คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : หอกหัก
“หลานเหอ!!”
มีคนตะโกนเรียกหาเด็กสาวดังมาจากซอกหินผา น้ำเสียงดูแตกตื่นกังวลใจ เป็นเพราะเสียงร้องโหยหวนของโจรทั้งสามได้ไปปลุกให้ชาวบ้านที่หลบซ่อนอยู่พากันตื่นตัว ไม่ช้าก็ปรากฏหญิงสาววัยกลางคนวิ่งออกมาจากช่องเขาด้วยสีหน้าซีดเผือด
“ข้าไม่เป็นไร”
เด็กสาวรีบหันกลับไปตอบเพื่อคลายกังวลให้อีกฝ่ายแต่นางก็ไม่วายถูกดึงเข้าไปกอดอย่างห่วงแหนอยู่ดี
“ท่านแม่! ข้าปลอดภัยดี”
ซวงหลานเหอกล่าวย้ำสีหน้าอึดอัดเพราะถูกรัดแน่นเกินไป
“แม่บอกเจ้ากี่ครั้งแล้วว่าห้ามแอบออกมาที่นี่!”
ผู้เป็นมารดาตำหนิเสียงเข้ม ดูเหมือนนางจะมองไม่เห็นยี่ฟงแม้แต่น้อย จึงเป็นหน้าที่ของชายฉกรรจ์ที่เพิ่งตามมาถึงเป็นกลุ่มใหญ่คอยระวังภัยเอาไว้ เมื่อยี่ฟงกลับลงมาจากเนินเขาทุกคนต่างก็ชี้อาวุธไปที่ชายหนุ่มอย่างไม่วางใจ แต่หากสังเกตดี ๆ แล้วจะพบว่าอาวุธในมือของชาวบ้านไม่ใช่ทั้งกระบี่
ดาบ หรือแม้แต่หอกทวน มันเป็นเพียงแค่ท่อนไม้ยาวที่ถูกเหลาจนมีคมเท่านั้น
“ทุกคนลดอาวุธลงซะ!”
ชายร่างใหญ่ดูเข้มแข็งที่สุดพลันตะโกนสั่งการ จากนั้นจ้องไปทางยี่ฟงเขม็งและถามขึ้นตรง ๆ ว่า
“ท่านคือมิตรหรือศัตรู”
“หากข้าเป็นศัตรูป่านนี้หัวของพวกเจ้าคงได้หลุดจากบ่าไปนานแล้ว” ยี่ฟงตอบ
ชายหนุ่มไม่ต้องการเสียเวลาพิสูจน์ตัวเองจึงแสดงท่าทางให้ดูน่าหวั่นเกรงเข้าไว้
“จริงอย่างที่ท่านว่า เพียงเห็นรอยแผลบนศพทั้งสองนั่นข้าก็ทราบในทันทีว่าท่านไม่ธรรมดา”
“ท่านผู้นี้สัญญากับข้าแล้วว่าจะจัดการกองโจรภูเขาให้พวกเรา!”
ซวงหลานเหอที่เป็นอิสระรีบแทรกตัวออกมาพร้อมประกาศเสียงดังชัดเจน เหล่าชาวบ้านเบิกตากว้างพากันทิ้งอาวุธลงพื้นอย่างลืมตัว แม้แต่ชายร่างใหญ่เองแววตายังสั่นไหวไม่มั่นคง
“นางพูดจริงรึ!?”
