ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #126 : หมู่มารอาละวาด หังโจวหวนไห้ (6)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.92K
      981
      31 ส.ค. 61

    ใจกลางสนามรบอันดุเดือดถูกทำให้เกิดทะเลเลือดเป็นทางยาว  หลังจากสามมารเฒ่าปลดปล่อยพลังยุทธ์แท้จริงออกมา  ก็ไม่มีใครที่จะสามารถหยุดยั้งคนทั้งสามเอาไว้ได้ง่าย ๆ อีก  กลับกลายเป็นว่ากลุ่มก้อนฝ่ายพันธมิตร หังโจวกำลังถูกทิ่มแทงเจาะทะลวงอย่างไม่อาจต่อต้าน เสียงร้องโหยหวนดังประสานไปพร้อมกับเสียงวิชายุทธ์  แอ่งโลหิตเจือปนไปด้วยสายฝนยามค่ำคืนจนแผ่ขยายกว้างออกไปรวดเร็วเป็นเท่าตัว ร้านค้ารอบข้างได้รับความเสียหายไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้  พริบตาหังโจวก็ค่อย ๆ คืบคลานไปสู่สภาพย่อยยับเสื่อมโทรม

    ชั่วขณะนี้เอง  พลังอันคลุ้มคลั่งที่รวมรั้งอยู่บนฝ่ามือขวาของยี่ฟงได้หวดกระแทกใส่กลุ่มเทพจำแลง  ก่อให้เกิดเสียงระเบิดกัมปนาทและแผ่นดินสั่นสะเทือนคล้ายมีบางอย่างพังทลายลง  ฝ่ายพันธมิตรหังโจวที่ดวงกุดจำนวนมากเพราะอยู่ใกล้รัศมีทำลายล้างย่อมไม่อาจหนีรอด  คนที่อยู่ห่างออกไปถึงกับสะดุ้งโหยงร่างส่ายไปตามแรงสั่นไหวของพื้นดิน  เสียงดังกระหึ่มที่จู่ ๆ ก็ปะทุขึ้นมาครั้งนี้สร้างผลกระทบต่อประสาทการรับเสียงของผู้คนไปชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว

    ฝีมือใครวะ!ภูผาเพลิงอุทานอย่างลืมตัว

    สามมารเฒ่าเองก็จำต้องชะลอการปะทะลง  สายตาตวัดมองไปยังจุดเกิดเหตุไม่ต่างอะไรกับฝ่ายพันธมิตรหังโจว ไอความร้อนจากแรงระเบิดและควันไฟค่อย ๆ ถูกสายฝนกลบกลืนชะล้าง จนกระทั่งภาพของหล่มเหวลึกปรากฏแก่สายตาผู้คน  ทั้งที่ไม่กี่วินาทีก่อนหน้า  บริเวณนี้ยังเต็มไปด้วยเพลเยอร์และตึกมากมาย  บัดนี้หลงเหลือเพียงชายหนุ่มคนเดียวที่หยัดยืนอยู่ได้  ซึ่งบ่งบอกว่าหายนะที่เกิดขึ้นมันเป็นฝีมือเขา

    ไอ้หนูนั่น?  มันเป็นอิสระตั้งแต่เมื่อไรกันวะมารตะกละเผยสีหน้าฉงนสงสัยเต็มที่

    ว่าแต่มันครอบครองวิชายุทธ์ร้ายแรงอะไรไว้กันแน่  ความเสียหายระดับนี้ไม่ธรรมดาแล้วเฒ่าทารกไม่หลงเหลือแววขี้เล่นสักนิด  ก่อนจะหันไปใช้สายตาถามไถ่เอาจากมังกรเฒ่าที่ติดตามกระชั้นชิดมาไม่ห่าง

    เหอะ ๆ ข้าเองก็แค่เคยเห็นมาครั้งหนึ่ง  ดูเหมือนจะเป็นรางวัลที่ไอ้ตัวแสบมันได้มาจากนครฉางอานมังกรเฒ่าตอบเท่าที่ตัวเองรับรู้มา

