฮยอกแจที่ยังคงมองไร่ส้มไปเรื่อย ตาเรียวเล็กหยีลงเมื่อแสงแดดเข้าตา ร่างสูงจึงถอดหมวกสานบของตัวเองก่อนจะสวมให้กับฮยอกแจที่ยืนอยู่ข้างๆ
     
    “ เริ่มงานพรุ่งนี้ อย่ามาสายล่ะ ไม่งั้น ไล่ออก !!! ”



     
     
    …………
    …………………………………




     
     
    “ คุณซีวอน ! จะเดินไปถึงไหนเนี่ย เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว !! ”
     




    ฮยอกแจที่เดินลากถุงปุ๋ยอย่างทุลักทุเลเดินตามซีวอนต้อยๆ สองข้างทางเป็นต้นส้มที่เพิ่งลงใหม่ ร่างสูงหันมามองฮยอกแจที่ยกมือเช็ดเหงื่อแล้วหัวเราะก่อนจะเดินต่อโดยไม่ฟังเสียงโวยวายของฮยอกแจ
     
    ร่างสูงหยุดอยู่ที่ต้นส้มก่อนจะสั่งให้ฮยอกแจใส่ปุ๋ยตั้งแต่ต้นนี้เป็นต้นไป ร่างบางมองตามมือที่ซีวอนชี้ก่อนจะหันมามองหน้าซีวอนคล้ายจะถามว่าหมดนั่นจริงเหรอ แต่ใบหน้าของซีวอนไม่มีความล้อเล่นแฝงอยู่เลยแม้แต่น้อย ฮยอกแจได้แต่รับคำอย่างจำใจ ก่อนจะลงมือทำแต่ด้วยทักษะที่มีอยู่น้อยนิด บวกกับไม่เคยทำงานอะไรอย่างนี้มาก่อน ร่างบางทำงานด้วยความเก้ๆกังๆ ไม่รู้ว่าจะต้องใส่ปุ๋ยลงไปเท่าไหร่ แล้วใส่ตรงไหน ซีวอนกอดอกมองฮยอกแจที่ดูเงอะงะแล้วขมวดคิ้ว เป็นคนงานประสาอะไรงานแค่นี้ยังทำไม่ได้
     
    “ ฮยอกแจ ทำตามฉัน ..จำด้วย ! ” ซีวอนนั่งลงสองมือแกร่งจับมือฮยอกแจให้ขุดดินเสียงกระซิบข้างหูทำให้ฮยอกแจกลับใจเต้นแรงสมองไม่มีสมาธิฟังคำที่ซีวอนบอกเลยสักนิด มือที่ถูกกุมสั่นอย่างไม่เคนเป็น
     
    “ ทำได้ใช่ไหม ” ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมาจังหวะเดียวกับที่ซีวอนชะโงกหน้ามาดูว่า ฮยอกแจเข้าใจรึเปล่าปลายจมูกที่สัมผัสกันแผ่วเบาทำให้ทั้งสองคนต่างหยุดทุกการกระทำ ซีวอนมองใบหน้าขาวใสที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ ดวงตาเรียวเล็กที่ซุกซนทำให้ซีวอนไม่อยากละสายตาไปไหน
     
    “ เอ่อ .. เข้าใจแล้ว” ฮยอกแจเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมาทำให้ซีวอนผละตัวออกมาพร้อมกับลุกขึ้นแกล้งทำปัดฝุ่นกางเกงไปมา ส่วนฮยอกแจก็หันไปใส่ปุ๋ยตามเดิมคงมีรอยยิ้มที่เพิ่มขึ้นมาบนใบหน้าของทั้งสองคน
     
    เกือบสองอาทิตย์ที่อีฮยอกแจมาทำงานที่ไร่ของซีวอนตอนนี้ดูเหมือนฮยอกแจจะมีความรู้ในการทำสวนทำไร่เพิ่มขึ้นเป็นกอง การที่ได้อยู่ใกล้ซีวอนทุกวันทำให้ฮยอกแจรู้อะไรหลายอย่างจากซีวอน ร่างสูงไม่ใช่แค่นักเรียนจบนอกธรรมดาๆทั่วไปแต่ซีวอนสามารถใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาบริหารงานที่ไร่ของตัวเองได้อย่างเหมาสมและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ซีวอนสามารถนำส้มพันธุ์ใหม่มาเพาะปลูกได้อย่างสำเร็จ และส่งออกได้กำไรอย่างมากมาย 
     
