คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #34 : NICE BODY : 29.1
29.1
Our Breath
แบคฮยอนรู้สึกว่าตัวเองนั้นมีความสุขยิ่งกว่าใคร
เพราะการที่ชานยอลคอยอยู่เคียงข้างเขาไม่ห่างนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด
แบคฮยอนรักตัวเองมากและเขาก็จะแบ่งความรักให้ชานยอลตอบแทนเรื่องข้าวเช้าหอมฉุย
ที่นอนอุ่นๆ และรอยยิ้มที่แสนสดใสในทุกๆวันด้วย
“พอใจแล้วรึยัง”
“พอใจแล้วคับคุณครู!” แบคฮยอนตอบตามาอย่างน่ารักพร้อมกับหมุนตัวเป็นวงกลมเพื่อให้ชานยอลได้ดูชุดบนตัว
เสื้อเชิ้ตสีเหลืองอ่อน ทับด้วยสายเอี๊ยมหนังสีน้ำตาล ส่วนล่างสวมกางเกงยีนสีซีดและรองเท้าบูทข้อสูงสีขาว
เจ้าตัวน้อยกระโดดโหยงเหยงไปมาจนชานยอลต้องคว้าไว้กลัวว่ามือไม้จะไปฟาดของในร้านเสียหาย
“หยุดทำตัวปัญญาอ่อนได้แล้ว”
ชานยอลเขกกำปั้นลงกับหัวทุยก่อนจะหันไปยิ้มแห้งๆให้กับพนักงานที่ยืนให้บริการอยู่ใกล้ๆ
แบคฮยอนยู่หน้าอย่าไม่ชอบใจที่โดนชานยอลเอ็ดใส่
หัวทุยเลยบดเบียดกับคางมนอย่างคนไม่ยอมแพ้
จนโดนมือใหญ่ๆเขกลงมาอีกนั่นแหละถึงได้ยอมหยุด
“ฮื่ออออ
ปล่อยเลยเจ็บ”
“ก็มึงดื้ออ่ะ
ไม่ดื้อกูก็ไม่ตีหรอก ...ไม่ต้องมาทำหน้าบึ้งรอบนี้มึงผิด”
“...”
“มาเถอะ
เปลี่ยนชุดแล้วกลับบ้านกัน”
แล้วชานยอลก็จัดการจับก้อนกลมๆย้ายเข้ามาในห้องลองชุดของทางร้าน
ช่วยเจ้าคนตัวเล็กเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะได้กลับห้องพักหลังจากที่ออกมาซื้อของครบแล้ว
แบคฮยอนยังคงทำหน้าบูดบึ้งตอนชานยอลถอดเสื้อออกไปจนเหลือแต่เพียงเนื้อขาวๆที่เปลือยเปล่าต่อหน้าเขา
“งอน?”
“...”
“อย่าเงียบดิวะ”
“ก็ไม่ชอบอ่ะ! นายเอาแต่ดุฉันมาตั้งแต่เช้าแล้วนะ”
ว่าแล้วก็ฟาดมือเรียวเข้ากับแผงอกกว้างเพื่อให้อีกคนได้หลาบจำ
ชานยอลได้แต่คว้าข้อมือเล็กเอาไว้ก่อนที่เขาจะได้รอยมือทั้งห้าบนแก้มตัวเอง “ฮื่อ
ไม่ต้องมาจับเลย นายดุฉันต่อหน้าคนสวยด้วย ชานยอลนายมัน..อื้ออออ~”
ไม่ทันทีจะได้ด่าคนตัวสูงจบประโยคดีนัก
ร่างเล็กจ้อยก็ถูกริมฝีปากหนาเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว
ชานยอลรู้ดียิ่งกว่าใครว่าหากแบคอยอนบ่นเจี้ยวจ้าวต้องมีอะไรมาอุดปากถึงจะยอมหยุด
และมันจะมีสิ่งไหนที่เหมาะไปกว่าริมฝีปากของเขาอีกล่ะ?
ผิวกายของแบคฮยอนนั้นนุ่มมือราวกับผิวเด็ก
แบคฮยอนได้แต่ยอมแพ้ให้กับความช่ำชองของชานยอลที่เอาแต่กวาดลิ้นร้อนๆไปทั่วทั้งโพรงปาก
ยอกเย้าสัมผัสจนแบคฮยอนอ่อนระทวยไปกับรสจุมพิต มือหนาก็แสนจะร้ายกาจลูบไล้ตั้งแต่ช่วงเอวโค้วเว้ามาจนถึงสะโพกงอนงาม
“อื้อ”
“อ่าห์
มึงนี่มัน...” ชานยอลสบถพร้อมกับผลักร่างบางให้แนบชิดกับกระจกเงาบานใหญ่
มองอีกคนที่หอบหายใจเร็วด้วยความเอ็นดูระคนอยากแกล้ง
แบคฮยอนน้ำตาคอเบ้าอย่างน่าสงสาร โดนเขาดุไม่พอ ยังโดนเขากลั่นแกล้ง
แบคฮยอนอายจนไม่รู้จะซ่อนใบหน้าแดงก่ำของตัวเองไปไว้ที่ไหนดี “เดี๋ยวนี้ขี้ยั่วนะ”
“ฉันยังไม่ได้ทำเลย”
“งั้นจะบอกว่ากูโรคจิตไปเองหรอ
..หื้ม?” ปากก็ตั้งคำถาม จมูกก็คลอเคลียใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างไม่รู้เบื่อ
มือหนาที่วนเวียนอยู่แถวๆสะโพกงอนทำให้แบคฮยอนตัวแข็งเป็นหินได้ไม่ยาก
ชานยอลไม่เคยแสดงความรู้สึกออกมามากเท่าวันนี้เลย
ซึ่งมันทำให้แบคฮยอนจนมุมเพราะไม่รู้จะงัดวิธีไหนมาสู้ดี
“ชานยอลนี่ร้านเสื้อผ้านะ”
“ใช่...
