คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #143 : [MitoKoga] Kanchigai
Title : Kanchigai
Fandom : Kuroko no Basket
Paring : Mitome x Kogane
Notes : ...เราหมดมุขจ้า
.....................................................................................
Kanchigai
"นายนี่มันบ้าที่สุด!"
"..."
"ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย!"
"..."
"เข้าใจผิด? เข้าใจผิดอะไรกัน! เห็นกันอยู่โต้งๆ แบบนี้เนี่ย!?"
"..."
"ไม่ต้องมาทำหง่อยเลย!"
"..."
"อย่ามาอ้อนเสียให้ยาก!"
เสียงถกเถียงกัน (ที่เหมือนกำลังพูดคนเดียวมากกว่า) ที่ดังก้องไปทั่วทั้งโรงยิมเรียกสายตาจากผู้คนโดยรอบหันมามองต้นเสียง...และพบกับเด็กหนุ่มสองคนกำลังประจันหน้ากันอยู่...
...และคนที่ทะเลาะกันอยู่นั้นคือคนที่ทุกคนภายในทีมบาสเซย์รินนั้นต่างไม่คิดไม่ฝันว่าทั้งสองจะทะเลาะกันได้...ซึ่งก็คือโคงาเนะอิ ชินจิกับมิโตเบะ รินโนสุเกะที่สนิกกันจนตัวติดกันเป็นปลาท่องโก๋ตลอดมานั้นเอง
"..." เด็กหนุ่มผมดำทำท่าเหมือนกำลังร้อนรนขณะที่ปากนั้นอ้าพะงาบๆ แบบไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาเลย...
"โกหก! คนหลอกลวง!" ...แต่เด็กหนุ่มหน้าแมว (?) ยังอุตสาห์ฟังออกพร้อมเอ่ยออกมาเช่นนี้ด้วยท่าทางที่ดูจะโกรธเคืองอีกฝ่ายมาก ดวงตากลมโตราวแมวเริ่มมีหยาดน้ำไหลออกมา
"..." มิโตเบะพยายามอธิบาย (?) บ้างอย่างกับอีกฝ่ายสุดฤทธิ์
"อึก! เรื่องมาถึงขนาดยังคิดโกหกอีกเหรอ? นายนี่..." โคงาเนะอิเม้มปากแน่น "...นายนี่มันบ้า! ไอ้บ้าใบ้เอ้ย! ฉันเกลียดนายที่สุดเลย!!!"
"!!!" มิโตเบะเมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็ตัวแข็งทื้อไปด้วยความซ็อก ขณะที่ดวงตามองไปยังอีกฝ่ายที่วิ่งหนีไป
"เฮ้ย! เดี๋ยว! โคงะ!?" เด็กหนุ่มผู้สวมแว่นเพียงคนเดียวในที่นี้เรียกโคงาเนะอิที่วิ่งผ่านตนไปอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงปิดประตูดังสนั่นจนน่ากลัวว่าประตูจะพังชอบกล "ให้ตายสิ! เกิดอะไรขึ้นเนี่ยมิโตเบะ!?"
"นั้นสิมิโตเบะคุง! ฉันไม่เคยเห็นโคงาเนะอิคุงโกรธขนาดนี้เลยนะ!" เด็กสาวผมสีน้ำตาลเอ่ยถาม แต่ร่างของมิโตเบะกลับนิ่งสนิก ไม่มีสิ่งใดตอบกลับมาเลย
"มิโตเบะ...นายโอเคนะ?" เด็กหนุ่มผู้มีมุขแป้กได้ตลอดเวลา (?) เอานิ้วจิ้มๆ อีกฝ่าย และผลที่ได้กลับมาคือ...
โครม!!!!
...นายมิโตเบะ รินโนสุเกะนั้นล้มตึงลงกับพื้น เป็นตัวบ่งบอกว่าสติได้บินออกจากร่างไปแล้ว
"เฮ้ย! มิโตเบะ~~~~~!?!" อิสึกิที่เป็นคนสะกิดอีกฝ่ายเมื่อครู่ถึงกับร้องเสียงหลง "แว๊ดดดดด! วิญาญาณจะออกจากร่างแล้ววววว!!! ทุกคนมาช่วยหามไปห้องพยาบาลที!!!"