    ทั้งที่ตอนแรกท่าทางเย็นชาแข็งอย่างกับภูผาทำให้ฮยอกแจไม่กล้าที่จะเข้าไปตีสนิทชิดเชื้อซีวอนอะไรอย่างมากมาย รวมทั้งซีวอนยังคิดว่าฮยอกแจเป็นเพียงคนงานในไร่ไม่ใช่ลูกชายเจ้าของไร่บ้านไร่ปลายฝัน แต่แท้จริงแล้วซีวอนเป็นคนน่ารักคนหนึ่ง เหมือนพวกพระเอกปากร้ายใจดี ปากว่าอีกอย่างแต่การกระทำก็อีกอย่าง ความเป็นสุภาพบุรุษและความอ่อนโยนที่ซีวอนมักแสดงออกมาโดยไม่ตั้งใจ
     
    ทำให้ฮยอกแจหวั่นไหวหลายครั้ง
    ไม่กล้าที่จะมองหน้าซีวอนนานๆ
    ไม่กล้าจะพูดคุยอะไรด้วย ใจมันเต้นแรงไปหมด
     
    บางที สายน้ำ อาจจะหลงรัก ภูผา ไปแล้วก็ได้
     
     
    …………
    ……………………………..
     


    “ คุณซีวอน วันนี้เราต้องเก็บผลส้มกันนิ ” อีฮยอกแจชะโงกหน้าเข้ามาในบ้านไม้สักทุกเช้าจะเจอซีวอนนั่งจิบกาแฟพร้อมกับคำทักทายทุกเช้าที่ได้รับ แต่วันนี้ข้างกายของซีวอนกลับมีสาวสวยที่ใส่ชุดกระโปรงผ่าขึ้นเห็นขาอ่อนแบบเต็มๆ แต่สองแขนกลับกอดแขนซีวอนแน่นเหมือนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของซะเต็มประดา
     
    “ ฮยอกแจคนงานในไร่ผม ส่วนนี่โซยาเพื่อนฉันเพิ่งบินมาจากเมกาเมื่อคืน ”
     
    ฮยอกแจทักทายเพียงยิ้มบางๆก่อนจะหันหลังลงบันไดมานั่งลงตรงบันไดขั้นสุดท้าย มือบางยกขึ้นจับอกอาการแบบเจ็บหน้าอกแปลกๆนี่มาจากไหนกัน เพื่อนกันต้องนั่งตัวติดกันขนาดนั้นเลยเหรอไง ฮยอกแจได้ยินเสียงคุยมาจากด้านบนก่อนจะเงยหน้ามอง โซยายังคงกอดแขนซีวอนแน่นพร้อมกับคำพูดของซีวอนที่ได้ยินเหมือนว่า โซยาอยากไปดูเราเก็บผลส้มด้วย ฮยอกแจมองลงไปยังรองเท้าส้นสูงแหลมปริ๊ดที่ดูไม่น่าจะเดินตามสวนตามไร่ได้เลยสักนิด
     
    ตลอดทางฮยอกแจได้แต่เดินตัดผลส้มฉับๆมองสองคนข้างหน้าที่กอดแขนชี้นู่นชี้นี่ตลอดทาง ปกติฮยอกแจเป็นคนที่ใจเย็นกับทุกสถานการณ์ได้ดีแต่ครั้งนี้กลับควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีเท่าไหร่ ซีวอนหันกลับมามองฮยอกแจที่หน้าบึ้งตั้งหน้าตั้งตาตัดผลส้ม
     
    “ อารมณ์ไม่ดีเหรอไงวันนี้ ยังไม่ยิ้มเลยนะ ” ฮยอกแจเหลือบตามองร่างสูงก่อนจะหันกลับไปตัดผมส้มตามเดิมซีวอนขมวดคิ้วก่อนจะคว้าแขนร่างบางไว้
     
    “ ผู้ใหญ่พูดด้วยควรตอบนะ ฮยอกแจ”
     
    “ อารมณ์ดีมาก สบายใจสุดๆ เชิญคุณเดินฮันนีมูนกันต่อเถอะ ”
     
