[Song Fiction]Re_Cycle - [Song Fiction]Re_Cycle นิยาย [Song Fiction]Re_Cycle : Dek-D.com - Writer

    [Song Fiction]Re_Cycle

    โดย sinnerdarker

    ทุกสิ่งทุกอย่าง จมลงในกองทรายที่เรียกว่ากาลเวลา ตัวเธอที่เคยอยู่เคียงข้างฉัน ..ไม่มีอยู่อีกแล้ว .....เรื่องราวของตุ๊กตาสังหาร ความเจ็บปวดของคำว่าชั่วนิรันดร์..และ..การดำรงอยู่ที่ไร้ค่า..หรือมีค่า..?

    ผู้เข้าชมรวม

    1,298

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    1.29K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 พ.ค. 53 / 23:58 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ทุกสิ่งทุกอย่าง

    จมลงในกองทรายที่เรียกว่ากาลเวลา

    ตัวเธอที่เคยอยู่เคียงข้างฉัน

    ..ไม่มีอยู่อีกแล้ว
    .
    .
    .
    .
    .

    .....เรื่องราวของตุ๊กตาสังหาร

    ความเจ็บปวดของคำว่าชั่วนิรันดร์..

    และ..
    การดำรงอยู่ที่ไร้ค่า..หรือ..มีค่า..?



    *บอกประเภทไม่ถูก..ใครอ่านแล้วช่วยบอกทีค่ะว่าควรจัดในประเภทไหนดี**
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      [Song Fiction]
      Title : Re_Cycle
      Credit : Vocaloid : Luka



      .
      .
      .

      ทุกสิ่งทุกอย่าง

      จมลงในกองทรายที่เรียกว่ากาลเวลา

      ตัวเธอที่เคยอยู่เคียงข้างฉัน

      ไม่มีอยู่อีกแล้ว

      .

      .

      .

      +++++++++++++++

      .

      .

      .

      ทุกภาพยังคงอยู่ ทุกความทรงยังตราตรึง

      ตัวเธอในยามแรกเกิด เด็กทารกตัวน้อยที่ส่งเรียงร้องกังวานใส

      ฉันยืนอยู่ในจุดที่ห่างออกมา เฝ้ามองราชา ราชินี และเหล่าราชวงศ์ที่แย้มยิ้มอย่างสุขใจ

      ฉันเป็นเพียงตุ๊กตาที่ถูกมอบวิญญาณ..สิ่งที่เรียกว่าหัวใจนั้น..ไม่มีอยู่

      ฉันเป็นเพียงตุ๊กตาสังหาร ซึ่งยามนี้อยู่เพียงเพื่ออารักขาเหล่าราชวงศ์

      พระราชินีซึ่งเพิ่งคลอดยิ้มอย่างอิดโรย โอบอุ้มเธอเธอซึ่งเพิ่งเกิดเอาไว้แล้วกล่อมปลอบโยน

      แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังร้องไห้จ้างอแงไม่หยุด

      เธอถูกวนให้ทุกคนอุ้ม..แต่เธอก็ยังไม่หยุดร่ำไห้..กระทั่งร่างเล็กๆของทารกน้อยถูกวนอุ้มมาถึงฉัน

      พระราชาชักสีหน้าเมื่อเห็นฉัน พระองค์ไม่ต้องการให้ตุ๊กตาปิศาจแตะต้องบุตรของพระองค์

       แต่ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เพราะหากเธอยังร่ำไห้อยู่ บางทีอาจจะเป็นอันตราย

      ฉันรับเธอมาอุ้มอย่างระมัดระวัง...มันเป็นคำสั่ง ดังนั้นฉันจึงไม่ขัดข้องแต่อย่างใด และไม่เจ็บปวดยามเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่ไว้ใจซึ่งมองมา

      ตัวเธอช่างน่ารักและนุ่มนิ่ม อบอุ่นและบอบบาง เสียงร้องของเธอช่างสดใสเหมือนระฆังแก้วที่ก้องกังวาน

      ...
      เพียงชั่วครู่ เสียงร้องไห้จ้าก็หยุดลง

      ..ทารกน้อยเบิกตามองฉัน ..

      เธอจ้องฉันด้วยความสงบนิ่ง เอียงคอเล็กๆมองอย่างสนใจแล้วขมวดคิ้ว
      ทุกคนในห้องต่างกลั้นใจ..หลายคนพึมพำขึ้นมาว่า "หยุดร้องแล้ว"อย่างประหลาดใจ

      เพียงชั่วครู่....ดวงตาสีฟ้าดังนภาครามของเธอก็เปล่งประกายสดใส

      เสียงหัวเราะเอิกอ้ากดังกังวานพร้อมเสียงถอนหายใจโล่งอกของทุกคน

      "เจ้าชายทรงชอบใจเธอ" ตุ๊กตาที่มีหัวใจมากกว่าฉันบอก พร้อมตบลงที่ไหลซึ่งพาดเรือนผมยาวสยายของฉันเบาๆ

      คำพูดเหล่านั้นไม่ได้เข้ามาในสมองของฉันแม้แต่น้อย

      บัดนี้ในทุกส่วนของประสาทสัมผัส มีเพียงแต่เธอ

      ..เจ้าชายองค์น้อยที่ยิ้มให้ฉัน..

       

      ++++++++++++

       

      ฉันถูกปลดจากงานหลักที่จำต้องอารักขาพระราชาและพระราชินีด้วยคำพูดสั้นๆ

      "ช่วยดูแลเจ้าชายด้วย"พระราชาเอ่ย แผ่นหลังของเขาหันให้พระอาทิตย์ ทำให้ฉันอ่านความรู้สึกของท่านไม่ออก

      ฉันยืนนิ่งอึ้งด้วยความตกใจ ใครจะไม่รู้ตัวว่าตุ๊กตาสังหารไม่เคยได้รับความไว้วางใจ นั่นทำให้ฉันกังวล

        ดวงตาของฉันหันมองพระราชินีที่มองมาทางฉันด้วยรอยยิ้ม  พร้อมกระชับเจ้าชายองค์น้อยในอ้อมแขนของเธอ

      เจ้าชายองค์น้อยหลับใหลอย่างน่ารัก ฉันจ้องเธออย่างสนใจ เธอกระดิกตัวในอ้อมแขนของมารดาแล้วครางเบาๆ

       เนตรสีฟ้าใสเบิกขึ้น แล้วจ้องมองฉันด้วยดวงตากระจ่างใส จากนั้นก็หัวเราะร่าเริง

      พระราชินีส่งเธอให้ฉันอุ้ม ตัวเธอที่แสนบอบบางอยู่ในอ้อมแขนของฉันอีกครั้ง..หลังจากวันนั้นที่เธอเกิดมา

      ทั้งนิ่มนุ่ม ทั้งน่ารัก ทั้งน่าปกป้อง

      ฉันกระชับร่างของเธอในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง

      "จากนี้ก็ฝากด้วยนะ"พระราชินีว่าแล้วจ้องลึกในดวงตาของฉัน พร้อมกับเอ่ยต่อไป

      "ดวงตาของเธออ่อนโยนลง ฉันจึงวางใจ"

      นับแต่วันนั้นที่ฉันไม่เข้าใจอะไรนัก ฉันก็กลายมาเป็นผู้ดูแลของเธอ

      .

