ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #120 : ลานกว้างตะวันตก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.49K
      1.16K
      25 มิ.ย. 61

    เรื่องเถอะ!  พวกข้าแค่ห่วงอนาคตนิดหน่อยเท่านั้นถ้าเกิดได้ร่วมมือกับไอ้หนุ่มนั่น  ส่วนตอนนี้พิธีการยังไม่จบก็ไม่ถือว่าเกี่ยวข้องอะไรกันเฒ่าทารกเถียงกลับและยังคงยืนยันเจตนาเดิม

    มังกรเฒ่าได้แค่ยืนมองชายแก่ทั้งสามโบกฝ่ามือปัดตกความคิดเห็นของเขาไปอย่างเหนื่อยหน่าย ย่อมไม่คิดจะกล่าวอะไรอีกและปล่อยให้สามมารเฒ่าทำตามใจชอบต่อไป  ให้สัมผัสและรับรู้ด้วยตัวเองแต่เนิ่น ๆ กันไปเลยจะดีกว่า  ทีหน้าทีหลังจะได้ไม่กล้าไปท้าทายอำนาจมืดจากไอ้ตัวแสบมันอีก

     

    หลังอัปเดตแพตช์  สภาพอากาศก็เปลี่ยนมาเป็นย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง  บนฟ้ามืดครึ้มเต็มไปด้วยเมฆดำ  ยิ่งช่วงเย็นยามอาทิตย์อัสดงความมืดยิ่งแผ่ซ่านปกคลุมลดทอนทัศนวิสัยมากขึ้นทุกที  เม็ดฝนที่ยังคงเทกระหน่ำลงมาแตกกระเซ็นไปตามการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต  บางครั้งเกิดการเว้าแหว่งเป็นสุญญากาศขึ้นมาชั่วขณะหนึ่งเมื่อมีคลื่นพลังทิ่มแทงแหวกฝ่าไปเป็นเส้นตรง

    บัดนี้ภายในเมืองหังโจวปั่นป่วนไปทั่ว  การมาของยี่ฟงพร้อมกับฉากหลังที่ครืนครั่นไปด้วยเสียงฟ้าร้องคำรามในเวลานี้ไม่ได้มีใครเตรียมการมาก่อนล่วงหน้าแต่อย่างใด  กลับกลายเป็นเสริมส่งบารมีตัวหายนะให้ดูยิ่งใหญ่ขึ้นโดยบังเอิญ  อลังการด้วยฉากไล่ล่าดุเดือดเลือดพล่านจนกระทั่งเม็ดฝนยังระเหยกลายเป็นไอ  จิตสังหารคละคลุ้งสร้างบรรยากาศกดดันหนักหน่วง สภาพชื้นแฉะแทบไม่เกิดขึ้นบนร่างของเหล่ายอดฝีมืออย่างที่ควรแม้พวกเขากำลังทะยานร่างอยู่ท่ามกลางสายฝนก็ตาม

    ล้อมมันไว้!

    ไม่มีประโยชน์  แบ่งกำลังอ้อมขึ้นไปดักหน้ามันถึงจะถูก  ไอ้หมอนี่บุกตรงไปไม่หยุด  ดูเหมือนมีเป้าหมายบริเวณหลังเมืองตะวันตก!

    ยอดฝีมือระดับสูงมัวทำอะไร!  เข้าไปต้านมันไว้สิวะ

    เสียงสั่งการเจือก่นด่าสาปแช่งดังคลอมั่วซั่วไปหมด  ถึงอย่างไรพวกเขาเหล่านี้ก็เพียงแค่มีเป้าหมายเดียวกัน  ร่วมมือกันขึ้นมาเฉพาะกิจย่อมไม่สามารถแสดงความเป็นทีมเวิร์ก ก่อนหน้านี้ยังขับเคี่ยวแข่งขันเป็นศัตรู  แต่ด้วยเหตุการณ์พิลึกพิลั่นที่เกิดในตอนนี้ทำให้พวกเขาต้องสงบศึกกันก่อนเพื่อมาทุ่มสรรพกำลังจัดการสั่งสอนบุรุษผู้ไม่รู้จักประมาณตน  แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครขัดขวางเขาได้  การไล่ล่าจึงไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุดลงง่าย ๆ สร้างความหงุดหงิดโกรธแค้นและอับอายไปด้วยในคราวเดียวกัน  กลุ่มผู้ไล่ล่ามีจำนวนเท่าไรยากจะนับคำนวณ  ทว่าเป้าหมายมีเพียงหนึ่งกลับยังกล้าบุกทะลวงขึ้นหน้าไปได้เรื่อย ๆ ตามแต่ใจตัวเอง!

