ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *--หัวใจในเงารัก--*

    ลำดับตอนที่ #4 : ๑ - 120%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 607
      3
      27 ก.ค. 60

    ชายหนุ่มคลายมือจากปากหญิงสาวพลางจ้องสบนัยน์ตาหวาดกลัวคู่นั้นด้วยประกายเพลิงวาวโรจน์

                    “ปล่อยฉันนะ  คุณคีรี!

                    “ไม่ปล่อย! จนกว่าผมจะรู้ว่าคุณไปอ่อยอะไรพี่ชายผมอีก”  ประโยคถากถางเช่นเดิมโพล่งออกมาจากริมฝีปากหยักได้รูปนั้น...เป็นครั้งที่เท่าไรก็คร้านจะนับ วิมลินหน้าตึงเชิดหน้ามองตอบเขาอย่างไม่พอใจ

                    “จะพูดอะไร  ช่วยกรุณาให้เกียรติฉันหน่อยนะคะ”

                    “ทำไม  ก็เรื่องที่ผมพูดมันก็เป็นความจริงนี่  เห็นจับมือจับไม้กัน  ไม่อายผีสางซะบ้างเลยรึไง!”  คนถูกว่าทอดถอนใจอย่างระอากับคนตรงหน้า

                    “ฉันเบื่อจะเถียงกับคุณแล้ว  ปล่อย!”  หญิงสาวดิ้นสุดแรง  แต่วงแขนล่ำสันกลับรัดแน่นขึ้นๆ  จนหล่อนหายใจแทบไม่ออก

                    “นี่คุณกะจะรัดฉันให้ตายเลยรึไง”

                    นัยน์ตาคมกริบเปล่งประกายเจิดจ้า ริมฝีปากยิ้มเหยียดเย้ยหยัน

                    “คุณมันก็เหมือนแม่คุณนั่นแหละ  ได้แต่หลอกผู้ชายไปวันๆ!” 

    สิ้นเสียงนั้น  วิมลิมถึงกับหมดความอดทน  ออกแรงผลักคนตรงหน้าโดยแรงก่อนตวัดมือใส่ใบหน้าสากระคายนั้นอย่างถนัดถนี่

                    เผียะ!

                    เสียงฝ่ามือกระทบเนื้อดังก้อง  คีรีหน้าหันไปอีกทางหนึ่ง

                    ท่ามกลางความเงียบงัน  เสียงหัวใจของวิมลินดังระรัวละม้ายจะปะทุออกมานอกอก  นานช้าเหลือเกินกว่าคนที่โดนตบจะหันกลับมามอง  กองไฟน้อยๆ  ปะทุในแววตาคู่นั้นจนหล่อนนึกกลัวขึ้นมาจับใจ หญิงสาวเตรียมตัววิ่งหนี  ทว่าอีกฝ่ายกลับคว้าหล่อนไว้ได้อย่างทันท่วงที

                    “นี่คุณกล้าตบหน้าผมเหรอ  วิมลิน!

                    “ใช่ฉันกล้าตบหน้าคุณ  เพราะคุณปากพล่อย  ด่าว่าแม่ของฉันเสียๆ  หายๆ  ฉันยอมไม่ได้”

                    “แต่สิ่งที่ผมพูดมันเป็นความจริง...ไม่ใช่หรือเล่า”  คีรีเอ่ยลอดไรฟัน  ใบหน้าคมก้มลงมาเรื่อยๆ  จนห่างกันไม่ถึงคืบ

                    “แล้วคุณจะต้องเสียใจที่กล้ามาลองดีกับผม!

                    กล่าวทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็ผลักร่างบางเต็มแรงจนหล่อนก้นกระแทกกับพื้นกระเบื้องแข็งๆ

                    “คุณเตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย  ผมไม่เลิกราวีคุณแน่!

                    คีรีหมุนตัวกลับ  เดินลงฝีเท้าหนักๆ  จากไป  ขณะที่คนที่นั่งแปะอยู่บนพื้นขบริมฝีปากแน่น ดวงดากลมโตปรากฏรอยแค้นเคือง  มือเล็กกำเข้าหากันแน่น

                ...อีกไม่นาน  ก็จะได้ไปจากที่นี่แล้ว  อดทนเข้าไว้  เธอจะไม่ได้พบหน้าเขาอีกแล้ว  วิมลิน!...

