ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #109 : [AllFuri] Trip

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.58K
      42
      1 ส.ค. 58

    Title : Trip

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : All x Furihata

    Notes : ฟิคตามรีเควสของ #ปอเช่ เพน มาแล้วจ้า!!! หลังจากดองมานาน...

    (ปล.  นี่คือเซอร์วิสแต่งฟิคจากในเพจเรา เราเอามาลงนี่ด้วย)

    ................................................................

    Trip

     

    "เฮ้อ..." เสียงถอนหายใจยาวๆ ดังออกมาจากปากเด็กหนุ่มผมฟ้าที่แสนจืดจางจนดูแล้วถ้าละสายตาจากเจ้าตัวเพียงเสี้ยววินาทีก็สามารถหายไปกับฝูงชนได้ทันทีอย่างคนกำลัง...เหนื่อยใจ

    "เหนื่อยเหรอคุโรโกะ? งั้นพวกเราพักกันก่อนดีไหม?" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลข้างกายคนผมฟ้าเอ้ยด้วยความเป็นห่วง ดวงตาสีน้ำตาลลุกลิกเหมือนแมวกวาดตามองหาที่นั่งพักบริเวณใกล้ๆ

    "เปล่าหรอกครับ...ผมแค่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะครับ" คุโรโกะ เท็ตสึยะผู้เป็นผู้เล่นเบอร์สิบเอ็ดของทีมบาสเซย์รินยิ้มบางๆ ให้กับฟุริฮาตะ โคกิซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมและ...คนที่ตนกำลังแอบชอบอยู่อย่างอ่อนโยน

    "งั้นเหรอ?" ฟุริฮาตะเอียงคอน้อยๆ อย่างน่ารัก "แต่นายดูเหนื่อยๆ นะ ถ้าเหนื่อยก็บอกกันได้ ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองหรอก"

    "ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ แต่ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ ครับ..." คุโรโกะเอ่ยยืนยันพลางมอง 'บางสิ่ง' ที่ 'เกาะ' ฟุริฮาตะด้วยอาการคิ้วกระตุกเป็นจังหวะแท๊งโก้...จนถึงตอนนี้เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไม...

    "นี่ๆ ฟุริฮาตัจจิเราไปตรงนู้นกันดีกว่านะ!"

    "เฮ้ยๆ แกน่ะไปไกลๆ เลย! ฟุริไปสตรีทบาสตรงนู้นกับฉันเข้าท่ากว่า!"

    "ได้ไงอ่ะ! อาโอมิเนจจิ! อุตสาห์มาถึงสวนสนุกทั้งทีเล่นอย่างอื่นนอกจากบาสเถอะ!"

    "ยังไงบาสก็ดีที่สุดล่ะวะ!"

    "ข้อนั้นไม่เถียง! แต่ฉันไม่ยอมให้ฟุริฮาตัจจิไปกับอาโอมิเนจจิหรอก!"

    "พูดแบบนี้หาเรื่องใช่ไหมวะ!? คิเสะ!!!"

    "หนวกหูน่า! ทำอะไรหัดอายคนอื่นมั้ง! ...ส่วนนายไปร้านขายของที่ระลึกกับฉันตรงนั้นดีกว่าฟุริฮาตะ ลักกี้ไอเทมของนายวันนี้คือของที่ระลึกจากที่นี่"

    "อย่าตัดหน้ากันสิ! มิโดริมะ!!! / มิโดริมัจจิ!!!"

    "วันนี้ดวงด้านความสัมพันธ์กับผู้คนของพวกนายชนะฉันไม่ได้หรอก"

    "ไหงว่างั้นอ่ะ!? มิโดริมัจจิ!!!"

    "ไม่ต้องมาอ้างดวงเลยเฟ้ย! มิโดริมะ!"

    "หนวกหูจังน้า...ง่ำๆ"

    "นายก็หยุดกินขนมสักทีเถอะ มุราซากิบาระ!"

    "ไม่สน...มิโดจินนี่ขี้บ่นจัง"

                    "ว่าไงนะ!?"

    "ฮาๆๆๆ โดนซะแล้วมิโดริมัจจิ!"

    "วะฮ่าฮา!"

    "พวกนายเงียบไปเลย!"

    "นายรำคาญจริง...นี่ๆ ฟุริจินไปร้านขนมกันเถอะ~~~~"

    "เฮ้ย! อย่ามาทำเนียนเลย!!! (×3)"

    "ว้าาาา รู้ทันซะได้"

    "โคกิ...ไม่ต้องสนเจ้าพวกนี้แล้วไปกับฉันเถอะ"

    "อย่ามาคิกฮุบไว้คนเดียวนะ! อาคาชิ! (×2) / อาคาจิน! / อาคาชิจจิ!"

    "ฉันไม่สน ใครจะทำไม?"

    "ก็ขวางนายสิ!!! (×4)"

    "พวกนายชนะฉันไม่ได้หรอก"

    "พูดได้น่าหมั่นไส้มาก!!! (×4)"

    "ฉันถือเป็นคำชมนะ"

    ...ทำไมพวกคุณ...พวกคุณถึงได้มาเป็น 'ก้าง' ระหว่างผมกับฟุริฮาตะคุงล่ะครับ!? ผมมั่นใจว่าไม่น่ามีใครรู้ว่าผมชวนฟุริฮาตะคุงมาที่นี่นะ!!! จะบอกว่าบังเอิญก็เหมือนแกล้งกันเกินไปนะครับ!!!

     

     

     

     

     

    ย้อนกลับไปเมื่อวาน ตอนยามหลังทีมบาสเซย์รินเลิกซ้อมกันแล้วและพวกปีหนึ่งทำความสะอาดโรงยิมตามปกติ

    "ฟุริฮาตะคุง...ขอเวลาคุยด้วยสักครู่ได้ไหมครับ?" เสียงที่ดังขึ้นมาลอยๆ ทำให้เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกสะดุ้งโหยงก่อนที่จะหันหวับไปที่ต้นเสียง

    "โธ่! อย่าทำให้ตกใจสิ! คุโรโกะ!" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลถอนหายใจอย่างปลงนิดๆ กับเพื่อนตน...ขนาดอยู่ข้างๆ ยังมองไม่เห็นเลย!

    "ขอโทษด้วยครับ" คุโรโกะเอ่ยหน้าตาย

    "เอาเถอะ...ว่าแต่มีอะไรจะคุยกับฉันเหรอคุโรโกะ?" ฟุริฮาตะถาม

    "ผมอยากทราบว่าพรุ่งนี้คุณว่างไหมครับ?" คุโรโกะตอบพลางมองซ้ายมองขวาเหมือนกลัวคนได้ยืน

    "เอ๋? ว่างสิว่าง...ทำไมเหรอ?" ฟุริฮาตะมองท่าทางของคุโรโกะอย่างงงๆ ...ปกติไม่เห็นเป็นงี้นี่นา?

    "พอดีผมได้ตั๋วสวนสนุกใกล้ๆ นี่มาสองใบเลยอยากชวนคุณไปเที่ยวด้วยกันน่ะครับ" คุโรโกะส่งสารตาอ้อนไปที่ฟุริฮาตะนิดๆ "ได้ไหมครับ?"

    "อา ได้สิ" ฟุริฮาตะที่ถูกเพื่อนตนอ้อนพยักหน้ารับ

    "งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่หน้าสถานีตอน 09.00 น. นะครับ" คุโรโกะยิ้มกว้างเมื่อได้คำตอบรับดังนี้...ว่าตามจริงที่คุโรโกะชวนฟุริฮาตะไปสวนสนุกนั้นไม่ได้คิดที่จะไปเที่ยวเล่นแม้แต้น้อย แต่เป็น...

    ...การหาที่เหมาะๆ ที่จะสารภาพรักกับฟุริฮาตะ โคกิต่างหากล่ะ!!!

    ...ส่วนสาเหตุที่คุโรโกะเพิ่งนึกมาสารภาพรักเอาปานนี้ทั้งๆ ที่แอบรักอีกฝ่ายตั้งแต่เจอกันครั้งแรกนั้นก็เพราะล่าสุดนี่ดันมีผู้ชายคนหนึ่งมาจีบฟุริฮาตะน่ะสิ! ...ยังดีที่ฟุริฮาตะปฏิเสธไปทำให้คุโรโกะไม่เฉาตายปนสาปแช่งตัวเองที่ไม่บอกความรู้สึกของตนให้อีกฝ่ายรับรู้เร็วกว่านี้

    ...และพอเจอแบบเข้าคุโรโกะเลยรวบรวมความกล้าจากทุกอนูในร่างกายมาชวนฟุริฮาตะนี่แหละ เพราะ...นอกจากคนที่โดนฟุริฮาตะปฏิเสธรักไปแล้ว ยังมีคนที่แน่ใจเต็มร้อยว่าเป็นคู่แข่งด้านความรักอีกหลายคน

    ...ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น...นอกจากพวกเพื่อนหัวหลากสีของคุโรโกะนั้นเอง!

    "อื้ม..." ฟุริฮาตะพยักหน้ารับอย่างไม่รับรู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของคุโรโกะเลยสักนิด

    หลังจากนั้นเมื่อพวกนักบาสปีหนึ่งทั้งหลายทำความสะอาดเสร็จก็แยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมันตามปกติ...จะมีคนที่ต่างจากปกติหน่อยก็มีเพียงคุโรโกะที่ทำหน้าตายพลางคิดหาวิธีสารภาพรักเด็ดๆ ตลอดทางที่กลับบ้านตนเองเท่านั้น แถมในคืนนั้นการที่จะไปสารภาพรักกับคนที่แอบชอบในเช้าวันถัดไปทำเอาคุโรโกะตื่นเต้นจนแทบนอนไม่หลับอีกต่างหาก

    พอยามเช้ามาเยือนคุโรโกะก็รีบเด้งลุกจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนที่จะลงไปทานข้าวเช้ากับครอบครัวตามปกติแล้วจากนั้นค่อยไปยังจุดที่นัดหมายทันที...ถึงแม้จะรู้ว่าถึงไปถึงก่อน แต่กว่าฟุริฮาตะจะมาจริงคงเลยเวลานัดไปประมาณ 5 - 10 นาทีเป็นแน่แท้ก็ตาม...

    ...และก็เป็นดั่งคาดเมื่อฟุริฮาตะวิ่งกระหือกระหอบมาหาคุโรโกะด้วยเวลาที่ช้ากว่าเวลานัดสิบนาทีเป๊ะ ไม่ขาดไม่เกิน

    "ข...ขอโทษนะคุโรโกะ รอนานไหม?" ฟุริฮาตะที่ยืนหอบหายใจข้างๆ คุโรโกะเอ่ยถาม

    "ไม่หรอกครับ ผมเพิ่งมาถึงไม่นานเอง" คุโรโกะตอบไปเช่นนี้...แม้ว่าจริงๆ ตนมารอเกือบสองชั่วโมงแล้วก็ตาม (นายนี่มาก่อนเวลานัดนานดีเนอะ? // s , ก็คนมันตื่นเต้นนี่ครับ // คุโรโกะ) "ผมว่าฟุริฮาตะคุงพักหน่อยดีกว่าไหมครับ?"

    "ไม่เป็นไร ไม่ต้องหรอก...เรารีบไปกันเถอะ" ฟุริฮาตะเอ่ยก่อนที่จะจับมือคุโรโกะเดินไปยังจุดหมายที่ทั้งสองมาเที่ยวกันเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา

    พอเดินมาถึงและเข้าไปในสวนสนุกด้วยกัน ทั้งสองก็เที่ยวเล่นกันไปเรื่อยเปื่อยตามประสา ซึ่งก็ดูปกติดีทุกอย่างจนกระทั้ง...

    ...เมื่อเดินไปในสวนย่อมแห่งหนึ่งแล้วเจอคนที่คุโรโกะอยากออกห่างมากที่สุดในวันนี้เข้าน่ะสิ!!!

    "อ่ะ! ฟุริฮาตัจจิ~~~!!!" ดวงตาสีเหลืองที่ตวัดมาทันทีที่เด็กหนุ่มทั้งสองก้าวเข้ามาในสวนราวกับมีเรดาร์จับยังไงยังงั้น เอ่ยด้วยเสียงฟังดูสดใส ดวงหน้าหล่อเหล่ายิ้มกว้าง เส้นผมสีเหลืองเป็นประกายหยอดล้อกับแสงอาทิตย์ช่วยเดิ่มความมีเสน่ห์ให้เจ้าตัวมากโข่ เมื่อเห็นฟุริฮาตะปุ๊บก็พุ่งเข้าหาปานหมาเห็นเจ้าของ "คิดถึงจางงงง!!!"

    "เหวอ!" ฟุริฮาตะสะดุ้งโหยงเมื่อเด็กหนุ่มผมเหลืองพุ่งเข้ามาหาและ...โดนคุโรโกะถีบเข้าที่ท้องเต็มๆ ...

    ...เฮ้ยๆ ไหงวันนี้มาดดูโหดจัง!? คุโรโกะ! ปกติแค่ต่อยไม่ใช่เหรอ!?...

    "กรุณาอย่าพุ่งเข้ามาแบบนี้สิครับ...คิเสะคุง" คุโรโกะเอ่ยเสียงเย็นพร้อมเอาตัวบังฟุริฮาตะไว้ กันอีกฝ่ายคว้าตัวคนด้านหลังตนไปกอด

    "อูย~ เจ็บอ่ะ..." คิเสะน้ำตาคลอนิดๆ อย่างน่าสงสาร "...คุโรโกจจิอยู่ด้วยเหรอเนี่ย?"

    "ที่ยืนอยู่นี่คงนิโกวมั้งครับ" คุโรโกะค้อนใส่คิเสะ

    "ง...ง่ะ! คุโรโกจจิก็!" คิเสะทำแก้มป่อง "แล้วนี่...มาเที่ยวกับฟุริฮาตัจจิสองคนเหรอ?"

