ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mental Black "จิต"สีดำ

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 “ ส่วนหนึ่งของครอบครัว ”

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 18
      0
      24 เม.ย. 57



    3

    ส่วนหนึ่งของครอบครัว

                    หลังจากผ่านจิตใต้สำนึกแรกมาได้ไม่กี่ชั่วโมง เด็กหนุ่มผู้อ่อนแอก็ได้หลุดเข้าไปในจิตใต้สำนึกที่ 2 เขารู้สึกเหมือนว่า ยิ่งแก้ได้ เขายิ่งหลุดเข้าไปลึกเท่านั้น บางที เขา อาจจะต้องแก้ไขปัญหาทั้งหมด ด้วยตัวเองซะแล้วสิ..

                    สถานที่ที่ผุดเข้ามานั้นคือ บ้านของเขาเอง !!

    กลับมาแล้วหรอ...

    ร่างสูง ดำเทา ไร้อารมณ์ พ่อของเขากับร่างกายทรงกระบอกเหมือนหุ่นเชิด ดวงตาที่ไม่มีแม้แต่แววตา ขนาดน้ำเสียงที่พูด ยังไม่มีการบ่งบอกถึงความเป็นห่วงเป็นใยใดๆ

    อยากจะกินอะไรไหม ลูก..

    คุณแม่ในร่างหุ่นเชิดสีดำเทา เดินมาแบบไม่มีเรี่ยวแรง

    นี่มัน..

    พูดยังไม่ทันจบ เซย์ก็วิ่งออกจากบ้านทันที เขาเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกคนแทบจะเป็นหุ่นเชิดทั้งหมด

    ชั้น....อยากให้มันเป็นอย่างนี้

    เซย์ได้ยินเสียงของตัวเองดังขึ้นจากท้องฟ้า ก้องเข้ามาถึงส่วนประสาทหูของเขา เซย์รู้ตัวทันที ก่อนที่เขาจะเข้ามาในมิติจิตใต้สำนึก เขาเคยคิดอยากจะให้พ่อแม่เป็นห่วง...รัก...และดูแลเขาบ้าง แม้ว่าตนจะต้องเป็นคนออกคำสั่งก็เถอะ...

     

     

    ไม่...ไม่ใช่แบบนั้น

    เซย์ร้องไห้ เขาหมดกำลังใจที่จะสู้ต่อทันที เหมือนกับว่าเขาอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว อาจจะเป็นเพราะกลัวเรื่องนี้จริงๆ ถ้าไม่มีคนช่วย เขาคงต้องหนีต่อไป

    ตุ้บ!!!

    เสียงเหมือนชนบางอย่าง ที่ไม่ใช่หุ่นกระบอก ทำให้เซย์ล้มลงกับพื้น

    อ่าว...ขอโทษนะ...เจ้าหนู..

    มีคนๆหนึ่งที่ไม่เป็นหุ่นกระบอก ผู้หญิงผมสีดำม่วง ดวงตาดูมีชีวิตสีเหลืองทองเหมือนกับเซย์ เขาตกใจมากกับสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้า

    ครับ...เซย์ลุกขึ้นปัดเสื้อตัวเอง

    ที่นี่มัน...ที่ไหนกันเนี้ย !!”

    พี่สาวคนนี้คงจะยังไม่รู้ว่า ตนอยู่ในจิตใต้สำนึกของเด็กหนุ่มผู้อ่อนแอ

    พี่...อยู่ในจิตใต้สำนึก..ของผม..

    เซย์พูดขึ้น

    จิตใต้สำนึกน้อง....ประหลาดดีนะ..”

    พี่สาวคนนี้มีท่าทีไม่ตกใจเลยสักนิด

    แล้ว...พี่..เป็นใครครับ???”

    เด็กหนุ่มมึนงง และ สงสัย

    ไม่รู้สิ...อยู่ดีๆพี่ก็มาโผล่ที่นี่...จำได้ลางๆว่าจะกลับบ้านไปหาพ่อแม่น่ะ

    พี่สาวอธิบายสั้นๆ

    พี่ไม่รู้ชื่อตัวเองหรอครับ?” เด็กหนุ่มถาม

    ชื่อจริงๆน่ะนะ แต่ชื่อเล่นพี่น่าจะ...นามิ..ล่ะมั้ง..”

    ดูเหมือนพี่สาวตัวสูงคนนี้จะจำได้แค่ชื่อเล่นของตัวเองเท่านั้น

    พี่นามิ...ชื่อคุ้นๆ..นะครับ

    รู้สึกว่าเด็กหนุ่มเซย์จะคุ้นๆกับชื่อของพี่สาวคนนี้อยู่ไม่น้อย

    แต่พี่ไม่เคยเห็นหน้าน้องเลยนะ...แปลกแฮะ..