    แค่นี้พวกเอ็งก็ตกใจแล้วหรือไง  เป็นถึงจ้าวสมาพันธ์  มันก็ต้องไม่กากอยู่แล้ว  ลุยกันต่อเถอะน่าภูผาเพลิงแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง  ซึ่งเพื่อน ๆ วัยชราไม่คัดค้านอะไร  พวกเขารู้ได้ทันทีว่าภูผาเพลิงให้การยอมรับแก่ยี่ฟงจริง ๆ แล้ว  ย่อมไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะต้องให้เด็กรุ่นหลานขึ้นมานำทัพเช่นในตอนแรกอีก

    กลับกัน  ฝ่ายพันธมิตรหังโจวที่เมื่อครู่ยังฮึกเหิมพร้อมปะทะ  พอสังเกตเห็นและจดจำยี่ฟงขึ้นมาได้ก็ต่างพากันแตกตื่นตระหนกขวัญกระเจิง  ไม่ใช่ว่าชายคนนี้เพิ่งถูกวิชาสายผนึกชั้นสูงพันธนาการเอาไว้หรอกหรือ?  แล้วยังพลังทำลายล้างที่รุนแรงถึงขั้นกระชากวิญญาณผู้คนไปได้เกือบครึ่งร้อยนั่นอีกเล่า

    ประมุขพรรคพญายักษาล่ะ  เขาหายไปไหน!

    ท่านประมุขเทพจำแลงต้องมีคำตอบให้พวกเราแน่  รีบตามหาเขาเร็วเข้า

    ฝ่ายพันธมิตรหังโจวกระวนกระวายหาที่พึ่งกันยกใหญ่  แต่ทว่า  ภาพที่แทบจะเป็นการทุบทำลายความหวังของพวกเขาลงจนไม่เหลือชิ้นดีนั้น  อยู่ไม่ไกลจากจุดที่ยี่ฟงยืนอยู่สักเท่าไร

    นะนั่นมัน!  ฉันตาฝาดไปเองหรือเปล่าวะเนี่ย

    สิ้นคำของเพลเยอร์คนหนึ่ง  ความเงียบก็เข้าปกคลุมไปทั่ว  นั่นแสดงว่าภาพที่พวกเขาเห็นไม่ใช่เป็นการคิดไปเอง  ข้าง ๆ ปากเหวที่เกิดจากพลังทำลายระดับเทพยุทธ์ของยี่ฟง  คือร่างสะบักสะบอมของเทพจำแลงที่ทุกคนกำลังตามหา  โลหิตแดงฉานพรั่งพรูทะลักราวเขื่อนแตก  แขนทั้งสองข้างของประมุขพรรคขาดหายไปไหนมิอาจทราบ  เสื้อผ้าหรูหราก่อนหน้านี้ขาดแหว่งเปรอะเปื้อนจนไร้สง่าราศีดังเดิม  ขาข้างหนึ่งแตกหักบิดเบี้ยว  สภาพโดยรวมที่ผ่านความเป็นความตายมา  หากเป็นไปได้เทพจำแลงมันคงขอตายระดับเลเวลลดแต่แรกไปเลยจะดีกว่า!

    ฝ่ายพันธมิตรหังโจวส่วนหนึ่งถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศเงียบสงัดวังเวง  จิตต่อสู้ค่อย ๆ หายไปเองอย่างช้า ๆ แต่ก็ไม่ใช่กับทุกคน  ทางฝั่งสามมารเฒ่าที่ยังปะทะกันไม่เลิกราย่อมไม่รู้เรื่องราวใด  และพวกเขาก็หลงลืมตัวตนของเทพจำแลงไปแล้วด้วยซ้ำ จิตต่อสู้ที่ปลุกขึ้นมาในยามนี้  ก็เป็นเพราะการคงอยู่ของสามมารเฒ่าล้วน ๆ  สงครามครั้งนี้มีความหมายลึกซึ้งกว่าที่ใครคิดไว้มาก  ก่อนจะลาจาก  อย่างน้อยก็ขอให้เรื่องราวภายในเมืองหังโจวยังคงถูกหยิบยกไปพูดถึงอีกสักครา  ให้เป็นที่โจษจันไปทั่วยุทธภพอย่างไม่เคยมีมาก่อนจึงจะสมเกียรติอันยิ่งใหญ่ที่คงอยู่มายาวนาน

