ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #3 : เข้าใจผิด

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 38.16K
      1.66K
      6 ม.ค. 61

    ยี่ฟงมุ่ยหน้าไม่พอใจ        เพราะหากเขาเริ่มต้นด้วยเลเวลหนึ่งล่ะก็คงได้ถูกอีกฝ่ายซัดกลิ้งไปกับพื้นอย่างไม่ต้องสงสัย

    เราตอบสนองได้ไวขึ้นจริง ๆ แฮะ        สมแล้วที่ทางเกมโฆษนาเกี่ยวกับระบบเพิ่มความถี่คลื่นสมองเอาไว้ขณะออนไลน์  รู้สึกตัวเองได้เป็นยอดฝีมือขึ้นมาจริง ๆ เลย  สุดยอดโคตร

    ชายหนุ่มคิดในใจก่อนเพิ่งตระหนักว่าเหตุการณ์เมื่อครู่มีเหล่าเพลเยอร์ภายในอาคารเฝ้ามองอยู่ด้วย

    ฉิบหาย!  ดันแสดงอภินิหารออกไปซะได้  อ๊ากกก   สภาพตรูถ้าบอกเป็นยาจกให้ร้อยคนฟังก็คงไม่มีใครปฏิเสธแน่ ๆ

    ยี่ฟงไม่อยากรั้งอยู่ที่นี่นานนักเนื่องจากอับอาย       ในช่วงที่คนอื่น ๆ ยังตะลึงไม่หาย          เขาจึงเร่งกล่าวกับตาลุงมู่เฟิงขึ้นว่า

    จัดภารกิจมาให้ฉันด่วนเลยลุง  อะไรก็ได้!

    นับถือ นับถือ  สมแล้วที่ท่านเป็นถึงยอดฝีมือ  ถ้าเช่นนั้น

    ยี่ฟงกุมขมับก่อนจะทำได้เพียงแยกเขี้ยวใส่ตาลุงมู่เฟิง

    นี่ขอรับ!  ภารกิจของท่าน  มู่เฟิงกล่าวพร้อมหยิบยื่นม้วนกระดาษมาให้

    แน่นอนว่าชายหนุ่มคว้ามันมาอย่างไม่ไตร่ตรองใด ๆ ทั้งสิ้น   ก่อนจะเร่งฝีเท้าเพื่อออกไปจากอาคารนักผจญภัยแทบจะทันที  แต่ระหว่างก้าวไปได้ครึ่งทางเหล่าเพลเยอร์ก็เริ่มจะดึงสติกลับมากันได้แล้ว

    เขาเป็นยอดฝีมือ!?

    ใช่เหรอ  ดูชุดเขาสิวะ

    ไอ้โง่  ยอดยุทธ์ขอทานไงเล่า!

    ไม่เห็นมีไม้ตีหมาเลยวะ

    ความคิดเห็นจากชาวยุทธ์ถาโถมเข้าใส่  ยี่ฟงถึงกับใบหน้าแดงก่ำร้องตะโกนขึ้นว่า  ฉันไม่ใช่ขอทานโว้ย!!

    หลังจากประกาศเสียงดังลั่น  ชายหนุ่มก็ออกตัววิ่ง  ทว่าเพียงดีดเท้าครั้งเดียวร่างกลับทะยานไกลเทียบเท่าการเดินห้าก้าว!  พริบตาเขาก็พ้นออกไปด้านนอกได้สำเร็จ  ก่อนจะเนียนหายไปกับฝูงชน

    วิชาตัวเบา!

    ชัดเจนแล้ว  เขาคือยอดฝีมือ

    ในเขตเมืองจงหยางเนี่ยนะ

     

    เมื่อหนีออกมาได้แล้วยี่ฟงจึงมุ่งหน้าไปยังทางออกของเมืองทันที            ระหว่างทางเสื้อผ้าของเขาก็ได้รับการซ่อมแซมจนคืนสภาพดีดังเดิมในที่สุด  ส่วนเรื่องวิชาตัวเบายี่ฟงทราบอยู่ก่อนแล้ว         สำหรับเพลเยอร์ที่มีเลเวล 30  พวกเขาจะได้รับการปลดล็อควิชาตัวเบาขั้นพื้นฐาน  ยิ่งถ้าใครได้เรียนรู้คัมภีร์วิชายุทธ์ในด้านนี้เพิ่มเติม  ก็จะช่วยส่งเสริมความสามารถของวิชาตัวเบายิ่งขึ้นไปอีก

    กระทั่งชายหนุ่มคลี่ม้วนภารกิจออกเพื่อตรวจสอบเป้าหมายของตัวเอง

    คำร้องขอจากหลันอี้  ใครวะ

    ยี่ฟงเบรกเท้าจนแทบหัวทิ่ม      เนื่องจากเนื้อหาด้านในบอกให้เขาต้องไปพบกับหลันอี้เสียก่อน       ภารกิจจึงจะสามารถดำเนินต่อไปได้

