ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #132 : [AkaFuri] HBD Akashi 2015

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.04K
      32
      16 ธ.ค. 58

    Title : HBD Akashi 2015

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Akashi x Furihata

    Notes :  พอดีเราต้องไปต่างจังหวัดและกว่าจะกลับก็วันอาทิตย์ ดั่งนั่นลงวันนี้แทนคงไม่ว่ากันเนอะ?  อ๋อ! แล้วฟิคนี้ออกแนวแกล้งอาคาชิเฉยๆ ดั่งนั้นอย่าคิดหาสาระจากฟิคนี้เลยน่อ!

    ................................................................

    HBD Akashi 2015

     

    "...แล้วเพราะเหตุนี้คุณถึงมาถามผมเหรอครับ?" เสียงถามอย่างสุภาพดังออกมาจากปากเด็กหนุ่มผมฟ้าที่ดูจืดจางจนแทบหายไปกับฉากหลัง

    "ตามที่บอกนั้นแหละคุโรโกะ..." เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลถอนหายใจเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลดูลุกลิกราวกับแมวจ้องมองคนผมฟ้าอย่างอ้อนๆ "...นายช่วยคิดหน่อยสิว่าอาคาชิจะอยากได้อะไรน่ะ?"

    "เอาง่ายๆ ตรงๆ นะครับ..." คุโรโกะ เท็ตสึยะผู้เป็นตัวจริงปีหนึ่งของทีมบาสเซย์รินจ้องมองฟุริฮาตะ โคกิผู้เป็นเพื่อตนด้วยสายตาแบบ...ลังเลสุดๆ ว่าควรบอกไหม "...ตัวฟุริฮาตะคุงนั้นแหละครับ"

    "พรูด!" เมื่อได้ยินคำตอบจากเพื่อนผมฟ้าของตน ฟุริฮาตะก็พ่นน้ำออกมาจากปากราวสิงโตพ่นน้ำทันที "แค่กๆ ...นี่ฉันจริงจังอยู่นะ! อีกอย่างมุขนี้ไม่ขำนะคุโรโกะ!"

    ...แล้วใครบอกว่ามุขล่ะครับ...

    ดวงตาสีฟ้าใสกรอดไปมาอย่างเหนื่อยใจนิดๆ กับเพื่อนตนที่แสนจะซื่อคนนี้...เล่นซื่อจนน่ารักแบบนี้ไม่อยากยกให้อดีตกัปตันหัวแดงแถมจูนิเบียวของเขาเลยจริงๆ ...

    ...แต่ทำไงได้...ดูท่าฟุริฮาตะคุงก็คงชอบอาคาชิคุงด้วย ถึงเจ้าตัวจะไม่รู้สึกตัวก็เถอะ...

    "ครับๆ ...งั้นลองทำเต้าหูก้อนเท่าภูเขาให้อาคาชิคุงดูสิครับ ได้ยินว่าปีก่อนที่ราคุซันพวกมิบุจิซังทำเต้าหู้ยักษ์แล้วมาจัดแข่งกินเต้าหู้น่ะครับ" คุโรโกะเอ่ยขึ้นมาตามที้เคยได้ยินจากคนผมเงินที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นด้วย

    "...นายลืมหรือเปล่าน่ะว่าฉันทำอาหารค่อนข้างห่วยน่ะ?" ฟุริฮาตะถามกลับ

    "อย่างน้อยคุณก็อยู่ในระดับกินได้แบบมนุษย์สามัญชนครับ ผมรับรองว่าถ้าคุณลองทำอาหารแข่งกับโค้ชล่ะก็คุณชนะใสๆ เลยครับ" คุโรโกะมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นเลยถ้าเกิดแข่งแบบนั้นจริง...ของฟุริฮาตะ โคกิเรียกได้ว่าดีกว่าหลายขุมเลย

    "เรื่องนั้นไม่เถียง..." ฟุริฮาตะยอมรับว่าตนไม่มีความสามารถพอที่จะทำอาหารให้เป็นยาพิษได้หรอก "...แน่ฉันว่ายังไงไอ้ทำเต้าหู้ยักษ์คงไม่ได้อยู่ดี ฉันไม่มีตังค์พอทำขนาดนั้นนะ"

    "อื้อ...งั้นต้องหาที่งบน้อยหน่อยสินะครับ?" คุโรโกะเอียงคอน้อยๆ อย่างครุ่นคิด ก่อนที่จะเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา "ถ้าแบบนั้น...ฟุริฮาตะคุงลองทำแบบนี้ไหมครับ?"

    "แบบไหนเหรอ?" ฟุริฮาตะมองสีหน้าเจ้าเล่ห์ด้วยความรู้สึกแปลกๆ

    "ยื่นหูมาสิครับ" คุโรโกะกวัดมือเรียก

    "หื้อ?" ฟุริฮาตะยื่นหูไปหาตามที่อีกฝ่ายบอก และสักพักเมื่อฟังแผนการชั่วร้าย (?) ของคุโรโกะจบก็ส่งสีหน้าเอ๋อออกมาเต็มที่แบบไม่มีกั๊ก "...แบบนั้นมันฟังแปลกๆ นะ"

    "อาจจะครับ...แต่รับรองว่าเจ๋งแน่นอนครับ" คุโรโกะเอ่ยอย่างมั่นใจ "เชื่อใจผมได้เลยครับ"

    "อ...อื้อ" ฟุริฮาตะพยักหน้ารับทั้งที่ในใจรู้สึกว่าแผนนี้มันเหมือนจะทำให้ตนซวยยังไงไม่รู้

     

     

     

     

     

    ในเวลาเดียวกับที่คุโรโกะและฟุริฮาตะคุยกัน ทางด้านโรงเรียนมัธยมปลายราคุซัน ณ ภายในโรงยิม

    "เอ๋? เซย์จังอยากสารภาพรักกับโคจังในวันเกิดตัวเองเหรอ?" เด็กหนุ่มหน้าสวยผมดำเอ่ยถามผู้เป็นกัปตันทีมตนอย่างแปลกใจ...

    ...ถึงเขารู้ว่าตั้งแต่จบการแข่งขันวินเทอร์คัพเมื่อปีก่อนไปประมาณสองสามสัปดาห์อีกฝ่ายไปทำอีท่าไหนไม่รู้ถึงได้ไปสนิกกับฟุริฮาตะ โคกิ...ตัวสำรองของทีมที่ชนะพวกเขาเมื่อตอนการแข่งวินเทอร์คัพนั่นเข้า แต่ถึงดูสนิกกันมากเขาก็ไม่คิดว่ากัปตันทีมตนจะคิดกับอีกฝ่ายในแง่ชู้สาวนิ!

    ...โลกนี่มีอะไรประหลาดอีกเยอะจริงๆ ...คนที่ให้ความรู้สึกเหมือนสิงโตจะจีบคนที่ให้ความรู้สึกเหมือนชิวาว่า? อา~ แบบนี้รู้สึกเหมือนกำลังจะโยนชิวาว่าให้สิงโตเลย~~~...

    "ก็อย่างที่บอกนั้นแหละ..." เด็กหนุ่มผมแดงถอนหายใจออกมาเบาๆ "...ช่วยคิดหาวิธีหน่อยสิเรโอะ...ฉันยังนึกไม่ออกเลยว่าจะจีบยังไง หรือฉันคุกเข่าขอแต่งงานเลยดีไหม?"

    "ข้ามขั้นไกลไปแล้วเซย์จัง! นี่แค่กำลังจะสารภาพรักนะนะ!" มิบุจิ เรย์โอะ SG ประจำทีมบาสราคุซันรีบห้ามก่อนที่กัปตันทีมตนจะทำอะไรแปลกๆ ลงไป "...เซย์จังก็บอกรักโคจังไปตรงๆ เลยสิ หรือถ้าอายก็พยายามหน้าด้านเกาะโคจังหนึบแบบที่โคทาโร่จังทำกับมิยาจิซังดู"

    "ไม่ไหว...ลองแล้ว โคกิยังไม่รู้เรื่องเลย แถมเข้าใจว่าคำว่าชอบนั้นหมายถึงแบบเพื่อนอีก" อาคาชิ เซย์จูโร่อดีตกัปตันทีมบาสเทย์โคและกัปตันคนปัจจุบันของทีบาสราคุซันคุมขมับอย่างที่นานๆ ทีจะได้เห็น

    "...นี่โคจังซื่อขนาดไหนเนี่ย?" มิบุจิไม่เคยคิดเลยว่าฟุริฮาตะ โคกิจะซื่อได้ขนาดนี้...เริ่มรู้สึกว่าเหมือนกำลังหาทางหลอกเด็กมาหาเซย์จังชอบกลแฮะ

    "ซื่อมาก...ขนาดเด็กประถมบางคนยังรู้มากกว่าอีก" อาคาชิรู้สึกเหนื่อยใจนิดๆ แต่...เพราะเป็นแบบนี้แหละเข้าถึงตกหลุมรักอีกฝ่ายเข้า

    "อื้อ...งั้นถามหน่อยว่าเซย์จังลองหาทางสารภาพรักมากี่วิธีแล้ว?" มิบุจิเริ่มเอ่ยถามต่อ

    "ประมาณ...23 วิธีเท่าที่คิดออก" อาคาชิเอ่ย "ที่จริงมีอีกอันแต่ยังไม่ได้ลองคือลากเข้าห้องน่ะ"

    "นั้นเข้าข่ายโรคจิตแล้ว...อย่าทำเชียวล่ะเซย์จัง" มิบุจิรีบเอ่ยดักก่อนที่อีกฝ่ายจะไปทำจริงๆ "...ส่วนเรื่องสารภาพรักกับโคจังเนี่ยฉันขอเวลาที่จะช่วยคิดหน่อยแล้วกัน...ก็รู้นี่ว่าฉันมีแฟนซึนไม่ใช่แฟนแนวซื่อๆ แบบโคจัง"

    "โอเค...ขอบใจที่ช่วยนะ" อาคาชิส่งยิ้มให้...อย่างน้อยก็มีคนยอมช่วยล่ะนะ!

    "ไม่เป็นไรจ๊ะ อ๊ะ! จริงสิเซย์จัง..." มิบุจิทำท่าเหมือนเพิ่งนึกบางอย่างออก "...ทำไมเซย์จังไม่ถามคุโรโกะคุงล่ะ? คุโรโกะคุงอยู่โรงเรียนเดียวกับโคจังน่าจะช่วยได้ดีกว่านิ?"

