ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic JackFrost x Elsa] Warming winter

    ลำดับตอนที่ #19 : 18th Hour : Let's get up!!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.16K
      43
      25 ส.ค. 57

    แจ็คฟรอสต์นอนสลบไม่ได้สติมาซักพักหนึ่งแล้วก่อนที่พวกบันนี่จะมาเจอเขา เหล่าเทพผู้พิทักษ์ยืนล้อมรอบตัวเขากำลังปรึกษากันว่าจะเอาอย่างไรต่อดี เพราะถ้าพาแจ็คกลับไปตอนนี้ก็เท่ากับว่าปล่อยให้เอลซ่าซึมซับพลังด้านมืดของพิชไปมากขึ้นตามกาลเวลา

    “ทีนี้จะเอายังไง แยกทีมกันเลยดีมั้ยจะได้ไม่เสียเวลา”บันนี่พูดพลางอุ้มแจ็คขึ้นมาจากกองหิมะหนานุ่ม ชราสั่นหัวปฏิเสธก่อนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

    “เราทั้งหมดจะกลับไปที่เอเรนเดลล์...”

    “อะไรนะ!? แล้วเจ้าจะปล่อยให้เอลซ่าเข้าสู่ด้านมืดโดยสมบูรณ์เลยเหรอนอร์ท?”บันนี่ทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมทันทีที่ได้ยินคำตอบ ทั้งทูธและแซนดี้ตอนนี้สีหน้าก็ไม่ค่อยสู้ดีนักเพราะสถานการณ์ที่บีบคั้นหัวใจจนทำอะไรไม่ถูก

    “ข้าไม่ได้พูดแบบนั้น ข้าแค่คิดว่าเราควรจะกลับไปตั้งหลักก่อน เพราะถึงไปตอนนี้ก็มีแต่จะแพ้”

    “จริงของนอร์ทนะบันนี่ ตอนนี้มีแค่นายที่สภาพยังสมบูรณ์100% ส่วนพวกเราที่เหลือก็เหนื่อยจนจะหมดแรงกันอยู่แล้ว กลับไปพักเอาแรงซะหน่อยน่าจะเป็นทางเลิกที่ดีที่สุด”นางฟ้าฟันน้ำนมตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน บันนี่ก้มหน้ามองแจ็คที่อยู่ในอ้อมแขนของตนก่อนจะจำใจทำตามความเห็นส่วนมาก คือกลับไปที่เอเรนเดลล์ก่อนฟ้าจะมืดเพราะถ้าถึงตอนนั้นก็จะเป็นช่วงโกลด์เด้นไทม์ของพิชแบล็ค...

    วี๊ด!!

    นอร์ทเป่าปากเรียกเลื่อนกวางพยศให้มารับกลับไปที่เอเรนเดลล์ เพียงชั่วอึดใจเลื่อนยักษ์ก็มาอยู่ตรงหน้าเหล่าผู้พิทักษ์ราวกับมันอยู่แถวนี้มาตั้งนานแล้ว บันนี่ที่อุ้มแจ็คอยู่ก้าวขึ้นไปบนเลื่อนก่อนจะวางเด็กหนุ่มที่อุ้มมาลงกับเบาะนั่งเลื่อน ตามมาด้วยทูธและแซนดี้ที่ค่อย ๆ ลอยขึ้นมากันช้า ๆ เพราะหมดแรงจากการแหกกรงหนี

    ป้าบ!!

    เสียงแส้ฟาดก้นเหล่ากวางเรนเดียร์เป็นคำสั่งให้ออกวิ่งไปยังจุดหมาย เหล่าผู้พิทักษ์เงียบใส่กันมาตลอดทางจนกระทั่งรู้สึกง่วงและหลับไปกันทั้งสามคน ชายชราผู้กุมบังเหียนไม่อาจหลับลงได้เพราะอาจเกิดคดีหลับในบนท้องฟ้า(?) และถึงตอนนั้นบุรุษในดวงจันทร์อาจจะกลายร่างเป็นจราจรจำเป็นมาเก็บค่าปรับกับนอร์ทก็เป็นได้