"โอเคๆ! เดี๋ยวฉันพาไปเอง!" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่หน้าแป้นแล่นตลอดเวลาแบกคนที่สลบอยู่ขึ้นมาบ่าและรีบนำร่างของอีกฝ่ายไปห้องพยาบาลทันที
"...ดูท่ารุ่นพี่มิโตเบะคงซ็อกน่าดูนะ" เด็กหนุ่มผมสีเพลิงมองตามร่างที่วิ่งออกไปอย่างงุนงงตามประสาคนตามสถานการณ์ไม่ทัน
"ก็สมควรซ็อกอยู่หรอกครับ ก็รุ่นพี่มิโตเบะสนิกกับรุ่นพี่โคงาเนะอิสุดๆ เลยนี่ครับ" เด็กหนุ่มผมฟ้าเอ่ย
"ว่าแต่พวกรุ่นพี่เขาทะเลาะอะไรกันเนี่ย?" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ดูราวชิวาว่า (ฉันไม่ใช่ชิวาว่านะ! // ฟุริ) หันไปถามคนข้างๆ ตน
"จะไปรู้เหรอ? ก็พวกฉันก็ยืนกับนายตลอดนี่" เด็กหนุ่มหัวไข่ (?) ยักไหล่
"แต่ที่แน่ๆ คือ...ไม่น่าใช่เรื่องเล็กแน่ล่ะ" เด็กหนุ่มหัวตั้ง (?) เอ่ย
"อื้อ เรื่องใหญ่พอดูเลยล่ะนะ" เด็กหนุ่มตาตี่ (?) ยื่นหน้ามาร่วมวงสนทนาด้วยอีกคน
"ทำไมคิดงั้นล่ะครับรุ่นพี่สึจิดะ?" ฟุริฮาตะถามพร้อมเอียงคอน้อยๆ
"ก็โคงะไม่เคยขึ้นเสียงใส่มิโตเบะสักครั้งนิ แถมโคงะไม่เคยโกรธใครถึงขั้นร้องไห้แบบนี้ด้วย" สึจิดะอธิบาย (ดีจริง...คราวนี้เธอไม่ลืมฉัน // สึจิดะ , อ๋อ พอดีคราวนี้เขียนแบบเรียงตัวน่ะเลยไม่ลืม // s , แสดงว่าถ้าเขียนแบบปกติก็ลืมกันสินะ? // สึจิดะ , แม่นแล้ว // s)
"จะว่าไปก็จริงนะ..." เด็กหนุ่มผมสีเพลิงเริ่มมาร่วมวงอีกคน "...รุ่นพี่เขาก็ดูจะสนิกสนมกันจะตาย ทะเลาะกันทีต้องไม่ใช่เรื่องเล็กแน่"
"เรื่องเล็กไม่เล็กไม่รู้ครับ แต่ตอนนี้เรื่องกำลังจะมาแล้วครับ..." เด็กหนุ่มผมฟ้าผู้แสนจืดจางโผล่ขึ้นมากลางวงสนทนาทำให้เด็กหนุ่มทั้งหลายสะดุ้งโหยง "...ลืมไปแล้วเหรอครับว่าโค้ชยังไม่อนุญาตให้พวกเราหยุดฝึกน่ะครับ?"
"อะจึ๋ย...จริงด้วย" คางามิเหงื่อแตกซิกๆ ขณะที่มองไปด้านหลังตนอย่างช้าๆ
"รู้ตัวกันแล้วใช่ไหม?" ไอดะ ริโกะผู้เป็นโค้ชยิ้มทะมึนใส่เหล่าเด็กหนุ่มที่แอบอู้ทั้งหลาย "อย่ามัวแต่จับกลุ่มนินทาเหมือนแม่บ้านแบบนี้สิย่ะ!!! รีบไปซ้อมกันเลย!!! ส่วนเรื่องมิโตเบะคุงกับโคงาเนะอิคุงไว้รอให้มิโตเบะคุงฟื้นแล้วค่อยไปเค้นคอกัน!"
