ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #111 : ตำรามาร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.17K
      1.2K
      6 มิ.ย. 61

    ใช้เวลาเดินทางจากอาคารนักผจญภัยถึงหอสมุนไพรเตี๋ยเทียนบวกลบไม่เกินยี่สิบสามสิบก้าว   ยี่ฟงนับจำนวนก้าวของตนมาตลอดจริง ๆ เพื่อดูว่ามู่ฟางเหลียนฮวาให้ข้อมูลมั่วหรือเปล่า  สรุปว่ามันก็ไม่ผิดเพี้ยนไปสักเท่าไร  อาจจะเป็นเพราะยี่ฟงก้าวเดินผิดตำแหน่งจึงทำให้จำนวนก้าวคาดเคลื่อนไปก็เป็นได้   แต่ความคิดฟุ้งซ่านจำต้องหยุดลงเมื่อชายหนุ่มเดินมาถึงหน้าธรณีประตูชั้นล่างสุดของหอเตี๋ยเทียน   มองจากมุมใกล้เช่นนี้ยิ่งช่วยให้เห็นความใหญ่โตของมันเด่นชัดมากขึ้น  ชาวยุทธ์ร้อยละแปดสิบที่วนเวียนอยู่บริเวณโดยรอบต่างกำลังฝึกฝนพัฒนาอาชีพนักปรุงยา

    เซียนยาท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า  ยิ่งสรรพคุณของตัวยามีระดับสูงเท่าไร ท่านจะยิ่งร่ำรวยเท่านั้น  ขอเพียงปรุงโอสถระดับสูงให้ได้สักหนึ่งในจำนวนทั้งหมด ท่านก็ยกฐานะตนขึ้นเป็นเถ้าแก่ร้อยล้านได้แล้ว

    เหตุนี้เองจึงกำเนิดกลุ่มเพลเยอร์ที่วาดหวังจะรวยทางลัดขึ้นมา  พวกเขาเสี่ยงวัดดวงไปกับอาชีพนักปรุงยา  แต่ความจริงแล้วทุกวิชาชีพล้วนยากลำบากและย่อมมีอุปสรรคขัดขวางให้ต้องฟันฝ่า   ไม่มีทางลัดให้ใครง่าย ๆ อย่างที่คิด   การจะประสบความสำเร็จอะไรได้สักอย่างคุณอาจต้องจมอยู่กับมันเป็นเวลานาน    ศึกษาค้นคว้าเส้นทางที่ถูกต้องละเอียดยิบ    การล้มเหลวในทุก ๆ ครั้งนับเป็นรากฐานสั่งสมประสบการณ์เพื่อต่อยอดไปสู่ผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมในท้ายที่สุด

    คนที่ท้อถอยยอมแพ้ไปก่อนก็จะแพ้อยู่อย่างนั้น

    สรุปก็คือคุณจะมาเสี่ยงวัดดวงกับเปอร์เซ็นต์น้อยนิด    คาดหวังโชคสูงสุดให้ตนบังเอิญปรุงยาระดับสูงหนึ่งในหมื่นติดขึ้นมาได้จริง ๆ นั้น  เป็นแค่เพียงเรื่องขำขันหรือฝันเฟื่อง

    เกมลำนำจ้าวยุทธจักรอาจจะดูเหมือนว่าอิสรเสรี    ดังเช่นถ้าคุณอยากเข้ามาท่องยุทธภพเร่ร่อนพเนจรไปเรื่อยก็ได้ อยากลองเป็นเชฟเปิดร้านอาหารของตัวเองก็ทำได้เช่นกัน ทว่าทุก ๆ อาชีพทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริมภายในเกมนี้ต่างต้องการค่าประสบการณ์ความชำนาญมหาศาลยิ่ง  แน่นอนว่าประสบการณ์จริงก็มีส่วนช่วยผลักดันให้คุณประสบความสำเร็จในด้านนั้น ๆ ได้รวดเร็วขึ้นด้วย ฉะนั้นมันจึงไม่มีเรื่องดวงเข้ามาเกี่ยวข้องเลยแม้แต่นิด ในเมื่อคุณมีค่าความชำนาญไม่ผ่านเกณฑ์ประจำอาชีพที่ทางระบบกำหนดไว้ก็อย่าได้คาดหวังสูงส่งอะไรนัก   กล่าวถึงการปรุงยาแล้วก็เหมือนกัน โอกาสสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ใช่ว่าจะไม่มีทางเป็นไปได้ ขอเพียงศึกษาและทดลองทำจนเชี่ยวชาญบรรลุ  โอกาสที่ว่าก็จะอยู่ในมือคุณเอง กลับกัน ถ้าเพียงมาทำเล่น ๆ หวังเสี่ยงดวง ต่อให้ลงทุนเป็นพันล้านคุณก็ไม่มีแม้กระทั่งหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่จะนำมาปรุงตัวยาระดับสูงให้สำเร็จสมบูรณ์ได้