    เมื่อได้คิดอะไรเพลิน ๆ ขำ ๆ มันก็ทำให้ตื่นดีอยู่ แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้มันคงไม่ค่อยเหมาะที่จะมองทุกอย่างเป็นเรื่องตลกไปเสียหมด เท่าที่จำได้อันนาก็ยังคงสภาพเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ แถมเอลซ่าก็เข้าสู้ด้านมืดไปเกือบครึ่งแล้ว ซ้ำร้ายแจ็คยังมาโดนเอลซ่าทำร้ายอีก นอร์ทหวังแค่ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อจิตใจแจ็คอย่างรุนแรงเกินไปทำให้เขาต้องเข้าด้านมืดไปอีกคน

    เรื่องในอดีตอะไรนั่นนอร์ทเองก็ไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่คิดว่ามันคงซับซ้อนเกินกว่าที่จะเล่าให้คนแก่คนหนึ่งฟังแล้วเข้าใจในเวลาอันสั้นได้ เมื่อหลายสิบปีที่แล้วนอร์ทยังคงจำได้ว่าเจอแจ็คอยู่กับเด็กคนหนึ่งในห้องแล้วคอยเล่นกับเด็กคนนั้นไม่ออกไปไหนแม้จะเป็นวันคริสมาสต์ ถ้าให้นอร์ทเดาเด็กคนนั้นคงเป็นเอลซ่าและนั่นก็เท่ากับว่าทั้งคู่รู้จักกันมานานแล้ว แค่เอลซ่าในวัยเด็กนั้นไม่เคยเห็นตัวแจ็คและอาจไม่เคยรู้เลยว่าทั้งคู่เคยพบกันมาก่อน บางทีแจ็คอาจจะยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้เอลซ่าฟังก็ได้ เพราะถ้าเกิดเล่าให้ฟังไปแล้วสภาพจิตใจเอลซ่าคงเข้มแข็งกว่านี้ และเธออาจจะรู้สึกดีกับแจ็คมากขึ้นก็ได้

    “ถึงแล้วล่ะ”นอร์ทหันหลังไปเรียกเหล่าผู้พิทักษ์ขี้เซาที่นอนหลับอยู่บนเลื่อนของเขามานานสองนาน ทั้งสามตื่นหมดยกเว้นแจ็ค

    “อืม... แล้ว... เอาไงต่อดี?”บันนี่อุ้มแจ็คลงจากเลื่อนก่อนหันไปถามนอร์ทที่กำลังพยายามดันตัวเองออกมาจากเลื่อนอย่างยากลำบากเพราะติดพุง

    “พาแจ็คไปพักที่ห้องเอลซ่า เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง”เหล่าผู้พิทักษ์เดินเข้าไปในปราสาทเยี่ยงปุถุชนคนธรรมดา ระหว่างทางก็ได้ยินเสียงจากทหารมากมายผ่านเข้าหูมาโดยบังเอิญ

    “ตอนนี้ถึงจะเคลียร์เรื่องเจ้าชายฮานส์ได้แล้วแต่องค์ราชินีก็หายไปเสียเฉย ๆ เจ้าหญิงอันนาก็ยังไม่ฟื้นด้วย”

    “แกกำลังจะบอกว่าองค์ราชินีทิ้งเจ้าหญิงอันนาเหรอ?”

    “ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น แค่คิดว่าถ้าองค์ราชินีจะอยู่ดี ๆ ก็หายไปแบบนี้ทำไมไม่ทรงตั้งผู้สำเร็จราชการเอาไว้ก่อนหน้านี้ล่ะ?”