"ค...ครับ!" เด็กหนุ่มทั้งหลายขานรับก่อนที่จะรีบแยกย้ายไปซ้อมตามหน้าที่ของตนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะโดนลงโทษให้ฝึกหนักกว่าเดิมสองเท่า
ภายในห้องสีขาวสะอาดตาอันเงียบสงบที่ปกติมักจะโล่งจนแทบไม่ทีคนอยู่ ในยามนี้กลับมีเด็กหนุ่มจำหนุ่มหนึ่งกับเด็กสาวอีกหนึ่งมานั่งรอคนที่สลบบนเตียงให้ฟื้นขึ้นมาเสียที
"ให้ตายสิ...มิโตเบะคุงสลบนานกว่าที่คิดแฮะ" เด็กสาวเพียงคนเดียวของกลุ่มบ่นขึ้นมาเบาๆ
"นั้นสิ เล่นซะจนซ้อมกันเสร็จหมดแล้วยังไม่ฟื้นเลย" เด็กหนุ่มผู้เป็นกัปตันทีมถอนหายใจออกมาเบาๆ
"คงซ็อกหนักกว่าที่คิดสินะ งานนี้เนี่ย" เด็กหนุ่มตาตี๋มองคนยังไม่ฟื้นอย่างห่วงๆ
"นั้นสิน้า...ว่าแต่..." เด็กหนุ่มหน้าแป้นมองไปรอบๆ "...พวกปีหนึ่งหายไปไหนหมดเนี่ย? อิสึกิก็ด้วย?"
"ใช้ให้ไปตามโคงาเนะอิคุงกับเอาของที่โคงาเนะอิคุงลืมไว้ที่ห้องชมรมไปคืนน่ะ" ไอดะ ริโกะผู้เป็นตอบด้วยสีหน้าเป็นกังวล "ก็ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าโคงาเนะอิคุงกลับบ้านไปแล้วหรือไปอยู่ไหนนิ ให้พวกนั้นไปหาตัวให้เจอก่อนนั้นแหละดีแล้ว"
"ก็จริง เกิดโคงะหายตัวไปดื้อๆ สงสัยวุ่นกว่าเก่าแน่" คิโยชิพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
"ไม่ต้องสงสัยเลย...วุ่นวายแน่ๆ ล่ะ" ฮิวงะเอ่ย ขณะเดียวกัน...ร่างที่นอนนิ่งบนเตียงเมื่อครู่ก็เริ่มที่จะขยับนิดๆ ก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
"อ่ะ! มิโตเบะคุง! ฟื้นแล้วเหรอ!?" ริโกะที่เห็นว่าอีกฝ่ายฟื้นแล้วเป็นคนแรกเอ่ย ทำให้เด็กหนุ่มอีกสามคนที่อยู่ภายในห้องหันมายังร่างของคนที่เริ่มลุกขึ้นมานั่งทันที
"นายโอเคดีไหม? มิโตเบะ?" ฮิวงะถาม
"..." มิโตเบะพยักหน้ารับ
"ไม่ปวดหัวหรืออะไรแน่นะ?" ฮิวงะถามย้ำ
"..." มิโตเบะพยักหน้ารับอีกครั้ง
"งั้นก็ดี แล้ว..." ฮิวงะรี่ตามองอีกฝ่าย "...นี่นายมีเรื่องอะไรกับโคงะเนี่ย?"
"..." มิโตเบะหน้าเจื่อนลงก่อนที่จะเอ่ยปากพูดแบบไม่มีเสียง ซึ้งแปลได้ว่า...
...ไม่มีอะไร...มากหรอก...