    "...เท็ตสึยะจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่ฉันจะขอให้ช่วย...นายคงไม่รู้สินะวิธีของเท็ตสึยะชวนปิ๊ดแตกขนาดไหน?" อาคาชิกรอดตาไปมาเมื่อนึกถึงครั้งล่าสุดที่เพื่อนผมฟ้าผู้จืดจางของตนช่วยเป็นพ่อสื่อให้เพื่อนผมเหลืองนามคิเสะ เรียวตะกับเพื่อนผมน้ำเงินนามอาโอมิเนะ ไดกินั้น...เล่นซะคนเกรียมผมน้ำเงินแทบอยากร้องไห้กับวิธีชวนหัวใจวายนั้น...

    ...ก็นะ...ใครใช้ให้อยู่ๆ เอาเรียวตะไปซ่อนขณะเล่นทดสอบความกล้ากันปานผีลักซ่อนล่ะ! แถมเอาผึ้งมาจากไหนไม่รู้รังหนึ่งมาโยนใส่ไดกิอีก! ทั้งๆ ที่รู้ทั้งรู้ว่าไดกิมันกลัวผึ้ง! เล่นซะป่วนกันไปหมด! ไม่รู้แค้นฝั่งหุ่นจากเรื่องเมื่อตอนม.ต้นหรือเปล่า! ถึงแม้สุดท้ายก็ทำให้สองคนนั้นคบกันได้จริงๆ ก็เถอะ...

    "ขนาดเซย์จังพูดอย่างนี่...ก็คงชวนปวดจิตจริงๆ" มิบุจิไม่คิดจะลองในสิ่งที่ขนาดทำให้คนที่น่าเกรงขามอย่างอาคาชิ เซย์จูโร่ปวดขมับได้หรอกนะ

    "เฮ้! อาคาชิ!" ระหว่างที่เด็กหนุ่มทั้งสองคุยกัน เด็กหนุ่มผมสีคาราเมลคนหนึ่งก็เดินกึ่งกระโดดเข้ามาหา "โค้ชเรียกแหน่ะ!"

    "อื้ม...เข้าใจแล้ว..." อาคาชิพยักหน้ารับก่อนที่จะสังเกตว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในชุดที่ใช้ฝึกซ้อม "...นายกำลังจะกลับเหรอโคทาโร่?"

    "อื้อ! พอดีมิยาจิซังมาทำธุระที่นี่! เลยนัดที่จะเจอกันน่ะ!" ฮายามะ โคทาโร่พยักหน้ารับอย่างเริงร่า

    "อย่าไปป่วนมิยาจิซังเข้าล่ะ...เดี๋ยวโดนสับปะรสปาหัวเอา" มิบุจิเอ่ยเตือนเพื่อนผมสีคาราเมลของตนอย่างเคยชิน

    "รับทราบครับ!" ฮายามะยิ้มร่าก่อนที่จะเริ่มออกตัววิ่ง "ไปล่ะครับ! เดี๋ยวมิยาจิซังรอนาน!"

    "เออๆ รีบไปก่อนที่มิยาจิซังจะโมโหล่ะ!" มิบุจิตะโกนบอกคนที่วิ่งออกไป "ให้ตายสิ...หวังว่าคราวนี้จะไม่กลับมาพร้อมรอยถีบที่กลางหลังนะ"

    "งานนี้แล้วแต่ดวง" อาคาชิยักไหล่ก่อนที่จะเริ่มที่จะเดินไปหาผู้เป็นโค้ช "นายช่วยดูแลคนอื่นๆ แทนฉันไปก่อนนะเรโอะ"

    "โอเคจ้า" เมื่อมิบุจิขานรับ อาคาชิก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนที่จะเริ่มเดินจากไป...และหลังจากอาคาชิไปได้ไม่นานเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าของมิบุจิก็ดังขึ้น ทำให้เด็กหนุ่มหน้าสวยควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วกดรับ "โมชิๆ? ใครครับ?"

    'มิบุจิ...นี่ฉันเอง' เสียงทุ้มๆ ที่คุ้นหูดังลอดผ่านสายมา

    "เอ๊ะ? มายุซัง? แปลกแฮะที่วันนี้มายุซังโทรมาก่อนเนี่ย..." ...เพราะปกติเป็นฝ่ายโทรไปหาเอง

    'ไม่อยากให้ฉันโทรมาสินะ?'

    "อ๊ะๆ อย่าเพิ่งงอนสิมายุซัง ฉันดีใจจะตายที่มายุซังโทรมาน่ะ...แต่ถ้ามาเป็นตัวเป็นตนจะดีกว่านะ จะได้***ด้วย"

    'อ...ไอ้บ้า! ไอ้หื่น! นี่แกพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่าฟะ!?'

    "ก็รู้สิ และอยากทำตามที่พูดด้วยนะ~~~"

    'แว๊ดดดดด!!! เงียบไปซ้าาาาาาา!!!'

    "แหมๆ ยังเขินได้น่ารักเหมือนเดิมเลยนะมายุซัง"

    'ไม่ได้เขินโว้ย!!!'

    "ปากแข็ง"

    'ช่างฉันเถอะน่าไอ้บ้า!'

    "จ้าๆ ...ว่าแต่วันนี้มายุซังโทรมาทำไมเหรอ? หรือว่าคิดถึงกันเอ่ย?"

    'ช...ใช่ที่ไหนล่ะ! ที่ฉันโทรมาเพราะไอ้เด็กบ้าหัวฟ้ามันขอต่างหาก!'

    "เหรอ...เพราะคุโรโกะคุงสินะ...นี่มายุซัไม่คิดถึงกันเลยเหรอ?..."

    'เฮ้ยๆ ไหงทำเสียงเศร้าแบบนั้นเล่า! หยึย...โอเคๆ! ก็คิดถึงนายอยู่! พอใจยัง!?'

    "พอใจที่สุดจ้า! ยิ่งออกมาจากปากคนซึนๆ แบบมายุซังแล้วยิ่งชื่นใจ~~~!"

    'ตกลงนี่แกล้งเศร้าเหรอ!?'

    "ไม่รู้สิน้า~~~~ ...ว่าแต่เรื่องที่คุโรโกะคุงให้โทรมาเนี่ยเรื่องอะไรเหรอ?"

    'ก็ไม่มีอะไรมาก...แค่เจ้านั่นอยากให้นายช่วยลากอาคาชิมาที่โตเกียวนี้ในวันเกิดหมอนั่นน่ะ พอดีเจ้าบ้านั่นคิดอะไรไม่รู้จะเป็นพ่อสื่อให้อาคาชิกับชิวาว่านั้นน่ะ'

    "ห๊า!? คุโรโกะคุงคิดจะจับคู่เซย์จังกับโคจังเหรอ!?"

    'อื้อ เห็นบอกว่าอาคาชิชอบชิวาว่านั้น แต่เจ้าชิวาว่านั่นมันกลับไม่รู้ตัวสักนิดแม้อาคาชิเล่นลูกไม้ไปหมดต้นแล้วก็ตาม และที่สำคัญคือความจริงไอ้ชิวาว่านั้นก็ชอบอาคาชิแต่ไม่รู้ตัวสักทีน่ะ ก็เลยบอกว่าจะจัดการให้รู้ๆ กันไปสักทีทั้งสองคนนั้นแหละ...แถมดูท่าชิวาว่านั้นจะหลงกลเจ้าหัวฟ้านั้นง่ายๆ ด้วย เพราะกำลังคิดหาของขวัญวันเกิดให้อาคาชิพอดีน่ะ'

    "...มายุซัง...งานนี้นรกแตกแน่"

    'ห๊า? พูดอะไรของนายน่ะ?'

    "เดี๋ยวได้รู้ในไม่ช้านี่แหละมายุซัง...ทั้งฉันทั้งมายุซังเลย"

    ...อา...ดูท่างานนี้จะหนีเรื่องให้คุโรโกะคุงเป็นพ่อสื่อให้ไม่พ้นแล้วล่ะเซย์จัง...

     

     

     

     

     

    หลายวันผ่านไปนับตั้งแต่วันที่ฟุริฮาตะมาปรึษากับคุโรโกะ เหล่าผู้ช่วยในแผนการร้าย (?) ของคุโรโกะต่างขมักเขม่นในการเตรียม 'ของขวัญ' และ 'เกม' สุดพิเศษให้กับอดีตกัปตันหัวแดงปานมะเขือเทศพันธุ์ดี (?) อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนกระทั่งมาถึง...ยังวันที่ 20 ธันวาคมหรือวันเกิดของอาคาชิ เซย์จูโร่นั้นเอง

    "บ...แบบนั้นมันจะโอเคเหรอ?" ดวงตาสีน้ำตาลใสมองสถานที่ตรงหน้าอย่างเกรงๆ "แล้ว...มาขอใช้สถานที่นี่ได้ไงเนี่ย? เลยใหญ่โตซะ"

    "นี่เป็นบ้านสมัยเรื่อนม.ต้นของคิเสะคุงครับ ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะทำข้าวของอะไรเสียหายหรือเจ้าของบ้านจะมาโวยเลยครับ...เพราะดูท่างานนี้คิเสะคุงนั้นแหละจะเป็นคนทำบ้านพัง" เด็กหนุ่มผมฟ้าเอ่ยด้วยหน้าตายสนิก

    "ไหงว่ากันแบบนั้นอ่ะ! คุโรโกจจิก็!" เด็กหนุ่มผมเหลืองโดดเกาะพร้อมเอาหน้าไถ่คนผมฟ้า

    "เฮ้ยๆ อย่าทำแบบนั้นต่อหน้าฉันสิฟะ...หึงนะเฟ้ย!" เด็กหนุ่มผิวเข้มผมน้ำเงินจัดการลากคนผมเหลืองออกมา "...ว่าแต่นายแน่ใจว่าอาคาชิจะมาเหรอเท็ตสึ? คงไม่ใช่ว่ามองเป็นเรื่องไร้สาระแล้วไม่ยอมมานะ?"

    "ไม่ต้องห่วงครับ ผมบอกให้มายุสุมิซังขอให้มิบุจิซังพาอาคาชิคุงมานี่แล้วครับ...และรับรองมิบุจิซังต้องหาทางลากอาคาชิคุงมาจนได้ล่ะครับ ไม่งั้นโดนงอนแน่" คุโรโกะเอ่ยโดยไม่สนใจสายตาที่ค้อนมาของคนผมเงินเลยสักนิด

    "ใครจะงอนแค่เรื่องแบบนั้นกันห๊า?!" มายุสุมิแยกเขี้ยวใส่

    "ใครยอมรับก็คนนั้นแหละครับ" คุโรโกะตอบกลับอย่างกวนโอ๊ยเป็นที่สุด

    "อ...อย่าเพิ่งทะเลาะกันสิ" ฟุริฮาตะที่อยู่ใกล้ๆ รีบเอ่ยห้ามก่อนมีการวางมวยต่างไซส์เกิดขึ้น "ดีๆ กันไว้เถอะนะ"

    "...ก็ได้" มายุสุมิถอนหายใจออกมายาวๆ ...ใจแข็งกับสายตาที่เหมือนลูกหมาของหมอนี่ไม่เคยลงเลยวุ้ย!