    "แล้วเห็นคนอื่นไหมล่ะครับ?" คุโรโกะถามกลับ ซึ่งคิเสะก็ส่ายหน้า "ถ้าไม่เห็นคือมากันแค่สองคนสิครับถามมาได้"

    "คุโรโกจจิใจร้ายอ่ะ!" คิเสะแทบน้ำตาตกทันที...นับวันยิ่งพูดกัดได้เจ็บจริง!

    "เออ...คุโรโกะ..." ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ "...คิเสะจะเฉาตายแล้วนะนั้น"

    "ปล่อยไปครับ เดี๋ยวก็คนมาเก็บเอง" คุโรโกะเอ่ยอย่างเย็นชา "เราไปกันดีกว่าครับฟุริฮาตะคุง...ทิ้งคิเสะคุงไว้นี่แหละ"

    "แต่คิเสะ..." ฟุริฮาตะมองคนผมเหลืองที่ทำท่าราวลูกหมาถูกทิ้ง

    "ช่างคิเสะคุงสิครับ...เดี๋ยวพวกแฟนคลับคิเสะคุงมาเห็นก็ลากไปเองมั้งครับ" คุโรโกะเอ่ย

    "ด...เดี๋ยวสิ! คุโรโกจจิ! ฟุริฮาตัจจิ!" คิเสะที่เห็นคุโรโกะลากฟุริฮาตะออกห่างถึงกับหายเฉาทันที "ฉันไปด้วยสิ!"

    "เรื่องสิครับ จะไปไหนก็ไปเลยครับ" คุโรโกะเอ่ยอย่างเย็นชาเมื่อเห็นคิเสะมาเกาะแขนฟุริฮาตะเอาไว้

    "ไม่เอา จะอยู่นี่อ...โอ๊ย!" คิเสะที่กำลังพูดอยู่นั้นหลุดร้องออกมาเมื่อมีลูกกลมๆ สีส้มๆ ลอยมากระแทกหัว

    "อ่ะ! โทษทีๆ ...อ้าว? ฟุริ เท็ตสึ คิเสะ มากันได้ไงเนี่ย?" เด็กหนุ่มผิวเข้ม ผมสีน้ำเงินผู้วิ่งตามลูกบอลสีส้มที่เพิ่งกระแทกหัวคิเสะเมื่อครู่ทักทั้งสามอย่างแปลกใจ

    "ผมต่างหากที่ต้องถาม...คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ? อาโอมิเนะคุง" คุโรโกะถามอยางแปลกใจ เพราะคนอย่างอาโอมิเนะ ไดกิไม่น่าคิดมาเล่นในสวนสนุกแบบนี้ได้เนื่องจากปกติสิงอยู่ที่สนามบาสมากกว่า

    "ยัยซัทสึกิให้มาเป็นเพื่อน แต่จู่ๆ ดันโทรมาบอกว่าติดธุระมาไม่ได้แล้ว...ไอ้ฉันก็เสียเงินเข้ามาแล้ว เลยอยู่มันที่นี่ซะเลย..." อาโอมิเนะเอ่ยตอบพลางมองที่ฟุริฮาตะ "...แล้วพวกนายสามคนมาเที่ยวกันเหรอ? ฟุริ?"

    ...เขาไม่เสี่ยงถามเท็ตสึให้โดนกัดหรอก! ไม่ต้องมาค้อนกันเลยโว้ย! เท็ตสึ! คิเสะ!...

    "เปล่าหรอก ที่จริงฉันมาเที่ยวกับคุโรโกะแค่สองคนน่ะ แล้วบังเอิญเจอคิเสะเข้าพอดี" ฟุริฮาตะตอบอย่างไม่รับรู้ถึงสามตาที่มองมาที่ตนทั้งสามคู่เลย

    "เมื่อรู้ตามที่ต้องการแล้วพวกผมขอตัวนะครับ" คุโรโกะเอ่ยพร้อมหาทางหลีกหนี กขค. ทั้งสอง (?) แต่ว่า...

    "...พวกนายมาทำอะไรที่นี่กัน?" ...เสียงทักที่ดังขึ้นมาทำให้คุโรโกะแทบอยากจะบ้าทันที เพราะมันเป็นตัวบอกว่า กขค. คนที่สามมาแล้ว

    "เฮ้! ไหงนายมานี่ได้วะ? มิโดริมะ" อาโอมิเนะเอ่ยถามบุคคลที่มาใหม่

    "ก็ขึ้นรถมาสิ" เด็กหนุ่มผมเขียวเอ่ยหน้าตายพลางขยับแว่นของตนอย่างเคยชิน "ไง...ไม่เจอกันนานเลยนะ ฟุริฮาตะ"

    "อื้ม ไม่เจอกันนานเลย" ฟุริฮาตะทักกลับไป "ว่าแต่...วันนี้นายไม่พกลักกี้ไอเทมเหรอ?"

    "พกมาแล้ว..." มิโดริมะเอ่ย "...ลักกี้ไอเทมวันนี้คือแว่นตาน่ะ"

    "นายสวมแว่นอยู่แล้วเลยไม่มีผลสินะ?" อาโอมิเนะเอ่ยอย่างเข้าใจ

    "แต่บังเอิญจังนะที่มาเจอกันเนี่ย" คิเสะเอ่ยอย่างอารมณ์ดี เพราะรู้ว่าถ้าอยู่กันหลายคนแบบนี้คุโรโกะจะไล่ตนไปไม่ได้...เพราะนอกจากเขา ทุกคนเป็น กขค. กันหมดเลยนี่นา! (รู้ตัวด้วย? // s , แหงสิ... // คิเสะ) และคงไม่เสียเวลาไล่คนเดียวให้ฟุริฮาตัจจิโดนงาบหรอก!

    "นี่ผมดวงซวยหรือพวกคุณนัดกันมานี่อยู่ตั้งแต่แรกแล้วครับเนี่ย? มิโดริมะคุง" คุโรโกะเริ่มอยากร้องไห้ขึ้นมานิดๆ แล้วสิ

    "นายซวยอยู่แล้วคุโรโกะ วันนี้ราศีกุมภ์อยู่อันดับสุดท้ายในเรื่องโชค แต่ดันมีดวงเรื่องความรักซะงั้น..." ดวงตาสีมรกตเหลือบมองคนผมฟ้า "...แต่อย่าคิดว่าแค่นี้ฉันจะยอมแพ้นะ"

    "ผมก็ไม่คิดหรอกครับ" คุโรโกะรู้ดีว่าเพื่อนสมัยม.ต้นของตนแต่ล่ะคนน่ะ...หัวดื้อกันทั้งนั้น!

    "นายเลยวางแผนจะมา 'เดท' กันสองคนสินะ?" อาโอมิ้นะทำท่าหงุดหงิดเล็กน้อย...รู้สึกขอบคุณซัทสึกิที่นัดเขาแต่ตัวเองมาไม่ได้ก็วันนี้แหละ!

    "แหมๆ คิดว่าพวกเราจะยอมให้คุโรโกจจิทำแต้มคนเดียวเหรอ?" คิเสะเริ่มส่งสีหน้าเจ้าเล่ห์ออกมา

    "ใช่ครับ งานนี้ใครดีใครได้เท่านั้นแหละครับ..." คุโรโกะยอมรับตามตรง เนื่องจากรู้ว่าปิดบังไปก็ไม่ได้อะไร "...และคิเสะคุงอย่าทำหน้าแบบนั้นได้ไหมครับ...เหมือนหมาแก่ใกล้ตายชอบกล"

    "ง...ง่ะ!" คิเสะรีบกลับสู่โหมดเดิมทันที

    "วะฮ่าฮา! มุขนี่เข้าท่านี่หว่า! เท็ตสึ!" อาโอมิเนะหัวเราะอย่างชอบใจ ขณะที่มิโดริมะพยายามตีหน้านิ่งแม้จะกลั้นหัวเราะจนตัวสั่นก็ตาม

    "เออ...คือว่า...พวกนายพูดอะไรกันเนี่ย?" ฟุริฮาตะเอ่ยถามขึ้นอย่างตามไม่ทัน...ตามไม่ทันตั้งแต่คุโรโกะถามตัวเองดวงซวยหรือเปล่าแล้ว

    "แค่กำลังแกล้งคิเสะคุงน่ะครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ" คุโรโกะตีหน้าตายตอบกลับไป "เราไปที่อื่นกันเถอะครับ...ที่นี่มลพิษเยอะ น่าอึดอัดจะตายมี ทั้งหมาน้อยสีเหลือง ทั้งมนุษย์ตัวดำทะมึน ทั้งคนบ้าดวงแบบนี้ระวังติดเชื้อนะครับ"

    "ว่าใครเป็นหมาน่ะ! คุโรโกจจิ!" คิเสะโวยขณะที่คุโรโกะลากฟุริฮาตะวิ่งห่างออกไป

    "เรียกใครดำทะมึนห๊า!? แบบนี้เขาเรียกหล่อแบบเข้มๆ โว้ย!" อาโอมิเนะเตรียมตัววิ่งตามทั้งสองไป

    "ฉันไม่ได้บ้าดวงสักหน่อย! แค่เชื่อในโชคแค่นั้นเอง!" มิโดริมะเริ่มออกวิ่งไปพร้อมกับเพื่อนอีกสองคนเพื่อตามคุโรโกะกับฟุริฮาตะไป

    การไล่ล่า (?) ของเด็กหนุ่มผู้ถูกไล่สองคนกับเด็กหนุ่มผู้เป็นฝ่ายไล่ตามอีกสามคนดำเนินเป็นเวลานาน และในอีกสามสิบนาทีต่อมา...สุดท้ายคุโรโกะกับฟุริฮาตะก็มานั่งหอบอยู่ที่ร้านขนมแห่งหนึ่ง โดยมีผู้ที่ไล่ล่าตนเมื่อครู่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามในสภาพที่มีสภาพดีกว่าคนถูกไล่ตามเยอะ

    "พวกคุณจะตามมาทำไมเนี่ย?" คุโรโกะถามขณะยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว

    "ไม่งั้นนายก็ไปจู๋จี๋กันสองคนสิ..." มิโดริมะเอ่ย "...และนายควรจิบน้ำทีล่ะนิดมากกว่าดื่มรวดเดียวหมดแก้วแบบนั้นนะ"

    "...ขอโทษครับ" คุโรโกะทำหน้ามุ่ย

    "แล้วถามหน่อย...พวกนายจะเล่นไล่จับกันทำไมเนี่ย?" ฟุริฮาตะที่โดนลากวิ่งซะเหนื่อยแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยถาม

    "เป็นการกระชับมิตรในแบบของพวกผมครับ" คุโรโกะทำหน้าตายแบบจับหาพิรุทไม่ได้แม้แต่น้อย

    "มีใครคิดว่านับวันคุโรโกจจิยิ่งน่ากลัวบ้างเนี่ย?" คิเสะถามขึ้นมาเบาๆ

    "อย่างน้อยฉันคนหนึ่งล่ะ" อาโอมิเนะตอบกลับทันทีโดยไม่ต้องคิดแม้แต่น้อย

    "อาจติดอาคาชิมามั้ง...เห็นว่าอาคาชิไปป่วนแถวเซย์รินบ่อยๆ นิ" มิโดริมะเสนอความเห็นขึ้นมาดู

    "อาจจะแฮะ..." อาโอมิเนะก็พอรู้ข่าวมาบ้างว่าอาคาชินั้นไปแถวเซย์รินแทบทุกวัน "...ว่าแต่หมอนั้นไปที่นั้นได้ไงแทบทุกวันเนี่ย? ทั้งๆ ที่อยู่ที่เกียวโตแท้ๆ ...ขนานพวกเราอยู่ใกล้ๆ แค่นี้ยังไปหาฟุริไม่ได้บ่อยๆ เลย"

    "...ไม่รู้แฮะ" คิเสะกับมิโดริมะส่ายหน้าทันที

    "แต่ฉันรู้น้าาาา..." เสียงยานๆ อย่างคนง่วงๆ ดังขึ้นจากด้านบนหัวเด็กหนุ่มทั้งสาม "...เห็นอาคาจินบอกว่านั่งเครื่องบินส่วนตัวเอาน่ะ เลยใช้เวลาแป๊บเดียวก็ถึงโตเกียวแล้ว"

    "จะหรูไปไหนวะ...แล้วเมื่อกี้ใครตอบน่ะ?" อาโอมิเนะบ่นน้อยๆ ก่อนที่จะเงยหน้ามองคนที่ตอบคำถามตนเมื่อครู่...และสิ่งที่เห็นก็คือผมยาวๆ ม่วงๆ กับใบหน้าง่วงซึมคล้ายหมีเพิ่งตื่นจากจำศีล "อ้าว? มาได้ไงเนี่ย? มุราซากิบาระ"

    "มาซื้อขนม...เห็นว่าที่นี่ขนมอร่อยสุดๆ ไปเลยมาซื้อกิน..." มุราซากิบาระตอบด้วยท่าทีสมเป็นเด็กโข่งก่อนที่จะหันไปส่งยิ้มให้ฟุริฮาตะ "...งายยยย ฟุริจินนนนน"

    "ไงมุราซากิบาระ..." ฟุริฮาตะยิ้มหวานตอบ...เล่นซะใครหลายๆ คนแทบละลายเลย "...นายนี่ยอมเดินทางมาไกลขนาดนี้เพื่อขนมเนี่ยนะ?"

    "แน่นอน~~~" มุราซากิบาระลากเสียงอย่างภูมิใจมาก "แต่ถ้าให้เลือกระหว่างขนมกับฟุริจิน ฉันเลือกฟุริจินนะ~~~~~"

    "กรุณากินขนมของคุณไปเงียบๆ เลยครับ มุราซากิบาระคุง" คุโรโกะค้อนใส่เด็กโข่งผมม่วง

    "ไม่เอา อยากเล่นกับฟุริจินมากกว่ากินขนมอ่ะ" มุราซากิบาระเอ่ยก่อนที่จะเอื้อมมือยาวๆ ของตนไปลูบหัวฟุริฮาตะ "ฟุริจินดีกว่าขนมเยอะ~~~~"

    "...นี่พวกคุณจงใจมารวมตัวกันเพื่อแกล้งผมหรือเปล่าครับเนี่ย?" คุโรโกะถามพลางปัดมือมุราซากิบาระออกจากเพื่อนผมสีน้ำตาลของตน "นี่ถ้าอาคาชิคุงมาอีกคนล่ะก็ครบเลยนะครับ

    "อาคาชิคงไม่มาห..."

