ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic JackFrost x Elsa] Warming winter

    ลำดับตอนที่ #1 : First hour : Someone like "You"

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.23K
      208
      27 ธ.ค. 56

                    ในอาณาจักรเอเรนเดล อาณาจักรที่อบอุ่นสดใสยิ่งกว่าอาณาจักรใด ๆ แม้จะเคยถูกแช่แข็งเอาไว้แต่ความอบอุ่นก็ทำให้เหล่าผู้มาเยือนจับไม่ได้เลยว่าเคยถูกแช่แข็งมาก่อน ราชินีเอลซ่าหรือราชินีหิมะปกครองอาณาจักรนี้มาจนเกือบครบ1ปีแล้วนับตั้งแต่นางควบคุมพลังเวทย์น้ำแข็งของตัวเองได้ และวันนี้คือวันพิเศษของนางในฐานะราชินีหิมะ วันคริสมาสอีฟ

                    วันสำคัญอีกวันสินะ...ราชินีหิมะเหม่อมองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ รูปหน้าที่คล้ายคลึงกับพระมารดาจะเรียกว่าถอดแบบออกมาก็ยังได้เว้นเพียงสีผม ไม่ใช่ว่านางไม่มีความสุขหรืออะไรเพียงแค่ไม่ชินกับการอยู่กับผู้คนเยอะ ๆ ซักที

                    เอลซ่าซ่อนตัวเองอยู่ในห้องคนเดียวตั้งแต่เด็กเพราะ กลัว พลังของนางจะไปทำร้ายใครเข้า นางเคยเกือบฆ่าอันนาน้องสาวแท้ ๆ ของตนเองในวันที่ออกไปเล่นหิมะกันนอกปราสาท และซ่อนตัวเองอีกครั้งในปราสาทหลังงามที่ตนเองสร้างขึ้นหลังจากหลบหนีออกจากปราสาทและผู้คนต่างตราหน้านางว่าเป็นปีศาจ

                     

                    แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว...

     

                    ตอนนี้นางคือราชินีผู้ปกครองอาณาจักรเอเรนเดล เป็นที่รักของประชาชนโดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่มักขอให้นางสร้างหิมะเล่นในฤดูร้อนเสมอ แม้จะมีผู้คนรายล้อมมากมายนางก็ยังคงชอบวิถีเดิม ๆ ใช้ชีวิตสงบเงียบในวังกับน้องสาวอยู่ดี

                    พี่คะ ไม่ลงไปข้างล่างหน่อยหรือคะ? กลางเมืองมีต้นคริสต์มาสต้นเบ่อเริ่มเลยนะคะอันนาน้องสาวแท้ ๆ ของเอลซ่าเปิดประตูพรวดเข้ามาในห้อง นางละใบหน้าออกจากกระจกผินไปมองน้องสาวร่วมสายเลือดที่รักนางยิ่งกว่าใคร

    เดี๋ยวไปจ้ะ เธอไปรอพี่ก่อนก็ได้นะเดี๋ยวพี่ตามไปมือเย็นเผลอตัวหยิบฉวยเอาถุงมือมาสวมประหนึ่งลืมว่าตนเองสามารถควบคุมพลังได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ผู้เป็นน้องเห็นดังนั้นจึงก้าวฉับมาดึงถุงมือออกจากมือทันทีพร้อมกล่าวตักเตือน

    “พี่คะ พี่ควบคุมพลังได้แล้วไม่ใช่หรือคะ? ถ้าเกิดว่าพี่กลัวมันอีกพี่จะพาลควบคุมพลังไม่ได้เอานะ”สิ้นคำตักเตือนของน้องสาวนางก็นึกถึงวันเก่า ๆ ที่นางเคยพลั้งเผลอสร้างหนามน้ำแข็งขนาดใหญ่และทำให้น้ำพุกลางเมืองกลายเป็นน้ำแข็งจนถูกตราหน้าว่าเป็นปิศาจจนทำให้ต้องหนีไปสร้างปราสาทอยู่คนเดียว

    เกือบ1ปีที่ผ่านมาไม่เคยทำให้เอลซ่าลืมช่วงเวลาอันเลวร้ายทั้งหลายได้เลย ทั้งเรื่องที่นางทำให้ทั้งเมืองกลายเป็นน้ำแข็งโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วไหนจะเผลอตัวเกือบฆ่าน้องสาวของตัวเองเป็นครั้งที่2อีก ถ้าไม่มีน้องสาวที่เป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวที่เหลือยู่เพียงคนเดียวเธอคงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้