    "ตามไงตามกันครับ" คุโรโกะที่ไม่คิดจะสนใจอะไรนักเอ่ย ก่อนที่จะหันไปหาอาโอมิเนะที่ยืนนิ่งจนจะกลืนไปกับความมืดแล้ว "ตอนนี้พวกคุณพร้อมกันหรือยังครับ?"

    "พร้อมเป็นชาติแล้ว..." อาโอมิเนะยิ้มร่าโชว์ฟันขาวจนน่าจับไปเป็นพรีเซอร์เตอร์ยาสีฟันจริงๆ "...คราวนี้จะได้แกแค้นที่อาคาชิเล่นคราวก่อนซะที!"

    "...แต่ถ้าจะแก้แค้นต้องแก้กับคุโรโกจจิไม่ใช่เหรอ? ตอนนั้นอาคาชิจจิแค่มาช่วยแสดงเป็นผีเองนะ ส่วนคนต้องคิดน่ะคือคุโรโกจจิต่างหาก" คิเสะเอ่ยแย่ง

    "แล้วนายกล้าแก้แค้นเท็ตสึไหมล่ะ?" อาโอมิเนะถามกลับ

    "ไม่ เดี๋ยวโดนเอาคืนแบบไม่รู้ตัวแน่" คิเสะส่ายหน้าวืด...ก็เพื่อนที่แสนจืดจางของเขาคนนี้ลองคิดจะเอาคืนแล้วล่ะก็โคตรสยอง! แถมจับจุดอ่อนแต่ล่ะคนมาแกล้งได้อีกแหน่ะ!

    "แล้วแบบนี้คิดว่าฉันจะเอาคืนกับเท็ตสึเหรอ? สู้ลองแกล้งอาคาชิไม่ได้...แถมฉันอยากเห็นหมอนั่นมาดหลุดมานานแล้วด้วย" อาโอมิเนะหัวเราะออกมาเบาๆ แบบชวนสยอง "ลองคิดูสิว่าถ้าเราแกล้งตามแผนของเท็ตสึแล้วอาคาชิกริ๊ดแตกขึ้นมาจะเป็นไง?"

    "จะว่าไปก็อยากเห็นเหมือนกันแฮะ" คิเสะลองนึกภาพตาม...น่าสนุกจริงๆ!

    "ใช่ไหมล่ะ" อาโอมิเนะเอ่ย

    "สรุป...นายอยากแกล้งอาคาชิมากกว่าจัดงานวันเกิดให้สินะคุโรโกะ?" ฟุริฮาตะถามขึ้นมาพลางถอนหายใจ...จะว่าไปเขาก็คิดว่ามันแปลกๆ ตั้งแต่ได้ยินแผนของคุโรโกะครั้งแรกแล้วล่ะ

    "อยากจัดงานวันเกิดให้อาคาชิคุงกับอยากแกล้งอย่างละครึ่งต่อครึ่งครับ..." คุโรโกะตอบพลางเหล่มองนาฬิกา "...ใกล้เวลาแล้วนะครับ ไว้มีเรื่องอะไรก็ค่อยถามต่อหลังจากจบงานนี้แล้วกันครับ"

    "อื้ม...ก็ได้..." ฟุริฮาตะตอบรับอย่างว่าง่าย เพราะรู้ว่าถามไปก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดีนั้นเอง

    "งั้นเชิญไปเข้าประจำจุดเลยครับ มายุสุมิซัง คิเสะคุงกับอาโอมิเนะคุงด้วย เดี๋ยวผมขอไปบอกคนอื่นๆ ก่อนนะครับ" คุโรโกะเอ่ย

    "โอเค!" เด็กหนุ่มทั้งหลายขานรับและมองไปยังที่จุดที่คนผมฟ้ายืนอยู่เมื่อครู่...แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่าเป็นตัวบ่งบอกว่าเจ้าตัวไปทำหน้าที่จัดแจงงานให้คนอื่นๆ ต่อแล้ว

    เด็กหนุ่มทั้งสี่มองหน้ากันก็จะยักไหล่น้อยๆ แล้วค่อยแยกย้ายไปทำหน้าที่ของใครของมันไป

     

     

     

     

     

    "..." ดวงตาสองสีคู่สวยมองสถานที่ตรงหน้าด้วยอาการ...อึ้งกิมกี่ "...นี่เรโอะ...แน่ใจนะว่ามาไม่ผิดที่น่ะ?"

    "...ฉันว่าฉันอ่านแผนที่ที่มายุซังส่งมาถูกนะ แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนว่าถูกที่หรือเปล่า" มิบุจิที่มีอาการไม่ต่างจากคนข้างกายเอ่ย

    "เรโอะ...ถามหน่อยว่าแน่ใจนะว่าจิฮิโระซังเป็นคนบอกให้มาน่ะ?" อาคาชิเบ้หน้านิดๆ เมื่อดูสถานที่ตรงหน้าแล้วมันไม่น่าเป็นรสนิยมในการนัดมาเจอกันของคนจืดจางผมเงินที่เขารู้จักเลย...เมื่อสถานที่ตรงหน้านี้...

    ...ดันเป็นบ้านที่คิเสะ เรียวตะเพื่อนของเขสมัยม.ต้นน่ะสิ! ไอ้การที่ตรงจุดนี้เป็นบ้านเพื่อนเขายังไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ แต่ที่น่าแปลกคือ...ไหงทั้งบ้านถูกปกคลุมด้วยสาหร่ายปานว่าเคยจมอยู่ใต้น้ำแบบนี้ฟะ!?

    "แน่ใจสิ ฉันไม่มีทางจำเสียงมายุซังผิดหรอก..." ...แต่คนคิดแผนและให้มายุซังโทรมาคือคุโรโกะคุงนะ

    "...ถ้าจิฮิโระซังไม่ล้มหัวฟาดพื้นมาคงโดนใครสักคนใช้มาแหง" อาคาชิคุมขมับ...งานนี้เดาได้ไม่ยากเลยว่าตัวต้นเหตุคือใคร...

    ...เท็ตสึยะอีกแล้วแหง...แต่ไหงคราวนี้ดูปวดจิตกว่าคราวก่อนเนี่ย? ตอนไดกิกับเรียวตะยังแค่พาไปทดสอบความกล้าธรรมดาเอง!...

    "แฮะๆ" มิบุจิเมื่อได้ยินคำบ่นของรุ่นน้องตนก็ได้เพียงยิ้มแห้งๆ ออกมาเท่านั้น "เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ ฉันว่าเรารีบๆ เข้าไปกันดีกว่านะ"

    "ไม่เข้าได้ไหมเนี่ย? ...เหม็นสาหร่ายน่ะ" อาคาชิเอ่ยพร้อมโบกมือไล่กลิ่น

    "ได้ที่ไหนล่ะ...ถ้าเกิดคุโรโกะคุงมาหาทางลากเซย์จังเข้าไปเองล่ะก็สนุกแน่งานนี้" มิบุจิที่พอเดาออกว่ากัปตันทีมตนรู้แล้วว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นฝีมือใครชี้ไปทางเงารางๆ ภายในบ้านที่ตอนนี้ดูราวกับบ้านผีสิงใต้มหาสมุทร

    "ก็จริง...ได้สนุกจนสติแตกแน่" อาคาชิถอนหายใจเบาๆ ...ตกลงนี่กำลังแก้แค้นเรื่องต้นม.ต้นจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย? คราวที่แล้วเรียวตะกับไดกิ คราวนี้เขาสินะ? แล้วคราวหน้าจะเป็นใครเนี่ย?

    "เพราะงั้น...ป่ะ! รีบเข้าไปกันเถอะ!" มิบุจิดันหลังคนตัวเล็กกว่าเข้าไปภายในบ้านที่ใช้ปลูกสาหร่าย (?)

    เด็กหนุ่มทั้งสองพากันเดินเข้ามาภายในบ้าน...ที่ดูท่าจะเต็มไปด้วยสาหร่ายไม่ต่างจากด้านนอกเท่าไหร่นัก ที่ต่างกันก็มีเพียงพื้นที่บางส่วนนองไปด้วยน้ำชนิดที่ว่าถ้าเดินไปเหยียบแอ่งน้ำที่มีเห็นเป็นย่อมๆ นั้นล่ะก็ลื่นล้มแน่ และเมื่อเดินเข้ามาภายในบ้านได้ไม่ถึงสามก้าวก็...

    ปัง!!!

    "กรี๊ด!!!" ...ประตูที่เด็กหนุ่มทั้งสองเดินเข้ามาเมื่อครู่ก็ถูกปิดเสียงดังทั้งๆ ที่ไม่มีลมหรืออะไรไปโดนเลย ทั้งให้คนหน้าสวยแต๋วแตกพร้อมกอดคอคนตัวเล็กกว่าอย่างเต็มแรง

    "เรโอะ..." คนผมแดงตีแขนที่รัดตนแรงๆ "...ปล่อยก่อน...หายใจไม่ออก"

    "อุ๊ย! โทษจ้า..." มิบุจิค่อยๆ คลายแขนของตนออกพลางมองซ้ายมองขวา "...แล้วเมื่อกี้มันอะไรน่ะ? ไหงประตูปิดเองได้เนี่ย?"

    "ให้เดา...ไม่เท็ตสึยะก็จิฮิโระซังแอบย่องมาปิดแน่" อาคาชิคิดว่าที่ประตูปิดได้เองเนี่ยต้องเพราะคนใดคนหนึ่งในสองคนนี้แหละ เพราะจืดจางจนมองข้ามได้ง่ายทั้งคู่เลย

    "...ถ้าคนทำเป็นมายุซังล่ะก็จะ***ติดต่อกันสองวันเลยค่อยดู" มิบุจิทำหน้ายื่นแบบคนหัวเสียนิดๆ

    "จะทำอะไรก็เชิญ แต่ขออย่างเดียววันไหนซ้อมวันไหนเรียนให้กลับไปให้ทันด้วยแล้วกัน" อาคาชิที่ไม่ห่วงสวัสดิภาพของคนผมเงินเลยยักไหล่นิดๆ "ว่าแต่...เราจะไปไหนต่อล่ะ?"

