ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [AU Fic] Darkness in your heart -RL- (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter2 : Sex Toy

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.5K
      6
      6 ต.ค. 52

    นัยน์ตาสีเขียวมรกตปรือขึ้นมาอย่างุนงง นี่มันอะไรกัน....เรื่องที่เกิดขึ้น มันเป็นความจริงหรือความฝันกันแน่ ผมเงยหน้ามองไปรอบๆ เตียงสีดำกับผนังที่ดูทึมๆ



    บ้าน.....ของใครกัน



    "แกเป็นลม ชั้นเลยต้องแบกมา ชิ ทำสำออยไปได้ ไม่ใช่ครั้งแรกซะหน่อย" เสียงทุ้มๆที่ดังขึ้นมา ทำเอาผมสะดุ้งสุดตัว......เสียงเยียบเย็นแบบนี้.....งั้นเรื่องนั้นก็ไม่ใช่แค่ความฝัน



    รีบอร์นยืนพิงขอบประตูห้องแล้วมองผมอย่างเบื่อหน่าย.......ไอคนเลว



    "นั่นเป็นครั้งแรกของชั้น......รู้ไว้ซะ ชั้นไม่ได้ร่านอย่างที่นายพูด คนเลวๆอย่างนายคงไม่รู้สึกอะไรสินะ สนแต่ว่าตัวเองจะพอใจเท่านั้น ไอคนตี 2 หน้า"



    เขายิ้มเยาะก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ผม ทำให้ผมต้องถอยกรูดไปที่เตียงอีกฝั่งนึงทันที แต่อาการปวดสะโพกที่รุนแรงทำให้ผมขยับไม่สะดวก



    เจ็บ........จนแทบขยับไม่ได้ sex ที่รุนแรงมีแต่จะทำให้เจ็บช้ำ ทั้งๆที่ผม.....อยากจะเก็บครั้งแรกไว้ให้กับโคโรเนโร่แท้ๆ



    คิดอย่างนั้นแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา ทำไม....ทำไมกัน ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงต้องเกิดขึ้นกับผมด้วย เจ็บใจตัวเอง....เพราะความอยากรู้อยากเห็นนั่นแท้ๆ ทำให้ผมต้องมาเจอะเจอกับเรื่องแบบนี้ ทำตัวเองชัดๆ....



    รีบอร์นนั่งลงบนเตียงคนละฝั่งกับผม ก่อนจะควักบุหรี่ขึ้นมาสูบหน้าตาเฉย เหลือบตามองผมที่นั่งร้องไห้ด้วยสีหน้าว่างเปล่า



    "แกนี่มันน่ารำคาญเป็นบ้า หยุดร้องไห้ซะที ทำยังกะพวกผู้หญิงเสียพรหมจรรย์ไปได้ เสียงร้องแกทำให้ชั้นหมดอารมณ์"



    "หมดอารมณ์ก็เอาเสื้อผ้ามาคืนชั้นซะ เต๊ะท่าสูบบุหรี่อยู่ได้" ผมตะโกนออกมา พอกันทีกันการร้องไห้คร่ำครวญ ตอนนี้อารมณ์โกรธผมมันมีมากกว่า........รีบอร์นหันมามองหน้าผมแล้วชี้นิ้วไปที่มุมห้อง



    "ก็ไปเอาสิ" ไอหมอนี่.....



    ผมรวบผ้าห่มขึ้นมา แล้วเอาพันตัวอย่างลวกๆ ขณะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นยืนนั้น เขาก็กระชากข้อมือของผมอย่างรุนแรงจนสะโพกผมกระแทกกับเตียงนอน



    "โอ๊ยย ทำบ้าอะไรของนาย ชั้นเจ็บนะ" ผมโวยวายออกมา เจ็บสะโพกจะตายอยู่แล้ว คนๆนี้จะเอาอะไรจากผมนักหนา



    "ใครอนุญาตให้นายเอาผ้าห่มไปลากพื้นแบบนั้น"



    "อะไรนะ"



    "เอาผ้าห่มออก แล้วอยากจะไปหยิบเสื้อผ้าก็ไป"



    รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏเด่นชัดขึ้นที่ริมฝีปากบางของรีบอร์น หมอนี่.....จงใจให้ผมอับอาย ถ้าทำอย่างนั้น ก็เท่ากับว่าผมต้องเดินไปหยิบเสื้อผ้าด้วยร่างกายเปลือยเปล่า