    "ใครไม่มาเหรอ?" เสียงอันทรงอำนาจของใครบางคนดังขึ้นขัดในจังหวะที่มิโดรืมะกำลังผู้ ทำให้ทุกคนสะดุ้งโหยงและหันไปมองที่ต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียง

    "อาคาชิคุง! / อาคาชิ! / อาคาจิน! / อาคาชิจจิ! มาไงเนี่ย!?"

    "ก็มาอย่างนี่แหละ" อาคาชิแสยะยิ้มอย่างพอใจในสีหน้าของแต่ล่ะคน

    "...ผมชักอยากล้างซวยแล้วสิ" คุโรโกะฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างเหนื่อยอกเหนื่อยใจในสิ่งที่เจอ...เจอแต่คนที่ไม่อยากเจอในวันนี้ทั้งนั้น!!!

    ...ทำไมต้องวันนี้ด้วยเนี่ย!? พอคิดจะสารภาพรักฟุริฮาตะคุงไหงต้องมากันครบเซ็ตกันล่ะครับ!? ความจริงแแบติดเครื่องดักฟังไว้ในโรงยิมกันใช่ไหมครับ!?! ถึงรู้กันอย่างทั่วถึงแบบนี้!!!...

     

     

     

     

     

    กลับมายังปัจจุบัน...ที่คุโรโกะกำลังทำหน้าปานกินยาขม

    "กรุณากลับๆ กันไปสักทีได้ไหมครับ?" คุโรโกะเอ่ยขณะที่ฟุริฮาตะเดินออกห่างพวกตนเพื่อไปซื้อน้ำที่ตู้น้ำใกล้ๆ หลังจากที่พากันมาเล่นบาสตามข้อเสนอของอาโอมิเนะจนเหนื่อยกันหมด

    "ไม่!" คำปฏิเสธถูกส่งกลับมาอย่างพร้อมเพรียง "เรื่องอะไรจะให้นายงาบไปกินคนเดียวล่ะ!?"

    "ขยันทำหน้าที่ กขค. จังนะครับ...เว้นโอกาสให้ผมบ้างก็ได้" คุโรโกะกรอดตาไปมาอย่างเหนื่อยใจ

    "เรื่องสิ..." อาโอมิเนะทิ้งตัวลงนอนแป๊ะกับพื้น "...ยังไงฉันก็ไม่ยกฟุริให้ใครหรอก~"

    "ช่ายเลย~~~" มุราซากิบาระลากเสียงยาว

    "เห็นด้วย ว่าแต่..." ดวงตาสองสีของอาคาชิเหลือบมองไปยังพุ่มไม้ใกล้ๆ "...คิดจะแอบตามดูอีกนานแค่ไหนกันครับ?"

    "หื้อ?" เหล่าอดีตทีมปาติหาริย์ทั้งหลายเหลือบมองไปยังจุดเดียวกับอาคาชิอย่างงุนงง

    "อ้าว? รู้ตัวด้วยเหรอ?" เด็กหนุ่มผมดำหน้าหวานมุดออกจากพุ่มไม้เป็นคนแรก...ทำให้คุโรโกะทำหน้าตายขึ้นมาอีกระดับ "อ่ะ! รู้ตัวเพราะพุ่มไม้! มุขนี่แจ่มเลย!"

    "แจ่มกะผีสิ! ขอล่ะ! ไอ้มุขฝืนๆ นั้นเลิกสักที!" เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งที่มุดออกมาเป็นคนที่สองเล่นเอามิโดริมะแทบตัวแข็งเป็นหิน

    "อย่าอย่าอารมณ์เสียดิ เดี๋ยวหน้าแก่เร็วหรอก" เด็กหนุ่มผมสีดำเคลือบเขียวที่คลานออกมาเป็นคนที่สามทำให้คิเสะเบิกตากว้าง

    "เอาน่าๆ" เด็กหนุ่มหน้าตาเจ้าเล่ห์โผล่ขึ้นมาในสภาพใบไม้ติดหัวเต็มไปหมดส่งยิ้มให้อาโอมิเนะที่กำลังขมวดคิ้วอย่างน่ากลัว

    "ให้ตายสิ...นายรู้ได้ไงว่าพวกฉันแอบอยู่เนี่ย?" เด็กหนุ่มผมทองบ่นเล็กน้อย ขณะที่มุราซากิบาระถึงกับทำขนมร่วงจากปาก

    "ทำไมต้องลากฉันมาด้วยเนี่ย?" เด็กหนุ่มผมเงินเบ้หน้าหนีจากสายตาขำๆ ของอาคาชิ

    "เดี๋ยวนะ..." อาโอมิเนะคุมขมับเหมือนกำลังพยายามประติดประต่อเรื่องอยู่ "...คุณมาที่นี่ได้ไง? อิมาโยชิซัง...ตอนนี้คุณน่าจะกลับไปที่โอซาก้าอยู่ไม่ใช่เหรอ?"

    "พอดีทางบ้านฉันเปลี่ยนใจให้ไปตอนปิดเทอมแทนน่ะ" อิมาโยชิยิ้มร่าอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร

    "ฟุคุจินมาไงอ่ะ? วันนี้ไม่ได้ไปเที่ยวกับหลิวจินเหรอ?" มุราซากิบาระถามรุ่นพี่ร่างเล็กหัวทองของตน

    "หลิวมันสอบตกเลยโดนโค้ชซัดอยู่น่ะ..." ฟุคุอิตอบ "...ส่วนที่มานี่เพราะโดนโมริยามะมันชวนมาน่ะ"

    "...ผมคิดว่ารุ่นพี่โมริยามะจะคิดไปป่วนรุ่นพี่คาซามัตสึอย่างปกติเสียอีก" คิเสะเอ่ยอย่างแปลกใจ เพราะปกติรุ่นพี่คนนี้มักจะตัวติดหนึบกับคนเป็นกัปตันทีมมากกว่า

    "อ๋อ โดนคาซามัตสึถีบไล่น่ะ..." โมริยามะเอ่ยอย่างเคยชิน

    "ก็โดนปกติไม่ใช่เหรอครับ?" คิเสะถามต่อ...เนื่องจากรุ่นพี่โมริยามะโดนไล่ถีบประจำ เขาจึงคิดว่าไม่น่าเลิกตามตื้อรุ่นพี่คาซามัตสึได้ง่ายๆ แน่

    "พอดีคาซามัตสึมีธุระสำคัญด้วย ฉันเลยไม่คิดตื้อหมอนั่นน่ะ" โมริยามะตอบอย่างรู้ทันในความคิดคนผมเหลือง

    "นายโดนโมริยามะซังชวนมาด้วยสิ? จิฮิโระ?" อาคาชิมองคนผมเงินที่ทำหน้าเซ็งสุดกู่

    "เปล่า ฉันแค่จะไปงานอนิเมะใกล้ๆ นี่น่ะ แต่ดันเจอเจ้าพวกนี่เข้า..." มายุสุมิชี้ไปทางพวกกลุ่มที่ลากตนมาอย่างเจาะจง "...พอเห็นฉันเท่านั้นแหละ...จับฉันล็อกแขนมาอย่างไม่คิดถามกันสักคำ!"

    "คงรู้ว่าถ้ามัวถามนายจะแว่บหายไปกับฝูงชนน่ะสิ" อาคาชิส่ายหน้าอย่างอ่อนใจนิดๆ

    "ถูกเผง" มายุสุมิถอนหายใจยาวๆ

    "มิยาจิซัง...ก็โดนโมริยามะซังชวนมาเหรอครับ?" มิโดริมะถามหน้าตาย แม้ในใจเหงื่อแตกซิกๆ ด้วยความเกรงรุ่นพี่สุดโหดก็ตาม...รู้งี้ลากทาคาโอะมาด้วยดีกว่า! หมอนั้นอย่างน้อยก็ไหลเก่งกว่าเขาล่ะ!

    "ก็ตามนั้น" มิยาจิยักไหล่นิดๆ "ว่าแต่ไม่คิดเลยนะ...ว่านายจะชอบคนประเภทหมอนั้นน่ะ"

    "ม..." มิโดริมะหน้าแดงวาบขึ้นมาและกำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธ แต่...

    "ไม่ต้องคิดปฏิเสธเลย จากที่ตามดูนายมาก็รู้แล้วเฟ้ย!" ...ดันโดนมิยาจิเอ่ยดักไว้เสียก่อนนี่สิ

    "...ตามกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ? รุ่นพี่อิสึกิ?" คุโรโกะถามรุ่นพี่ตนด้วยอาการอยากร้องไห้ชอบกล...

    ...ทำไมวันนี้มีคนรู้จักมาเยอะจังครับ!?...

    "ตั้งแต่นายเริ่มถีบคิเสะแล้วล่ะ..." อิสึกิยกมือลูบเรือนผมสีฟ้าของคุโรโกะราวกับกำลังปลอบอยู่ "...พอดีพวกฉันโดนโมริยามะซังชวนมาเที่ยวที่นี่กันหมดน่ะ แล้วโมริยามะซังดันเห็นคิเสะเดินอยู่เลยกะจะเดินไปทัก แต่คิเสะดันพุ่งเข้าหาฟุริจนโดนนายถีบนั้นแหละ...หลังจากนั้นมิยาจิซังเลยนึกสนุกบอกให้แอบตามดูพวกนายเนี่ย"

    "ว่าตามตรงนะ...มันโคตรบังเอิญเลยที่มาเจอกันหมดเนี่ย ทั้งๆ ที่ไม่ได้นัดกันเลยแท้ๆ" ฟุคุอิเอ่ยอย่าง...สงสารคุโรโกะนิดๆ เพราเท่าที่ตามดูมาเนี่ย คุโรโกะกะมาเที่ยวกับฟุริฮาตะสองคนแหงๆ

    "บังเอิญจนผมอยากไปล้างซวยเลยครับ" คุโรโกะเอ่ยยอมรับจากใจจริงเลย

    "แต่ก็ไม่นึกจริงๆ ...คนหน้าโหด บ้า โง่ มึน บ๊อง ขี้เกียจตัวเป็นขน หยิ่ง นิสัยมันน่าฆ่าถ่วงน้ำอย่างอาโอมิเนะจะชอบฟุริฮาตะเนี่ย นึกไม่ถึงจริงๆ" อิมาโยชิยังคงเอ่ยด้วยรอยยิ้มดั่งเดิม

    "ผมจะชอบใครไม่ใช่เรื่องผิดเสียหน่อยครับ ในเมื่อตอนนี้หมอนั้นยังว่าง..." อาโอมิเนะเถียงกลับทันที "...ว่าแต่ที่พูดมาเนี่ยตั้งใจด่าผมหรือเปล่าเนี่ย!? แล้วไอ้ฆ่าถ่วงน้ำเนี่ยคิดจะทำจริงเหรอครับ!?!"

    "เปล่าๆ แค่เปรียบเทียบน่ะ" อิมาโยชิลืมขึ้นมาพร้อมส่งยิ้มน่าสยองให้จนอาโอมิเนะจำต้องลี้ภัยไปหลังคิเสะ

    "มาหลบหลังกันแบบนี้แมนมากนะ" คิเสะกรอดตาไปมา

    "เอาน่าๆ ว่าแต่พวกนายเชียร์ใครอ่ะ?" โมริยามะที่อยู่ๆ เอ่ยถามขึ้นมา ทำให้ทุกสายตามองไปที่เด็กหนุ่มผมสีดำเหลือบเขียว "เฮ้ๆ อย่ามองกันงั้นสิ ก็เห็นว่ารุ่นน้องเราแต่ล่ะคนจะจีบฟุริฮาตะคุงนิ เลยอยากรู้ว่าใครจะเชียร์ใครบ้างอ่ะ...ของฉันเชียร์คุโรโกะคุงแล้วกัน ฉันไม่คิดว่าคิเสะจะจีบฟุริฮาตะคุงติดหรอก"

    "ง่ะ! ไหงงั้นล่ะครับ!? รุ่นพี่โมริยามะ!" คิเสะโวย...นี่ไม่คิดจะเชียร์รุ่นน้องตัวเองเลยเหรอครับ!?

    "ก็อย่างน่ามันเด่นเกิน แถมยังมีผู้หญิงมาเกาะแกะบ่อยๆ ใครมันอยากจะคบกับคนที่มีโอกาสเปลี่ยนใจจากตัวเองได้สูงแบบนายเล่า ถ้าจะมีคงจะต้องกล้าๆ หรือไม่ก็ซึนๆ แบบคาซามัตสึมากกว่าขี้กลัวอย่างฟุริฮาตะคุง...อ๋อ! ยกเว้นนายเป็นเคะล่ะนะ เพราะนั้นคงทำให้นายปวดหลังจนไปหาคนอื่นไม่ได้เลย แต่ฉันมั่นใจว่าฟุริฮาตะคุงไม่มีทางเมะชัวท์ (แหม...รู้ดีจัง // s , ก็เธอเล่นพูดทุกครั้งที่ฟุริฮาตะคุงขอเป็นเมะนี่นา...ไม่รู้ก็แปลกล่ะ // โมริยามะ) " โมริยามะเอ่ยอย่างไม่คิดไว้หน้ารุ่นน้องตนเลย

    "รุ่นพี่โมริยามะใจร้ายที่สุด!" คิเสะถึงกับไปหลบในมุมมืดทีเดียว

    "ช่างคิเสะแล้วมาคุยกันต่อเถอะเนอะ..." โมริยามะมองรุ่นน้องตนเล็กน้อย ก่อนที่จะตัดสินใจเมินเนื่องจากรู้ว่าไม่กี่นาทีก็คืนสภาพเดิมเอง (?) "...อิสึกิคุง~ อิสึกิคุงเชียร์ใครเหรอ?"