    อันนาวางถุงมือสีฟ้าน้ำทะเลลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง เอลซ่ามีท่าทีอาลัยอยู่ซักครู่แต่ก็ไม่ได้ดูมากมายอะไร อันนาฉีกยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มแสนมีค่าที่เป็นพลังใจให้เธออยู่ร่วมกับผู้คนได้

    “พี่ขอโทษนะอันนา พี่ยังลืมมันไม่ได้”

    “หนูก็ไม่ได้บอกให้พี่ลืมนี่คะ หนูบอกให้พี่อยู่กับหนูอยู่กับทุกคน ตราบใดที่พี่ยังมีหนูอยู่พี่ไม่เป็นอะไรแน่นอนค่ะ”อันนาเป็นเด็กสาวที่อยู่ในวัยสดใส อยู่ในวัยที่ยังไร้เดียงสา แต่เธอก็ได้เรียนรู้ถึงรักแท้จากผู้เป็นพี่สาวมาแล้ว

    “ขอบคุณนะอันนา เมื่อกี้เธอว่าจะไปดูต้นคริสต์มาสกลางเมืองไม่ใช่หรือ? ไปกันเถอะพี่ก็อยากเห็นเหมือนกันว่าต้นจะใหญ่แค่ไหน”สองพี่น้องจูงมือกันออกนอกปราสาท ทิ้งถุงมือเอาไว้บนโต๊ะและมันคงไม่ถูกหยิบขึ้นมาใส่อีกเลย

     

    “ปีนี้ต้นใหญ่กว่าปีที่แล้วอีกนะเนี่ย ทุกคนเก่งจริง ๆ ทำเสร็จกันก่อนที่หิมะจะตกเสียอีก”ราชินีหิมะชื่นชมชาวเมืองเอเรนเดลด้วยรอยยิ้ม เบื้องหน้าคือต้นสนคริสต์มาสสูงตระง่านจนเกือบมองไม้เห็นยอด รอบ ๆ ประดับประดาด้วยคริสตัลแก้ว โบว์ริบบิ้นสีสันสดใส และดวงดาวสุกสกาวบนยอดสุด

    “สวยจังเลยค่ะพี่ ถ้าหิมะตกล่ะก็ต้องสวยกว่านี้แน่ ๆ”น้องสาวผู้ร่าเริงตลอดเวลาร้องขึ้นอย่างตื่นเต้น อันนาแทบจะรอเวลาหิมะตกไม่ไหวเธอนึกภาพต้นสนคริสต์มาสที่ถูกตกแต่งสวยงามปกคลุมด้วยหิมะสีขาวสะอาดเป็นหย่อม ๆ คงจะสวยน่าดู

    “แต่แจ็คฟรอสคงจะไม่ใจร้ายในหิมะตกตอนนี้หรอกนะ ตกตอนเช้า ๆ มันไม่สนุกนักหรอกจริงมั้ยคะพี่?”เอลซ่ามองหน้าน้องสาวอย่างฉงน ใครกันคือแจ็คฟรอส? เจ้าชายอาณาจักรอื่นที่น้องสาวเธอไปติดพันธ์หรือไร?

    แม้จะสงสัยเพียงไรเอลซ่าก็เลือกทีจะไม่ถามต่อ ดวงตาสีฟ้ากลับไปจดจ่อที่ต้นคริสต์มาสเหมือนเดิม ยิ่งมองยิ่งทึ่งในความสวยงามที่ประชาชนของเธอรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองวันสำคัญวันหนึ่งของอาณาจักรและของเธอด้วยเช่นกัน เพราะเธอคือราชินีหิมะผู้เป็นที่รักของทุกคน

    สองพี่น้องไม่ได้ออกนอกวังมาเพื่อดูต้นคริสมาสเท่านั้น ทั้งคู่เดินไปตามถนนแคบ ๆ ผ่านบ้านเรือนมากมาย และแล้วเอลซ่าก็สะดุดเข้าให้กับ...

     

    หิมะที่ค่อย ๆ บรรจงวาดเป็นรูปซานต้าคลอสบนหน้าต่างใส...