    “บางทีอาจจะเป็นเรื่องฉุกเฉินก็ได้พระองค์เลยไม่ทันได้แต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทน อีกอย่างต่อให้ไม่มีผู้สำเร็จราชการแทนตอนนี้สถานการณ์ในเอเรนเดลล์ก็ปกติดีนี่นา”

    “แล้วถ้าอยู่ดี ๆ มันเกิดไม่ปกติขึ้นมาล่ะ? ถึงตอนนั้นใครจะเป็นคนจัดการ”พวกนอร์ทยืนฟังอยู่ซักพักหนึ่งจนกระทั่งเสียงพูดคุยเงียบไปถึงได้เดินต่อ ถ้าถามว่าเกิดเรื่องขึ้นมาจะทำอย่างไรก็คงจะมีแต่ต้องให้ทหารเป็นผู้สั่งการชั่วคราวเหมือนบางประเทศ(ฟิคกูจะโดนปิดมั้ยเนี่ย!!) วังที่ไม่มีอันนาและเอลซ่ามันช่างเงียบเชียบ ในวันปกติจะต้องมีเสียงฝีเท้าอันนาวิ่งไปมารอบวัง หรือไม่ก็เสียงพลิกหนังสือและเสียงขีดเขียนปากกาขนนกของเอลซ่าที่ดังสะท้อนออกมาจากห้องทำงาน แต่วันนี้มันไม่มีเหมือนทุกวัน เหล่าข้าหลวง นางกำนัลต่างก็เงียบเหงาตามไปด้วย

    เหล่าผู้พิทักษ์เดินผ่านห้องต่าง ๆ ในวังมากมาย ทั้งห้องสมุด ห้องแสดงภาพวาด และห้องครัว กว่าจะไปถึงห้องนอนของเอลซ่าพูดเลยว่าเมื่อยมากเพราะห้องของเธอนั้นอยู่ชั้นบนสุด แม่เจ้า!! รู้อย่างนี้บินมาดีกว่า!! แต่ก็คงไม่ทันแล้วเพราะรู้ตัวอีกทัทั้งหมดก็อยู่หน้าห้องของเอลซ่า ทั้ง5ทะลุผ่านประตูเข้าไปพบว่าห้องของเอลซ่าถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยโดยเหล่านางกำนัลในวัง ร่องรอยความเละเทะหายไปหมดแล้ว

    บันนี่วางแจ็คลงบนเตียงของเอลซ่าก่อนนั่งพักบนขอบเตียงอย่างเหนื่อยอ่อนเพราะเขาต้องแบกแจ็คเดินขึ้นบันไดมาถึง2ชั้น ในขณะที่นอร์ทเดินตัวปลิว และทูธกับแซนดี้เหาะมาอย่างชิว ๆ

    “ถึงที่แล้ว ที่นี้เอาไง? จะรอจนแจ็คฟื้นเลยหรือยังไง?”กระต่ายหน้าโหดถามเป็นรอบที่3ด้วยน้ำเสียงปนหอบนิดหน่อย

    “คงต้องอย่างนั้น แต่ในระหว่างนี้เราต้องมีแผน”ชายชราตอบด้วยท่าทีสุขุม ทูธกับแซนดี้ที่ดูจะไม่ค่อยมีบทบาทได้แต่มองหน้ากันและเตรียมตัวพร้อมชาร์ตยามบันนี่ถึงจุดเดือด

    “แผน? แผนอะไร? เหนื่อยขนาดนี้ ว้าวุ่นขนาดนี้ ใครจะไปมีสมาธิคิดแผนกัน?”

    “ใจเย็นน่าบันนี่ กว่าแจ็คจะฟื้นก็อีกตั้งนาน เพราะงั้นเราก็มีเวลาคิดอีกตั้งเยอะ”ทูธห้ามทัพทันที แซนดี้ถอนหายใจแบบเงียบ ๆ พลางลอยเข้าไปหาแจ็คที่ข้างเตียง

    “จริงของเจ้าทูธ หมอนี่โดยมาหนักไม่ใช่เล่น แต่ข้าก็ยังนึกไม่ออกหรอกนะว่าเราจะใช้แผนอะไรเข้าไปช่วยเอลซ่า นางเป็นแบบนั้นไปแล้ว และถ้าช้ากว่านี้เราจะเปลี่ยนนางให้กลับเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก”บันนี่ขึ้นเสียงดังเข้าสำนวนกระต่ายตื่นตูม ผู้เฒ่าเดินเข้ามากลางวงก่อนอธิบายในสิ่งที่เขาคิดได้หลังจากเงียบไปสักพัก