มันทั้งแคบ ทั้งร้อน”
“...”
“ไม่ชอบหรอ
หื้ม?”
แบคฮยอนส่ายหัวไปมาอย่างน่าสงสารแต่กลับไม่ได้รับการลดหย่อน
ชานยอลโดนเซ็กส์แอพพีลของแบคฮยอนทำร้ายเข้าอย่างจัง
ขอบชั้นในคาลวินไคล์นสีขาวที่โพล่พ้นขอบกางเกงยีนสีซีดมันดึงดูดให้ชานยอลอยากจะลองกดจูบดูสักที
มือทั้งสองบีบเค้นเนื้อนุ่มนิ่มตรงส่วนบั้นท้ายอย่างห้ามใจไม่ไหว
กรามหนานั้นมีไรหนวดขึ้นมาเป็นตอแข็งๆยามที่เสียดสีเข้ากับลำคอสวยแบคฮยอนจักจี้จนหดคอแทบไม่ทัน
“ชะ ชาน
ไหนบอกว่าให้มาเลือกชุดไปไร่ไง”
“รู้แล้วๆ
ไม่ทำอะไรหรอกน่า”
ชานยอลจูบริมฝีปากน่ารักนั่นแรงๆหนึ่งทีก่อนจะผละออกมาจากร่างบาง แบคฮยอนหวาดผวาสายตาของคนตรงหน้าจนไม่กล้าสบตาด้วย
รอยยิ้มของชานยอลนั้นช่างหวานซึ้งตรึงให้ผู้พบเห็นนั้นแทบละลายเป็นน้ำเหลวๆที่ไม่สามารถยืนด้วยตัวเองได้
“...”
“แต่ที่ไร่...ไม่แน่”
ชานยอลเป็นคนที่ภายนอกยังไง
ภายในก็อย่างนั้น ซึ่งแบคฮยอนเริ่มระแวงชานยอลในจุดๆนี้เสียแล้ว
ก็พักหลังมาเนี่ยจากที่นอนด้วยกันเฉยๆคนตัวโตก็ตีเนียนเข้ามากอดบ้าง หอมบ้าง
หนักสุดก็จูบจนเหนื่อยออ่อนไปกับที่นอน
ไหนจะสายตาเจ้าชู้ที่พราวระยับไปด้วยความเจ้าเล่ห์
ทั้งๆที่เมื่อก่อนนั้นก็ไม่เห็นจะมองกันแบบนี้เลย
ดังนั้นแบคฮยอนจะไม่เข้าใกล้ชานยอลในระยะสองเมตร...
ตลก
ทำได้ที่ไหนกัน
“อยากชวนโซยูไปด้วยจัง”
แบคฮยอนบอกในขณะที่ชานยอลเอาข้าวผัดกิมจิร้อนๆมาเสิร์ฟให้ถึงที่
ในขณะที่ตัวเองกินแค่กาแฟแก้วเดียวกับขนมปัง ก็คิดเอาเถอะว่าใครจะอ้วนขึ้น
นี่ขนาดบ่นเช้าก็แล้วบ่นเย็นก็แล้ว ชานยอลก็ไม่เคยคิดจะลดปริมาณการทำอาหารลงเลย
สองอาทิตย์ให้หลังแบคฮยอนเลยรู้สึกว่าใบหน้าของเขาเริ่มมีแก้มยุ่นๆขึ้นมาแล้ว
“เอาไปทำไม
เกะกะ”
“ก็คิดว่าโซยูคงจะชอบแกะที่ไร่ของนายน่ะซี่”
แบคฮยอนอธิบายให้ชานยอลฟังในขณะที่จ้วงข้าวคำโตเข้าปาก “ย่าห์
บอกกี่ทีว่าไม่ชอบแตงกวา”
“อยากให้กินเยอะๆ
มันดีต่อสุขภาพ”
“เกลียด”
แบคฮยอนไม่ได้สนใจว่าชานยอลจะรู้สึกยังไงตอนที่ตัวเองเขี่ยแตงกวาออกมาข้างๆจาน
เขากินนะไม่ใช่ชานยอลกิน ดังนั้นเขาต้องมีสิทธิเลือกสิว่าจะตักอะไรเข้าปาก
“มึงนี่มันน่าตี”
“งั้นนายก็เอาไปกินดิ
แม่งเหม็นอ่ะโคตรไม่ชอบเลย” ว่าแล้วก็ตักเหล่าแตงกวาที่ไม่รับความสนใจไปจ่อปากหนา
ชานยอลถอนหายใจก่อนจะอ้าปากกินเข้าไปอย่างเบื่อหน่ายในความดื้อด้านของอีกคน
“เห็นมะ ฉันมีคนช่วยกินแตงกวาอยู่แล้วทั้งคน”
“พูดงี้เอาปากมึงมาให้กูจูบเดี๋ยวนี้”
“ชานยอล!”