    ฮยอกแจไม่ได้ตั้งใจจะประชดประชันแต่เพราะอารมณ์อะไรที่ฮยอกแจก็ไม่เข้าใจมากนัก แต่คำตอบของฮยอกแจทำให้ซีวอนหัวเราะก่อนจะแกล้งเดินเฉียดไปใกล้ๆร่างบาง
     
    “ พูดจาเหมือนหึงแฟนเลยนะ ”
     
    “ คุณ !!! ”
     
    ยิ่งท่าทางฮึดฮัดออกอาการแบบนี้ยิ่งทำให้ซีวอนมั่นใจเขาอายุตั้งเท่าไหร่แล้วทำไมถึงจะมองไม่ออกว่าอีฮยอกแจรู้สึกยังไงกับเขาแต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร คนงานก็เดินมาตามเนื่องจากมีโทรศัพท์จากลูกค้าที่โทรมาสั่งส้มเพิ่ม ฮยอกแจได้แต่ทำเป็นไม่สนใจเอาแต่ตัดผลส้มตรงหน้า
     
    “ เรียกร้องความสนใจได้ดีนะ ”
     
    ฮยอกแจหันควับไปทางหญิงสาวที่ถือร่มอันใหญ่บังแดดไว้แต่มือบางกลับหยิบผลส้มที่ฮยอกแจตัดไว้เสร็จเรียบร้อยแล้วขึ้นมามองร่างบางถอนหายใจ คนตรงหน้ายิ่งกว่านางร้ายในละครซะอีก ตีสองหน้าได้เก่งจริงๆเมื้อกี้ยังทำท่าเอ็นดูเขาอยู่เลย ฮยอกแจได้แต่หันหน้าหนี ไม่อยากจะคุยด้วยหรอกนะ เดี๋ยวก็เป็นเรื่องขึ้นมา
     
    “ ฉันพูดกับนายอยู่นะ นี่! ฟังสิ!” ไม่พูดปล่าวมือบางที่ถือส้มยังเขวี้ยงใส่ฮยอกแจด้วยร่างบางมองที่ตัดผลส้มลงกับพื้นก่อนจะเก็บผลส้มขึ้นมา
     
    “ นี่คุณไม่เห็นจะต้องทำลายข้าวของเลย รู้ไหมว่าส้มนี่มันมีราคาเท่าไหร่ เอามาเขวี้ยงเล่นได้ยังไง !! ” ดูเหมือนยิ่งพูดก็ยิ่งไม่หยุดโซยาหยิบส้มในตะกร้าปาใส่ฮยอกแจไม่ยั้ง ปากก็ด่าปาวๆว่าฮยอกแจจะจับพ่อเลี้ยงซีวอนเป็นแค่คนงานไม่รู้จักเจียมตัว ฮยอกแจพยายามยิ้อแย่งตะกร้าผลส้มเพื่อไม่ให้หญิงสาวหยิบมันมาปาได้อีก แต่ไม่ว่าจะแย่งยังไงมือของโซยาก็ไม่ยอมปล่อยจนฮยอกแจตัดสินใจผลักร่างของผู้หญิงตรงหน้าเบาๆเพื่อให้ปล่ยออกจากตะกร้าแต่เนื่องจากรองเท้าส้นสูงที่เจ้าตัวทำให้โซยาเสียหลักล้มลงกับพิ้นจนเป็นรอยถลอก


     
    “ ฮยอกแจ !!! ทำอะไร ! ”



     
    เสียงตวาดที่ดังขึ้นทำให้ทุกคนหยุดการกระทำทั้งหมด ร่างบางของฮยอกแจยืนนิ่งมองซีวอนที่เข้าไปประคองร่างของโซยาให้ลุกขึ้น สายตาของฮยอกแจมองทุกการกระทำนั้นน้ำตาที่ไม่รู้อยู่ๆก็ทำท่าจะไหลลงมาซะดื้อๆ แต่เจ้าตัวก็พยายามกลั้นไว้ ฮยอกแจได้ยินโซยาพูดว่าเขาต่างๆนานาหาว่า เขาปาผลส้มใส่หล่อน รวมทั้งตั้งใจทำร้ายเจ้าหล่อนอีก ฮยอกแจยังคงยืนนิ่งจนซีวอนเดินเข้ามาใกล้ๆ
     
    “ ว่ายังไง ”
     
    “ ไม่ผิด ไม่ขอโทษ ”
     
    “ อีฮยอกแจ ! ”
     
    “ ฉันเห็นกับตาว่านายผลักเขานะ ”
     
    “ แล้วไง ..”
     