    "ไม่รู้สิ เซย์จังคิดว่าทุกคนอยู่ไหนล่ะ?" มิบุจิถามกลับ

    "ถ้าเท็ตสึยะเป็นคนต้นคิด...ก็คงจะเป็นห้องเก็บของน่ะ" อาคาชิที่รู้จักนิสัยของคนผมฟ้าดีกรอดตาไปมา

    "...ทำไมคิดว่าเป็นที่แบบนั้นล่ะ?" มิบุจิไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงนึกถึงห้องเก็บของมากกว่าที่อื่น

    "เอาง่ายๆ เลยคือห้องเก็บของบ้านเรียวตะนี่มันกว้างมากจนคนจำนวนมากเข้าไปได้สบายๆ และอีกอย่างคือ..." อาคาชิเหล่มองเงาตะคลุมๆ บริเวรใกล้ๆ ตน "...ถ้าเกิดมีใครซ็อกสลบไปก็จะจับขังไว้แล้วรอให้ฟื้นเพื่อที่จะแกล้งต่อไง"

    "คุโรโกะคุงนี่น่ากลัวกว่าที่คิดเนอะ" มิบุจิที่ได้ฟังคำบอกเล่าของกัปตันทีมตนรู้สึกขนลุกนิด...หวังว่าในอนาคตจะไม่มีเขาอยู่ในรายชื่อที่คุโรโกะ เท็ตสึยะคิดจะแกล้งนะ ไม่งั้นเขามีแววช็อกตายชอบกล

    "อย่างนายไม่ต้องกลัวช็อกตายหรอก อยู่กับจิฮิโระซังบ่อยๆ รับรองชินกับการฟลุบโผล่จนเท็ตสึยะแกล้งไม่เต็มที่แน่" อาคาชิที่อ่านสีหน้าอีกฝ่ายออกเอ่ยขึ้นมา

    "ไม่เต็มที่แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำสินะ?" มิบุจิมั่นใจเลยว่า...ร้อยทั้งร้องแฟนเขาไม่มีทางหลอกหลอน (?) ชาวบ้านได้ขนาดนี้หรอก!

    "ถูก..." อาคาชิเอ่ยก่อนที่จะเริ่มก้าวเดินอีกครั้ง "...แต่มั่นใจได้ เท็ตสึยะค่อนข้างโกรธยากอยู่หรอก...อย่างนายไม่มีแววที่จะทำให้เท็ตสึยะโกรธได้แน่นอน แต่เพื่อนคิ้วหนาเป็นลูกออชของนายน่ะไม่แน่นะ"

    "มาโกะจังน่ะนะ? อื้อ...เป็นไปได้แฮะ" มิบุจิไม่แปลกใจนักถ้าคนผมฟ้าที่พวกตนกำลังพูดถึงอยู่นั้นจะอาฆาตเพื่อนที่สุดแสนน่าถีบของเขาอย่างฮานามิยะ มาโคโตะ...เขารายนั้นก่อเรื่องไว้เยอะพอตัวเลย

    โครม!!!

    ระหว่างที่เด็กผมแดงและดำกำลังนินทาชาวบ้านอย่างเมามันส์ (?) ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องที่อยู่ข้างๆ ทั้งสองเปิดออกและมีสิ่งมีชีวิตสองชีวิตกลิ้งกลุดๆ ออกมา...ซึ่งพอสิ่งนั้นหยุดกลิ่งจนทำให้เห็นสิ่งที่ว่านั้นชัดๆ มิบุจิก็เริ่มยิ้มเหี้ยมออกมา โดยมีคนผมแดงค่อยไว้อาลัยแด่หนึ่งชีวิตที่ดูท่าจะดับสิ้นในไม่ช้า

    เพราะไอ้สิ่งมีชีวิตที่ว่านั้นคือมนุษย์สองคนที่อยู่ในชุดที่เรียกว่าเหมือนคนทำงานในสวนสนุกเลย เริ่มจากคนแรกเป็นเด็กหนุ่มผิวคล้ำผมสีน้ำเงินที่อยู่ในชุดที่คล้ายๆ มาคอสรูปกุ้งสีส้มสดใส ส่วนอีกคนเป็นเด็กหนุ่มผมสีเงินซึ่งอยู่ในชุด...คล้ายๆ ชุดกระโปงพองๆ สีฟ้าใสยาวเลยเข่าเล็กน้อย แถมมีอะไรเป็นเส้นๆ สีฟ้ายื่นออกมาจากชายกระโปรงยาว ซึ่งถ้าให้เดาจากชุดกุ้งของคนผมน้ำเงินคาดว่าคนผมเงินน่าจะแต่งเป็นแมงกระพรุนแต่หากชุดมาคอสไม่ได้เลยใส่ชุดนี่แทน ถึงอย่างไรก็ตามทั้งหมดนั้นคงไม่สำคัญเท่ากับ...

    ...คนผมสีน้ำเงินนั้นดันกลิ้งออกมาอีท่าไหนไม่รู้มาคล่อมคนผมเงิน แถมมือยังเผลอตวัดมั้วไปเลิกชายอีกฝ่ายจนเห็นขาอ่อนขาวๆ ต่อหน้าแฟนรายนั้นน่ะสิ!!!

    "โอ๊ย! นี่นายชนฉันหาอะไรห๊า!?" คนผมเงินบ่นขึ้นอย่างไม่ทันสังเกตสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่น้อย

    "ก็ใครจะไปเห็นว่าอยู่ตรงหน้าล่ะ! นอกจากจืดจางแล้วยังเตี๊ยอีก!" คนผมสีน้ำเงินที่หงุดหงิดกับการกลิ้งเป็นลูกบอลแว๊ดกลับ

    "ใครเตี๊ยห๊า!? ไอ้เกรียม!"

    "ว่าใครเกรียมห๊า!?"

    "แกไง! ไอ้เด็กบ้า!"

    "ก็ดีกว่าคนแก่เตี๊ยแล้วกัน!"

    "ไอ้มืด!"

    "มืดก็ดีกว่าจืดยิ่งกว่าน้ำเปล่าล่ะ!"

    "จืดก็ยังดีกว่าคนไอ้บ้ากุ้ง!"

    "เจ้าบ้าโอตาคุ!"

    "ฉันไม่ได้เป็นโอตาคุเฟ้ย! ไอ้สมองเท่าแมลงสาป!"

    "ไอ้..."

    "พวกนายสองคนหยุดเถียงกันก่อนเถอะ..." อาคาชิที่เห็นสองหน่อที่อาจถึงฆาต (?) โดยไม่รู้ตัวเอ่ย "...ฉันว่าตอนนี้พวกนายเตรียมรับมือแทนที่จะมาเถียงกันเถอะ โดยเฉพาะนายไดกิ...ไม่รอดแน่งานนี้"

    "หื้อ?" เด็กหนุ่มทั้งสองส่งเสียงออกมาอย่างงงๆ และมองไปที่อาคาชิ...ก่อนที่จะได้คำตอบเมื่อเห็นสีหน้าของคนหน้าสวยผมดำข้างๆ นั้น "ชิบหายแล้ว!!!"

    "ขอให้โชคดีนะ...เรื่องนี้ฉันไม่ขอยุ่ง" อาคาชิถอยออกห่างเล็กน้อย ขณะเดียวกับมิบุจิก็จัดการ 'ถีบ' นายอาโอมิเนะ ไดกิที่คล่อมอยู่บนตัวแฟนของตนจนกลิ้งไปชนผนังทันที

    "ถึงเซย์จังห้าม...ฉันก็ไม่คิดหยุดหรอกนะงานนี้..." มิบุจิแสยะยิ้มพร้อมหักไม้หักมือ "...เห็นแบบนี้มันอดไม่ได้จริงๆ น้า...ถือว่าทำตัวเองแล้วกันนะ อาโอมิเนะคุง~~~~"

    "เฮ้ย! เดี๋ยวสิ!" อาโอมิเนะรีบหาที่หลบทันทีเมื่อยามนี้มิบุจิดูน่ากลัวไม่ต่างจากวิญญาณอาฆาตเลย

    "ไม่ดงไม่เดี๋ยวล่ะ! กล้าดียังไงมาลวมลามมายุซังห๊า!?" มิบุจิที่ปกติอยู่ในมาดอาเจ๊ (?) แปลงร่างเป็นอาเฮีย (?) ในทันใด

    "ฉันเปล่านะ!!! มันเป็นอุบัติเหตุ~~~!!!" อาโอมิเนะร้องโหยหวนพลางวิ่งหลบมิบุจิที่ทำท่าจะเชือดตนให้ได้

    "ใจเย็นก่อนมิบุจิ! ฆ่าคนผิดกฏหมายนะเฟ้ย!" มายุสุมิที่เห็นท่าไม่ดีรีบเข้าล็อกแขนคนหน้าสวยไว้

    "ปล่อย...มายุซัง ฉันจะฆ่ามัน" มิบุจิเอ่ยเสียงเย็น

    "ใจเย็นสิฟะ!" มายุสุมิที่เห็นว่าคนรักตนดูท่าจะ 'หึง' จนขาดสติเลยจัดการเอาหนังสือที่ตนมักพบติดตัวมาตีหัวอีกฝ่าย

    "โอ๊ย! เจ็บนะมายุซัง! ตีกันทำไมอ่ะ!?" มิบุจิรีบกลับสู่โหมดเดิมแทบจะทันทีเมื่อถูกศรีภรรยาสุดที่รัก (?) ตีหัว

    "ก็ใครใช้ให้ทำท่าจะฆ่าคนล่ะฟะ!?" มายุสุมิแยกเขี้ยวใส่

    "ก็มันหึงนี่นา!" มิบุจิทำหน้ามุ่ย "แถมเห็นท่าทางล่อแหลมแบบนั้นมันอดไม่ได้นิ!"

    "นายนี่มัน..." มายุสุมิคุมขมับอย่างไม่รู้ว่าจะว่าไง...รู้ก็รู้ว่าอีกฝ่ายห่วงเขาแต่ช่วยมีสติกว่านี้อีกสักหน่อยเถอะ! "...ยังไงนายก็ไม่น่าถึงขนาด...เหวอ!"

    "มายุซัง!" มิบุจิอุทานออกมาเมื่อคนผมเงินเผลอไปเหยียบแอ่งน้ำจนลื่นล้มเข้า...แต่นั้นก็ไม่เท่ากับ...

