คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #44 : จบการสอบครึ่งแรก
สาวสวยที่ตกเป็นเป้าสายตาของเหล่าชายหนุ่มมาสักพักใหญ่รู้สึกผ่อนคลายลงไปบ้าง เธอเหล่มองนายวาดเล็กน้อยอย่างแปลกใจเหมือน ๆ
คนอื่น
“ผู้ชายหล่อ ๆ
ชอบทำอะไรเกินตัวแบบนี้ทุกคนหรือไงนะ
ไม่เห็นเท่ตรงไหนเลย”
ดาวเอ่ยเสียงเบา แต่ชั่วครู่เดียวเธอก็เลิกให้ความสนใจและกลับมามุ่งมั่นกับข้อสอบตรงหน้าตัวเองแทน
วิชาเคมีเป็นวิทยาศาสตร์สาขาหนึ่งที่ศึกษาในเรื่องของสสาร โดยไม่เพียงแค่ศึกษาเฉพาะในเรื่องของปฏิกิริยาเคมี แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบ โครงสร้าง และคุณสมบัติของสสารอีกด้วย การศึกษาทางด้านเคมีจะเน้นไปที่อะตอมและปฏิสัมพันธ์ระหว่างอะตอมกับอะตอม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมบัติพันธะเคมี
นับเป็นหนึ่งในหลายวิชาที่น่าปวดหัวยิ่ง แต่หากมีความจำหรือวิธีคำนวณที่ดีย่อมไม่ยากจนเกินไป หมายรวมถึงทุกวิชาเองก็ด้วย ตัวแปรนั้นคือสมองคนแตกต่างกันออกไป การจดจำอะไรหลายสิ่งคล้ายเป็นการทำให้ความทรงจำเก่าเลือนราง ทุกคนจึงมีขีดจำกัดในด้านความทรงจำที่ยากจะก้าวข้าม ทว่าสำหรับวาดแล้วเขาคืออัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะอีกทีหนึ่ง เป็นผลมาจากการเลี้ยงดูช่วงวัยเด็ก ของเล่นที่วาดจับต้องได้ในยามนั้นหากไม่ใช่อุปกรณ์เทคโนโลยีสลับซับซ้อนก็เป็นการนั่งดูวิธีสร้างปฏิกิริยาเคมีแทนการดูทีวี วัยเด็กของเขามีหลายช่วงที่ถูกฝากเลี้ยงไว้กับเพื่อนของพ่อแม่ ทั้งนักเคมี นักธุรกิจ นักชีววิทยา และอื่น ๆ แทบทุกด้าน
แต่ส่วนมากแล้ววาดจะถูกฝากไว้กับนักเคมี
เพราะวาทินกับดาราไม่อยากได้พี่เลี้ยงรับจ้างแปลกหน้าเท่าไรนัก ผลลัพธ์จึงออกมาเช่นนี้
แม้ชายหนุ่มจะต้องเทียวไปเทียวมาอยู่หลายที่เขาก็ไม่เคยขาดการดูแลและความรักที่ดี เพื่อน ๆ ของพ่อแม่นั้นนอกจากไม่ลำบากที่จะรับฝากเขาไว้แล้วยังแทบจะแย่งชิงหน้าที่นี้กันด้วยซ้ำ…
การทำข้อสอบทุกวิชาภายใต้กำหนดเวลามาตรฐานก็เต็มไปด้วยแรงกดดันอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องสงสัยเมื่อวาดเริ่มต้นสอบวิชาเคมีทั้งที่เวลาเหลือไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพียงทราบถึงข้อจำกัดที่ว่า คนอื่น ๆ รอบข้างล้วนส่ายศีรษะเวทนาสงสาร บางส่วนรู้สึกหมั่นไส้และรอโอกาสถ่มถุยซ้ำเติม
กลับกัน นายวาดเริ่มสรุปสูตรของแต่ละบทตามด้วยแยกตัวแปรของแต่ละสูตรออกมาให้ชัดเจน
เขาแม่นเรื่องปริมาณสารสัมพันธ์อยู่แล้ว เพียงเข้าใจโจทย์วาดก็ประมวลผลและตอบทันที ทั้งทำโจทย์ขึ้นมาเองก็แสดงถึงความชำนาญเฉพาะตัวบุคคลให้เห็นเด่นชัดยิ่งกว่า