                    หญิงสาวเฝ้าแต่พร่ำบอกตนเองในใจ  ทว่าสิ่งที่หล่อนหวัง ในความเป็นจริงแล้วเปรียบดังแสงสว่างอันริบหรี่เหลือเกิน

     

     

    คฤหาสน์อธิปัตย์ดูจะเงียบไปถนัดใจเมื่อเจ้าของบ้านและลูกชายทั้งสองเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงการร่วมทุนระหว่างสองบริษัท  ร่างบางระหงในชุดดำสะพายเป้ใบใหญ่หลบอยู่ในเงามืดของตัวตึก...ต้องการหลบให้พ้นจากสายตาของพวกสาวใช้แต่ละคน  ความเงียบงันและลมพัดวูบพาดผ่านใบหน้าไม่ได้ทำให้เหงื่อเม็ดเล็กๆ  ที่ผุดพรายจางหายแต่อย่างใด  ตรงกันข้าม  มันกลับทำให้หัวใจของหล่อนเต้นถี่ระรัว  เพราะถ้าโดนจับได้  หล่อนคงไม่มีวันหนีพ้น!

                    วิมลินจรดฝีเท้าเพียงแผ่วเบาขณะเดินอ้อมมาหน้าคฤหาสน์หญิงสาวเหลียวไปมอง...บ้าน...

    บ้านที่ให้ความสุขสมบูรณ์แก่หล่อนมาหลายปี...ถึงเวลาแล้วที่หล่อนต้องเดินออกไปจากชีวิตของครอบครัวนี้เสียที

                    หล่อนทนไม่ได้ที่จะต้องทนอยู่ให้ ใครบางคน  เฝ้าดูถูกอย่างที่แล้วๆ   มา  และยิ่งได้รู้ว่า  เขา’  จะต้องเดินทางไปเชียงใหม่พร้อมกับหล่อน

    อะไรนะคะ ให้คุณคีดูแลลินหรือคะ

    ราวกับฟ้าถล่มลงมาตรงหน้า วิมลินได้แต่จ้องคุณอธิปัตย์ด้วยความตกใจและคาดไม่ถึง

    อากำชับกับเจ้าคีมันแล้วว่าให้ดูแลลินให้ดีๆ ถ้ามันยังกล้ารังแกหนูอีก อาจะลากคอมันมาสั่งสอนเอง!’

    ถึงอีกฝ่ายจะพูดเช่นนั้น แต่ไม่ได้ทำให้วิมลินรู้สึกดีขึ้นแต่อย่างไร ด้วยรู้ดีว่าคนดื้อด้านอย่างคีรีไม่มีวันรามือจากหล่อนแน่

    สิ่งใดที่เขาเกลียด เขาก็จะฝังมันลงบนหัวใจของเขาจนไม่อาจลบเลือนได้!

    ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดที่หล่อนพอจะคิดและทำได้  คือ  หนีและหล่อนต้องหนีให้พ้น!...

                    ไวเท่าความคิด  หญิงสาวรีบวิ่งฝ่าความมืดมุ่งตรงสู่ประตูทองเหลืองบานใหญ่ หล่อนเร่งฝีเท้าอย่างคนใจร้อน  และเพียงโผล่พ้นจากคฤหาสน์มาได้โดยที่ไม่มีใครเห็น  วิมลินถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก  ก่อนที่ความเงียบงันอ้างว้างรอบกายจะจู่โจมเข้ามาจนตั้งตัวไม่ติด

                    ...จะทำอย่างไรต่อไปดีเล่า   หล่อนจะไปพักที่ไหน  ทำงานอะไรในเมื่อเงินติดตัวหล่อนและที่มีอยู่ในธนาคารก็มีไม่มากนัก  แต่มันก็พอที่หล่อนจะใช้เช่าห้องพักและใช้ชีวิตต่อไปได้สักอาทิตย์หนึ่ง