    ...กระโปรงอีกที่เปิดออกจนเผยให้เห็นกางเกงขาสั้น...ที่สั้นมากจนเห็นต้นขาขาวๆ ได้อย่างชัดเจน แถมยังเปียกน้ำจนเห็น***ได้อีกต่างหาก

    "อูย~~~ ตอนจัดแต่งบ้านนี้น่าจะค้านไอ้หมาสีเหลืองนั้นว่าอย่าทำให้พื้นบ้านเปียกแฮะ..." มายุสุมิเอ่ยบ่นก่อนที่จะเอ๊ะใจเมื่อรู้สึกเย็นๆ ที่ช่วงล่างจึงก้มมองตนเองและ...หน้าแดงก่ำปานจะระเบิดทันทีเมื่อรู้ตัวว่าตนนั้นถูกเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว "...ไม่น่าบ้าใส่ชุดนี้ตามที่ไอ้หัวฟ้าบอกเลย!"

    "แต่ก็ดูดีนะ..." มิบุจิเอ่ย...พร้อมกับเลือดกำเดาที่ไหลออกมาเป็นสาย "...ดูดี...จนน่าทำเลยล่ะ"

    "เฮ้ยๆ! เดี๋ยวอย่าเพิ่งหื่นตอนนี้นะโว้ย!" มายุสุมิรีบขึ้นเอ่ยขึ้นมา "อย่างน้อยอายคนอื่นบ้างสิเฟ้ย!!!"

    "ไม่ต้องห่วง...พวกฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้นแหละ" เสียงเรียบๆ ของอาคาชิดังขึ้นมาขัดทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองที่กำลังจะกดกัน (?) หันไปมองยังต้นเสียง...และแทบจะทำให้มายุสุมิอยากกัดลิ้นตัวเองตายเมื่อเห็นว่า...

    ...ตอนนี้อาคาชิเอามือข้างหนึ่งปิดตาทั้งสองข้างของตนไว้ แล้วมืออีกข้างถือกรรไกรจ่อคออาโอมิเนะที่ไปอยู่ข้างๆ ตอนไหนไม่รู้ โดยมือทั้งสองของอาโอมิเนะก็ปิดตาตัวเองอยู่เหมือนกันคาดว่าคงโดนขู่ว่าให้ปิดตาไว้แหง

    "เอาล่ะ...ตอนนี้ถือว่าไม่มีใครเห็นแล้ว เพราะงั้นทำกันได้ล่ะนะ" มิบุจิยิ้มหวานออกมา...ซึ่งสำหรับคนผมเงินมันเป็นรอยยิ้มหมาป่าชัดๆ!

    "ด...เดี๋ยวก่อน...เดี๋ยว~~~!!!" มายุสุมิร้องสุดเสียงเมื่อมิบุจิกระโจนขึ้นคล่อมตัวของตนเอาไว้

    "จะทำอะไรก็เชิญตามสบายนะ...งั้นพวกฉันไปหาเท็ตสึยะกันก่อนล่ะ อ๋อ! แล้วถ้าจะทำอะไรในนี้ล็อกประตูให้ครบทุกบานด้วยล่ะ ไม่งั้นจิฮิโระซังได้อายตายแน่" อาคาชิเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี (?) ก่อนที่จะเดินออกไปพร้อมตัวประกันผมน้ำเงิน (?)

    "เดี๋ยวก่อน! อาคาชิ! มาช่วยฉันก่อน!!!"

    "ไม่ต้องร้องหรอกน่ามายุซัง หึๆ"

    "อย่าหัวเราะแบบนั้นสิฟะ! หลอนนะเว้ย! แล้วหยุดลูบขาฉันสักที!"

    "ไม่สนจ้า!"

    "ไอ้บ้าเอ้ย! ทำอะ...อื้อ!? อื้อ~~~"

    เสียงที่แว่วตามหลังมาพอทำให้เด็กหนุ่มอีกสองคนที่เดินหนีออกมารับรู้สถานการณ์ของคนที่พวกตนทิ้งเอาไว้ได้อย่างดี แต่ต่อให้เสียงร้องโวยวายดังแค่ไหนคนผมแดงก็ไม่คิดจะสนใจสักนิด แถมยัง...

    "ไดกิ...บอกมาว่าเท็ตสึยะวางแผนอะไรกันแน่?" ...มีอารมณ์ขู่คนผมน้ำเงินที่ตนเอากรรไกรจ่อคออยู่อีกต่างหาก

    "เออ...ผิดไหมอ่ะถ้าฉันบอกว่าไม่รู้เนี่ย?" คนโดนจี้เอามือที่ปิดตาตนออกพร้อมส่งยิ้มแห้งๆ ให้คนผมแดง "เดี๋ยวๆ! อย่าจิ้มกรรไกรมาแบบนี้เซ่! อันตรายนะเว้ย!!!"

    "บอกความจริงมา...ตกลงเท็ตสึยะวางแผนอะไรกันแน่?" อาคาชิถามเสียงเขียวปั๊ด

    "ก็ไม่รู้อ่ะ! เท็ตสึแค่บอกให้ฉันมาเตรียมสถานที่จัดงานวันเกิดให้นายแล้วให้แกล้งนายยังไงก็ได้ให้นายตกใจแค่นั้นเอง!" อาโอมิเนะรีบเอ่ยก่อนที่จะมีของไม่พึงประสงค์มาประดับคอตน "ตอนแรกกะจะเอาสาหร่ายคลุมตัวมาหลอกนายแต่ฉันดันไปชนหมอนั้นที่ถูกเท็ตสึจัดอยู่ที่เดียวกับฉันจนเกิดเรื่องเมื่อกี้และ!"

    "สรุป...เท็ตสึยะแค่บอกให้นายมาสินะ? แล้วนอกจากนายมีใครบ้าง?" คนผมแดงถามต่อ

    "ทั้งแก๊งนั้นแหละ จะมีมาเพิ่มก็แค่มายุสุมิซังกับฟุริวาว่าน่ะ" อาโอมิเนะตอบอย่างรวดเร็วแบบกลัวไม่ทันใจอีกฝ่าย

    "โคกิน่ะเหรอ?" อาคาชิถามอย่างงุนงง...ปกติถ้าจะแกล้งเขาจริงๆ ไม่น่าเชิญรายนั่นมานิ? เพราะโคกิต้องใจอ่อนจนไม่กล้าหลอกเขาแน่ หรือว่า...

    "อื้อ...เห็นเท็ตสึบอกว่ามาปรึษาเรื่องวันเกิดนายน่ะ เท็ตสึเลยคิดจัดงานนี้ขึ้นไง" อาโอมิเนะที่เป็นพวกไม่คิดอะไรมากเอ่ย

    "แล้วโคกิล่ะ? ไปอยู่ไหน?" อาคาชิชักคิ้วกระตุก

    "ตอนแรกก็อยู่กับพวกฉันแหละ แต่อยู่ๆ เท็ตสึก็บอกว่าจะเปลี่นแผนนิดหน่อยแล้วพาฟุริวาว่าไปไหนไม่รู้แล้ว" อาโอมิเนะเอ่ยตามความจริง

    "...นับวันเท็ตสึยะยิ่งแสบแฮะ" อาคาชิคุมขมับ...เขาว่าเขาพอเดาได้แล้วว่าที่จริงเท็ตสึยะไม่ได้จะจัดงานวันเกิดให้เขาจริงๆ หรอก แต่จะมาเป็นพ่อสื่อให้เขาแหง!...

    ...บาปกรรมจากที่เขาหลอกใช้คนอื่นเยอะใช่ไหมเนี่ย?...

    "ข้อนั้นฉันไม่เถียง...แต่ไหงนายทำหน้าเหมือนคนปวดท้องอย่างนั้นล่ะ?" อาโอมิเนะถามกลับ...นี่ถ้าไม่ใช่ว่าอาคาชิปวดจิตจนขี้เกียจเอากรรไกรจี้คออีกฝ่ายแล้วให้ตายยังไงอาโอมิเนะคงไม่กล้าเอ่ยถามออกมาแน่

    "ไม่มีอะไร...ตอนนี้เรารีบไปหาเท็ตสึยะดีกว่า..." ...ก่อนที่เท็ตสึยะจะทำอะไรแพลงๆ กับโคกิ...ถึงแม้เขาไม่คิดว่ารายนั้นจะทำอะไรเพื่อนร่วมทีมตัวก็เถอะ

    "โอเค ก็ดีเหมือนกัน" อาโอมิเนะที่ตอนนี้กลายเป็นคนว่างงานเพราะดันโดนคนผมแดงจับได้เอ่ยพร้อมถอดชุดมาสคอสออกเพื่อจะได้เดินได้สะดวกหน่อยแล้วเอาไปแขวนที่ที่แขวนเสื้อใกล้ๆ

    และจากนั้นเด็กหนุ่มทั้งสองก็พากันเดินไปตามทางที่ดูราวกับบ้านผีสิงใต้บาดาลแห่งนี้ไปอย่างไร้ความเกรงกลัวแม้บรรยากาศดูหลอนขนาดไหนก็ตาม

     

     

     

     

     

    "ให้ตายเถอะ! ไหงอาคาชิจจิจับพวกฉันได้เร็วขนาดนี้เนี่ย!?" เสียงบ่นอันดังดังขึ้นมาจากเด็กหนุ่มผมเหลืองในชุดม้าน้ำ (?)

    ย้อนความสักนิด...คือเมื่อเกือบสิบนาทีก่อนทุกคนที่พยายามหลอกอาคาชิต่างโดนจับไต๋ได้ตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มลงมือหลอกเสียอีก ไล่ตั้งแต่คนผมเขียวในชุดกัปปะเข้ากับสีผมพร้อมลักกี้ไอเทมในมือที่เป็นตุ๊กตากัปปะเช่นเดียวกับชุดที่เจ้าตัวใส่ ต่อด้วยคนผมม่วงทีแต่งเป็นทากทะเล (?) ที่ในชุดนั้นดูป่องๆ ไปด้วยขนมทั้งหลายแหล่ มาจนเด็กหนุ่มผมเหลืองที่กำลังโวยวายอยู่นี่แหละ...ส่วนคนที่ยังหาไม่เจอคือคนผมฟ้าที่แสนจืดจางกับคนผมน้ำตาลที่ถูกเอาตัวไปซ่อนไหนไม่รู้

    "นายจะบ่นไปทำไมเล่า...ก็โดนจับกันหมดนั้นแหละ" อาโอมิเนะเอ่ยอย่างหน่ายๆ กับเสียงโวยวายข้างๆ หู

    "ก็อุตสาห์จะได้แกล้งอาคาชิจจิทั้งทีนิ! ดันถูกเจอก่อนเริ่มลงมือเสียได้!" คิเสะทำแก้มป่องอย่างน่ารักน่าเอ็นดู

    "อย่างนายแกล้งฉันไม่ได้หรอกเรียวตะ" อาคาชิกรอดตาไปมาพลางดูสภาพอีกฝ่าย...นี่คิดจะทำให้เขากลัวหรือขำเนี่ย?

