คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #101 : เดินทาง
ลำนำจ้าวยุทธจักรถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นโลกของการแข่งขัน ทุกชีวิตที่เข้ามาท้าทายสามารถใช้วิธีใดก็ได้เพื่อก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ทั้งทรยศหักหลัง ขโมยสิ่งของ ล่าสังหาร และก่อตั้งสำนักเพื่อรวบรวมผู้คนไว้กดขี่ผู้น้อย หรือคิดจะเลือกเดินในเส้นทางธรรมะขาวสะอาดก็กระทำได้หากจิตใจยึดมั่นเข้มแข็งพอ และในทุกปีของโลกนี้จะมีการจัดงานสำคัญเพื่อค้นหาผู้ไร้เทียมทานขึ้นมา ซึ่งจะแบ่งได้เป็นสามส่วนดังนี้
1.
Survival
war
2.
ทีมประลองยุทธ์
5vs5
3.
ศึกชิงตำแหน่งจ้าวยุทธจักร
1vs1
ไม่จำเป็นต้องถามว่ามันยิ่งใหญ่เพียงไรเพราะทุกคนตระหนักดีกันอยู่แล้ว มันไม่ใช่แค่ต้องแข่งขันกับคนในเซิร์ฟเวอร์เดียวกันเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงคนจากเซิร์ฟเวอร์อื่นที่จะเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
และในอีกไม่ช้างานแรกกำลังจะเกิดขึ้น เริ่มต้นงานแข่งขันประจำปีด้วย Survival war ซึ่งเพลเยอร์ที่คิดสมัครเข้าร่วมไม่จำเป็นว่าต้องมีสังกัดกิลด์แต่อย่างใด จะเป็นโซโล่เพลหรือกลุ่มคนจำนวนร้อยพันล้วนไม่สลักสำคัญนัก ขอเพียงมีใจกล้าที่จะเข้าสู่สงครามเดือด ทางเกมต่างยินดีต้อนรับทุก ๆ
คนโดยไม่มีข้อยกเว้น
เริ่มนับถอยหลังสู่งานแข่งขันลำนำยุทธ์
สถานที่ซึ่งทุกชีวิตต้องประหัตประหารอีกฝ่าย เปลวไฟและหยาดโลหิตจะหลั่งไหลมอดไหม้แผ่นดิน สังเวยแด่รางวัลล้ำค่าในท้ายสุด ผู้ชนะเพียงหนึ่งหรือกลุ่มอำนาจใดที่หยัดยืนอยู่เหนือเถ้าธุลีและซากศพ จึงจะถือว่ากุมชัยชนะไว้ได้อย่างแท้จริง
…
วาดใช้เวลาพักสมองโดยการหลับลึกจนล่วงมาหกโมงเช้า เขาตื่นขึ้นด้วยสีหน้าสดใสพร้อมเผชิญกับทุก ๆ ปัญหา แต่ยังไม่ทันได้ลุกออกจากเตียงไปไหนก็พลันสังเกตเห็นบุ๊กไทป์มีข้อความติดต่อค้างอยู่เสียก่อน
ดูเหมือนจะเป็นช่วงเมื่อเย็นวานที่เขาออนไลน์เข้าเกมไปแล้วจึงไม่ได้รับสาย
“แม่เองเหรอ…”