    ยี่ฟงไม่ได้โง่  สายตาเฉียบคมและสัมผัสรับรู้ทุกสิ่งรอบกายคือแต้มต่อของเขาในยามนี้  ศัตรูที่มาจากซ้ายขวาหน้าหลังย่อมมีอ่อนมีแข็ง  อีกทั้งยี่ฟงมุ่งสมาธิไปที่ศัตรูเบื้องหน้าเป็นหลักทำให้การแยกแยะช่องโหว่หรือจุดอ่อนของอีกฝ่ายไม่ใช่เรื่องยาก  วิธีการเรียบง่ายยิ่ง  ตัวละครจะแข็งแกร่งหรือไม่ก็สามารถดูได้จากอุปกรณ์สวมใส่บนร่างโดยตรง  ถึงจะครอบครองพลังวิชาระดับสูงแต่หากตัวละครเปราะบางพลังชีวิตต่ำเตี้ย  คุณก็อาจถูกสวนจนล้มตายได้อย่างไม่ทันตั้งตัว

    ยี่ฟงศึกษาเกมเกมนี้มาบ้างเป็นเวลาเกือบสองปีในช่วงที่อายุยังไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด  อุปกรณ์สวมใส่และอาวุธคลาสสูงตั้งแต่ A-F เขาพอจดจำคุ้นเคยรูปทรงได้ไม่มากก็น้อย  เวลานี้จึงอาศัยการแยกแยะขั้นพื้นฐานที่เหล่านักกีฬาอาชีพทุกคนเองก็กระทำได้เพื่อตีฝ่าเอาชีวิตรอด  ลุยดะเข้าจู่โจมยังตัวละครที่เป็นเหมือนจุดอ่อนที่ว่ามานี้และคอยหลบเลี่ยงตัวละครยอดฝีมือระดับสูงไปพร้อม ๆ กัน  แอ่งน้ำที่ไร้สีไร้กลิ่น  นานเข้าเริ่มถูกเจือปนด้วยโลหิตมากขึ้นทุกที ๆ  เป็นเพราะยี่ฟงไม่ใจดีอีกต่อไป  มีโอกาสฆ่าก็ฆ่า  คอยเก็บเล็กผสมน้อยไปเช่นนี้เดี๋ยวก็คงครบจำนวนสี่ร้อยคน  ระบบค่าหัวย่อมต้องถูกยกเลิก  แทนด้วยเงินรางวัลให้ชายหนุ่มเดินไปขึ้นได้ที่อาคารมือปราบทุกเวลาที่เขาสะดวก

    สำหรับเพลเยอร์เกมออนไลน์  ถ้ามีประสบการณ์เล่นมานานจนเข้าขั้นอาวุโส  การแยกระดับความแข็งแกร่งตัวละครผ่านทางอุปกรณ์สวมใส่ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้  ยิ่งเกมลำนำจ้าวยุทธจักรไม่มีการแจ้งให้ทราบถึงเลเวลผู้อื่น  คนทุกคนจึงต้องใช้สายตาตัวเองในการวัดระดับของเป้าหมายกันเป็นเรื่องปกติทั่วไปอยู่แล้ว  เมื่อกลุ่มคนที่อาวุโสขึ้นมาหน่อยใช้สายตาหยั่งวัดตัวละครยี่ฟง  คำตอบของพวกเขาแทบจะตรงกันเป็นครั้งแรกซึ่งก็คือ : กาก