“แม่ง
มึงมันขี้ยั่ว” ชานยอลชี้หน้าร่างบางอย่างหัวเสีย ในขณะที่แบคฮยอนได้แต่กอดอกหันหน้าหนีอีกคนที่เอาแต่คิดเรื่องอกุศลไม่เว้นแม้แต่ตอนกินข้าว
“เย็นนี้จะไปหาโซยูที่ยิมนะ
ห้ามตามด้วย”
“มึงกล้าบอกกูว่าจะไปหาชู้หรอ! หน้าด้านเกินไปแล้วมึง”
“งั้นวันหลังจะแอบไปหา”
“แรด”
“ชานยอล!!!”
แบคฮยอนลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยอารมณ์โกรธ
ไม่เข้าใจชานยอลเลยจริงๆว่าทำไมเดี๋ยวนี้อารมณ์ขึ้นๆลงๆแล้วต้องมาลงที่เขาตลอด
ทำท่าเหมือนคนท้องมาตั้งแต่วันนั้นแล้วนะ ไม่ชอบใจก็ดุ ไม่พอใจก็ด่า ชอบใจก็จูบ
คอยดูเหอะสักวันจะหนีกลับไปนอนกับคยองซูเหมือนเดิม
“กูหึงมั้ยล่ะ”
“...”
“อยู่กับกูแต่พูดถึงเรื่องคนอื่นเนี่ย”
แบคฮยอนถอนหายใจก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ข้างๆชานยอล
มือเรียวกระชากสายผ้ากันเปื้อนอย่างแรงเพื่อให้ร่างใหญ่โตหันมาทางที่เขายืนอยู่
ดวงตารีเรียวหรี่ลงอย่างไม่สบอารมณ์เลยสักนิด “มองหน้า--”
ยังไม่ทันที่ชานยอลจะพูดจบเลยด้วยซ้ำ
แบคฮยอนก็ทำการปิดปากอีกคนด้วยวิธีการเดียวกันกับตอนเปลี่ยนเสื้อเพียงแค่ไม่ได้วาบหวามเท่าก็แค่นั้นเอง
ซึ่งมันก็ได้ผลชะงัก ชานยอลหยุดด่าหยุดว่าเขาไปโดยปริยาย
“เลิกทำตัวน่ารักได้แล้วยอลยอล”
“...”
“ฉันไม่นอกใจหรอกน่า”
ชานยอลไม่รู้เลยว่าเขาตกหลุมรักคนตรงหน้าเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว
รู้แค่เพียงว่ารักจนไม่อาจหยุดความรักนี้ลงได้อีกแล้ว
แบคฮยอนจะต้องรับผิดชอบกันการกระทำของตัวเองที่ทำให้คนอื่อนหลงรักหัวปักหัวปำอย่างที่ไม่อาจจะถอนตัวได้
เย็นวันนั้นแบคฮยอนและชานยอลไปหาโซยูที่ยิมด้วยกัน
เพื่อชวนไปงานเหยียบองุ่นที่ไร่ โซยูยังคงเหมือนเดิม ยังน่ารักและห้าวหาญ
เธอดูตกใจไม่น้อยกับรูปร่างที่เปลี่ยนไปของแบคฮยอน
โซยูยังชมเขาด้วยว่าผอมลงแล้วดูน่ารักมากๆ
นั่นแหละ...ไม่แปลกเลยที่ชานยอลจะหึงหัวฟัดหัวเหวี่ยงบ่นว่าอยากกลับบ้านเป็นหมีกินผึ้งอยู่คนเดียว
“แบคคคค~”
“อ้อ
พี่ยังเก็บเข็มกลัดของเราเอาไว้อยู่นะ”
“จริงหรอคะ”
แบคฮยอนทำเป็นเมินเฉยต่อเสียออดอ้อนที่แสนน่ารักผิดกับกายใหญ่
สองแขนนั้นโอบเอวของเขาเอาไว้แน่นพร้อมกับหัวสีทองเหลือบหม่นที่คอยมาคลอเคลียอย่างเอาอกเอาใจ
“แบคค้าบบบบ~”
“...”
“กลับบ้านเรากันเหอะน้า”
เห้อคนขี้หึงนี่มัน...
