ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #127 : วิชามาร

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.4K
      1.05K
      1 ก.ย. 61

    ผลพลอยได้จากสงครามหังโจวมีทั้งเกิดประโยชน์และไม่เกิด  เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาทำให้จำนวนคนที่ตายลงภายใต้ฝีมือของยี่ฟงมีมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ  นั่นช่วยลดจำนวนคนที่เขาต้องสังหารเพื่อจะยุติค่าหัวหนึ่งล้านตำลึงทองไปได้มหาศาลทีเดียว  แต่สิ่งที่ตามมาก็คือคะแนนสายมาร  ซึ่งกลับกัน  คะแนนสายคุณธรรมของยี่ฟงตอนนี้เป็นศูนย์  ผลลัพธ์เช่นนี้จะว่าร้ายแรงและไม่ค่อยเกิดประโยชน์ก็ได้  เพราะนั่นหมายความว่าปัจจุบันยี่ฟงไม่สามารถร่ำเรียนวิชายุทธ์สายคุณธรรมไปได้อีกระยะหนึ่ง  แน่นอนว่าเขาจะต้องค้นหากระบวนท่าวิชายุทธ์ของสายมารให้ตัวเองแทนหากคิดจะเสริมเขี้ยวเล็บในช่วงนี้

    ระหว่างเร่งรีบเดินทางกลับไปสมทบกับพวกเหนือฟ้า  ยี่ฟงคิดแล้วคิดอีกจนกระทั่งสายตาเหลือบไปมองสามมารเฒ่า

    คิดจะค้นหาวิชามารก็มีแต่ต้องค้นเอาจากมารมิใช่หรือ?

    ในเมื่อตัดสินใจแล้วยี่ฟงจึงชะลอความเร็วในการพุ่งทะยานลง  คนอื่น ๆ ย่อมต้องช้าลงไปด้วยตามกัน  มังกรเฒ่าอยู่ใกล้สุดจึงรับหน้าที่เอ่ยปากถามขึ้นมา  มีปัญหาอะไรวะ

    ฉันไม่เหลือคะแนนคุณธรรมแล้วลุงยี่ฟงเกริ่น  พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติ

    มารตะกละได้ยินเช่นนั้นจึงหัวเราะกล่าวว่า  เอ็งมีวิชาสายสว่างต้องการจะเรียนอยู่หรือไง

    ฮ่า ฮ่า  ไม่ใช่หรอกลุงอ้วนยี่ฟงเคยได้ยินมังกรเฒ่าเรียกแทนอีกฝ่ายแบบนี้  จึงทดลองตีสนิทดูบ้างเนียน ๆ  พอสังเกตเห็นสีหน้าไม่พอใจส่งตรงมาจากมารตะกละ  จึงต้องรีบกล่าวต่อไปทันทีเพื่อขัดจังหวะไม่ให้อีกฝ่ายตะโกนด่ากลับมา  ฉันคิดว่าจะลองหาวิชามารมาใช้ดูต่างหากล่ะ  ไหน ๆ ก็มีคะแนนสายนี้อยู่จำนวนหนึ่งแล้ว  จะไม่ฉวยโอกาสทองเพื่อฝึกวิชามารสักวิชาเลยก็ดูไม่ค่อยฉลาดสักเท่าไร  จริงไหม?

    สำหรับเกมลำนำจ้าวยุทธจักร  เมื่อเพลเยอร์ฝึกฝนร่ำเรียนวิชายุทธ์ได้สักวิชา  ก็จะสามารถใช้งานมันได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องห่วงกังวลด้านสถานะตัวละครในปัจจุบัน  ดังเช่นยี่ฟงในขณะนี้  หากเขาได้ประทับฝ่ามือสลักวิชามารลงไปแล้ว  อนาคตข้างหน้าถึงแม้จะไม่หลงเหลือคะแนนของสายมารเลย  เขาก็ยังสามารถเรียกใช้งานวิชามารที่มีในครอบครองได้อย่างไม่ติดขัดอะไร

    เอ็งมีคัมภีร์สายมารอยู่ด้วยเรอะเฒ่าทารกถามขึ้นด้วยน้ำเสียงค่อนข้างแปลกใจ

    ยี่ฟงยิ้มอย่างเป็นมิตรพลางตอบเสียงกระจ่างใสว่า  ฉันไม่มี  แต่พวกลุงต้องมีแน่ ๆ  คิคิ

    มังกรเฒ่าหัวเราะก๊ากทันที  ผิดกับสามมารเฒ่าที่เบ้ปากจนหน้ายับย่น  แสดงอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  กระทั่งภูผาเพลิงรีบเอ่ยสั่งสอนไอ้ตัวแสบอย่างอดไม่ได้ก่อนใครว่า