พอคว้าบุ๊กไทป์มาเช็คดูทำให้ชายหนุ่มทราบว่าใครติดต่อมาบ้าง เขาระบายลมหายใจแผ่วเบาพลางสละเวลาเปิดข้อความของแม่ในทันทีอย่างทุกครั้ง บุ๊กไทป์ฉายภาพวิดีโอที่ทำการบันทึกอัตโนมัติขึ้นมา ใบหน้าหญิงสาวชื่อดาราแสดงอยู่บนนั้น เธอดูไม่ค่อยดีนักคงเพราะโหมทำงานหนัก ถึงวาดจะเอ่ยปากเตือนแฝงแววห่วงใยมาตลอดเป็นเวลาเกือบสิบหกปี รวมแล้วอาจเป็นแสนครั้งหรือล้านครั้งด้วยซ้ำ จนบัดนี้ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนคนหนึ่งที่เขารักโดยไร้ข้อกังขาไปจากเดิมได้ดั่งที่ใจหวังเสียที
“ต้องสร้างเรื่องใหญ่โตเชียวนะเรา…”
ดารากล่าวขึ้นน้ำเสียงเป็นห่วง
“แม่รู้ว่าลูกตระหนักดีอยู่แล้ว อีกฝ่ายไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ใครมาลูบคมได้ง่าย
ๆ ใช่ไหม? แต่ในเมื่อลูกตัดสินใจเด็ดขาดไปแล้วแม่ก็ไม่คิดว่ามันผิดหรอกนะจ๊ะ เรื่องที่แม่กับพ่อกำลังสงสัยคือการที่ลูกเปิดเผยตัวตนต่างหาก การสอบนานาชาติได้ที่หนึ่งทุกวิชาแถมใช้เวลาน้อยที่สุดในโลกนับเป็นเรื่องใหญ่มากจริง
ๆ ตอนนี้ชื่อของลูกติดอันดับหนึ่งในการค้นหาภายในโลกไซเบอร์ไปแล้ว ทั้งที่ไม่ชอบแต่ก็ยังทำลงไป ลูกมีปัญหาอะไรที่ไม่ยอมบอกกันสินะ เดี๋ยวนี้เราปิดบังกันเหรอคนเก่ง?”
กล่าวมาถึงตรงนี้ดาราก็เงียบไปชั่วครู่ กระทั่งเอ่ยต่อพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น สีหน้าแววตาแสดงความหวงแหนมากเท่าที่คนเป็นแม่จะทำได้
“ทั้งพ่อและแม่รอปรึกษากับลูกอยู่นะ งานที่นี่วุ่นวายจนแทบไม่มีเวลาออกไปไหนเลย ถ้าลูกเห็นข้อความของแม่เมื่อไรช่วยติดต่อกลับมาทีจ้ะ เราสามคนจะคุยกันเกี่ยวกับสาเหตุที่ลูกต้องทำแบบนี้ และลูกต้องพูดความจริงทุกอย่างด้วยนะจ๊ะ ไม่งั้นแม่คงไม่มีสมาธิทำงานแน่ ๆ ทริปไปเที่ยวของครอบครัวเราก็จะช้าไปด้วย เข้าใจแล้วนะ พ่อกับแม่รักลูกและอยู่ข้างลูกเสมอ
ติดต่อกลับมาล่ะ…”
ข้อความที่บันทึกไว้สิ้นสุดลงเท่านี้
“เฮอ จะโกหกแม่ไม่ได้ซะด้วย”
วาดพึมพำคิ้วขมวด แต่เพียงครู่เดียวสีหน้าเขาก็ผ่อนคลายลง ในหัวนึกย้อนไปถึงวัยเด็กที่ไม่ว่าวาดจะปิดบังหรือโกหกอย่างไรดาราจะจับได้ทันที ซึ่งพอเผยความจริงออกไป เรื่องจะคลี่คลายด้วยดีเสมอจากการช่วยเหลือของแม่ เขาจึงรู้สึกว่าการพูดกันตรง ๆ
ไม่เสแสร้งถือเป็นเรื่องดีมานับแต่นั้น
“ช่างเถอะ
กลับจากบริษัทเกมเมื่อไรค่อยติดต่อไปเล่าให้ฟังแล้วกัน”
วาดปิดบุ๊กไทป์และเดินลงจากเตียงพลางบิดขี้เกียจจนเข้าห้องน้ำไป