    ผลลัพธ์จะดีหรือแย่ขึ้นอยู่กับเทคนิคฝีมือและประสบการณ์ที่ขัดเกลามานับครั้งไม่ถ้วนแล้วเท่านั้น

    ยี่ฟงเพิ่งจะเดินเข้ามาภายในหอสมุนไพรเตี๋ยเทียนชั้นล่างสุด   ซึ่งระหว่างทางยังเร่งเร้าลมปราณสลายความชื้นแฉะออกจากเสื้อผ้าไปด้วย  เสียงฟ้าคร่ำครวญคำรามจากด้านนอกค่อย ๆ เบาลง  หลงเหลือแต่แสงเงาวูบวาบที่เกิดจากเส้นสายอสนีบาตพาดผ่านบานหน้าต่างแต่ละมุม เพลเยอร์สองสามคนที่รั้งอยู่ก่อนเหลือบมองมาด้วยสีหน้าแววตาเคลือบแคลงสงสัย  ไอ้หนุ่มประหลาดสวมใส่หน้ากากปิดบังตัวตนที่เพิ่งฝ่าสายฝนมาถึงคนนี้ท่าทางจะมีคดีติดตัว ด้วยประสบการณ์ของคนทั้งสามทำให้ตัดสินตัวละครลึกลับไปในแง่ลบเรียบร้อย

    นี่ก็คือข้อเสียของการใส่หน้ากากระงับการประกาศของระบบ   แม้มันช่วยปิดบังอะไรหลายอย่างให้ผู้สวมใส่ได้  แต่ก็เป็นตัวช่วยยืนยันฐานะให้ในเวลาเดียวกัน   ผู้ที่ปิดบังตัวตนอาจจะเป็นตัวละครชื่อแดงหรือผู้มีค่าหัวซึ่งต้องการหลีกเลี่ยงการปะทะ  น้อยมากที่จะมีคนนึกพิเรนทร์หยิบหน้ากากมาใส่ประดับเล่นเช่นนี้เพราะมันทำให้วิสัยทัศน์การมองเห็นแคบลง

    ยี่ฟงไม่สนใจสายตาเหยียดหยามกับท่าทีระแวดระวังที่ส่งมาจากบุคคลทั้งสาม   เขาสืบเท้าก้าวเดินฝ่าไปตรง ๆ พร้อมพินิจวัตถุดิบที่วางโชว์อยู่ในตู้กระจกตามโต๊ะไม้ตัวยาว บนโต๊ะยังถูกปูรองไว้ด้วยผ้าสีแดงหรูหรา หากเพลเยอร์แตะสัมผัสถูกตู้กระจกระบบจะแสดงข้อมูลวัตถุดิบขึ้นมาให้อ่านทันที ด้านในสุดของหอชั้นแรกไม่มีเคาน์เตอร์หรือจุดประชาสัมพันธ์อะไรเทือกนั้น   ปรากฏว่ามีแค่ชายวัยกลางคนสีหน้าเจ้าเล่ห์มากประสบการณ์อยู่คนหนึ่ง   คอยตอบคำถามและซื้อขายไอเท็มกับเพลเยอร์เท่านั้น  พอชายคนที่ว่าสังเกตเห็นยี่ฟง  เขาก็ปรี่เข้ามาสอบถามตามหน้าที่ของตนทันที

    ยินดีต้อนรับท่านยอดฝีมือ  แวะเวียนมาที่นี่ต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษหรือเปล่าขอรับ   ข้าสามารถช่วยจัดหาทุกสิ่งที่มีอยู่ภายในชั้นนี้ให้ท่านได้อย่างรวดเร็วกว่ามาก

    แค่ชั้นแรกเท่านั้นเอง?ยี่ฟงถามกลับพลางสงสัยในใจว่าอีกฝ่ายเป็นมนุษย์หรือเอไอกันแน่

    ถูกต้องแล้ว  ชั้นนี้ชั้นเดียวขอรับ

    ถ้าของที่ฉันต้องการมันอยู่ชั้นอื่นจะทำไงล่ะยี่ฟงตั้งคำถามเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า  ขอเพียงท่านยอดฝีมือกระเป๋าหนักและครอบครองวัตถุดิบระดับสูงตามเกณฑ์ของแต่ละชั้น  ท่านก็ถือว่ามีคุณสมบัติผ่านขึ้นไปได้แล้วขอรับ ชายผู้ดูแลหอสมุนไพรเตี๋ยเทียนชั้นแรกตอบ

    วัตถุดิบเกี่ยวกับการปรุงยาใช่หรือเปล่ายี่ฟงถามต่อให้แน่ใจ  ส่วนผู้ดูแลหอผงกศีรษะยืนยันให้อีกที