    ก่อนที่เมืองเมืองนี้จะกลับไปเป็นปกติดังเช่นเมืองอื่น ๆ ทั่วไป

    ขณะเดียวกันยี่ฟงก็เพียงหยุดพักฟื้นฟูร่างกายครู่หนึ่งเท่านั้น  ผลกระทบจากกระบวนท่าพิโรธคลั่งไม่ได้รุนแรงเท่าตอนที่ฝืนใช้ออกครั้งแรก  เมื่อเขาพร้อมอีกครั้งก็ทะยานร่างเข้าไปเสริมกำลังให้กับสามมารเฒ่าทันที  โดยที่ชายหนุ่มไม่คิดจะให้ความสนใจเหล่าคนที่ยืนแข็งเป็นท่อนไม้ตายซากสักนิด  การลงมือทำร้ายคนที่ไม่มีใจจะสู้ย่อมไม่ใช่หนทางของลูกผู้ชาย

    อีกด้านหนึ่ง  มังกรเฒ่ายืนทอดสายตามองเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ  ณ เวลานี้เส้นทางตรงไปสู่ประตูทางออกของเมืองหังโจว  กำลังถูกย้อมไปด้วยแอ่งโลหิตแดงฉาน  เสมือนกับเป็นพรมแดงอย่างที่สามมารเฒ่าตั้งใจจะให้เกิดขึ้นมาแล้วจริง ๆ

    ทำกันขนาดนี้  จะไม่ให้ชาวบ้านเขาตราหน้าเป็นมารร้ายได้ยังไงล่ะวะ  เหอะ ๆมังกรเฒ่าได้แต่รำพึงรำพันกับตัวเอง  ก่อนจะต้องรีบติดตามคนทั้งสี่ไปไม่ให้ห่าง

     

    บนหลังคาโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งภายในเมืองหังโจว  ชายกลางคนสวมใส่ผ้าคลุมและหมวกสานปีกกว้างกำลังใช้งานระบบบันทึกวิดีโอ  สงครามหังโจวถูกเขาถ่ายเก็บไว้ได้แทบจะสมบูรณ์  ผิดพลาดไปนิดเดียวก็แค่ช่วงจังหวะที่ชายสวมหน้ากากเป็นอิสระจากเคล็ดกระบี่สุริยเทพกักขังเท่านั้น  เพราะเขามัวแต่เบนไปจับภาพการปลดปล่อยพลังยุทธ์ของสามมารเฒ่าเบื้องล่าง  รู้ตัวอีกทีชายคนนั้นก็ทำลายกระบวนท่าของเทพจำแลงแล้ว  ไม่ทราบเช่นกันว่าอีกฝ่ายใช้วิธีใดจนสามารถหลุดจากพันธนาการมาได้รวดเร็วถึงขนาดไม่มีใครทันสังเกตเห็น

    ชายวัยกลางคนผู้นี้ไม่ใช่บุคคลลึกลับเก่งกาจอะไร  เป็นเพียงหนึ่งในนักข่าวภาคสนามที่กระจายตัวกันอยู่ตามเมืองต่าง ๆ เท่านั้น  เมืองไหนที่มีประวัติของเพลเยอร์น่าสนใจและถูกพูดถึงบ่อย ๆ บนเว็บบอร์ดเกม  ย่อมต้องปรากฏนักข่าวเหล่านี้สิงสถิตอยู่เป็นเงาตามตัว

    สามมารเฒ่าก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น  ซึ่งในที่สุดนักข่าววัยกลางคนผู้นี้ก็สมดังใจอยากเสียที!