    ยังไง พี่สาวคนนี้ก็ไม่รู้จักเด็กหนุ่มคนนี้สักนิดเดียว

    ผมยังนึกไม่ออกครับ เอาเป็นว่ามากับผมดีกว่านะครับ

    เซย์ดึงแขนพี่สาวตัวสูง (พี่นามิ)

    แล้วน้องวิ่งหนีอะไรหรอ ? ”

    คำถามของพี่นามิ ทำให้เซย์ยืนนิ่งอยู่นาน

    ไม่มีอะไรครับ

    เซย์ค่อยๆเดินดึงแขนเสื้อพี่นามิต่อไป

                    ไม่นานพี่นามิก็เดินมาข้างหน้ามองเซย์ด้วยสายตาที่แน่วแน่

    โกหกสินะ ^^”

    พี่นามิยิ้มก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น

    ....เซย์ก้มหน้าลง หลบสายตาพี่นามิ

    อย่าไปทางนั้นเลยครับ..พี่นามิ..มันน่ากลัว

    เซย์ชี้ไปยังทางที่เขาวิ่งมา

    ไม่น่ากลัวหรอกน่า นี่จิตใต้สำนึกของน้องนะ จะทำให้มันไม่น่ากลัว มันก็ขึ้นอยู่กับตัวน้องเองนะ

    พี่นามิลูบหัวเซย์แล้วยิ้มให้กำลังใจ ก่อนจะพาไปนั่งพักบนเก้าอี้ข้างๆ

    ไหน..เล่าปัญหามาสิ พี่อาจจะช่วยแก้ได้

    พี่นามินั่ง พร้อมที่จะรับฟังเซย์ทุกเมื่อ เธอพูดพึ่งพาได้มากนะ แต่เซย์ก็ยังลังเลใจ ไม่กล้าปรึกษาใดๆ

    มัน...เป็นเรื่องในครอบครัวผม...เองแหละครับ

    เซย์ตัดสินใจที่จะเล่าให้กับพี่นามิฟัง

    เรื่องเริ่มขึ้นตอนผมอายุ 8 ขวบ พ่อแม่ของผม ไม่สนใจผม เอาเวลาไปทำงานมากกว่ามาอยู่กับผม ผมคิดว่า...ผมเหมือนไม่ใช่คนในครอบครัว ไร้ตัวตน ไร้คนมาคอยเอาใจใส่ เหมือนครอบครัวอื่นๆที่เขาทำกัน ผมไม่เข้าใจ...ทำไมพ่อแม่ผมต้องทำอย่างนี้ ทั้งๆที่ผมก็ทำดีมาตลอด ถึงจะเคยโกหกผมบ้าง ผมก็ไม่เคยโกรธ หรือ เกลียดพวกเขา... ผมแค่..น้อยใจ..เท่านั้นเอง ผมก็อุส่ายิ้ม..มาตลอด พ่อแม่จะได้ไม่เป็นห่วงผม...แต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเลยสักอย่าง

    ในขณะที่เซย์อธิบาย สีหน้าเขา ดูแย่ลงเรื่อยๆ

    น้องรู้ได้ยังไง ว่าพ่อแม่ของน้องไม่สนใจน้องเลย ??”

    พี่นามิถาม

    พวกเขา...ไม่เคยสนใจผม.. เซย์ยังยืนยันคำเดิม

    แต่พวกเขาก็ไม่ได้ ไม่รักน้องนี่นา พวกเขาตั้งใจทำงานเพื่อให้มีกินมีใช้ มาดูแลน้อง...รู้ไหม คนเราน่ะ มีความเป็นพ่อ แม่ อยู่ในตัว ไม่มีทางที่พ่อ แม่ จะทิ้งลูกได้หรอก

    พี่นามิอธิบาย พลางลูบหัวเซย์ไปด้วย

    ผมจะต้องทำยังไงครับ พี่นามิ

    เซย์ไม่อาจแก้ปัญหาเรื่องนี้เพียงคนเดียวได้ เขาจำเป็นต้องให้พี่นามิช่วย

    น้องโตแล้ว เพราะฉะนั้น เรื่องแบบนี้ เปิดใจ คุยกับคุณพ่อ คุณแม่น้องตรงๆไปเลย..ก็พอแล้วจ๊ะ

    พี่นามิพูดแนะนำเพิ่มกำลังใจเซย์ในระดับหนึ่ง

     

    แต่...ผมกลัว...

