ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [exo] 'NICE BODY' || CHANBAEK #แบคฮยอนอ้วน

    ลำดับตอนที่ #36 : NICE BODY : 30

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.93K
      20
      27 ส.ค. 58

    30

    Our Dream










      



    มีคนเคยบอกว่าอย่าเล่นกับเวลา เพราะบางครั้งเพียงแค่เผลอหลับตาลงเวลานั้นอาจจะหมุนเร็วกว่าเดิมได้ แบคฮยอนไม่เคยรู้สึกว่าใจหายเท่าวันนี้มากก่อน หนึ่งเทอมที่เขาได้รู้จักกับคนในยอนเซ และได้รับบทเรียนต่างๆมากมายเข้ามาในชีวิต แบคฮยอนไม่อยากกลับไปที่ม.โคเรียซะแล้ว

     

    ทำไงได้ ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเขามาแต่แรก

     

    หลังวันที่สอบไฟนอลเสร็จ รุ่นพี่และพวกเพื่อนๆที่คณะก็ได้จัดงานเลี้ยงอำลาให้แบคฮยอนและคยองซูก่อนกลับด้วย มันน่าซาบซึ้งใจจริงๆ ในงานกำหนดไว้ว่าให้แต่งตัวเป็นผี ผีจากประเทศอะไรก็ได้ขอแค่ว่าต้องเป็นผีเท่านั้น เครื่องดื่มและขนมต่างๆนั้นเหมือนกับวันฮาโลวีนไม่มีผิด ไม่ว่าจะเป็นค็อกเทลลูกตาคน หรือแม้กระทั่งเค้กหัวใจคน

     

    แต่คนอย่างแบคฮยอนมีหรือที่จะไม่กิน

     

    แน่นอนว่ารายนี้ฟาดเรียบจนคยองซูต้องห้ามเอาไว้ก่อนที่จะกินมันทั้งหมด วันนี้แบคฮยอนดูดีในลุคของแดร็กคูล่าตัวน้อย เมคอัพตาหนักๆนั่นทำให้เจ้าตัวดูแปลกตาไปเลยจนหลายๆคนต้องทัก แน่นอนว่าแบคฮยอนจะต้องคิดเข้าข้างตัวเองว่าวันนี้หล่อเป็นพิเศษ

     

    “แบคฮยอน!

     

    มือเรียวที่กำลังจิ้มลูกตาในแก้วค็อคเทลเข้าปากนั้นชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะค่อยๆหมุนตัวไปตามต้นเสียง ร่างสูงใหญ่กำยำมาในชุดผีนักฟุตบอลนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากพี่ลีมินโฮ มือใหญ่นั้นเอื้อมมาลูบที่หัวเขาเบาๆพร้อมกับยิ้มหวาน

     

    “งื้อออ~ อย่าทำแบบนี้เดี๋ยวเมียที่บ้านหึง”

     

    “เมียที่บ้าน?”

     

    “ก็ชานยอลไง” มินโฮถึงกับหัวเราะออกมาดังลั่นเมื่อได้ยินคนตัวเล็กกว่าพูดอย่างนั้น แบคฮยอนยู่หน้าก่อนจะยัดขนมเข้าปาก “ไม่ต้องหัวเราะเลย พี่อ่ะชอบแกล้งผม”

     

    “ก็เราน่ารัก.. นี่ถ้าขาดเบ้อย่างเราไปชมรมฟุตบอลของพี่ต้องแพ้ม.โคเรียแน่ๆ”

     

    “ดีเลย ม.ใครใครก็รัก รู้จักคำนี้ยัง”เจ้าเด็กคนนี้นี่มันปากเก่ง เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ เดี๋ยวเหอะ จะสั่งไอ้ชานยอลไปจัดการเสียให้เข็ด จะได้รู้ซะบ้างว่าไม่ควรมาแหย่หนวดเสือ

     

    “พนันกันมั้ยล่ะว่าถ้าวันแข่งยังเชียร์ทีมโคเรียได้อยู่ พี่เลี้ยงเหล้า แต่ถ้าโดนชานยอลลากมาอยู่ทีมยอนเซได้พี่เลี้ยงเหล้า พร้อมกับความรักสองหยด”

