ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *--หัวใจในเงารัก--*

    ลำดับตอนที่ #3 : ๑ - 70%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 866
      6
      27 ก.ค. 60

    คุณอธิปัตย์  พิทักษ์เดชา...เจ้าของธุรกิจน้ำหอมชื่อดังของเมืองไทยที่ใครๆ  ต่างจับตามอง  หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับต่างประโคมข่าวชายผู้นี้ไม่เว้นแต่ละวัน  ไม่เว้นแม้แต่ลูกชายทั้งสองที่สาวน้อยสาวใหญ่มากหน้าหลายตาเฝ้าคร่ำครวญเพ้อฝัน  บ้างก็มีข่าวว่าคิมหันต์และคีรีควงสาวสายไปกินข้าวที่ร้านนั้นร้านนี้  ทั้งที่ความจริงแล้วคิมหันต์แทบจะไม่ได้ก้าวเท้าออกจากบริษัทด้วยซ้ำ

                    ผิดกับคีรี...รายนั้นควงผู้หญิงเป็นว่าเล่น  คบกันไม่ถึงอาทิตย์ก็เปลี่ยนคู่ควงคนใหม่จนคิมหันต์ออกปากเตือนหลายครั้งหากเจ้าตัวหาฟังไม่  ชายหนุ่มยังคงดำเนินชีวิตแบบเดิมๆ  งามการไม่สนใจ  ไม่เคยเข้ามาสนใจงานที่บริษัทแบบจริงๆ  จังๆ  สักครั้ง  จนอธิปัตย์และคิมหันต์ต้องแอบปรึกษากันเงียบๆ  อยู่หลายครั้งหลายครา

                    วันนี้ก็เช่นกัน  คุณอธิปัตย์เรียกลูกชายคนโตเข้ามาคุยภายในห้องนอนใหญ่ที่อยู่ทางปีกซ้ายของคฤหาสน์  เสียงเคาะประตูเพียงเบาๆ  ทำให้คนที่รออยู่รีบส่งเสียงอนุญาตให้เข้ามา  ร่างสูงในชุดนอนแพรสีน้ำตาลเข้มก้าวฉับๆ เข้ามาด้านใน ดวงตาเรียวส่อแววกังวลไม่แพ้ใบหน้าที่ตอนนี้คิ้วเข้มขมวดมุ่นราวมีเรื่องให้ต้องคิดหนัก

                    “พ่อจะคุยเรื่องนายคีใช่ไหมครับ”  อธิปัตย์พยักหน้า  แม้อายุจะล่วงเลยมาเกือบๆ  จะห้าสิบแล้ว  แต่เจ้าตัวยังรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง  แม้แต่ริ้วรอยใบหน้ายังไม่ค่อยจะเห็นเผลอๆ  อาจมีคนนึกว่าอธิปัตย์  พิทักษ์เดชาผู้นี้อายุเพิ่งจะสี่สิบปีซะด้วยซ้ำไป

                    “เราคิดว่าไงถ้าพ่อจะส่งเจ้าคีให้ไปดูแลโรงแรมที่เชียงใหม่”  คิมหันต์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

                    “พ่อคิดว่านายคีมันจะตั้งใจทำงานหรือครับ  ไปอยู่ไกลขนาดนั้น...ผมว่าเละยิ่งกว่าเดิม”

                    “ไม่หรอก  ที่มันไม่สนใจทำงานเพราะรู้ว่ามีเราสองคนดูแลบริษัทอยู่แล้ว  ถ้าส่งไปดูแลที่โน่นก็ให้น้าแกช่วยดูแลอีกต่อหนึ่ง พ่อว่ามันคงหันมาทำงานทำการมากขึ้น”    ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อก็มีเสียงเคาะประตูขัดจังหวะขึ้นมา  การสนทนาจึงหยุดเพียงเท่านั้น  พร้อมๆ  กับที่อธิปัตย์หันเหความสนใจไปยังประตูบานใหญ่

