ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The last of your expectation

    ลำดับตอนที่ #1 : คำสัญญาแห่งค่ำคืน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.03K
      42
      4 ก.ค. 54

    วิญญานของเค้ากำลังถูกฉีกออกเป็นสองส่วน...

    เค้ารู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร  เพราะใครบางคนที่ขอให้เค้าฆ่า  แม้เค้าจะพยายามบอกตัวเองว่าเค้าเพียงแต่ช่วยชายชราที่น่าสงสาร  แต่ความจริงคือเค้าไม่ต้องการทำแบบนั้น  เค้าไม่ต้องการที่จะฆ่า  ชายคนเดียวที่เชื่อใจเค้าอย่างแท้จริงหากจะไม่นับชายอีกคนที่ทำให้ลิลี่  เอฟเวนส์ต้องตาย... แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก  เพราะเค้าก็ถูกคนๆ นั้นฆ่าตาย

    เค้ากำลังหล่นลงไป  ลงไปเรื่อยๆ  คนอย่างเค้าไม่มีทางไปสวรรค์ได้  มันเป็นสิ่งที่เค้าต้องชดใช้  ชีวิตเค้ามันก็เป็นแบบนี้แหละ  มันก็แค่นั้น  แม้แต่คนที่รักมากๆ เพราะเป็นเหมือนของดูต่างหน้าของหญิงคนรักเค้ายังไม่สามารถให้ความสุขได้  ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นแค่ตัวการในการแพร่ความทุกข์  ดีแล้วที่จะตายไปพร้อมกับความเกลียดชังกับทุกคน  เค้าสมควรลงนรก... เค้าสมควรแล้ว  พระเจ้าขอให้ท่านได้ลงโทษผม  อย่าให้ผมได้พบกับความสุขใดๆ อีก  พระเจ้า  ผมของชดใช้และขอที่จะถูกชิงชังจากทุกคนตลอดไป

    ร้ายที่สุด  ผมทำให้เด็กคนนั้นต้องสูญเสียงคนสำคัญไปมากมายหลายคน

    ผมมันสมควรตาย... มากกว่าใครทั้งหมด...

    สมควรที่จะลงนรก... มากกว่าใคร...

    ความทุกข์ทรมานแผ่ไปทั่วร่าง  นรกก็เป็นแบบนี้แหละ... สมควรแล้ว  สำหรับจอมทรยศอย่างชั้นน่ะ  แม่ครับ  เพราะผม  แม่ถึงได้ตาย  พ่อครับ  พ่อต้องทรมานมากกว่าที่ควรเป็นเพราะมีผมเกิดมา  ผมขอเอาทั้งหมดของผมชดใช้ให้

    ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์  ลิลี่... ยกโทษให้กับคนน่าสมเพชคนนี้ได้มั้ย...

    "ตกลง  เธออยากจะถูกเกลียดชังตลอดไป  หรืออยากถูกยกโทษให้กันแน่"

    ดวงตาสีดำมองหา  แต่ไม่มีอะไรนอกจากความมืดและสีแดงของไฟนรก   ใครน่ะ....

    "เพราะวิญญานที่ถูกฉีกกระชาก  มันทำให้เธอมีหัวใจที่แยกจากกันด้วยรึเปล่านะ"

    ภาพตรงหน้าชัดเจนมากขึ้นทุกขณะ  แม่?  วูบหนึ่งเค้าคิดแบบนั้น  แต่เมื่อดูดีๆ แล้วมันไม่ใช่... เพราะเธอคนนี้มีจมูกเหมือนเค้า  เค้าได้จมูกมาจากพ่อไม่ใช่แม่...

    "ชั้นจะถามเธอ  เซเวอรัส  สเนป... เธอสามารถจะยกโทษให้กับความผิดที่ทุกคนทำกับเธอได้มั้ย"

    ...ได้มั้ย  ถามตัวเองและตอบให้ซื่อสัตย์  เวลานั้นเค้าก็ตระหนักถึงสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้บอกเค้า...