    "ผมต้องเชียร์คุโรโกะอยู่แล้วล่ะครับ..." อิสึกิถอนหายใจเบาๆ กับคนที่ไม่เคยสงสัยอะไรในเรื่องปกติเลย (?) "...คุโรโกะเป็นพวกจริงใจสุดๆ เลยครับ แถมคุโรโกะก็สนิกกับฟุริมาก ไหนจะชมรมเดียวกันไหนจะเป็นกรรมการห้องสมุดเหมือนกัน...ถ้าพูดจริงๆ คุโรโกะถือว่าสนิกกับฟุริมากเลยครับ"

    "ที่บอกว่าถือว่าเนี่ย...หมายความว่ามีคนสนิกกับหมอนั้นมากกว่าคุโรโกะสิ?" มิยาจิถามขึ้นมาอย่างอยากรู้

    "ครับ ถ้านับที่สนิกกันมากๆ ก็มีฟุคุดะกับคาวาฮาระน่ะครับ เห็นว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตอนม.ต้นน่ะครับ" อิสึกิเอ่ยอธิบาย

    "เฮ้ๆ แบบนี้ไม่กลัวว่าเพื่อนสองนั้นของฟุริฮาตะคุง จะจีบฟุริฮาตะคุงติดไปแล้วเหรอ? หรือไม่ก็ฟุริฮาตะคุงมีแฟนอยู่แล้วน่ะ? คุโรโกะคุง?" โมริยามะกระดึบ (?) มาเกาะคุโรโกะ

    "ไม่หรอกครับ แต่เดิมคาวาฮาระคุงมีคนรักที่คบมาตั้งแต่ม.ต้นคนหนึ่งครับ ฟุคุดะคุงก็เพิ่งคบกับรุ่นพี่ในโรงเรียนเมื่อเดือนที่ผ่านมาเองครับ..." คุโรโกะมองโมริยามะนิ่งๆ "...ส่วนฟุริฮาตะคุงเพิ่งอกหักมาครับและอย่างฟุริฮาตะคุงไม่ไปหาใครใหม่ง่ายๆ หรอกครับ ถ้าไม่โดนจีบเองน่ะ"

    "โมริยามะซัง..." อิสึกิโผล่มาจับบ่าโมริยามะแน่น "...ถ้าไม่เลิกเกาะคุโรโกะล่ะก็มี 'จัดหนัก' แน่ครับ"

    "จ...จ๋าจ๊ะ" โมริยามะรีบปล่อยมือจากคุโรโกะทันที

    "เกือบเอวเคล็ดอีกแล้วไงนายเอ๊ย!" มิยาจิส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ "ส่วนฉันก็เชียร์มิโดริมะมันนั้นแหละ...ถึงมันจะดูเพี้ยนๆ แต่มันก็ไม่เคยสนใจใครเลย ฉันว่าถ้าหมอนี่รักใครก็คงรักจริงนั้นแหละ"

    "ขอบคุณครับ..." มิโดริมะยิ้มบางๆ อย่างโล่งอกที่ไม่โดนกัดยับแบบคิเสะ

    "ส่วนฉันเชียร์มุราซากิบาระ..." ฟุคุอิเอ่ยต่อจากมิยาจิ "...ก็มุราซากิบาระถ้าสนใจอย่างอื่นนอกจากขนมถือว่ามันจริงจังมากแล้ว"

    "สุดยอด...ดูออกได้ไงอ่ะ? ฟุคุจิน?" มุราซากิบาระมองคนผมทองอย่างแปลกใจมากมาย

    "ก็นายเล่นเป็นพวกหวงขนมตลอดเวลานิ จะซ้อมก็กิน จะแข่งก็กิน...จะสอบก็กิน! อ่านหนังสือก็ไม่อ่าน! แล้วนายทำไมไม่สอบตกแบบหลิวที่อ่านแทบตายก็ไม่รู้เนี่ย!!!" ฟุคุอิแยกเขี้ยวใส่รุ่นน้องสูงสองเมตรกว่าของตนอย่างหมั่นไส้สุดๆ "ที่นายสนใจเรื่องอื่นถึงขนาดไม่สนขนม แถมเชื่อฟังขนาดหมอนั้นบอกให้หยุดกินขนมก็หยุดกินทันทีทั้งๆ ที่ตอนฮิมุโระยังต้องพูดแล้วพูดอีกกว่านายจะเลิกกิน! แบบนี่เนี่ยเรียกว่าโคตรของโคตรประหลาดแล้ว!"

    "ไม่ประหลาดขนาดนั้นสักหน่อย..." มุราซากิบาระทำหน้ามุ่ย

    "ฉันเชียรคุโรโกะแล้วกัน...ฉันมั่นใจว่ายังไงก็มีโอกาสมากกว่าอาโอมิเนะล่ะ" อิมาโยชิเอ่ย

    "อ้าว? ไหงงั้นล่ะครับ!" อาโอมิเนะโวยใส่รุ่นพี่ตน...ไม่คิดเชียร์กันเลยเหรอ!?

    "ก็หน้าเหี้ยมอย่างนายดูยังไงก็ไม่น่าจะเข้ากับฟุริฮาตะได้เลยนี่นะ" อิมาโยชิตอบกลับหน้าตาเฉยอยากไม่กลัวโดนรุ่นน้องตนถีบเลย

    "หน้าตามันเกี่ยวเหรอครับ!?" อาโอมิเนะกล้าปฏิเสธหันชนฝาเลยว่าความรักกับหน้าตามันไม่เกี่ยวกันหรอก!

    ...ถึงหน้าตาไม่ให้แต่รักจริงนะเฟ้ย!...

    "ไม่เกี่ยวหรอก แต่ฉันคิดว่านิสัยอย่างนายคงทำให้หมอนั่นอยากไปหาคนใหม่วันล่ะสิบรอบเลย...ยิ่งอาโฮ่อยู่" อิมาโยชิเอ่ยแทงใจดำอาโอมิเนะเต็มๆ

    "ปากร้ายแบบนี้...ขอให้คาซามัตสึซังไปหาคนใหม่ทีเถอะ" อาโอมิเนะบ่นพึมพำแช่งอิมาโยชิในหลุมดำเป็นเพื่อนคิเสะ

    "ถึงคาซามัตสึอยากไปฉันก็ไม่ให้ไปหรอก" อิมาโยชิแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว

    "อย่าทำหน้าเหมือนฆาตกรในหนังสยองขวัญสิฟะ! มันหลอน! ...ส่วนเรื่องถามว่าเชียรใครนั้น..." มายุสุมิเหล่มองแต่ล่ะตัว (?) ในที่นี่ "...นายไม่ต้องมองฉันเลยอาคาชิ ฉันไม่เลือกนายแน่...พอดียังไม่อยากสนับสนุนการโยนชิวาว่าให้สิงโตน่ะ"

    "..." อาคาชิถือกรรไกรมาตัดอากาศเล่น

    "..." มายุสุมิแว่บไปหลบหลังมิยาจิ "...เอาเป็นว่าฉันเลือกคุโรโกะแล้วกัน...ดูเป็นผู้เป็นคนสุดแล้วในหมู่พวกนายเนี่ย"

    "สรุป...ส่วนใหญ่เลือกคุโรโกะคุงสินะ~~~" โมริยามะลากเสียงยาวอย่างอารมณ์ดี

    "รุ่นพี่โมริยามะ...ขอร้องล่ะครับ อย่าพูดเหมือนเกมโชว์สิครับ" คิเสะที่กระดึบ (?) ขึ้นมาจากหลุมดำเอ่ย

    "น่าๆ นิดๆ หน่อยๆ เอง" โมริยามะเอ่ยกลับไปอย่างไม่ใส่ใจนัก "จริงสิ...พวกนายรู้สึกหรือเปล่าว่าฟุริฮาตะคุงไปซื้อน้ำนานเกินไปแล้วน่ะ?"

    "เออ! จริงด้วย!" ทุกคนร้องออกมาอย่างคนเพิ่งนึกออก

    "ไปนานขนาดนี้ ไปซื้อน้ำถึงขั่วโลกเลยหรือไง?" มิยาจิมองซ้ายมองขวา

    "นี่คุโรโกะ...คงไม่ใช่ว่า..." อิสึกิเริ่มเหงื่อตกนิดๆ "...โดนคนหาเรื่องอีกแล้วนะ?"

    "ครับ...คงจะเป็นงั้นอีกแล้วครับ..." คุโรโกะเอ่ยหน้านิ่งก่อนที่จะ...หายตัวไปทันทีราวกับภูตผี

    "เฮ้ย! อย่านึกจะไปก็ไปดื้อๆ สิ!" อิสึกิโวยลั่นเมื่อคุโรโกะหายตัวไปเพื่อตามหาฟุริฮาตะเสียแล้ว

    "อย่างเท็ตสึน่ะห้ามไม่อยู่หรอกครับ" อาโอมิเนะที่มุดขึ้นจากหลุมดำอีกคนเอ่ยขึ้น "ผมว่าผมไปหาฟุริอีกคนดีกว่า"

    "...ฉันว่าไปกันหมดเลยเถอะ...เผื่อเกิดเรื่องอะไรจะได้ช่วยกันได้" มิโดริมะเอ่ยดักก่อนที่อาโอมิ้นะจะวิ่งหายไปอีกคน

    "ฉันเห็นด้วยกับชินทาโร่นะ..." อาคาชิเอ่ยพลางส่งสายตาให้ทุกคนว่า 'นี่ถือเป็นคำสั่ง...ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด!' ด้วยอีกต่างหาก "...ดั่งนั้นเราเกาะกลุ่มกันไปหมดนี่ดีกว่า...ยิ่งโคกิมักดึงโชคร้ายเข้าหาตัวเองแบบไม่ธรรมดาด้วยสิ"

     

     

     

     

     

    ...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!?!...

    ดวงตาสีน้ำตาลใสคลอไปด้วยน้ำตามองซ้ายมองขวาอย่างขลาดกลัว มือทั้งสองข้างถูกมัดไขว้หลังไว้แน่น ขาทั้งสองข้างก็ถูกมัดไว้เช่นเดียวกัน ปากก็ถูกปิดด้วยเทปจนไม่อาจเปล่งเสียงขอความช่วยเหลือจากใครได้ เส้นผมสีน้ำตาลชุ่มโชกไปด้วยหยาดเหงื่อตนจับเป็นก้อนจากความกลัวเมื่อในตอนนี้ตนมาอยู่ในห้องสีเหลี่ยมแค่บๆ แห่งหนึ่ง ที่มีแต่กล่องไม้จนไม่น่าใช่ห้องที่คนจะมาอยู่ได้เลย...ตกลงเขาอยู่ที่ไหนเนี่ย!?

    ฟุริฮาตะ โคกิมองไปรอบๆ ด้วยคำถามที่มีเต็มหัวไปหมด...สิ่งที่เด็กหนุ่มจำได้ล่าสุดคือตนกำลังจะกดน้ำที่ตู้ขายน้ำไปฝากทุกคน แต่แล้วก็มีคนเอาผ้าหอมๆ เย็นๆ มาปิดจมูกตนไว้หลังจากนั้นสติก็ขาดหายไปเสียดื้อๆ ...

    ...จนมารู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่นี่แล้ว

    "ตื่นแล้วเหรอ? ฟุริฮาตะคุง~" เสียงทุ้มๆ ที่ดังขึ้นทำให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลสะดุ้งเฮือก "หว่าๆ อย่าทำท่ากลัวกันแบบนั้นสิ~~~ ที่ตอนปฏิเสธฉันเมื่อวานยังไม่เห็นกลัวเลยนิ~~~"

    "อื้อ!" ฟุริฮาตะมองคนตรงหน้าอยากหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม เมื่อในมืออีกฝ่ายถือมีดเล่มหนึ่งเอาไว้ แต่ครั้นจะขยับตัวหนีก็ไม่ได้เพราะทั้งมือทั้งเท้าถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา...เอาไงดีวะเนี่ย!? จะมัวมานั่งแกะเชือกก็ไม่มีเวลาแล้วด้วย!

    "อย่าคิดดิ้นรนเลยฟุริฮาตะคุง...ในที่นี่นายหนีฉันไม่พ้นหรอกนะ" เด็กหนุ่มแสยะยิ้มอย่างน่าสยดสยอง

    "อื้อ!!!" ฟุริฮาตะหลุดร้องออกมาเมื่ออีกฝ่ายกระชากผมตนอย่างแรง

    "ขอถามหน่อยเถอะว่าทำไม...ทำไมนายถึงปฏิเสธฉันห๊า!?" เด็กหนุ่มถามเสียงเหี้ยม เสียจนฟุริฮาตะสะดุ้งโหยงและพยายามดิ้นหนีตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของตน "หนีไปก็เท่านั้น...ยังไงนายต้องเป็นของฉันในวันนี้!!!"

    "อึก..." ฟุริฮาตะที่ถูกปล่อยลงกระแทกพื้นส่งเสียงครางออกมาเบาๆ จากความเจ็บปวดที่ได้รับ หยาดน้ำใสก็ไหลรินออกมาจากดวงตาเป็นสาย

    "เจ็บเหรอ? แค่นี้เจ็บเหรอฟุริฮาตะคุง..." เด็กหนุ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งราวปีศาจ "...งั้นเตรียมใจไว้เลย...ว่าจากนี้นายจะเจ็บกว่านี้อีกเป็นสิบเท่า!"

    "อ...ฮือ..." ฟุริฮาตะตัวสั่นเทาจากความกลัวที่เกาะกุมไปถึงจิตใจ

    "แหม...สีหน้าของนายไม่ว่าตอนไหนก็น่าดูชมจริงๆ ..." เด็กหนุ่มเอามือลูบใบหน้าของฟุริฮาตะ "...ยิ่งเห็นก็ยิ่งอยากทำลาย...แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ฉันดันมีนัดซะนิ เอาเป็นว่าไว้ฉันกลับมาเมื่อไหร่เดี๋ยวเราจะได้สนุกกันแน่ หึๆ"

    "..." ดวงตาสีน้ำตาลที่คลอไปด้วยน้ำตามองร่างที่ลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากห้องอย่างสับสนสุดๆ

    ...แค่ฉันปฏิเสธรักนายมันทำให้นายบ้าได้ขนาดนี้เลยเหรอ!? ไม่สิ! ต่อให้รับรักไปก็ใช่ว่าจะไม่บ้านี่หว่า!!! ไหงฉันต้องมาเจอคนแบบนี้ด้วยเนี่ย!?! ฮือ...ช่วยฉันทีเถอะ! คุโรโกะ!!!...