"แบบนี้มันน่าจะมีแน่ มีแหงๆ เลย" ริโกะแย้งคำพูดของอีกฝ่าย
"ถ้าไม่มีอะไรมากจริงๆ ฉันไม่คิดว่ามันจะทำให้นายกับโคงะเถียงกันหนักขนาดนี้นะ" สึจิดะส่ายหน้าแบบว่า 'ฉันไม่เชื่อนายหรอก'
"ฉันว่าอย่างนี้เรียกว่าทะเลาะกันเลยมากกว่านะ" คิโยชิเอ่ยเช่นนี้ และสิ่งที่ได้รับกลับมาคือ... "หว่าๆ! มิโตเบะ!? ร...ร้องไห้ทำไมอ่ะ?!"
...มิโตเบะน้ำตาแตกทันทีที่ได้ยินคำพูดของคิโยชินั้นเอง
"ก็ใครใช้ให้พูดอะไรไม่คิดแบบนั้นฟะ!?" ฮิวงะยกเท้าถีบคิโยชิ
"เอ๋!? แต่ที่พูดนั้นฉันคิดแล้วนะ!" คิโยชิเถียงกลับ...แบบที่ดูจะเถียงผิดเรื่องไปหน่อยก็เถอะ
"เหรอ!? สาบานนะว่านี้คือคิดแล้ว!?" ฮิวงะแยกเขี้ยวใส่
"นี้มันใช่เวลาเถียงกันไหมย่ะ!?" ริโกะหันไปแว๊ดคนที่กำลังจะเริ่มะเลาะกันก่อนที่จะหันกลับมาปลอบคนที่น้ำตาแตกอยู่ "โอ๋ๆ ไม่ร้องนะมิโตเบะคุง"
"..." มิโตะเบะที่น้ำตาแต่ไม่หยุดขยับปากไปมาราวกับพึมพำบางอย่าง ซึ่งตีความได้ว่า...
...โคงะบอกว่าเกลียดฉันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...
"ฮ...เฮ้ ตั้งสติหน่อยสิมิโตเบะ!" สึจิดะที่เห็นท่าไม่ดีเอ่ยขึ้นมาก่อนที่เพื่อนตนจะจิตตกจนโดดตึกตายไปเสียก่อน
"นั้นสิมิโตเบะคุง...ใจเย็นๆ แล้วอธิบายหน่อยสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เผื่อพวกฉันจะช่วยได้" ริโกะเอ่ยปลอบ
"..."
...จะช่วย...จริงๆ นะ?...
"แน่นอน ช่วยแน่นอน" ริโกะเอ่ยยืนยัน "ใช่ไหม? เทปเปย์ ฮิวงะคุง สึจิดะคุง"
"แน่นอน...ช่วยแน่" สึจิดะพยักหน้ารับ
"ยังไงก็ช่วยล่ะ...ฉันมั่นใจว่ามิโตเบะไม่มีทางก่อเรื่องโลกาวินาศได้เท่าเจ้านี้แน่นอน ดั่งนั้นต่อให้ฟังปวดจิตแค่ไหนก็จะช่วยล่ะนะ" ฮิวงะเอ่ยพร้อมเหล่มองคนหน้าแป้น
"ช่วยด้วยความยินดีเลยล่ะ" คิโยชิเอ่ยอย่างเริงร่าแบบไม่สนใจคำเหน็บแนมของคนใส่แว่นเท่าไหร่นัก
"เห็นไหม? ทุกคนยอมช่วยนะ...ดังนั้นหยุดร้องเถอะนะ" ริโกะหยิบผ้าเซ็ดหน้ายื่นให้อีกฝ่าย
"..." มิโตเบะรับผ้าเช็ดหน้ามาเซ็ดหน้าตนอย่างเงียบๆ
...ก็ได้...แต่ต้องช่วยกันจริงๆ นะ...