    "ใจร้ายอ่ะ!" คิเสะเริ่มหน้ามุ่ย

    "ไดกิ...นายรีบเก็บเรียวตะไปเลย ก่อนที่นายจะเป็นพ่อม่าย" อาคาชิเอ่ยเสียงเย็นปานน้ำแข็งขั๊วโลก

    "จ้า!" ทั้งคนโดนเรียกทั้งตัวต้นเหตุโดดกอดกันแทบในทันใด

    "นายหงุดหงิดอะไรของนายอาคาชิ? ปกติถ้าไม่เอากรรไกรปักหัวไปเลยก็เมินนี่นา?" มิโดริมะ (ที่ถอดชุดกัปปะแล้ว) เอ่ยถามขึ้นมา

    "..." อาคาชิถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อคนผมเขียวยังถามแต่ล่ะคำถามกับตนได้ตรงจุดเหมือนเดิม "...ไม่มีอะไรมาก แค่กำลังกลุ้มที่ดันโดนเท็ตสึเล่นน่ะ...แบบเรียวตะกับไดกิด้วย"

    "แบบคิเสะกับอาโอมิเนะ?" มิโดริมะทำหน้างงๆ "คุโรโกะจะเป็นพ่อสื่อให้นายเหรอ? นายไปชอบใครเนี่ย? คงไม่ใช่...ฟุริฮาตะหรอกนะ?"

    "โทษทีแล้วกันที่ต้องทำลายความหวังนั้น เพราะคำตอบคือใช่..." อาคาชิตอบไปตามตรงบวกกับ...อยากหาคนมาฟังคำบ่นของตนนั้นเอง "...แต่ถึงฉันชอบโคกิ โคกิคงไม่ได้ชอบฉันแบบคนรักแหงๆ ...เล่นสารภาพรักไปกี่ทีๆ ก็คิดว่าเป็นแบบเพื่อนหมดเลย จนฉันหมดมุขแล้วเนี่ย"

    "แต่ฉันว่าฟุริฮาตัจจิคงชอบอาคาชิจจิในแบบคนรักเหมือนกันนะ แค่ไม่รู้ตัวแค่นั้นแหละ..." คิเสะเอ่ยแย้งขึ้นมา "...คุโรโกจจิเขาดูออกน่ะว่าใครชอบใครแบบไหน แบคนรักหรือแค่เพื่อน...ถ้าไม่เชื่อก็ดูอย่างฉันกับอาโอมิเนจจิสิ คิดว่าอย่างอาโอมิเนะเนี่ยตอนแรกรู้เหรอว่าชอบฉันแบบคนรักน่ะ?"

    "ก็จริง" เด็กหนุ่มทั้งสามที่ฟังคนผมเหลืองพูดพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ต่างกับคนผมน้ำเงินที่ทำหน้ามุ่ย

    "นายไม่มีตัวอย่างอื่นหรือไง? คิเสะ?" อาโอมิเนะถามกลับด้วยท่าทางไม่พอใจนิดๆ

    "ก็คุโรโกจจิเพิ่งเคยจับคู่ฉันกับอาโอมิเนจจินิ แล้วจะไปเอาใครมาเป็นตัวอย่างล่ะ?" คิเสะเอ่ย

    "แถมเรื่องของนายถือว่าหนักกว่าฟุริฮาตะด้วย เพราะฟุริฮาตะนิสัยดีส่วนนายนิสัยเสีย..." มิโดริมะขยับแว่นนิดๆ โดยไม่สนใจสายตาอาฆาตของอีกฝ่ายเลย

    "ที่สำคัญทำร้ายจิตใจคิเสะจินไปตั้งหลายครั้งด้วย" มุราซากิบาระเอ่ยต่อจากคนผมเขียว

    "จนเรียวตะเกือบจะไปหาคนอื่นแทนนั้นแหละนายถึงอาการเริ่มออก และนี่ถ้าเท็ตสึยะไม่มาเป็นพ่อสื่อให้ นายคงร้องไห้กระซิกๆ กอดหมอนข้างเพราะเรียวตะไปหาคนอื่นแล้ว" อาคาชิเอ่ยด้วยวาจาที่เชือดเฉือนใจอาโอมิเนะอย่างแรง

    "ใช่สิ...ฉันมันไม่ดีนิ..." ทางอาโอมิเนะที่โดนพูดกระทบถึงขั้วหัวใจ ก็ไปหลบในมุมมืดเรียบร้อยแล้วในเวลานี่

    "อาโอมิเนจจิ...ใจเย็นสิๆ" คิเสะรีบเข้าไปปลอบก่อนที่อีกฝ่ายจะหายไปพร้อมกับมุมมืดนั้นเข้า

    "แล้วอาคาจินจะเอาไงต่อดีล่ะ? หาคุโระจินนี่ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะ~~~" มุราซากิบาระเมินจากคู่รักติ๊งต๊อง (?) แล้วมาเอ่ยถามกับคนผมแดง

    "ที่จริงฉันพอเดาสถานที่ที่เท็ตสึยะจะไปได้หรอก อย่างเท็ตสึยะไม่พ้นห้องเก็บของแน่..." อาคาชิเอ่ยพร้อมเริ่มก้าวเดินไป "อ๋อ...แล้วเรียวตะ...นายปลอบไดกิอยู่นี่แหละ เพราะฉันเดาว่าอีกนานกว่าไดกิจะคืนชีพได้น่ะ"

    ...เพราะเจอคำย้ำเรื่องนี้ทีไถึงกับไปกระซิกกับพื้นเป็นชั่วโมงทุกที...

    "โอเค..." คิเสะขานรับก่อนที่จะพยายามปลอบคนรักตนต่อ และเมื่อได้รับคำตอบรับเด็กหนุ่มสามคนที่เหลือก็พากันเดินทาง (?) กันต่อ โดยจุดหมายก็คือ...ห้องเก็บของตามที่อาคาชิบอกนั้นเอง

    "คิดว่าจะอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ? อาคาชิ" มิโดริมะถามเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องเก็บของแล้วพบกับ...

    ...สีแดงสนิมที่เปอะเปื้อนประตู! แถมมีรอยเล็บอีกต่างหาก! เขาจำได้ว่าตอนที่ตกแต่งสถานที่ไม่มีไอ้นี่ด้วยนะ!!!...

    "เข้าไปเดี๋ยวก็รู้" อาคาชิเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจนัก

    "น่ากลัวอ่ะ อาคาจิน" มุราซากิบาระเคลื่อนกายใหญ่ๆ ของตนไปหลบหลังคนผมแดง "ไม่เข้าไปได้ป่ะ?"

    "งั้นนายรอกับชินทาโร่ด้านนอกนี่แหละ" อาคาชิที่ตอนนี้ขี้เกียจกล่อมหรือขู่ (?) เด็กโข่งจึงคิดแค่ว่าปล่อยเลยตามเลยไปบวกกับเขาสัเกตเห็นนิดๆ ว่าคนผมเขียวกำลังแอบสั่นนั้นเอง...

    ...สงสัยตรงนี้เท็ตสึยะแอบมาทำเองตอนหลังแหง...

    เด็กหนุ่มผมแดงหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะเปิดประตูเดินโดยไม่คิดที่จะรอคำตอบจากเพื่อนของตนเลย ก่อนที่จะชะงั้นกึกเมื่อเห็นสภาพภายในห้องเต็มสองตา...

    ...นี่เท็ตสึยะเปลี่ยนแนวใหม่ในห้องนี้หรือไงเนี่ย?...

    ...สิ่งที่เห็นทำให้เด็กหนุ่มผมแดงก็อดคิดเช่นนี้ไม่ได้กับภาพตรงหน้าซึ่ง...ดูยังไงก็ไม่ต่างจากฉากในหนังฆาตกรรมเลยสักนิด!!! แถมยังเปลี่ยนจากห้องเปล่าๆ เป็นทางเดินแบบเขาวนกตอีก!!!

    "โคตรหลอน..." มิโดริมะที่ยื่นเข้ามาภายในห้องเพียงใบหน้าเอ่ยขึ้นมา...อา อาคาชิช่างกล้าเสียจริงที่กล้าเดินตัวปลิวเข้าไปแบบนั้นเนี่ย

    "คุโรจินใช้เวลาไม่นานแต่งห้องให้กลายเป็นงี้ได้ไงเนี่ย?" มุราซากิบาระที่ตอนนี้หลบหลังคนผมเขียวเอ่ยถามอย่างสงสัย

    "ฉันว่าบางทีคุโรโกะอาจแต่งห้องนี่ไว้แต่แรกแล้วก็ได้ อย่าลืมสิเรามาตกแต่งถึงแค่หน้าห้องเองนะ ส่วนด้านในคุโรโกะบอกว่าเอาไว้ให้ทุกคนรวมตัวกันในนี้เลยไม่ได้จัดแต่งอะไร" มิโดริมะลองเดาๆ ดู

    "ฉันเห็นด้วยกับชินทาโร่...มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เท็ตสึยะจะจัดแต่งห้องนี้ได้เพียงไม่นานเนี่ย" อาคาชิเอ่ยพลางหันกลับไปมองสองหน่อที่เกาะขอบประตูแน่น "แล้วก็บอกไปแล้วนิว่าให้รออยู่เฉยๆ ด้านนอก แล้วนี้จะตามมาเกาะดูทำไมเนี่ย?"

    "ก็งานนี้เริ่มดูไม่น่าไว้ใจนี่หว่า จะให้นายไปคนเดียวได้ไง" มิโดริมะเอ่ยตามประสาคนซึน ซึ่งถ้าให้แปลก็จะได้ใจความว่า 'ฉันห่วงนาย' นั้นแหละ

    "ใช่ๆ อีกอย่างบรรยากาศตอนนี้ดูเหมือนกับจะมีผีโผล่มาแหน่ะ...ถ้าไม่ติดว่านี่เคยเป็นบ้านคิเสะจินปานนี้หนีไปนานแล้ว" มุราซากิบาระทำหน้ามุ่ย

    "ทำเป็นพูดดีไป ทั้งๆ ที่สั่นเป็นเจ้าเข้าทั้งคู่เนี่ยนะ?" อาคาชิถามกลับอย่างอ่อนใจ

    "ใครสั่น? ไม่มี้!" เด็กหนุ่มผมม่วงกับเขียวเอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน

    "พวกนายนี่มันดื้อจริง..." อาคาชิส่ายหน้าแบบปลงๆ กับสองคนนี้และขณะที่กำลังตัดสินใจว่าจะลากสองคนนี้ไปด้วยกันกับตนหรือทิ้งไว้ดีก็...