ยี่ฟงสบจ้องกลับไปที่ชายร่างใหญ่ รอยยิ้มมั่นใจพลันเฉิดฉายสร้างความหวังให้แก่ชาวบ้าน
“แน่นอน
ข้าให้สัญญากับหลานเหอไว้เช่นนั้นจริง”
เมื่อได้รับการยืนยันอีกครั้งโดยตรงจากยี่ฟง ชายร่างใหญ่ก็ทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านข้างหลังก็พากันทำตามโดยแทบไม่ต้องเสียเวลาคิด ตามติดมาด้วยเสียงเทิดทูนสรรเสริญราวกับยี่ฟงเป็นเทพเจ้าเสียอย่างนั้น
‘ไอ้พวกปากพล่อยสัญญาส่ง ๆ ไปคงได้มีสะอึกละอายใจกันบ้างล่ะวะ’
ยี่ฟงคิดในใจ เขาเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าชาวบ้านจะตอบสนองกลับมาในลักษณะนี้ แต่ด้วยความอ่อนล้าจากการฟาร์มมาทั้งวันยี่ฟงจึงไม่คิดเอ่ยปากขัดศรัทธาให้มากเรื่องไปกว่านี้อีก
ทางด้านกลุ่มของเหนือฟ้าที่เลือกจะเดินตัดตรงเข้าสู่ใจกลางป่าล้วนแต่มีสภาพสะบักสะบอมด้วยกันทั้งสิ้น ยิ่งถลำลึกเข้าไปเท่าไรมอนสเตอร์ก็ยิ่งทวีเพิ่มจำนวนมากขึ้นเท่านั้น การปะทะจึงเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง หากเปรียบเทียบกับยี่ฟงแล้วพวกเขายังเดินทางช้ากว่าเป็นเท่าตัว
พอหยุดตั้งค่ายพัก มังกรเฒ่าก็ขอตัวไปนอนทันที ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่ชอบขี้หน้าคู่หูนรก
“น้องหยกทำไมถึงเข้าเป็นศิษย์วังอันดับห้าหรือ”
จอมทัพกระบี่ดำเอ่ยปากถาม เวลานี้นอกจากมังกรเฒ่าและเหนือฟ้าแล้วทุกคนก็มานั่งกันอยู่หน้ากองไฟ
“นั่นสิ
น้องมุกก็ด้วย”
ขุนพลทะเลเพลิงเสริมขึ้นมาราวกับเป็นเงาตามตัว
“เรามีคนรู้จักอยู่ที่วังฟีนิกซ์ค่ะ”
มุกทิวาตอบเนือย
ๆ คล้ายไม่ค่อยใส่ใจนัก หยกราตรีที่นั่งอยู่ข้างกันก็พยักหน้าสนับสนุนเงียบ
ๆ
“พี่ว่าวังอันดับสามหรือวังจักรพรรดิที่ยู่อันดับสี่ยังจะดูมีอนาคตมากกว่า”
หยกราตรีตวัดสายตาจ้องกลับไปอย่างไม่พอใจ จอมทัพกระบี่ดำจึงรีบโบกมือรัวเร็วพลางกล่าวอธิบายขึ้นว่า
“สามปีมานี้ในรายการทัวร์นาเม้นประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น 1vs1 5vs5 หรือแม้แต่ Survival war ก็ตาม วังฟีนิกซ์แทบไม่ได้เลยสักแชมป์ โดยเฉพาะรายการที่จำกัดไว้สำหรับเพลเยอร์หน้าใหม่ก็ยังพลาดอีกเหมือนกัน เห็นมีข่าววงในหลุดมาว่า สิ้นปีนี้ถ้าวังฟีนิกซ์เยือกแข็งนิรันดร์ยังพลาดแชมป์ในลีกหน้าใหม่อยู่แบบเดิมก็จะถูกถอดสปอนเซอร์อีกต่างหาก”
รายการทัวร์นาเม้นของเกมลำนำจ้าวยุทธจักรถูกแบ่งออกเป็น ลีกสำหรับเพลเยอร์หน้าใหม่ และลีกสำหรับโปรเพลเยอร์ แต่สำหรับ Survival war นั้นไม่ว่าจะเป็นเพลเยอร์หน้าใหม่หรือโปรเพลเยอร์ก็สามารถเข้าร่วมได้อย่างไม่จำกัด
