คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #120 : ลานกว้างตะวันตก
“เรื่องเถอะ!
พวกข้าแค่ห่วงอนาคตนิดหน่อยเท่านั้นถ้าเกิดได้ร่วมมือกับไอ้หนุ่มนั่น ส่วนตอนนี้พิธีการยังไม่จบก็ไม่ถือว่าเกี่ยวข้องอะไรกัน” เฒ่าทารกเถียงกลับและยังคงยืนยันเจตนาเดิม
มังกรเฒ่าได้แค่ยืนมองชายแก่ทั้งสามโบกฝ่ามือปัดตกความคิดเห็นของเขาไปอย่างเหนื่อยหน่าย ย่อมไม่คิดจะกล่าวอะไรอีกและปล่อยให้สามมารเฒ่าทำตามใจชอบต่อไป ให้สัมผัสและรับรู้ด้วยตัวเองแต่เนิ่น ๆ
กันไปเลยจะดีกว่า ทีหน้าทีหลังจะได้ไม่กล้าไปท้าทายอำนาจมืดจากไอ้ตัวแสบมันอีก
หลังอัปเดตแพตช์ สภาพอากาศก็เปลี่ยนมาเป็นย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง บนฟ้ามืดครึ้มเต็มไปด้วยเมฆดำ ยิ่งช่วงเย็นยามอาทิตย์อัสดงความมืดยิ่งแผ่ซ่านปกคลุมลดทอนทัศนวิสัยมากขึ้นทุกที เม็ดฝนที่ยังคงเทกระหน่ำลงมาแตกกระเซ็นไปตามการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต บางครั้งเกิดการเว้าแหว่งเป็นสุญญากาศขึ้นมาชั่วขณะหนึ่งเมื่อมีคลื่นพลังทิ่มแทงแหวกฝ่าไปเป็นเส้นตรง
บัดนี้ภายในเมืองหังโจวปั่นป่วนไปทั่ว การมาของยี่ฟงพร้อมกับฉากหลังที่ครืนครั่นไปด้วยเสียงฟ้าร้องคำรามในเวลานี้ไม่ได้มีใครเตรียมการมาก่อนล่วงหน้าแต่อย่างใด กลับกลายเป็นเสริมส่งบารมีตัวหายนะให้ดูยิ่งใหญ่ขึ้นโดยบังเอิญ อลังการด้วยฉากไล่ล่าดุเดือดเลือดพล่านจนกระทั่งเม็ดฝนยังระเหยกลายเป็นไอ จิตสังหารคละคลุ้งสร้างบรรยากาศกดดันหนักหน่วง สภาพชื้นแฉะแทบไม่เกิดขึ้นบนร่างของเหล่ายอดฝีมืออย่างที่ควรแม้พวกเขากำลังทะยานร่างอยู่ท่ามกลางสายฝนก็ตาม
“ล้อมมันไว้!”
“ไม่มีประโยชน์ แบ่งกำลังอ้อมขึ้นไปดักหน้ามันถึงจะถูก ไอ้หมอนี่บุกตรงไปไม่หยุด ดูเหมือนมีเป้าหมายบริเวณหลังเมืองตะวันตก!”
“ยอดฝีมือระดับสูงมัวทำอะไร! เข้าไปต้านมันไว้สิวะ”
เสียงสั่งการเจือก่นด่าสาปแช่งดังคลอมั่วซั่วไปหมด
ถึงอย่างไรพวกเขาเหล่านี้ก็เพียงแค่มีเป้าหมายเดียวกัน ร่วมมือกันขึ้นมาเฉพาะกิจย่อมไม่สามารถแสดงความเป็นทีมเวิร์ก
ก่อนหน้านี้ยังขับเคี่ยวแข่งขันเป็นศัตรู แต่ด้วยเหตุการณ์พิลึกพิลั่นที่เกิดในตอนนี้ทำให้พวกเขาต้องสงบศึกกันก่อนเพื่อมาทุ่มสรรพกำลังจัดการสั่งสอนบุรุษผู้ไม่รู้จักประมาณตน แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครขัดขวางเขาได้ การไล่ล่าจึงไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุดลงง่าย ๆ
สร้างความหงุดหงิดโกรธแค้นและอับอายไปด้วยในคราวเดียวกัน กลุ่มผู้ไล่ล่ามีจำนวนเท่าไรยากจะนับคำนวณ ทว่าเป้าหมายมีเพียงหนึ่งกลับยังกล้าบุกทะลวงขึ้นหน้าไปได้เรื่อย
ๆ ตามแต่ใจตัวเอง!
