คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ดอกไม้ราตรี
ยี่ฟงเวลานี้อาศัยระบบแผนที่เป็นตัวชี้ทาง เขาเลือกจะเดินเลาะไปตามอาณาเขตชั้นนอกของป่ากลืนวิญญาณโดยไม่ได้รีบเร่งที่จะเดินตัดเข้าสู่ใจกลางป่าในทันทีอย่างที่ใครคิด จากที่ชายหนุ่มคาดการณ์แล้วหากมีหมู่บ้านอยู่จริงพวกเขาไม่สมควรจะอยู่ใจกลางป่าเฉกเช่นในอดีตได้อีกต่อไป เมื่อวิหคเทวะหรือผู้ปกปักรักษาที่หลันอี้กล่าวถึงพ่ายแพ้ บัดนี้ย่อมสลายดับสูญหรืออาจไม่หลงเหลือพลังเพียงพอจะปกป้องสิ่งใดอีก ใจกลางป่ากลืนวิญญาณเองย่อมกลับกลายเป็นพื้นที่อันตรายสูงสุดยากจะมีมนุษย์อาศัยอยู่ได้
“อีกฟากหนึ่งของป่าถูกปิดกั้นไว้ด้วยแนวเทือกเขาสูง
บางทีทั้งหมู่บ้านและกองโจรอาจจะตั้งอยู่ที่นั่นก็ได้”
ยี่ฟงกล่าวสรุปกับตัวเอง
หลังจากทำการสังหารหมู่ทั้งต้นไม้ปีศาจและงูดินเรียบร้อยแล้วระหว่างเดินทางยี่ฟงก็ได้ปะทะกับสัตว์อสูรชนิดอื่นอยู่บ้างเป็นระยะ ซึ่งพวกมันแทบไม่ได้สร้างความลำบากอะไรให้เขานักเมื่อเทียบกับสองชนิดแรก กลายเป็นว่ายี่ฟงเก็บเกี่ยวประโยชน์ในพื้นที่แห่งนี้ได้ตลอดเส้นทาง
ในภาษาของเกมเมอร์เขาเรียกช่วงเวลานี้กันว่าเป็นการ
‘ฟาร์ม’ ทั้งไอเทม เงิน และค่าประสบการณ์
ยี่ฟงเพลิดเพลินไปกับการฟาร์มจนหลงลืมเวลาไปเสียสนิท มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่รอบข้างมืดสลัวแล้ว
“ค่อยดูสมกับเป็นแผนที่ขึ้นมาหน่อย”
ยี่ฟงเอ่ยเสียงเบา ขณะนี้ระบบแผนที่ของเขาได้มีการระบุสิ่งต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมาอยู่เต็มไปหมด ยี่ฟงเผยยิ้มก่อนจะปิดหน้าต่างระบบลงหลังจากเพ่งพินิจจนพอใจแล้ว
“หือ นั่นแสงอะไรวะ”
ยี่ฟงอุทานออกมาแทบจะทันทีเมื่อหางตาชำเลืองไปเห็นบางสิ่งซึ่งชัดเจนมากในเวลากลางคืน แต่มันหลบซ่อนอยู่หลังเนินเขาลูกเล็ก ๆ
โดยมีแค่แสงสีเขียวทอประกายวูบวาบขึ้นมาให้สังเกตเห็นเท่านั้น
“หรือจะเป็นไอเทมหายาก!?”
ยี่ฟงไม่พูดเปล่าแต่รีบทะยานร่างขึ้นไปยืนอยู่บนยอดเนินเขาทันที เขากวาดสายตาลงมองเพียงครู่เดียวก็พบเห็นเด็กสาวคนหนึ่งกำลังยืนหลับตาอยู่ท่ามกลางดงดอกไม้ที่เรืองแสงสีเขียวงดงาม จากสายตาแล้วเธอสมควรอายุไม่เกิน 12-13 ปี
“เอไอหรือ…”
ยี่ฟงสรุปง่าย
ๆ เพราะเกมนี้คนที่อายุต่ำกว่า 20 ไม่สามารถออนไลน์เข้ามาเล่นได้
‘มิตรหรือศัตรูหว่า’
ชายหนุ่มไตร่ตรองในใจ เขาไม่ตัดสินเพียงเพราะรูปลักษณ์ภายนอกง่าย ๆ แต่เมื่อถูกรบกวนจากแสงวูบวาบของดงดอกไม้มากเข้าความสงสัยจึงนำพาชายหนุ่มก้าวเดินลงไปเบื้องล่างอย่างไม่คิดปิดบังซ่อนเร้นใด
ๆ
“เจ้าเป็นใคร!?”