    “ตอนนี้ข้าว่าเราควรหาเบาะแสอะไรในห้องนะ อย่างเช่นไดอารี่ของเอลซ่า หรือหนังสือตำนานผู้พิทักษ์ในสายตาของมนุษย์น่ะ”

    “ของแบบนั้นจะเอาไปทำอะไรมิทราบ?”บันนี่ถามต่อ

    “ก็เผื่อว่าเราจะรู้วิธีไงล่ะว่าควรจะจัดการกับพิชแล้วช่วยเอลซ่ายังไง พวกมนุษย์น่ะความคิดบรรเจิดจะตายไป... แต่ยังไงก็สู้ข้าไม่ได้หรอก!!”นอร์ทไม่ลืมที่จะพูดอวยตัวเองในตัวท้าย ทูธและบันนี่เครียดมากกับเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพราะถ้าเกิดเปลี่ยนเอลซ่ากลับเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ขึ้นมา โลกอาจจะถูกแช่แข็งและสมดุลทั้งหมดอาจถูกทำลาย นั่นหมายความว่ายุคมืดของพิชก็จะกลับมาอีกครั้งอย่างถาวร...

    ในระหว่างที่ทุกคนไม่ได้สนใจเลยว่าแซนดี้ไปอยู่ที่ไหนและทำอะไร ก็มีเสียงครวญครางดังมาจากเตียง แจ็คฟื้นแล้ว!! เขาลุกขึ้นมาพร้อมกุมหัวตัวเองอย่างเจ็บปวด ผู้พิทักษ์ทั้งสามอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงก่อนไปออกันอยู่ที่เตียง

    “แจ็ค!! เจ้าฟื้นแล้ว!! ได้ไงเนี่ย!?”ทูธจับมือแจ็คและบีบแน่นจนเขารู้สึกได้ คนเพิ่งตื่นสะบัดหัวไล่ความง่วงและอาการปวดรัว ๆ

    “ข้า... ก็ไม่รู้...”

    ☆☆☆”แซนดี้ตอบเป็นรูปภาพที่รอคนมาแปลอีกตามเคย

    “เจ้าใช้เวทย์มนตร์ช่วยเขาเหรอแซนดี้? ฉลาดสมกับเป็นเจ้าจริง ๆ”นางฟ้าฟันเอ่ยชม แซนดี้เองก็เขินเหมือนกันนะแต่ไม่มีใครรู้หรอกเพราะสีแดงบนแก้มเขามันถูกกลบด้วยสีเหลืองทองจากทรายบนผิวเขาจนหมดแล้ว

    “ตื่นก็ดีแล้ว มาช่วยกันคิดเลยนะไอ้เกรียนว่าจะเอาไงต่อ”ทุกคนหันไปมองบันนี่เป็นสายตาเดียวกัน ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้ แจ็คเองก็เพิ่งจะฟื้นแท้ ๆ กะเอาให้หลับต่ออีกรอบเลยรึไง

    “อา... นั่นคือวิธีแสดงความเป็นห่วงของนายสินะบันนี่ ไม่ต้องห่วงนะแจ็คหมอนี่เป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ แต่ข้ารับประกันได้เลยว่าในใจเขาเป็นห่วงนายม้ากกกก มากกก”นอร์ทแก้ต่างแทนให้ กระต่ายอีสเตอร์หูตกทันทีพร้อมโวยวายใส่นอร์ทเสียงดัง

    “อะไรนะ? ใครบอกว่าข้าเป็นห่วงมัน?”

    “ก็เพราะเจ้ามันปากไม่ตรงกับใจไงบันนี่ เจ้าเลยไม่บอกแจ็คไปตรง ๆ ว่าเจ้าเป็นห่วงแจ็คแค่ไหน แหม... ใครนะพอเห็นแจ็คนอนลงไปกองกับพื้นก็รีบวิ่งเข้าไปหาคนแรกเลย เนี่ยนะไม่ห่วง”ลูกคู่อย่างทูธไม่พลาดที่จะได้แซวบันนี่บ้าง เธอเห็นเขาหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกแล้วอย่างจะขำออกมาดัง ๆ แต่ไม่เอาดีกว่า มันเสียภาพพจน์