    ฉันมีตำราสมุนไพรเก่า ๆ เล่มหนึ่ง  นับว่าใช้ได้ไหม” ขณะกล่าวยี่ฟงก็หยิบตำราที่ว่าออกมาให้อีกฝ่ายตรวจดูไปด้วย ความหนาของตำราเล่มนี้เรียกได้ว่าใช้หนุนศีรษะแทนหมอนได้เลยทีเดียว ผู้ดูแลหอเมื่อพินิจพิเคราะห์มันอยู่ครู่หนึ่ง  ทั้งปกหน้าปกหลัง  ร่องรอยฉีกขาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามมุมตามขอบ  ความเก่าแก่ของตำราสมุนไพรเล่มนี้กับข้อมูลมหาศาลบนหน้ากระดาษที่พลิกเปิดออกมาดูคร่าว ๆ  ทำให้ผู้ดูแลหอรู้สึกเหมือนตนกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งฝัน สีหน้าตื่นเต้นเจือความแปลกใจไม่เชื่อถือ    เขาลูบคลำสลับกับการพลิกหน้ากระดาษซ้ำอีกครั้งจนยี่ฟงอดถามแทรกขึ้นมาไม่ได้ว่า มันใช้แทนวัตถุดิบไม่ได้หรือไง

    ผู้ดูแลหอชั้นแรกเหมือนเพิ่งสะดุ้งตื่นจากฝัน  เงยหน้าสบตายี่ฟงตอบกลับมาว่า ข้าน้อยจะพาคุณชายไปพบผู้อาวุโส  โปรดตามข้าน้อยมาสักครู่นะขอรับ

    ยี่ฟงเห็นว่าไม่มีความจำเป็นอะไรต้องปฏิเสธจึงพยักหน้ายอมติดตามอีกฝ่ายไปโดยดี  เริ่มรู้สึกได้ว่าตำราเล่มนี้ไม่ธรรมดา  อีกฝ่ายถึงกับแสดงความเคารพด้วยการเปลี่ยนคำเรียกแทนตัวของเขาเป็นคุณชาย   เพลเยอร์สามคนที่ลอบสังเกตการณ์อยู่กันคนละมุมได้แต่ทอดถอนหายใจ  พวกเขางึมงำกับตัวเองออกมาเบา ๆ ว่า เมื่อไรฉันจะผ่านเกณฑ์ได้มีโอกาสขึ้นไปชั้นอื่นกับเขาบ้างฟะ

     

    หากคนทั้งสามล่วงรู้ว่ายี่ฟงเพิ่งจะเคยเข้ามาที่หอเตี๋ยเทียนเป็นครั้งแรก  แต่กลับผ่านเกณฑ์มีโอกาสขึ้นไปชั้นที่สูงกว่าในทันทีคงได้ริษยาหัวไหม้กันแน่

    ฉันผ่านเกณฑ์ไปได้ถึงชั้นไหนกันระหว่างเดินตามขึ้นบันไดมา  ยี่ฟงก็ถามขึ้น

    ชั้นสามขอรับผู้ดูแลหอชั้นแรกตอบเล่นเอายี่ฟงอึ้งไปอยู่บ้าง  ตำราเก่า ๆ เล่มเดียวมีค่ามากมายขนาดนั้น?

    ยังไม่ทันได้คิดอะไรจนถี่ถ้วนเขาก็ถูกนำมาถึงชั้นสามแล้ว   พื้นที่ของชั้นสามเปิดเป็นห้องโล่ง ๆ  แต่ตามผนังทุกด้านกลับสร้างเป็นช่องสี่เหลี่ยมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จำนวนเหลือคณานับ ภายในช่องแต่ละช่องถูกวางไว้ด้วยวัตถุดิบและตำราที่คาดว่าคงจะเกี่ยวข้องกับสมุนไพรและการปรุงยาอย่างไม่ต้องสงสัย  บริเวณมุมหนึ่งติดกับหน้าต่างมีชายชราวัยย่างเข้าเจ็ดสิบยืนหลังค่อมอยู่  ชุดคลุมตัวยาวสีเขียวลากยาวลงไปกับพื้นขณะที่ชายชรากำลังก้าวเดินตรงเข้ามาหา

    คารวะผู้อาวุโสสามหลิงซานผู้ดูแลหอชั้นแรกโค้งกายเอ่ยทักขึ้นก่อน

    เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่ต้องมากพิธี  ข้าเองไม่ได้ต้อนรับแขกมานาน เจ้ากลับลงไปประจำชั้นแรกเถิด ข้าจะรับหน้าที่ต่อให้เองอาวุโสสามหลิงซานกล่าวพลางยกฝ่ามือโบกปัด  ผู้ดูแลหอชั้นแรกไม่พูดจาใด ๆ ต่ออีก   เพียงคารวะและจากไปเงียบ ๆ ทิ้งยี่ฟงให้ยืนเผชิญหน้ากับชายชรา