โจทย์ให้สูตรโมเลกุลมาแต่ไม่ให้โครงสร้าง
โจทย์บรรยายปฏิกิริยาเคมีเป็นคำพูดถามหาไอโซเมอร์ทั้งหมด
(Isomer)
หากเปรียบเทียบโจทย์คำถามเคมีเป็นทัพศัตรู วาดก็เปรียบได้กับป้อมปราการที่ไม่มีทางถูกตีแตก
ตั้งแต่นั่งลงที่โต๊ะจวบกระทั่งผ่านไปยี่สิบนาทีเศษ นายวาดก็ลุกขึ้นยืนเป็นคนแรก…อีกครั้ง
ผู้คุมสอบที่สามารถตรวจเช็คความคืบหน้าของผู้เข้าสอบได้ทุกคนบัดนี้อ้าปากค้าง ตาลอยคล้ายยังจับต้นชนปลายไม่ถูก เธอตามติดดูชายหนุ่มผู้ไม่รู้จักมารยาทมาแต่ต้นเพื่อรอคอยโอกาสโจมตีสั่งสอนให้รู้ความ แต่ผลลัพธ์ดันสลับพลิกกลับตาลปัตรเพราะผู้คุมสอบสาวมัวแต่จมไปกับความเร็วในการทำข้อสอบของนายวาด
เธอยืนยันได้เลยว่านี่เป็นการทำข้อสอบเคมีที่รวดเร็วมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน!
ท่าทางเหวอของผู้คุมสอบส่งผลเป็นวงกว้างสู่เหล่าผู้เข้าสอบคนอื่น
ๆ ด้วยเช่นกัน หลายคนที่รอดูวาดหน้าแหกจำต้องมึนงงสับสน จนวาดก้าวออกจากห้องสอบไปแล้วก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดจากผู้คุมสอบสาวนอกจากคำอุทานเสียงสั่นที่แว่วดังกระทบโสต
“นี่มัน…เก่งยิ่งกว่าคนที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะอีกไม่ใช่หรือไง!?”
ส่วนหนึ่งรวบรวมสมาธิลุยข้อสอบต่อไปได้ ทว่าบางส่วนกลับตบะแตกเผลอดูถูกตัวเองจนไม่มีความมั่นใจพอที่จะทำข้อสอบ
“เป็นไปได้ยังไง
สอบเคมีในยี่สิบนาทีเนี่ยนะ โธ่!
ฉันคงแพ้พนันแน่ ๆ ดันมาเจออัจฉริยะแบบนี้”
ดาวรำพึงเสียงอ่อน เธอทบทวนมาเต็มที่และยังพนันกับเพื่อนสาวเอาไว้ด้วยว่าหากไม่ได้อันดับหนึ่งวิชาเคมีก็จะยอมเลี้ยงมื้อเย็น จากเหตุการณ์เมื่อครู่แล้วความหวังของเธอจึงดูริบหรี่เหลือเกิน
บริเวณทางเดิน
วาดเหลือบมองนาฬิกาเรือนยักษ์ประจำสถาบันการศึกษานานาชาติ ใกล้เที่ยงวันเข้าไปทุกทีเขาจึงฉวยโอกาสในช่วงที่คนอื่น ๆ
ยังไม่ออกจากห้องสอบตรงไปที่ศูนย์อาหาร ซึ่งก็เป็นไปตามคาดเพราะเวลานี้แทบจะว่างทุกโต๊ะวาดรีบดิ่งไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวและจัดมาถ้วยหนึ่งทานรองท้องฆ่าเวลาไปเรื่อยเปื่อย
แต่ครู่เดียวก็มีหญิงสาวหุ่นนางแบบ หน้าตาสวยเฉิดฉายก้าวเดินเข้ามายังศูนย์อาหารตามกัน พอเธอสังเกตเห็นชายหนุ่มจึงมีสีหน้าแปลกใจยิ่ง
‘มีคนทำข้อสอบเสร็จเร็วกว่าเราอีกงั้นเหรอ’
หญิงสาวคิดในใจ
ขณะที่นายวาด ยังคงโซ้ยเส้นก๋วยเตี๋ยวไปพลางอ่านข่าวสารเกี่ยวกับเกมลำนำจ้าวยุทธจักรไปพลางอยู่นั้น หญิงสาวก็เดินไปสั่งอาหารและวกกลับมานั่งร่วมโต๊ะด้วยโดยไม่ปริปากเอ่ยขอแต่อย่างใด