"อื้ม" ริโกะพยักหน้ารับ
"ดูงานนี้นายจะย้ำคิดย้ำทำกว่าปกตินะมิโตเบะ" คิโยชิเอียงคอน้อยๆ อย่างสงสัยนิดๆ
"นายน่ะเงียบไปเลยคิโยชิ! เงียบสักสิบนาทีก็ไม่มีใครหาว่านายเป็นใบ้หรอกนะ!" ฮิวงะแยกเขี้ยวใส่คนที่ปากอยู่ไม่สุข
"ฮิวงะใจร้ายอ่าาาาาา" คิฌยชิเอาคางวางบนหัวอีกฝ่าย
"ไม่ต้องมาบ่นเลย! แล้วก็เอาคางนายออกไปเลยนะ! หนักนะเฟ้ย!" ฮิวงะแว๊ดใส่คนหน้าเป็นที่ตอนนี้ไม่ต่างจากสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่ชอบโดดเกาะเจ้าของเลย
"ไม่สนนนนน แค่นี้ไม่ทำให้นายตัวเล็กลงหรอกน่าฮิวงะ" คิโยชิเอ่ยด้วยน้ำเสียงเริงร่า
"ว่าใครตัวเล็กห๊า!?" ฮิวงะเอามือหน้าหน้าอีกฝ่ายที่ยิ้มร่าจนน่าหมั่นไส้
"เลิกเล่นกันได้แล้วย่ะพวกนาย!" ริโกะที่เห็นสองหนุ่มเริ่มจีบกัน (?) ตามปกติก็เอาพัดกระดาษฟาดใส่เด็กหนุ่มทั้งสองเต็มแรง "ตอนนี้เราต้องมาช่วยมิโตเบะคุงกันก่อนนะยะ!"
"..." มิโตเบะมองคู่ที่แม้โดนตีหัวแล้วยังไม่เลิกเถียงกันก่อนที่จะโบกมือไปมา...
...ไม่ต้องไปห้ามหรอกโค้ช สองคนนี้ไม่ทะเลาะกันวันไหนก็คงระเบิดลงล่ะ...
"ก็จริง" ริโกะยอมรับว่าถ้าเพื่อนของตนทั้งสองนี่ไม่ทะเลาะเชิงแหย่กันแบบนี้คงประหลาดพิลึก แต่... "...แต่ว่าเคสของพวกนายตอนนี้ประหลาดกว่านะ ที่พวกนายเถียงกันเนี่ย"
"..." มิโตเบะทำหน้าหง่อยลง...
...ก็จริง...ไม่เคยมีครั้งไหนโคงะควันออกหูขนาดนี้มาก่อนเลย...
"และฉันไม่เคยคิดว่าคนป้ำๆ เป๋อๆ (?) แบบโคงะเนะอิคุงจะโกรธเป็นกะเขาด้วย" ริโกะเอ่ยต่อ
"โค้ช...โคงะก็คนนะ ก็ต้องโกรธเป็นสิ" สึจิดะกรอกไปมา
"แค่เทียบเฉยๆ เองสึจิดะคุง..." ริโกะเอ่ยเสียงอ้อมแอ้ม "...เอ้าๆ กลับมาเข้าเรื่องกันเถอะ...ตกลงก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่มิโตเบะคุง?"
"..." มิโตเบะทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า...
...คือว่าก่อนหน้านี่...มีผู้หญิงคนหนึ่งมาสารภาพรักกับฉันน่ะ...
"แล้วนาย...อย่าบอกนะว่าตอบรับไปทั้งๆ ที่ความจริงนายคบกับโคงาเนะอิคุงอยู่น่ะ" ริโกะคิ้วกระตุกนิดๆ
"..." มิโตเบะส่ายหน้าอย่างร้อนรน...
...จะบ้าเหรอโค้ช! ใครจะไปทำงั้นล่ะ!? ฉันก็ต้องปฏิเสธไปอยู่แล้ว!...
"อ้าว? งั้นเหรอ?" ริโกะเกาท้ายทอยเล็กน้อย "งั้นเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นเหรอ?"
"..." มิโตเบะอ้าปากพะงาบๆ ด้วยสีหน้าเจี๋ยนๆ ...
...คือหลังจากนั้น...ผู้หญิงคนนั้นก็ดึงคอเสื้อฉันแล้วเอาหน้ามาใกล้น่ะ ฉันตกใจก็ตกใจแล้วสะดุดขาตัวเองล้มไปคล่อมผู้หญิงคนนั้นและ...โคงะก็มาเห็นพอดีน่ะ...