      ++++++++++++

      .

      รูปลักษณ์ของฉันเป็นรูปลักษณ์ของปิศาจ

      ไม่ว่าผู้ที่สร้างฉันมีความคิดเช่นไร รูปลักษณ์ของฉันก็ยังเป็นรูปลักษณ์ของปิศาจอยู่ดี

      เรือนผมสีขาวโพลนของหิมะยาวสยาย ดวงตาสีน้ำเงินล้ำลึกยะเยือกของห้วงสมุทรอันนิ่งงัน

      ร่างกายสูงระหง ใบหน้าเรียวของสตรี ผิวขาวซีดดังนางพญาเหมันต์

      เขาเดี่ยวม้วนที่ศีรษะข้างซ้าย เล็บแหลมคมทั้งสองข้างที่พร้อมมอบความตายให้ผู้คน

      และปีกปิศาจสีดำที่ถูกเก็บไว้ใต้อาภรณ์สีราตรี

      แม้งดงามหากแฝงเร้นด้วยพิษอันร้ายกาจที่ฉันไม่เคยตั้งใจให้มันเป็น

      ..แต่ถึงกระนั้น
       เธอก็ยังยิ้มเมื่อมองเห็นฉัน..ไม่ได้หวาดกลัวเช่นหลายคนที่มองอย่างหวาดระแวง

      ดังนั้นฉันจึงรักและต้องการเธอ มากกว่าสิ่งใดใดที่เคยมีมา

      มันค่อนข้างลำบากเวลาที่เธอร้องไห้ เพราะฉันไม่เข้าใจภาษาทารก

      ดังนั้นจึงไม่เข้าใจว่าตอนไหนที่เธอหิว และตอนไหนที่เธออยากให้กอด หรือตอนไหนที่อยากให้ขับกล่อมด้วยบทเพลง

      แต่ด้วยเวลาที่เลยผ่าน ฉันก็ชินในที่สุดจนทำทุกสิ่งได้อย่างง่ายดาย

      เธอร้องไห้จ้าเมื่อหิว หัวเราะยามเห็นใบหน้าของฉัน

      คำแรกที่เธอพูดไม่ใช่ "ท่านพ่อ" หรือ "ท่านแม่"

      แต่เป็น"เซสึนะ"

      ...นามแห่งชั่วพริบตา...

      ..เป็นชื่อของฉัน..

      ++++++++++++++++++

      เธอเติบโตขึ้น จากทารกเป็นเด็กน้อย และจากเด็กน้อยเป็นเด็กชาย

      เธอกลายเป็นเด็กชายที่น่ารักอ่อนโยน เรือนผมสีเงินสวยสั้นเพียงต้นคอ ดวงตาสีฟ้าครามกระจ่างใสงดงาม

      เธอช่างร่าเริงสดใส เธอช่างอ่อนโยนและน่ารัก..เสียจนฉันไม่อยากเสียเธอไป

      พวกเราอยู่ด้วยกันเหมือนเป็นเรื่องปรกติ ไม่มีใครคิดจะกล่าวติ ในเมื่อฉันเป็นเพียงตุ๊กตา

      ทั้งสำหรับราชา ฉันเป็นทั้งองครักษ์และคนดูแล ใช่แล้ว ท่านไม่ได้ลืมหรอกว่าฉันคือ [อะไร]

      ..เจ้าชายไม่รู้เรื่องนี้..

      ..ไม่รู้ว่าฉันคืออะไร..

      และฉันไม่คิดจะบอก เพราะยังไม่อยากให้สวรรค์เล็กๆของฉันพังพินาศลงในตอนนี้

      สวรรค์ที่เรียกว่าการได้อยู่เคียงข้างเธอ

      เธอตัวน้อยที่น่ารัก ออกวิ่งบนเนินเขาท่ามกลางสายลมที่พัดผ่าน

      เธอที่ช่างสดใส เธอที่ช่างเหมือนเทพยดา

      เธอที่ออกวิ่งบนเนินเขาแล้วหันหลังมาทางฉัน

      จากนั้นก็จะยิ้มกว้างทั้งปากและดวงตาแล้วมองมาที่ฉัน พร้อมวิ่งมาสวมกอดอย่างแรง

      อา..ความสุขที่เหมือนลมอ่อนๆในตอนนั้น แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังจำได้ดี

      ตัวฉันที่บอกว่า "เจ้าชายเพคะ ระวังตัวด้วยนะเพคะ!"

      กับเธอที่หัวเราะแล้วบอกว่า "เข้าใจแล้วครับ คุณเซสึนะ"

      ..และตัวฉันที่ส่ายหัวอย่างเอือมระอา..

      เธอมักจะยิ้มเมื่อพอใจ ขมวดคิ้วทำแก้มป่องเมื่อไม่พอใจ ทำน้ำตาคลอเวลาที่ต้องการออดอ้อนให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ และกอดฉันแรงๆในยามที่คิดถึงสุดหัวใจ

      ทุกอากัปกิริยา..ต่างประกอบขึ้นเป็นสิ่งที่เรียกว่าตัวเธอ

      สมบัติล้ำค่าของฉัน

      .

      .

      ++++++++

      .

      .

      นั่นเป็น ความสุข ที่ฉันได้รับและรู้จัก

      คือหัวใจ คือความรู้สึก ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีวันรับรู้

      ฉันเริ่มจะเหมือนมนุษย์เข้าทุกที ทั้งความรัก ทั้งรอยยิ้ม ทั้งประกายลึกในดวงตา

      และความคิดที่ตะโกนกู่ก้องว่าอยากให้เป็นเช่นนั้นตลอดไป

      ..ทั้งที่ฉันเป็นเพียงตุ๊กตาที่ถูกสร้างเพื่อฆ่าคน..

      .

      .

      .

      แต่มนุษย์เคยพูดไว้ ..ความสุขมักไม่ยืนยาว

      ..บางทีกฏนี้ แม้แต่กับตุ๊กตาก็คงไม่อาจหนีพ้นโชคชะตา..