ยี่ฟงไม่ได้โง่ สายตาเฉียบคมและสัมผัสรับรู้ทุกสิ่งรอบกายคือแต้มต่อของเขาในยามนี้ ศัตรูที่มาจากซ้ายขวาหน้าหลังย่อมมีอ่อนมีแข็ง อีกทั้งยี่ฟงมุ่งสมาธิไปที่ศัตรูเบื้องหน้าเป็นหลักทำให้การแยกแยะช่องโหว่หรือจุดอ่อนของอีกฝ่ายไม่ใช่เรื่องยาก วิธีการเรียบง่ายยิ่ง ตัวละครจะแข็งแกร่งหรือไม่ก็สามารถดูได้จากอุปกรณ์สวมใส่บนร่างโดยตรง ถึงจะครอบครองพลังวิชาระดับสูงแต่หากตัวละครเปราะบางพลังชีวิตต่ำเตี้ย คุณก็อาจถูกสวนจนล้มตายได้อย่างไม่ทันตั้งตัว
ยี่ฟงศึกษาเกมเกมนี้มาบ้างเป็นเวลาเกือบสองปีในช่วงที่อายุยังไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด อุปกรณ์สวมใส่และอาวุธคลาสสูงตั้งแต่ A-F
เขาพอจดจำคุ้นเคยรูปทรงได้ไม่มากก็น้อย เวลานี้จึงอาศัยการแยกแยะขั้นพื้นฐานที่เหล่านักกีฬาอาชีพทุกคนเองก็กระทำได้เพื่อตีฝ่าเอาชีวิตรอด ลุยดะเข้าจู่โจมยังตัวละครที่เป็นเหมือนจุดอ่อนที่ว่ามานี้และคอยหลบเลี่ยงตัวละครยอดฝีมือระดับสูงไปพร้อม
ๆ กัน แอ่งน้ำที่ไร้สีไร้กลิ่น นานเข้าเริ่มถูกเจือปนด้วยโลหิตมากขึ้นทุกที ๆ เป็นเพราะยี่ฟงไม่ใจดีอีกต่อไป มีโอกาสฆ่าก็ฆ่า
คอยเก็บเล็กผสมน้อยไปเช่นนี้เดี๋ยวก็คงครบจำนวนสี่ร้อยคน ระบบค่าหัวย่อมต้องถูกยกเลิก แทนด้วยเงินรางวัลให้ชายหนุ่มเดินไปขึ้นได้ที่อาคารมือปราบทุกเวลาที่เขาสะดวก
สำหรับเพลเยอร์เกมออนไลน์ ถ้ามีประสบการณ์เล่นมานานจนเข้าขั้นอาวุโส การแยกระดับความแข็งแกร่งตัวละครผ่านทางอุปกรณ์สวมใส่ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ ยิ่งเกมลำนำจ้าวยุทธจักรไม่มีการแจ้งให้ทราบถึงเลเวลผู้อื่น คนทุกคนจึงต้องใช้สายตาตัวเองในการวัดระดับของเป้าหมายกันเป็นเรื่องปกติทั่วไปอยู่แล้ว เมื่อกลุ่มคนที่อาวุโสขึ้นมาหน่อยใช้สายตาหยั่งวัดตัวละครยี่ฟง คำตอบของพวกเขาแทบจะตรงกันเป็นครั้งแรกซึ่งก็คือ
: กาก