     

    แม้อันนาจะไม่เห็นแต่เอลซ่าเห็น แต่เธอไม่สามารถหยุดดูได้เพราะอันนากำลังลากเธออยู่อย่างไม่คิดจะหยุด เธออาจจะหลอนไปเองหรือไม่พลังของเธอก็แผลงฤทธิ์โดยที่เธอไม่รู้ตัวเสียแล้ว

    อันนาหยุดวิ่งต่อ ตรงหน้าของทั้งคู่คือชิงช้าตัวเล็กสำหรับเด็ก ที่นี่คือที่เดียวกับที่พวกเธอเคยมาเล่นด้วยกันตอนเด็ก ๆ แม้เวลาจะเปลี่ยนไปแต่สถานที่ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทั้งคู่ก็เช่นกัน

    “ไม่ได้มาที่นี่กับเธอกี่ปีแล้วนะ...”เอลซ่ารำพึงรำพัน อันนาลอบมองพี่สาวยิ้ม ๆ

    “มาทำสงครามกันหน่อยมั้ยคะพี่?”น้องสาวตัวดีเริ่มปั้นหิมะให้เป็นก้อน เตรียมง้างมือพร้อมขว้างปาอาวุธหิมะในมือเต็มที่

    “โห... เธอคิดว่าจะสู้พี่ได้หรืออันนา?”สำหรับเอลซ่าเธอไม่ต้องออกแรงปั้นให้เสียเวลา แค่คิดลูกบอลหิมะกลม ๆ ก็มาอยู่ในมือเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    “พี่ขี้โกง แน่จริงอย่าใช้เวทย์มนตร์สิคะ!!”อันนาเริ่มวิ่งหนีลูกบอลในมือพี่สาว ให้มาทำสงครามหิมะกับราชินีหิมะแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครจะชนะ

     

     แน่นอนว่าคนธรรมดาหรือจะไปชนะได้

     

    สองพี่น้องสนุกสนานกับการขว้างปาลูกบอลหิมะ ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ลูกบอลมากมายถูกโยนจนแทบไม่อยากจะนับว่าโยนกันไปแล้วคนละกี่ลูก แต่อันนาท่าทางเริ่มเหนื่อยเพราะออกแรงปั้นบอลด้วยตัวเอง ไม่ได้ใช้เวทย์มนตร์เหมือนพี่สาว

    ผวั๊ะ!!

    บอลหิมะลูกโตอัดเข้าเต็มหน้าเอลซ่า หน้าของราชินีหิมะเริ่มชาและแดงขึ้นมาทีละนิด ใครจะไปรู้ว่าน้องตัวเองจะปาแรง ปาแม่นขนาดนี้

    “อันนา เมื่อกี้เธอปาแรงไปนะ ไม่รู้พี่เผลอกินหิมะเข้าไปด้วยหรือเปล่าเนี่ย”

    “หนูเปล่านะ เมื่อกี้หนูพักมืออยู่ยังไม่ได้ปั้นได้ปาอะไรเลย”อันนาปฏิเสธ สายตาของราชินีแห่งเอเรนเดลเริ่มสอดส่องหาบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญในสงครามครั้งนี้

    “โอลาฟ นายใช่มั้ย?”ไม่มีแม้เสียงตอบรับ นี่ไม่ใช่ฝีมือตุ๊กตาหิมะตัวป่วนแน่นอน และคงไม่ใช่ฝีมือสเฟนด้วยแน่นอนเพราะสเฟนคือกวางเรนเดียร์ และเรนเดียร์ปั้นหิมะไม่ได้แน่ ๆ

    “หนูว่าชักไม่ดีแล้วล่ะค่ะพี่ กลับวังกันเถอะค่ะ”เอลซ่าไม่มีโอกาสได้พูดอะไรอีกเลย อันนาออกแรงพาพี่สาวกลับวังทิ้งให้ความสงสัยเข้าเกาะกุมหัวใจพี่สาวผู้มีศักดิ์เป็นถึงราชินีหิมะ จะว่าพลังของนางก่อเรื่องโดยที่นางไม่รู้ตัวก็ไม่น่าจะใช่ แล้วจะเป็นใครกันล่ะ...

     

     แจ็คฟรอส...

     

    ฝีมือคุณใช่มั้ย...

     

    เอลซ่าลองนึกถึงบุคคลปริศนาที่มีตัวตนอยู่บนโลกหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่จากที่ได้ยินอันนาพูดแม้เพียงประโยคเดียว เธอคิดว่าแจ็คฟรอสคงจะเป็นเจ้าแห่งหิมะอะไรเทือก ๆ นั้น และถ้าเป็นจริงถ้าเธอมีความศรัทธาเธอก็จะมองเห็นเขาเหมือนกระต่ายอีสเตอร์ มนุษย์ทราย นางฟ้าฟัน และซานต้าคลอส

     

    คุณมีตัวตนจริง ๆ ใช่มั้ย...