    ใช่!  เนื้อหามันมีแค่นั้นจริง ๆ และไม่ได้ระบุข้อมูลที่อยู่­ของหลันอี้มาให้แม้แต่ตัวอักษรเดียว

    เอาวะ  อย่างน้อยก็จะได้ชมเมืองไปด้วย

    ยี่ฟงไม่พูดเปล่า แต่ออกเดินอีกครั้งตรงไปยังร้านขายน้ำยาเพิ่มเลือดเป็นที่แรก  เป้าหมายคือการรวบรวมข้อมูล

    ป้า!  รู้จักหลันอี้หรือเปล่า  เขาอาศัยอยู่ตรงไหนในจงหยางกัน  ชายหนุ่มกล่าวถามเข้าเรื่องทันที

    หยาบคายเสียจริง!  หลันอี้นางเป็นสตรีทั้งยังอาวุโสกว่าเจ้ามากมายนัก  ไปซะ  ข้าไม่บอกอะไรแก่เจ้าหรอก

    ยี่ฟงใบหน้าชาไปชั่วครู่  เป็นอีกครั้งที่เขาไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้โดนเอไอขับไล่เนี่ยนะ!?

    ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกจึงเดินออกไปด้วยอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก        แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ด้วยการเข้าไปถามเรื่องราวจากร้านอาหารที่ตั้งอยู่ข้างกันอย่างต่อเนื่อง

    เถ้าแก่  หลันอี้นางอาศัยอยู่ในจงหยางแห่งนี้หรือเปล่า”  รอบนี้ยี่ฟงค่อนข้างระวังคำพูดของตัวเอง

    ใช่  ผู้อาวุโสปักหลักอยู่ที่จงหยางนี่เอง

    ยี่ฟงเผยยิ้มก่อนจะถามต่อว่า  งั้นนางอยู่ตรงไหนกัน

    หุบปาก!    เถ้าแก่ร้านอาหารคำราม    ครั้งแรกข้ายังพอปล่อยผ่าน  แต่ดูเหมือนเจ้าจะไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสแม้แต่น้อย  ไสหัวไปซะ!

    ชายหนุ่มอ้าปากหวอ  ได้แต่มองตามหลังของอีกฝ่ายที่เดินจากไปจนลับตา

    นี่ฉันต้องสวมบทเนียนไปกับตัวละครเอไอในยุทธภพนี้ด้วยสินะ  ยี่ฟงคิดในใจ

    ก็ได้วะ

    เมื่อตัดสินใจแล้วยี่ฟงจึงเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง        รอบนี้เขาเลือกเดินไปยังร้านขายอาวุธที่ห่างออกไปหนึ่งช่วงตึก  ภายในเต็มไปด้วยศัสตราหลายประเภท  ยี่ฟงกวาดมองไปทั่วจนพบชายแก่ผู้หนึ่ง

    เถ้าแก่  รู้จักผู้อาวุโสนามว่าหลันอี้หรือไม่

    ชายหนุ่มเดินเข้าไปถาม  เรียกสายตาของอีกฝ่ายให้สบจ้องมาได้ในที่สุด

    ผู้อาวุโสหลันอี้!?  แน่นอนข้ารู้จัก”  ชายแก่ตอบเสียงเนิบ

    โอ้  ท่านช่างกว้างขวางนัก  หากไม่รบกวนจนเกินไปช่วยชี้ทางให้ข้าได้หรือไม่ว่าผู้อาวุโสหลันอี้อาศัยอยู่ที่ใด

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า  ข้าเองก็จะไปหานางอยู่พอดี  จะไปด้วยกันก็ได้แต่รอข้าแปปหนึ่งแล้วกัน

    ชายแก่ตอบด้วยท่าทางขบขัน

    ในขณะที่ยี่ฟงชะงักค้าง  ดูเหมือนเขาจะเข้าใจบางอย่างผิดไป  และไม่นานสิ่งที่ยี่ฟงคิดก็เกิดขึ้น

    ขออภัยที่ให้รอ  นี่ขอรับรางวัลของท่าน

    ชายร่างท้วมวิ่งออกมาจากหลังร้านพร้อมยื่นกระบี่เล่มหนึ่งให้ชายแก่ตรงหน้าอย่างนอบน้อม

    ไม่เป็นไรเถ้าแก่  ข้าไม่เร่งรีบอยู่แล้ว  เมื่อชายแก่รับกระบี่มาแล้วจึงค่อยหันมาสนใจยี่ฟงอีกครั้ง  ไอ้หนุ่ม  เอ็งคงรับภารกิจของหลันอี้มาเหมือนกันสินะ