    "แว๊กกกก!!!" ...มีเสียงร้องอันคุ้นหูดังขึ้นมาเสียก่อน

    "โคกิ!?" อาคาชิที่จำเสียงอีกฝ่ายด้วยเวลาเพียงชั่ววิมองไปยังภายในห้องที่เต็มไปด้วยเขาวนกต และ...วิ่งตามเสียงนั้นไปทันที

    "เฮ้ย! เดี๋ยว! อาคาชิ!!!" มิโดริมะตะโกนเรียกคนที่สิ่งจู๊ดเข้าเขาวนกตไป โยที่คนถูกเรียกก็ไม่มีท่าทีจะสนใจเลยสักนิดเดียว

     

     

     

     

     

    ...อยู่ไหนล่ะเนี่ย!?...

    เด็กหนุ่มผมแดงที่วิ่งหลงภายในเขาวนกตอยู่นานสองนานมองซ้ายมองขวาหาตัวต้นเหตุที่ทำให้ตนวิ่งเข้ามาในนี้อย่างไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนี้

    "โคกิ! อยู่ไหน!?" อาคาชิลองตะโกนเรียกชื่ออีกฝ่ายดู และผลที่ได้กลับมาคือ...

    "ฉ...ฉันอยู่นี่อาคาชิ!!! ช่วยฉันที!!! แว๊ก!!! อย่าเข้ามานะเฟ้ย!!! อุ๊บ!" ...เสียงฟุริฮาตะที่ลอยกลับมาพร้อมเสียงเหมือนกำลังแว๊ดใส่อะไรสักอย่างก่อนที่เสียงจะเงียบลงไป และด้วยเสียงนั้นทำให้อาคาชิรีบวิ่งไปทางต้นเสียงทันทีก่อนที่จะหาทางไปไม่เจออีกรอบ

    ...เท็ตสึยะคงไม่คิดทำอะไรแผลงๆ กับโคกินะ!?...

    อาคาชิคิดในใจอย่างหัวเสียพร้อมเร่งฝีเท้าหาทางออกอย่างเต็มที่...ถ้าไม่ติดว่าไอ้ผนังที่เอามากั้นทางเนี่ยเป็นแบบที่ใช้กรรไกรกระซวกไม่ได้ล่ะก็ปานนี้เขาออกไปได้นานแล้ว

    เด็กหนุ่มวิ่งเลาะซ้ายเลาะขวาไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็...มาถึงทางออกเสียที...

    "ยินดีด้วยที่ออกมาได้นะครับ" ...และสิ่งแรกที่ได้ยินเมื่อออกมาจากเขาวนกตได้แล้วคือเสียงของเพื่อนสุดเกรียนของเขาเอง

    "ไม่ต้องพูดมากเท็ตสึยะ! โคกิอยู่ไหน!?" อาคาชิเอ่ยถามโดยไม่สนใจคำทักทายของคนผมฟ้าแม้แต่น้อย

    "ใจร้อนจังนะครับ" คุโรโกะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา "โอ๊ะ! อย่าเพิ่งเตรียมเอากรรไกรจ้วงไส้ผมแบบนั้นสิครับ...ฟุริฮาตะคุงอยู่ในห้องด้านหล้งน่ะครับ จะทำอะไรต่อนั้นเชิญเลยครับ แต่อย่าถึงขั้นกดเพื่อนผมล่ะครับ"

    "หมายความว่าไง?" อาคาชิถามกลับ แต่...เพียงพริบตาร่างของคุโรโกะ เท็ตสึยะก็หายไปเสียแล้ว

    ...นับวันยิ่งเหมือนผีจริงๆ...

    อาคาชิกรอดตาไปมาก่อนที่จะตัดสินใจโยนเรื่องคุโรโกะทิ้งไปแล้วเดินไปยังบานประตูที่อยู่ตรงหน้า...ก่อนที่จะเปิดประตูออกมาเบาๆ เผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน แล้วมันทำให้...

    ...นี่เท็ตสึยะเล่นบ้าอะไรเนี่ย!?...

    ...อาคาชิอดคิดแบบนี้ไม่ได้จริงๆ เมื่อเห็นว่าเวลานี้คนที่เขาตามหานั้นถูกมัดแล้วจับวางไว้ตรงกลางดกปลาไหลเนี่ย! แถมปลาไหลที่ว่าก็ไม่ใช่ตัวสองตัวนะ แต่เป็นร้อย! ไปหามาจากไหนเนี่ย!?

    "อื้อๆ!" เสียงอู้อื้อดังออกมาจากร่างผมสีน้ำตาลที่นั่งกลางดกปลาไหล โดยที่ในปากมีปลาไหลตัวหนึ่งที่อุตริตคิดอะไรไม่รู้มุดเข้าไป แถมดูท่าเด็กหนุ่มยิ่งพยายามที่จะพ่นปลาออกจากปากตนเท่าไหร่มันก็ยิ่งพยายามมุดเข้าไปดังเดิมเท่านั้น (จะแกล้งอะไรให้มันดีๆ หน่อยได้ไหมเนี่ย!? // ฟุริฮาตะ , ไม่ได้จ้า // s)

    "..." เด็กหนุ่มผมแดงยืนนิ่งมองอีกฝ่ายอย่างสติหลุดเล็กๆ กับภาพที่เด็กหนุ่มผมน้ำตาลอยู่ท่ามกลางปลากไหลจำนวนมากทำให้เมือกเหนียวๆ ติดตามลำตัวและใบหน้าเต็มไปหมด ในปากก็มีปลาไปตัวหนึ่งอุดอยู่ ดวงตาสีน้ำตาลใสยังมีน้ำตาคลอนิดๆ แถมมีเสียงครางเบาๆ ด้วย...ช่างชวนให้คิดลึกดีแท้

    ...เข้าใจที่พูดว่าอย่าให้ถึงขั้นกดก็งานนี้แหละ...

    "อื้อๆ ...พรูด! แค่กๆ! ยืนดูบ้าอะไรเล่าอาคาชิ! มาช่วยกันหน่อยเซ่!" ฟุริฮาตะที่ในที่สุดก็พ่นปลาออกจากปากได้โวยขึ้นมา ทำให้อีกฝ่ายเริ่มที่จะได้สติคืนมา

    "อ...อา โทษที" อาคาชิเอ่ยก่อนที่จะลุยดงปลาไหลไปอุ้มตัวอีกฝ่ายออกมาแล้วรีบปิดประตูขังปลาไหลไว้ในห้องนั้นต่อไปจนกว่าจะกลายเป็นปลาร้ายกแผง (?)

    "ฟู่...กว่าจะออกมาได้" ฟุริฮาตะถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อในที่สุดตนก็หลุดพ้นจากปลาไหลได้เสียที (?) "ขอบใจที่ช่วยนะอาคาชิ"

    "ไม่เป็นไร..." อาคาชิเอ่ยขณะที่แก้มัดอีกฝ่าย "...แล้วไหงนายถูกจับไปไว้กลางปลาไหลได้เนี่ย? ฉันมั่นใจว่าเท็ตสึยะไม่มีแรงพอยกนายไหวแน่"

    "แหงล่ะ ถ้าคุโรโกะอุ้มฉันไหวก็พิลึกล่ะ..." ฟุริฮาตะเอ่ย "...คุโรโกะบอกให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนั้นน่ะ แล้วจากนั้นอยู่ๆ คุโรโกะหายไปไหนไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็โดนจับมัดแล้วน่ะ...แถมพอได้ยินเสียงอาคาชิแว่วๆ มาคุโรโกะก็เอาปลาไหลมาจากไหนไม่รู้มาเทใส่ห้องจนเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ"

    "...เท็ตสึยะกะมาพังบ้านเรียวตะเป็นของแถมแหง" อาคาชิคุมขมับ...เอาเถอะ ยังดีที่เท็ตสึยะเลือกห้องที่มีท่อระบายน้ำไม่งั้นโคกิได้แช่น้ำกลางดงปลาไหลให้จั๊กจี้กว่าเก่าแน่ "นอกจากนั้นเท็ตสึยะไม่ได้ทำอะไรใช่ไหม?"

    "ไม่มี จะมีก็แค่โดนปลาไหลมุดไปทั่วกับโดนปลาไหลกัดลิ้นเท่านั้นแหละ" ฟุริฮาตะปัดเมือกที่หนาเป็นก้อนออกจากแขนตน

    "โดนกัดลิ้นเหรอ?" อาคาชิถามเสียงเย็น (เดี๋ยวนะ...นี่นายหึงแม้กระทั่งกับปลาไหลเหรอเนี่ย? // s , ถ้าใช่...แล้วจะทำไม? // อาคาชิ)

    "อื้อ ใช่" ฟุริฮาตะพยักหน้ารับอย่างใสซื่อ

    "ไหน...ขอดูหน่อยสิ..." อาคาชิเอ่ย

    "เอ๋?" ฟุริฮาตะร้องออกมาอย่างงงๆ

    "เร็วๆ สิ" อาคาชิเร่ง

    "โอเคๆ ก็ได้ๆ" ถึงแม้ฟุริฮาตะจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะอยากดูไปทำไม แต่ก็แล่บลิ้นอแกมาให้อีกฝ่ายดู

    "อื้อ...โดนกัดจนแดงเลยแฮะ..." อาคาชิเริ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาเล็กน้อย "...งั้นเดี๋ยวลบรอยให้แล้วกันนะ"

    "!?" ฟุริฮาตะผงะเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายเอามือคว้าท้ายทอยตนก่อนที่จะประกบปากเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว "อื้อ!? อ...อื้อ~~~"

    เด็กหนุ่มผมน้ำตาลพยายามตีพยามผลักอีกฝ่ายออกไปอยู่สักพักก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นกำเสื้ออีกฝ่ายแน่นแทนเมื่อเริ่มหมดแรงกับคนผมแดงที่จูบเก่งเกินคาด ลิ้นที่เริ่มรุกรานเข้ามาภายในโพรงปากเมื้อสบโอกาส จนคนถูกจูบชักคล้อยตามไปทุกขณะ

    ...ถึงฉันไม่เคยทำอะไรเกินเลยกับโคกิมาก่อน...แต่เลยมาเอาโคกิมายั่วขนาดนี้คิดว่าฉันจะทนไหวเหรอเท็ตสึยะ? ยังไงก็ขอสักนิดเถอะ...

    อาคาชิคิดใจในขณะที่มีอีกฝ่ายลูบไล้ไปตามร่างของอีกฝ่ายอย่างมันส์มือ (?) ผิวสัมพัสทุกอย่างนั้นเริ่มทำให้นายอาคาชิ เซย์จูโร่ชักอยากกดคนขึ้นจริงๆ เสียแล้ว ถ้าไม่ติดว่ากลัวคนตรงหน้านี้จะหลบหน้าเอา...ถึงแม้ที่ทำอยู่นี่ก็อาจทำให้โดนหลบหน้าก็เถอะ แต่ยังไงเขามั่นใจว่าคงง้อง่ายกว่าเผลอจับกดล่ะ!