    ครืน...ครืน...

    แรงสั่นเบาๆ จากกระเป๋ากางเกงของตนทำให้ฟุริฮาตะสะดุ้งโหยง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตนนั้นใส่มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกง...

    ...ถือยังมีโชคแฮะที่หมอนั่นบ้าขนาดลืมเอามือถือของเขาไปเนี่ย...

    ฟุริฮาตะนินทาคนที่จับตนมาในใจก่อนที่จะหาทางพยายามหยิบมือถือออกจากกระเป๋าตนอย่างทุลังทุเล แต่สุดท้ายก็สามารถดึงมือถือออกมาได้...และเด็กหนุ่มก็ทิ้งมือถือลงกับพื้นเพื่อดูข้อความที่ถูกส่งมา...

    'ฟุริฮาตะคุง...ตอนนี้คุณอยู่ไหนครับ? ถ้ายังปลอดภัยกรุณาส่งข้อความกลับด้วยครับ'

    ...จากคุโรโกะที่ดูเหมือนจะรู้แล้วว่าตอนนี้เขาถูกจับมาเนี่ย

    เมื่ออ่านข้อความจบฟุริฮาตะก็พยายามจิ้มมือถือตนเพื่อเขียนข้อความตอบกลับไปว่า 'ตอนนี้ฉันโดนจับมาขังที่ไหนไม่รู้' และพอส่งไปแบบนี้ไม่ถึงสามวินาทีคุโรโกะก็ส่งข้อความตอบกลับมาทันที

    'งั้นคุณช่วยเปิด GPH ทีครับ แล้วผมจะตามสัญญาณไปช่วยคุณเองและไม่ต้องสงสัยนะครับว่าจะตามไปยังไง เพราะคราวก่อนรุ่นพี่ฮิวงะเอาแอพติดตามตัวลงมือถือคุณน่ะครับ ปล.กรุณาพยายามหาทางหนีด้วยครับ ผมไม่แน่ใจว่าจะไปถึงทันหรือเปล่า'

    ...เขาควรขอบคุณรุ่นพี่ที่แอบเอาแอพติดตามตัวมาลงเครื่องเขาสินะ?...

    ฟุริฮาตะเริ่มปลงกับชีวิตตนเองขึ้นมานิดนึง...ตกลงชีวิตเขาหาความปลอดภัยไม่ได้จนรุ่นพี่ต้องเอาแอพแบบนี้มาติดเครื่องเขาเลยเหรอ?

    ...เรื่องแอพนั้นจะเอายังไงก็ช่างเถอะ...แต่ตอนนี้ขอให้คุโรโกะมาช่วยเร็วๆ เถอะ! ไอ้เชือดบ้านี่มัดแน่ขนาดนี้เขาแกะเองไม่ได้หรอกนะ!!!...

     

     

     

     

     

    "สรุป...ฟุริถูกใครไม่รู้จับตัวไปสินะ?" อิสึกิคุมขมับอย่างเหนื่อยใจเมื่อตนจับรุ่นน้องผมฟ้าของตนกลับมารวมกลุ่มก่อนที่จะทำอะไรบ้าบิ่นแล้วได้รับรู้ข่าวคราวจากรุ่นน้องผมน้ำตาลที่หายไปของตนดั่งนี้

    "เท็ตสึยะ...มันเป็นใคร ฉันจะฆ่ามัน" เด็กหนุ่มผมแดงเอากรรไกรมาตัดฉับๆ ในอาดาศปานจะไปฆาตกรรมใครสักคน

    "อัดมันให้น่วมดีกว่าอาคาชิ...ฆ่ามันไม่สาแก่ใจน่ะ" เด็กหนุ่มผมน้ำเงินเอ่ยต่อพลางหักมือไปมา

    "เอาเลย เดี๋ยวร่วมวงด้วย" เด็กหนุ่มผมเหลืองแสยะยิ้ม

    "ฉันจะทำให้ไอ้บ้านั้นโชคร้ายตลอดชีวิต" เด็กหนุ่มผมเขียวหยิบตำรามนต์ดำ (?) ออกมาจากไหนไม่รู้คล้ายจะสาปแช่งใครสักคน

    "ฉันจะขยี้คนที่แกล้งฟุริจินให้เละเลย" มุราซากิบาระทำหน้าปานไททันอยากกินเนื้อมนุษย์ (?)

    "จะฆ่าจะแกงอะไรก็ช่างมันก่อนเถอะครับ ตอนนี้ไปช่วยฟุริฮาตะคุงออกมาก่อนที่ไอ้บ้านั้นจะทำอะไรฟุริฮาตะคุงดีกว่าครับ" คุโรโกะเอ่ยเตือนสติเพื่อนแต่ล่ะหน่อของตน

    "ว่าแต่คุโรโกะ...ฟุริบอกว่าที่ไหนก็ไม่รู้นิ แล้วเราจะตามไปถูกได้ยังไง?" อิสึกิถามขึ้น...ถ้าบอกให้เดามั่วๆ ล่ะก็เขาว่าคงไปช่วยรายนั้นไม่ทันการณ์แน่

    "ได้สิครับ ก็รุ่นพี่ฮิวงะแอบติดแอพติดตามตัวไว้ในมือถือฟุริฮาตะคุงนี่ครับ..." คุโรโกะอธิบายให้รุ่นพี่ตนฟัง "...ก็ฟุริฮาตะคุงเล่นหลงทางบ่อยๆ นี่ครับ รุ่นพี่ฮิวงะเลยแก้ด้วยวิธีนี่เลย"

    "นี่ฮิวงะเอาจริงเหรอเนี่ย?" อิสึกิถึงกับคุมขมับ...ถึงฮิวงะเคยบอกว่าจะทำ แต่เขาไม่คิดว่าจะทำจริงๆ นิ!

    "จะยังไงก็ช่างเถอะ รีบไปหาโคกิดีกว่า" อาคาชิเอ่ยหลังจากพยายามดึงความสุขุมของตนกลับมาได้

    "โอเค...เชิญนำเลยคุโรโกะ" มิโดริมะที่เก็บตำรามนต์ดำไปแล้วมองที่คนผมฟ้า เชิงบอกว่าให้รีบนำทางไปเร็วๆ หรือไม่ก็ให้เอามือถือมาและตนจะดูทางไปเอง

    "ครับ" คุโรโกะเอ่ยก่อนที่จะ...วิ่งออกไปทันที

    "เฮ้ย! จะวิ่งก็ให้สัญญาณกันสักนิดสิ!" อิสึกิที่เห็นเจ้าของเรือนผมสีฟ้าวิ่งไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยโวยเล็กน้อย และก้าวขายาวๆ ตามคุโรโกะไป

    "นี่เป็นนิสัยถาวรของเท็ตสึยะครับ...กรุณาทำใจเถอะครับ" อาคาชิที่วิ่งตามมาอย่างเคยชินเอ่ย

    "ปกติเท็ตสึก็ทำอะไรโดยไม่ค่อยบอกอยู่แล้วล่ะนะ" อาโอมิเนะอย่างเฉื่อยๆ

    "ยังดีที่คราวนี้ไม่ใช่มิสไดเร็คชั่นล่ะนะ...ไม่งั้นตามไม่ทันแน่" คิเสะเอ่ยอย่างชะลาล่าตามประสา

    "ที่จริงต่อให้ใช้ก็ตามทันอยู่ดี...แค่กว่าจะเห็นว่าไปทางไหนคงอีกนานแค่นั้นแหละ" มิโดริมะมั่นใจเลยว่าพวกสายบุ๋นอย่างคุโรโกะเนี่ยถ้ารู้ว่าจะไปทางไหนก็ตามทันได้ง่ายๆ เลย...เว้นแต่เผลอละสายตาไปอีกรอบจนไม่รู้ว่าไปไหนแล้วอ่ะนะ

    "นั้นสินะ~~~" มุราซากิบาระลากเสียงอย่างเห็นด้วย

    "เฮ้ยๆ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาว่าวิเคราะห์คุโรโกะนะเฟ้ย! ถ้าหมอนั้นเกิดเป็นอะไรขึ้นมาก่อนไปถึงจะบอกพ่อแม่หมอนั้นยังไงกัน!?" มิยาจิแว๊ดใส่เหล่าคนที่ดูจะนอกประเด็นสำคัญไปสักนิด

    "พ่อแม่ฟุริฮาจะพอพูดกันได้ครับ...แต่พี่ของฟุริฮาตะนี่สิ..." มิโดริมะทำหน้าซีดนิดหน่อยเมื่อนึกถึงผู้เป็นพี่ของคนที่ตนแอบชอบอยู่

    "...บราค่อนตัวพ่อชัดๆ" มุราซากิบาระเอ่ยอย่างเสียวสันหลังวาบเมื่อนึกภาพว่ารายนั้นมารู้เรื่องนี้เข้า...อา ทั้งไอ้บ้านั้นทั้งพวกเขาตายแน่

    "รับรองถ้าฟุริเป็นอะไรไปชนิดแก้ต่างให้ไม่ได้ล่ะก็...ได้ไปนอนให้หนอนกินกันหมดแน่" อาโอมิเนะเดาได้เลยว่า...ดีไม่ดีพวกตนอาจไม่เหลือให้หนอนกินก็ได้

    "กลัวว่าจะไม่แค่นั้นน่ะสิ...อาจมีสาปส่งด้วยก็ได้" คิเสะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

    "รายนั้นต่อให้เป็นคนสุดท้ายในโลกฉันก็ไม่คิดจะมีเรื่องด้วยหรอกนะ" อาคาชิเบ้หน้าอย่างหาชมได้ยากยิ่ง

    "...คนที่ทำให้นายกลัวได้เนี่ย สงสัยจะน่ากลัวจริงๆ แฮะ" มายุสุมิบ่นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

    "ชักอยากเห็นหน้าแฮะ" โมริยามะอยากรู้จริงว่าอีกฝ่ายจะหน้าตาเป็นไง

    "หน้าตาก็คล้ายๆ ฟุริฮาตะคุงนั้นแหละครับ แค่โหดกว่ามิยาจิซังสักสิบเท่าแค่นั้นเอง" คุโรโกะเอ่ยหน้าตายอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย

    "...นึกภาพไม่ออกเลย" ฟุคุอิเดาไม่ออกเลยว่าชิวาว่ากลายเป็นก็อตซีล่า (?) มันจะกลายเป็นยังไง

    "เรื่องพี่ฟุริฮาตะเอาไว้ก่อนเถอะ ที่สำคัญคือตอนนี้ใกล้ถึงจุดที่ฟุริฮาตะอยู่หรือยัง?" อิมาโยชิเอ่ยถามขึ้นมาหลังวิ่งกันมาได้สักพัก

    "กำลังจะถึงครับ..." คุโรโกะเลี้ยวหักศอกจนคนอื่นๆ แทบวิ่งเลยไปอีกมาง "...และก็ถึงแล้วครับ"

    "บ้าน...ผีสิง?" คิเสะอ่านทวนป้ายที่ด้านหน้าพวกตน

    "ดูท่ากำลังปิดปรับปรุงด้วย..." มิโดริมะมองป้านที่ติดเด่นหร่าไว้หน้าประตูทางเข้าว่า 'อันตราย ห้ามเข้า' "...ไอ้เจ้าบ้านั้นเข้าใจคิดหาที่ซ่อนจริงๆ ...เอาฟุริฮาตะมาซ่อนในที่แบบนี้เนี่ย"

    "แล้วเราจะเข้าทางไหนดีล่ะ?" มายุสุมิถามพลางมองประตูทางเข้าที่ถูกปิดตาย

    "เข้าทางนั้นไหม? ฉันเห็นว่าไม้ที่ตอกปิดตรงทางออกมันแค่เอามาพาดปิดเฉยๆ น่ะ" อิสึกิชี้ไปที่ประตูทางออกของบ้านผีสิง

    "โอเค...เข้าไปกันเลย" มิยาจิเอ่ยสรุปก็ที่จะพากันเดินเข้าไปในบ้านผีสิงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่สวนสนุกคนไหนจะมาลากพวกตนออกไป

    เด็กหนุ่มนักบาสทั้งหลายพากันเดินไปในความมืดแบบทุลังทุเลสุดๆ เพราะความมืดทำให้แต่ล่ะคนสะดุ้งสิ่งต่างๆ กันไม่ต่ำกว่าสามรอบ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ล่ะความพยายามที่จะตามหาตัวฟุริฮาตะ โคกิเลย จนกระทั่ง...

    ...เดินมาเจอทางตันเนี่ย

    "เรามาผิดทางหรือเปล่าเนี่ย?" อาโอมิเนะขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่แน่นใจ

    "ไม่น่านะครับ ในเมื่อทางมันมีทางเดียว" คุโรโกะเอ่ย

    "เงียบๆ ก่อน...เหมือนฉันจะได้ยินเสียงบ้างอย่าง" อาคาชิเอ่ยเสียงเข้ม เป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบ

    "..." เด็กหนุ่มเงียบเสียงลงทันทีและ...

    กุกกัก...กุกกัก...

    ...ได้ยินเสียงเหมือนอะไรสักอย่างพยายามดิ้นรนพร้อมกับเสียงหัวเราะชวนหลอนจิตดังแว่วมา

    "..." ทุกคนมองหน้ากันนิ่งๆ ก่อนที่จะ...

    โครม!!!