วาดเหลือบตามองอีกฝ่ายเล็กน้อยอย่างไม่ถือสา จากนั้นไล่ตามข่าวสารของตัวเองอยู่เงียบ ๆ
“คุณก็เล่นเกมนี้ด้วยเหมือนกันเหรอคะ”
หญิงสาวเอ่ยปากชวนสนทนาก่อนในที่สุด วาดคล้ายได้รับชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ
จึงยอมตอบกลับไปสั้น ๆ ที่ดูไม่ค่อยเป็นคำตอบเท่าไรนัก
“อย่างที่คุณเห็นแหละครับ”
หญิงสาวหรี่ตาแต่ยังคงเก็บซ่อนสีหน้าเอาไว้ได้ดี และเปลี่ยนไปถามข้อสงสัยอื่นแทน
“ว่าแต่คุณเพิ่งสอบวิชาอะไรมาคะถึงออกมาเร็วกว่าคนอื่นเขาแบบนี้ได้”
“คุณเองก็ไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย นอกจากผมก็มีคุณนี่ล่ะที่ตามหลังออกมาติด ๆ”
วาดเลี่ยงที่จะตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมาอีกครั้ง รวมกับหน้าตาแล้วจึงไม่แปลกหากคู่สนทนาจะรู้สึกเหมือนกำลังถูกกวนตีนอยู่
“ฉันฟ้าค่ะ
เพิ่งออกมาจากห้องสอบวิชาวิทยาศาสตร์”
หญิงสาวสีหน้านิ่ง และเป็นเธออีกครั้งที่ยอมแนะนำตัวเองคร่าว ๆ
ก่อน
“คุณจะจีบผมเหรอ”
จู่
ๆ วาดก็ยิงคำถามไร้สาระขึ้นมาเสียเฉย ๆ ส่งให้ฟ้าหยิบจานข้าวตัวเองพร้อมลุกหนีออกไปนั่งโต๊ะอื่นคล้ายเป็นการจบบทสนทนาของทั้งสองเรียบร้อยแล้ว
วาดเลิกคิ้วสงสัย เนื่องจากสังคมที่เขาเติบโตมาค่อนข้างจะพูดกันตรง
ๆ เพื่อนำไปสู่ความเข้าใจร่วม ซึ่งเมื่อครู่วาดก็ถามออกไปตามที่ตัวเองคิดอยู่จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะกวนตีนแต่อย่างใด
“อะไรของเธอกัน
จะมาก็มาจะไปก็ไม่มีบอกลากันสักคำ”
วาดบ่นเป็นนิสัย ก่อนจะกลับไปสนใจก๋วยเตี๋ยวและข้อมูลที่บุ๊กไทป์แสดงอยู่ตามเดิม
แม้ชายหนุ่มจะดูฉลาดและเก่งในหลาย
ๆ เรื่องก็จริงอยู่ แต่สำหรับมารยาทในการเข้าสังคมที่ต้องระวังเรื่องคำพูดคำจาแล้วเขายังอ่อนและต้องปรับปรุงแก้ไข
การพูดในสิ่งที่คิดออกไปตรง
ๆ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูบริบทและสถานการณ์ร่วมด้วย
วัยเด็กช่วงหลัง
ๆ มา วาดเลือกจะวุ่นวายอยู่แต่ในแลปของนักเคมี ทำให้มารยาทและการเข้าสังคมของเขาค่อนข้างประหลาดผิดเพี้ยนไปบ้าง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ผู้คนเริ่มทยอยกันออกมาจากห้องสอบ มีเวลาพักเที่ยงให้ประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนการสอบครึ่งหลังจะเริ่ม วาดที่กำลังนึกหาสถานที่เงียบ ๆ
พักผ่อนก็พลันมีชายวัยกลางคนเข้ามาเรียกตัว
“ไง
ไม่ได้เจอกันนานเชียวลูกวาด”
“ลุงสิน! มาได้ไงครับเนี่ย”
วาดอุทานพร้อมทั้งยกมือไหว้อีกฝ่ายอย่างเคารพ
สินทอง ไพพิบูล ผู้อำนวยการใหญ่ของสถาบันการศึกษานานาชาติ!