     

    “ห๊ะ”

     

    “ไปละ ไว้เจอกันใหม่นะไอ้น้อง”

     

    แบคฮยอนได้แต่อ้าปากพะงาบๆ เพราะพี่มินโฮพูดทิ้งเอาไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกไป เขาได้แต่เกาหัวอย่างขำๆที่พี่เขาแต่งตัวมาซะดิบดีเพื่อแค่มาเจอเขาเท่านั้น ที่จริงก็พูดไปอย่างนั้นแหละ เห็นกัปตันที่คอยแกล้งเขามานานมันเลยมีความคิดที่ยากจะลองดื้อบ้างก็เท่านั้นเอง

     

    “แบค งานเริ่มแล้ว”

     

    “เหี้ย!

     

    โถ่ถัง นี่ถ้าไม่ใช่เพื่อนรักแล้วล่ะก็แบคฮยอนถีบจริงๆด้วย มีอย่างที่ไหนชอบเอามือเย็นๆของตัวเองมาวางบนไหล่คนอื่นแล้วพูดเสียงต่ำน่ะหื้อ เอ้อ แล้วอีกอย่างนะ การแต่งชุดดำทั้งตัวแล้วโปะแป้งที่หน้าให้ดูขาวๆนั้นมันไม่ได้เรียกว่าผี เขาเรียกว่าขี้เกียจ จำไว้ด้วยคยองซู!

     

    “ทำตัวแต๋วแตก”

     

    “ฉันไม่ได้แต๋วแตก ก็นายทำไมไม่ทักเหมือนคนดีๆแบบชาวบ้านล่ะหื้อ” แหนะ ยังมาทำหูทวนลมใส่อีก แบบนี้มันวอนโดนกระทืบแล้วไหมล่ะหื้ม

     

    “เลิกบ่นเหอะ หูจะแตก”

     

    “มึงนี่มันเพนกวิน”

     

    ผั๊วะ

     

    “ถึงเพนกวินจะกินทูน่า แต่ฉันไม่ใช่แพนกวิน”

     

    แล้วทำไมต้องโบกหัวเพื่อนด้วยวะ! แบคฮยอนโคตรไม่เข้าใจเลย คนแบบนี้มันไม่น่าจะถูกผลิตขึ้นมาบนโลกเลย แบคฮยอนได้แต่ผูกใจเจ็บเอาไว้ก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวที โดยที่มีคยองซูขึ้นมาตามหลังด้วย แบคฮยอนรับไมค์มาจากพิธีกรก่อนจะยิ้มหวาน

     

    “อ่า ฮาอี~

     

    “ไฮ ไหมล่ะ” คยองซูโบกหัวแดร็กคูล่าน้อยจนหัวโยกไปด้านหน้า คนที่อยู่ในงานเห็นแล้วก็หัวเราะน้อยๆเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักสองคนนี้ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่ แถมชุดที่ใส่มาวันนี้ดูเหมือนไม่ได้นัดกันมาอย่างนั้นแหละ

     

    “คยองซูย่า! ทำไมไม่แต่งตัวมาดีๆแบบแบคฮยอนล่ะ นูน่าอยากจะเห็นบ้างอ่ะ” รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา

     

    “อ่า ต้องขอโทษจริงๆครับสิ้นเดือนนี้ผมใช้เงินหมดแล้ว” ว่าพลางโค้งเก้าสิบองศาเป็นเชิงขอโทษทุกๆคนที่อยู่ในงาน ทำเอานูน่าน้อยใหญ่ต่างเห็นอกเห็นใจไปตามๆกัน “ไว้ถ้าผมมีผัวรวย สปอร์ตเชจู แบบแบคฮยอน ผมจะใส่มาให้ดูนะครับ”

     

    “ย๊าห์!

     

    ฮิ้วววววววววว~

     

    “ดะ เดี๋ยวครับ ชุดนี้ผมออกตังเองนะ” คนตัวเล็กรีบอธิบายด้วยเสียงตะกุกตะกักเพราะคนในงานเอาแต่โห่แซวเรื่องชุดสุดหรูของเขา เดี๋ยวเหอะคยองซู ..ถ้ากลับหอเมื่อไหร่พ่อจะหักให้เป็นสองท่อนเลย เอาให้รู้ดำรู้แดงกันไปข้าง ไอ้คนขายเพื่อน!