    เซย์ก้มหน้าตัวสั่น หมดความกล้าในตัวอยู่

    น้องเซย์..พี่เชื่อว่าน้องทำได้ กล้าๆหน่อยสิ เราเป็นผู้ชายนะ ^^”

    พี่นามิจับไหล่ไว้แน่น เธอพูดปลอบใจเซย์ แววตาของพี่นามิ ไม่มีวี่แววโกหกใดๆซะด้วย

    ผม..จะลองดูครับ !”

    เซย์เริ่มมีความมั่นใจขึ้นมานิดๆ

    พี่จะไปเป็นเพื่อนนะ ^^”

    พี่นามิจับมือเซย์พร้อมรอยยิ้ม เดินไปยังบ้านเกิดเซย์ ด้วยทางที่เซย์ หนีมา

                    ในขณะเดินกลับไปนั้น เซย์รู้สึกถึงสายตาที่คอยจ้องมองเขาอยู่ บางที เขาอาจจะคิดไปเอง ก็เป็นได้

    เป็นอะไรหรอ ?” พี่นามิถาม

    เปล่าครับ เซย์ส่ายหัว

    เขาไม่รู้เลยว่า มีบางสิ่ง จ้องมอง ติดตาม เขาอยู่จริงๆ

    เมื่อทั้งคู่เดินกลับไปถึงบ้านของเซย์

    พี่รออยู่หน้าบ้านนะ

    พี่นามิ ยืนรอเซย์อยู่หน้าบ้านนกว่าเซย์จะทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย

    เซย์ ไปไหนมา บอกหน่อยสิ

    พ่อกับแม่ ในร่างหุ่นดำสนิท เดินมาต้อนรับ

    ผม...มีเรื่องจะขอคุยกับพ่อ แม่ ครับ

    เซย์พูดจบ ก็เดินเข้าไปในห้องรับแขกกับคุณพ่อคุณแม่ หลังจากเคลียร์กันได้2-3 ช.ม. สานสัมพันธ์ของเซย์กับพ่อแม่ ก็เข้าใจกัน ในที่สุด

    พวกเขา เข้าใจเซย์ สุดท้ายนี้ เซย์ก็สามารถแก้ไข ปัญหาสีดำได้อีก 1 เรื่อง พร้อมคำสอนดัๆ ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้

                    ไม่นานนัก บ้านของเซย์ก็เริ่มสลาย ทลายลง อย่างรวดเร็วทำให้พี่นามิตกใจ วิ่งเข้ามาช่วยเซย์โดยไม่คิดชีวิตตัวเองเลย

    เซย์ !! บ้านถล่มแล้ว..หนีเร็ว !”

    พี่นามิดึงตัวเซย์ พาวิ่งหนีออกจากบ้านทันที

                    ก่อนที่ร่างของพ่อแม่จะเปลี่ยนสี และ สูญสลายหายไป เขาเรียกพี่นามิ เหมือนกับว่า เขารู้จักพี่นามิมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่เซย์ก็ยังได้ยินไม่ค่อยชัดสักเท่าไหร่ ถนน ทางเดิน ร้านค้า ค่อยๆทลาย หายไป ทีละนิด ทีละนิด และเริ่มเร็วขึ้น ไม่ปล่อยช่องว่างให้ทั้งคู่ได้พักบ้างเลย พี่นามิและเซย์วิ่งหนีสุดชีวิต จนในที่สุด ก็ถูกดูดเข้าไปในหลุมยักษ์สีม่วงดำ พวกเขาเจอบันไดลอยได้เป็นขั้นสูง ทางเดินดูไร้จุดหมายมาก และเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดด้วย เดินขึ้นไปสุกพัก เซย์ก็พบกับประตูบานใหญ่สีแดง เขาเปิดประตูแล้วพาพี่นามิเข้าไป ในนั้นเป็นดินแดนที่มีแต่ตุ๊กตา ของเล่น ที่ผุพังเต็มไปหมด

    พักที่นี่เถอะจ๊ะ...มันคงไม่เกิดอะไรขึ้นแล้วแหละ

    พี่นามินั่งลงกับพื่นของเล่นเรืองแสง มีผีเสื้อโบยบินไปมาสวยงาม มีประกายระยิบระยับ ที่นี่มัน...ที่ไหนกันนะ...

    หัวใจของเด็กหนุ่มเซย์ เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีแดงขึ้นอีกระดับนึงแล้ว...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×