      ++++++++++++++

      อาณาจักรถูกรุกรานในค่ำคืนหนึ่ง เพลิงสงครามโหมกระพือลุกไหม้ทั่วทั้งแผ่นดิน

      ฟากฟ้าสีราตรีถูกย้อมเป็นสีชาด เพลิงไหม้โหมกระหน่ำคลอเสียงกรีดร้องของผู้คน

      เหล่าทหารหาญถูกฆ่าและทรมานจนตาย แม้แต่ตุ๊กตาสังหารก็ถูกทำลายไม่เหลือซาก

      พระราชินีทรงสิ้นใจด้วยความเศร้า  เหล่าราชวงศ์ต่างนอนจมกองเลือดที่ย้อมให้พรมลาดระเบียงกว้างใหญ่เป็นสีแดงฉาน

      ภายในปราสาทเงียบสงัดและถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายของความตาย

      พระราชาถูกปลงพระชนม์ แม่ทัพใหญ่ของฝ่ายศัตรูตัดเศียรพระองค์แล้วตะโกนกึกก้องถึงความพ่ายแพ้ของเรา

      อาณาจักรแห่งเราสิ้นเสียแล้ว

      เจ้าชายถูกพาตัวไปในฐานะเชลย  ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำใสที่กลั่นจากความเศร้า

      เสียงกรีดร้องคั่งแค้นเสียใจดังกังวานหากไม่มีใครคิดจะฟัง ร่างเล็กดิ้นขลุกลักในอ้อมแขนของทหารที่พาตัวเขาไป

       ครั้นแล้ว เจ้าชายองค์น้อยก็เบิกตามองฉันที่วิ่งตามมา

      เธอยื่นมือมาหาฉัน หวังจะยื่นให้ถึงร่างที่วิ่งตามมา ฉันเองก็วิ่งตามเธอ ยื่นมือเพื่อจะดึงเธอกลับมา

      แต่ในเสี้ยววินาทีที่มือของเรากำลังจะเอื้อมถึงกัน ฉันกลับถูกฟันที่กลางหลังจนล้มลงไปกับพื้นที่เต็มไปด้วยเลือดซึ่งเจิ่งนอง

      ฉันเงยหน้าขึ้น หากร่างกายกลับไม่อาจขยับเขยื้อนได้อีกต่อไป เหลือเพียงเธอที่ห่างฉันออกไป..ไกลขึ้นทุกที

      ฉันพยายามไล่ตามเธอไป แต่แขนและขาทั้งสองข้างกลับถูกตัดขาด

       เขาหักครึ่งเหลือเพียงฐาน ดวงตาข้างหนึ่งถูกทำลาย

      แม้แต่ปีกที่จะโบยบินไปหาเธอก็ยังถูกหักออกไม่เหลือชิ้นดี

      ..ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าร่างกายพังยับเยินถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..รู้แต่เพียงว่าเธอกำลังถูกพลัดพรากไปจากฉัน...

      รู้แต่เพียงว่า..ภาพสุดท้ายในความทรงจำที่มองเห็นนั้น

      คือเธอที่ถูกดึงให้จากฉันไปทั้งใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา

      คือฉันที่ตะโกนร้องว่าจะต้องได้เธอกลับคืนมา

      แล้วทุกอย่างก็ดับไป

      .

      .

      .

      +++++++++++++++

      .

      .

      .

      ฉันตื่นขึ้นอีกครั้งท่ามกลางป่าลึกที่เต็มไปด้วยสายฝน

      ดวงตาที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวเงยมองฟ้าหม่นแสง..โลกสีเทาที่มีเพียงเสียงของพิรุณอันพร่างพรม

      ร่างกายของฉันเปียกปอนไปด้วยหยาดฝน ก่อนที่ฉันจะลุกขึ้นนั่งเมื่อฟันเฟืองในร่างเริ่มทำงาน

      ดวงตาที่เสียไปไม่มีวันกลับคืน ปีกที่ถูกฉีกกระชากไปไม่มีวันกลับมา

      และเขาที่หักไปไม่มีวันเป็นดังเดิม

      มีแต่เพียงแขนขาทั้งสองข้าง..ที่ถูกใครบางคนซ่อมแซมให้กลับมาเป็นเช่นเดิม

      ความทรงจำของฉันเลือนราง ราวกับถูกหมอกพิษกัดกร่อนให้เลือนหายไป

      ภาพที่ปรากฏในห้วงความคิด เป็นเหมือนชิ้นส่วนมากมายที่ถูกเพลิงเผาไหม้ให้เหลือส่วนเศษซากให้จดจำ

      บางอย่างสำคัญ บางอย่างไม่สำคัญ

      แต่ยิ่งกว่านั้น คือภาพสะท้อนอันเลือนรางของหยาดน้ำตาที่พร่างพรูอันติดลึกในความทรงจำที่ขาดวิ่น

      ที่ย้ำเตือนให้ฉันร้อนรน...

      .

      .

      โดยไม่ได้ครุ่นคิด ฉันจึงลุกขึ้น

      ..แล้วออกเดิน..

      .

      .

      +++++++++++++++

      .

      .

      ภายในเมืองนั้นเต็มไปด้วยสายฝนที่โปรยปราย

      หากกระนั้น กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเสียงหัวเราะอันสดใส

      ขาคู่ใหม่ของฉันพาร่างให้ก้าวไปอย่างไร้จุดหมาย

      บางทีอาจไม่ไร้จุดหมาย เพียงแต่ฉันไม่รู้ว่าบัดนี้ตัวเธออยู่ ณ แห่งหนใด

      เวลาผ่านผันไปเพียงชั่วครู่หรือเนิ่นนานกันนะ..มันช่าง..ไม่ชัดเจน

      ชั่วขณะนั้น ฉันก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่แล่นกระทบศีรษะของตน

      มันเจ็บแปลบ แต่ไร้เลือดหลั่งริน ในเมื่อฉันเป็นแค่ตุ๊กตา

      ฉันหันไปยังทิศซึ่งสิ่งนั้นแล่นตรงมา แล้วจึงปะทะกับสายตาแห่งความหวาดกลัวและความชิงชัง

      เจ้าปิศาจ!!”
      .
      .

      ฉันลืมไปว่าตัวเองมีรูปลักษณ์เช่นใด

      เขาที่หักไปแล้วไม่ได้ทำให้ฉันดูเหมือนมนุษย์มากขึ้น ปีกที่หักไปยังเหลือร่องรอยอยู่บนแผ่นหลัง

       เล็บแหลมคมของมือที่ได้รับมาใหม่ก็ยาวและแดงฉานกว่าที่เคยมีมา

      ..ใบหน้าที่ซีกหนึ่งแตกร้าวด้วยดวงตาที่ถูกทำลายไป มันคงน่าชิงชังเกินจะทานทน

      สิ้นคำพูดนั้น ผู้คนก็หันมองฉัน พร้อมกับขว้างปาสิ่งของที่มีในมือมาที่ตัวฉัน

      ไม่มีแม้แต่เวลาให้อธิบาย ฉันได้แต่วิ่งหนีไปเรื่อยๆ ตามตรอกแคบเพื่อสลัดให้หลุดจากการถูกทำร้าย

      ฉันสามารถฆ่าพวกเขาได้แต่ไม่ต้องการ ฉันไม่ต้องการสังหารใครอีกแล้ว

      ฉันวิ่งไปเรื่อยๆตามทางที่ทอดยาวออกไป ก่อนจะถูกกุมข้อมือให้วิ่งตามไปโดยร่างของใครคนหนึ่ง

      พวกเราหยุดลงในมุมหนึ่งของเมือง

      ร่างนั้นอยู่ภายใต้ผ้าคลุมสีเทาหม่น ฉันหยุดวิ่งแล้วจ้องร่างนั้นอย่างสงสัย กระทั่งผ้าคลุมได้เลื่อนลงพร้อมใบหน้าที่จ้องมองมา

      เสียงกังวานทุ้มแตกหนุ่มตะโกนกร้าวอย่างโกรธา

      ทำไมถึงวิ่งมาถึงนี่เลยล่ะครับ!! มันอันตรายมากเลยรู้ไหม!! คุณยังไม่หายดีนะ!!!”