     

    ในปราสาทอันกว้างใหญ่ นี่เป็นเวลามื้อเช้าแบบสาย ๆ อาหารถูกตั้งวางไว้เต็มโต๊ะรอคนมากิน เจ้าของปราสาทนั้นก็เพิ่งจะกลับมาเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ทั้งสองหอบหายใจเหนื่อยเพราะต้องวิ่งเป็นระยะทางยาวนาน ต้องวิ่งหนีสิ่งที่เรียกว่าเจ้าป่าเจ้าเขา

    “เฮ้อ... เหนื่อยจังเลยค่ะ ฮ่ะ ๆ ๆ ดูผมพี่สิหลุดลุ่ยหมดแล้ว”อันนาชี้ผมสีบลอนด์ซีดของพี่สาวที่หลุดลุ่ยไม่เป็นทรง ยางรัดผมอาจจะขาดระหว่างวิ่งก็เป็นได้

    “พี่ไปมัดผมก่อนแล้วกันนะอันนา เธอกินมื้อเช้าไปก่อนเลยไม่ต้องรอพี่”

    “ไม่เอาค่ะ หนูจะรอกินพร้อมพี่ เดี๋ยวหนูมัดผมให้พี่น...”

    “ไม่ต้องหรอก พี่จะเข้าไปมัดเอง... ที่ห้อง... เอ่อ... เดี๋ยวพี่มานะ!!”เอลซ่ารีบวิ่งเข้าห้องทิ้งอันนาไว้ในห้องอาหารเพียงลำพัง ผู้เป็นน้องทรุดนั่งลงกับเก้าอี้ตัวใหญ่รอพี่สาวแท้ ๆ มัดผมเสร็จ น่าสงสัยว่าทำไมถึงไม่ยอมให้เธอมัดผมให้ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ถักเปียเป็น

     

    ประตูห้องของเอลซ่าปิดลง เธอจ้องมองมือของตัวเองคิดในใจว่าพลังในตัวเธอเกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีกหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ฝีมือเธอแล้วคงไม่แคล้วเป็นฝีมือแจ็คฟรอส เอลซ่าพยายามทำใจเชื่อเรื่องแจ็คฟรอสเพราะอยากพิสูจน์ในสิ่งที่มองไม่เห็น พยายามมาตั้งแต่ตอนวิ่งหนีออกจากป่าแล้วยังไม่เห็นใครที่น่าจะเป็นแจ็คฟรอสเลย

    ในที่สุดเธอก็เกือบจะถอดใจไปแล้วโดยการนั่งลงมัดผมตัวเองให้กลับเป็นทรงเดิม ชั่ววินาทีที่ก้มลงเปิดลิ้นชักหายางรัดผมเส้นใหม่ เงยหน้าขึ้นมาเธอก็พบกับ...

    “โย่ว”ผู้ชาย!? ผู้ชายอยู่ในห้องของเธอ!? จะว่าเป็นองค์รักษ์ก็ไม่ใช่ เพราะชายคนนี้ใส่เสื้อฮู้ดดูซอมซ่อ รองเท้าก็ไม่ใส่แถมยังมีไม้เท้าคล้องคอแกะอันใหญ่เท่าหน้าอีก บางทีอาจจะใหญ่กว่าหน้า

    “ค... คุณเป็นใคร... ม... ไม่สิไม่ใช่เวลาถาม... ออกไปซะก่อนที่ฉันจะเรียกทหาร!!”เอลซ่าแผดเสียงพร้อมหนามน้ำแข็งที่ผุดขึ้นมารอบกายเธอราวกับเป็นเกราะคุ้มกัน จากห้องเธอถึงห้องอาหารนับว่าไกลพอสมควร ก็นับว่าดีเพราะเธอไม่อยากให้อันนาเข้ามาตอนนี้เหมือนกัน

    “โว้ว ๆ ใจเย็น ๆ ข้าแค่ได้ยินเสียงเจ้าเรียกชื่อข้า ข้าก็เลยพัดมาตามสายลมก็แต่นั้นเอง”เอลซ่ามองชายหนุ่มในห้องอย่างงง ๆ เธอไปเรียกเขาตอนไหนกัน? ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย

    “ฉันไม่ได้เรียกคุณนะ ชื่อคุณฉันก็ไม่รู้จัก คุณมาขโมยอะไรในห้องฉันใช่ไหม?”