     

    “แต่ส่วนอื่นๆชานยอลออกให้ใช่ม้า”

     

    “มะ ไม่ครับ ผมออกเอง”

     

    “ตะแหล”

     

    “แล้วเวลาพูดทำไมไม่เอาไมค์ออกปากห๊ะ!” ต้องขัดทุกครั้งเลยรึไงหื้ม ถ้าไม่ขัดพี่แบคฮยอนสุดหล่อคนนี้สักทีแล้วจะลงไปดิ้นตายข้างล่างใช่มั้ยคยองซู! “โอเค ชานยอลเลี้ยงผมแค่เรื่องกับข้าวเท่านั้นแหละ แต่เรื่องอื่นนี่ผมออกเองนะ”

     

    “แหมแก~ ผัวน้องเค้าเลี้ยงดีกว่าผัวกูอีกค่า”

     

    “อย่าว่าแต่เลี้ยง แค่ผัวนี่กูยังหาไม่ได้เลยค่ะ”

     

    แบคฮยอนทั้งโกรธทั้งอายจนหน้ามันแดงไปหมด เขาไม่เคยเข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องถูกแกล้งให้เขินอยู่ตลอดเวลา เรื่องอื่นๆที่แสนมาดแมนของแบคฮยอนก็มีตั้งเยอะตั้งแยะทำไมถึงไม่เอามาพูดกันบ้าง บอกตามตรงว่าการพูดส่งท้ายอำลาครั้งนี้ทำให้แบคฮยอนดูไม่แมนเอาเสียเลย (ความจริงก็ไม่แมนอยู่แล้ว)

     

    “แฮะแฮ่มเจ๊ว่าเข้าเรื่องกันได้แล้วนะคะ” พี่พิธีกรคนสวยบอกเพื่อให้เพื่อนรักทั้งสองหยุดแกล้งกันได้แล้ว “ทั้งสองมีอะไรจะพูดมั้ยค่ะก่อนที่เราจะเริ่มเต้นรำกัน”

     

    “ครับ นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วเนาะที่ผมจะได้อยู่ที่นี่ในฐานะนักศึกษาของยอนเซ ทุกคนในที่นี่ทำให้ผมประทับใจในหลายๆอย่างด้วยครับ อ้อที่สำคัญ พี่ๆที่นี่เฟรนด์ลี่มากเลยทั้งขนมที่ฝากมาให้--“

     

    “พวกกูซื้อไปจีบต่างหากโว้ยยยยย~

     

    ชิบหาย

     

    “แหะๆ ถึงว่าล่ะใจดีแปลกๆ” เจ้าคนตัวจ้อยว่าก่อนจะเกาที่แก้มยุ้ยอย่างขวยเขิน “ถ้ามีโอกาสผมจะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆนะครับ” แบคฮยอนทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะโค้งสุดตัวแทนคำขอบคุณ จากนั้นจึงเป็นตาของคยองซูบ้าง

     

    “อ่า”

     

    “...”

     

    “ก่อนอื่นเลยต้องขอโทษทุกคนที่โดนผมทำร้ายร่างกายด้วยนะครับ อย่างที่รู้กันว่าผมเป็นโรคกลัวการสัมผัส” คยองซูเม้มปากอย่างไม่มั่นใจที่ขณะที่กวาดสายตามองคนในงานไปรอบๆ “ขอบคุณที่ทุกคนไม่คิดที่จะรังเกียจผมนะครับ แล้วผมจะคิดถึงทุกคน”

     

    คยองซูกล่าวจบก่อนจะโค้งตัวให้เช่นกัน เขาเป็นคนพูดน้อย ดังนั้นบทที่พูดมันจึงมีเพียงเท่านี้ เขารู้สึกขอบคุณจริงๆที่ทุกคนคอยปรบมือและเป็นกำลังใจให้ การที่เราแตกต่างจากคนอื่นมันไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่เข้ากับคนอื่นเสียหน่อย

     