    ชุดเกราะลมปราณเกล็ดอสูรไม่สมบูรณ์  คืออุปกรณ์ที่ถูกประดับสวมอยู่บนร่างยี่ฟงมาตั้งแต่เดินทางออกจากเขตจงหยาง ปัจจุบันมีระดับอยู่ที่คลาส D  รูปทรงภายนอกที่แสดงให้เห็นโดยทั่วไปเรียกว่าธรรมดาสามัญจนไม่สามารถที่จะธรรมดาไปกว่านี้ได้อีกแล้ว จะถูกมองว่ากากก็ไม่ผิดไปเสียทีเดียว  ทว่ามันมีโอกาสเติบโตไปได้ถึงคลาส S ทั้งยังเป็นชุดเซตรวมเกราะเสื้อ กางเกง เกราะแขนกับขา รวมไปถึงรองเท้า  หากพวกเขาทราบในจุดนี้ก็จะไม่มีทางบอกว่ามันเป็นอุปกรณ์ขยะได้เต็มปากเต็มคำนัก   เปรียบเทียบกับการค้นหาหรือดรอปอุปกรณ์สวมใส่คลาสสูง ๆ แยกทีละชิ้นจนรวมกันให้ครบเซต  ก็แทบจะหลั่งโลหิตโทรมกาย  กลืนกินเวลาไปได้เป็นปี ๆ จนอาจท้อแท้สิ้นหวังกันขึ้นมาได้อย่างไม่ยากเย็น

    เพลเยอร์เกมออนไลน์ทั่ว ๆ ไปเล่นมาตั้งแต่ปีแรก  อุปกรณ์สวมใส่คลาสสูงที่หาได้ยังน้อยยิ่งกว่าน้อย  สาเหตุมาจากความสามารถไม่เพียงพอที่จะตะลุยฝ่าดันเจี้ยนในช่วงชั้นเลเวลเจ็บสิบบวกไปได้  มอนสเตอร์ชนชั้นราชาตามแม็ปที่หาตัวได้ยากยิ่งก็แข็งแกร่งเกินจะสยบ  ปัจจุบันครอบครองไอเทมคลาส A ในระดับช่วงชั้นเลเวลหกสิบห้าบวกไว้ได้ก็นับว่าหรูหราให้พอจะอวดกันแล้ว

    แม้กระทั่งนักกีฬาอาชีพที่ในตอนนี้เพดานสูงสุดของเลเวลคือ 85  อุปกรณ์สวมใส่ที่หากันมาเพิ่มศักยภาพให้ตัวละครก็แข็งแกร่งเพียงช่วงชั้นเลเวลแปดสิบ  ส่วนระดับแปดสิบห้ายังไม่มีความสามารถพอจะบุกเบิก  เหล่าจ้าววังสามอันดับแรกอาจมีบ้างบางส่วนที่เป็นไอเทมคลาส S ในช่วงชั้นเลเวลแปดสิบ  ตัวอย่างเช่นพัดทวิธาตุของจ้าววังวิหคเพลิงฟ้า

    ห้ากิลด์ใหญ่เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มแกนนำสูงสุดแล้วทั้งทางด้านเลเวลและอุปกรณ์สวมใส่  ถึงกิลด์ในวงการอาชีพอีกห้ากิลด์ที่เป็นรองลงมาจะพยายามไล่บี้ตามสุดชีวิต  พวกเขาก็ยังต้องใช้เวลากันอีกพักใหญ่จึงจะไล่ตามทันในด้านเลเวล  จุดชี้ขาดของความเหลื่อมล้ำที่กว้างขนาดนี้เป็นเพราะห้ากิลด์ใหญ่มีพละกำลังและความสามารถเพียงพอจะฝ่าฟันดันเจี้ยนเลเวลแปดสิบไปได้ถึงจะสภาพทุลักทุเลก็ตาม  ส่วนพวกเขาที่เป็นรองลงมายังไม่มีสิทธิ์เข้าไปบุกเบิกด้วยซ้ำ  ปัจจุบันยังวนเวียนอยู่ที่ดันเจี้ยนเลเวลเจ็ดสิบถึงเจ็บสิบห้าไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้แล้ว