    "ดูเหมือน  เธอจะมีจิตใจที่แยกจากกันอย่างสมบูรณ์เสียแล้วนะตอนนี้" หญิงสาวถอนใจ "ชั้นไม่รังเกียจหรอกที่เซเวอรัส สเนปจะมีสองคน  เพราะ  นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้วก็ได้สำหรับอนาคต  แต่  เมื่อเวลานั้นมาถึง  เธอก็มีได้แค่คนเดียวเท่านั้นแหละ"

    ทันใดนั้น  เค้ารู้สึกเหมือนถูกฉีกกระชากอย่างรุนแรง  ความเจ็บปวดปราดพุ่งไปทั่วร่างก่อนที่ร่างกายของเค้าจะค่อยๆ หล่นลงสูงความมืดและไฟนรกที่ร้อนระอุเบื้องร่างก่อนจะสูญเสียความสามารถในการมองเห็นเค้าเห็นก้อนเนื้อเล็กในมือของผู้หญิงที่คล้ายเค้า  และเค้ารู้ว่ามันคืออะไร

    ก่อนที่ทุกอย่างจะสูญสิ้น  เค้าเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป...

    ความบริสุทธิ์ของเด็กที่ยังเหลืออยู่ในความทรงจำ  ความสามารถที่จะรักพ่อแม่และลิลี่ได้โดยไม่มีสิ่งใดเจือปนได้ถูกกระชากออกจากเค้าเสียแล้ว  และตอนนี้เค้าเหลือเพียงวิญญานสกปรกที่รู้จักแต่การพยายามที่จะได้มาและความริษยาเท่านั้น...








    ร่างเล็กๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นจากกองเลือดชักและพยายามที่จะหายใจ  ขณะที่เสียงหลายๆ เสียงดังอื้ออึงอยู่รอบๆ เค้า "ใช่ อย่างงั้นและ  เซเวอรัส  กลับมา  เธอยังตายไม่ได้  กลับมาหาพวกเรา" คนที่ถูกเรียกว่าเซเวอรัสเป็นเพียงเด็กเล็กๆ อายุไม่เกินสี่ขวบ  ร่างกายเปลือยเปล่า  เต็มไปด้วยเลือด  พยายามสุดชีวิตที่จะมีชีวิต  มือของเค้าพยายามตะกายคว้าเสื้อคลุมสีดำของบาทหลวง  ผมและตาสีเงินคุ้นๆ ใบหน้าคุ้นๆ มองตรงมา  ตาสีดำของเด็กน้องพยายามมอง  และ  จดจำ "เซเวอรัส  พ่อเอง  จำได้มั้ย  หลวงพ่อเอรีสไง"

    เด็กน้อยกระพริบตา  เค้าคิดว่าเค้ารู้จักผู้ชายคนนี้  แต่เพราะอะไรบางอย่างมันงงไปหมด

    "พ่อค่ะ  หนูว่าเค้าจำเราไม่ได้หรอก... จำได้มั้ยคะ  ไนจัส อะโพคาลิฟบอกว่าไง  เซเวอรัสคนนี้คือเซเวอรัสเมื่อสมัยที่ยังไม่เคยเข้าเรียนที่ฮอกวอร์ต  เป็นเซเวอรัสที่ยังไม่มีมลทินด้วยซ้ำไป  และตอนนี้ก็ยังจำอะไรไม่ได้  ต่อให้เค้าสามารถจำได้ในเวลาต่อมาความทรงจำของเค้าที่ร่วมกับเซเวอรัส สเนปก็แค่เก้าปีเท่านั้นเอง" ผู้หญิงผมหยักโสกสีเงินและตาสีเงินซึ่งคล้ายหลวงพ่อเอรีสมากบอกเค้า "เด็กคนนี้... คือจิตวิญญานด้านดีของเซเวอรัส"

    ดวงตาสีเงินของบาทหลวงเศร้าลงทันที "ถ้าอย่างงั้นเธอคงจำลิลี่ไม่ได้ด้วยสินะ  แต่นั่นอาจจะดีที่สุดแล้วก็ได้" เจ้าตัวเล็กกระพริบตา "เอาล่ะ  เธอไม่ใช่เซเวอรัสแล้วล่ะนะ  แต่ชื่อของเธอก็ยังคงเป็นเซเวอรัส สเนปอยู่ดีนั่นแหละ"

    "หลวงพ่อ" เสียงอีกเสียงดังขึ้น "มีคนมาที่นี่แล้วล่ะครับ  เราต้องไปแล้ว"