    “ข้าแค่จะเข้าไปดูให้แน่ใจว่ามันตายรึเปล่า!! ว่าแต่เรื่องแผนล่ะจะเอายังไง?”คนถูกแซวรีบเปลี่ยนเรื่องทันที เหล่าผู้พิทักษ์เริ่มเข้าโหมดจริงจังอีกครั้งก่อนหันไปมองหน้าแจ็ค

    “พวกท่านได้วางแผนอะไรกันหรือยัง?”เหล่าผู้พิทักษ์สั่นหน้ารัวเป็นคำตอบเดียวกัน แจ็คชักสีหน้าที่อ่านได้ว่านี่ข้าต้องทำเองอีกแล้วเหรอ?

    “งั้น... ข้าคิดว่าเราต้องทำให้อันนาฟื้นก่อน แล้วเรื่องเอลซ่าค่อยว่ากัน”

    “ทำไมต้องทำให้อันนาฟื้นก่อนล่ะ เจ้าก็ฟื้นแล้วสู้บุกไปช่วยเอลซ่ากันเดี๋ยวนี้เลยไม่ดีกว่าเหรอ?”กระต่ายยักษ์ถามเสียงดังเพราะไม่เข้าใจในการตัดสินใจครั้งนี้ของแจ็ค

    “ไม่ได้หรอก ในตอนนี้ข้าว่าคนที่จะช่วยให้เอลซ่ากลับเป็นเหมือนเดิมได้มีแค่อันนา นางเป็นน้องสาวและเป็นคนที่มีอิทธิพลกับจิตใจของเอลซ่ามากที่สุดไม่ใช่ข้า”ตอนแรกทุกคนคิดว่าคำพูดของแจ็คจะเจอไปด้วยความเสียใจที่ตัวเขาไม่เคยมีอิทธิพลอะไรกับจิตใจของเอลซ่าเลย แต่เปล่า... น้ำเสียงของแจ็คเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะไปช่วยเอลซ่า ไร้ซึ่งเสียงแห่งความน้อยเนื้อต่ำใจ

    “แล้วจะทำให้อันนาฟื้นยังไงล่ะแจ็ค? นางไม่ได้ถูกสาปนะ เพราะงั้นพวกเราทำให้นางฟื้นไม่ได้หรอก...”คิ้วของทูธขมวดเข้าหากันบ่งบอกว่าเธอกังวลมาก ในขณะที่แจ็คยิ้มร่าอย่างมีเลศนัยพร้อมเหลือบไปมองแซนดี้ที่นั่งชิวอยู่บนหัวเตียงสี่เสา

    “ก็ไม่แน่...”

     

    ถัดจากห้องนอนของเอลซ่ามา3-4ห้องก็เป็นห้องของอันนา เหล่าผู้พิทักษ์และแจ็คฟรอสต์เดินทะลุประตูเข้าไปเหมือนเดิม พบคริสตอฟนอนเฝ้าอันนาอยู่ไม่ห่าง

    “เอาล่ะทวนแผนนะ... แซนดี้ ท่านต้องเสกฝันอะไรซักอย่างเข้าไปให้อันนาตื่นเหมือนที่ท่านทำให้ข้า แล้วพออันนาตื่นก็เป็นหน้าที่ของพวกท่านกับข้าที่จะทำให้อันนามองเห็นตัวของพวกเรา แล้วจากนั้นข้าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้นางฟังเอง โอเคนะ?”แจ็คทบทวนแผนการอีกครั้ง เหล่าผู้พิทักษ์พยักหน้ารับทราบพร้อมกัน แซนดี้ลอยเข้าไปจับมืออันนาเหมือนหมอตรวจดูอาการคนไข้ สี่คนที่เหลือต่างนั่งลุ้นกันอย่างใจจด ใจดจ่อ

    “เป็นไงบ้างแซนดี้? พอจะช่วยนางได้มั้ย?”นอร์ทถามเบา ๆ

    ↑↓”สี่คนข้างหลังสลดลงทันทีที่แซนดี้ตอบกลับมาว่า50-50แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีความหวังเลย แจ็คภาวนากับบุรุษในดวงจันทร์ให้แซนดี้สามารถช่วยอันนาให้ตื่นจากนิทราได้ ทุกคนต่างฝากความหวังไว้กับแซนดี้