น่ารักชะมัด
50%
การเดินทางจากโซลสู่เชจูใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงเศษๆเท่านั้น
ที่นี่ยังคงมีสภาพอากาศที่เย็นสบายเช่นเดิมแม้ว่าเกาหลีจะอยู่ในฤดูร้อนก็ตาม
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ใครต่อใครต่างก็พากันมาพักผ่อนที่เกาะเชจูแห่งนี้ งานเก็บองุ่นของที่ไร่เลยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมไร่เป็นจำนวนมาก
ชานยอลบอกให้แบคฮยอนลาตั้งแต่วันศุกร์เพื่อที่จะได้มาเซอร์เวย์ก่อน
อีกทั้งแบคฮยอนจะได้ทำความรู้จักกับครอบครัวของเขาด้วย
ตอนเจอยูราครั้งแรกแบคฮยอนตัวสั่นเทิ้มยิ่งกว่าเจ้าเข้า
ไหนจะพ่อของเขาที่เข้าบ้านมาตอนช่วงบ่ายโดยไม่มีการบอกล่วงหน้านี้ด้วย
แบคฮยอนเกือบหัวใจวายตายเพราะความตื่นเต้น
“คนที่บ้านไม่อยากให้นายคบกับผู้ชายใช่มั้ย”
“ก็ไม่หนิ”
“แต่พ่อนายทำหน้าเหมือนโกรธนี่น่า
พี่ยูราก็พูดน้อย ฮื่อ~ ทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ”
เจ้าคนตัวเล็กนั้นน่ารักน่าชังเป็นที่สุดเมื่อยามที่จมูกแดงเถือกพร้อมที่จะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ
เขาจะพูดอะไรมากไม่ได้ ในเมื่อคนทั้งบ้านพร้อมใจกันแกล้งแบคฮยอนกันขนาดนี้
ใช่ว่าครอบครัวปาร์คจะไม่รู้จักบยอนแบคฮยอน
พวกเขารู้จักดียิ่งกว่าอะไร ทั้งจากปากของเจ้ายักษ์หูกางของบ้านเอง
และจากที่พากันไปตามสืบเอง ดังนั้นถ้าไม่ยอมรับแบคฮยอนตั้งแต่แรกก็คงจะสั่งให้เลิกกันไปนานแล้ว
“อย่ากลัวไปเลย
กูอยู่ข้างๆทั้งคน”
ครอบครัวปาร์คเอ็นดูคนตัวเล็กๆยิ่งกว่าอะไรดี
เพราะที่นี่นอกจากแม่เลี้ยงปาร์คแล้ว ก็มีแต่คนตัวสูงใหญ่ ร่างกายกำยำเต็มไปหมด
ไม่เว้นแม้แต่พี่ยูราที่สูงเหยียบร้อยเจ็ดสิบสี่
ในขณะที่แบคฮยอนสูงเพียงแค่ร้อยเจ็ดสิบสอง(ที่แอบโกงมานิดหน่อย)
ถ้าเกิดตระกูลปาร์คไม่ชอบแบคฮยอนแล้วล่ะก็เอาปืนมาไล่ยิ่งชานยอลได้เลย
“ตะ
แต่แม่ชานยอลยังชอบฉันอยู่ใช่มั้ย ...ตอนที่เจอกันครั้งนั้น”
“อื้อ
ชอบมึงมากเลยล่ะ”
“แล้วตอนนี้แม่นายอยู่ไหนอ่ะ”
“น่าจะทำขนมอยู่ในครัว”
“งั้นเดี๋ยวฉันไปช่วยแม่ชานยอลทำขนมดีกว่า”
ว่าแล้วก็ย้ายร่างนุ่มนิ่งของตัวเองเข้าไปในครัว
โดยทิ้งเจ้ายักษ์ที่มาด้วยกันเอาไว้ที่ห้องรับแขก
คนตัวเล็กกระโดดโหยเหยงเข้าไปในครัวด้วยความสดใส
จนไม่ทันสังเกตว่าบนชั้นสองนั้นมีพ่อเลี้ยงปาร์คและพี่ยูราเฝ้ามองอยู่ทุกย่างก้าว
“คุณน้ามีอะไรให้ผมช่วยมั้ยคับ”
แบคฮยอนชะเง้อคอมองตามถาดที่อยู่บนโต๊ะด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ก็ที่บ้านซอนมีไม่ค่อยชอบทำอาหารฝรั่งเท่าไหร่นี่นา เพราะงั้นมันเลยดูน่าตื่นตาตื่นใจไปหมดเวลาเข้ามาอยู่ในครัว
แม่เลี้ยงปาร์คเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับหนุ่มน้อยแสนน่ารักแฟนของเจ้าลูกชายตัวแสบ
ขณะที่มือก็จับเครื่องตีเอาไว้อยู่
“น้าอะไรกันล่ะเด็กคนนี้นี่”
“...”
“ห้ามเรียกแบบนั้นอีกน่ะ
ต่อไปนี้ต้องเรียกว่าแม่”
“อะ
เอ๋?”