    และเมื่อคิดได้อย่างนี้อาคาชิจึงหยุดมือที่ลูบไล้ตามกายอีกฝ่ายลง พร้อมกับถอนจูบออกอย่างช้าๆ ด้วยความเสียดายนิดๆ

    "ไง...หมดแรงหรือไงโคกิ?" อาคาชิเอ่ยเย้าแหย่อีกฝ่ายที่เกือบทรุดลงกับพื้นเมื่อครู่...และคงทรุดไปแล้วจริงๆ ถ้าอาคาชิคว้าตัวไว้ไม่ทัน

    "อ...อา..." ฟุริฮาตะที่เริ่มดึงสติกลับมาได้เล็กน้อยอ้าปากพะงาบๆ เมื่อนึกขึ้นได้เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น "...อาคาชิ! นี่นายทำอะไรเนี่ย!!?"

    "จูบไง โคกิไม่รู้เหรอ?" อาคาชิตีหน้าซื่อถาม

    "เออ! รู้ว่าจูบ! แต่ที่ฉันถามคือนายจูบฉันทำไมเนี่ย!?" ฟุริฮาตะในยามนี้เริ่มหน้าแดงปานจะระเบิดออกมา...จูบแรกของเขาเลยนะเฟ้ย!

    "ก็อย่างที่เคยบอก...เพราะฉันรักโคกิไง และคราวนี้ขอย้ำว่าไม่ใช่รักหรือชอบแบบเพื่อนด้วย..." ...ถ้าคราวนี้ยังเข้าใจว่าเป็นแบบเพื่อนอีกเขาจะร้องไห้ให้ดู! เพื่อนโลกไหนมันจะถึงขนาดจูบแบบนี้ให้มันรู้ไป! แต่ถ้ามี...เขาจะฆ่ามานนนน!!!

    "อ...เอาจริงดิ?" ฟุริฮาตะแทบจะสมองหยุดทำงานเลยในยามนี่

    "จูบแลกลิ้นขนาดนี้คงไม่เอาจริงมั้ง?" อาคาชิประชดเล็กๆ

    "แต่ฉันผู้ชายนะ! อาคาชิ! แล้วนี่...นี่เราจะชอบพอกันแบบนั้นได้ไง!?" ฟุริฮาตะถามกลับอย่างลนลาน

    "ผู้ชายก็ช่างสิ ฉันรักฉันชอบของฉันนิ และฉันไม่สนใจว่าใครจะมองยังไงด้วย..." อาคาชิเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่น "...ที่สำคัญฉันรักโคกิและทุกๆ อย่างที่เป็นโคกิแค่นั้นแหละ ส่วนปัจจัยอื่นฉันไม่สนใจหรอก ถ้าใครไม่เห็นด้วยหรือเข้ามาวุ่นวายฉันจะเชือดทิ้งให้ดู"

    "..." ฟุริฮาตะนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย "ล...แล้วถ้าเกิดอาคาชิไปเจอคนที่ดีกว่าฉันล่ะ? อาคาชิก็จะทิ้งฉันไปแล้วพูดแบบนี้กับคนนั้นหรือเปล่า?"

    ...ที่จริงใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าอาคาชิคิดยังไงกับเขาหรอก แต่เขากลัวนี่นา...กลัวว่าเขาจะถูกทิ้งไปในสักวัน...

    "ไม่มีทางและไม่มัวันเกิดขึ้นด้วย" อาคาชิแย้ง "จะให้สาบานหรืออะไรก็ได้ แต่โปรดมั่นใจเถิดว่าฉันจะรักโคกิคนเดียวตลอดไป ดังนั้น...คบกับฉันเถอะนะโคกิ"

    "อ...อา คือฉัน..." ฟุริฮาตะออกอาการลังเลสักพักก่อนที่จะพยักหน้าพร้อมน้ำตาที่คลอเล็กน้อย "...อื้ม...ตกลง"

    "จริงนะ?!" อาคาชิตาวาวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำตอบรับ ส่วนทางฟุริฮาตะก็พยักหน้ายืนยันทำให้อาคาชิถึงขั้นพุ่งกอดอีกฝ่ายด้วยความดีใจ "ไชโย!"

    ...ความพยายามนับปีสำเร็จผลสักที!...

    "ยินดีด้วยนะครับ...และกรุณาปล่อยเพื่อนผมได้แล้วครับ เห็นคุณหน้าตาดี๊ด้ากอดเพื่อนผมแบบนี้แล้วมันหงุดหงิดชอบกล" เสียงเรียบๆ ดังขึ้นมาจากด้านหลังของคนผมแดง ทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองสะดุ้งเฮือกพร้อมหันขวับไปที่ต้นเสียงอย่างทันทวนที "โอ้...นานๆ ทีจะเห็นสีหน้าหลุดเหวอแบบนี้ของคุณนะครับ อาคาชิคุง ดูถ้าถ่ายไปขายน่าจะได้ราคางามแน่"

    "ไม่ต้องคิดขายฉันเลย! นี่นายโผล่มาตอนไหนเนี่ยเท็ตสึยะ!?" อาคาชิแว๊ดใส่คนผมฟ้า...คงไม่ได้อยู่ตั้งแต่เขาเริ่มจูบโคกิหรอกนะ!?

    "ตอนที่คุณเริ่มสารภาพรักกับฟุ่ฮาตะคุงน่ะครับ..." คุโรโกะเอ่ยหน้าตาย "...ที่จริงผมคิดว่าคุณจะเผลอกดฟุริฮาตะคุงเหมือนกับตอนอาโอมิเนะคุงเกือบคิเสะคุงซะอีก...ดีนะครับที่ไม่ทำอะไรฟุริฮาตะคุง ไม่ง้นผมตื้บคุณเป็นของแถมและยึดฟุริฮาตะคุงมาแทนแน่ครับ"

    ...และถ้าไม่เห็นแก่ฟุริฮาตะคุงผมยึดมาเป็นของตัวเองจริงๆ ตั้งนานแล้วครับ!...

    "ไม่ต้องเลย! จะไปไหนก็ไป! อีกอย่างฉันไม่หื่นแบบไดกิด้วย!" อาคาชิแยกเขี้ยวใส่คนผมฟ้า...ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าความจริงคิดว่าถ้าเขาแห้วจะมาเสียบแทนแหง!

    "เห้! อย่าว่าฉันหื่นดิ!" เสียงหนึ่งดังขึ้นตามด้วยร่างคนผิวเข้มที่เดินเข้ามาหา

    "แต่ก็หื่นจริงนิ? แค่ฉันยอมคบด้วยถึงกับกดคาบ้านผีเลย" เด็กหนุ่มผมเหลืองที่เดินตามมาทำหน้ามุ่ย

    "ใช่...แถมยังไม่สนอีกว่ามีคนเห็นเนี่ย" เด็กหนุ่มผมเขียวกรอดตาไปมา

    "ก็มิเนะจินหน้าด้านนี่นะ~~~" เด็กหนุ่มผมม่วงเอ่ยพลางเคี้ยวขนมกรุบๆ

    "..." คนผมแดงมองแต่ล่ะหน่อที่เข้ามาหา "มาได้ไงเนี่ย?"

    ...จำได้ทิ้งไว้หน้าเขาวงกตกันทั้งหมดเลยนี่หว่า?...

    "เท็ตสึพามา" อาโอมิเนะตอบง่ายๆ สั้นๆ

    "เท็ตสึยะ..." อาคาชิเบนสายตาไปที่คนผมฟ้า "...นายพาพวกนี่มาถึงตอนไหน?"

    "พร้อมกับผมนั้นแหละครับ" คุโรโกะเอ่ย

    "แล้วนายจะตามคนมาดูทำไมเนี่ย!?" ฟุริฮาตะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้...โธ่! เขาอายนะ!

    "จะได้เป็นพยานกันอาคาชิคุงนอกใจคุณไงครับ..." คุโรโกะเหล่มองคนผมแดง "...และถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงผมจะได้จัดการอาคาชิคุงเลยครับ"

    ...ด้วยการแย่งคุณมาเป็นของตัวเอง...

    "ไม่ต้องแอบหวังเลยเท็ตสึยะ ฉันไม่นอกใจโคกิแน่" อาคาชิค้อนใส่คนผมฟ้า

    "แค่เผื่อไว้ก่อนครับ" คุโรโกะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ "แต่ตอนนี้พาฟุริฮาตะคุงไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนดีกว่าครับ กลิ่นคาวหึงเลย...คิเสะคุงช่วยพาฟุริฮาตะคุงไปห้องน้ำชั้นบนทีนะครับ"

    "เอ๋? ชั้นนี้ก็มีห้องน้ำนิ? จะขึ้นไปชั้นบนทำไมล่ะ?" คิเสะถามกลับอย่างงุนงง

    "พอดีผมให้มิบุจิซังกับมายุสุมิซังไปจัดการกันเองในห้องน้ำแทนที่จะทำกันกลางห้องน่ะครับ" คุโรโกะเอ่ยโดยไม่สนใจสีหน้าเหวอๆ ของใครหลายๆ คนเลย

    "...นายวางแผนให้จิฮิโระซังถูกกดอยู่แล้วสินะ" อาคาชิยิ้มเครียดๆ

    "ครับ...ถือว่าแก้แค้นที่เคยว่าผมเมื่อปีก่อนครับ" คุโรโกะทำหน้าสะใจมาก

                    "..." ทุกคนที่อยู่ในห้องเหงื่อตกนิดๆ

    ...นับวันยิ่งน่ากลัวเว้ย!...

    "ฉันจะไม่เป็นศัตรูกับนายนอกจากเรื่องบาสเด็ดขาด" อาคาชิคุมขมับ...เดี๋ยวนี้วางแผนและคาดการณ์ได้น่ากลัวกว่าเขาอีก!

    ...แค้นฝังหุ่นเหลือเกินนะ!!!...

    "ฉันก็ว่างั้นแหละ..." ฟุริฮาตะส่งยิ้มแห้งๆ ให้คนผมแดงที่ดูจะปวดจิตเหลือหลาย...

    ...และแล้ว...งานวันเกิดของอาคาชิ เซย์จูโร่บวกงานจับคู่นั้นก็จบลงด้วยการที่หลังจากที่ฟุริฮาตะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็ไปสวีตหวานกันต่อสองคนนั้นเอง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End

     

     

    Cr. かお
    http://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=51994724

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×