    มนุษย์ทรายตัวอ้วนกลมพยายามเสกฝันดีให้อันนา แต่ไม่ว่าจะเสกเท่าไหร่เธอก็นิ่งไม่ไหวติง แต่ถ้าจะให้เสกฝันร้ายเข้าไปกระตุ้นก็ทำไม่ได้อีกล่ะ เพราะเขาไม่ได้มีพลังด้านมืดแบบนั้น

    ถึงแม้ความพยายามของแซนดี้จะยังไม่สำเร็จผล แต่เขาก็ยังไม่ถอดใจเพียงเท่านี้ เขาจะนั่งสร้างฝันอยู่ตรงนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าอันนาจะตื่น เมื่อแซนดี้หันกลับไปมองด้านหลังพบว่าแจ็คเกร็งจนเผลอเสกน้ำแข็งออกมาแล้ว เขาปล่อยมืออีกข้างที่จับอันนาไว้ทันทีแล้วเดินไปหาแจ็ค แซนดี้จับมือแจ็คแตะกับมืออันนาก่อนจะสั่งสั้น ๆ ว่าเสกน้ำแข็งเข้าไปในตัวเธอซะ

    “อะไรนะแซนดี้? อยากเห็นอันนาหัวขาวรึไงถึงได้มาสั่งอะไรแบบนี้”มนุษย์เท้าเอวกดดันแจ็คจนเขาไม่กล้าเถียงอะไรกลับ แจ็คจำเป็นต้องเสกน้ำแข็งเข้าไปในร่างกายอันนาตามคำสั่งของแซนดี้

    ชั่วพริบตาที่เกล็ดน้ำแข็งเย็น ๆ ไหลเข้าร่างอันนา เด็กสาวรู้สึกแข็งทื่อที่มือจนขยับไม่ได้ มันชา มันเจ็บ และความเจ็บนี้เองที่ทำให้อันนาลืมตาตื่นขึ้น โดยที่ปอยผมของเธอเส้นหนึ่งกลายเป็นสีขาวเหมือนกับเมื่อ14ปีที่แล้วไม่มีผิด

    “พี่คะ!!”อันนาดีดตัวขึ้นจากเตียงทันที คริสตอฟสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงอันนา เธอฟื้นแล้ว!!

    “อันนา!! เธอฟื้นแล้ว!!”คริสตอฟโผเข้ากอดอันนาทันทีที่เห็นเธอฟื้น ตัวอันนาเองยังคงตกใจไม่หายกับภาพความฝันที่เธอได้เห็นและสิ่งที่เธอสัมผัสได้ในความฝันราวกับมันเกิดขึ้นจริง ๆ

    “คริสตอฟ... พี่ล่ะ... พี่อยู่ไหน?”เธอถามหาเอลซ่าทันที คริสตอฟปล่อยเธอออกจากอ้อมแขนก่อนทำหน้าเลิ่กลั่กไม่รู้จะตอบคำถามของอันนายังไง

    “ฉันถามว่าพี่อยู่ไหนคริสตอฟ?”โว้ย!! ตื่นมาก็เรียกหาแต่คนที่ไม่อยู่!! สงสารคนที่อยู่บ้างเถอะแม่คุณ!!

    “เอลซ่าไม่อยู่หรอก...”

    “พี่ไปไหน?”

    “ฉัน... ก็ไม่รู้เหมือนกัน... พี่เธอไม่ได้ทิ้งข้อความอะไรไว้เลย...”

    “โอ... ไม่นะ... ฉันจะไปตามหาพี่...”อันนาพรวดพราดลุกจากเตียงทันที แต่ด้วยความที่เธอไม่ได้ขยับตัวไปไหนมาไหนเป็นเวลานานแล้ว ทำให้เธอเซล้มลงไปกองกับพื้น คริสตอฟวิ่งมารับเธอจากที่อีกฝั่งของเตียง

    “อันนา... เอลซ่าไม่เป็นอะไรหรอก เธอพักผ่อนเถอะนะ...”