“ไม่เอ๋
จะช่วยใช่มั้ย งั้นเดี๋ยวหนูเอาฐานพายออกมาจากเตาอบให้หน่อยนะ” ถึงแม้แบคฮยอนจะยังคงทำหน้างงๆ
แต่ทว่าขากลับก้าวเข้าไปเปิดเตาอบ
สวมถุงมือกันความร้อนแล้วดึงเอาพิมพ์ออกมาตามที่แม่เลี้ยงสั่ง
แบคฮยอนรีบวิ่งเอามาวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆกับแม่เลี้ยงในขณะที่ฐานพายในแม่พิมพ์ยังร้อนๆ
“แล้วยังไงต่ออ่ะคับ”
“เอาสตรอว์เบอร์รี่ใส่ไปก่อนนะ
แล้วค่อยเอาครีมซีสที่แม่ทำมาเทใส่ลงไป”
แบคฮยอนพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะรับถ้วยที่เต็มไปด้วยสตรอว์เบอร์รี่มาจากแม่เลี้ยง
แบคฮยอนใช้มือของตัวเองค่อยๆวางสตรอว์เบอร์รี่ลงไปบนฐานพายอย่างใจเย็น
“อันนี้เป็นของจากไร่หรอครับ”
“ใช่จ่ะ
แหมจะให้ไปซื้อของคนอื่นอีกก็กะไรอยู่ จริงมั้ย” แบคฮยอนพยักหน้าตามอย่างเห็นด้วย
สวนมือก็เริ่มตักครีมชีสนุ่มหยุ่นลงมาเทใส่ทับกับสตรอว์เบอร์รี่
“ใส่ให้พอดีกับตัวฐานนะ แล้วเดี๋ยวจะมีแยมมาใส่อีกชั้นหนึ่ง”
มือของแม่เลี้ยงอุ่นมากๆ
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าชานยอลได้พันธุกรรมนี้มาจากใคร
แม่เลี้ยงมองดูใบหน้าจิ้มลิ้มที่มุ่งมั่นตั้งใจทำอย่างนึกเอ็นดู
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชานยอลถึงได้รักไม่ยอมถอดใจง่ายๆอย่างนั้น
แม่เลี้ยงยื่นสตรอว์เบอร์รี่ให้ปากเล็กๆได้ชิมความหวาน ก่อนที่ตัวเองจะโรยท็อปปิ้งด้วยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ลงไป
“เดี๋ยวหนูโรยไอซิ่งแทนแม่ให้หน่อยนะ
แม่ต้องขอตัวไปคุยเรื่องต้นฉบับก่อน”
“อะ อ๋า
ได้คับ” ดวงตารีเรียวนั้นกลายเป็นเส้นตรงเมื่อคนตัวเล็กยิ้มจนตาเล็กยี
แม่เลี้ยงยิ้มเบาๆก่อนจะเดินออกไปจากห้องครัว แบคฮยอนโรยไอซิ่งแบบพอดีๆบนหน้า
ยอมรับว่ามีบ้างที่แอบหยิบสตรอว์เบอร์รี่เข้าปาก
ก็แหม...สตรอว์เบอร์รี่จากที่ไร่ชุนฮโยมันหวานหอมขนาดนี้จะให้แบคฮยอนอดใจยังไงไหว
“พี่ไม่ชอบ!”
“ยูรา
อย่างี่เง่าสิ!”
“แกนั่นแหละ
ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองจะได้เป็นพ่อเลี้ยงแล้วต้องทำอะไรบ้าง! แกต้องมีลูก”
เสียงโหวกเวกเหล่านั้นยังคงดังก้องราวกับไม่รู้ว่าแบคฮยอนี่อยู่ในห้องครัวนั้นได้ยินมันทั้งหมด
ร่างเล็กได้แต่ตัวสั่นเทิ้มเพราะเสียงอึกทึกที่ห้องโถง
แท้จริงแล้วชานยอลเพียงแค่ปลอบให้เขารู้สึกดีก็เท่านั้นเอง
ที่ผ่านมาเขาเองก็ลืมนึกไปว่า ความรักระหว่างสองเรานั้นมันไม่ยั่งยื่น
แบคฮยอนสะกดกลั้นความรู้สึกที่อัดแน่นทั้งหมดเอาไว้ ก่อนจะเดินไปยังต้นเสียง
“พ่อว่าเลิกเถอะ”
“ไม่ครับ
ผมไม่เลิก” เจ้าตัวจ้อยเดินไปหยุดอยู่ข้างๆชานยอลพลางส่ายหน้าไปมา
มือเรียวนั้นคว้าเข้าที่มือหนาพลางบีบเอาไว้ให้รู้ว่าต่อให้เรื่องนี้จะจบลงยังไง
แบคฮยอนก็จะยังคงอยู่ตรงนี้ “ถึงผมจะมีลูกไม่ได้
แต่เราจะแก้ไขปัญหานี้ด้วยกันครับ”
“แก้ยังไง
เธอลองมองดูตัวเองก่อนเถอะ”
“...”
“ลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวเองเป็นผู้ชาย”
“ครับผมเป็นผู้ชาย
แต่ชานยอลบอกว่าถ้าไม่มีผมมาเป็นแม่เลี้ยง ชานยอลก็จะไม่เป็นพ่อเลี้ยง ดังนั้น..