    ขนาดโลกเรามียังสองด้าน มีทั้งมืดและสว่างซึ่งจะตรงกับข้ามกันเสมอ ดังนั้นคนเราเองจึงกำหนดสิ่งที่เรียกว่าลักษณะตรงกันข้ามขึ้นมา ขาวและดำ รวยและจน สูงและเตี้ย หรือ.. ผอมและอ้วน ที่ภายหลังทุกคนต่างอุปโลกน์กันเองขึ้นมาว่าสิ่งหนึ่งที่ดีนั้นคือสวยและตรงกันข้ามกันนั้นคือขี้เหร่

     

    แท้ที่จริงแล้วความสวยคืออะไร ใครเป็นคนกำหนด?

     

    “มาเต้นรำกันหน่อยมั้ย”

     

    แบคฮยอนหันไปตามต้นเสียง แล้วเขาก็พบกับอารึมในชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่องในเรื่องเจ้าสาวศพสวย แถมยังสูงกว่าเขาเกือบสิบเซ็นเพราะส้นสูงรัดส้นนั่นอีก ใบหน้าเหวอๆเหมือนหมาตรงหน้าทำให้อารึมถอนหายใจยาวๆออกมาก่อนจะคว้ามือเรียวนั้นมาวางไว้ที่เอวของตัวเอง

     

    “อะ อารึม”

     

    เธอถอนหายใจอีกครั้งในขณะที่ต้องกลายมาเป็นคนก้าวนำในการเต้นก่อน แบคฮยอนทำไก่แตกต่อหน้าผู้หญิงสวยๆด้วยการทำตัวแข็งเป็นท่อนซุง แถมด้วยการเหยียบเท้าของคู่เต้นอีกหนึ่งที ท่าทีที่แสนเงอะงะนี้ก็เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของแบคฮยอนที่ได้เข้าใกล้ผู้หญิงสวยๆมากขนาดนี้ แถมหน่มน๊มยังอยู่ใกล้ๆคอมากขนาดที่สามารถเหลือบดูร่องอกได้เลยล่ะ

     

    ตู้วหูวววว

     

    คัพซีเน้นๆ

     

    “เลิกทำตัวซื่อบื้อสักที่ได้แมะเจ้าเบื้อก”

     

    “ฉะ ฉันทำหรอ” แล้วแบคฮยอนก็ได้รับเสียงถอนหายใจไปเป็นรางวัล

     

    “นายเหยียบเท้าฉันอีกแล้วแบคฮยอน” อารึมตำหนิเบาๆ แต่ก็ยังคงดูสวยอยู่เสมอ แบคฮยอนสาบานได้ว่าการที่ได้เห็นอารึมร้องไห้มันเป็นสิ่งที่เหนือกว่าสิ่งมหัศจรรย์ ดูเธอสิ สูง สง่า และอื่ม... ใหญ่ หมายถึงริมฝีปากน่ะ อวบอิ่มได้รูป

     

    “คิดยังไงถึงได้มาขอเต้นรำ”

     

    “มาไถ่โทษที่ทำเรื่องไว้เมื่อตอนม.ปลาย”

     

    “งะ งั้นหอมแก้มหน่อยสิ”

     

    “ตลก -_-

     

    โถ่เอ้ยไอ้ลูกหมาริอาจมาขอหอมแก้มนางเสือดาว แบคฮยอนพยายามที่จะเขย่งเพื่อให้อารึมได้หมุนรอบตัวเองเป็นวงกลม แต่ขอโทษเถอะส่วนสูงเพียงแค่ร้อยเจ็ดสิบนิดๆจะมาสู้อะไรกับผู้หญิงที่สูงถึงร้อยเจ็ดสิบสอง(ไม่โกงด้วย)อีกทั้งยั้งเสริมส้นมาอีกเจ็ดเซน

     

    “งั้นจับนมก็ได้ ‘O‘

     

    ผั๊วะ!