    ...ถีบไอ้สิ่งที่ขวางทางอย่างพร้อมเพรียงกันทุกคนเลย! และเมื่อทุกคนได้เห็นภาพหลังฉากกั้นเมื่อครู่เต็มสองตาก็เริ่มออกอาการอยากตื้บคนทันที

    "นีคิดจะทำบ้าอะไรห๊า!?!"

     

     

     

     

     

    ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้...

    ...ไอ้เชือกบ้านี้ทำไมมัดแน่นจังวะ!?...

    ความคิดที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดลอยเข้ามาในหัวอย่างไม่ขาดสายเมื่อเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลพยายามดิ้นกระแด๊กๆ ปานปลาเกยตื้นอยู่นานสองนานแล้ว แต่เชือกที่มัดมือมัดเท้าตนก็กลับไม่คลายออกเสียที

    ...ถ้าเจ้าบ้านั้นกลับมาก่อนจะทำไงเนี่ย!?...

    ฟุริฮาตะมองประตูตรงข้ามตนอย่างหวั่นๆ และภาวนาให้คนที่จีบตนมาไปตกหลุม ตกท่อหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้อีกฝ่ายไม่กลับมานี่ในเร็วๆ นี่ แต่...

    แอ๊ด...

    ...หลังจากที่คิดไม่ถึงสามวิเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพอดีราวกับแกล้งกัน (ก็เธอจงใจแกล้งฉันอยู่แล้วนิ? // ฟุริฮาตะ , อย่าทำหน้าปลงเหลือหลายสิตัวเธอ...เดี๋ยวหน้าเหี่ยวนะ // s)

    "ไง...ฟุริฮาตะคุง~~~ ระหว่างที่ฉันไม่อยู่นี่เหงาหรือเปล่า?" เด็กหนุ่มหน้าผี (?) เดินเข้ามาพร้อมกล้องวิดีโอในมือ

    ...ไม่เลยสักนิ!...

    ฟุริฮาตะปฏิเสธในใจพลางพยายามดิ้นออกห่างอีกฝ่าย

    "หว่าๆ อย่าหนีสิ..." เด็กหนุ่มแสยะยิ่มและเริ่มเดินไปหาฟุริฮาตะ "...มาสนุกกันเถอะน้าาาา ฟุริฮาตะคุง~~~~"

    ...สนุกกะผีสิ! ไปตายที่ไหนก็ไปเลย!...

    ฟุริฮาตะสาปแช่งอีกฝ่ายพร้อมยกเท้าถีบคนที่บัดนี้มานั่งข้างๆ ตนแล้ว

    "อ่ะอ๊า...อันตรายๆ" เด็กหนุ่มคว้าขาฟุริฮาตะได้อย่างทันทวนที "อย่าดิ้นนักสิ...เดี๋ยวฉันก็อดใจไม่ไหว รุนแรงกับนายหรอก"

    ...แล้วไอ้ก่อนหน้านี้ไม่รุนแรงตายล่ะ ไอ้คนผีเข้าผีออกเอย!...

    ในยามนี้ฟุริฮาตะชักอยากเป็นคุโรโกะที่อยู่นิ่งๆ ก็สามารถโดนมองข้ามได้อย่างง่ายดายแล้วสิ!

    "เอาล่ะ...มาเริ่มกันเถอะเนอะ" เด็กหนุ่มเอากล้องวิดีโอไปวางบนกล่องไม่ใกล้ๆ และ...ฉีกกระชากเสื้อของฟุริฮาตะจนขาทันที!

    "อื้อ!?" ฟุริฮาตะหลุดร้องออกมาด้วยความตกใจพร้อมดิ้นหนีอีกฝ่าย

    "หนีไม่รอดหรอกนะ~~~" เด็กหนุ่มจับตัวฟุริฮาตะมานั่งบนตักตนและหันหน้าเข้าใส่กล้อง "อย่าดิ้นมากสิ...เดี๋ยวภาพไม่สวยหรอก~~~"

    "อื้อ~~~" ฟุริฮาตะดิ้นพร่านๆ ราวกับกุ้งถูกน้ำร้อนลวด ยิ่งยามเมื่อมืออีกฝ่ายลูบไล้ไปตามร่างกายตนยิ่งทำให้ความหวาดกลัวเกาะกุ่มไปทั่วทั้งจิตใจ หยาดน้ำตาเริ่มไหลรินอีกครั้ง กายทั้งกายสั่นเทาอย่างไม่อาจห้าม

    "รู้สึกดีใช่ไหมล่ะ? ฟุริฮาตะคุง~~~" เสียงของคนด้านหลังทำให้ฟุริฮาตะรู้สึกขนลุกปานโดนผีอาฆาต แถมยังมีเสียงหัวเราะเพิ่มความหลอนเป็นเอฟเฟรเสริมอีก

    ...ดีกับผีสิฟะ! ไอ้บ้า!!!...

    ...ฮือ...ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!...

    โครม!!!

    ราวกับสวรรค์ได้ยินคำขอของฟุริฮาตะ เมื่อกำแพงด้านข้างนั้นถล่มลงมาพอดีราวกับมีคนทุบ (ที่จริงคือสามัคคีถีบต่างหาก // s)

    "นี่คิดจะทำบ้าอะไรห๊า!?" เสียงตวาดหลากเสียงที่แสนจะคุ้นหูดังขึ้น และในไม่กี่วิต่อมาฟุริฮาตะก็ถูกมือใหญ่ยักษ์ของคนผมม่วงฉุนขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนอย่างง่ายดายปานเจ้าตัวเป็นเพียงตุ๊กตา ขณะที่เด็กหนุ่มที่ริอาจทำตัวเป็นโจรลักพาตัวก็โดนสหบาทาจากเด็กหนุ่มหัวหลากสีจากอดีตรุ่นปาติหาริย์ไปตามระเบียบ

    "ไม่เป็นไรนะ? ฟุริจิน..." เด็กหนุ่มร่างยักษ์เอ่ยถามพลางแกะเทปที่ปิดปากฟุริฮาตะออก...ที่จริงเขาอยากไปร่วมด้วยช่วยตื้บกับคนอื่นๆ ล่ะนะ  แต่เขาโดนอาคาจินบอกให้ดูแลฟุริจินอ่ะ

    "...มุราซากิบาระ?" ฟุริฮาตะมองเด็กโข่งผมม่วงด้วยแววตาสั่นไหว "ฮือ~~~"

    "ฟ...ฟุริจิน!?" มุราซากิบาระถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่ออยู่ๆ อีกฝ่ายร้องไห้ในอ้อมแขนตน และด้วยความที่ไม่รู้ว่าควรทำยังไงจึงใช้แขนยาวๆ ของตนโอบกอดร่างที่สั่นเทาเอาไว้ "โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ พวกฉันอยู่นี่แล้ว...ไม่ยอมให้ใครทำอะไรฟุริจินหรอก"

    "ใช่...ไม่มีใครทำอะไรนายได้แล้วล่ะ..." อิสึกิเดินมาตบบ่าฟุริฮาตะเบาๆ "...ไม่ต้องห่วงนะ...เดี๋ยวฉันจะทำให้หมอนั้นกลับมาราวีไม่ได้อีกเลย"

    "เออ...อิสึกิคุง..." โมริยามะยิ้มแห้งๆ เพราะรู้ว่าลักษณะการพูดแบบนี้ของอีกฝ่ายหมายความว่า...โกธรถึงขีดสุดแล้วล่ะ "...อย่าทำให้ถึงตายล่ะ"

    "จะพยายามครับ" อิสึกิยิ้มเหี้ยมๆ ก่อนที่จะไปร่วมวงตื้บกับเหล่ารุ่นปาติหาริย์

    "...ที่เขาว่าคนใจดีเวลาโกรธน่ากลัวท่าจะจริงแฮะ" มิยาจิที่อดขนลุกไม่ได้เอ่ยออกมา

    "จริงแท้แน่นอนที่สุด" ฟุคุอิเอ่ยพลางลูบหัวลูบหางฟุริฮาตะไป

    "ตายของแท้แน่...หมอนั่น" อิมาโยชิเหงื่อตกนิดๆ

    "เตรียมขุดหลุมให้หมอนั่นเถอะ" มายุสุมิมั่นใจเลยว่า...ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตชัวท์

    "ดันทำตัวเองนิ ช่วยไม่ได้" มุราซากิบาระเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่คิดจะช่วยคนโดนตื้บเลยด้วยน้ำเสียง...สุดแสนของสุดแสนเย็นชา

    "ก็จริง" อิมาโยชิไม่เถียงหรอกว่ามันทำตัวเองแต่...

    ...แบบนี้เขาจะโดนข้อหาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการฆาตกรรมไหมเนี่ย!?...

    "ไม่ต้องห่วงหรอกอิมาโยชิ..." มิยาจิที่ดูเหมือนจะเดาสีหน้าอิมาโยชิออกตบบ่าอีกฝ่ายเบาๆ "...พวกนี่ไม่ยอมให้เจ้าบ้านั้นตายง่ายๆ หรอก รับรองก่อนตายมิโดริมะมันจะช่วยนิดหน่อยก่อนส่งโรงบาลเพื่อให้มั่นใจว่าไม่ตายระหว่างทางแน่...แบบให้ทรมาณไปอย่างช้าๆ ระหว่างรักษามากกว่า"

    "...อย่างนี้มันน่ากลัวกว่าตายอีกมั้งเนี่ย" ฟุคุอิเบ้หน้า...ตอนนี้เขากล้าสาบานในที่นี่เลยว่า...

    ...ต่อให้จ้างกี่ล้านเขาจะไม่ทำให้เจ้าพวกนี่ร่วมมือตื้บเขาแน่!!!...

     

     

     

     

     

    หลังจากที่ตื้บคนโรคจิต (?) จนพอใจแล้วเหล่าเด็กหนุ่มทีมบาสทั้งหลายก็เรียกรถพยาบาลพร้อมรีบเผ่นออกจากสถานที่ที่พวกตนเพิ่งอัดคนอื่นซะน่วมอย่างทันทวนทีแบบไม่มีใครรู้แน่ว่าพวกตนคือคนร้าย (?)

    เด็กหนุ่มทั้งหลายแอบอยู่แถวๆ นั้นสักพักเพื่อสังเกตว่ารถพยาบาลมาลากศพ (?) คนโดนตื้บไปหรือยังและพอเห็นว่ารายนั้นถูกนำขึ้นรถพยาบาลไปแล้ว ก็พากันเดินออกจากสวนสนุกกัน...โดยจุดหมายต่อไปคือการนำฟุริฮาตะไปส่งบ้านนั้นเอง

    "ตกลง...หมอนั่นไม่ตายแน่นะ?" เสียงถามที่ติดสั่นนิดๆ ดังออกมาจากปากของโมริยามะที่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าด้วยอาการสยองหน่อยๆ "ฉันยังไม่อยากโดนผีอาฆาตนะ"

    ...ถึงแม้เอาส่งโรงพยาบาลแล้วก็เถอะ...แต่สภาพเนี่ยไม่น่ารอดเลย!!! นี่คงไม่มีอยู่ๆ มีตำรวจมาลากพวกเขาเข้าคุกข้อหาฆาตกรรมนะ!? ถึงจะออกห่างจากที่เกิดเหตุ (?) มากแล้วก็เถอะ...

    "ยังไม่ตายแน่นอนครับ วางใจได้เลยโมริยามะซัง" อิสึกิส่งยิ้มบางๆ ให้อย่างอารมณ์ดีที่ได้ตื้บคน (?)

    "ถึงตายจริงๆ ก็ลองมาสิ...พ่อจะเอากรรไกรปัดหัวให้ดู" อาคาชิเอ่ยอย่างหัวเสีย

    "เดี๋ยวแถมสาปส่งด้วยเอ้า" มิโดริมะขยับแว่นตนอย่างเคยชิน

    "ใช่ๆ ถ้ามาอีก...ต่อให้เป็นผีก็จะขยี้ให้เละเลยยยยย" มุราซากิบาระเอ่ยขณะที่ในมือนั้นยังอุ้มร่างผมสีน้ำตาลที่เหนื่อยจนหลับไปอย่างสบายๆ "ฉันไม่ยอมให้ใครแกล้งฟุริจินอีกแน่~~~"

    "เฮอะ! ลองมีมาสิ...จะส่งสายด่วนถึงนรกให้!" อาโอมิเนะแค่นเสียงออกมา พร้อมลูบแขนตนไปมาอย่างหนาวนิดๆ เพราะเสื้อแขนยาวของตนนั้นในตอนนี้ถูกนำไปสวมให้คนที่กำลังหลับอยู่

    "อย่าเสียงดังนักสิอาโอมิเนจจิ...เดี๋ยวฟุริฮาตัจจิก็ตื่นหรอก" คิเสะเอ่ยเตือนเพื่อนตน

    "เออๆ โทษที...ลืม..." อาโอมิเนะยอมทำตามอย่างว่าง่าย

    "...ถ้าวากามัตสึมาเห็นนายยอมง่ายๆ แบบนี้คงตะโกนออกมาว่า 'นี่มันอาโอมิเนะตัวปลอมแน่ๆ!' เลยแหง" อิมาโยชินึกภาพออกเลยและ...หลังจากนั้นจะตามด้วยความวุ่นวายในทีมตนอย่างช่วยไม่ได้เลยล่ะ

    "ถ้าฮิมุโระมาเห็นมุราซากิบาระยอมอุ้มฟุริอย่างเดียวโดนไม่กินขนมเลยก็คงประมาณเดียวกันแหละ" ฟุคุอิยักไหล่

    "เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ...ตอนนี้ช่วยกันคิดเถอะครับว่าจะอธิบายพี่ชายฟุริฮาตะคุงยังไงดี..." คุโรโกะเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางเคร่งเครียด "...รับรองว่ารายนั้นไม่ปล่อยเราหนีง่ายๆ แน่ครับ และพวกคุณคงไม่คิดแค่ส่งฟุริฮาตะคุงกลับบ้านเฉยๆ ด้วยใช่ไหมครับ?"