    การชิงชัยบนเวทีการแข่งขันอีสปอร์ต  หลัก ๆ ก็จะถูกห้ากิลด์ใหญ่ผูกขาดไว้อย่างชัดเจน  วังฟีนิกซ์เยือกแข็งของเซียนหิมะ  เหตุที่ยังมีเงินทุนหมุนเวียนอยู่ไม่น้อยก็มาจากตำแหน่งที่สูงส่งไม่ธรรมดา  แม้ฤดูกาลก่อนผลงานโดยรวมจะออกมาห่วยแตกอย่างไร  สปอนเซอร์ก็ยังไม่ถึงกับต้องตัดทิ้งอย่างไม่ใยดี  เพียงแต่ถ้าฤดูกาลใหม่ครั้งที่สามยังโชว์ผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจก็จะส่งผลกระทบไปทั้งระบบ  แฟนคลับหัวร้อนจะพาลมองเหยียดสปอนเซอร์อย่างพวกเขาร่วมไปด้วย  ทางฝ่ายสปอนเซอร์ไม่ขออะไรมาก  แค่ผลงานที่ออกมาไม่ทำร้ายจิตใจของทุกฝ่ายมากจนเกินไป  อยู่ในสถานะที่คงเส้นคงวาก็พอแล้ว

    กลับมาที่การไล่ล่าขณะนี้  ทางยี่ฟงค้นหาจุดอ่อนและทำลายขึ้นหน้าไปไม่มีพัก  ส่วนผู้ล่าต่างเหยียดหยามดูถูกและทุ่มกำลังเข้าขัดขวางอย่างไม่ยอมแพ้  พวกเขาเชื่อว่าขอเพียงโจมตีโดนสักที  เป้าหมายย่อมมีรวนกันบ้าง  ค่าความเสียหายต้องมหาศาลเนื่องมาจากอุปกรณ์สวมใส่ของยี่ฟงไม่ได้อยู่ในสายตา

    แต่ว่าจนท้ายที่สุด  เพลเยอร์ที่ไม่ค่อยประมาณตนสมควรจะเป็นฝ่ายผู้ไล่ล่าเองซะมากกว่า  ยิ่งปล่อยไว้นาน  ภาพรวมที่แสดงออกมายิ่งเด่นชัด  ไม่ทราบมีเพลเยอร์ตกตายลงใต้ฝ่ามือและฝ่าเท้าของยี่ฟงจำนวนเท่าไร  ส่วนยอดฝีมือระดับสูงถูกทิ้งห่างไว้ด้านหลังไปตาม ๆ กัน  ไม่มีใครจะเทียบเคียงวิชาตัวเบากับยี่ฟงได้เลยจริง ๆ  กระทั่งระยะทางมุ่งสู่บริเวณด้านหลังเมืองตะวันตกเหลืออีกไม่ไกลแล้ว  เพลเยอร์ยอดฝีมือที่อ้อมขึ้นมาดักหน้าย่อมได้เปิดฉากปะทะกับยี่ฟงตามที่หวัง  ทว่าพวกเขากลับโดนกดดันและถูกผลักกระเด็นจนต้องเปิดทางให้ยี่ฟงอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ

    ผลลัพธ์เช่นนี้ไม่เคยมีใครคาดการณ์เอาไว้  สายธารโลหิตอาบย้อมไปบนเส้นทางการไล่ล่า  มากมายจนแม้แต่สายฝนก็ไม่อาจชำระล้างให้ได้ในทันทีทันใด

    เพลเยอร์ที่พลังฝีมือต่ำกว่ายอดฝีมือระดับสูงเริ่มตระหนักถึงความเป็นจริง  ความเร็วของการไล่ล่าเองก็ค่อย ๆ ชะลอช้าลงอย่างประหวั่นพรั่นพรึง  เป้าหมายบุกฝ่าไปได้ถึงขนาดนี้ย่อมต้องเป็นนักสู้แล้วแน่ ๆ  ความแข็งแกร่งของตัวละครก็ไม่ใช่น้อยกระทั่งถูกยอดฝีมือระดับสูงเลเวลหกสิบห้าเข้าขัดขวางก็ยังสามารถข้ามผ่านไปได้ครั้งแล้วครั้งเล่า  หากสบโอกาสยังมีการหันมาไล่สังหารพวกเขากลับคืนอีกด้วยซ้ำ