“เดี๋ยวค่อยคุยกันดีกว่านะ คนเริ่มเยอะจะวุ่นวายกันเปล่า ๆ ตามลุงมานี่มา”
ลุงสินเอ่ยด้วยรอยยิ้มและเดินนำชายหนุ่มออกไปยังเส้นทางด้านหลังตรงสู่ตึกเฉพาะส่วนบุคคล
ขณะเดียวกันกลุ่มสาว
ๆ ดาว หยก และมุกก็เพิ่งเดินมาถึงศูนย์อาหาร พวกเธอยังไม่ค่อยหิวจึงเลือกซื้อแค่น้ำมานั่งกินให้ชื่นใจ แน่นอนว่าพวกเธอสามารถสังเกตเห็นโต๊ะของฟ้ากับลิลลี่ได้โดยไม่ต้องลำบากมองหาให้เหนื่อย
“เป็นไงบ้างจ๊ะดูสีหน้าดาวกับหยกแล้วไม่ค่อยดีเลยนะ”
ลิลลี่เอ่ยถามขึ้น
“รอบนี้พวกหนูก็คงพลาดที่หนึ่งของวิชากันอีกแล้วค่ะ”
หยกระบายด้วยสีหน้าเสียดาย ทั้งเธอและเพื่อนทั้งสองต่างพยายามทบทวนกันมาเพื่อวันนี้
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
มุกหันไปถามอย่างสงสัยเช่นเดียวกันฟ้าและลิลลี่
“ในวิชาที่หนูกับยัยดาวเพิ่งเข้าไปสอบเมื่อกี้ดันมีอัจฉริยะร่วมด้วยน่ะสิคะ”
หยกอธิบาย จากนั้นดาวที่เงียบมาตลอดก็เสริมขึ้นว่า
“ใช่
มาเข้าสอบก็สายเกือบชั่วโมงแต่ดันทำข้อสอบเสร็จเป็นคนแรกแค่ในยี่สิบนาที!”
“โม้เปล่า
วิชาภาษาอังกฤษยังพอเชื่อได้แต่วิชาเคมีของเธอน่ะยัยดาว ขนาดอันดับหนึ่งของรุ่นยังต้องใช้เวลาตั้งห้าสิบนาทีเศษเกือบชั่วโมงถึงจะทำข้อสอบเสร็จเชียวนะ”
ลิลลี่กล่าวพลางหรี่ตาจ้องจับผิดยิ้ม
ๆ หวังให้น้องทั้งสองหลุดขำเฉลยออกมาว่าแกล้งอำกันเล่น ๆ
แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น
“จริงดิพี่ลี่
ดาวเอาหัวเป็นประกันเลย
ลองไปถามคนอื่นที่เข้าสอบวิชาเคมีพร้อมดาวดูก็ได้นะ”
“ส่วนภาษาอังกฤษของหนู
อีตาอัจฉริยะนั่นใช้เวลาทำแค่ครึ่งชั่วโมงเองค่ะ ฮือ ๆ”
หยกสนับสนุนพลางทำหน้าเศร้าและส่งเสียงเหมือนจะร้องไห้น่าเอ็นดู
มุก
ลิลลี่ และฟ้าดูจะอึ้งไปอยู่บ้าง
จากการตอบสนองของสองสาวแล้วไม่คล้ายเป็นการแกล้งอำเล่นอย่างที่คิด
กระทั่งเป็นฟ้าที่นึกถึงใบหน้ากวนตีนของชายคนหนึ่งที่เพิ่งพบเจอเมื่อครู่นี้ขึ้นมาได้ เธอขมวดคิ้วพลางทบทวนถึงเหล่าคนดังอัจฉริยะมากมายแต่ก็ไม่รู้สึกคุ้นหน้าของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
‘เขาเป็นใครกัน’
มีตรงไหนผิดพลาดสามารถแย้งหรือช่วยแก้ไขได้นะครับ
ความคิดเห็น