    “ใจเย็น ๆ หน่อยสิ ข้าคือแจ็คฟรอส เป็นเทพแห่งความหนาวเย็น... ล่ะมั้งนะ”เท่านั้นเองเอลซ่าก็เข้าใจเรื่องทั้งหมด แจ็คฟรอสมีอยู่จริง นั่นเท่ากับว่าคนที่ปาบอลหิมะใส่เธอเต็ม ๆ หน้านั้นไม่ใช่อันนาแต่เป็นเทพแห่งความหนาวเย็นแจ็คฟรอส

    “ฉันชื่อเอลซ่า แต่เดี๋ยวสิ... ทำไมต้องมีล่ะมั้ง?”

    “ก็ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าข้าเป็นเทพเหมือนคนอื่นหรือเปล่า ไม่มีใครมองเห็นข้า”แจ็คทำหน้าเศร้าจนเอลซ่าเริ่มรู้สึกสงสาร หนามแหลมรอบตัวเธอเริ่มลดลงและค่อย ๆ หายไป เธอตัดสินใจเดินเข้าไปหาเขา

    “อย่างน้อยฉันก็เห็นคุณนะแจ็ค”คำปลอบใจไม่ได้ช่วยอะไร เทพแห่งความหนาวเย็นเริ่มทำท่าจองหอง เขาเริ่มร่อนไปรอบห้องชนิดไม่กลัวข้าวของจะพังราวกับว่าความเศร้าเมื่อครู่เป็นเพียงละครตบตา

    “ช่างมันเถอะ ข้าอยู่แบบนี้มาหลายร้อยปีแล้ว อยู่แบบนี้ต่อไปอีกซักพันปีก็คงไม่เป็นอะไรหรอก”

    “หมายความว่ายังไง? คุณอยู่คนเดียวไม่มีใครมองเห็นคุณมาหลายร้อยปีอย่างนั้นหรือ”ราชินีหิมะเริ่มเปิดใจให้เทพแห่งความหนาวทีละนิด คงเป็นเพราะทั้งคู่เหมือนกัน ทั้งอยู่คนเดียว มีพลังน้ำแข็ง และไม่มีคู่ครอง...

     

    แต่เรื่องสุดท้ายน่ะช่างมันเถอะ

     

    “ฉันรู้สึกเหมือนฉันจะเข้าใจคุณนะแจ็ค คริสต์มาสปีนี้คุณอยู่เป็นเพื่อนฉันได้ไหม? ฉันอยากฟังเรื่องที่คุณไปเห็นมาจากรอบโลกเลย ดูแล้วคุณน่าจะถูกสายลมพัดพาไปหลายที่เลยทีเดียว”

    “ด้วยความยินดีคุณผู้หญิง ข้าเองก็ไม่ได้คุยกับใครมาหลายร้อยปีแล้วเหงาชะมัดเลย เจ้าเองก็ต้องเล่าเรื่องของเจ้าให้ข้าฟังบ้างนะ พลังน้ำแข็งของเจ้าน่ากลัวดี ข้าชอบ”คำว่าข้าชอบถูกบันทึกเอาไว้ในความทรงจำของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว เอาไว้เป็นเกียรติประวัติว่าครั้งหนึ่งเคยมีเทพมานิยมชมชอบ

    ไม่มีใครรู้ว่าวันดีคืนดีเจ้าแห่งความหนาวกับราชินีหิมะจะได้มาเจอกันจริง ๆ นี่ถ้าทั้งคู่ไม่ใช่คนดีป่านนี้โลกคงจะถูกแช่แข็งไปแล้วก็ได้ทั้งสองยิ้มให้กันแบบเขิน ๆ เอลซ่าเป็นคนพูดไม่เก่งเธอจึงไม่รู้จะชวนแจ็คคุยเรื่องอะไรดี

    “นี่ เจ้าน่ะมีพลังแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันน่ะ”ไม่รีรอให้ความเงียบเข้าปกคลุม แจ็คฟรอสเป็นผู้เริ่มสนทนาก่อน ถ้าทุกคนเห็นเขาคงไม่มีใครเชื่อแน่ว่าแจ็คฟรอสอยู่เพียงผู้เดียวไม่มีใครเห็นตัวเขามาแล้วกว่าร้อยปี

    “ตั้งแต่เกิดเลยล่ะ แต่ก็เพิ่งจะมาใช้คล่องเอาเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง”

    “รู้ไหม มนุษย์ผู้หญิงที่มีพลังน้ำแข็งน่ะจะถูกเรียกว่าราชินีหิมะ ข้าเน้นว่าเป็นมนุษย์นะ”แจ็คเอ่ยต่อเสียงสดใส ดู ๆ แล้วแจ็คน่าจะยังเป็นเด็กอยู่ อาจจะอายุประมาณอันนาก็ได้ สังเกตได้จากออร่าความสดใสที่เปล่งประกายทุกครั้งที่เขาเอื้อนเอ่ย

    “รู้สิ ใคร ๆ ก็เรียกฉันแบบนั้น...”