    พวกเขาแต่แรกก็ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับยี่ฟง  เพียงถูกไหว้วานให้ช่วยเหลือโดยเพื่อน ๆ เท่านั้น  แต่ยิ่งเห็นสถานการณ์ย่ำแย่ตรงหน้า  แรงจูงใจก็มอดดับลงไปทีละนิด  สภาพอากาศหนาวเย็นโดยรอบเข้าเกาะกุมร่างกาย  ความมืดยามค่ำคืนบั่นทอนกำลังของพวกเขาลงเรื่อย ๆ

    และแล้วยี่ฟงก็บรรลุถึงจุดหมายปลายทาง

    เบื้องหน้าชายหนุ่มมองเห็นกำแพงสูงที่ตีวงโอบล้อมหังโจว  พื้นที่ด้านหลังเมืองถูกขยายเป็นลานกว้างทรงกลม  พื้นบริเวณนี้ถูกยกระดับสูงขึ้นเป็นขั้นบันไดซ้อนกันหลายชั้น  กระทั่งชั้นสุดท้ายสูงเกือบหนึ่งเมตรแต่มีพื้นที่แคบลงไปถนัดตา  เป็นเสมือนเวทีเฉพาะเอาไว้ใช้จัดงานอะไรสักอย่าง

    ข้อนี้ยี่ฟงไม่ไปสนใจ  เพราะที่สำคัญกว่าคือมันเป็นทางตันอย่างไม่ต้องสงสัย

    ยี่ฟงกระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนพื้นยกระดับขั้นสุดท้าย  สายตากวาดมองย้อนกลับไปยังทิศทางที่เขาบุกฝ่ามาอย่างดุเดือด  พลันพบว่ากลุ่มเพลเยอร์ที่ตามมาทันเอาแต่ปักหลักจดจ้องมาจากระยะไกล  ไม่มีใครขวัญกล้าพอจะพุ่งเข้าโจมตีเขาอีก  ยี่ฟงถอนหายใจคลายแรงกดดันก่อนจะติดต่อไปหามังกรเฒ่าอีกครั้งเพื่อสอบถาม

    แต่ทันใดนั้น  เส้นทางหนึ่งที่เชื่อมมาถึงบริเวณลานกว้างด้านหลังเมือง  ปรากฏกลุ่มเพลเยอร์ภายใต้ชุดเกราะแวววาว  เสื้อคลุมจอมยุทธ์สีสันไม่ธรรมดากำลังเร่งพุ่งทะยานตรงมาพร้อมกับอาวุธในมือ  สายตาของทุกคนเบนไปจับจ้องคนกลุ่มใหม่  ไม่ต้องให้ใครอธิบาย  ยี่ฟงก็รับรู้ได้ถึงวิกฤตอันตรายด้วยตัวเองแล้ว

    จนเมื่อกลุ่มใหม่มาถึง  คนผู้หนึ่งร้องตะโกนน้ำเสียงเดือดดาลขึ้นว่า

    ขอให้ทุกฝ่ายวางใจ  จากนี้กลุ่มกองกำลังหลักแห่งพรรคพญายักษาเราจะรับช่วงต่อให้เอง  มารร้ายตนนี้ย่อมไม่ตายดี  ข้าเทพจำแลง จะพิพากษาโทษตายมันเดี๋ยวนี้!

    ทุกคนแม้เพิ่งผ่านช่วงยากลำบากและกระอักกระอ่วนมาไม่นาน  ทว่าถ้อยวาจาของบุรุษนามเทพจำแลงกลับฟังดูตลกจนต้องกลั้นหัวเราะ  ทุกคนที่เข้ามาเล่นเกมนี้มีบ้างที่ชอบสวมบทเป็นจอมยุทธ์จริงจัง  แต่การที่ออกหน้ามาประกาศปาว ๆ ต่อสาธารณะชนว่าอีกฝ่ายเป็นมารร้ายตนจะพิพากษาอะไรเทือกนี้เห็นจะมีแต่ประมุขแห่งพรรคพญายักษาผู้นี้คนเดียวแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×