    ข่าวใหญ่แน่  ฉันสัมผัสได้เลย  ฮ่า ฮ่า ฮ่า

     

    เกือบหนึ่งชั่วโมงเต็มที่หังโจวปั่นป่วนโกลาหล  แต่เมื่อสามมารเฒ่าและบุรุษปริศนาผู้ปิดบังตัวตนด้วยการสวมหน้ากากทะลวงฝ่าพ้นออกไปจากเมืองแล้ว  ความสงบเรียบร้อยจึงค่อย ๆ กลับคืนมาทีละนิด  แน่นอนว่าความเสียหายจากไฟสงครามยังคงไม่จางหายไปไหน  พรมแดงที่ประกอบขึ้นมาจากทะเลเลือดซึมซ่านกระจายไปตามสายฝนจนบางเบาลงไปตามระยะเวลา  เศษซากปรักหักพังกระจายเกลื่อนกล่นอยู่ตามพื้นถนน  ร่างของเพลเยอร์หรือชาวเมืองหังโจวที่ยังรอดชีวิตอยู่จนถึงท้ายที่สุด  ต่างทรุดนั่งลงด้วยสภาพเหนื่อยล้า บางคนเข้าฌานเพื่อฟื้นฟูพลังปราณทันทีโดยไม่สนใจสถานที่

    หมู่มารอาละวาดจนสาแก่ใจ  พังทลายหลายสิ่งหลายอย่างภายในเมืองมาตลอดเส้นทางจนย่อยยับ  ขณะที่เหนือขึ้นไปบนท้องฟ้า  ก็ยังคงปกคลุมไปด้วยเมฆฝนและความมืดยามราตรี  ยิ่งเสริมส่งให้บรรยากาศหลังสิ้นสุดสงครามมีแต่ความเงียบเหงา  เสียงเดียวที่ยังบรรเลงอยู่ได้คือเสียงของเม็ดฝนร่วงหล่นกระทบพื้น  ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความพ่ายแพ้ให้แก่ทุกคนอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส

     

    ห่างจากตัวเมืองหังโจวมาเกือบหนึ่งกิโลเมตร

    เป็นการอำลาที่น่าจดจำซะจริง ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่าภูผาเพลิงกล่าวเสียงดังพร้อมรอยยิ้ม

    เลิกพูดถึงเรื่องนี้เถอะ  พวกเรามาว่ากันต่อถึงอนาคตจะดีกว่าเฒ่าทารกขัดขึ้นเสียงเข้ม  กระนั้นภูผาเพลิงก็ไม่ติดใจอะไร  เพียงพยักหน้าตามน้ำไปเท่านั้น

    ส่งคำเชิญมาสิวะไอ้เด็กอวดดีเฒ่าทารกหันไปกล่าวกับยี่ฟงกะทันหัน

    คำเชิญอะไรหรือลุง

    เลิกทำเป็นหน้าซื่อตาใสสักทีเถอะ  เดี๋ยวปั๊ดเตะสั่งสอนซะนี่เฒ่าทารกไม่พูดเปล่าแต่ยกขาขึ้นมาข่มขู่ไปด้วย

    เส้นทางหลังจากนี้โหดบรรลัยเลยนะ  คงไม่คิดจะไปงอแงกันทีหลังหรอกใช่ไหมยี่ฟงยิงคำถามกวนตีนกลับไปตามนิสัย  เล่นเอาตาเฒ่าทั้งหลายขมวดคิ้วควันออกหูไปตาม ๆ กัน

    อย่ากวนประสาทน่าไอ้ตัวแสบ  เดี๋ยวพวกมันเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาแล้วจะยุ่งมังกรเฒ่าเอ่ยปรามเล็กน้อย  ยี่ฟงจึงผงกศีรษะเป็นเชิงรับรู้

    เมื่อไม่เห็นตาเฒ่ามารคนไหนปฏิเสธหรือบ่ายเบี่ยง  แสดงให้เห็นถึงจิตใจอันมุ่งมั่นไม่หวั่นเกรง  ยี่ฟงถึงค่อยเผยรอยยิ้มจริงใจ  ฝ่ามือขวายกขึ้นปัดป่ายใส่หน้าต่างระบบครู่หนึ่ง  คำเชิญเข้าร่วมสมาพันธ์มังกรซ่อนแห่งฉางอานจึงถูกส่งออกไปพร้อมกันสามครั้งอย่างรวดเร็ว