      เรือนผมสีเงินสั้นระต้นคอ ดวงตาสีฟ้าที่บัดนี้เรียวลงกว่าเดิม

      ส่วนสูงที่เพิ่มขึ้น เสียงที่ทุ้มลง

      แต่ถึงกระนั้น ส่วนลึกของจิตใจบ่งบอกว่านี่คือตัวตนเดียวกัน

      เจ้าชายเพคะ..

      ฉันกระซิบออกมาแบบนั้น

      .

      .

      +++++++++++++++++

      .

      .

      .

      พวกเราไม่ได้พูดอะไรต่อ และฉันก็ถูกดึงให้เดินตามไปยังบ้านหลังหนึ่ง

      เจ้าชายถูกตามล่า..ด้วยเหตุผลที่เขาไม่ยอมบอก แม้ว่าฉันจะเอ่ยถามเขามากครั้งเพียงใดก็ตาม

      ฉันเงียบไป และเขาก็เงียบตอบ

       เวลาได้ผันผ่านมาสิบปีเสียแล้ว นับแต่วันที่อาณาจักรบ้านเกิดได้สลายไป

      ฉันเพิ่งได้รับรู้ถึงความจริงข้อนั้นยามเห็นจำนวนปีที่เพิ่มมากขึ้นจนที่ฉันเคยเห็นในปฏิทิน

      ฉันพูดอะไรไม่ออกอีกต่อไป ช่วงเวลาที่ห่างไกลกันสร้างกำแพงขึ้นมากั้นระหว่างฉันกับเธอ

      เธอดูเปลี่ยนแปลง ในดวงตานั้นมีแววลึกของความเย็นชา ทุกท่วงท่าของการก้าวเดินเต็มไปด้วยความระมัดระวังและรอยยิ้มสดใสนั้นได้หายไปจากสีหน้าที่อ่อนโยนเสียแล้ว

      ฉันยืนนิ่งกลางห้องอย่างรอคำสั่ง ถึงอย่างไรฉันก็เป็นเพียงแค่ตุ๊กตา

      และบัดนี้นายของฉันได้กลับคืนแล้ว

      แค่ผิดคาด เธอเรียกฉันให้ไปนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าเธอ ฉันเดินไปนั่งอย่างงุนงง ก่อนจะโดนดึงแขนที่ถูกมีดปักขึ้นมา

      เจ้าชายใช้ผ้าพันบริเวณที่ฉันถูกทำร้ายไว้ ฉันขมวดคิ้วสงสัย บอกเขาว่าไม่จำเป็นเพราะตุ๊กตาไม่มีเลือดเนื้อใดๆ

      ..อันที่จริงคือ..ไม่รู้สึกเจ็บปวดด้วยซ้ำ

      แต่ถึงฉันจะพุดไปแบบนั้น เจ้าตัวก็ยังจะดื้อดึงอย่างเงียบๆ แล้วพันแผลต่อไปโดยไม่สนใจว่าฉันจะอธิบายอย่างไร

      เหมือนเดิมไม่มีผิด

      ดื้อดึง เอาแต่ใจ..และแสนงอน

      ฉันยิ้มออกมาเมื่อคิดเช่นนั้น หัวเราะอย่างที่เธอไม่รู้ความหมายที่ซ่อนแฝง

      ดังนั้นเธอจึงขมวดคิ้วแล้วมองหน้าฉันด้วยใบหน้าที่ติดจะแดงระเรื่ออ่อนหวานด้วยความอาย

      ..เวลาผันเปลี่ยน และเธอก็เปลี่ยนแปลง ...

      ..แต่ตอนนี้ ฉันรู้สึกว่าช่วงเวลาที่ตัดขาดไปนั้น บัดนี้ได้เชื่อมต่อกันแล้ว...

      .

      .

      .

      +++++++++++++++++++++++++

      .

      .

      .ร่างกายของฉันเริ่มเข้าที่เข้าทาง.

      เล็บแหลมคนที่ถูกสร้างใหม่ส่งผลให้ฉันใช้ความสามารถได้ดีกว่าเก่า

      ปีกและเขาที่หักไปไม่ได้ส่งผลอะไรมากมายนัก  ..ด้วยตลอดมาเป็นเพียงเครื่องประดับกาย
        ไม่เคยส่งผลใดใดนอกเหนือจากนั้น

      ..ที่เลวร้ายที่สุดคงจะเป็นดวงตาที่ส่งผลให้ฉันสามารถมองเห็นได้แค่ข้างเดียว

      เจ้าชายมอบเสื้อผ้าใหม่ให้ฉัน มันเป็นเสื้อสีราตรีแนบเนื้อสำหรับผู้ชาย

      ฉันเงยหน้าจะเขาว่าทำไมถึงให้ใส่ชุดนี้

       แต่แล้วเรือนผมยาวยวงของฉันก็ถูกตัดออกด้วยฝีมือของเจ้าชายอย่างไร้การลังเล

      ฉันอ้าปากค้าง รู้สึกโล่งหัวไปเยอะเลยทีเดียว แต่นั่น..คือเหตุผลที่จู่ๆจะมาตัดผมกันงั้นหรือ!!

      ไม่งั้นจะมีคนจำคุณได้นี่ครับ

      เจ้าชายบอกกับฉันเช่นนั้น แต่ฉันก็แอบเห็นอยู่ดี..ว่ามันมีร่องรอยสะใจในดวงตา

      เปลี่ยนไปเยอะเลยนะเพคะ...เจ้าชาย

      ฉันพูดออกไปอย่างนั้น แล้วก็อดจะยิ้มขันไม่ได้ เจ้าชายมองหน้าฉันแล้วอมยิ้ม ก่อนจะหันหน้าเดินออกจากบ้านหลังเล็กๆไป

      แล้วพวกเราก็เริ่มออกเดินทาง

       

      +++++++++++++

       

      สิบปี..โลกเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

      นั่นเป็นคงอธิบายได้ถึงความหวาดกลัวของผู้คนต่อตัวตนของฉัน..สงครามและโลกที่ใกล้พังทลาย

      ทั่วทุกหัวระแหงเต็มไปด้วยซากศพและฝุ่นควันสีเทา  เสียงกรีดร้องทรมานดังขึ้นในทุกย่างก้าวที่ผ่านเลย

       สิ่งก่อสร้างพังทลาย ผู้คนหวาดหวั่นระแวงภัย..ไร้ความรื่นเริงที่คุ้นเคย

      บัดนี้...เชื้อโรคร้ายที่เรียกว่าสงครามแพร่กระจายไปทั่ว นำพาความโศกเศร้าและหวาดกลัวให้หยั่งรากลึกสู่ดวงใจของผู้คน

      ฉันเดินตามเธอไปตามเส้นทางต่างๆที่ทอดยาวออกไป ไม่มีจุดหมาย ไม่มีเหตุผล ไม่มีคำอธิบาย

      พวกเราข้ามผ่านเมืองหนึ่งสู่เมืองหนึ่ง ป่าใหญ่สู่เนินเขา เนินเขาสู่ทะเลกว้าง

        เดินทางอย่างไร้จุดหมายพร้อมกับการหลบซ่อน

      ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนั้น แต่ฉันก็ไม่กล้าพอจะเอ่ยถามเธอ...