    “แต่ฉันไม่ชอบเลย ฉันอยากเกิดมาเป็นเจ้าหญิงเอลซ่า ไม่ใช่ราชินีหิมะเอลซ่า”เธอเริ่มเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังบ้าง เป็นเรื่องที่แม้แต่อันนาก็ไม่เคยได้ฟัง และไม่มีใครเคยได้ฟังมาก่อน เทพแห่งความหนาวเป็นคนแรกที่เอลซ่าเปิดใจเล่าความลับของตัวเองให้ฟัง

    “ทำไมล่ะ? ออกจะวิเศษแท้ ๆ ที่มีพลังตอนมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็มีคนเห็น... ไม่เหมือนข้า...”แจ็คเองก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาของตนเองเช่นกัน เขานึกอยากจะเป็นแจ็คฟรอสผู้มีพลังแห่งความหนาวเย็นตอนมีชีวิตอยู่มากกว่าตายแล้วมามีพลัง เพราะตอนนี้ทำไปก็ไม่มีใครเห็นตัวเขา

    “ฉันยังเล่าไม่จบแจ็ค ที่ฉันไม่อยากมีพลังนี่เพราะฉันควบคุมมันไม่ได้ ฉันเคยพลาดมือเกือบใช้พลังนี่ฆ่าน้องสาวของตัวเองมาแล้ว”เอลซ่าเริ่มทำการย้อนอดีตอันแสนเจ็บปวดให้แจ็คฟัง สีหน้าเศร้าสลดของหญิงสาวที่เพิ่งพบกันครั้งแรกพาลให้แจ็คอยากเข้าไปปลอบ

    “เดี๋ยว ๆ เรื่องนี้ข้าเข้าใจเจ้านะ ข้าก็มีน้องสาวเหมือนกัน ก่อนข้าจะตายข้าช่วยชีวิตน้องสาวของตัวเองเอาไว้ แต่ก็ต้องมาตายอยู่ใต้น้ำแข็ง อนาถชะมัด“

    “อย่างน้อยก็ดีที่คุณช่วยน้องสาวคุณไว้ได้นะ ข้านี่สิต้องให้น้องสาวช่วยตลอดเลย”

    “ข้าก็ใช่ว่าจะเป็นพี่ชายที่ดีอะไรนะ ตอนข้ามีชีวิตอยู่ข้าเอาแต่เล่นไปวัน ๆ งานการก็ทำนะแต่ไม่มากเท่าเล่น บ้านข้ายากจนมากพอตายแล้วรู้สึกว่าตัวเองทำหน้าที่พี่ชายบกพร่องไปมากเลย”

    “ฮิฮิ ฉันกับคุณนี่ก็เหมือนกันหลายอย่างดีนะ ฉันไม่เคยมีใครให้ระบายแบบนี้เลยล่ะ”เอลซ่าเริ่มหัวเราะคิกคัก แจ็คก็เช่นกันเพราะสิ่งที่ทั้งคู่มีนั้นช่างคล้ายกันจึงทำให้เข้ากันได้ดี การจะทำให้อีกฝ่ายเปิดใจจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก และนี่คือจุดเริ่มต้นของมิตรภาพหลังจากนี้...
     

    ******************************


    Free talk :
     
    ไม่ค่อยถนัดเขียนฟิคสำนวนแบบนี้เลยค่ะ เขียนไปได้นิดเดียวโดนจิตใต้สำนึกรังควาญจนกลับมาคอมเมดี้จนได้ ส่วนตัวยังไม่ได้ดู Frozen ค่ะ แต่ดูตัวอย่างไปหลายตอนเลยเกิดติดใจ เพื่อนก็สปอยกันจัง(ฮา)แล้วประจวบเหมาะที่เป็นแฟนเกิร์ลของแจ็คด้วย จะเหลือเหรอคะ 555
     
    ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ อาจจะไม่ค่อยได้อัพช่วงนี้ เรียนจนเวียนหัวไปหมดแล้วค่ะ@ @

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×