                    หญิงสาวสาวเท้าก้าวต่อไปเรื่อยๆๆ ระหว่างใช้ความคิด  ทางสองข้างของซอยนั้นทั้งเปลี่ยวและมืดมิด  แต่วิมลินมัวแต่ครุ่นคิดจนไม่ระแวดระวังภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น  มอเตอร์ไซค์คันเล็กแล่นสวนมาตามทางพร้อมกับชายฉกรรจ์สองคน พวกมันส่งเสียงผิวปากเมื่อเห็นหญิงสาวรูปร่างบอบบางเดินอยู่กลางถนนเพียงคนเดียว ฝ่ายนั้นไม่รอช้า  กระโดดลงจากรถเข้าไปล้อมหน้าล้อมหลังวิมลินทันที

                    คนที่กำลังจะถูกคุกคามรีบเบี่ยงตัวเดินหนี  แต่หนึ่งในชายฉกรรจ์ไม่น่าไว้ใจสองคนนั้นกลับถือวิสาสะรั้งแขนของหล่อนไว้

                    “เดี๋ยวสิจ๊ะคนสวย จะรีบหนีไปไหนเล่า”  ชายคนนั้นทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอได้อย่างน่าเกลียด

                    “หุ่นดีๆ  แบบนี้  ไปสนุกกับพี่ดีไหมจ๊ะ”

                    วิมลินยังคงนิ่งเงียบ สายตาที่มองพวกมันแข็งกล้าเต็มไปด้วยความขยะแขยง  หญิงสาวสะบัดแขนจนหลุดพลางตั้งหน้าตั้งตาออกวิ่ง  แต่ถึงอย่างไรหล่อนก็หนีไม่พัน  และดูเหมือนจะไม่มีใครสามารถยื่นมือเข้ามาช่วยหล่อนได้เสียด้วย!

    “ปล่อยนะไอ้ทุเรศ!

    “ปล่อยให้โง่สิวะนานๆ  จะมีลาภมาจ่อถึงที่  ใครจะปล่อยให้รอดพ้นมือไปได้วะ”  ทั้งสองต่างรวบเอว  รวบมือ  แถมยังลากเธอหมายจะเข้าไปในพงหญ้าข้างทาง  หล่อนดิ้นสุดชีวิต

                    “ช่วยด้วยค่ะ  ช่วยด้วย!”  เสียงร้องให้คนช่วยสะดุดลงเพียงแค่นั้นเมื่อหนึ่งในนั้นใช้มือปิดปากหล่อนจนแน่น

                    หล่อนท่าจะไม่รอดเสียแล้ว...วิมลินคิดอย่างปลงตก น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างหวาดหวั่นและเสียใจ

                    ในระหว่างความเป็นความตายนั้นเอง  ไฟสองดวงก็พุ่งกราดผ่านเข้ามาพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์  หญิงสาวเริ่มใจชื้นขึ้นดิ้นรนตะเกียกตะกายให้รอดพ้นจากมือของพวกมัน

                    รถคันนั้นแล่นเข้าจอดข้างทางพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของชายผู้หนึ่งก้าวลงจากรถ  ในตอนแรกนั้นวิมลินรู้สึกดีใจเป็นที่สุด แต่ทว่า...รูปร่างอันคุ้นตาอย่างประหลาดทำให้หล่อนถึงกับหน้าถอดสี  ไม่ต้องฟังเสียง  หล่อนก็รู้ว่าคนคนนั้นคือใคร!

    “พวกแกทำอะไรวะ!

    ชายหนุ่มก้าวอาดๆ  เข้ามาหาอย่างเอาเรื่อง  และเพียงแต่เห็นหน้าหล่อนอย่างชัดๆ  เขาก็กระตุกยิ้มมุมปาก

                    “วิมลินไม่นึกเลยว่าจะเป็นคุณ”

                    วิมลินเหลือบสายตามองคีรีแล้วต้องครางในใจอย่างผิดหวังและเสียใจ

                ...เขาคงนึกว่าเธอนัดแนะผู้ชายคนนี้ให้มาพบแน่ๆ  สายตาเขามันฟ้อง!...  ทำไมนะ  ทำไมเธอถึงหนีเขาไม่พันเสียที!