    “แต่... ฉันฝันเห็นพี่ถูกแช่แข็ง... ฉันกลัวมันจะเป็นความจริง...”

    “ไม่เอาน่า เอลซ่าเป็นราชินีหิมะนะ จะโดนแช่แข็งซะเองมันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ? อีกอย่างฉันว่าเอลซ่าคงจะแค่ขึ้นไปพักผ่อนที่ปราสาทบนภูเขานั่นแหละ ช่วงที่เธอหลับไปมีแต่งานหนัก ๆ ทั้งนั้นเลยนะ”ได้ฟังที่ชายขายน้ำแข็งพูดอันนาก็ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย ความฝันก็คือความฝันวันยังค่ำ เพราะยังไงพี่สาวเธอก็คงไม่เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะสำหรับอันนาเอลซ่านี่แหละเก่งที่สุดในโลก!!

     

    เดี๋ยวได้เงิบ...

     

    “ฉันจะไปตามหมอมานะ เดี๋ยวจะหาอะไรมาให้เธอกินด้วย อยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า?”

    “ช็อกโกแล็ต... อะไรก็ได้ที่มีช็อกโกแล็ต...”อันนาพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน มือใหญ่ลูบหัวเธอจนฟูยุ่งก่อนเดินออกจากห้องไป

    ถึงคิวของเหล่าผู้พิทักษ์ต้องออกโรงแล้ว บันนี่ค่อย ๆ หยิบไข่อีสเตอร์วางไว้บนหัวเตียงไม่ให้อันนารู้ตัว ทูธแอบใส่เหรียญเงินไว้ใต้หมอนของอันนา นอร์ทปีนขึ้นไปบนปล่องไฟก่องส่งของขวัญชิ้นใหญ่ลงมาให้อันนา เสียงกล่องของขวัญหล่นดัง ตุ้บ!! พาให้อันนาหันไปดู เธอค่อยเกาะขอบโต๊ะเดินไปที่เตาผิงเพื่อหยิบกล่องนั่นมาดู กล่องถูกเปิดออก อันนาพบว่าสิ่งที่อยู่ข้างในคือช็อกโกแล็ตรูปหมีขั้วโลกและกวางเรนเดียร์ ก้นกล่องมีการ์ดเขียนว่าสุขสันต์วันคริสต์มาสน่าสงสัยว่าใครส่งมาให้เธอกัน เอลซ่ารึเปล่านะ?

    อันนาหันหลังกลับทำท่าจะเดินกลับไปที่เตียง เธอเห็นทรายสีทองก่อตัวขึ้นเป็นรูปเอลซ่ากับเธอยืนอยู่ด้วยกัน จากมุมนี้เธอเห็นไข่อีสเตอร์ที่วางไว้ข้างหมอนเธอด้วย ทุกอย่างเริ่มไม่ชอบมาพากลเธอล้วงมือเข้าไปใต้หมอนเผื่อจะเจอเหรียญจะได้ครบองค์ประชุม ปรากฏว่าเจอจริง ๆ นี่คงพูดได้คำเดียวว่าเหล่าผู้พิทักษ์ที่เธอเคยได้ยินตอนเด็ก ๆ นั้นมีจริง!!

    “พวกคุณ...”อันนามองไปที่กระจกเห็นภาพสะท้อนของ4ผู้พิทักษ์ยืนเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดานข้างหลังเธอ เมื่อเธอหันหลังกลับไปก็พบว่าพวกเขาอยู่ต่อหน้าเธอจริงๆ อันนาพยายามตีตัวเองอยู่หลายครั้ง มันเจ็บ... มันไม่ใช่ความฝัน!!

    “พวกคุณทั้ง4มีตัวตนจริง ๆ ด้วย!!