    "ไหน... นั่น แฮกริดนี่" เอรีสพูดขณะที่ขยับเข้ามองที่กระจก "เค้าลงมานำเซเวอรัสออกไป"

    คำว่า "เค้าคงมานำเซเวอรัสออกไป" สะกิดให้ทุกคนไหนนั้นหันไปมองร่างของชายหนุ่มที่นอนตายอย่างน่าสังเวชบนพื้น  ศาสตราจารย์เซเวอรัส  สเนป--อาจารย์สอนปรุงยาของฮอกวอร์ต  ดวงตาสีดำที่ว่างเปล่า  เลือดที่ไหลออกจากแผลเหวอะหวะที่คอ  ไหลออกจากปากและรูจมูกทั้งสอง  ดูจากรูปร่างหน้าตาอยู่ระหว่างยี่สิบสิบสองถึงยีสิบห้าปี  นั่นทำให้ดูน่าเสียดายมากขึ้นแม้ว่ารู้อยู่เต็มอกว่าเค้าอายุสามสิบหกปี  แต่นั่นเป็นธรรมดาของพ่อมดที่แก่ยากตายช้า  และยิ่งรู้ว่าวิญญานของเค้าจะไปไหนมันก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น "เราต้องไปกันแล้ว  เราไม่มีสิทธิในโลกนี้อีกต่อไปแล้ว  เชมีน่า"

    เอลฝ์ประจำบ้านดีดนิ้ว  และนำพวกเค้าหายตัวไปทั้งหมดอย่างไร้ร่องรอย  ความจริงไม่เชิงว่าจะหายไป  แต่พวกเค้าถูกเวทมนตร์พรางตาต่างหาก  พวกเค้าเคลื่อนออกไปโดยไม่มีใครสังเกตเห็นทั้งสิ้น  และระหว่างนั้น  เอรีสมองเห็นลูเซียส  มัลฟอย  นาซิสซา  มัลฟอย และ เดรโก  มัลฟอยกำลังกอดกันแนบแน่น  หัวใจเค้าอยากจะไปเข้าไปสวมกอดคนพวกนั้นและจูบที่หน้าผากทีละคน  แต่ว่า

    "พ่อค่ะ... อย่า" หญิงสาวบอกเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง

    "พ่อไม่เป็นไร  ลูเคเซีย"

    ลูเคเซีย  ผู้ที่มีผมสีเงินหยักโสกและตาสีเงินพยักหน้าอย่างเข้าใจ  ก่อนจะไปพร้อมกับทุกคน  ระหว่างนั้น  เธอหันไปมองชายที่เหมือนเธออย่างประหลาดคนนั้น--ลูเซียส  มัลฟอย  ด้วยดวงตาที่ราวกับกำลังมองดูพี่น้องที่ไม่ได้พบกันซะนาน  ก่อนจะจากจากไปโดยไม่หันหลังกลับมา

    และหลังจากนั้นไม่นาน  เธอและพวกของเธอก็ได้ข่าวชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของแฮร์รี่  พอตเตอร์  เหนือ ลอร์ด โวลเดอร์มอร์...
    -----------------------------------------

    บาทหลวงหนุ่มวิ่งไปตามทางแคบของตรอกช่างปั่นฝ้ายพลางมองหา  ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนกำลังมองหาอยู่ที่ไหน  ระหว่างนั้นก็บอกกับตัวเอง "ไม่เอาน่า  อเล็กซ์  เค้าสามารถจำได้มากสุดแค่ตอนอายุเก้าปีเท่านั้นเอง  เค้าจำมากกว่านั้นไม่ได้หรอก" เค้าพยักหน้าและสูดลมหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินลัดเลาะไปเรื่อยกระทั่งถึงบ้านหลังสุดท้ายของตรอกช่างปั่นฝ้าย  ก่อนจะผลักประตูเข้าไปช้าๆ "เซเวอรัส  อยู่ไหนน่ะ"