ไม่บ่อยนักที่ชายหนุ่มจะตื่นสายแถมยังไม่อยากไปวิ่งอย่างทุกทีด้วย หลังจากจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็กลับออกมานั่งทบทวนบทเรียนเป็นนิสัย บนโต๊ะมีซีเรียลกับนมหนึ่งกล่อง ซึ่งวาดจัดแจงเทรวมกันใส่ถ้วยกินไปเรื่อยเฉื่อยขณะตาจดจ้องคลาสเรียน
ทั้ง ๆ
ที่วันนี้ถือเป็นการตัดสินชะตาตัวละครยี่ฟง ทว่านายวาดกลับดูไม่สะทกสะท้านอย่างที่ใครคิด เขาใช้ชีวิตปกติสุขประจำวันเช่นเคย ตื่นนอน อาบน้ำแปรงฟัน ทบทวนบทเรียนพร้อมกินอาหารรองท้องไปด้วย
แต่บุ๊กไทป์ดันแจ้งเตือนขัดจังหวะขึ้นมาไม่รู้เวลาเสียนี่ คลาสเรียนจึงหยุดชะงักเปลี่ยนเป็นแสดงชื่อผู้ที่กำลังติดต่อถึงเขาแทน วาดเผยยิ้มเมื่อทราบว่าใครที่โทรมารบกวน เขารีบถอดเสื้อเปลือยท่อนบนและคว้าบุ๊กไทป์กระโดดกลับไปขึ้นเตียงหวังแกล้งอีกฝ่าย สีหน้าท่าทางดูเหมือนคนเพิ่งตื่นอย่างไรอย่างนั้น
“มีอะไรแต่เช้า…”
วาดถามขึ้นก่อน แต่ปลายสายไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะตอบคำถาม
“นี่นาย! ใส่เสื้อผ้าให้ดูเป็นผู้เป็นคนกับเขาหน่อยสิ”
คนที่โทรมาคือหยกราตรี นอกเกมเธอคือหยกรฐา ซึ่งขณะนี้กำลังหันหน้าหนีมองไปทางอื่นแต่ก็มีเหล่กลับมาเป็นระยะ
“ไม่เคยเห็นผู้ชายเปลือยเหรอ
เรื่องทั่วไปเลยนะเนี่ย”
วาดเอ่ยปากหยอกหญิงสาวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไอ้บ้า! มันใช่เรื่องปกติซะที่ไหน นายโรคจิตหรือไงกัน?”
หยกรฐาเริ่มโมโห จะเห็นได้จากแววตาดุ ๆ ที่มองตรงตอบกลับมา
“คิดอะไรของเธออยู่ไม่ทราบ?
ผู้ชายเปลือยท่อนบนมันก็เห็นกันได้ทั่วไปจริง ๆ นี่”
วาดลุกขึ้นนั่งเผยให้เห็นกางเกงขาสั้นสีเทา ก่อนยื่นฝ่ามือไปคว้าเสื้อตัวหนึ่งมาสวมท่าทางไม่ได้ทุกข์ร้อน หยกรฐาขมวดคิ้วสีหน้าหงุดหงิดที่หลงไปตามเกมอีกฝ่ายจึงรีบกล่าวสวนว่า
“นายกวนตีนแบบนี้แล้วจะให้ฉันพูดคุยดี ๆ ด้วยได้ไง ไม่ใช่ทุกคนจะเหมือนเหนือฟ้าหรอกนะ”
“ฉันรู้
และฉันก็ชอบที่เธอเป็นแบบนี้นี่แหละ
ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำให้วุ่นวาย”
วาดตอบน้ำเสียงจริงจังนิด
ๆ
เล่นเอาหญิงสาวอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวเปลี่ยนเรื่องแก้เขินขึ้นว่า
“นายยังนอนอยู่อีกเหรอ
วันนี้มีนัดที่บริษัทเกมไม่ใช่หรือไง
พวกฉันเตรียมตัวจะเดินทางกันแล้วนะ”
“หือ…หมายความว่าไง?”