      เพราะแค่การได้เธอคืนมา ณ ตอนนี้ มันก็..

      เป็นเหมือนปาฏิหาริย์มากพอแล้ว

      กระนั้น

      ความสงสัยนั้นก็ยังทับถมลงในหัวใจ การเดินทางที่ทอดยาวยิ่งกว่าเก่ายิ่งทำให้สิ่งเหล่านั้นยิ่งเพิ่มพูน

      เรากำลังจะไปไหนและกำลังจะทำอะไร

      ท้ายที่สุดฉันก็ถามขึ้นในวันหนึ่ง

      คุณไม่จำเป็นต้องรู้

      นั่นคือคำตอบเดียวที่ได้ยิน..แล้วบางสิ่งที่แฝงในน้ำเสียง

      ก็ทำให้ฉันไม่กล้าถามออกไปอีกเลย

      .

      .

       

      ..ความสงสัยยังถูกเก็บไว้ในใจ...กระทั่งวันหนึ่งฉันได้พบตุ๊กตาสังหาร...ที่คล้ายกับตน

      ..พวกเขาเหล่านั้นเหมือนฉันแต่ไม่เหมือนฉัน..พวกเขามีหัวใจ

      แต่เป็นหัวใจที่ปรารถนาในการฆ่าและการทำลาย

      ตุ๊กตาเหล่านั้นมุ่งเข้าทำร้ายเธอด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม รอยยิ้มแสยะบ่งบอกว่าปรารถนา..ต้องการจะทำลาย

      ฉันกระชับอาวุธในมือ..สิ่งที่เธอมอบให้มา แล้วเข้าฟาดฟันกับตุ๊กตาเหล่านั้นด้วยจุดประสงค์เพียงหนึ่งเดียว..

      เพื่อปกป้องเธอ

       

      ++++++++++++++++++++

       

      นับจากวันนั้น ฉันก็ต้องต่อสู้กับผู้คนที่ตามล่าเธอทั้งที่ฉันไม่รู้เหตุผลว่าเพราะอะไร

      และกระนั้น...ฉันไม่มีความคิดที่จะถามอีกต่อไป เพราะสิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือพวกเขาที่คิดจะพรากเธอไป

      คนเหล่านั้นคือตุ๊กตา..ตุ๊กตาสังหารที่ร้ายกาจและเลวทรามยิ่งกว่าที่เคยเจอ...

      สิ่งเหล่านั้นปรารถนาในการฆ่าและทำลาย มีจิตใจวิปลาสดั่งมนุษย์ที่สูญสิ้นสัจธรรม

      ฉันปกป้องเธอจนเลือดสีน้ำเงินไหลริน ดวงตาข้างที่ถูกทำลายถูกกระแทกซ้ำจนสะเทือนไปถึงหน่วยความจำ

      เป็นเช่นนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า และทุกครั้งเช่นกัน..ที่เธอจะรักษา..จะซ่อมแซมให้ฉันด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน

      แม้กระทั่งบัดนี้ฉันก็ยังรู้สึกได้...รอยยิ้ม..ดวงตา..เสียงหัวเราะการหยอกล้อ..พูดคุย

      รอยยิ้มที่แม้ไม่เหมือนเดิมแต่ก็ยังมีมอบให้..ดวงตาที่เรียวกว่าเก่าแต่ก็ยังอ่อนโยน

      เสียงหัวเราะที่ทุ้มต่ำลงกว่าเดิม..เรื่องสนทนาที่เคร่งเครียดและไม่มีวันเป็นเหมือนเก่าอีกต่อไป

      แต่ทุกสิ่งนั่นหลอมรวมเป็นตัวเธอ

      มือของเธอสัมผัสฉันอย่างอ่อนโยน..โลกทั้งใบ..เวลาทั้งมวลของฉันหยุดลง...เพื่อเวลานั้น

      เวลาที่แสนอ่อนโยน

      ผ้าพันแผลไม่ได้ช่วยผิวของตุ๊กตาที่ไม่อาจสมานได้..แต่ความอบอุ่นก็ซึมซับเข้ามาในหัวใจ...

      ..สิ่งที่ล้ำค่ายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด….คือตัวตนของเธอ

      ดังนั้นแล้ว ฉันจึงตัดสินใจอีกครั้ง

      .

      .

      ..ฉันจะปกป้องเธอ..

      ฉันจะปกป้องเธอ ปกป้องจากทุกสิ่ง จากทุกผู้ที่หมายมั่นจะทำลายเธอ

      ฉันจะปกป้องเธอ จะทำลายทุกสิ่งที่หมายมาดให้เธอทุกข์ใจ

      ฉันจะปกป้องเธอ ฉันจะยืนอยู่เคียงข้างเธอ ตลอดไป..ตราบจนกว่าร่างนี้และวิญญาณนี้จะสิ้นสลายไป

      ..ตราบนิรันดร์..

      .

      .

      ++++++++++++++

      .

      .

      ทุกสิ่งวนเวียนดั่งวัฎจักร

      ตัวเธอที่ถูกไล่ล่า ตัวฉันที่ปกป้องเธอ ตุ๊กตาสังหารจิตวิปลาสที่ไล่ฆ่าผู้คน..รวมทั้งไล่ตามตัวตนของเธอ

      ครั้งหนึ่ง..ความเห็นแก่ตัวที่อยากอยู่เคียงข้างเธอของฉันทำให้ฉันลืมมันไป..

      แต่แล้วฉันก็ระลึกได้....ฉันยังไม่รู้จักโลกใบนี้เลยแม้แต่นิดเดียว

      โลกในช่วงเวลาสิบปีที่ฉันหลับไป โลกที่ฉันไม่รู้จัก โลกที่เธอดำรงอยู่มา

      นั่นทำให้ฉันเอ่ยถามเธอ....อีกครั้ง

      ทำไมถึงถูกตามล่า

      คุณไม่จำเป็นต้องรู้

      คำตอบเดิมดังมา แต่คราวนี้...ฉันจะไม่ยอมเงียบไปอีกแล้ว

      ถ้าเธอยังพูดแบบนี้ ฉันคงติดตามเธอไปไม่ได้อีกแล้ว

      นั่นคือคำโกหก แต่เพื่อให้เธอบอกฉัน มันคือเรื่องจำเป็น

      แววตาของเธอระริกไหว หวาดกลัวที่ฉันต้องจากจร ..และแล้วในที่สุด เธอก็เริ่มเล่าออกมา

      ความเปลี่ยนแปลงทั้งปวงที่ฉันยังไม่รู้ตลอดเวลานับสิบปี

      .