    ยี่ฟงรู้ตัวแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นเพลเยอร์ไม่ใช่เอไอ   แม้จะหน้าแตกและรู้สึกเขินแต่เขาก็ตีเนียนรักษาสีหน้าได้อย่างดีเยี่ยม

    ใช่แล้วลุงแต่ในภารกิจไม่ได้ระบุอะไรไว้ให้เลยนอกจากต้องไปพบหลันอี้

    อ้าว  เอ็งไม่เรียกผู้อาวุโสหลันอี้แล้วหรือวะ  ฮ่า ฮ่า ฮ่า

    ชายแก่ถามจี้ด้วยน้ำเสียงล้อเลียนทั้งยังเงยหน้าหัวเราะลั่น

    โอ๊ย!  พอแล้วลุง  ถ้าไม่ใช่เถ้าแก่ร้านก็หัดบอกกันเร็ว ๆ กว่านี้ไม่ได้เรอะ       นี่ฉันโดนไล่ตะเพิดมาหลายที่แล้วเพราะไม่แสดงความเคารพต่อหลันอี้เนี่ย

    ชายแก่คล้ายกับเข้าใจในสิ่งที่ยี่ฟงอธิบาย  แต่ก็อดที่จะขำออกมาไม่ได้

    เออ เออ  แต่ถึงจะเห็นเด็กใหม่แบบเอ็งมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วข้าก็ยังตลกทุกทีเลยว่ะ      ชายแก่เห็นสีหน้าบึ้งตึงของชายหนุ่มแล้วจึงยื่นฝ่ามือไปตบบ่า  ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องด้วยการแนะนำตัวเองขึ้นว่า  ข้ามังกรเฒ่า  เราเดินไปคุยไปก็แล้วกัน

    ชายหนุ่มพ่นลมหายใจก่อนจะตอบกลับไปว่า

    ฉันยี่ฟง  ลุงอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครให้ฉันต้องขายขี้หน้าไปมากกว่านี้ล่ะ

    มังกรเฒ่าพยักหน้ายิ้ม ๆ พลางลูบเครายาวของตัวเอง   หลังจากนั้นคนทั้งสองจึงพากันเดินออกไปจากร้านขายอาวุธ  แน่นอนว่ามังกรเฒ่าเป็นผู้นำทางได้อย่างชำนาญ    พริบตาเขาก็พายี่ฟงเดินออกจากจัตุรัสของเมืองตรงไปยังเส้นทางโล่งเส้นหนึ่ง

    ว่าแต่เอ็งไปรับภารกิจจากมู่เฟิงมาได้ยังไงวะ”  มังกรเฒ่าเอ่ยถามด้วยความสงสัย

    โธ่!  ลุงกำลังดูถูกยอดฝีมืออย่างฉัน

    สารรูปอย่างเอ็งเนี่ยนะเป็นยอดฝีมือ!?  งั้นข้าก็เทพยุทธ์แล้วโว้ย

    มังกรเฒ่าเกทับด้วยสีหน้าขบขัน  ไม่ว่าจะดูอย่างไรยี่ฟงก็ไม่ต่างจากเพลเยอร์หน้าใหม่ทั่วไปตรงไหน

    ไหนอาวุธของเอ็ง  เสื้อผ้าก็มือใหม่ชัด ๆ  แต่เอาเถอะ  ในเมื่อมู่เฟิงยอมรับก็แสดงว่าเอ็งพอจะมีดีอยู่บ้าง

    ได้ฟังคำจากชายแก่แล้ว  ยี่ฟงแทบไม่อาจเถียงอะไรได้  ในตัวเขาตอนนี้นอกจากเสื้อผ้ากาก ๆ ของเพลเยอร์เริ่มต้นแล้วก็ไม่มีอะไรติดตัวอยู่เลย        ด้วยเหตุนี้ช่วงแรกของเกมจึงเป็นความยากลำบากที่เหล่าเพลเยอร์หน้าใหม่ต้องดิ้นรนกันเอาเอง

    แต่คงไม่สามารถนับรวมยี่ฟงเข้าไปด้วยได้อย่างชาวบ้านเขา

    มังกรเฒ่าเดินนำออกมาไกลจากจัตุรัสของเมืองพอสมควร   กระทั่งสายตาของคนทั้งสองมองเห็นบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่าอยู่หลังเดียวในบริเวณนั้น  รอบข้างปรากฏสวนดอกไม้หลากสีสันชวนผ่อนคลาย   จุดหนึ่งมีบ่อปลาอยู่อีกด้วย

    ถึงแล้ว  หลันอี้นางอาศัยอยู่ที่นี่แหละ

    ฟังจากน้ำเสียงอีกฝ่าย  ยี่ฟงก็พอจะทราบว่ามังกรเฒ่าคงแวะเวียนมาที่นี่อยู่บ่อยครั้ง