วาดเอ่ยถาม ค่อนข้างประหลาดใจพอสมควร
“นายออฟไลน์ออกจากเกมไปก่อนเองนี่ช่วยไม่ได้
ไว้ค่อยมาถามเอากับลุงแล้วกัน รีบ
ๆ เข้าล่ะ ฉันต้องเดินทางแล้วแค่นี้ก่อน…”
หยกรฐากล่าวอย่างเป็นต่อ ดูเหมือนเธอจะได้โอกาสเอาคืนบ้างด้วยการตัดสายทิ้งดื้อ
ๆ
วาดแสดงสีหน้าไม่ถูก จากคำกล่าวของหญิงสาวดูเหมือนว่ากลุ่มเพื่อนในเกมมีแผนจะทำอะไรกันบางอย่าง
“เก้าโมงแล้วหรือเนี่ย
ไวจังนะ”
วาดลุกจากเตียงอีกครั้งเพื่อไปเก็บกวาดห้องจนสะอาดเรียบร้อยดังเดิม
ชายหนุ่มแต่งตัวสบาย
ๆ ไม่ค่อยสนใจพิธีการอะไรนัก ด้วยเสื้อแขนสั้นสีเขียวคล้ายเสื้อทหารแต่เป็นคอวีกับกางเกงขายาวสีดำเคลื่อนไหวสะดวก พอเก็บของใส่เป้และสวมหมวกแก๊ปปกปิดความหล่อลากตีนเอาไว้แล้ว วาดก็เดินไปใส่รองเท้าแตะหูหนีบออกจากคอนโดทั้งอย่างนั้น…
ระหว่างขับรถอยู่บนถนนโล่ง
ๆ วาดก็ใช้ความคิดไปด้วย ไม่ทราบเป็นเพราะสายเลือดของนักประดิษฐ์หรือเปล่า แต่เขามักเผลอจินตนาการเกี่ยวกับวิทยาการล้ำสมัยโดยหาเหตุผลต่าง
ๆ มารองรับให้สิ่ง ๆ นั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริงอยู่เสมอ
จนถึงบัดนี้วาดมีสิ่งประดิษฐ์อยู่ในหัวเต็มไปหมด ทว่าเขาไม่เคยทดลองสร้างมันขึ้นมาสักที ใจหนึ่งได้หักห้ามความคิดทั้งมวลไว้ วาดไม่อยากเป็นคนบ้างานอย่างพ่อกับแม่
เขารู้สึกได้เลือนรางว่าถ้าเกิดหลวมตัวเข้าไปแล้วจะย้อนกลับออกมาไม่ได้อีก
หลังติดไฟแดงอยู่สองสามแยกนายวาดก็ขับรถมาถึงบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ได้ทันเวลาตามที่คาดการณ์ไว้ เป็นบริษัทที่ครองตลาดเกมออนไลน์นับไม่ถ้วนในทวีปเอเชีย มีข้อมูลหลุดมาว่าผู้ร่วมก่อตั้งเป็นมหาอำนาจทั้งจากทวีปอื่นและในทวีปเดียวกัน แน่นอนว่าลำนำจ้าวยุทธจักรคือสุดยอดเกมออนไลน์โลกเสมือนที่มาแรงติดชาร์ตอันดับหนึ่งยาวนานถึง
4 ปีกว่า
ทุกปีจะมีการอัปเดตแพทช์ใหม่เข้ามา มากน้อยแล้วแต่ความคืบหน้าทางด้านเลเวลของเพลเยอร์ในแต่ละเซิร์ฟเวอร์ บางครั้งก็อาจเป็นแค่การปรับสมดุลเกมในบางส่วนเล็ก
ๆ น้อย ๆ
ทุกคนที่ผ่านไปผ่านมาจะสามารถสังเกตเห็นตึกสูงของที่นี่ได้ก่อนสิ่งอื่นใดรอบ ๆ ชื่อ Microdragon
ค่อนข้างเด่นชัดในหลาย ๆ มุม กระทั่งวาดวนรถหาที่จอดพลางติดต่อหยกรฐากลับไปแจ้งว่ามาถึงที่หมายแล้ว ไม่ช้าทางเข้าสู่ตัวตึกด้านข้างติดกับลานจอดรถก็ปรากฏกลุ่มคนจำนวนหนึ่งออกมายืนรอ วาดมองเห็นคนเหล่านั้นก่อนพร้อมกับได้ที่จอดรถพอดิบพอดี เขาจึงรีบดับเครื่องลงจากรถไปโบกมือทักทายแต่ไกล
“เฮ้! ฉันอยู่นี่
วู้ฮู้”
การกระทำอันโดดเด่นน่าอายนี้ กระทบต่อกลุ่มคนทั้งชายหญิงที่มารอในหลาย ๆ
แง่มุม
เจ้าหน้าที่รักษาความสงบประจำบริษัทที่อยู่บริเวณนั้น ถึงกับมองค้อนขณะพยายามชี้ไม้ชี้มือให้ชายหนุ่มดูป้ายยักษ์ ซึ่งมันมีเครื่องหมายห้ามส่งเสียงดังรบกวนแปะหลาไว้อยู่ด้วย…
ความคิดเห็น