      .

      หลังจากสงครามล้างเผ่าในอาณาจักรที่ฉันได้หลับใหลไปจบลง

      กลวิธีในการสร้างตุ๊กตาสังหารก็ถูกส่งต่อให้อาณาจักรศัตรู

      พวกเขาสร้างตุ๊กตาสังหารขึ้นให้ไร้หัวใจ บรรจุด้วยความคิดของการเข่นฆ่าเพื่อการสงคราม

      อาณาจักรแห่งนั้นส่งตุ๊กตาสังหารไปให้หลายอาณาจักรทั่วโลก

      ค้าขายเพื่อความโลภของตนโดยไม่คิดถึงผลที่ตามมา

      สงครามเริ่มขึ้น..รุนแรงยิ่งกว่าทุกครั้งที่มีมา ความเลวร้ายเริ่มครอบงำ คามหวาดกลัวแผ่ขยายดังโรคร้ายมาเยือน

       แล้วโลกก็เปลี่ยนเป็นสีเทาด้วยการฆ่าล้างและการทำลาย...ด้วยอาวุธอันร้ายกาจที่เรียกว่าตุ๊กตา

      .

      .

      ..แต่อาจเพราะความผิดพลาดและความไม่ชำนาญ  จึงกลับกลายเป็นว่า..สิ่งเหล่านั้นบางตัวเต็มไปด้วยอารมณ์

      อารมณ์อันบ้าคลั่งและรุนแรง

      อารมณ์อันวิปลาสที่เรียกว่าความคลุ้มคลั่งในการทำลาย

      .

      .

       ...ในตัวของผม....มีสิ่งหนึ่งฝังเอาไว้

      ฉันยังจำได้...ใบหน้าที่เหมือนจะแตกร้าวของเธอในตอนนั้น  กับมือที่กำแน่นระริกที่แผ่นอก..ตำแหน่งที่ถูกฝัง[สิ่งหนึ่ง] ลงไป

      สิ่งนั้นคืออุปกรณ์บางอย่างที่ทำให้โลกเคลื่อนไหว สิ่งนั้นทำให้ควบคุมตุ๊กตาสังหารได้ และทำให้หยุดทำงานได้เช่นกัน

      ดังนั้นแล้วผู้ครอบครอง..จึงไม่ต่างจากเจ้าผู้ครองโลก..ผู้กำชะตาของอาวุธร้ายไว้ในมือ

      และมันถูกฝังไว้ในร่างกายของเธอ..เหตุผลที่กระจ่างชัด...ว่าทำไมถึงถูกตามล่าตลอดมา

      ความหวาดกลัวปรากฏในแววตาสีฟ้า ...สิ่งที่ทำใหบร่างที่สูงขึ้นมานี้..ดูเล็กและบอบางราวจะแตกร้าวลงง่ายๆ

      ตัวเธอที่ฉันไม่ได้เฝ้าปกป้องเมื่อสิบปีก่อน..พบเจอกับอะไรกันแน่

      ตัวเธอที่ฉันต้องห่างไกลนานนับสิบปี..ต้องพบกับอะไร

      ไม่ทันเท่าความคิด ไม่ทันเท่าความปรารถนา อ้อมแขนของฉันก็ดึงเธอเข้ามาโอบกอดอย่างแนบแน่น

      ด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย

      ฉันได้สาบานอีกครั้ง.....กับหัวใจของตัวเอง

      ฉันจะปกป้องเธอ จะอยู่ตรงนี้...จะทำตามที่เธอปรารถนาทุกอย่าง

      ..ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอไปนิรันดร..

      .

      .

      ++++++++++++++

      .

      .

      ในที่สุดเธอก็บอกฉันเสียที..ถึงจุดหมายที่เราต้องไป

      ..ที่นั่นคืออาณาจักรซึ่งเคยทำลายบ้านเกิดของฉันและเธอ

      ที่นั่นมีสิ่งที่เหมือนกับสิ่งที่ฝังในร่างของเธอ หากไปทำลายสิ่งนั้น สิ่งที่อยู่ในร่างเธอจะหยุดทำงาน

      มันจะไม่มีค่าอีกต่อไป และตุ๊กตาสังหารทั้งหมดก็จะถูกทำลาย

      ในตอนนั้นฉันไพล่นึกถึงตัวเอง ฉันจะต้องถูกทำลายไปด้วยหรือเปล่า?

      ในตอนนั้นฉันไม่ได้ถามออกไป แต่หากเป็นเช่นนั้นจริง ฉันก็จะหาหนทางเพื่อให้ได้อยู่เคียงข้างเธอ

      จะไม่ยอมจากเธอไปอย่างแน่นอน

      .

      .

      ++++++++++++++

      .

      .

      กาลเวลาผันผ่านดั่งเม็ดทรายที่ร่วงหล่นลอดนิ้วมือไป

      .ในที่สุดการเดินทางก็จบสิ้นเมื่อเรามาถึงที่หมายของฉันกับเธอ

      ฉันต่อสู้กับตุ๊กตาสังหาร ปกป้องเธอไปพลางโดยไม่ลำบากอะไร

      ร่างกายนี้จะเจ็บอีกเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไร ในเมื่อตุ๊กตา..ขอเพียงยังมีห้วงคำนึงอยู่จะสร้างใหม่อีกเท่าไหร่ก็ยังได้

      แต่เธอจะต้องไม่บาดเจ็บ จะต้องดำรงอยู่ต่อไป

      ความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของตุ๊กตาสังหารตนนี้

      ฉันทำลายตุ๊กตาสังหารทุกตัวที่ขวางหน้าด้วยกรงเล็บและอาวุธที่เธอมอบให้

       ก้าวเดินเหยียบย่ำซากทะเนินสูงของเพื่อนฝูงที่ไม่รู้จักเพื่อเป้าหมายที่ต้องการ

      ฉันกระโดดลงไปก่อนบนพื้นดินที่ไร้ซากตุ๊กตาหันมองเธอ ยืนแขนรอรับร่างของมนุษย์เช่นเธอที่กำลังกระโดดลงมา

      ฉันจะปกป้องเธอ เติมเต็มความปรารถนาและความเชื่อมั่นที่เอ่อล้นเต็มหัวใจ

      ฉันจะจบทุกสิ่งในคราวเดียว แม้ชีวิตของตนต้องพังพินไป

      เพื่อให้จากนี้เธอจะไม่ต้องหลบหนี เพื่อที่จากนี้เธอจะพบแต่ความสุขใจ

      เพื่อที่จากนี้เธอจะดำรงอยู่ต่อไป..แม้ไม่มีฉันแล้วก็ตาม

      .

      .

      ++++++++++++++++

      .

      .