    เฮ้ย ๆ  ยุทธภพมีกฎของยุทธภพ  เอ็งจะมาปอกลอกเอาวิชายุทธ์ของคนอื่นแบบนี้ไม่ได้  อย่าไปแสดงกิริยาแย่ ๆ ไร้ศักดิ์ศรีกลับใครอีกนะโว้ย  เดี๋ยวจะถูกตราหน้าเป็นไอ้กากขอทานไปทั่วแดนแล้วจะหาว่าพวกข้าไม่เตือน

    ขอบคุณที่เตือนนะลุง  แต่ตอนนี้พวกเรามันคนกันเอง  ไอ้ฉันก็เพิ่งเล่นมาได้ไม่นาน  วิชายุทธ์น้อยซะยิ่งกว่าเพลเยอร์ทั่วไปที่เลเวลสามสิบสี่สิบอีกมั้ง

    มังกรเฒ่าเริ่มรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมานิด ๆ เจืออิจฉาสุมทรวงอก  เรื่องนี้ต่อให้ยกมากล่าวถึงอีกกี่ครั้งเขาก็ยังรู้สึกหงุดหงิด  ก็ชายแก่อย่างตนเสียเวลาไปเกือบเดือนกว่าจะพัฒนาตัวละครจนเข้าขั้นยอดฝีมือเลเวล 30  ทว่าไอ้ตัวแสบเพียงเพิ่งสร้างตัวละครเสร็จ  พอออนไลน์ไม่ถึงนาทีก็เลเวลอัปกระจายถึงขนาดติดโผยอดฝีมือทันทีทันใด

    เฮอ  ช่างเถอะ  ว่าแต่ดูแล้วเอ็งคงไม่ชอบใช้อาวุธสินะ  ภูผาเพลิงขี้คร้านจะต่อปากต่อคำกับเด็ก  สุดท้ายเอ่ยปากรวบรวมข้อมูลอย่างจริงจัง

    ก็ไม่เชิงนะลุง  เพียงแต่ฉันถนัดต่อสู้มือเปล่ามากกว่ายี่ฟงตอบกลับยิ้ม ๆ

    ขณะเดียวกัน  สามมารเฒ่าก็สบตากันอยู่ครู่หนึ่ง  คล้ายกำลังตกลงกันผ่านสายตา แสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์และมิตรภาพที่หาได้ยากยิ่ง  หลังจากนั้นคนทั้งสามก็ต่างล้วงเอาคัมภีร์มารกันออกมาคนละเล่ม  ลักษณะของตัวคัมภีร์ค่อนข้างเก่าและดูไร้ประกาย  ทั้งสามเล่มไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไรนัก  เสมือนกับเป็นวิชามารชุดเดียวกัน  ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากที่ชายหนุ่มคิด  เมื่อได้ฟังเฒ่าทารกกล่าวสำทับตามมาว่า

    ความจริงคัมภีร์พวกนี้เป็นหนึ่งในกระบวนท่าของวิชา หมัดมารเมรัย  ซึ่งทั้งหมดมีห้ากระบวนท่า  พวกข้าเองไม่คิดว่าจะได้ใช้มันหรอก  เอ็งเอาไปก็แล้วกัน  ส่วนอีกสองกระบวนท่าที่เหลือก็ไปเสี่ยงดวงควานหาเอาเอง  จะได้ลดความน่าเกียจของเอ็งลงไปซะบ้าง

    ยี่ฟงยิ้มแป้น  แต่แล้วก็เกิดสะกิดใจสงสัยขึ้นมา  ทำไมพวกลุงไม่คิดจะใช้วิชานี้ล่ะ  หรือมันมีข้อจำกัดที่ยากเกินไป?

    จะว่าข้อจำกัดที่ตัววิชากำหนดไว้ยากก็ไม่ถูกต้องนักหรอกว่ะ  เอาเป็นว่าเอ็งลองศึกษาดูก็จะรู้เอง เฒ่าทารกตอบอย่างแสนเสียดายชัดเจน  ยิ่งทำให้ยี่ฟงรู้สึกแปลกใจเข้าไปอีกว่าข้อจำกัดแบบไหนกันถึงทำให้สามผู้เฒ่าตรงหน้าปฏิเสธที่จะร่ำเรียนวิชานี้

    หรือจะเกี่ยวข้องกับสุรา?ยี่ฟงเดาสุ่มในใจ  จากนั้นรีบบอกให้ทุกคนหยุดพักกันครู่หนึ่ง ส่วนตัวเองก็นำคัมภีร์ทั้งสามเล่มมานั่งศึกษาอ่านดูทันที  มังกรเฒ่าที่ว่างอยู่จึงเดินมานั่งลุ้นไปด้วย