    เหมือนซีวอนจะหมดความอดทนร่างสูงพยายามจะทำให้ใจเย็น แต่ฮยอกแจเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจถ้าเขาไม่ดัดนิสัยก็คงจะเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆเพราะแรงโมโหและทิฐิทำให้ซีวอนตัดสินใจบางอย่าง ซีวอนมองผลส้มที่เกลื่อนกลาดบนพื้นก่อนจะเงยหน้ามองฮยอกแจ
     
    “ นายไม่ขอโทษก็ได้ แต่นายต้องรับผิดชอบส้มในไร่ของฉัน เก็บผลส้มทั้งหมดในส่วนนี้คนเดียวก่อน 4 ทุ่มจะต้องเสร็จทุกอย่าง หลังจากนั้น …. นายไม่ต้องมาที่นี่อีกฉันไล่นายออก ”
     
    ถ้อยคำทุกคำฮยอกแจได้ยินชัดเจนสายตาเรียวเล็กมองซีวอนอย่างผิดหวัง ร่างบางหันหลังก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาให้เห็น ฮยอกแจยกมือเช็ดน้ำตาที่มันไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างบางหายใจเข้าก่อนจะเอ่ยถ้อยคำสั้นๆ
     
     
    “ ตกลง.. ”
     
     
    ………….
    ……………………………..



     
     
    ราวๆเกือบ 4 ทุ่มซีวอนได้แต่เดินไปเดินมาบนระเบียงบ้าน สายตาเอาแต่ชะเง้อไปทางไร่ส้มที่ยังคงเปิดไฟเพราะว่าฮยอกแจยังคงตัดผลส้ม แม้แต่คนรับใช้อย่างจุนกิอย่างกดที่จะห่วงฮยอกแจไม่ได้ ผลส้มมากมายขนาดนั้นฮยอกแจจะตัดคนเดียวหมดได้ยังไง ร่างสูงนั่งลงพร้อมกับนั่งคิดอะไรบางอย่าง หลังจากไปส่งโซยาที่โรงพยายาบาล เจ้าตัวก็ไปเปิดห้องโรงแรม 5 ดาวในเมืองเพราะว่า แผลจะอักเสบถ้าจะต้องมาเดินในไร่ส้ม ซีวอนเองก็ไม่ขัดข้องอะไรดีซะอีก ชีวิตเขาดูจะสงบขึ้นเยอะ ตั้งแต่กลับมาหลายชั่วโมงแล้ว คนงานก็เอาแต่รายงายว่า อีฮยอกแจยังคงตัดผลส้มไม่ยอมหยุด ข้าวปลาก็ไม่กิน เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาตัดอย่างเดียว ซีวอนไม่รู้ว่าเขาทำเกินไปรึเปล่า แต่จะให้เขาถอนคำพูดก็ดูเป็นผู้ใหญ่ที่ดูแย่ไปหน่อย
     
    “ คุณซีวอนครับ 4 ทุ่มแล้วนะครับ ”
     
    เสียงคนรับใช้ดังขึ้นทำให้ซีวอนลุกขึ้นสองขาตั้งใจจะวิ่งลงบันไดแต่ก็ต้องหยุดนิ่งเมื่อร่างของฮยอกแจเดินสวนบันไดขึ้นมา ท่าทางอ่อนแรงทำให้ซีวอนตกใจ ใบหน้าซีดราวกับกระดาษ มือบางเป็นรอยแดงจนน่ากลัว ซีวอนมองคนงานที่ยกตะกร้าส้มขึ้นมาวางไว้บนบ้าน
     
    ฮยอกแจทำได้จริงๆ
     
    ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อทำให้ซีวอนคิดจะเอื้อมมือไปเช็ดให้แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาจากแววตาที่อ่อนล้า
     
    “ คุณใจร้ายที่สุด ..”
     