    ไม่มีคำตอบ  แต่มีร่องรอยของการมายืนและประตูหลังห้องสมุดที่เปิดให้เห็นบันไดทอดขึ้นไปข้างบน  อเล็กซ์เดินขึ้นไปข้างบนและเลี้ยวซ้าย  เปิดประตูเข้าไปเพียงเพื่อจะพบร่างเล็กๆ ที่มองมาอย่างหวาดกลัว  เด็กน้อยมองอย่างไม่เข้าใจมาที่อเล็กซ์  พลางถาม "ทำไมชั้นถึงเปลี่ยนไป  ชั้นกลายเป็นเด็กที่ตัวเล็กกว่าเดิมขณะที่พวกนายโตเป็นผู้ใหญ่กันหมด... ยี่สิบเจ็ดปีที่ผ่านมาชั้นหายไปไหน  ทำไมมีแต่ชั้นที่ยังตัวเล็กๆ อยู่แบบนี้"

    "นายจำอะไรได้... ชั้นหมายถึง  ครั้งสุดท้ายที่นายจำได้"

    "ชั้นอยู่ที่โบสถ์กับพวกนาย  กับแวร์เลอร์  กับฌาค  ชั้นบอกพวกนายว่าชั้นอยากเป็นบาทหลวงจะได้อยู่กับพวกนาย  กับหลวงพ่อ  กับซิสเตอร์"

    อเล็กซ์นั่งลง "แล้ววันต่อมานายก็ลังเลที่จะเป็นบาทหลวง  และอีกเจ็ดเดือนต่อมานายก็บอกพวกเราว่านายจะเป็นพ่อมด"

    เซเวอรัสน้อยคลานเข้ามา "มันจะเป็นแบบนั้นได้ไง  ไม่มีทางหรอก  ก็ชั้น"

    "นายอยากเป็นบาทหลวง... แต่ถ้าเป็นบาทหลวงนายจะไม่ได้พบสาวน้อยผมแดงของนายอีก"

    "เธอไม่ชอบพวกพระเหรอ"

    "เปล่า... เธอเป็นแม่มดน่ะ"

    "เธอยังมีชีวิตอยู่ใช่มั้ย"

    "ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่  ป่านนี้เธอก็อายุสามสิบเจ็ดแล้ว  กว่านายจะโตทันเธอ" เด็กน้อยหน้าเศร้าลง  อเล็กซ์ค่อยๆ กอดประคอง "เซเวอรัส... ไม่มีเธออยู่ในโลกอีกแล้วไม่ว่าที่ไหนทั้งนั้น... ตลอดเวลาของนายมันคือความเจ็บปวด  แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว  นายกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่  ไม่มีความทรงจำที่เลวร้ายและความเจ็บปวดพวกนั้น  และ  แม้เราจะไม่ได้เป็นเพื่อนที่เรียนพระคัมภีร์ด้วยกันเหมือนเดิม  แต่ชั้นยังคงเป็นอเล็กซ์  และแวร์เลอร์ก็ยังคงเป็นแวร์เลอร์  ส่วนฌาคที่ตายไปนั้น  ไม่ใช่ความผิดของใคร"

    เซเวอรัสน้ำตาคลอ  เพราะเค้าได้เห็นหลุมศพของฌาคแล้ว  และระหว่างที่เค้างุงง  ก็ได้ยินพ่อแม่ของฌาคพูดว่า "สเนปมันสมควรตายแค่คนเดียว  ทำไมมันต้องมาลากลูกชายของเราไปด้วย  ชั้นอุส่าห์บอกเค้าแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับผู้ชายโสครกที่กล้าทำเรื่องสกปรกพวกนั้นกับลูกตัวเอง  ทำไมไม่เคยฟังเลยนะ" พอเค้าคิดถึงมันก็อดไม่ได้ที่จะถาม

    "พ่อทำอะไรชั้น"

    "ไม่สำคัญหรอก  เพราะตอนนี้บาปของนายถูกลบล้างไปแล้ว  ตอนนี้นายบริสุทธิ์" แต่เมื่อเซเวอรัสยังอ้ำอึ้ง  อเล็กซ์จึงบอกเพิ่มเติม "ถ้านายรู้  นายอาจจะโกรธเกียรติพ่อมาก  ทั้งๆ ที่ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นมันเหมือนไม่เคยเกิดกับนายด้วยซ้ำ  ฉะนั้นให้มันมลายไปพร้อมกับบาปของนายดีกว่ามั้ย"

    เซเวอรัสมองเค้าอย่างมีความหมาย  ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ "พระเยซูสอนให้เรารักคนที่ทำผิดต่อเรา"