“แม้จะเป็นกิลด์ใหญ่แต่ก็ร่อแร่เต็มทีในวงการอีสปอร์ตสินะ ฮ่า ฮ่า”
ขุนพลทะเลเพลิงกล่าวทิ้งท้ายและหัวเราะขบขัน
“เรื่องนี้มุกก็รู้ค่ะ แต่เราสองคนไม่ได้ต้องการจะไปแข่งขันอะไรกับใครเขา แค่เล่นเกมให้สนุกกับเพื่อน ๆ ก็พอ”
“อีกอย่างพวกพี่เข้าใจผิดไปนะคะ ถ้าวังฟีนิกซ์ยังเป็นกิลด์อันดับห้าอยู่แม้จะไม่ได้แชมป์เลยแต่พวกเขาก็สามารถมีลำดับในการแข่งขันสูงไม่น้อยหน้าหรือต้องอายใครด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องสปอนเซอร์เดี๋ยวก็มีผ่านเข้ามาเองแหละค่ะ”
หยกราตรีเอ่ยปากชัดเจนฉะฉาน แสดงให้เห็นว่าวังฟีนิกซ์เยือกแข็งนิรันดร์ไม่ได้ย่ำแย่อะไรนัก กลายเป็นว่าคู่หูนรกพากันใบ้แดกได้แต่มองหน้ากันไปมาอย่างอับจนหนทางในการชักจูงสองสาว
กระทั่งเหนือฟ้าตรวจสอบความปลอดภัยรอบบริเวณเสร็จและเดินกลับเข้ามาในวงสนทนา พอเห็นว่าทุกคนพากันเงียบ เหนือฟ้าจึงกล่าวขึ้นว่า
“แยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เราอาจต้องเจอหนักกว่าที่ผ่านมาก็ได้”
“จ้ะ
ฉันกับยัยมุกก็กำลังจะไปนอนพอดี”
หยกราตรีเงยหน้าตอบด้วยท่าทางอ่อนล้า
ความจริงแล้วทุกคนเองก็ไม่ต่างกัน พอเหนือฟ้ากลับมาจึงพากันแยกย้ายแทบจะทันที แต่ความสงบเงียบคงอยู่ได้ไม่นานนักเมื่อปรากฏเงาร่างของมนุษย์โผล่ขึ้นมาตามพุ่มไม้เต็มไปหมด พวกมันส่งสัญญาณตีวงโอบล้อมและเคลื่อนกายเข้าใกล้เต็นท์ที่พักอย่างช้า
ๆ โดยมีเสียงแตกหักของกิ่งไม้ในกองไฟคอยกลบเกลื่อน
“ลงมือ!!”
หนึ่งในพวกมันเอ่ยปากสั่งการ คนที่อยู่ใกล้สุดจึงพุ่งเข้าไปใช้อาวุธฉีกกระชากเต็นท์โดยไม่มีออมมือ จากนั้นผู้ลอบโจมตีก็พากันโห่ร้องสร้างแรงกดดันให้กลุ่มของเหนือฟ้าแตกตื่นตระหนกรีบคลานกันออกมา แต่คมอาวุธมากมายก็จ่อไปที่พวกเขาทุกทิศทางโดยไม่ให้โอกาสได้ตอบโต้แม้แต่กระบวนท่าเดียว
“ไอ้เวรเอ๊ย!
เต็นท์ฉันราคาแพงนะโว้ย”
จอมทัพกระบี่ดำลุกขึ้นโวยวายโดยไม่แสดงความหวั่นวิตกสักนิดเดียว ร่างกายสูงใหญ่ปัดกระแทกคมอาวุธออกไปโดยไม่ถูกบาดได้อย่างไม่น่าเชื่อ คู่หูขุนพลทะเลเพลิงของมันก็เช่นเดียวกัน
“ฉันบอกพวกมันไปแล้วนะ แต่ทำไงได้เอไอพวกนี้แม่งโง่นี่หว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เสียงห้าวของชายผู้มีใบหน้าเรียวแหลมดังขึ้น เหนือฟ้าและเพื่อน ๆ จึงตวัดสายตาไปตามเสียงจนต้องเงยหน้ามองสูงขึ้นไปบนกิ่งไม้ จากนั้นพวกเขาก็ต้องเบิกตากว้างท่าทางหวั่นเกรงเพราะอีกฝ่ายพลันทะยานร่างลงมารวดเดียวด้วยวิชาตัวเบา!
“ยอดฝีมือ!!”