     

    เจ้าแดร็กคูล่าโดนมือเรียวสวยโบกหัวเข้าไปเต็มๆจนสมองมันเบลอไปหมด ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงได้มือเท้าหนักเป็นพิเศษ แถมยังตัวสูงใหญ่จนเขาอยากจะโทษตัวเองที่ตอนเด็กๆกินทุกอย่างยกเว้นนม

     

    “ฮื่อออ ไม่ให้จับก็บอกกันดีๆซี่”

     

    “พูดอีกทีฉันจับทำพะโล้จริงด้วย”

     

    อารึมแค่ขู่เขารู้ทันหรอก แต่เขาจะยอมเงียบให้ก็ได้ นี่ไม่ได้กลัวหรืออะไรเลยจริงๆนะ เขาก็แค่รู้สึกว่าต้องให้เกียรติผู้หญิงต่างหาก(หรอ)

     

    พรึบ

     

    “โอ๊ะ!” แบคฮยอนสะดุ้งสุดตัวจนต้องชักมือของตัวเองกลับ เพราะจู่ๆไฟมันก็เกิดดับขึ้นมาดื้อๆ เหลือเพียงแค่ไฟสีแดงในลูกฟักทองที่ดูน่ากลัวพวกนั้น “อารึม”

     

    แย่ล่ะ

     

    อารึมหายไปแล้ว!

     

    “มะ ไม่ตลกนะ... ไหนบอกว่าไม่แกล้งกันแล้วไง” สองมือนั้นชูขึ้นเพื่อคลำทางหวังว่าจะเจอใครบ้าง แต่มันก็เหมือนกับไม่มีใครเลยนี่สิ แถมแบคฮยอนยังมองในที่มืดได้แย่มากๆด้วย อย่าให้รู้นะว่าใครแกล้ง จะโกรธจนต้องซื้อขนมมาเลี้ยงเลยคอยดูสิ

     

    “โอ๊ะ”

     

    ในที่สุดแบคฮยอนก็คว้ากระโปรงฟูฟ่องของเธอเอาไว้ได้แล้ว เอ~ ขี้แกล้งกันแบบนี้จะเนียนแอบจุ๊บๆเธอได้ไหมนะ วันนี้ชานยอลบอกว่าจะรออยู่ที่คอนโดซะด้วยซี่~

     

    เอาล่ะแบคฮยอนเกิดเป็นชายชาตรีมายี่สิบปีแล้ว กล้าคิดก็ต้องกล้าทำ กล้าทำก็ต้องกล้ารับ แมนๆวัดกันที่ใจไปเลย ว่าแล้วเจ้าของร่างเล็กก็นึกทำแสบอีกครั้ง วนไปหยุดอยู่ด้านข้างก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นไปอย่างที่คิดว่าต้องหอมแก้มแม่เสือดาวคนสวยให้ได้ เพียงแค่ครั้งเดียวชีวิตนี้ก็จะเข้าสู่ความแมนมากขึ้น!

     

    จุ๊บ

     

    ทะ ทำไมอารึมมีหนวดด้วยล่ะ ในขณะที่กำลังงงงวยกับตัวเองอยู่นั้นว่าสิ่งที่เขาควรจะได้รับนั้นคือความนวลเนียนของผิวหญิงสาวแรกรุ่นมิใช่หรือ ทันใดนั้นไฟที่ถูกเปิดขึ้นอีกครั้งก็ทำให้เขากระจ่างแจ้ง ช่วยไขทุกข้อสงสัยที่เกิดขึ้นในใจทั้งหมด

     

    “ชานยอล!

     

    “มึงคิดว่าเป็นใครล่ะหืม?” ร่างสูงใหญ่ของอีกคนก้มลงมาถามด้วยน้ำเสียงที่ติดจะขุ่นเคืองนิดๆ แต่เดี๋ยวนะ...ทำไมชานยอลใส่ชุดแบบเดียวกับอารึม “มองหน้างี้หมายความว่าไง”

     

    “ฮ่าๆอุ๊บ.. คิกๆ”

     

    “ตลกนักหรือไง” ถึงจะโดนกำปั้นทุบเข้าที่หัวแบคฮยอนก็ยังคงหัวเราะอย่างไม่ขาดสาย จนหน้าคมเข้มที่มีเครื่องสำอางค์ตกแต่งนั้นขึ้นสีฝาดเลือดจนลามไปถึงใบหูกางที่ดัดดอกไม้สีขาวเอาไว้ “นี่กูยังไม่ได้คิดบัญชีที่มึงทำหน้าเจ้าชู้ใส่อารึมเลยนะ”

     

    “โถ่ ฉันจะทำอย่างนั้นได้ยังไง”

     

    “...”