ชุดเกราะลมปราณเกล็ดอสูรไม่สมบูรณ์ คืออุปกรณ์ที่ถูกประดับสวมอยู่บนร่างยี่ฟงมาตั้งแต่เดินทางออกจากเขตจงหยาง ปัจจุบันมีระดับอยู่ที่คลาส D รูปทรงภายนอกที่แสดงให้เห็นโดยทั่วไปเรียกว่าธรรมดาสามัญจนไม่สามารถที่จะธรรมดาไปกว่านี้ได้อีกแล้ว จะถูกมองว่ากากก็ไม่ผิดไปเสียทีเดียว ทว่ามันมีโอกาสเติบโตไปได้ถึงคลาส S ทั้งยังเป็นชุดเซตรวมเกราะเสื้อ กางเกง เกราะแขนกับขา รวมไปถึงรองเท้า หากพวกเขาทราบในจุดนี้ก็จะไม่มีทางบอกว่ามันเป็นอุปกรณ์ขยะได้เต็มปากเต็มคำนัก เปรียบเทียบกับการค้นหาหรือดรอปอุปกรณ์สวมใส่คลาสสูง
ๆ แยกทีละชิ้นจนรวมกันให้ครบเซต
ก็แทบจะหลั่งโลหิตโทรมกาย
กลืนกินเวลาไปได้เป็นปี ๆ จนอาจท้อแท้สิ้นหวังกันขึ้นมาได้อย่างไม่ยากเย็น
เพลเยอร์เกมออนไลน์ทั่ว ๆ
ไปเล่นมาตั้งแต่ปีแรก
อุปกรณ์สวมใส่คลาสสูงที่หาได้ยังน้อยยิ่งกว่าน้อย สาเหตุมาจากความสามารถไม่เพียงพอที่จะตะลุยฝ่าดันเจี้ยนในช่วงชั้นเลเวลเจ็บสิบบวกไปได้ มอนสเตอร์ชนชั้นราชาตามแม็ปที่หาตัวได้ยากยิ่งก็แข็งแกร่งเกินจะสยบ ปัจจุบันครอบครองไอเทมคลาส A
ในระดับช่วงชั้นเลเวลหกสิบห้าบวกไว้ได้ก็นับว่าหรูหราให้พอจะอวดกันแล้ว
แม้กระทั่งนักกีฬาอาชีพที่ในตอนนี้เพดานสูงสุดของเลเวลคือ
85 อุปกรณ์สวมใส่ที่หากันมาเพิ่มศักยภาพให้ตัวละครก็แข็งแกร่งเพียงช่วงชั้นเลเวลแปดสิบ
ส่วนระดับแปดสิบห้ายังไม่มีความสามารถพอจะบุกเบิก
เหล่าจ้าววังสามอันดับแรกอาจมีบ้างบางส่วนที่เป็นไอเทมคลาส S ในช่วงชั้นเลเวลแปดสิบ
ตัวอย่างเช่นพัดทวิธาตุของจ้าววังวิหคเพลิงฟ้า
ห้ากิลด์ใหญ่เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มแกนนำสูงสุดแล้วทั้งทางด้านเลเวลและอุปกรณ์สวมใส่ ถึงกิลด์ในวงการอาชีพอีกห้ากิลด์ที่เป็นรองลงมาจะพยายามไล่บี้ตามสุดชีวิต พวกเขาก็ยังต้องใช้เวลากันอีกพักใหญ่จึงจะไล่ตามทันในด้านเลเวล จุดชี้ขาดของความเหลื่อมล้ำที่กว้างขนาดนี้เป็นเพราะห้ากิลด์ใหญ่มีพละกำลังและความสามารถเพียงพอจะฝ่าฟันดันเจี้ยนเลเวลแปดสิบไปได้ถึงจะสภาพทุลักทุเลก็ตาม ส่วนพวกเขาที่เป็นรองลงมายังไม่มีสิทธิ์เข้าไปบุกเบิกด้วยซ้ำ ปัจจุบันยังวนเวียนอยู่ที่ดันเจี้ยนเลเวลเจ็ดสิบถึงเจ็บสิบห้าไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้แล้ว