                    “เข้ามาได้เลย  ประตูไม่ได้ล็อก” 

    ประตูบานนั้นถูกผลักออกเบาๆ  ก่อนที่เจ้าของร่างบางจะสาวเท้าเข้ามา  อธิปัตย์ขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อพบว่าผู้ที่มาพบเขายามดึกดื่นเช่นนี้คือวิมลิน

                    “มีอะไรรึเปล่าลิน”   เขาถามทันทีที่วิมลินทรุดนั่งตรงเก้าอี้หนานุ่มข้างๆ  คิมหันต์

                    “คือ...ลินอยาก...”  วินลินเหลียวมองคิมหันต์ก่อนหันกลับไปมองอธิปัตย์...ผ้เป็นพ่อเลี้ยง  “ลินอยากย้ายไปอยู่ที่อื่นค่ะ”

                    ประโยคนั้นทำให้ชายทั้งสองคนภายในห้องเลิกคิ้วขึ้นมาพร้อมกัน

                    “ทำไมล่ะลิน  อยู่ที่นี่ไม่สบายหรือ”

                    “ไม่ใช่ค่ะ  ไม่ใช่เลยค่ะ  คุณอา”  หญิงสาวรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน  “ลินแค่เกรงใจน่ะค่ะ  ความจริงลินก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคนบ้านนี้เลย แล้ว...”  ยังพูดไม่ทันจบประโยค  เจ้าของคฤหาสน์ก็ยกมือห้าม  พลางจ้องหน้าหล่อนเขม็ง

                    “อย่าพูดอย่างนี้อีกนะลิน  อาถือว่าลินเป็นเสมือนลูกสาวของอาเสมอ  ที่สำคัญแม่ของลินก็คือเมียของอานะ  เพราะฉะนั้นอย่าพูดว่าลินไม่เกี่ยวข้องกับคนบ้านนี้อีก”  อธิปัตย์ถอนหายใจยาว ก่อนเอ่ยต่อ

                    “ลินมีเรื่องไม่สบายใจใช่ไหม  มีเรื่องอะไรปรึกษาอาได้นะถือซะว่าอาคือพ่อแท้ๆ  ของลินก็ได้”  วิมลินได้แต่ก้มหน้านิ่ง  มือทั้งสองที่วางบนตักบีบเข้าหากัน  หญิงสาวเหลือบตามองคิมหันต์ก็พบว่าเขามองมาอยู่ก่อนแล้ว  ดวงตาเรียวมีริ้วรอยกังวลแกมหนักใจ

                    “อย่าไปไหนเลยลิน  ที่นี่บ้านของลินเหมือนกันนะ “ 

    เสียงอ่อนๆ  ของชายหนุ่มทำให้วิมลินรู้สึกเต็มตื้นขึ้นมา  ยังดีที่หล่อนยังมีคนคอยปลอบใจและให้กำลังใจอยู่บ้าง 

                    “ถ้าลินไปอยู่ที่อื่น  แม่ของลินจะเป็นห่วงมากนะ  เอางี้ไหมลินไปทำงานเป็นเลขาให้กับน้าพิมที่เชียงใหม่ไหม  เผื่อจะสบายใจขึ้น”  น้าพิมพ์ที่อธิปัตย์พูดถึงคือ  พิมพิลาศ  น้องสาวคนสุดท้องของอธิปัตย์ที่คอยดูแลโรงแรงของตระกูลพิทักษ์เดชาอยู่ที่เชียงใหม่

                    “ไปอยู่ที่นั่นให้สบายใจแล้วค่อยกลับมาเป็นเลขาอาอีกครั้งก็ได้”  คำแนะนำอย่างห่วงใยนั้นทำให้วิมลินถึงกับปฏิเสธไม่ออก

                    “อยู่ที่นู่นอาจะได้ไม่ห่วง...ดีไหม  ลิน”

                    ขณะที่วิมลินกำลังอ้ำๆ  อึ้งๆ  อยู่นั้น  คนที่นั่งเงียบมานานก็โพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