"ให้ตายสิ นายนี่ติดความซวยจากฟุริฮาตะคุงหรือเปล่าเนี่ย? คราวก่อนก็ฟุริฮาตะคุงทะเลาะกับอาคาชิคุง...ยังดีที่ตอนนั้นอาคาชิคุงมาง้อฟุริฮาตะคุงได้ แต่คราวนี้ว่าตามจริงนะ..." ริโกะทำหน้าเครียด...ว่าแต่ปกติเรื่องแค่นี้โคงาเนะอิคุงไม่โกรธนี่นา? แต่ไหนคราวนี้ถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแบบนั้นล่ะนั่น? "...ฉันไม่มั่นใจว่าทำให้โคงาเนะอิคุงยอมฟังนายหรือเปล่า ก็เขาว่าคนโกรธยากอย่างโคงานะอิคุงลองได้โกรธใครแล้วจะโกรธนานด้วยสิ"
"..." มิโตเบะถอนหายใจออกมาเบาๆ ...
...นั้นสินะ...
"แล้วแบบนี้นายจะทำไงต่อล่ะ?" คิโยชิที่แหย่ฮิวงะเสร็จแล้วหันมาถาม "หรือว่า...จะยอมเลิกกับโคงะ?"
"..." มิโตเบะขมวดคิ้วเหมือนกำลังไม่พอใจ...
...ไม่มีทาง! ฉันไม่มีวันยอมเลิกกับโคงะแน่! ยิ่งสาเหตุมาจากเรื่องเข้าใจผิดแบบนี้ยิ่งไม่ยอมเด็ดขาด!...
"งั้นดูท่าเราต้องเหนื่อยหน่อยล่ะงานนี้" ฮิวงะที่ดูท่าจะปวดหัวกับเรื่องนี้มากเอ่ย "หวังว่าพวกนายคงจะคืนดีกันเร็วๆ นะ"
"..." มิโตเบะพยักหน้ารับ...
...ฉันก็หวังว่างั้นเหมือนกัน...
"นั้นสิเนอะ..." คิโยชิพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "...จะว่าไป...พวกนั้นที่ไปตามโคงะจะเป็นไงบ้างหว่า?"
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ทางด้านพวกปีหนึ่งกับอิสึกิ
"เฮ้! คางามิ! เจอไหม?!"
"ไม่เจอ! ทางนายล่ะ!?"
"ไม่เจอเหมือนกัน!"
"ติดต่อไปทางบ้านรุ่นพี่ก็เห็นว่ายังไม่กลับไปนะครับ!"
"คาวะฮาระกับฟุคุดะล่ะ!?"
"ไม่เจอ! ไปทุกที่ที่คิดว่ารุ่นพี่โคงาเนะอิจะไปหมดแล้วนะ!"
"แล้วรุ่นพี่อิสึกิล่ะครับ!?"
"ไม่เลย! ฉันหาโคงะไม่เจอเหมือนกัน!"
เสียงโหวงเหวงโวยวายดังขึ้นอย่างอลมานในกลุ่มเด็กหนุ่มทั้งหกที่กำลังตามหาบุคคลคนหนึ่งอย่างเอาเป็นเอาตายมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
"ให้ตายสิ! แล้วแบบนี้จะมีที่ไหนที่รุ่นพี่เขาจะไปได้เนี่ย!?" เด็กหนุ่มผมสีเพลิงยี่หัวตนเองอย่างหงุดหงิด
"จะไปรู้เหรอ! ตอนนี้ฉันก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าโคงะจะไปไหนเนี่ย!?" เด็กหนุ่มหน้าหวานโวยกลับอย่างหัวเสียแบบที่นานๆ ทีจะได้เห็น
"หวังว่ารุ่นพี่โคงาเนะอิจะไปหนีไปไหนไกลนะ" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเอ่ยอย่างเป็นกังวล
"แบบนี้จะเอาไงต่อดีเนี่ย?" เด็กหนุ่มหัวโล้นถอนหายใจออกมา
"ไม่รู้สิ" เด็กหนุ่มหัวตั้งเอ่ย
"แต่ผมว่าผมพอมีวิธีนะครับ..." เด็กหนุ่มผมฟ้าเอ่ยหน้าตาย "...แต่วิธีนี้ฟุริฮาตะคุงคงต้องเสี่ยงหน่อยล่ะครับ"
"เอ๋?" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ถูกเอ่ยถึงกับคิ้วขมวด "นายคงไม่ได้กำลังคิดว่า...จะให้อาคาชิช่วยหรอกนะ?"