    "แหงสิ...ฉันต้องเห็นว่าโคกิสบายดีกับตาก่อน ไม่งั้นฉันไม่ยอมไปไหนแน่" อาคาชิยิ้มนิดๆ

    "แต่ปัญหาคือต้องโดนเคียวซังซักก่อนสินะ..." มิโดริมะเบ้หน้าเล็กน้อย

    "เคียว? ชื่อของพี่ชายฟุริฮาตะคุงเหรอ?" โมริยามะถามขึ้นมาอย่างอยากรู้อยากเห็น

    "ใช่ครับ" คิเสะพยักหน้ารับ

    "นั้นใช่ประเด็นที่ต้องสนใจไหมวะ!? โมริยามะ!" มิยาจิตบหัวเพื่อนในก๊วนหล่อเสียของ (?)  อย่างอดไม่ได้ "นี่ตกลงพี่หมอนี่สยองมากสิ? พวกนายดูจะทั้งเกรงทั้งกลัวรายนั้น่าดู"

    "..." ทุกคนในทีมปาติหาริย์มองหน้ากันเองเหมือนกำลังเกลี่ยกันตอบ

    "เอ้าๆ! รีบๆ ตอบสิฟะ!" มิยาจิขมวดคิ้วมองแต่ล่ะหน่อ...ยิ่งเห็นแบบนี้ยิ่งอยากรู้เฟ้ย!

    "เออ...เอาเป็นว่าดูเองเถอะครับ อธิบายยาก" ในท้ายที่สุดมิโดริมะก็โดนยัดเยืยดให้เป็นคนตอบไป

    "...ฉันนึกภาพพี่ฟุริไม่ออกเลยแฮะ...เล่นทำท่าเหมือนสยองกันแบบนี้เนี่ย" อิสึกิแปลกใจจริงๆ กับแต่ล่ะคนที่ดูไม่อยากตอบคำถามเท่าไหร่นัก

    "เคียวซังเขา...ว่าไงดีล่ะ นิสัยออก..." อาคาชิยิ้มแห้งๆ อย่างหาชมได้ยากยิ่ง "...เพี้ยนนิดๆ น่ะ"

    "โหดด้วย" คิเสะเอ่ยด้วยอาการขนลุกนิดๆ

    "ส่งรังสีชวนสยองได้ด้วย" อาโอมิเนะเบ้หน้า

    "เดาความคิดยากสุดๆ ด้วย" มิโดริมะทำหน้าเหมือนอยากยกลักกี้ไอเทมมาสักลังเพื่อกันโชคร้ายลอยมาหา

    "แรงยังกับช้าง" มุราซากิบาระกรอดตาไปมา

    "แถมเป็นคนที่ผมใช้มิไดเร็คชั่นไม่ได้ผลด้วยครับ" คุโรโกะสีหน้าหม่นหมองลง

    "...กลัวกันออกนอกหน้าขนาดนี้ยังอุตสาห์คิดจีบน้องเขาเนอะ" มายุสุมิเอ่ย...นี่พวกมันกะกลัวพี่เขยตั้งแต่ก่อนแต่ง (?) เลยเหรอวะ?

    "เพื่อฟุริฮาตะคุง / ฟุริฮาตะ / ฟุริ / โคกิ / ฟุริฮาตัจจิ / ฟุริจินทำอะไรก็ยอมครับ!!! / เฟ้ย!!!" ทุกคนในรุ่นปาติหาริย์ตอบกลับพร้อมกันจนมายุสุมิผงะเล็กน้อย "...ถึงตอนนี้ยังไม่กล้าบอกก็เถอะ"

    "ดูรักจริงหวังแต่งจริงพวกนาย" ฟุคุอิส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ "ว่าแต่...ใกล้ถึงบ้านฟุริยัง?"

    "ไม่ใกล้หรอก..." มุราซากิบาระเอ่ยด้วยหน้าซีดๆ "...ถึงแล้วต่างหาก"

    "หื้อ? ร้านขายของโบราณ?" เด็กหนุ่มม.ปลายปีสองหนึ่งคนกับปีสามอีกห้าคนมองป้ายร้านอย่างงุนงง

    "บ้านฟุริเป็นร้านขายของเหรอเนี่ย?" อิสึกิถึงแม้ตะเคยได้ยินว่าบ้านฟุริฮาตะทำกิจการบางอย่าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเปิดเป็นร้านแบบนี้

    "ครับ..." คุโรโกะกลืนน้ำลายอย่างฝืนคอ "...ใครจะเป็นหน่วยกล้าตายครับ? ถ้าให้เดา...เห็นฟุริฮาตะคุงในสภาพนี่ปุ๊บระเบิดลงปั๊บแน่ครับ"

    "อื้อ...เป่ายิ้งฉุบไหม?" มิโดริมะเสนอดู

    "จะยุงยากทำไมเล่า...มา! เดี๋ยวฉันเข้าไปให้" มิยาจิเสนอตัวเองด้วยความรำคาญปนกับอยากรู้ว่าคนที่ทำให้รุ่นน้องผมเขียวของตนเกรงได้ขนาดนี้ เจ้าตัวเปิดประตูร้านเข้าไปตามปกติคนทั่วไป ก่อนที่ขมวดคิ้วเมื่อ...ไม่เห็นมีผู้ใดอยู่ในร้านเลย "ขอโทษครับ! มีใครอยู่ไหมครับ!?"

    "อยู่ครับ!" เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้มิยาจิสะดุ้งโหยงและมองหาต้นเสียง...แต่ไม่พบใครเลย

    "...บ้านนี่คงไม่มีใครจืดจางแบบนายใช้ไหม?" มิยาจิหันไปถามคุโรโกะ

    "ไม่มีครับ" คุโรโกะที่...แอบหลังมุราซากิบาระตะโกนตอบ

    "หื้อ? เสียงนี่เสียงนายจืดจางคนนั้นนี่นา..." เสียงเดิมดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับ...

    "เฮ้ย! กำแพงขยับได้!?" ...กำแพงที่ตรงข้างๆ มิยาจิเริ่มขยับดุ๊กดิ๊ก

    "ก็ขยับได้สิ...คนนะครับ ไม่ใช่รูปปั้น" รูปร่างกำแพงเมื่อครู่ค่อยๆ ถล่มยวงลง...และถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ากำแพงเมื่อครู่เป็นแค่ผ้าผืนหนึ่งเท่านั้น

    "..." มิยาจินิ่งอึ้งกับคนที่อยู่ๆ โผล่ข้างๆ ตน ที่สำคัญ...คนที่โผล่มานี่หน้าตาเหมือนฟุริฮาตะ โคกิราวกับฝาแฝด! ที่ต่างกันมีแค่ความสูงที่สูงกว่ามากแค่นั้นเอง!!! "ไปแอบอะไรในกำแพงล่ะนั้น!?"

    "ไม่ได้แอบสักหน่อย แค่ยื่นเฉยๆ ..." ชายหนุ่มตอบ ก่อนที่จะเบิกตากว้างเมื่อมองออกไปนอกร้านและพบกับ... "โคกิ!? เกิดอะไรขึ้น!?"

    "อะจึ๋ย! เคียวซังใจเย็น!" มุราซากิบาระถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อเจอสายตาเย็นเฉียบราวน้ำแข็งของชายหนุ่ม

    "นี่แกคงไม่ได้ทำอะไรน้องฉันใช่ไหม?" นายฟุริฮาตะ เคียวเอ่ยถามเสียงเหี้ยมปานฆาตกรโรคจิต

    "ฉันไม่ได้ทำอะไรฟุริจินนอกจากอุ้มมานี่เลยนะ!" มุราซากิบาระรีบปฏิเสธทันควัน...แต่ดูท่าช้าไปนิด เพราะปอยผมสีม่วงของตนหลุดเพราะมีดบิน (!?) จากมือชายหนุ่มผมน้ำตาลไปแล้ว

    "แน่ใจ?" เคียวควงมีดเล่นอย่างน่าสยอง

    "จริง!" มุราซากิบาระพยักหน้ารับทันที ก่อนที่จะไปหลบหลังคนผิวเข้ม

    "เฮ้ยๆ! อย่าเอาฉันเป็นโล่สิ! คิดว่าตัวเองเล็กๆ หรือไง!?" อาโอมิเนะโวยลั่นใส่คนที่มาหลบหลังตน...ที่ไม่ใช่แค่คนผมม่วง แต่เป็นยกก๊วนเลย!

    "อย่างน้อยฉันตัวเล็กกว่าพวกนายแล้วกัน" อาคาชิสวนกลับทันทีด้วยความรู้สึกโชคดีเป็นครั้งแรกที่ตนสูงเท่านี้

    "ใช่เลยครับ" คุโรโกะเอ่ยสนับสนุน

    "ถูกต้องที่สุด" คิเสะก็ไม่น้อยหน้าคนอื่น

    "นายหนังหนาคงไม่เป็นไรหรอก" มิโดริมะเอ่ย

    "อย่างน้อยก็ป้องกันได้หน่อยนึงล่ะ" มุราซากิบาระพูดออกมาพร้อมดันอาโอมิเนะไปด้านหน้าด้วย

    "เฮ้ยๆ ชักท่าไม่ดีแล้วสิ...พวกนายมาช่วยจับหมอนี่เร็ว!" มิยาจิจัดการล็อกแขนเคียวไว้

    "โอเคๆ!" ฟุคุอิจับขาขวาชายหนุ่ม

    "ตายๆ ...ถ้าคิเสะเป็นอะไรล่ะก็คาซามัตสึฆ่าฉันแหง" โมริยามะเกาะแขนซ้ายอีกฝ่ายราวกับปลิง

    "ผมว่านั้นไม่ใช่เรื่องน่าห่วงตอนนี้นะครับ!" อิสึกิเกาะที่ขาซ้ายหนึบ

    "ใจเย็นๆ ...ฆ่าคนผิดกฏหมายนะ" อิมาโยชิรัดแขนขวาชายหนุ่ม

    "..." มายุสุมิไม่พูดอะไร แต่เกาะเอวคนตัวสูงกว่าตนไว้แน่น

    "ปล่อยฉัน!" เคียวกัดฟันกร็อดพร้อมลากขาไปหาเหล่าอดีตทีมปาติหาริย์แม้มีแต่ล่ะหน่อที่เกาะอยู่ตนไปด้วยก็ตาม

    "แรงคนเหรอฟะ!?" มายุสุมิสบลเบาๆ ...เขามั่นใจว่าพวกเขาแต่ล่ะคนไม่ใช่พวกเบาๆ กันแน่! และหมอนี่ตัวก็ไม่ใหญ่แต่ไหงลากพวกเขาได้ล่ะเนี่ย!?

    "ซวยๆๆๆๆๆ ตายแน่ๆๆๆๆ" อาโอมิเนะยืนแข็งโป๊กอย่างไม่รู้จะทำไง

    "..." อาคาชิพยายามมุดหลบหลังอาโอมิเนะเต็มที่ เช่นเดียวกับคุโรโกะและคิเสะ

    "วันนี้ฉันน่าจะเอาโล่มาด้วย" มิโดริมะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

    "ฉันควรสวดให้ตัวเองบทไหนดีอ่ะ? มิโดจิน?" มุราซากิบาระเดาได้เลยว่ารอบนี้ตนรอดยาก เว้นแต่...

    "เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?" ...ตัวช่วยที่แสนสำคัญตื่นมาได้จังหวะพอดี!

    "ฟุริจินนนนน!!! ช่วยด้วยยยย!!!" มุราซากิบาระที่อุ้มฟุริฮาตะอยู่ร้องไห้น้ำตาแตกทันที...ฮือ! รอดแล้วเขา!

    "เดี๋ยวๆ มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?..." ฟุริฮาตะเกาหัวอย่างงงๆ ก่อนที่จะหันไปยังชายหนุ่มผู้มีคนเกาะเป็นปลิงเต็มตัว "...พี่กับพวกรุ่นพี่ทำอะไรอยู่ครับเนี่ย?"

    "เปล๊า!" เคียวขึ้นเสียงสูงพร้อมเก็บมีดบินทั้งหลายในพริบตา "และพี่ต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายถาม...นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ไหงโดนเจ้าพวกนี้อุ้มกลับมาได้ล่ะ?"

    "ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่คิดมากไปเอง" ฟุริฮาตะเอ่ยพร้อมกรอดตาไปมา

    "โคกิ...พี่ยืนยันคำเดิมนะว่าน้องโกหกได้ห่วยมาก" เคียวเอ่ยพลางพยายามแงะแต่ล่ะคนที่เกาะตนอยู่ออก...เสียแต่ทุกคนกลับเกาะแน่นปานหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับเขาไปแล้ว "พวกนายเลิกเกาะได้แล้วโว้ย!!!"

    "ไม่..." มายุสุมิตอบกลับหน้าตาย "...ถ้าปล่อยมีแววมีดบินได้เฉาะหัวไอ้พวกนั้นแหง"

    "มีดบิน?" ฟุริฮาตะคิ้วกระตุกนิดๆ "พี่..."

    "แฮะๆ..." เคียวเริ่มเหงื่อตก "...โทษที ของขึ้นไปนิด"

    "พี่นี่มัน..." ฟุริฮาตะโดดลงจากแขนมุราซากิบาระ พร้อมเดินเข้าหาเคียวอย่างช้าๆ "...พี่นี่มันบ้าที่สุดเลย!!! บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าเอามีดมาปาเล่นน่ะ! จำบ้างสิครับ!"

    "แอ๊ก! พี่ขอโท้ดดดดดดดด!!!"