    "นั่นแหละ  เรากลับกันเถอะนะ  ทิ้งอดีตไปซะ  เมื่อถึงเวลาค่อยกลับมา  ยังไงซะ  ที่นี่ยังเป็นบ้านของนาย"

    อเล็กซ์อุ้มเซเวอรัสขึ้น  แล้วพาออกจากบ้าน  กลับไปที่โบสถ์  โบสถ์ที่ครอบครัวเอฟเวนส์เคยมาและทำให้เซเวอรัสตัดสินใจเปลี่ยนอนาคตครั้งใหญ่ด้วยการเป็นพ่อมดเพื่อจะไม่แยกจากเธอก่อนที่ทั้งหมดจะนำเค้าไปสู่ความเจ็บปวดอย่างสุดจะพรรณา  ทว่า  ยังมีบางสิ่งรอพวกเค้าอยู่ในค่ำคืนที่จะมาถึง








    หลวงแม่ลูเคเซียปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับห่อผ้า  มีสิ่งที่เหมือนทารกที่มีบาดแผลพุพองเต็มตัว  กำลังร้องไห้จ้าอย่างทรมานในอ้อมแขนของเธอ  และบางสิ่งที่เธอบอกก็ทำให้ทุกคนอยู่ในความเงียบที่ร้ายกาจ

    ไนจัส อะโพคาลิฟทำเกินไปแล้ว  แม้การให้อภัยจะเป็นสิ่งที่ดีแต่การให้เซเวอรัสที่ไม่รู้อะไรมาคอยดูแลคนที่ฆ่าเค้า  ฆ่าตากับยายของเค้า  แล้วยังฆ่าผู้หญิงที่เค้ารักมันเป็นอะไรที่โหดเหี้ยมเกินไป  หากวันหนึ่งความทรงจำทั้งหมดของเค้ากลับมาอะไรจะเกิดขึ้น  เซเวอรัสจะต้องเจ็บปวดมากขนาดไหน  กระนั้น  ลูเคเซียก็ก้าวเข้ามาและคุกเข่าลงตรงหน้าเซเวอรัสที่ถูกจูงมือเข้ามาในกลุ่ม  กำลังหาวและขยี่หูขยี่ตาตามประสาเด็กห้าขวบ

    "เซวี... นี่คือทอม" ลูเคเซียพูดอย่างอ่อนโยน  ก่อนที่ดวงตาสีดำของเด็กน้อยเบิกกว้าง  เค้ามองดูเด็กทารกที่แผลเต็มตัวอย่างตกใจ "ทอมน่าสงสารมากนะ  เค้าไม่มีพ่อแม่  เหมือนกับเซวี  เซวีจะเป็นพี่ชายของทอมและคอยดูแลทอมได้มั้ยจ๊ะ"

    "คนไม่ดีรังแกทอมเหรอ" เด็กน้อยถามไร้เดียงสา

    "ปีศาจที่เรียกว่าคามโลภรังแกเค้า"

    "ความโลภ?"

    "ใช่  เซวีจะปกป้องทอมใช่มั้ย"

    เซเวอรัสน้อยเหมือนจะชั่งใจ  แต่ในที่สุดก็พยักหน้าช้า "ผมจะปกป้องทอมที่น่าสงสารให้เอง"

    "สัญญาแล้วนะ"

    "ครับ"

    "ไม่คืนคำนะ"

    "ครับ"

    "รับไปสิ"

    เซเวอรัสรับไป  แล้วเริ่มร้องเพลงเห่กล่อมทารก "โอ๋  ไม่ต้องร้องไห้นะ  ผมจะดูแลทอมมี่เอง"

    เหล่าบาทหลวงทั้งมองดูกันและกัน  พลางเริ่มสงสัยว่าอะไรกันแน่ที่กำลังรอคอยพวกตนอยู่ในอนาคต  ทำไมคนที่ควรจะตายแล้วถึงสองคนถึงได้มาปรากฏตัวที่นี่ได้  วันพิพากษาหรือ  หรือว่าอะไรกันแน่

    เสียงร้องไห้ของทอมน้อยยุติแล้ว  ราวกับจะขานรับสัญญาแห่งค่ำคืนของเซเวอรัส  สเนป...
    -------------------------------------------------

    "อัลบัส  เซเวอรัส.. ชื่อของลูกตั้งตามอาจารย์ใหญ่สองคนของฮอกวอร์ต  หนึ่งในนั้นเป็นสลิธีรีน  และสำหรับพ่อ  เค้าน่าจะเป็นคนที่กล้าหาญที่สุด"

    "แต่ว่า..."