    แต่ใครจะไปสน......ในเมื่อเขาคิดว่าผมร่านอยู่แล้ว แก้ตัวยังไงก็ไม่อาจเปลี่ยนความคิดในแง่ลบไปได้



    ผมปลดผ้าห่มลงไปกองไว้กับเตียง ตัวสั่นน้อยๆจากความหนาวเย็นของเครื่องปรับอากาศภายในห้อง แต่เหนืออื่นใด.....ผมทรุดลงไปกองกับพื้นทันทีที่เหยียบลงพื้น เจ็บแปลบไปทั่วสะโพกจนแทบทนไม่ได้



    อีกครั้ง......ที่ผมรู้สึกราวกับว่าถูกจ้องมองเหมือนกับเป็นสินค้าที่ถูกประเมินราคา



    ดวงตาคมกริบจับจ้องอย่างร้อนแรงไปที่เรือนร่างบอบบางของเจ้าของนัยน์ตาสีเขียวมรกต ใช้สายตามองสำรวจไปทั่วผิวกายขาวผ่องกับรอยจูบสีกุหลาบที่ปรากฏเด่นชัดบนผิวเนื้อนวลเนียน ก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่สะโพกมนกับช่องทางสีชมพูช้ำที่ลอยเด่นขึ้นมาอย่างเย้ายวนใจตามการเคลื่อนไหวของต้นขาเรียวขาว



    รีบอร์นเลียริมฝีปากอย่างอดใจไว้ไม่อยู่ ก่อนจะตัดสินใจก้าวขายาวๆออกไปขวางทางร่างบอบบางเอาไว้ แรมโบ้เงยหน้ามองร่างสูงอย่างสงสัย แต่ความสงสัยนั้นก็พลันเปลี่ยนเป็นความหวาดระแวง เมื่อรอยยิ้มไม่น่าไว้วางใจปรากฏบนริมฝีปากบางของรีบอร์น



    มือหนายกกองเสื้อผ้าทั้งกองขึ้นมา ผมพยายามทรงตัวขึ้น แต่ความเจ็บที่แล่นปราดขึ้นมาทั่วสะโพกทำให้ได้แต่คุกเข่า สองแขนเอื้อมมือไขว่คว้าเสื้อผ้าของตัวเอง



    รีบอร์นดูเหมือนกำลังสนุกอยู่ เขายกกองเสื้อของผมโยกหลบไปทางโน้นทางนี้อย่างสนุกสนาน ราวกับหยอกเย้าอยู่กับลูกแมวตัวน้อยๆ เขาทำราวกับว่าผมเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา.....



    ผมเกลียด........เกลียดทุกๆการกระทำของเขาที่มีต่อผม



    "ลองทำให้ชั้นพอใจดูสิ แล้วชั้นจะคืนเสื้อผ้าให้"



    ทำให้พอใจ......หมายความว่ายังไงกัน



    "ทำไมชั้นจะต้องทำให้นายพอใจด้วย" ผมถามพลางเบือนหน้าไปอีกทาง อยากหลบ......หลบไปให้พ้นจากสายตาเจ้าเล่ห์ที่ส่งสายตาราวกับจะแผดเผาเรือนร่างของผม รีบอร์นไม่พูดอะไรไปพักใหญ่ เขาใช้สายตาสำรวจเรือนร่างผมอย่างจาบจ้วงอยู่อย่างนั้น....จนผมแทบทนไม่ได้



    หน้าของผมขึ้นสีแดงก่ำด้วยความอับอาย......อับอายแค่ไหน ผมก็ไม่มีวันร้องขอเขา



    "ทำไมน้าาา" เขาลากเสียงยาวอย่างกวนประสาท มือใหญ่จับคางของผมให้เงยหน้าไปสบตาเขา ผมปัดมือนั้นออกทันที รีบอร์นหัวเราะ หึหึ น้ำเสียงชั่วร้ายนั่น.....คำพูดร้ายกาจนั่น



    "เพราะว่าชั้นอยากให้แกปรนเปรอให้ และแกต้องทำ" เขาตะคอก มือใหญ่กระชากแขนของผม ลากไปที่เตียง เข่าของผมครูดกับพื้นพรมจนเจ็บแสบ แรงกระชากที่รุนแรงนั่นทำให้สะโพกของผมเริ่มมีเลือดไหลรินออกมา หยาดเลือดสีแดงสดไหลออกมาจนย้อมพรมสีขาวให้กลายเป็นสีแดงเป็นดวงๆตามทางที่ผมโดนลากผ่าน