กระทั่งเด็กสาวรูปงามที่ยืนสงบแน่นิ่งพลันลืมตาขึ้นมา น้ำเสียงที่นางใช้เจือไปด้วยความกังวลและยังเผลอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ส่วนยี่ฟงดวงตาทั้งสองหรี่เล็กขณะพินิจเด็กสาวในระยะใกล้ บางสิ่งที่นางมีในครอบครองส่งให้เขาผ่อนคลายได้ในที่สุด
“ข้ายี่ฟง
เป็นจอมยุทธ์พเนจร”
ชายหนุ่มเลือกใช้คำให้กลมกลืนไปกับยุค
“แล้วเจ้าผ่านค่ายกลลวงตาเข้ามาถึงที่นี่ได้เช่นไรกัน”
เด็กสาวยังคงซักถามไม่วางใจโดยง่าย แต่คำกล่าวของนางทำให้ยี่ฟงกระจ่างแจ้ง ส่วนนางเพิ่งสำนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองดันปากสว่างบอกกล่าวความลับเรื่องค่ายกลลวงตาไปเมื่อครู่
“ที่แท้มีค่ายกลลวงตาซุกซ่อนอยู่นี่เอง”
ก่อนหน้านี้ยี่ฟงเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรเลเวล
30 มาแล้ว แต่พอเขาลากมันไปหาต้นไม้ปีศาจสังหารจึงได้รู้ว่ามันเป็นแค่ภาพลวงตา ยี่ฟงจ้องไปยังเด็กสาวด้วยรอยยิ้มพลางแนะนำกลับไปว่า
“ข้าบอกชื่อตัวเองแล้ว เจ้าก็สมควรบอกชื่อของตัวเองเช่นกัน”
“ข้าชื่อซวงหลานเหอ”
เด็กสาวแนะนำตัวเองอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ยี่ฟงก็ไม่ได้ถือสาแต่เลือกจะถามในสิ่งที่เขากำลังสนใจกับนางว่า
“ดอกไม้พวกนี้พิเศษอย่างไร ข้าไม่เคยพบเห็นมาก่อน”
“ข้าไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องบอกเจ้าทุกอย่าง”
ซวงหลานเหอสวนกลับเสียงเข้ม
“งั้นข้าคงต้องศึกษาด้วยตัวเอง”
ยี่ฟงกล่าวพร้อมกับย่อตัวลงไป
ฝ่ามือข้างหนึ่งยกขึ้นหมายจะเด็ดดอกไม้เรืองแสงออกมาพินิจดู
“อย่าแตะต้องมันนะเจ้าคนแปลกหน้า! หมาป่าราตรีทุกดอกล้วนมีความสำคัญยิ่ง มันช่วยปกป้องพวกข้า”
ยี่ฟงชะงักฝ่ามือกลับออกมา จากนั้นลุกขึ้นยืนอีกครั้งคล้ายได้ในสิ่งที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว แต่ซวงหลานเหอเวลานี้ใบหน้าแดงก่ำเพราะนางเผลอตัวไม่ทันคิดจนพูดมากเกินความจำเป็น
“ดอกไม้พวกนี้เรียกว่าหมาป่าราตรีหรือ แล้วมันช่วยปกป้องพวกเจ้าด้วยวิธีใดกัน”
ชายหนุ่มได้โอกาสจึงถามจี้เพื่อล้วงข้อมูลเท่าที่จะทำได้
“ข้าบอกก็ได้
แต่เจ้าต้องสัญญามาก่อนว่าจะตอบรับทุกคำขอจากข้า”
ซวงหลานเหอยื่นข้อเสนอโดยไม่ยอมเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว ชายหนุ่มได้แต่เอ็นดูในความไร้เดียงสาของนาง แบบนี้นางจะทราบได้อย่างไรว่าเขาจะทำตามที่สัญญาจริง
ๆ โดยไม่บิดพลิ้ว!?