    เพลเยอร์เฒ่าทารก  ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมสมาพันธ์ของคุณแล้ว  ยินดีด้วยค่ะ

    เพลเยอร์มารตะกละ  ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมสมาพันธ์ของคุณแล้ว  ยินดีด้วยค่ะ

    เพลเยอร์ภูผาเพลิง  ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมสมาพันธ์ของคุณแล้ว  ยินดีด้วยค่ะ

    เอาล่ะ  ไหนว่ามาสิตอนนี้เอ็งมีแผนอะไรเฒ่าทารกไม่รอช้า  ดึงเข้าประเด็นหลักอย่างจริงจัง

    กลับไปรวมพลกันก่อนยี่ฟงตอบพลางหันหน้าไปทางทิศที่ตั้งของเมืองดาบมังกร

    แค่นี้?มารตะกละขัดขึ้นมา

    จากนั้นเราจะฝึกฝนเก็บประสบการณ์เพื่อเพิ่มพลังฝีมือกันระยะหนึ่ง  ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเตรียมตัวรับมือกับภารกิจยึดครองหนึ่งในเสาหลักทั้งห้า  หรือก็คือ  วิหารว่างเปล่า  ไงล่ะ

    เอ็งมีความมั่นใจแค่ไหน  อีกสัปดาห์เดียว  การแข่งขันรายการแรกก็จะเริ่มขึ้นแล้ว  ข้าว่าภารกิจครั้งนี้มันเกินกำลังไปว่ะภูผาเพลิงกล่าวตามความเป็นจริง  เขาคิดว่าเวลาที่เหลืออยู่นี้น้อยเกินไป

    ก็ขึ้นอยู่กับว่า  ข้างในสถานที่พิเศษนั้นเป็นไปอย่างที่ฉันคาดการณ์ไว้หรือเปล่าน่ะลุง  เอาเถอะ  เรื่องนี้เอาไว้ก่อน  รีบออกเดินทางจะดีกว่าเพื่อไม่ให้เสียเวลาเปล่า  ว่างั้นไหม  อิอิ

    เหล่าตาเฒ่าทั้งสี่คนได้แต่ส่ายศีรษะจนปัญญา  ดูเหมือนไอ้ตัวแสบมันจะพกเอาความมั่นใจมาเยอะกว่าที่จินตนาการไว้มากทีเดียว

     

    ณ สถานที่ลับพิเศษภายในโลกแห่งลำนำจ้าวยุทธจักร

    ท้องฟ้าภายในนี้มืดครึ้มตลอดกาล  สายลมเย็นเยียบพลิ้วไปตามความว่างเปล่าอันไพศาล  ที่จุดปลอดภัยจุดหนึ่งปรากฏกลุ่มเพลเยอร์กำลังตั้งรกราก  ผู้นำของพวกเขาคือชายผู้มีใบหน้ากร้านโลก  ร่างกายใหญ่โตสวมทับไว้ด้วยเกราะหนักดูทรงพลังสมกับเป็นนักรบ  สายตาหยาบเถื่อนจับจ้องไปยังจุดหมายปลายทางที่ขอบฟ้าไกล  ที่นั่นแสดงให้เห็นเงาของสิ่งปลูกสร้างสูงตระหง่านเสียดฟ้า  มองจากจุดนี้มันช่างดูโดดเดี่ยวว่างเปล่าอย่างที่สุด  คล้ายกำลังรอคอยผู้ที่เหมาะสมจะครอบครองไปพิชิต

    รายงานครับ  ฐานที่มั่นของพวกเราก่อตั้งสำเร็จเรียบร้อยแล้วชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามากล่าวเป็นการเป็นงาน

    ดี!  ไปบอกพิชิตหล้าให้เตรียมประชุมในอีกห้านาที  ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว  เมื่อทุกอย่างพร้อม  เราจะบุกไปเยือน วิหารว่างเปล่า เต็มกำลัง

    ตามที่ท่านต้องการครับ  ท่านจักรพรรดิมังกร!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×