    ไม่ต้องมองข้ายังงั้น  ความจริงแล้วข้าก็ช่วยรับภารกิจของนางมาทำอยู่บ่อย ๆ  เพียงแต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป

    ต่างยังไง”  ยี่ฟงถาม

    ภารกิจส่วนใหญ่ของหลันอี้ไม่ยากอะไร  รางวัลก็เลยต่ำไปด้วยจึงไม่ค่อยมีใครอยากจะทำกัน  แต่มีภารกิจหนึ่งที่ค่อนข้างยากลำบากทีเดียว

    ไอ้ม้วนกระดาษที่ระบุแค่ว่าให้มาพบหลันอี้สินะ”  ยี่ฟงเอ่ยอย่างมั่นใจ

    ใช่  แรก ๆ ก็มีคนสนใจอยู่หรอก  แต่พอรู้ว่ารางวัลที่ได้ไม่คุ้มค่ากับความลำบาก   สุดท้ายภารกิจของนางก็เลยค้างคาอยู่แบบนี้มาหลายปีแล้ว

    ยี่ฟงขมวดคิ้วสงสัย  แต่เหมือนว่ามังกรเฒ่าจะอ่านใจได้ถึงกล่าวขึ้นมาก่อนว่า

    ตามข้ามา  เดี๋ยวนางจะเป็นผู้อธิบายรายละเอียดให้พวกเราฟังเอง

    ชายหนุ่มเพียงพยักหน้าตอบรับก่อนจะก้าวตามมังกรเฒ่าไป

    หลันอี้  ข้าเอง  ชายแก่กล่าวอย่างสนิทสนมเมื่อมายืนอยู่หน้าประตูบ้าน

    มังกรเฒ่ารึ  ข้าอยู่ที่สวนหลังบ้าน

    เสียงของสตรีที่สมควรอยู่ในวัยเดียวกับชายแก่ข้าง ๆ ยี่ฟงดังขึ้น     คนทั้งสองจึงมองหน้ากันครู่หนึ่งก่อนจะเป็นมังกรเฒ่าที่ก้าวนำออกไปอีกครั้ง  ไม่นานพวกเขาก็อ้อมตัวบ้านจนมาถึงด้านหลังที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้

    นางคือหลันอี้!?

    ยี่ฟงอุทานออกมาเมื่อสายตาของเขาสะท้อนภาพของหญิงชราซึ่งนั่งอยู่บนวีลแชร์  เส้นผมยาวสีเทาของนางถูกรวบเอาไว้  ใบหน้าเหี่ยวย่นตามวัยกำลังแสดงออกถึงความประหลาดใจเมื่อพบเห็นชายหนุ่มแปลกหน้า

    ข้าพาไอ้หนุ่มนี่มาด้วย  เพราะเห็นว่ามันรับภารกิจของเจ้ามาอย่างไรล่ะ”  มังกรเฒ่าบอกกล่าว

    หลันอี้เผยยิ้มอ่อนโยน  จากสายตาของยี่ฟงแล้วแม้นางจะแก่ชราทว่ายังคงดูสง่างามได้อย่างน่าประหลาด

    ขอบใจมากนะจ๊ะ  เธอคงกำลังสงสัยเกี่ยวกับรายละเอียดของภารกิจอยู่สินะ

    เป็นอีกครั้งที่ยี่ฟงต้องอึ้ง  เขารีบหันไปถามมังกรเฒ่าทันทีว่า  เธอไม่ใช่เอไอหรือ

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า  อย่าเพิ่งตกใจไป  จริง ๆ แล้วนางก็เป็นเอไอนั่นล่ะ  แต่หลันอี้พิเศษกว่าตรงที่นางสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้

    คำตอบของมังกรเฒ่าเล่นเอายี่ฟงเบิ่งตากว้าง  แสดงว่าการที่หลันอี้ใช้คำในการสนทนาเมื่อครู่นี้ได้อย่างกับเป็นคนจริง ๆ ก็เพราะนางเรียนรู้มาจากเพลเยอร์งั้นหรือ!?

    ดูมันซับซ้อนเหลือเกินนะครับ  เอาเป็นว่าขอข้ามเรื่องนี้ไปแล้วกัน  เรามาว่ากันเรื่องภารกิจดีกว่า

    ยี่ฟงกล่าวด้วยรอยยิ้มแห้ง  กระทั่งเขาถูกหัวเราะจากคนแก่ทั้งสอง

    ถ้าเช่นนั้นเชิญนั่งก่อนเถิด  รายละเอียดภารกิจมันค่อนข้างจะหนักหนาพอสมควร

    หลันอี้เอ่ยพร้อมผายมือเชื้อเชิญคนทั้งสองไปยังเก้าอี้ไม้ด้านหนึ่งด้วยรอยยิ้ม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×