“ลองว่าคำขอที่เจ้าต้องการมาสิ หากทำได้ข้าก็จะทำให้”
ยี่ฟงกอดอกขณะกล่าว ส่วนเด็กสาวชั่งใจอยู่เล็กน้อยแต่ก็ยอมเอ่ยปากขอว่า
“ข้าคือหนึ่งในผู้ที่รอดจากการถูกตามล่าโดยกองโจรภูเขา แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ตกอยู่ใต้อาณัติของพวกมันในยามนี้ หากเป็นไปได้ข้าก็อยากขอให้จอมยุทธ์เช่นเจ้าช่วยเหลือพวกข้า จัดการกองโจรภูเขาที่รุกรานเข้ามาทั้งหมดจะได้หรือไม่”
สีหน้าของยี่ฟงไม่เปลี่ยนแปลงเพราะเขาพอจะเดาได้อยู่แล้วว่าเด็กสาวจะขอออกมาประมาณนี้
“ก็ได้ข้าให้สัญญา”
ชายหนุ่มตอบตกลงแทบจะไม่ต้องเสียเวลาคิด จะอย่างไรมันก็เป็นเป้าหมายของเขาแต่แรกอยู่แล้ว
“เจ้าคงไม่ได้หลอกลวงข้าใช่ไหม!?”
ซวงหลานเหอกล่าว สีหน้าไม่อาจเก็บซ่อนความยินดีไว้ได้
“ข้าจะเป็นผู้ทำลายกองโจรภูเขาให้เอง”
ยี่ฟงกล่าวย้ำขึ้นมาอีกครั้งด้วยรอยยิ้มไม่ยี่หระ ขณะที่เด็กสาวฉีกยิ้มกว้างผ่อนคลายออกมาให้เห็นเป็นครั้งแรก
จากนั้นซวงหลานเหอก็ยอมอธิบายคุณสมบัติลี้ลับของไม้ที่ลู่ลมเอนไหวอยู่โดยรอบให้ฟัง สำหรับยามที่ตะวันแขวนอยู่เหนือฟ้าแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้เห็นแสงวูบวาบจากดอกหมาป่าราตรี พวกมันทุกดอกล้วนแต่ส่งกลิ่นหอมเบาบางกระจายไปทั่ว ยิ่งมีอยู่รวมกันมากเท่าไรก็จะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น กระทั่งสามารถช่วยลดความดุร้ายของสัตว์อสูรที่เผลอสูดดมกลิ่นหอมเข้าไปจนถึงขั้นกล่อมให้หลับใหลได้เลยทีเดียว
บริเวณโดยรอบนี้จึงแทบไม่มีอันตรายให้ต้องกังวล จะเรียกเป็นเซฟโซนก็ยังได้ด้วยซ้ำ!
ดอกหมาป่าราตรีถูกบ่มเพาะและวางกั้นเป็นอาณาเขตปลอดภัยล้อมอยู่รอบภูเขาสูง ชาวบ้านส่วนหนึ่งต่างก็ลี้ภัยมาหลบซ่อนอยู่ตามซอกหินผา ภายนอกก็ยังมีการวางค่ายกลลวงตาเอาไว้เพื่อไล่ผู้ที่คิดจะเข้ามาสำรวจที่นี่อีกชั้นหนึ่ง
หากไม่ใช่ว่ายี่ฟงตัดสินใจเด็ดขาดที่จะเดินอ้อมมาเช่นนี้คงยากจะพบเจอที่นี่ได้หรืออาจต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์
“ว่าแต่หมู่บ้านของพวกเจ้าตั้งอยู่ตรงส่วนไหนของป่ารึ”
ยี่ฟงถามเพื่อเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่เขาคาดการณ์นั้นถูกต้อง
“ท่านเรียกข้าว่าหลานเหอก็พอ ส่วนหมู่บ้านของข้าอยู่อีกฟากหนึ่งของป่า…ตรงแนวเทือกเขานั่นไงล่ะ”
เด็กสาวกล่าวอย่างเป็นมิตรมากขึ้นพลางชี้นิ้วให้มองไกลออกไปสุดสายตา
ยี่ฟงพยักหน้ายิ้ม ๆ ก่อนจะถามอีกว่า
“แล้วหลานเหอทราบหรือไม่ โจรภูเขามีความจำเป็นอะไรถึงต้องจับชาวบ้านไว้”
“พวกมันต้องการดอกหมาป่าราตรีอย่างไรล่ะ มีแต่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ร่วมกับผืนป่าเท่านั้นที่ทราบวิธีการบ่มเพาะเลี้ยงดูดอกไม้พันธุ์นี้ ทั้งมันยังใช้ชาวบ้านออกหาเสบียงให้อีกราวกับตนเป็นราชา”
ยี่ฟงซึ่งฟังอยู่เงียบ ๆ พลางลูบคางใช้ความคิด เขาพยายามเชื่อมโยงปริศนาต่าง ๆ เข้าด้วยกันจนเริ่มจะเห็นเค้าลางบางอย่าง หากศิษย์วังจักรพรรดิมีส่วนเกี่ยวข้องกับโจรภูเขาจริง พวกมันย่อมต้องมีผลประโยชน์ร่วมกัน อาจจะเป็นเสบียงอาหาร วัตถุดิบหายาก หรือเงินทองก็ได้ทั้งนั้น
ส่วนสาเหตุที่ไม่สังหารเพลเยอร์กลุ่มอื่นในทันทีดังเช่นกลุ่มของเหนือฟ้าที่ยังรอดชีวิตไปได้ บางทีอาจเพราะ...