     

     

     

     

     

    "ขอโทษแทนพี่ด้วยนะครับ" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลยิ้มแห้งๆ ให้แต่ล่ะคนในที่นี่ที่เดือดร้อนจากการกระทำของพี่ตน

    "ไม่เป็นไรหรอก..." มิยาจิตอบกลับไปด้วยอาการ...สมองไม่ทำงานนิดๆ

    ในตอนนี่ทุกคนต่างเข้ามาภายในบ้านของฟุริฮาตะกันหมดด้วยอาการตัวหลีบกันเป็นแถว ขณะที่ฟุริฮาตะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังอย่างจำยอมเพื่อกันไม่ให้พี่ตนไปเค้นคอกับพวกคุโรโกะพลางทำแผล...ที่เกิดจากฝีมือตนเองให้พี่ตนไป

    "ที่เขาว่าคนเรามักมีจุดอ่อนอยู่อย่างสองอย่างท่าจะจริงแฮะ" มายุสุมิมองตาปริบๆ ไปทางคนที่น่ากลัวปานปีศาจก่อนหน้านี้สยบต่อหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นชิวาว่าอย่างง่ายดาย

    "จริงแท้แหงๆ" มิยาจิเบ้หน้านิด "นี่สินะ...ที่ทำให้พวกนายหลอนกัน?"

    "ใช่สิครับ หรือมิยาจิซังไม่หลอน?" มิโดริมะถามกลับ

    "ออกไปทางชวนเหวอมากกว่า" มิยาจิยอมรับว่าเหวอจริงๆ กับนายฟุริฮาตะเคียวเนี่ย

    "แต่ไม่คิดเลย...ว่าฟุริจะตื้บคนเป็นด้วย" อิสึกินึกย้อนไปก่อนหน้าที่ทั้งถีบทั้งต่อยทั้งเข้าชาร์ทเคียวได้อย่างง่ายดาย

    "ที่จริงโคกิกับเคียวซังฝีมือพอกันนั้นแหละครับ แต่โคกิมักเอ๋อกับขี้ใจอ่อนไปหน่อยเลยโดนคนอื่นเล่นงานเอาง่ายๆ น่ะครับ" อาคาชิตอบกลับไป

    "ถูกเผง..." เคียวที่สภาพน่วมสนิกพยักหน้ารับ "...ถ้าตัดนิสัยขี้ใจอ่อน ขี้กลัว ความรู้สึกช้ากับความเอ๋อเฉพาะตัวออกเนี่ย รับรองไอ้บ้านั้นไม่ทันได้แตะต้องโคกิหรอก"

    "...สรุปตัดดนิสัยชิวาว่าออกว่างั้น" มายุสุมิเอ่ยสรุปง่ายๆ สั้นๆ

    "ง่ะ! ผมไม่ใช่ชิวาว่านะครับ! มายุสุมิซัง!" ฟุริฮาตะโวยเล็กน้อยด้วยความเคยชิน (?)

    "ไม่ใช่แต่ใกล้เคียงนะ" ฟุคุอิส่ายหน้านิดๆ "จะว่าไป...นายมีพี่ชายสองคนเหรอ?"

    "เอ๊ะ? ไม่นิ ผมมีพี่ชายคนเดียว" ฟุริฮาตะทำหน้างงๆ กับคำถามของฟุคุอิ "พี่พาเพื่อนมาบ้านเหรอ?"

    "เปล่า..." เคียวส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนที่จะเบนสายตามองที่คนผมทอง...กันทั้งกลุ่มเลย "...นายถามทำไม?"

    "เมื่อกี้เห็นคนยืนส่ายหน้าเหมือนปลงที่ประตูน่ะครับ" ฟุคุอิตอบ

    "บ้าน่า...ก็ตอนนี้ฉันอยู่บ้านกับโคกิแค่สองคน พ่อแม่กว่าจะกลับมาก็เดือนหน้านู้น..." เคียวขมวดคิ้วในขณะที่ทุกคนภายในห้องเริ่มกระดึบๆ ไปเกาะฟุริฮาตะกัน "...คงไม่ใช่ว่า...ไอ้เจ้านั้นนะ?"

    "ถ้าให้ผมเดา...คิดว่าใช่นะครับ" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ ด้วยอาการเหงื่อตกนิดๆ ...เนื่องจากหนักแต่ล่ะหน่อที่มาเกาะตนนั้นเอง

    "เฮ้ๆ ฟุริ...พูดถึงอะไรอ่ะ? คงไม่ใช่..." อาโอมิเนะที่หน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัดมองไปรอบๆ

    "ไม่ต้องห่วง...ไม่ใช่ผีหรอก ถ้าเป็นผีล่ะก็ฉันเผ่นไปนานแล้ว" ฟุริฮาตะเอ่ยเหมือนรู้ทันในความคิด

    "งั้นหมายถึงอะไรล่ะ?" อาคาชิที่เนียนเกาะฟุริฮาตะกับคนอื่นถามขึ้นมา

    "หมายถึงเพื่อนพี่น่ะ...เป็นคนที่พี่เกรงใจมาก แถมมีแววได้เป็น 'พี่เขย' ฉันอีกต่างหาก" ฟุริฮาตะพูดแบบติดขำนิดๆ

    "พี่เขย...ผู้ชายเหรอ?" คิเสะทวนอย่างงงๆ

    "พี่เขยคงผู้หญิงมั้ง? ที่ถามเนี่ยใช้สมองเปล่าเนี่ย?" มิโดริมะค้อนใส่คิเสะไปทีหนึ่ง

    "ว่าที่พี่เขยของฟุริฮาตะคุงเป็นคนยังเหรอครับ?" คุโรโกะเอ่ย...หวังว่าไม่โหดบรรลัยแบบนี้นะ ไม่งั้นได้คู่หูคู่โหด (?) มาแน่

    "โยชิกิซังน่ะเหรอ?" ฟุริฮาตะเอียงคอน้อย "ก็เป็นคนจริงจัง อบอุ่นและเป็นมิตรกับทุกคนน่ะ...ถึงจะมียันแตกนานๆ ครั้งก็เถอะ"

    "ฟังดูเป็นคนดีนิ..." โมริยามะเกาหัวนิดๆ "...แต่ทำไมลักษณะกับชื่อคุ้นๆ หูหว่า?"

    "ก็จะไม่คุ้นได้ไงล่ะ..." เสียงหนึ่งดังขึ้นมานิ่มๆ ทุ้มๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังเด็กหนุ่มทั้งหลายทำเอาทุกคนภายในห้องสะดุ้งเฮือก "อ้าว? ตกใจเหรอ...โทษทีๆ ไม่ได้ตั้งใจน่ะ"

    "อา...ครับ" เด็กหนุ่มทั้งหลายขานรับอย่างเอ๋อๆ ...โดยเฉพาะโมริยามะกับเคียวที่ดูจะทั้งเอ๋อกินทั้งอึ้งเลย กับชายหนุ่มผมสีดำเหลือบเขียวคนหนึ่งที่โผล่มาจากไหนไม่รู้

    "ก...แก..." เคียวชี้นิ้วสั่นๆ ไปที่ชายหนุ่ม  "...เข้ามาทางไหนวะ!? ไอ้โยชิกิ!"

    "เดินเข้ามาทางหน้าบ้านน่ะ พอดีเห็นว่าไม่ได้ล็อก..." โยชิกิยิ้มบางๆ ให้เคียวราวพ่อพระ ก่อนที่จะหันไปหาโมริยามะ "...จะว่าไปไม่ยักรู้ว่านายรู้จักเคียวเลยนะ โยชิทากะ"

    "ก็รู้จักวันนี้แหละ..." โมริยามะเบ้หน้านิดๆ "...แต่ผมไม่คิดเลยว่าคนที่มีแววเป็นพี่เขยฟุริฮาตะคุงจะเป็น 'พี่' เนี่ย"

    "ฮาๆ โคกิว่างั้นเหรอ?" โยชิกิหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

    "เดี๋ยวก่อน...นี่นายเป็นพี่หมอนี่?!" เคียวถึงกับหน้าเหวอ...ตายๆ ถ้ามันรู้ว่าเกือบเขวี้ยงน้องมันทิ้งมันจะยันแตกไหมวะ?

    "ใช่...โยชิทากะเป็นน้องฉัน" โยชิกิพยักหน้ารับ "มีอะไรหรือเปล่า?"

    "เปล่า..." เคียวเบ้หน้าหนี

    "งั้นช่างเถอะ..." โยชิกิที่ไม่คิดจะถามอะไรต่อหันไปคุยกับน้องตน "...จะว่าไปวันนี้นายบอกว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนนิ? ไหงมาสรุปลงที่บ้านเคียวได้ล่ะ?"

    "พอดีมีเรื่องนิดหน่อยอ่ะนะ" โมริยามะยิ้มแห้งๆ ให้เพื่อนตน

    "แล้ว...โยชิกิซังมาบ้านผมทำไมเหรอครับ?" ฟุริฮาตะถามขึ้นเมื่อเห็นโมริยามะส่งสายตา sos มาให้...เพราะดูท่าไม่อยากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนัก ซึ่งแน่นอนฟุริฮาตะก็ไม่อยากพูดถึงมันเป็นครั้งที่สองเช่นกัน

    "อ๋อ~ มาลากเคียวไปเคลียร์งานกับอาจารย์น่ะ โดดมาหลายงวดแล้ว..." โยชิกิเอ่ยพร้อมพุ่งไปจับล็อกคอเคียวทันที "...อย่าหนีสิ...เดี๋ยวโดนปรับตกหรอกถ้านายไม่ไปแก้งานวันนี้เนี่ย"

    "ให้มันตกไป! แล้วแกไปห่างๆ ฉันเลย!" เคียวโวยด้วยใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีแดงนิดๆ

    "ได้ที่ไหนล่ะ..." โยชิกิถอยหายใจเบาๆ ก่อนที่จะ...จับตัวเคียวยกขึ้นพาดบ่า "...ฉันขอยืมตัวเคียวไปสักพักนะ"

    "เชิญครับ" ฟุริฮาตะเอ่ย

                   "ขอบใจ" โยชิกิส่งยิ้มให้ก่อนที่จะพาเคียวออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเสียงโวยวายของคนโดนอุ้มออกจากบ้านลอยแววมาตามสายลม

    "..." หลังจากที่เคียวและโยชิกิออกจากบ้านไปแล้วทุกคนก็มองหน้ากันเงียบๆ

    "เคียวซัง...เป็นพวกซึนเดเระสินะครับ?" คุโรโกะเอ่ยทำลายความเงียบเป็นคนแรก

    "ก็ประมาณนั้น..." ฟุริฮาตะเอ่ยยอมรับอย่างง่ายดาย

    "แล้วแบบนี้ชาตินี่พี่ฉันจะรู้เรื่องไหมนั้นว่าเคียวซังชอบน่ะ" โมริยามะส่ายหน้าอย่างปลงๆ เพราะรู้ว่าพี่ตนบื้อกับเรื่องพวกนี้พอดู

    "คงต้องแล้วแต่ดวงอย่างเดียวครับ" ฟุริฮาตะคิดว่าถ้าไม่ดวงดีก็คงต้องรอพี่เขาหายซึนนั้รแหละกว่าจะรู้เรื่องกัน

    "เรื่องของผู้ใหญ่อย่าไปสนเลย...ตอนนี้มาทำข้าวเย็นกันดีกว่า หิวแล้ว..." อาโอมิเนะเอ่ยอย่างขี้เกียจตามสไตร์

    "อ้าว? เย็นขนาดนี้แล้วเหรอ?" ฟุริฮาตะมองนาฬิกา "งั้นเดี๋ยวฉันไปทำข้าวเย็นมาให้นะ"

    "เดี๋ยวฉันช่วยด้วย" มิยาจิเสนอตัวเข้าช่วย

    "มิยาจิซังทำกับข้าวเป็นเหรอครับ?" มิโดริมะถามด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ

    "...อยากตายมากสินะ? มิโดริมะ?" มิยาจิแยกเขี้ยวใส่รุ่นน้องหัวเขียวของตน

    "เอ้าๆๆๆ ไปทำกับข้าวกันเถอะมิยาจิ!" โมริยามะรีบดันหลังมิยาจิให้เดินเข้าครัวไปก่อนที่จะมีสงครามขนาดย่อมในห้องนี่

    "นั้นสิครับ มิยาจิซัง" อิสึกิช่วยดันหลังมิยาจิเข้าห้องครัวอีกแรง

    "ฟู่! เกือบไปแล้วไงมิโดริมัจจิ" คิเสะถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อมิยาจิเดินไปที่ครัว

    "นั้นสิ...เกือบปากซวยแล้วไง" อาโอมิเนะเอ่ย

    "...ดูท่าฉันติดเชื้อปากพาจนจากทาคาโอะมาจริงๆ แล้วสินะ?" มิโดริมะทำท่าปลงกับตัวเอง

    "คงงั้นมั้งครับ" คุโรโกะเอ่ยหน้าตายพลางเหล่มองเพื่อนแต่ล่ะคนของตนก่อนที่จะถอนหายใจยาวๆ ออกมา

    ...เรื่องสารภาพนั้น...คงต้องพับเก็บไปก่อนแล้วล่ะ...

    ...ก็กว่าจะทำได้จริงๆ ขั้นแรกคงต้องหาทางไม่ให้ทุกคนมาขวางก่อนนี่นา...

    ...และ...คงต้อง 'กำจัด' ไอ้คนที่ริทำตัวเป็นโจรลักพาตัวแบบวันนี้ให้หมดเสียก่อนด้วยแฮะ...

    ...เฮ้อ...แต่ยังดี ไอ้ข้อหลังนี่ทุกคนยอมร่วมมือร่วมเท้ากับเขาตื้บแน่...

    ...ส่วนเรื่องที่ต้องแข่งกันเองนั้นไว้ค่อยคิดทีหลังแล้วกัน...

    ...หวังว่าคุณคงรอพวกผมนะครับ...ฟุริฮาตะคุง...

    ...อย่างน้อยถ้าคนที่มาสารภาพรักกับฟุริฮาตะคุงเป็นคนในทีมปาติหาริย์ ก็น่าไว้ใจกว่าไอ้พวกบ้าคนอื่นล่ะเนอะ...

    "เฮ้อ..." คุโรโกะถอนหายใจยาวๆ อีกรอบ ขณะที่ในครัวมีเสียงโวยวายออกมา...ซึ่งคาดว่าคงเป็นมิยาจิแว๊กใส่โมริยามะอีกตามเคยดังเป็นจังหวะราวดนตรีเสนาะหูไป (?)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End



    Cr. かお
    http://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=51612894

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×