    ท่านกำลังมองหาสิ่งใดจากที่นี่อยู่ล่ะ  ข้าจะรับฟังและจัดหามาให้ทันทีหลิงซานถาม

    ข้าต้องการซ่อมแซมตำราสมุนไพรเล่มนี้ มันยุ่งเหยิงยากแก่การศึกษาเกินไป” ยี่ฟงตอบพร้อมกับยื่นตำราเล่มโตออกไปอีกครั้ง  อาวุโสสามหลิงซานชะงักไปเล็กน้อย  เพียงเห็นตำราในมือของชายหนุ่มแวบเดียวกลับทราบความกระจ่างไปก่อนแล้ว

    นี่มันตำรามารอสรพิษสามสี!!หลิงซานเวลานี้บนใบหน้าเต็มไปด้วยความผวา

    ตรงไหนมันเขียนบอกไว้หรือ  ฉันพลิกดูสิบแปดตลบยังไม่เห็นสักคำเลย”   ยี่ฟงสงสัยและกำลังพลิกซ้ายพลิกขวาค้นหาอยู่จริง ๆ

    อาวุโสสามหลิงซานเหมือนเพิ่งได้สติจึงรีบรักษามาดดังเดิม   กระแอมไอทีหนึ่งพลางอธิบายให้ตัวตลกตรงหน้าฟังว่า ตำราที่ท่านครอบครองอยู่นี้ชำรุดเก่าแก่เกินไป  กล่าวคือมันเป็นตำราแรกเริ่มที่เผ่ามารอสรพิษสามสีรวบรวมสร้างขึ้นมา  ภายในย่อมยุ่งเหยิงไม่ประติดประต่อ  มีแต่เพียงผู้สร้างมันไว้เท่านั้นถึงจะเข้าใจ  ความจริงตำรามารเล่มนี้หายสาบสูญไปเป็นพันปี  ไม่มีผู้สืบทอด  แม้จะถูกเลียนแบบขึ้นมาอีกมากมายก็ยังไม่สามารถทัดเทียมกับต้นฉบับแท้จริงนี้ได้

    หอเตี๋ยเทียนแห่งนี้ซ่อมแซมมันได้หรือเปล่ายี่ฟงไม่บ้าน้ำลาย  รีบถามเข้าประเด็น

    หึหึ  ท่านมาถูกที่แล้วจริง ๆ เพียงแต่หลิงซานเผยยิ้มมุมปาก

    เพียงแต่อะไร?ยี่ฟงจี้ถามต่อเนื่อง  หางคิ้วกระตุกเล็กน้อย  รู้สึกว่าพวกตัวละครเอไอเหล่านี้ชอบกั๊กเสียจริง  ถึงเขาจะชอบดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันสมจริงแต่นี่มันก็จะสมจริงเกินไปไหม  คงไม่คิดจะตัดจบแล้วต้องไปรอตอนต่อไปเช่นในหนังกำลังภายในหรอกนะ

    ข้ารู้สึกอับอายอยู่บ้างที่ต้องกล่าวว่าแม้ข้าจะเป็นถึงผู้ดูแลหอชั้นสามแต่ฝีมือและความเข้าใจยังไม่เพียงพอจะซ่อมแซมตำรามารอสรพิษสามสีเล่มนี้ได้ มีแต่ต้องให้ท่านผ่านเกณฑ์สูงสุดเพื่อขึ้นไปสู่ชั้นห้าของหอเตี๋ยเทียนเราแล้ว ข้ารับรองได้ว่าผู้ดูแลหอชั้นห้าจะช่วยท่านซ่อมแซมตำรามารเก่าแก่เล่มนี้ได้อย่างแน่นอน”  อาวุโสสามหลิงซีอธิบายอย่างจนใจ

    ยี่ฟงที่นิ่งเงียบใช้ความคิดอยู่อึดใจหนึ่งพลันคว้าเอาสมุนไพรออกมาโชว์เพิ่มเติม   มันคือรากชีพจรด่านกษัตริย์  วัตถุดิบที่เขาคาดเดาว่าต้องไม่ธรรมดาอีกเช่นกัน

    ข้าผ่านเกณฑ์ของชั้นห้าแล้วหรือยังยี่ฟงเอ่ยถามพลางลุ้นอยู่นิด ๆ

    ปรากฏว่าอาวุโสสามหลิงซานนิ่งค้างไปเฉย   ๆ   แต่หากสังเกตดูจะพบว่าฝ่ามือทั้งสองของชายชราสั่นสะท้าน  แววตาเต็มไปด้วยระลอกคลื่นแห่งความตื่นตระหนกตกใจ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×