                    “ไม่ดีมั้งครับพ่อ”  คำคัดค้านของลูกชายคนโตทำให้อธิปัตย์เหลือบตามองอย่างคลางแคลง

                    “คือ  มันไม่ไกลไปหรือครับ”  คิมหันต์พยายามหาเหตุผลมาสนับสนุนคำคัดค้านของเขา 

    ...ก็ถ้าขืนปล่อยให้วิมลินไปอยู่เชียงใหม่แล้วบิดาของเขายังไม่ล้มเลิกความคิดที่จะส่งคีรีไปดูแลที่นั้น   วิมลินคงแย่แน่...เจ้าน้องชายตัวดีของเขาคงกัดไม่ปล่อย

                    บิดาของเขารู้แต่เพียงว่าทั้งวิมลินและคีรีไม่ค่อยถูกกันนัก แต่ไม่ได้รู้ลึกซึ้งถึงขนาดที่ว่าคีรีมันจะสรรหาถ้อยคำมาถากถางวิมลินทุกครั้งที่ได้พบหน้ากัน  ที่สำคัญท่านยังไม่รู้ว่า...ลูกชายคนเล็กปักใจเชื่อมั่นว่าคนที่ทำให้มารดาของเขาต้องตายคือสองแม่ลูก...พิกุลและวิมลิน!

                    เขาเองเคยคิดจะเล่าปัญหานี้ให้ท่านฟังหลายต่อหลายครั้งทว่า...เขาก็กลัวจะเพิ่มความเครียดให้กับท่านมากขึ้นไปอีก  จึงทำได้แค่เพียงหุบปากเงียบสนิท  และเป็นฝ่ายไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่าคนทั้งสองด้วยตัวเอง

                    คิมหันต์ขยับตัวอย่างอึดอัด  พลางนึกแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตรงนี้ให้ผ่านพ้นไป

                    “ให้ลินไปอยู่ไกลๆ  มันอันตรายนะครับ”

                    “ไม่หรอก ยังไงก็มีน้าพิมพ์คอยดูแลอยู่  ไม่ต้องห่วงหรอกคิม”  คุณอธิปัตย์หันมายิ้มให้วิมลิน  “ลินอยากไปเที่ยวเชียงใหม่ไหม”

                    หญิงสาวพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น   ไม่เฉลียวในเลยว่าคนที่หล่อนไม่อยากจะเห็นหน้ามากที่สุดก็มีวีแววว่าจะถูกส่งไปที่นั่นเหมือนกัน!

                    “แต่...”  คิมหันต์พยายามข้ออ้างไม่ให้วิมลินถูกส่งไปเชียงใหม่  แต่ผู้เป็นบิดากลับหันมาส่งสายตาปรามๆ

                    “น้องอยากไป  ก็ให้ไปเถอะคิม  จะขัดขวางทำไม”

                    “ผมไม่ได้จะขวางนะครับ  เพียงแค่...”   ชายหนุ่มเหล่มองคนข้างตัวแล้วถอนใจเฮือก  “ช่างเถอะครับ...แล้วเรื่องคีรีที่พูดค้างไว้  คุณพ่อจะว่าไงครับ”

                    คำว่าคีรีทำให้วิมลิมถึงกันสะดุ้งสุดตัว

                    “ก็อย่างที่พ่อบอกนั้นแหละ  เดี๋ยวพ่อจะเรียกมันมาคุยเองเราไม่ต้องห่วงหรอก” 

    คิมหันต์ส่งยิ้มเรียบๆ  ไปให้บิดา  พลางครางในใจ...คนที่ผมห่วงไม่ใช่คีรีหรอกครับพ่อ  แต่เป็นวิมลินต่างหาก!