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เจอพวกแกจนได้!”
ยี่ฟงที่กำลังสรุปเรื่องราวภายในใจกลับถูกขัดขึ้นมาเสียก่อน บนเนินเขาที่ยี่ฟงเพิ่งลงมาพลันปรากฏกลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดจอมยุทธ์เปลือยท่อนแขนหยัดยืนอยู่
3 คน จากลักษณะท่าทางแล้วต้องเป็นโจรภูเขาที่ลอบแกะรอยตามยี่ฟงมาเป็นแน่
‘นักสู้โจรภูเขาเลเวล 17 โจมตี’
‘นักสู้โจรภูเขาเลเวล 18 โจมตี’
‘นักสู้โจรภูเขาเลเวล 19 โจมตี’
เสียงระบบแจ้งยิ่งเป็นตัวยืนยันได้ชัดเจนยิ่งกว่า
“รอสักครู่หลานเหอ”
ยี่ฟงกล่าวเสียงเข้มบรรเทาอาการหวั่นวิตกของเด็กสาวเอาไว้
“เฮ้ย!
ดูนั่นสิวะ หมาป่าราตรี!”
“พวกมันแอบเอามาซุกซ่อนไว้เยอะถึงเพียงนี้เชียว”
นักสู้โจรภูเขาทั้งสามคนแทบจะดีใจจนทนไม่ไหว หากพวกมันสามารถนำดอกหมาป่าราตรีทั้งหมดกลับไปได้ย่อมได้รับความดีความชอบอย่างล้นเหลือ
“ฆ่าไอ้หน้าหล่อนั่นซะ!”
นักสู้โจรผู้เขาเลเวล
19 สั่งการเสียมเหี้ยม อีกสองคนจึงรีบชักอาวุธกระโจนลงมาราวสุนัขคลั่ง
“สมกับเป็นตัวประกอบ ช่างไม่รู้จักประเมินฝีมือตน!
ต่ำสูงยิ่งไม่อาจแยกแยะ!”
ยี่ฟงวางท่าโอหังเต็มพิกัด ถ้อยวาจาเชือดเฉือนที่เขาจดจำมาจากหนังจีนกำลังภายในพลันถูกหยิบยกออกมาใช้ จากนั้นยี่ฟงก็ดีดเท้าทะยานร่างสวนกลับขึ้นไปบนเนินเขารวดเร็วมาก กระบี่คลาส D ผงาดฟาดฟันดื่มโลหิตในพริบตาเดียว พอเคลื่อนร่างผ่านนักสู้โจรภูเขาทั้งสองไปก็บังเกิดฝนโลหิตสาดกระจายขึ้นฟ้า ตามติดมาด้วยเสียงร้องคร่ำครวญเจ็บปวดและร่างทั้งสองนั้นวูบตกกลิ้งคลุกฝุ่นไปกับพื้นไม่เป็นท่า
“ย…ยอดฝีมือ!!!”
นักสู้โจรภูเขาเลเวล
19 ครางออกมาอย่างอ่อนล้า มันยังไม่ทันได้ประมือก็เข่าอ่อนร่วงลงไปกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว
“จงไปสำนึกผิดในนรกเถอะไอ้เหี้ยม!!”
ยี่ฟงคำรามพร้อมเสียบแทงกระบี่ทะลุหัวใจปลิดชีพศัตรูภายในกระบี่เดียว ความเท่นี้ย่อมไม่พ้นตกอยู่ในสายตาของซวงหลานเหอแทบทั้งหมด นางถึงกับประสานฝ่ามือแนบอกด้วยความรู้สึกประทับใจยากจะถอนตัว
ความคิดเห็น