     

    “ก็ฉันมีเจ้าสาวแสนสวยอยู่แล้วทั้งคน” ว่าแล้วเจ้าคนตัวเล็กกว่าก็จัดการซุกหน้าเข้ากับแผงอกหนาอย่างเอาใจ ถึงแม้ว่าเจ้าสาวของเขาจะดูเหมือนไททันไปหน่อยก็ตาม แต่ว่าเจ้าสาวของเขาทั้งสวยและเก่งงานบ้านขนาดนี้ แบคฮยอนจะนอกใจได้ยังไง

     

    “มึงนี่มัน--

     

    “ตัวก็ห๊อมหอม” เจ้าตัวเล็กเกยคางแหลมของตัวเองเอาไว้กับหน้าอกที่ดูเหมือนจะยัดทิชชู่เข้าไปเยอะน่าดูเลยถึงได้ตูมขนาดนี้ แบคฮยอนหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจเมื่อมือหนาของชานยอลยกขึ้นไปเกาหัวของตัวเองจนเห็นขนรักแร้ที่แล้บออกมา เจ้าสาวอะไรสวยซะเปล่าแต่ดันลืมโกนขนรักแร้

     

    “ชุดห่าไร่วะ คันคะเยอไปหมดเลย”

     

    “เฮ้ อย่าเกาสิชาน เดี๋ยวชุดหลุดนะ วิกด้วยดึงเยอะๆแล้วมันจะเห็นหัวล้าน”

     

    ในสายตาคนอื่นที่มองมามันอาจจะดูแปลกประหลาด น่าขยะแขยง หรืออะไรก็ตามที่แย่กว่านั้น แต่ในสายตาของทั้งคู่มองเห็นเพียงแค่ว่าเราทั้งคู่รักกัน และไม่สนว่าเราทั้งสองนั้นจะเป็นหญิงหรือชาย ชานยอลดึงมือเรียวของแบคฮยอนขึ้นมาจูบเบาๆ จนได้รอยลิปสติกสีชมพูอ่อนติดหลังมือมา ร่างเล็กหัวเราะจนตาหยีก่อนจะเอาขึ้นมาโชว์ราวกับภูมิใจนักหนา

     

    “มึงไปแล้วคงคิดถึงแย่”

     

    “แหม~ พูดอย่างกับว่าจะไม่เจอกันอย่างนั้นแหละ” แบคฮยอนโยกตัวไปมาเหมือนเป็นเด็กน้อย แสงสีเหลืองนวลๆภายในห้องโถงนี้ทำให้เขาคิดถึงหิ่งห้อยในบ้านต้นไม้ ตอนนั้นเขาเต้นรำและตอนนี้เขาเองก็กำลังเต้นรำอยู่เช่นกัน เพียงแต่ครั้งก่อนชานยอลเป็นเจ้าชายส่วนครั้งนี้ชานยอลกลายเป็นเจ้าสาว

     

    ทั้งนี้ก็เพื่อเขาทั้งนั้น

     

    “ชานอยากมีลูกมั้ย”

     

    “หืม? ถามทำไม”

     

    “จะได้ให้โอกาสเปลี่ยนใจไง” แบคฮยอนเอนซบเข้ากับอกของชานยอลไว้ ในขณะที่ถูกอีกคนพาเต้นรำอย่างเอื่อยเฉื่อย เขาไม่อยากทำให้ชานยอลต้องมาเสียใจที่หลังว่าเขาเป็นผู้ชาย แบคฮยอนมีลูกที่น่ารักไม่ได้นอกจากว่าเขาจะเป็นผู้หญิง “ถ้าไม่เปลี่ยนใจตอนนี้จะหมดโอกาสเปลี่ยนใจแล้วนะ”

     

    “อยากมีลูกน่ะ ก็อยากอยู่”

     

    “...”