    ประโยคสุดท้ายที่เบาจนแทบไม่ได้ยินก่อนที่ร่างบางจะล้มฟุบลงไปแต่ซีวอนก็สามารถรับร่างบางไว้ทัน ใบหน้าหวานที่ซีดซบลงอยู่ตรงอกแกร่ง ซีวอนช้อนตัวฮยอกแจไว้ในอ้อมแขนก่อนจะตะโกนให้คนในบ้านตามหมอ
     
     
     
    “ ฮยอกแจ ! อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ ฮยอกแจตื่นขึ้นมาฟังฉันก่อน ..”
     
     
    …………..
    ………………………..
    …………………………………………………
     
     
    “ แค่อ่อนเพลียน่ะครับ พักซักหน่อยก็คงดีขึ้น แล้วก็หมั่นทายาที่มือด้วยนะครับ แผลถลอกๆจะได้หาย ” หมอจัดยาไว้ให้ก่อนจะขอตัวกลัวซีวอนขอบคุณหมอพร้อมกับขอโทษที่ต้องทำให้ตามตัวตอนดึกๆ ซีวอนนั่งมองฮยอกแจที่หลับสนิทมือแกร่งไล้ไปตามใบหน้าใส ตัวฮยอกแจเย็นเหมือนน้ำจนซีวอนสัมผัสได้ ชุดนอนสีขาวของซีวอนที่แม่บ้านเปลี่ยนให้ฮยอกแจทำให้ตัวฮยอกแจดูตัวเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
     
    “ เอ่อ.. คุณซีวอนครับ คนของไร่บ้านไร่ปลายฝันมาครับ ”
     
    “ หืม ? ”
     
    “ เขาบอกว่า เขาจะมาสอบถามเรื่อง คุณอีฮยอกแจ ลูกชายคนเล็กของไร่บ้านไร่ปลายฝันน่ะครับ ”
     
     
    ซีวอนนิ่งไปเมื่อจบประโยคร่างสูงหันกลับมามองร่างบางที่นอนนิ่งเป็นตุ๊กตาก่อนจะเข้าใจเรื่องทั้งหมด ร่างสูงบอกให้ไปตามคนของไร่บ้านไร่ปลายฝันขึ้นมาข้างบนได้เลย ทันทีที่เสียงประตูปิดลง ร่างสูงก็ก้มลงท้าวศอกลงกับที่นอนระหว่างตัวของฮยอกแจ มองใบหน้าขาวใสที่อยู่ใกล้ๆ
     
     
     
    “ หลอกฉันซะเปื่อยเลยนะ คุณหนูอีฮยอกแจ ..”
     
     
     
    ทันทีที่ประตูเปิดออกซีวอนก็ลุกขึ้นพร้อมกับเอ่ยทักทายเจ้าของไร่ทั้งสามคน ดูเหมือนจะมากันครับทั้งพี่ชายทั้งสาม ขาก็แต่คุณพ่อ คังอินที่ดูเหมือนจะเป็นพี่ชายคนโตสอบถามความเป็นมาเพราะเห็นว่าดึกแล้วแต่ฮยอกแจก็ยังคงไม่กลับบ้าน พี่ชายคนรองอย่างคยูฮยอนเดินไปหาฮยอกแจที่นอนอยู่บนเตียงแต่ดูท่าทางจะปลุกไม่ตื่น เลยตัดสินใจอุ้มขึ้นมา 
     
    “ เขาไม่ค่อยสบาย เลยให้เขาพักผ่อน”
     
    “ ผมบอกแล้ว ว่ามันเล่นซนจนเกิดเรื่อง ”
     
    “ เอาน่า คิบอมโทรไปบอกพ่อด้วย ว่าเจอเจ้าตัวยุ่งแล้ว ”
     
    คยูฮยอนอุ้มฮยอกแจมาที่หน้าประตูคังอินตั้งใจจะเอ่ยขอบคุณซีวอนอีกครั้งแต่สายตาที่ซีวอนมองฮยอกแจ ทำให้คังอินรู้สึกถึงความรู้สึกบางอย่าง ร่างสูงยิ้มอย่างคนที่เป็นพี่ใหญ่ ก่อนจะแกล้งกะแอมจนซีวอนรู้สึกตัว และดูเหมือนฮยอกแจจะรู้สึกตัวตามไปด้วย ร่างบางค่อยๆลืมตาก่อนจะเห็นหน้าตาของพี่ชายทั้งสามคนชัดเจน ร่างบางเลยยิ้มตาหยี
     