"ถูกต้องครับ...น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดนะครับ ยิ่งตอนนี้ไม่รู้ว่ารุ่นพี่โคงาเนะอิจะคิดทำอะไรบ้าๆ หรือเปล่าด้วยสิครับ" คุโรโกะพยักหน้ารับ
"ขอค้านวะ แบบนั้นเหมือนกับเอาชิวาว่าไปล่อสิงโตชัดๆ" คางามิส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย
"ฉันก็ว่างั้น...ให้อาคาชิช่วยมีหวังอาคาชิทำให้ฟุริมาโรงเรียนไม่ได้ในวันพรุ่งนี้เป็นของแถมแน่" คาวาฮาระเองก็ไม่คิดว่านั้นเป็นความคิดที่ดีเท่าไหร่นักเช่นกัน
"แต่ว่า...เราก็ไม่มีวิธีอื่นที่จะตามหาตัวรุ่นพี่เขาจริงๆ นะตอนนี้" ฟุคุดะถึงแม้ไม่อยากเอาเพื่อนตัวเองไปล่อสิงโต (?) แต่เจ้าตัวของไม่รู้ว่าจะไปหาตัวรุ่นพี่หน้าแมวของตนจากที่ไหนเหมือนกัน
"ฉันว่าก่อนที่จะใช่วิธีนั้นเราตามหากันต่ออีกรอบก่อนเถอะ เดี๋ยวเจอไม่ยังไงค่อยว่ากันอีกที" อิสึกิเอ่ย
"โอเค ตามนั้นแหละครับ" เด็กหนุ่มทั้งห้าขานรับคนอายุมากกว่าก่อนที่จะพากันแยกย้ายกันไปหาอีกรอบ...โดยไม่ทันสังเกตว่าเมื่อเด็กหนุ่มทั้งหลายพากันเดินออกจากจุดนี้ก็ได้มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งโผล่หน้าออกมาจากพุ้มไม้อย่างช้าๆ
"เฮ้อ...ไปกันสักที..." เด็กหนุ่มมองไปตามกลุ่มคนที่เดินห่างออกไปอย่างห่วงๆ "...ว่าแต่จะเอาไงต่อดีหว่า? ถ้าเกิดหาฉันกันไม่เจอคงไม่เอาฟุริไปสังเวย (?) อาคาชิจริงๆ หรอกนะ?"
"ถ้าเกิดจำเป็นจริงก็ทำครับ...ถือว่าเสียสละเพื่อส่วนรวมครับ"
"โหดร้ายกับฟุริไปแล้วมั้ง..." เด็กหนุ่มเผลอตอบไปโดยสัญชาตญาณก่อนที่จะชะงั้นเมื่อรู้สึกว่าเสียงที่ตอบตนเมื่อครู่มันคุ้นๆ หู เด็กหนุ่มค่อยๆ หันไปทางต้นเสียงอย่างช้าด้วยอาการเหงื่อแตกซิกๆ และพบกับ...คนผมฟ้ายืนหน้าตายอยู่! "...ม...มาตอนไหนเนี่ย!?"
"สักพักแล้วครับ" คุโรโกะตอบพร้อมกับเอาเชือกมัดอีกฝ่ายด้วยความเร็วเสียงจนเพียงไม่กี่วิก็ทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นดักแดไปแล้ว "และถ้าไม่ใช่วิธีนี้คงไม่คิดจะออกมาเลยสินะครับ? รุ่นพี่โคงาเนะอิ?"