มังกรเฒ่ากลืนน้ำลายฝืดคอทันที แม้จะทราบมาก่อนแล้วว่าเรื่องราวต้องไม่ธรรมดาแต่ถึงขนาดมียอดฝีมือโผล่ออกมาเช่นนี้ก็นับว่างานหยาบเลยทีเดียว
“ไอ้หอกหัก
แกต้องชดใช้ค่าเต็นท์ของฉันนะโว้ยเพื่อน”
จอมทัพกระบี่ดำก้าวผ่านผู้คนที่โอบล้อมอยู่เข้าไปได้อย่างราบรื่น เหนือฟ้า มุกทิวา และหยกราตรีล้วนมีสีหน้าเอาเรื่อง ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาอธิบายเรื่องราวพวกเขาก็ทราบได้เองโดยสัญชาตญาณว่าถูกทรยศหักหลัง
“นิสัยเวรตะไลแบบนี้ที่แท้ก็เป็นคนของวังจักรพรรดินี่เอง”
เหนือฟ้าแซะด่าคู่หูนรกอย่างอดไม่ได้
“ไอ้นี่มันปากดีจังวะ”
ชายที่ชื่อหอกหักกล่าวถามยิ้ม
ๆ ส่งให้จอมทัพกระบี่ดำเงยหน้าหัวเราะชอบใจก่อนจะกล่าวขึ้นมาบ้างว่า
“อย่าไปถือสา
มันก็เพื่อนร่วมทางฉันเอง
เดี๋ยวทักทายให้ดู”
จอมทัพกระบี่ดำเดินกลับไปหาเหนือฟ้า
จากนั้นหวดฝ่าเท้าเตะอัดเข้าไปที่ใบหน้าอีกฝ่ายสุดแรง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า
สุดยอดว่ะ
แกทักทายเพื่อนร่วมทางแบบนี้เรอะจอมทัพ
โอ๊ยฮาว่ะ!”
หอกหักกุมท้องหัวเราะแสดงให้เห็นว่ามันฮามากจริง
ๆ
“แกอย่ามาทักทายฉันแบบนี้ก็แล้วกันไอ้เวร
ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ขุนพลทะเลเพลิงชิงกล่าวดักเพื่อนชั่วของมันไว้ก่อนด้วยรอยยิ้มชอบใจอยู่ไม่น้อย
“ฉันก็คิดว่าพวกแกสองตัวแค่ปากเสีย แต่นี่มันนิสัยใฝ่ต่ำฝังอยู่ในสันดานแล้วไอ้ยักษ์โง่!”
หยกราตรีทนไม่ไหวด่ากราดออกไปบ้าง ผิดกับมุกทิวาที่ค่อนข้างอ่อนไหวจึงทำได้เพียงก้มหน้าเท่านั้น
“ใจเย็น ๆ ก่อนพวก งานต้องมาเป็นลำดับแรก ยังมีเวลาให้พวกแกทะเลาะกันอีกเยอะ”
หอกหักเห็นว่ามันจะยาวถ้าปล่อยไว้จึงต้องออกหน้าห้ามทัพอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก จากนั้นมันกวาดสายตาส่งสัญญาณมือง่าย ๆ
ให้เหล่าเอไอทั้งหมดจับกุมเหนือฟ้าและพรรคพวกกลับไป
“หอกหัก
เราจะเดินทางตอนกลางคืนจริงหรือ”
จอมทัพกระบี่ดำถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจ
“ไม่ต้องกลัวไป
ไอ้พวกเอไอโจรภูเขามันมีดอกไม้ประหลาดไว้คอยป้องกันมอนสเตอร์ได้ระดับหนึ่ง”
หอกหักตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“เสร็จงานนี้พวกเราจะได้รางวัลมากขนาดไหนวะเพื่อน”
ขุนพลทะเลเพลิงถามขึ้นมาบ้างด้วยแววตาโลภสุด
ๆ
“พอจะให้พวกแกสองคนยกระดับเลเวลตามฉันทันได้ง่าย ๆ
เชียวล่ะ หึหึ”
“ตามแกที่เลเวล 32 ทันเนี่ยนะ
จริงดิ!?”
คู่หูนรกอุทานออกมาแทบจะพร้อมกัน ส่วนหอกหักเลียริมฝีปากดูโรคจิตหน่อย ๆ พอมันเห็นว่าโจรภูเขานำเชลยออกไปไกลระยะหนึ่งแล้วจึงค่อยตอบกลับไปว่า
“งานนี้พวกเรายังต้องตลบหลังไอ้พวกโจรภูเขาหน้าโง่อีกทอดหนึ่งด้วย ไม่ใช่แค่พวกแกจะไล่ตามฉันทันเท่านั้นแต่ยังมีไอเทมคลาสสูง ๆ รออยู่อีกเพียบ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ความคิดเห็น