เราทิ้งไร่เอาไว้แล้วหนีไปด้วยกันตอนนี้ก็ยังได้” แบคฮยอนพูดด้วยความหัวรั้น
แต่ตัวนี้ยังติดสั่นเทิ้มแถมยังเกาะแขนของชานยอลเอาไว้แน่น
ยูราเลยเป็นคนแรกที่หลุดหัวเราะออกมาเสียดังลั่น
“ไม่ไหว
คิกๆ.. แฟนแกน่ารักจัง”
“ฮ่าๆๆ
นี่มันไอ้ตัวแสบ” ทุกคนหัวเราะรวนไม่เว้นแม้แต่ชานยอล นั่นจึงทำให้แบคฮยอนงงไปหมด
อะไรกัน...ตระกูลปาร์คนี่บ้ากันไปหมดแล้วรึไงกัน
“หัวเราะกันทำไมอ่ะ”
แบคฮยอนยู่หน้าพร้อมกับค่อยๆซ่อนตัวเข้าไปหลบอยู่ใต้รักแก้ของชานยอลราวกับว่ามันจะสามาถป้องกันภัยให้ได้
“แกล้งกันใช้มั้ย ชานยอลเค้าแกล้งไม่ชอบฉันหรอ”
“ก็มึงมันหน้าโง่อ่ะ
บอกไงแล้วว่าที่บ้านชอบมึงทุกคน”
“ใจร้ายอ่ะ
จะเอาไปฟ้องแม่เลี้ยงให้หมดเลย”
เห็นท่าทางที่น่ารักน่าชังของแบคฮยอนแล้วก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
ดูท่าทางแล้วคงจะหัวเสียไม่น้อยที่รู้ว่าตัวเองนั้นถูกรุมแกล้งอยู่คนเดียว ชานยอลจะไม่บอกก็ได้ว่าคนที่ช่วยวางแผนแกล้งเกือบครึ่งนั้นเป็นแม่เลี้ยงของไร่ที่หลบไปหัวเราะอยู่หลังครัว
ชานยอลเป็นยังไงครอบครัวปาร์คก็เป็นอย่างนั้น
ดังนั้นแบคฮยอนเลยเข้ากับครอบครัวปาร์คได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะกับคุณย่าที่แบคฮยอนตามติดแจยิ่งกว่าลูกหมา อีกทั้งความน่ารักสดใสที่ล้นทะลักของแบคฮยอนนั้นทำให้เขากลายเป็นที่รักของคนงานในไร่ไปโดยปริยาย
“คุณหนูคะ
พวงนั้นยังไม่สุก”
“อ๋า
จริงด้วย”
ตลอดช่วงเช้าไปจนถึงบ่ายที่ไร่มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกมากมายหลักๆก็มีให้เก็บองุ่นมาแลกไวน์กลับบ้าน
ใครเก็บมากก็แลกกลับไปได้มาก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังทำให้การเก็บเกี่ยวผลผลิตในไร่มีประสิทธิ์ภาพมากขึ้น
องุ่นทำไวน์ห้าไร่จึงไม่จำเป็นต้องใช้คนงานทำให้เปลืองแรง
นอกจากนี้ทางส่วนของโรงกวนแยมก็มีการสาธิตวิธีการทำเพื่อให้เหล่าแม่บ้านได้นำวิธีเหล่านี้ไปทำแยมโฮมเมดเองที่บ้านด้วย
แบคฮยอนอยู่เก็บองุ่นกับชานยอลสองคน
ส่วนพ่อเลี้ยงรับหน้าที่พาแขกและหุ้นส่วนของทางไร่เที่ยวชมชุ่นฮโยแห่งนี้
พี่ยูรารับโชว์ขี่ม้าแข่งกับคนงานในไร่เพื่อเปิดงานในเวลาหกโมงเย็น
“แหะๆ
ฉันเก็บผิดอีกแล้วอ่ะชาน”
“แยกไว้แล้วเอากลับไปกินบ้านก็ได้”
ชานยอลบอกให้แบคฮยอนหยิบเอาองุ่นพวงที่ยังไม่แก่ดีของตัวเองออกจากตระกร้า
ซึ่งแบคฮยอนก็พยักหน้าทำตามอย่างว่าง่าย
แดดที่ส่งลงมานั้นก็ไม่ร้อนมากนักทุกคนจึงช่วยกันเก็บองุ่นอย่างสนุกสนาน
“ชอบองุ่นหรอ”
ชานยอลถามเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวจ้อยนั้นแอบเด็ดงุ่นลูกโตเข้าปากอีกแล้ว และดูท่าชอบใจถึงขนาดที่พยักหน้าหงึกหงักพร้อมกับยิ้มตาหยี๋
“อะไรกินได้ฉันก็กินหมดแหละ”
“งั้นไปตรงไร่นู้นดีกว่า
ตรงนี้เป็นองุ่นทำไวน์ เปลือกจะหนากว่าองุ่นปกติดังนั้นมันจะหวานและติดฝาดนิดๆ”
ชานยอลนั้นก็ช่างเอาใจเสียเหลือเกิน เพียงแค่ได้เห็นปากจิ้มลิ้มนั่นฉ่ำไปด้วยน้ำผลไม้ก็ทำให้ชานยอลมีความสุขได้ไม่ยาก
ต่อให้แบคฮยอนอ้อนว่าอยากจะกินมันให้หมดทั้งไร่ชานยอลก็จะขนเอามาให้อย่างไม่มีขัด
คนงานเห็นแล้วต่างก็พากันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
เพราะในที่สุดว่าที่พ่อเลี้ยงก็ยิ้มให้กับต้นไม้ทุกต้นในไร่ได้เสียที
โดยเฉพาะทุ่งดอกทานตะวันที่พึ่งมีใหม่ของทางไร่
ทุกชีวิตนั้นหล่อเลี้ยงซึ่งกันและกันเพื่อพากันไปยังรุ่งอรุณแห่งเช้าวันใหม่
“ยัยนางสาวซัมมาแล้วนะ
มึงยังแต่ตัวไม่เสร็จอีกหรอ”
ชานยอลเคาะเบาๆที่บานประตูเพื่อเร่งให้คนที่อยู่ด้านในนั้นจัดการตัวเองเร็วขึ้น
แขกบ้านแขกเรือนเต็มไปหมดและชานยอลต้องคอยต้อนรับส่วนหนึ่งด้วย
แต่ดูท่าว่าเจ้าตัวจ้อยจะยังไม่ยอมออกมาจากห้องน้ำเนี้ยสิ
“แปบนึง
จะเสร็จแล้ว”
“งั้นรออยู่ที่เตียงนะ”
“อื้อ”
ว่าแล้วมือเรียวก็รีบจัดการตัวเองให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
ก่อนจะเปิดประตูออกมาอย่างแรง ร่างบางที่อยู่ในชุดสีเหลืองนั้นแสนน่ารัก เจ้าตัวค่อยๆเดินไปหาคนที่สูงกว่าก่อนจะดึงแขนฉุดให้คนตัวโตลุกขึ้นจากเตียงนอน
“อ่ะ!”