                    “อยู่ที่นี่อีกสักพักแล้วกันนะลิน  รอให้อาส่งข่าวไปบอกน้าพิมเขาก่อน  แล้วค่อยไปนะ”

                    วิมลินรับคำ  ทั้งดีใจและโล่งใจที่ต่อจากนี้ไปหล่อนจะไม่ได้พบหน้าคนที่ไม่อยากข้องเกี่ยวอีกต่อไปแล้ว 

    ทว่า...ความเป็นจริง  สิ่งที่หล่อนกำลังคิดหวังไว้มันกำลังจะล่มสลายไม่เป็นท่าแม้แต่นิดเดียว! 

     

                    คิมหันต์เดินนำหน้าวิมลินออกมาหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ความอึดอัดและไม่สบายใจทำให้ใบหน้าเรียวเคร่งเครียดจนหล่อนต้องเอ่ยปากทักอย่างเป็นห่วง

                    “เป็นอะไรหรือเปล่าคะพี่คิม”  มือบางเลื่อนแตะแขนชายหนุ่มอย่างนุ่มนวล  ดวงตากลมโตแฝงด้วยประกายเศร้ามองสบดวงตาเรียวอย่างสงสัย

                    “งานที่บริษัทยุ่งมากหรือคะ?

                    “ไม่หรอกลิน”  คิมหันต์ยกมือขึ้นกุมมือนุ่มไว้  “พี่ไม่ได้เป็นอะไร  พี่แค่ห่วงลินเท่านั้นเอง”  สิ้นเสียงทุ้มนุ่ม  วิมลินถึงกับหัวเราะเสียงใส

                    “ห่วงอะไรคะ  เรื่องที่ลินจะไปอยู่เชียงใหม่หรือคะ  ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ  ลินดูแลตัวเองได้”  เมื่อเห็นชายหนุ่มยังคงทำหน้ายุ่ง  คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนเป็นปม  วิมลินจึงส่งยิ่งกว้างไปให้

                    “ลินสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดีๆ  จริงๆ  นะคะ”  รอยยิ้มกระจ่างสดใสนั้นทำให้คิมหันต์ยิ้มตอบอย่างเอ็นดูไม่ได้  เขายกมือขึ้นลูบศีรษะหญิงสาวอย่างรักใคร่

                 “ถึงลินจะไม่ใช่น้องแท้ๆของพี่  แต่ลินก็รู้ใช่ไหมว่าพี่ห่วงลิน  รักลิน”  หญิงสาวพยักหน้า

                    “อยู่ห่างพี่แล้วดูแลตัวเองดีๆ  ล่ะ”

                    “ค่า  ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ พี่ชายสุดที่รักของลิน”  สิ้นเสียงใสๆ  นั้น เสียงหัวเราะของทั้งสองก็ดังประสานกัน ทั้งส่องต่างส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข  ไม่สำเหนียกเลยสักนิดว่ามีใครบางคนมองจ้องฝ่าความมืดมาที่ทั้งคู่ด้วยแววตาวาววับ

                    หลังจากคุยกับคิมหันต์เสร็จแล้ว  วิมลินจึงหมุนตัวกลับตั้งใจว่าจะกลับห้องในทันที  แต่จู่ๆ รู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาจึงเบนทิศจากห้องนอนของตนไปยังห้องครัวที่บัดนี้ปิดไฟมืดสนิทจนมองอะไรแทบไม่เห็น ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะก้าวเข้าไปในนั้น กลับรู้สึกถึงแรงกระชาก แรงเสียจนหล่อนทรงตัวไม่อยู่ เซหลุนๆ ตามแรงนั้นจนปะทะเข้ากับอะไรอย่างหนึ่ง...แข็งแกร่งประหนึ่งกำแพง

                    วิมลินหวีดร้อง แต่เสียงนั้นกลับถูกปิดด้วยมือใหญ่เสียก่อน 

                    “อย่าร้องนะวิมลิน!

    เสียงห้าวนั้นหล่อนเคยคุ้น...จำได้โดยไม่ต้องเงยหน้ามองว่าคนพูดเป็นใคร!

                    “อ่อยอั๋นอ๊ะ

                    หล่อนพูดเสียงอู้อี้พลางดิ้นรนสุดแรงเกิด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×