    “ ละเมอรึไงเรา ยิ้มยังกะคนบ้า ” คยูฮยอนมองน้องชายคนเล็กอย่างขำๆ คิบอมเองก็หัวเราะตามไปด้วย มือแกร่งยกขึ้นมาขยี้หัวฮยอกแจอย่างที่ชอบทำ
     
    “ กลับบ้านกัน พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นกับคุณซีวอนใหม่  ” รอยยิ้มค่อยๆเลือนหายไปฮยอกแจกอดคอคยูฮยอนแน่นขึ้นพร้อมกับพูดบางอย่างที่ทุกคนในห้องได้ยินชัดเจน
     
     
    “ ไม่มาแล้ว     จะไม่มาที่นี่อีกแล้ว ..”



     
     
    …………….
    ………………………………
     



    “ พี่ ! ไอ้ตัวยุ่งอายุเท่าไหร่เอง จะมีแฟนก่อนผมไม่ได้นะ ” คิบอมกอดอกอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นอาการของน้องชายคนเล็กที่เอาแต่นั่งเหม่ออย่างกับคนอกหักตั้งแต่วันนั้นวันที่ก้าวออกมาจากไร่ของซีวอน ฮยอกแจก็กอดคอคยูฮยอนร้องไห้ไม่หยุด มันนานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นฮยอกแจร้องไห้หนักขนาดนี้ ขนาดคิบอมยังตกใจได้แต่ลูบหลังปลอบเบาๆ คยูฮยอนที่ปลอบคนไม่เป็นได้แต่นิ่งๆให้น้องร้องไห้จนเสื้อเปียกชุ่ม เหลือแต่คังอินที่ต้องอธิบายให้คนเป็นพ่อเข้าใจเรื่องต่างๆนานา
     
    “ นายมีแฟนเยอะจนนับไม่ถ้วนต่างหาก คิบอม” คยูฮยอนตอบกลับก่อนจะมองฮยอกแจที่นั่งคนกาแฟในแก้วไปมา
     
    “ ไอ้พ่อเลี้ยงอะไรนั่น ก็หายไปเงียบๆอย่างนี้นะ ”
     
    “ ก็นายไปขู่เขาไว้ไม่ใช่เหรอไง คยูฮยอนว่าอย่ามายุ่งกับฮยอกแจ เอาปืนไปจ่อหัวกระบาลเขาอย่างนั้น ใครจะกล้าวะ โรคหวงน้องมันดันกำเริบขึ้นมา”
     
    ฮยอกแจส่ายหัวกับเสียงทะเลาะกับพี่ๆก่อนจะเดินออกมานอกบ้าน ผ่านมาอาทิตย์หนึ่งแล้วหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ธารน้ำท้ายไร่เขาก็ไม่ได้ไปเหยียบที่นั่นอีก หลายเหตุผลที่ไม่กล้าไป ใช่ว่าซีวอนจะใส่ใจสักหน่อย ป่านนี้ก็คงจะไปมีความสุขกับยัยโซยาอะไรนั่น ฮยอกแจได้แต่ถอนหายใจ ก็ไม่เห็นต้องแคร์อะไรเลย 
     
    ร่างบางค่อยๆเดินไปยังธารน้ำท้ายไร่ วันนี้ดูเหมือนน้ำจะลด เลยเห็นโขดหินที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา ฮยอกแจยืนมองสายน้ำที่ไหลเลยไปก่อนจะเงยหน้ามองไปยังไร่ฝั่งนู้นที่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีคนงานเพิ่มเรื่อยๆ ร่างบางตั้งใจจะหันหลังกลับกลัวว่าตัวเองจะอดใจไม่ไหวเดินเข้าไปทางไร่ฝั่งนู้น แต่น้ำที่กระเด็นใส่เสื้อด้านหลังทำให้ฮยอกแจต้องหยุดเดิน
     
    “ อยู่ว่างๆมาช่วยงานไร่นี้หน่อยสิ ”  
     
    เสียงที่คุ้นเคยที่ดังขึ้นทำให้ฮยอกแจค่อยๆหันไปมอง ร่างสูงของซีวอนยังคงมาดคุณชายเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน ท่าทางอวดดีกอดอกก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
     
    ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ …
     
    ฮยอกแจยังคงยืนนิ่งไม่รู้ว่าจะตอบอะไรออกไปแต่ยังไม่ทันจะก้าวไปไหนซีวอนกลับเป็นฝ่ายข้ามมาหาร่างบางเอง ซีวอนเดินเข้ามาใกล้ฮยอกแจก็ทำท่าจะเดินหนีแต่มือแกร่งเร็วกว่าคว้าตัวร่างบางไว้ทัน สองมือแกร่งกอดที่เอวบางแน่นจนตัวแทบจะติดกัน
     
    “ เอ๊ะ ! นี่คุณนี่มันเขตไร่ฉันนะ ปล่อย ไม่งั้นฉันตะโกนเรียกพี่ !!  ”  ถึงจะเป็นคำพูดที่ฟังคล้ายขู่ฟ่อแต่ซีวอนกลับยิ้มอย่างเป็นสุขและดูเหมือนจะกอดฮยอกแจแน่นขึ้นไปอีก
     
    “ ลืมไป ว่าตอนนี้เป็นคุณหนูอีฮยอกแจ ไม่ใช่คนงานในไร่ ” ฮยอกแจหลบตาซีวอนเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ จริงๆแล้วเขาก็ผิดที่ไม่ได้บอกความจริงซีวอนว่าจริงๆแล้วเขาเป็นใคร
     
    “ ไม่ได้ตั้งใจจะหลอก ก็แค่ ..แค่ .. ”
     
    “ ก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆ ฉัน …”
     
    ซีวอนต่อเองให้เสร็จสรรพ และดูเหมือนคำตอบจะถูกเผ๋งแก้มใสของลูกชายคนเล็กของบ้านไร่ปลายฝันแดงอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะเฉไฉไปเรื่องอื่น แต่ซีวอนก็รู้ทันอยู่ดี
     
    “ ฉันโกรธคุณอยู่นะ คุณไล่ฉันออกจากไร่คุณแล้วนิ ปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ หายใจไม่ออกแล้วด้วย ! ” สองมือดันอกแกร่งให้ออกไปแต่ซีวอนก็ไม่ยอมปล่อย
     
    “ ก็ตอนนี้ก็เสี่ยงตายมาหาที่นี่แล้วไง รู้ไหมฉันอาจจะโดนพี่ชายนายยิงกระบาลเมื่อไหร่ก็ได้ ไหนๆก็ข้ามมาแล้วตายเป็นตาย ! อีฮยอกแจนายผิดที่หลอกฉันนะ ”
     
    “ ก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ เอ๊ะ ..”
     
    “ เพราะฉะนั้น นายจะต้องเก็บส้มให้ได้ทั้งหมด ก่อน 4 ทุ่ม ”
     
    “ เรื่องอะไรที่จะต้องทำ ”
     
    “ ถ้านายทำสำเร็จ ..”
     
    “ บอกว่าไม่ทำ ! ”
     
     
     
     
     
     

     
     
    “ เป็นแฟนกันนะ ”
     






     
     
    ฮยอกแจนิ่งไปก่อนจะยิ้มออกมามือบางตีแขนร่างสูงไปหลายทีแก้เขิน ฮยอกแจอยากจะบ้าตายจริงๆขนาดขอเป็นแฟนคำพูดแข็งยังกะก้อนหินภูผา ไม่เห็นจะโรแมนติคสักนิดซีวอนมองคนตรงหน้าที่แก้มแดงแล้วอยากจะกอดแน่นๆสักทีสองที
     
    “ เริ่มได้ยังล่ะ ” ฮยอกแจเอ่ยถามซีวอนยักไหล่ก่อนจะปล่อยร่างบางออกจากอ้อมกอดแต่เปลี่ยนมาจับมือบางไว้แน่นก่อนจะเดินข้ามกลับไปยังไร่สวนส้ม
     




     
    ธารธารา สดชื่นดั้งสายน้ำ
    ภูผา มั่นคงอย่างภูเขา 
    เคียงคู่กันไปนิรันทร์





     
    ……………
    ……………………………………………
     
     
     










    TO BE CON  ดวงใจอัคนี ^____^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×