แต่ร่างสูงกว่ากลับกลั่นแกล้งโดยการฉุดให้แบคฮยอนโอนเอนเข้าหาแผงอกกว้างของตนเอง
แบคฮยอนนั้นแสนน่ารักในขณะที่ชานยอลก็หล่อคมเข้มสมกับเป็นลูกชาวไร่
กดจมูกโด่งของตัวเองเข้าที่ซอกคอขาวก่อนจะสูดความหอมเข้าเต็มปอด
“ชื่นใจจัง
ใส่อะไรมา”
“ละ
โลชั่นในห้องน้ำไง”
“งั้นใส่อีกบ่อยๆนะ”
จมูกหนายังคงคลอเลียไม่เลิก แบคฮยอนจะละลายอยู่แล้ว “กูชอบ”
แบคฮยอนเขินจนต้องซุกหน้าเข้ากับชุดสูทตัวเก่งของชานยอล
วันนี้ชานยอลเป็นเหมือนสายลับคิงส์แมน ที่สุขุม นุ่มนวล ทว่าแข็งแกร่งในการทำงาน
ท่อนแขนของชานยอลโอบรอบตัวของแบคฮยอนไว้ได้ทั้งหมด
กลิ่นหอมเย็นสบายของชานยอลนั้นได้กลิ่นทีไรก็รู้สึกอุ่นใจ
“ชอบทำให้เขิน”
“แต่ก็ชอบนี่”
ชานยอลเชยคางมนให้เงยขึ้นมาสบตากันก่อนจะยิ้มกริ่ม
ดางตากลมโตของชานยอลนั้นพราวระยับไปด้วยความเจ้าเล่ห์ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะได้รางวัลที่ทำตัวน่ารักเป็นกิ๊ฟดอกเดซี่
มือเรียวยื่นไปแตะเบาๆก่อนจะยิ้มขวยเขิน “ใส่คู่กัน”
ชานยอลเองก็มีเหมือนกันแต่เพียงเหน็บเอาไว้ตรงกระเป๋าเสื้อแทนที่จะเหน็บปากกาหมึกยาพิษ
ชานยอลทำให้แบคฮยอนคิดถึงนิยายรักสุดโรแมนติกของแม่เลี้ยงที่เขาได้อ่านตอนเช้า
ตอนนั้นเป็นฉากที่พระเอกเปียผมให้นางเอกพร้อมกับทัดดอกไม้เข้าที่ข้างหู
แต่เพราะแบคฮยอนไม่ใช่ผู้หญิงชานยอลเลยจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการ
“ป่ะ
เข้าไปในงานกัน”
ภายในงานนั้นคลาคล่ำไปด้วยนักธุรกิจและนักลงทุนมากมาย
อีกทั้งผู้กำกับหนังชื่อดังที่กำลังยืนชนแก้วกับแม่เลี้ยง แบคฮยอนรู้สึกว่าตัวของเขานั้นหดเล็กลงเรื่อยๆจนต้องขยับตัวไปซ่อนอยู่ด้านหลังของชานยอล
“ชานยอล
มานี่หน่อยสิจ๊ะ” แม่เลี้ยงหันมากวักมือเรียกลูกชายตัวดีให้เข้ามาทักทายกับผู้กำกับที่ยังเป็นหนุ่มหล่อ
ชานยอลยิ้มบางๆก่อนจะโค้งให้อย่างสุภาพ
“หน้าตานี่เหมือนพ่อมากๆเลยนะครับเนี่ย”
“ครับ
แต่ว่าตาของผมเหมือนแม่” แบคฮยอนได้แต่ยืนมองทั้งคู่พูดด้วยความตื่นเต้น
ผู้ชายสองคนนี้ฮอตที่สุดในงานแล้วมั้ง
ฮอตจนแบคฮยอนอยากจะเดินหลบฉากไปยืนอยู่กับโซยูซะเดี๋ยวนี้ แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้นเมื่อมือใหญ่ของชานยอลดันเอวของเขาให้มายืนข้างๆกัน
“เด็กคนนี้...”