      แม้ว่าฉันจะต้องถูกทำลายพร้อมตุ๊กตาสังหารทุกตัว แต่ฉันก็จะทำให้เธอสมหวังดังใจ

      ฉันจะปลดโซ่ตรวนที่รัดรึงตัวเธอไว้ แม้ว่าตนจะไม่มีโอกาสอยู่เคียงข้างเธอแล้วก็ตาม

      พวกเราก้าวเดินไปในปราสาทสีแดงเลือด เหยียบย่ำซากตุ๊กตาสังหารและข้ามผานกองทัพแห่งการทำลายจนมาถึงที่หมายในที่สุด

      สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือมนุษย์....มนุษย์คนหนึ่ง.มนุษย์ที่ฉันจดจำได้ดีว่าคือใคร

      ภาพที่หวนคืน ตัวเธอที่ร่ำไห้กรีดร้องยามจากจรฉันไป

      ..ใครกันที่พาเธอไป..ในตอนนั้นช่างเลือนราง หากบัดนี้กลับแจ่มชัด

      ใบหน้านั้น..เหมือนดั่งความทรงจำไม่ผิดเพี้ยน!
      .
      .

      โดยไม่ต้องใช้ความคิด ฉันก็ตรงเข้าทำลายฆ่าฟัน..ต่อสู้กับมนุษย์ตรงหน้าด้วยไฟแห่งการล้างแค้นที่โหมกระพือ

      เป็นเขาที่ทำให้เธอจากฉันไป เป็นเขาที่ทำลายความสุขของเธอ

      เวลาผ่านไปเท่าไหร่ฉันไม่รู้ ห้วงกาลผ่านไปเท่าไหร่..ไม่อาจทราบ

      หากในที่สุด ฉันก็ฟาดฟันเขาจนจมกองเลือด..อาบย้อมโลกสีเทาด้วยสีแดงของเลือดที่หลั่งริน

      ฉันยิ้มด้วยความวิปลาส มือเปื้อนเลือดสั่นเทาเมื่อการล้างแค้นเสร็จสิ้น..แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันไม่เข้าใจ..

      คือรอยยิ้มก่อนจากไปของร่างที่อยู่ตรงหน้า..

      ทำไม...ฉันถึงรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นคุ้นเคยล่ะ...

      ...แค่นี้..ผมก็เป็นอิสระซักที...

      เธอพูดแบบนั้น พร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ฉัน มือเรียวคว้านเข้าไปในบาดแผลของร่างที่นอนตาย

      กระทั่งหยิบสิ่งหนึ่งออกมาจากบาดแผลสีแดงเพลิง

      มือเรียวบีบสิ่งนั้นจนแตก ฉับพลันฉันก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่ดังไปทั่วบริเวณ

      ..จิตวิญญาณของตุ๊กตาสังหารกำลังถูกทำลาย....

      รอยยิ้มขื่นปรากฏบนใบหน้าของฉัน

      ต้องจากกันแล้วสินะ

      และระหว่างที่ฉันกำลังจะหันไปหา......

       

      .

      .

      .

      ตุบ

      .

      ..

      .

      ..

      .

       

      ตัวเธอก็ล้มลงไป

      ฉันกรีดร้องไม่เป็นภาษา มือสั่นเทารีบรุดเอื้อมคว้าร่างเธอขึ้นโอบกอด..ความกลัวแล่นพล่าน..ปราดลงเข้าสู่ดวงใจ

      เกิดอะไรขึ้น ทำไม ทำไมกัน ทำไม..!

      ทำไมเธอถึง........!!

      ผมน่ะ...ไม่ใช่เจ้าชายของคุณหรอกครับ...

      คำพูดนั้นทำให้หัวใจของฉันดิ่งลงต่ำ..เจ็บปวด..ทรมาน ราวกับจะถูกคว้านให้หายไปจากอก

      พูด...อะไ..ร

      ผมเป็นร่างโคลนที่ถูกใส่ความทรงจำของเขา..ตัวจริงของเขา..คือคนที่เธอเพิ่งจะฆ่าไป.

      ..เขาถูกทำให้เปลี่ยนแปลง..แต่ก่อนที่จะเป็นแบบนั้นเขาไม่ต้องการจะลืมคุณ..เขาจึงสร้างผมขึ้นมา ...

      แล้วใส่ความทรงจำทั้งหมดที่มีลงไป....ก่อนที่เขาจะถูกทำให้กลายเป็นคนที่คุณไม่รู้จักอีกต่อไป...

      ความจริงนี้ทำให้ฉันตัวชาวาบ ทั่วทั้งร่างกายสิ้นเรี่ยวแรง..เจ็บปวด

      งั้นก็หมายความว่า...ฉัน....

      ฉัน...!
      มือของฉันกำแน่นจนกรงเล็บแหลมจิกลงบนมือที่ไร้โลหิต ในขณะที่เธอยังพูดต่อไป

      ตุ๊กตาสังหารถูกทำลายหมดแล้ว..ด้วยความต้องการของเขาที่สืบทอดมายังผม..

      แต่ว่า...คุณถูกสร้างก่อนหน้านี้จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการถูกทำลายอันนั้น

      คุณคือตัวตนที่สมบูรณ์แบบ...คุณไม่มีวันถูกทำลายตราบเท่าที่หัวใจของคุณยังปรารถนาจะดำรงอยู่ต่อไป.

      ไม่.........

      ฉันร้องขัด แต่เธอก็ยังพูดต่อพร้อมกำสิ่งนั้นไว้ในมือ..

      เครื่องจักรที่ถูกดึงออกมาจากอก..ของคนที่เธอบอกว่าเขาคือ [เจ้าชาย] ตัวจริง

      .สิ่งนี้...ที่เหมือนกันซึ่งอยู่ข้างในนี้...มันเต้นแทนหัวใจของผมที่หยุดไป….

      หัวใจของผมอ่อนแอ..เขาจึงมอบสิ่งนี้ไว้ในตัวผมเพื่อให้ผมดำรงอยู่ต่อไป...แต่มันจะหยุดลงเมื่ออีกตัวถูกทำลาย..

      ตอนนี้.......มันกำลังหยุดทำงานแล้ว

      ไม่.......!!

      ต่อให้ไม่ใช่เจ้าชายจริงๆ ต่อให้เป็นร่างที่ถูกโคลนมาพร้อมความทรงจำ

      แต่เจ้าของรอยยิ้ม เจ้าของน้ำเสียง เจ้าของรอยสัมผัสอันอบอุ่นที่ผ่านมาก็ยังเป็นของเธอ

      นั่นคือความจริง....ที่ไม่มัวนถูกบิดเบือน

      เธอคือคนสำคัญของฉัน มากกว่าเจ้าชายที่ไม่ได้พบมานับสิบปี..ดังนั้นได้โปรด..อย่าจากไป...!

      ได้โปรด....อย่าจากไป...!”

      ..เธอฟังคำนั้นพร้อมมองสีหน้าที่ปริ่มจะขาดใจตายของฉัน แต่แล้วเธอกลับยิ้ม..ยิ้มด้วยสีหน้าที่เปี่ยมสุขที่สุด..

      ขอบคุณนะครับสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมา...ผมมีความสุขมาก..แม้จะรู้ว่านั่นเป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่มีต่อเจ้าชายตัวจริงของคุณ..

      เป็นความรู้สึกที่อ่อนโยน..เป็นความรู้สึก..ที่ทำให้ผมเป็นสุข....ผมที่ถูกสร้างขึ้นอย่างไร้ตัวตนที่แท้จริงนี้..

      ..สุดท้ายนี้...นี่คือความปรารถนาของเขาและของผมที่มีต่อคุณ......

      ขอให้คุณ............มีชีวิตอยู่ต่อไปนะครับ

      เธอพูดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง..กว้างและอ่อนโยน..ใสซื่อและบริสุทธิ์....

      ภาพความทรงจำที่ซ้อนทับกัน

      รอยยิ้ม..ในตอนนั้น
      รอยยิ้มในอดีตสีคราม

      .

      .

      .

      .

      ทุกสิ่ง...ค่อยๆหยุดลง

      ดวงตาที่ปิดลงของเธอ รอยยิ้มที่ค้างบนใบหน้าเปี่ยมสุข

      บางที..นั่นอาจรวมถึงหัวใจของฉันด้วย

      ..หัวใจที่หยุดลงแล้วของฉัน....

      ฉันวางร่างของเธอลงบนพื้น มองไปยังร่างที่ฉันฆ่าเองกับมือ...

      ใบหน้าที่เหมือนเธออย่างไม่ผิดเพี้ยน...

      ฉันจำผิดไปได้อย่างไร..จำ...ใบหน้าของเธอ...ผิดกับใบหน้าของคนที่พาเธอไปได้อย่างไร

      .

      กาลเวลา

      .

      ความเข้าใจผิด

      .

      ความทรงจำที่บิดเบือน

      .

      เศษซากของการพังทลาย

       

       

      ทุกสิ่งร่วงหล่นโถมทับลงมาบนตัวฉันจนหนักอึ้ง
      ความปวดร้าวที่เรียกว่าการสูญเสียเธอไป

      ฉันลูบบนผิวอุ่นๆของร่างที่เพิ่งตายไป....มือของฉันสั่นระริก..ไม่อาจยอมรับความจริงได้ในยามนี้
      ...หยาดน้ำตาที่ไม่เคยร่วงหล่นจากดวงตาค่อยๆพร่างพรูออกมา

      ฉันเป็นคนทำลายเอง....

      ทั้งเจ้าชายตัวจริง.......ที่ปรารถนาให้ฉันเป็นสุขเจ้าชายที่ฉันเคยดูแลมาด้วยความรักของตน

      ทั้วตัวเธอ...ทีอยู่เคียงข้างฉันเมื่อฉันตื่นขึ้นมา….คนที่ฉันสาบานว่าจะปกป้องไปชั่วนิรันดร์

      ตัวตนทั้งหมดของเธอที่ฉันรัก.....

      เป็นฉัน..ที่ทำลายมันลงไปกับมือ!!

      .

      .

      .

      ...แล้วเสียงกรีดร้องก็ดังกังวานไปทั่วปราสาทที่เงียบงัน...

      +++++++++++

      .

      .

      .

      ........เสียงกรีดร้องดังกังวาน พร้อมกับร่างสองร่างที่อาบย้อมไปด้วยเลือดสีแดงฉาน...

      ราวกับจะถูกกลืนลงไปในทะเลสีชาดไร้ก้นบึ้ง……

      ฉันโอบกอดร่างทั้งสองของเธอไว้ หยาดโลหิตแปดเปื้อนเรือนผมสีขาวโพลนหากฉันไม่ใส่ใจ
      ฉันได้แต่วิงวอนขอพระเจ้า..ทั้งที่ฉันไม่เคยเชื่อมันเลยซักครั้งเดียว

      ได้โปรด….อย่าพรากสิ่งสำคัญของฉันไป

      ฉันโอบกอดเธอแน่นขึ้น คำพูดนั้นเวียนวนพึมพำในริมฝีปากของฉันพร้อมความรู้สึกมากมายที่ไม่รู้จักซึ่งประดังเข้ามา

       

      ทรมาน เจ็บปวด ทุกข์ทน โศกเศร้า ว่างเปล่า

       

      น้ำตาหลั่งรินทั้งที่ฉันไม่รู้จัก หยาดน้ำตาพร่างพรูไม่หยุดทั้งที่ฉันไม่ควรมี

      ชั่วนิรันดร์จะไปมีค่าอะไร..หากไม่มีเธออยู่เคียงข้างฉันอีกแล้ว

      การดำรงอยู่ที่เธอมอบให้จะไปมีค่าอะไร..หากจากนี้ฉันต้องอยู่อย่างเดียวดาย..

      น้ำตาหลั่งริน..หยาดฝนพร่างพรู...

      .

      .

      .

      .

      .

      .

      ร่วงหล่นลงมาในโลกสีแดงฉานที่เอ่อล้นด้วยความทรมาน

      .

      .

      .

      .

      .

      .

      ฉันจะพาร่างของเธอ....

      .

      .

      .

      .

      ไปยังสถานที่แห่งการหลับใหลที่เรียกว่าผืนทะเล

      .

      .

      .

      .

      .

      ฉันจะหลับใหลไปพร้อมกับเธอ
      .
      .
      .

      ทิ้งคำว่าการดำรงอยู่และชั่วนิรันดร์ไว้ในโลกเบื้องหลังที่ไม่มีเธออีกต่อไป.

      .

      .

      .

      ฉันจะหลับไปตลอดกาล...

      .

      .

      .

      จนกว่าจะถึงวันที่ฉันได้เธอกลับมา.....อีกครั้ง

      .

      .

      .

      .

      .

      .

      ..

       

       

      .

      .

      .

      .

      .

      .











      ......................พี่ชาย มันอันตรายน่ะ ดูสิ นั่นมันตุ๊กตาไม่ใช่เหรอ

      ก็ตุ๊กตาน่ะสิ  พี่ถึงชวนนายมาด้วยไง น่าสนใจออก

      แต่..ดูสิ มีเขาด้วยนะ เล็บก็แหลม..น่ากลัวจะตาย รีบกลับบ้านกันเถอะ..!”

      น่า....พี่ชอบเขาออก อย่ารั้งสิ อ๊ะ ขยับแล้ว...!!”

      จริงด้วย...!

       

      .

      .

      .

      .

      ภาพรอยยิ้มที่คุ้นเคยของร่างสองร่าง

      กับเสียงสองเสียงที่ดังขึ้นพร้อมกัน

      อรุณสวัสดิ์!! คุณพี่สาวตุ๊กตา”

      .

      .

      .

      .

      ความสุขที่กลับมาเยือนอีกครั้ง

      คราวนี้ จะไม่ปล่อยให้ความเข้าใจผิดกับกาลเวลาพรากมันไปอีกแล้ว

      .

      .

      .
      .
      .

      ยินดีที่ได้รู้จัก..ฉันชื่อ................

       

      .

      .

      .

      .

      ..THE END…

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×