    “4เหรอ? นี่แสดงว่าเจ้ายังไม่เห็นเจ้าบ้านั่นน่ะสิ”บันนี่พูดกับเธอพลางปรายตามองคนที่อยู่ปลายเตียง อันนายังมองไม่เห็นแจ็ค แต่แจ็คต้องทำให้เธอมองเห็นเขาให้ได้

    “เจ้าบ้านั่น? ใครอีกล่ะ?”อันนามองรอบ ๆ ก็ไม่เห็นจะมีใครนอกจากเธอและผู้พิทักษ์ทั้ง4 แจ็คส่ายหน้าให้กับความซื่อบื้อของอันนา ใครบอกก็ไม่เชื่อแน่ว่านี่คือน้องสาวของเอลซ่า แจ็คใช้ไม้เท้าแตะเข้ากับขาเตียงสี่เสาของอันนา น้ำแข็งค่อย ๆ เลื้อยไปตามเสางอกออกมาเป็นดอกกุหลาบน้ำแข็ง อันนาแตะมันเบาเพราะกลัวว่ามันจะละลายหายไป ชั่ววินาทีนั้นแจ็คลอยไปข้างหลังอันนาเสกบอลหิมะขึ้นลูกหนึ่งก่อนปาไปกลางหลังเธอ

    “แจ็คฟรอสต์เหรอ?”เธอพึมพำชื่อเขาออกมา

    “เจ้าบ้านั่นที่คุณพูดถึงคือแจ็คฟรอสต์เหรอ?”บันนี่พยักหน้าให้อันนา เขาโบ้ยให้เธอมองไปข้างหลังเพื่อจะได้พบกับเจ้าของบอลหิมะที่บังอาจมาปาใส่หลังเธอ

    “แจ็คฟรอสต์!!

    เคยโดนพ่อแม่ปลุกไปโรงเรียนด้วยวิธีไหนบ้าง? สะกิด? เอาหมอนฟาด? หรือเอาน้ำราด? วิธีปลุกในเรื่องนี้อาจจะไม่เหมือนใครไปซักหน่อยแต่ขอบอกว่าเสกน้ำแข็งเข้าไปแบบนั้นมันอันตรายมากนะ ถึงมีโอกาสก็อย่าลองเลยจะดีกว่า ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณเกิดพิเรนทร์อยากเปลี่ยนสีผมตัวเอง อันนี้ก็ไม่ว่ากันนะ

    *******************************

    Free Talk :

    โอ้ยยยยย!! ไม่ได้เขียนเรื่องนี้มานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย... ขอโทษที่ให้รอนะคะทุกท่านที่ไม่ได้เข้ามาอัพบ่อยเหมือนเดิมแล้ว สอบกลางภาคเสร็จแล้วแต่กิจวัตรประจำวันเหมือนเดิมเป๊ะค่ะ เรียน กลับบ้าน ทำการบ้าน นอน แล้วเวลาเล่นคอมมันหายไปไหนซะล่ะคะ!?

    เอาจริง ๆ เวลาเล่นคอมมันไปรวมอยู่กับเวลาทำการบ้านน่ะค่ะ หลายคนคงเคยเจอโมเม้นท์”หน่วยกิตเท่าขี้เล็บ แต่กองงานเท่าภูเขา”นะคะ ไรต์กำลังประสบอยู่เลยค่ะ หน่วยกิต1.0แต่งานคือย่อบทเรียนทั้งบทพร้อมแบบฝึกหัดคำตอบห้ามต่ำกว่า5บรรทัด แม่เจ้า!! ขนาดวิชาญี่ปุ่นหน่วยกิต3.0การบ้านยังไม่เคยจะมีเลยนะคะ!!

    อยู่ดี ๆ ฟรีทอล์คก็กลายเป็นช่วงบ่นซะงั้น เพราะงั้นวันนี้พอแค่นี้นะคะ ตอนหน้าไม่รู้จะอีกนานมั้ย เพราะอีก3อาทิตย์ไรต์จะสอบปลายภาคแล้วค่ะ ไม่รวมค่ายญี่ปุ่นแหล่งรวมไอดอลกับงานกีฬาสีเทศกาลแห่งการอดนอนของไรต์ค่ะ หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะคะ บายค่ะ

    ปล.แปะเพจ!! >>แปะ<< อยากคุยกับไรต์เชิญในนี้ค่ะ ตอบช้าแต่ตอบแน่นอน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×