    "ถ้าเป็นมันแบบนั้น  สลิธีรีนก็จะมีนักเรียนชั้นยอดอีกคนหนึ่ง  มันไม่เป็นไรจริงๆ แต่สำหรับลูก  ถ้ามันสำคัญขนาดนั้น  ลูกสามารถบอกหมอกคัดสรรได้ว่าลูกไม่อยากไปสลิธีรีน   มันจะส่งลูกไปอยู่บ้านหลังอื่นแทน"

    "จริงเหรอครับ  มันทำแบบนั้นเหรอครับ"

    "มันทำกับพ่อแบบนั้นน่ะ"

    นั่นคือการส่งลูกชายคนรองของเค้าสู่ฮอกวอร์ต  ก่อนที่จะเฝ้ามองดูพวกลูกๆ ของเค้าจนกระทั่งรถไฟหายไปกับสายตา  จากนั้นเค้ายกมือขึ้นลูบแผลเป็นที่ไม่เจ็บมาเป็นเวลานานแล้ว  และหันไปหาภรรยา  รวมทั้งเพื่อนรักทั้งสอง "ไปกันเถอะเฮอร์ไมโอนี่  รอน  เราน่าจะไปกินข้าวด้วยกันหน่อย"

    "นั่นสินะ  ชั้นเริ่มเบื่ออาหารฝีมือเฮอร์ไมโอนี่แล้ว"

    "รอน!!"

    หลังจากนั้นเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น  แฮร์รี่โอบเอวของจินนี่และฮิวโก้กับลิลี่ก็จูมือกัน  พวกเค้าเดินไปด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่  ก่อนจะเสียจังหวะเมื่อร่างผอมสูงของเดรโก  มัลฟอยพุ่งออกจากฝูงชนเข้ามาชนเฮอร์ไมโอนี่ล้มลงและมีแอสโทเรีย  มัลฟอยวิ่งตามมาติดๆ

    "นี่นายทำอะไรน่ะ  เจ็บนะ!!!"

    เดรโกไม่สนใจ  พยายามจะวิ่งออกไป  แต่รอนคว้าตัวเดรโกแล้วยิงหมัดเข้าที่ซีกหน้าจนล้มลง "เดรโก!!!" แอสโทเรียร้องอย่างตกใจ  ขณะที่รอนตะโกนสวนกับ

    "ขอโทษเมียชั้นนะเฟ้ย!!!"

    "ชั้นไม่มีเวลา"

    นั่นทำให้รอนฉุนขาด  เค้าพยายามคว้าตัวเดรโกที่พยายามลุกขึ้น  มีแอสโทเรีย  จินนี่ แฮร์รี่ และเฮอร์ไมโอนี่พยายามช่วยห้ามเพราะท่ามกลางสายตาของผู้คน  มันออกจะ  แต่เดรโกกำลังสติแตก  เค้าไม่สนใจใครนอกจากบางสิ่งที่กำลังติดตาม  บ้าจริง  ขืนปล่อยไว้ภาพลวงตานั่นต้องหายไปแน่

    แต่ถ้ามันไม่ใช่ภาพลงตาล่ะ  วินาทีนั้นเค้าตัดสินใจร้องสุดเสียง "ศาสตราจารย์สเนป!!!"

    คำนั้นทำให้พวกที่กำลังชุนมุนเพราะเค้าเหมือนจะช๊อกและหันไปตามสายตาของเค้า  และภาพลวงตานั้นก็หยุดและหันกลับมาเช่นกัน  เวลานั้น  ทั้งเดรโก  แฮร์รี่  รอน  เฮอร์ไมโอนี่  แอสโทเรีย  และ จินนี่ เหมือนถูกหมัดหนักๆ อัดเข้าซีกหน้า

    ศาสตราจารย์เซเวอรัส  สเนปกำลังยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ!!!






    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×