    "บ้าชิบ รู้มั้ยว่าพรมนั่นแพง" เขาพูดพลางถอนหายใจ เมื่อโยนผมกลับขึ้นมาบนเตียงแล้วหันไปเห็นรอยเลือดเป็นทางตามพรม และมันกำลังย้อมผ้าปูที่นอนสีขาวให้เป็นสีแดงอ่อนๆ



    "ออกไปนะ ชั้นบอกแล้วว่าจะไม่ปรนเปรออะไรทั้งนั้น ชั้นไม่ใช่นางบำเรอของนาย" ผมตะโกนพร้อมกับพยายามหนีไปนั่งอีกฝั่งของเตียงอย่างจนตรอก แต่ผมรู้......ว่าเขาจะไม่มีวันปล่อยผมไป



    "น่ารำคาญ หุบปากซะ"



    ตี๊ดดด ตี๊ดดด ตี๊ดดดด โคโรเนโร่รักแรมโบ้ที่ซู๊ดดดเลย โคโรเนโร่รักแรมโบ้ม๊ากมากกก



    เสียงแผดร้องของโทรศัพท์เครื่องเล็กของผมดังขึ้นมา เสียงเรียกเข้านี้มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่โทรมา.......ผมมองไปที่กองเสื้อผ้ามุมห้อง รีบอร์นเองก็เช่นกัน ผมไม่ชอบเลย.....สายตาที่เขามองเจ้าโทรศัพท์นั่น



    ไวเท่าความคิด.....รีบอร์นเอื้อมมือไปหยิบมือถือเครื่องเล็ก กดรับสายทันที ทำให้ผมแทบหยุดหายใจด้วยความหวาดหวั่น



    'ฮัลโหล' เสียงทุ้มต่ำที่แล่นมาตามสาย ทำให้โคโรเนโร่ขมวดคิ้ว.....



    "ฮัลโหล นั่นใครน่ะ" เขาถาม พยายามสะกัดกั้นความคิดร้ายๆในหัวเอาไว้



    'ก็ชู้ของแฟนแกไง' คำตอบที่ทำให้หัวใจเขาหยุดเต้น แต่ความเชื่อใจที่มีมากกว่า.....ทำให้เขายั้งสติไว้ได้ และมันยิ่งเด่นชัดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงหวานใสของคนที่เขารักลอยเข้ามาในโทรศัพท์



    'โคโรเนโร่ ไม่ใช่นะ ไอนี่มัน.......'



    ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ดดดดดด



    พลัวะ โดนตบจนแก้มใสๆเป็นรอยฝ่ามือ แก้มที่ชาพร้อมกับรสชาติขมปร่าของโลหิตในริมฝีปากพาลให้น้ำตารินไหลออกมาจากดวงตาสีเขียวมรกต ผมไม่เข้าใจตัวเอง.......เมื่อยกมือขึ้นแตะแก้มตัวเองเพื่อเช็ดน้ำตา กลับมีเลือดเล็กน้อยปนออกมากับหยาดน้ำตา



    นี่ผมโดนตบจนเลือดซิบเนี่ยนะ......น่าสมเพชตัวเอง ผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ



    รีบอร์นมองผมอย่างโกรธเกรี้ยว มือถือเครื่องเล็กถูกปาไปที่ผนังห้องจนแตกกระจาย เขากระชากผมสีดำของผมขึ้นมา



    "คิดเหรอ.....ว่ามันจะเชื่อแก"



    ก็คิดน่ะสิ ถึงได้พยายามพูดไง......แต่ผมก็ได้แต่คิด เพราะรู้ว่า ไม่ฉลาดแน่ที่จะยั่วโมโหรีบอร์นในตอนนี้ ทางที่ดีที่สุดคือ ปิดปากเงียบเอาไว้



    ร่างสูงมองใบหน้าหวานที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา แก้มใสๆมีรอยฟกช้ำเป็นปื้นเป็นรูปฝ่ามือของเขา กับเลือดที่ไหลออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่ม แต่ถึงอย่างนั้น ดวงตาสีเขียวมรกตกลับยังคงทอประกายไร้เดียงสา



    เกลียดนัก.....คนๆนี้ ตั้งแต่ตอนที่เห็นครั้งแรกที่โคโรเนโร่พามาเจอ



    รอยยิ้มไร้เดียงสากับดวงตาที่ทอประกายสดใส อยากจะทำลายมันทั้งหมด



    ทำให้เจ็บช้ำ.....เหมือนกับเขา



    ดวงตานั่นที่มองเข้าไปแล้วราวกับว่าโลกใบนี้ดูสดใส ช่างต่างจากเขา......ที่คิดว่าโลกทั้งใบนั้นมืดมิด



    เขาเกลียด.....ที่จะต้องจ้องมองคนๆนี้



    "บางทีโคโรเนโร่อาจจะอยากรู้เรื่องระหว่างเราก็ได้" ตัดสินใจที่จะพูดแบบนั้นออกไป รอยยิ้มร้ายกาจถูกจุดขึ้นที่ริมฝีปากของเขา



    "อย่า!!!!!!"