การชิงชัยบนเวทีการแข่งขันอีสปอร์ต หลัก ๆ ก็จะถูกห้ากิลด์ใหญ่ผูกขาดไว้อย่างชัดเจน วังฟีนิกซ์เยือกแข็งของเซียนหิมะ เหตุที่ยังมีเงินทุนหมุนเวียนอยู่ไม่น้อยก็มาจากตำแหน่งที่สูงส่งไม่ธรรมดา แม้ฤดูกาลก่อนผลงานโดยรวมจะออกมาห่วยแตกอย่างไร สปอนเซอร์ก็ยังไม่ถึงกับต้องตัดทิ้งอย่างไม่ใยดี เพียงแต่ถ้าฤดูกาลใหม่ครั้งที่สามยังโชว์ผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจก็จะส่งผลกระทบไปทั้งระบบ
แฟนคลับหัวร้อนจะพาลมองเหยียดสปอนเซอร์อย่างพวกเขาร่วมไปด้วย ทางฝ่ายสปอนเซอร์ไม่ขออะไรมาก แค่ผลงานที่ออกมาไม่ทำร้ายจิตใจของทุกฝ่ายมากจนเกินไป อยู่ในสถานะที่คงเส้นคงวาก็พอแล้ว
กลับมาที่การไล่ล่าขณะนี้ ทางยี่ฟงค้นหาจุดอ่อนและทำลายขึ้นหน้าไปไม่มีพัก ส่วนผู้ล่าต่างเหยียดหยามดูถูกและทุ่มกำลังเข้าขัดขวางอย่างไม่ยอมแพ้ พวกเขาเชื่อว่าขอเพียงโจมตีโดนสักที เป้าหมายย่อมมีรวนกันบ้าง ค่าความเสียหายต้องมหาศาลเนื่องมาจากอุปกรณ์สวมใส่ของยี่ฟงไม่ได้อยู่ในสายตา
แต่ว่าจนท้ายที่สุด เพลเยอร์ที่ไม่ค่อยประมาณตนสมควรจะเป็นฝ่ายผู้ไล่ล่าเองซะมากกว่า ยิ่งปล่อยไว้นาน ภาพรวมที่แสดงออกมายิ่งเด่นชัด
ไม่ทราบมีเพลเยอร์ตกตายลงใต้ฝ่ามือและฝ่าเท้าของยี่ฟงจำนวนเท่าไร ส่วนยอดฝีมือระดับสูงถูกทิ้งห่างไว้ด้านหลังไปตาม
ๆ กัน
ไม่มีใครจะเทียบเคียงวิชาตัวเบากับยี่ฟงได้เลยจริง ๆ กระทั่งระยะทางมุ่งสู่บริเวณด้านหลังเมืองตะวันตกเหลืออีกไม่ไกลแล้ว เพลเยอร์ยอดฝีมือที่อ้อมขึ้นมาดักหน้าย่อมได้เปิดฉากปะทะกับยี่ฟงตามที่หวัง ทว่าพวกเขากลับโดนกดดันและถูกผลักกระเด็นจนต้องเปิดทางให้ยี่ฟงอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ
ผลลัพธ์เช่นนี้ไม่เคยมีใครคาดการณ์เอาไว้
สายธารโลหิตอาบย้อมไปบนเส้นทางการไล่ล่า มากมายจนแม้แต่สายฝนก็ไม่อาจชำระล้างให้ได้ในทันทีทันใด
เพลเยอร์ที่พลังฝีมือต่ำกว่ายอดฝีมือระดับสูงเริ่มตระหนักถึงความเป็นจริง ความเร็วของการไล่ล่าเองก็ค่อย ๆ
ชะลอช้าลงอย่างประหวั่นพรั่นพรึง
เป้าหมายบุกฝ่าไปได้ถึงขนาดนี้ย่อมต้องเป็นนักสู้แล้วแน่ ๆ ความแข็งแกร่งของตัวละครก็ไม่ใช่น้อยกระทั่งถูกยอดฝีมือระดับสูงเลเวลหกสิบห้าเข้าขัดขวางก็ยังสามารถข้ามผ่านไปได้ครั้งแล้วครั้งเล่า หากสบโอกาสยังมีการหันมาไล่สังหารพวกเขากลับคืนอีกด้วยซ้ำ