    หนึ่งในห้ากระบวนท่าของวิชายุทธ์คลาส A หมัดมารเมรัย

    กระบวนท่าที่หนึ่ง : พิษน้ำเมา

    เมื่อเพลเยอร์เรียกใช้กระบวนท่าพิษน้ำเมาโจมตี  หมัดที่กระแทกใส่อากาศจะปลดปล่อยคลื่นพลังปราณออกไป 5 สาย  รูปลักษณ์ของมันจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นกำปั้นพุ่งเข้าโจมตีอย่างไร้รูปแบบหรือทิศทางที่แน่นอนใส่เป้าหมาย  ส่งผลให้ศัตรูยากที่จะทำการป้องกัน

    หมายเหตุ : ประสิทธิภาพของตัววิชาจะลดลงเมื่อเพลเยอร์ยังไม่ได้ดื่มสุราก่อนเรียกใช้  ซึ่งคลาสของวิชาหมัดมารเมรัยจะคงสภาพเป็นคลาส D ตลอดเวลาที่ขาดฤทธิ์น้ำเมา

    เมื่อรวบรวมได้ครบห้ากระบวนท่า  ตัวละครของท่านจะต้านฤทธิ์สุราได้อย่างถาวร


    หนึ่งในห้ากระบวนท่าของวิชายุทธ์คลาส A หมัดมารเมรัย

    กระบวนท่าที่สาม : มังกรพ่นไฟ

    เมื่อเพลเยอร์เรียกใช้กระบวนท่ามังกรพ่นไฟ  จำเป็นจะต้องอมสุราเอาไว้ก่อน  ทันทีที่พ่นสาดออกไปจะก่อให้เกิดเปลวไฟลุกโหมโจมตีใส่เป้าหมายเบื้องหน้าในระยะ 5 เมตร  กระบวนท่ามังกรพ่นไฟยากจะดับมอดลงถึงแม้จะใช้ออกใต้มวลน้ำก็ตาม

    หมายเหตุ : ประสิทธิภาพของตัววิชาจะลดลงเมื่อเพลเยอร์ยังไม่ได้ดื่มสุราก่อนเรียกใช้  ซึ่งคลาสของวิชาหมัดมารเมรัยจะคงสภาพเป็นคลาส D ตลอดเวลาที่ขาดฤทธิ์น้ำเมา

    เมื่อรวบรวมได้ครบห้ากระบวนท่า  ตัวละครของท่านจะต้านฤทธิ์สุราได้อย่างถาวร


    หนึ่งในห้ากระบวนท่าของวิชายุทธ์คลาส A หมัดมารเมรัย

    กระบวนท่าที่สี่ : หน้าด้านไร้ยางอาย

    เมื่อเพลเยอร์เรียกใช้กระบวนท่าหน้าด้านไร้ยางอาย  ภายในเวลา 10 นาทีจะช่วยทำให้ทุกครั้งที่ดื่มสุรา  พลังชีวิตจะฟื้นฟูกลับมาเล็กน้อย  ความรู้สึกเจ็บที่เกิดจากค่าความเสียหายทุกรูปแบบจะถูกเมินเฉยดังเช่นคนเมาทั่ว ๆ ไป  หรือก็คือ  การโจมตีที่ท่านได้รับจะถูกทำให้ลดทอนเบาลง 10%

    หมายเหตุ : ประสิทธิภาพของตัววิชาจะลดลงเมื่อเพลเยอร์ยังไม่ได้ดื่มสุราก่อนเรียกใช้  ซึ่งคลาสของวิชาหมัดมารเมรัยจะคงสภาพเป็นคลาส D ตลอดเวลาที่ขาดฤทธิ์น้ำเมา

    เมื่อรวบรวมได้ครบห้ากระบวนท่า  ตัวละครของท่านจะต้านฤทธิ์สุราได้อย่างถาวร


    เหอะ ๆ ใครคิดจะเรียนวิชาสายนี้  คงได้กลายเป็นไอ้ขี้เมาแน่ ๆมังกรเฒ่าวิจารณ์ขึ้นมาก่อนน้ำเสียงขบขัน  ชายชราเหล่มองเพื่อน ๆ อย่างเข้าใจกัน

    กว่าที่พวกข้าจะเลิกเหล้าได้  ใช้เวลาไปครึ่งค่อนชีวิต  มีหรือจะกลับไปพลาดติดมันใหม่  ถึงแม้จะเป็นแค่ในเกม  แต่เหล้าก็คือเหล้า  ให้ดื่มสังสรรค์นิด ๆ หน่อย ๆ คงไม่เป็นไร  ไอ้วิชานี้มันเล่นบังคับให้เจ้าของต้องดื่มทุกครั้งก่อนใช้งาน  มีหวังได้กลับไปติดใหม่แหง  เฒ่าทารกอธิบายถึงเหตุผลที่พวกตนปฏิเสธวิชานี้ขึ้นมาในที่สุด  ยี่ฟงจึงทำได้เพียงพยักหน้าเข้าอกเข้าใจ

    เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่การยับยั้งชั่งใจ  อิอิยี่ฟงกล่าวอย่างเชื่อมั่นในตัวเอง

    เหล่าชายชราพากันส่ายศีรษะ  สายตาจับจ้องมองดูไอ้ตัวแสบที่กำลังประทับฝ่ามือสลักวิชามารทั้งสามเล่มโดยไม่มีอาการชะงักงัน

    เพลเยอร์ยี่ฟงร่ำเรียนกระบวนท่าทั้งสามของวิชาหมัดมารเมรัยสำเร็จ  ท่านสามารถเลือกได้ว่าจะเปิดหรือปิดการรับรสของสุรา  ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อตัวเพลเยอร์เอง  หากเลือกที่จะเปิดการรับรสเอาไว้  ระบบจะคำนวณความเหมาะสมให้อัตโนมัติ

    เสียงรายงานนี้ย่อมมีแค่ชายหนุ่มคนเดียวที่ได้ยิน  เขาได้แต่มองสบตากลับไปยังเหล่าชายชราอย่างเศร้าเสียใจแทนอยู่บ้าง

    เก็บไว้เป็นความลับจะดีกว่า  เกิดบอกพวกลุง ๆ ไปว่ามันมีวิธีการแก้ปัญหาเรื่องสุราเอาไว้  ฉันคงถูกทวงคืนวิชานี้แน่ ๆยี่ฟงคาดการณ์ในใจ  ส่วนภายนอกก็ส่งยิ้มเสียดายไปให้ทุกคนพลางปิดปากเงียบสนิท

    หลังหยุดพักกันเกือบห้านาที  กลุ่มของยี่ฟงก็เริ่มออกเดินทางกันต่อ  เนื่องจากจุดนัดพบของพวกเขาไม่ใช่ที่เมืองแล้ว  แต่เป็นในป่าใกล้กับมหานครฉางอาน  ระยะทางจึงหดสั้นลงกว่าที่คิด  ซึ่งพอถึงทางแยก  ยี่ฟงก็ขอตัวกลับไปที่เมืองก่อนเพื่อจัดหาสุราเมรัยมาไว้ครอบครองเพื่อวิชามารโดยเฉพาะ  ส่วนแก๊งวัยชราก็ได้มังกรเฒ่านำทางต่อ  เมื่อติดต่อนัดแนะกับเหนือฟ้าแล้วเหล่าชายชราก็สามารถเดินทางไปบรรจบกับพวกเขาได้อย่างไม่มีปัญหา

    อ้าว  แล้วยี่ฟงล่ะครับลุงเหนือฟ้าถามหายี่ฟงก่อนเป็นลำดับแรกที่คนทั้งสองกลุ่มเจอกัน

    มันขอย้อนกลับไปที่เมืองดาบมังกรก่อนน่ะ  แต่ไอ้ตัวแสบมันสั่งมาว่าให้ทุกคนเร่งเก็บระดับเลเวลกันไปก่อนได้เลยมังกรเฒ่าตอบอย่างเป็นกันเอง

    เมื่อไม่มีใครสงสัยอะไรอีก  มังกรเฒ่าจึงเริ่มแนะนำสามมารเฒ่าให้สาว ๆ รู้จักไปทีละคน  แน่นอนว่าการวมกลุ่มกับเพื่อนต่างวัยทีเดียวเป็นจำนวนมาก  ย่อมสร้างบรรยากาศอึดอัดให้เหล่าวัยรุ่นพอสมควร เพราะกลัวจะแสดงกิริยาไม่เหมาะสมออกไป  แต่ละคนจึงระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ  ซึ่งพอเห็นดังนั้น  แก๊งวัยชราจึงรู้สึกถูกชะตาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก  ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพบเจอวัยรุ่นนิสัยดี  รู้จักกาลเทศะภายในเกมออนไลน์เช่นนี้  ฉะนั้นสามมารเฒ่าจึงชวนคุยไปเรื่อยเปื่อยเพื่อทำลายความอึดอัดและกำแพงอายุที่กั้นขวางลงไปทีละนิด

    เกือบหนึ่งชั่วโมงต่อมา  ยี่ฟงที่ย้อนกลับไปยังเมืองดาบมังกรก็เดินทางมารวมพลได้ในที่สุด แน่นอนว่าพอมาถึง ชายหนุ่มก็ไม่ลีลาอะไรอีก ยามนี้ทุกนาทีล้วนมีค่าจึงสั่งการให้ทุกคนบุกเข้าไปยังดันเจี้ยนใต้ดินของมหานครฉางอานทันที

    การเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจที่แท้จริงได้เริ่มต้น ณ บัดนี้เองและยี่ฟงก็ได้วางแผนพัฒนาศักยภาพของสมาชิกเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×