“นี่แฟนผมเองครับ”
แบคฮยอนไม่เคยออกงานสังคมมาก่อน เขารู้สึกแย่ที่ดันใส่ชุดเหมือนเด็กปัญญาอ่อนคนเดียวในงาน
ทั้งๆที่คนอื่นๆนั้นใส่สูทเท่ๆที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากหนังสายลับคิงส์แมน
“พ พยอน
แบคฮยอนครับ”
“หน้าตาน่ารักใช่มั้ยล่ะจ๊ะ”
แม่เลี้ยงโอ้อวดพร้อมกับคว้าไหล่บางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตัว
“งั้นเดี๋ยวคุยกันไปก่อนเลยนะจ๊ะ แม่ว่าจะพาไปแบคฮยอนเตรียมตัวเพื่อเปิดงานสักหน่อย”
“มะ แม่!”
แม่เลี้ยงลักเจ้าคนน่ารักมาอย่างง่ายดาย
ท่ามกลางสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งของเจ้าลูกชายตัวแสบ ยิ่งไปกว่านั้นแบคฮยอนหน้าเหวอยิ่งกว่าอะไรดีไม่รู้ว่าแม่เลี้ยงนึกใจอะไรถึงพาเขาออกมาจากชานยอล
แบคฮยอนถูกแม่เลี้ยงลากมาที่ลานด้านหน้าสุด
จากนั้นก็มีแม่บ้านมากมายพากันมารุมล้อมรอบตัวเขาเต็มไปหมด
ร่างเล็กถูกผลักให้นั่งลงกับเก้าอี้ข้างๆถังไม้โอ๊คขนาดใหญ่ก่อนที่รองเท้าของเขาจะถูกถอดออกไปเหลือเพียงเท้าเปลือยเปล่า
เหล่าแม่บ้านจัดการล้างมันอีกครั้งด้วยน้ำอุ่นร้อนแล้วจึงเช็ดให้แห้ง
ขณะนั้นเองที่เสียงกรุบกรับดังไปทั่วทั้งบริเวณ ม้าขาวสะอาดแสนปราดเปรียววิ่งเข้ามาด้านที่เขาอยู่พร้อมกับพี่ยูราที่บังคับบังเหียนอยู่ด้านบน
“ว้าว”
ทุกคนโดยรอบให้ความสนใจกับพี่ยูราเป็นอย่างมาก
เพราะแม้แต่เขายังนึกอดชื่นชมในใจไม่ได้
พี่ยูราลงมาจากมาก่อนจะหันมายิ้มพร้อมกับชูสองนิ้วให้เล็กน้อย จากที่ตรงนี้แบคฮยอนเห็นโซยูด้วย
เธออยู่ใกล้ๆกับคุณพ่อของชานยอลคิดว่าคงกำลังพูดเรื่องแชมป์เหรียญเงินนักกีฬาเทควันโด้อยู่แน่ๆ
“แบค!”
เสียงทุ้มนั้นดังมาแต่ไกล
แบคฮยอนหันไปตามเสียงก่อนจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อเห็นว่าชานยอลกำลังวิ่งมาหาตัวเอง
พระเอกคิงส์แมนสุดหล่อวันนี้ทำตัวดีอย่างที่แบคฮยอนคาดไม่ถึงในหลายๆด้าน
ทั้งความสุขุมลุ่มลึก และการพูดคุยอย่างเป็นทางการกับผู้ใหญ่
ชานยอลนั้นวางตัวได้ดีจริงๆ
“ไม่คุยกับแขกแล้วหรอ”
“ก็มึงโดนแม่แกล้งหอบเอามาไว้ตรงนี้จะไม่ให้กูเป็นห่วงได้ไง”
มือหนานั้นยังคงร้ายกาจเสมอต้นเสมอปลาย แบคฮยอนเจ็บนิดหน่อยตอนที่มันเขกลงมาที่กลางหัว
“ไม่สุภาพเหมือนเมื่อกี้เลย
ไม่ประทับใจ”
“ทำไม? ชอบให้พูดเพราะๆหรอ”
“อื้อ~ ชอบสิ นายดูเหมือนพวกสายลับ”
“แล้วถ้ากูพูดเพราะๆทั้งวัน
กูจะได้อะไร” ชานยอลก้มใบหน้าลงมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สั่นสะเทือนไปทั้งใจ
แบคฮยอนเบือนหน้าหนีก่อนจะตอบกลับมาเบาๆ
“แบคฮยอนจะไม่ขัดใจทั้งวัน”
“ดีครับ
...ผมชอบ”
เทยสวยชิคๆ
เรารู้นะว่าพวกเธอคิดอะไร
เลยทรมารเธอด้วย จุด หนึ่ง
อิอิ
แล้วจะคืนความสุขให้ใน จุดสอง
รักพวกแกสุดใจ
ความคิดเห็น