พวกเขาแต่แรกก็ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับยี่ฟง เพียงถูกไหว้วานให้ช่วยเหลือโดยเพื่อน ๆ
เท่านั้น แต่ยิ่งเห็นสถานการณ์ย่ำแย่ตรงหน้า แรงจูงใจก็มอดดับลงไปทีละนิด สภาพอากาศหนาวเย็นโดยรอบเข้าเกาะกุมร่างกาย ความมืดยามค่ำคืนบั่นทอนกำลังของพวกเขาลงเรื่อย
ๆ
และแล้วยี่ฟงก็บรรลุถึงจุดหมายปลายทาง
เบื้องหน้าชายหนุ่มมองเห็นกำแพงสูงที่ตีวงโอบล้อมหังโจว พื้นที่ด้านหลังเมืองถูกขยายเป็นลานกว้างทรงกลม พื้นบริเวณนี้ถูกยกระดับสูงขึ้นเป็นขั้นบันไดซ้อนกันหลายชั้น กระทั่งชั้นสุดท้ายสูงเกือบหนึ่งเมตรแต่มีพื้นที่แคบลงไปถนัดตา เป็นเสมือนเวทีเฉพาะเอาไว้ใช้จัดงานอะไรสักอย่าง
ข้อนี้ยี่ฟงไม่ไปสนใจ เพราะที่สำคัญกว่าคือมันเป็นทางตันอย่างไม่ต้องสงสัย…
ยี่ฟงกระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนพื้นยกระดับขั้นสุดท้าย
สายตากวาดมองย้อนกลับไปยังทิศทางที่เขาบุกฝ่ามาอย่างดุเดือด
พลันพบว่ากลุ่มเพลเยอร์ที่ตามมาทันเอาแต่ปักหลักจดจ้องมาจากระยะไกล ไม่มีใครขวัญกล้าพอจะพุ่งเข้าโจมตีเขาอีก ยี่ฟงถอนหายใจคลายแรงกดดันก่อนจะติดต่อไปหามังกรเฒ่าอีกครั้งเพื่อสอบถาม
แต่ทันใดนั้น
เส้นทางหนึ่งที่เชื่อมมาถึงบริเวณลานกว้างด้านหลังเมือง ปรากฏกลุ่มเพลเยอร์ภายใต้ชุดเกราะแวววาว เสื้อคลุมจอมยุทธ์สีสันไม่ธรรมดากำลังเร่งพุ่งทะยานตรงมาพร้อมกับอาวุธในมือ สายตาของทุกคนเบนไปจับจ้องคนกลุ่มใหม่ ไม่ต้องให้ใครอธิบาย ยี่ฟงก็รับรู้ได้ถึงวิกฤตอันตรายด้วยตัวเองแล้ว
จนเมื่อกลุ่มใหม่มาถึง คนผู้หนึ่งร้องตะโกนน้ำเสียงเดือดดาลขึ้นว่า
“ขอให้ทุกฝ่ายวางใจ
จากนี้กลุ่มกองกำลังหลักแห่งพรรคพญายักษาเราจะรับช่วงต่อให้เอง มารร้ายตนนี้ย่อมไม่ตายดี ข้าเทพจำแลง จะพิพากษาโทษตายมันเดี๋ยวนี้!”
ทุกคนแม้เพิ่งผ่านช่วงยากลำบากและกระอักกระอ่วนมาไม่นาน ทว่าถ้อยวาจาของบุรุษนามเทพจำแลงกลับฟังดูตลกจนต้องกลั้นหัวเราะ ทุกคนที่เข้ามาเล่นเกมนี้มีบ้างที่ชอบสวมบทเป็นจอมยุทธ์จริงจัง แต่การที่ออกหน้ามาประกาศปาว ๆ ต่อสาธารณะชนว่าอีกฝ่ายเป็นมารร้ายตนจะพิพากษาอะไรเทือกนี้เห็นจะมีแต่ประมุขแห่งพรรคพญายักษาผู้นี้คนเดียวแล้ว
ความคิดเห็น