    ผมร้องออกมาในทันที ไม่นะ.....แบบนั้นไม่เอา แค่โคโรเนโร่เท่านั้นที่ผมไม่อยากให้เจ็บปวด ทำอย่างนี้....มันจะเลวร้ายเกินไปแล้ว ถ้าโคโรเนโร่รู้เข้า......



    "หวงมันนักรึไง ทำไม....กลัวมันโกรธ กลัวมันเสียใจเหรอ หรือว่า.......กลัวมันจะทิ้งแกไป" รีบอร์นนั่งลงมาที่เตียงเคียงข้างกับผม อยากจะขยับหนี แต่ทำไปก็ไร้ประโยชน์......



    "ทุกอย่างที่นายว่ามา เพราะฉะนั้น อย่าไปบอกเขา.....เพราะเขาไม่ได้เลวเหมือนนาย"



    ประกายตาบางอย่างพาดผ่านดวงตาสีดำสนิทของรีบอร์น อะไรบางอย่าง.....ที่ผมอ่านไม่ออก แต่กว่าที่จะรู้ตัว ร่างทั้งร่างของผมก็ถูกกดลงกับเตียงนุ่มโดยมีร่างของเขาทาบทับอยู่ข้างบน



    มองใกล้ๆอย่างนี้แล้ว......เขาดูเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์และหล่อเหลามากที่สุดเท่าที่ผมเคยพบ ยามที่ถูกจ้องมองด้วยดวงตาคู่นั้นที่ราวกับจะแผดเผา......ถึงผมจะพยายามปกปิดแค่ไหน ความประหม่าของผมกลับยิ่งฉาดชัด.......เพียงแค่เขาปรายตามอง หัวใจของผมก็เต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง......ด้วยความหวาดกลัว



    ริมฝีปากหนาทาบทับลงมา บดขยี้อย่างทะนุถนอมจนร่างบางเผลอครางออกมาด้วยความรู้สึกดี ลิ้นร้อนๆชอนไชกวาดหาความหวานอย่างกระหายหาไปทั่วโพรงปากอิ่มเต็ม แม้ร่างสูงจะเกลียดคนตรงหน้า แต่ก็อดไม่ได้ที่จะลิ้มลองต่อไปเรื่อยๆ.......



    โดยไม่รู้ตัว.....แขนเรียวบางยกขึ้นโอบรอบลำคอของรีบอร์น ก่อนจะเริ่มตอบสนองต่อจุมพิตอ่อนหวานอย่างไม่อาจห้ามใจ ราวกับโดนเวทมนต์ชักพา



    เนิ่นนาน.......กว่าที่ร่างสูงจะถอนริมฝีปาก มือใหญ่ลูบไล้แก้มใสอย่างแผ่วเบาเลื่อนลงมาที่ซอกคอขาวผ่อง ก่อนที่จะ........บีบลำคอนั้นอย่างรุนแรง



    "อ๊อกกกก" ผมพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง น้ำตาเริ่มรินไหลออกมา เมื่อตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังจะหมดลมหายใจ รีบอร์นปล่อยมือออกไปในที่สุด ผมรีบสูดลมหายใจอย่างรวดเร็ว พยายามอย่างยิ่งที่จะสูดลมหายใจเข้าไปให้มากที่สุด แต่ยังไม่ทันตั้งตัว เขาก็บีบคางของผมอย่างรุนแรง จนผมร้องครางด้วยความเจ็บ......



    "อย่าเอาชั้นไปเทียบกับโคโรเนโร่ เพราะชั้นไม่ใช่มัน!!!!!!" พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา จนผมเผลอคิดไปชั่วขณะหนึ่งว่า เขากำลังเจ็บปวด แต่ก็นั่นแหละ.......คนอย่างนี้น่ะเหรอจะเจ็บปวดเป็น



    "นายจะฆ่าชั้นรึไง!!!!!"