    “พวกแก  ไปให้พ้นเลยไป!” ใช่แค่ตะโกนไล่ยังหยิบปืนขึ้นมาขู่อีกด้วย ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่จะมาพลอดรักกันนะโว้ย! ไป!”  เสียงตวาด แววตาเกรี้ยวกราดเอาจริง และปืนในมือของชายหนุ่มทำให้ชายฉกรรจ์สองคนนั้นล่าถอยไปอย่างลนลาน

    สุดท้ายถนนที่แสนเงียบและมืดมิดสายนั้นจึงเหลือเพียงแค่เขาและหล่อน!

    “คุณนึกยังไงถึงไปคบไอ้กุ๊ยพวกนั้น  แล้วดูซิ  นี่อะไร”  คีรีจับเป้สะพายหลังของเธอ  ถามเสียงแข็ง  “คุณจะหนีตามไอ้สองคนนั้นไปรึไง”

    “ฉันไม่ได้หนีตามเขาคุณน่ะชอบอคติกับฉันอยู่เรื่อยๆ”

    “ไม่ได้หนี  แล้วสะพายกระเป๋าออกจากบ้านตอนมืดๆ  ค่ำๆ  ทำไม  หา!  วิมลิน  ตอบผมมาซิ!

    คนถูกถามได้แต่อ้ำๆ  อึ้งๆ  กันหน้ามองพื้นอย่างไม่รู้ว่าจะตอบถามเขาเช่นไร

    “คุณคิดจะหนีไปไหน”  คีรีคว้าหมับที่ต้นแขนกลมกลึงก่อนออกแรงบีบ  “คุณคิดจะไปจากบ้านผมงั้นเหรอ  คิดหนีทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณของพ่อผมงั้นเหรอ!

    แรงบีบดูจะแรงขึ้นตามอารมณ์ของคนพูดจะวิมลินถึงกับครางเบาๆ  อย่างเจ็บปวด

    “ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน!  ที่สำคัญ ฉันไม่มีวันลืมบุญคุณของคุณอา  สักวันฉันจะกลับมาตอบแทนท่าน”

    “ไม่ต้องมาแก้ตัว  คุณคิดจะหนีไปกับผู้ชายใช่ไหม  ใช่ไหม!”  คราวนี้เขาจับต้นแขนของวิมลินด้วยมือทั้งสองมือ  ก่อนเขย่าแรงๆ  จนศีรษะหล่อนสั่นคลอน

    “อย่าหวังเลยว่าคุณจะทำตามใจชอบได้  ผมไม่มีวันยอมแน่ๆ”  เขาลากหล่อนให้เซหลุนๆ  ตามเขาไปยังรถยุโรปคันเล็กที่จอดนิ่งสนิทอยู่อีกฟากของถนน  จับตัวหล่อนยัดเข้าไปในเบาะหลังแล้วเลี้ยวรถกลับ   พุ่งทะยานไปในทิศทางตรงข้ามกับคฤหาสน์หลังใหญ่

    “คุณ...คุณจะพาฉันไปไหนน่ะ  จะบ้าแล้วหรือไง”

    “ผมไม่ยอมให้คุณหนีไปไหนหรอกวิมลิน  เราสองคนมีเรื่องต้องสะสางกันมากมายนัก  ผมไม่มีทางปล่อยคุณไป!”  คำตอบที่เอื้อนเอ่ยออกมานั้นทั้งเครียดทั้งดุดันจนคนฟังขนลุกซู่ไปทั้งกาย

    ...นี่เขาถึงกับจะฆ่าจะแกงเธอเลยรึไง...

    “คุณคีรี!  คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ  คุณตั้งใจจะทำอะไรกับฉันกันแน่!

    “ไม่ต้องกลัว  ผมไม่คิดฆ่าคุณหรอก”  วิมลินถอนหายใจอย่างโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง  ยังไงหล่อนก็ยังมีชีวิตรอด  แต่ว่าประโยคถัดมาที่เขาเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นทำให้หล่อนถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง

    “ผมแค่ต้องการคุณมารับใช้ผมก็เท่านั้น  คุณกับผมต้องถูกผูกติดอยู่ด้วยกันตลอดไป  วิมลิน!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×