     

    “แต่อยากอยู่กับมึงมากกว่า”ชานยอลว่าก่อนจะกดจูบเบาๆที่ขมับชื้นเหงื่อของแบคฮยอน คนตัวเล็กทำท่าเหมือนจะร้องไห้เขาเลยกระชับอ้อมกอดเพื่อที่อีกคนจะได้ซุกหน้าเข้ากับอกของเขา หวังว่ามันจะช่วยบรรเทาทุกข์ของร่างเล็กจ้อยนี้ได้บ้าง

     

    “ดีใจจัง”

     

    “ดีใจแล้วทำไมร้องไห้ หืม?”

     

    “ดะ ดีใจมากๆไง” ร่างเล็กอธิบายด้วยเสียงสะอึกสะอื้นจนคนตัวใหญ่กว่าสงสารจับใจ เป็นแดร็กคูล่าซะเปล่าแต่ดันมาใจเสาะซะได้ ทำแบบนี้มันจะน่ารักเกินไปหน่อยแล้วแบคฮยอน “ขอบคุณชานนะที่ชอบคนอ้วนๆแบบฉัน”

     

    แบคฮยอนไม่รู้จะตอบแทนความรักที่ชานยอลให้มายังไงดี ความรักของเขามันบริสุทธิ์ แม้ว่าแรกพบที่เจอกันนั้นจะเต็มไปด้วยเรื่องแย่ๆ และเอาแต่สาดคำพูดที่ไม่ดีใส่กัน แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว

     

    “กูรัก...ไม่ว่าแบคฮยอนจะผอมหรืออ้วน”

     

    ชานยอลยังคงเป็นดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่างให้ดอกทานตะวันน้อยอย่างเขาได้เจริญเติบโต แบคฮยอนเรียนรู้ว่าคนเรานั้นหากรักก็คือรัก ต่อให้รูปลักษณ์ภายนอกนั้นจะไม่ได้งดงาม แต่มันไม่อาจจะเปลี่ยนให้รักเป็นอย่างอื่นได้ ชานยอลเป็นโฉมงามส่วนแบคฮยอนเป็นอสูร

     

    แต่ชานยอลก็จะยังคงรัก

     

    “...”

     

     

    “และจะรักเรื่อยไป”

     

     

     

     







     


     

    เทยปาดน้ำตา

     

    อ่า.... มาถึงตอนจบจนได้

    มาถึงตอนนี้เราเองก็ไม่รู้จะไปทำมาหาแดกอะไรต่อเลยค่ะ

    555555555 ย้อเย่น

     

    ก็จะมาเจอกันในสเปเชียวอีก 2-3 ตอนก่อน

    แล้วจึงจะจากไปอย่างเงียบงัน

     

    รักมากนะคะ เทยอยากบอกให้รู้

    แต่ที่จริง เทยรักชานยอลมากกว่า 555555

    ง่อววว~

     

    เทยพูดเรื่องหนังสือ

     

    อ่า.. จะมีใครมาอ่านตรงนี้มั้ยวะ

    ตอนนี้เรายังไม่ได้แพ็คของนะคะ เพราะติดที่ของแถม

    ส่วนพวงกุญแจหมูกรอบ เราสั่งมาได้แค่ 19 ชิ้น

    ส่วนคนอื่นคงต้องเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ต้องขออภัยจริงๆค่ะ

    เราเองก็ไม่รู้ว่าของมันจะหมด ตอนนี้รอของแถมที่จีนกันนิดนึงนะ

    ออร์เดอร์ เข้ามาที่โกดังไทยแล้ว แต่เขายังไม่แจ้งกลับมาว่าจัดสองของแล้ว

    ฮื่อออ... รู้สึกผิดแรง เราขอโต้ดดด

     

     

    ช่วง

    เนียนขายของ

     

    อ่า คิดว่าคงเดากันออกว่ามีภาคต่อ

    เรื่องนี้เกิดจากเพลงพลีส ของ อะตอม

    ตอนแรกว่าจะไม่ทำ ...แต่พี่ดันอยากสานต่อ

     

    เรื่องนี้เป็นเรื่องของลู่ฮานและเซฮุน

    เป็นเรื่องที่แสนน่ารัก แอบรักเขาแล้วเขาไม่รักตอบ

    โถ่

     

     

    http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1380114


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×