    "ก็แกยั่วโมโหชั้นก่อน"



    "แล้วที่นายทำหล่ะ!!!!!!"



    ไอบ้าเอ๊ย! ผมสูดลมหายใจเข้าออกอย่างพยายามระงับสติอารมณ์ รีบอร์นมองหน้าผมนิ่งๆ ดวงตาสีดำสนิทฉายแววครุ่นคิดชั่วแวบ ก่อนจะเขาจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆพลางดึงผมเข้าไปกอดไว้อย่างแนบแน่น



    "ทำบ้าอะไรของนาย"



    ไอหมอนี่บ้าไปแล้วแน่ๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายจนตามอารมณ์ไม่ถูก ตอนแรกก็ด่าว่า ข่มขืน ผลักไส แล้วตอนนี้กลับดึงตัวผมไปกอดไว้ราวกับไม่อยากให้ไปไหน........ผมถอนหายใจ ก่อนจะตัดสินใจนอนอยู่นิ่งๆ เพราะดิ้นไปก็ไม่มีประโชน์ มีแต่จะทำให้เขาโมโห



    "รีบอร์น นายจะนอนใช่มั้ย งั้นชั้นกลับบ้านได้รึยัง" ถามออกไปเบาๆ แต่เขากลับตอบแทนด้วยการเอาจมูกโด่งๆนั่นมาซุกไซ้ที่ซอกคอของผม อา.....รู้สึกดีจัง



    "นายยังไม่ได้ทำให้ชั้นพอใจเลย"



    เขาพูด ก่อนจะเริ่มต้นขบเม้มซอกคอของผมอย่างแผ่วเบา ผมพยายามอย่างมากที่จะสกัดกั้นเสียงครางที่แสดงออกอย่างชัดเจนถึงความพึงพอใจเอาไว้ รีบอร์นกอดผมแรงขึ้นจนร่างกายแนบชิดกัน ไออุ่นจากร่างเขากับกลิ่นกายหอมๆที่แผ่นอกทำให้ผมรู้สึกดี



    ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายร้ายกาจ......แต่ผม.....กลับโอนอ่อนไปกับทุกๆการกระทำของเขา



    "ว่ายังไง" เขาถาม แต่ผมก็ได้แต่เงียบ......



    "เหอะ.........อยากให้โคโรเนโร่รู้เรื่องของเรารึไง"



    ดีๆได้ไม่นาน รีบอร์นคนเดิมก็กลับมา เขาดันผมออกอย่างรุนแรงจนแทบตกเตียง ยืนขึ้นแล้วยกมือขึ้นเสยผม รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏที่ริมฝีปากเขาอีกครั้งเมื่อล้วงโทรศพท์มือถือราคาแสนแพงนั่นออกมา



    "ชั้นอุตส่าห์ทำดีๆกับแก เชื่อฟังกันหน่อยสิ โคโรเนโร่คงอยากดูคลิปที่ชั้นถ่ายไว้ตอนเรามีอะไรกันจะแย่ ถ้าชั้น......ส่งมันไปอย่างนี้......."



    เขาพูดและเริ่มกดปุ่มอะไรบางอย่าง โดยไม่ทันรู้ตัว.....ผมกระโจนไปที่โทรศัพท์นั่นอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ไหวตัวทัน เอาหลบไปได้ แต่ก็เสียหลักล้มลงบนเตียงนอนโดยที่ผมทาบทับอยู่ข้างบน ส่วนมือถือเครื่องนั้นรีบอร์นโยนอย่างมั่วๆไปที่มุมไหนสักมุมของห้องก่อนที่ผมจะทันคว้า



    "ไอเลว แกนี่มัน......" ผมสบถแล้วพยายามลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าตัวเองอยู่ในท่าทางล่อแหลมเพียงใด หากแต่รีบอร์นกลับยึดเอวของผมเอาไว้ ชั่วพริบตาเดียวผมก็กลับมาอยู่ใต้ร่างของเขาเหมือนเดิม ผมพยายามขจัดจินตนาการเรื่องถูกเขากอดในห้องเรียนออกไป



    "นายต้องการอะไร" ตัดสินใจถามออกไปอย่างไม่มีทางเลือก ไม่ว่ายังไงผลประโชน์ก็ตกอยู่กับเขาสินะ......



    "ต้องการนาย......."



    "ว่าไงนะ"



    "อย่าเข้าใจผิด ชั้นแค่อยากให้แกมาปรนเปรอให้เวลาที่ชั้นเบื่อ"



    บ้าไปแล้ว.....นายเห็นชั้นเป็นอะไรกันแน่ ผมพยายามสะกัดกั้นความขมขื่นที่แล่นขึ้นมาตามลำคอ



    คนๆนี้.....ทำราวกับว่าผมไม่มีค่าใดๆให้สนใจ ไม่มีค่าใดๆให้คิดถึงในฐานะคนด้วยกัน



    "ชั้นไม่ใช่นางบำเรอของนาย ถ้าอยากมากนักทำไมไม่ไปหาผู้หญิงมานอนด้วยหล่ะ"



    แต่รีบอร์นกลับหัวเราะราวกับเป็นเรื่องสนุกเสียเต็มประดา



    "กับผู้หญิงที่ยอมแบบนั้นมันจะสนุกอะไร ชั้นชอบอะไรที่ตื่นเต้น......"



    ผมกัดริมฝีปากอย่างชั่งใจ ไม่อยาก.....จะเป็นแค่ของเล่นแก้เบื่อ ที่พอเบื่อแล้วก็ทิ้งอย่างไม่ไยดี



    ไม่ต้องบอกก็พอเดาได้ว่า....หากผมตัดสินใจจะเป็นของเขา ผมมีแต่ต้องเจ็บปวด



    ไม่ใช่แค่ทางร่างกาย......



    แต่ก็ไม่อยาก.....ที่จะให้โคโรเนโร่เจ็บช้ำ เพราะเขารักผม



    ผม.....อยากจะทำอะไรเพื่อเขาบ้าง ถึงแม้ว่าจะเป็นการทำร้ายตัวเอง ผมก็จะขอเจ็บเพียงคนเดียว.....



    ถ้าเป็นอย่างนี้......



    "ก็ได้ แต่นายต้องสัญญาก่อนว่า.....ไม่บอกโคโรเนโร่"



    "อืม.....ชั้นสัญญา"



    อย่างน้อยคนอย่างเขาคงมีศักดิ์ศรีพอที่จะรักษาคำพูด.......ผมคิดอย่างโล่งใจ โดยไม่ล่วงรู้เลยว่าร่างสูงลอบแสะยิ้มอย่างพอใจ......รอยยิ้มอันตราย



    "ชั้นขอโทรหาเขาได้มั้ย" ผมลองเอ่ยถามออกมา แต่ร่างสูงกลับกอดผมแน่นขึ้น จมูกโด่งซุกไซ้อยู่ที่เรือนผมหอมก่อนจะตอบเสียงอู้อี้กลับไป



    "นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะ คนป่วยคงต้องการพักผ่อน ชั้นเองก็เหมือนกัน พรุ่งนี้ค่อยไปหาก็ได้นา"



    ผมพยักหน้าตามคำพูดของเขา ก่อนที่จะเคลิ้มตัวหลับไปเพราะความเพลีย โดยไม่รู้ตัวเลยว่า.....คนอีกคนหนึ่งเป็นห่วงผมแค่ไหน



    ไม่รู้ตัวเลยว่า......ประโยคนั้นเป็นเพียงแค่หลุมพรางของรีบอร์น



    ไม่รู้ตัวเลยว่า.....กำลังโดนหลอกลวงกับคำหวาน



    ไม่รู้ตัวเลยว่า.....ชีวิตหลังจากนี้จะมีแต่ความทุกข์ทรมาน



    นี่.....เป็นเพียงแค่บทเริ่มต้นเท่านั้น


    TBC.


    ................................................................................................................


    (me/ปาดเหงื่อ) เม้นเยอะๆนะคร้าบบบทุกท่าน ทุกคอมเม้นคือกำลังใจเน้อ >O< รักคนอ่านและคนเม้นจ้า อิอิอิ ตอนหน้ายาวกว่านี้แน่นอน ตอนนี้ทำไมมันสั้นจังก็ม่ายรู้ (ไม่ค่อยมีเวลาง่ะ การบ้านส่งพรุ่งนี้แล้วยังไม่ได้ทำเลย มานั่งพิมฟิค)



    ป.ล. มีคนถามซึลว่า ทำไมฟิคเรื่องนี้กะเรื่อง heartless มันคนละอารมณ์กันเลย คำตอบคือ....ไม่รู้เหมือนกันจ้า (กรรม) ฟิครั่วซึลก็แต่งได้นะ แต่ความขี้เกียจมันสะสม ฮือๆๆๆ ต้องเพิ่มพลังด้วยการนั่งอ่านโด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×