"เออ..." เด็กหนุ่มหน้าแมวยิ้มแห้งๆ ให้คนเป็นรุ่นน้องตน "...รู้ว่าฉันอยู่...ตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ?"
"ตั้งแต่คุณไปแอบในถังแล้วครับ แต่ผมแกล้งทำเป็นไม่เห็นคุณเพื่อที่จะได้จับตัวได้ง่ายๆ หน่อยน่ะครับ..." คุโรโกะถอนหายใจออกมาเบาๆ "...ตอนนี้คุณคงหมดข้อสงสัยแล้วสินะครับ? งั้นขอตาผมถามบ้างนะครับ...ว่ารุ่นพี่ทะเลาะอะไรกับรุ่นพี่มิโตเบะกันแน่ครับ?"
"ถ...ถามตรงไปแล้วนะ! อ้อมๆ บ้างเถอะ!" โคงาเนะอิโวยใส่คนผมฟ้าที่ถามอย่างตรงไปตรงมาเหลือเกิน
"ถ้ามัวอ้อมรุ่นพี่ก็จะตอบแบบอ้อมๆ ตามสิครับ แบบนี้แหละดีแล้วครับ ไม่เสียเวลาดี..." คุโรโกะยิ้มบางๆ ออกมา "...ถ้าไม่ตอบดีๆ อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะครับ"
"อย่าพูดแบบนั้นด้วยหน้ายิ้มเซ่! หลอนนะ!" โคงาเนะอิเริ่มอยากร้องไห้ขึ้นมาตงิดๆ ...ไหงคุโรโกะตอนนี้ดูน่ากลัวจังเนี่ย!?
"ไม่สนครับ..." คุโรโกะยักไหล่ "...เอาเป็นว่าพอพวกคางามิคุงกับรุ่นพี่อิสึกิกลับมาเมื่อไหร่ช่วยตอบคำถามพวกผมดีๆ ด้วยนะครับ"
"...มีใครบอกนายหรือเปล่าเนี่ยว่านับวันนายยิ่งน่ากลัวเนี่ย?" โคงาเนะอิถามคุโรโกะด้วยท่าทีจำยอม...ยังไงเขาก็ดิ้นให้หลุดจากเชือกหนาเตอะแบบนี้ไม่ได้นี่นา ดังนั้นยอมง่ายๆ อย่าดิ้นให้เหนื่อยเลยดีกว่า (ฟังแปลกๆ นะ // s , ช่างฉันเถอะน่า! // โคงาเนะอิ)
"ประจำครับ" คุโรโกะตอบกลับไปอย่างตรงไปตรงมาก่อนที่จะหยิบหนังสืออกมานั่งอ่านสบายใจเฉิบ โดนเมินเสียงโวยวายของรุ่นพี่หน้าแมวของตนไปเพื่อรอให้คนในกลุ่มตนคนอื่นๆ กลับมา
"เฮ้อ...โคงะไปอยู่ไหนล่ะเนี่ยงานนี้..." อิสึกิบ่นขึ้นมาเบาๆ ระหว่างลากขากลับไปที่เดิมที่พวกตนแยกกลุ่มกันหา "...มีแววพวกนั้นจะใช้นายเป็นเหยื่อสังเวยให้อาคาชิจริงๆ แล้วสิเนี่ย"
"อย่างมากอาคาชิก็แค่ให้ไปเที่ยวด้วยแค่นั้นแหละครับ ไม่มีอะไรมากหรอก...มั้ง" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ ให้คนข้างๆ ตน
"ไม่ต้องมั้งเลย ฉันว่าอย่างอาคาชิเนี่ยรับรองได้เลย...ต้องมีแผนอะไรอีกแน่" อิสึกิส่ายหน้าไปมาพลางมองไปเบื้องหน้าตน "เอ๊ะ? พวกคางามิมารวมตัวกันเร็วจังแฮะ...คงไม่ใช่ว่าเตรียมจับนายมัดไปสังเวยอาคาชิจริงๆ หรอกนะฟุริ?"
"กรุณาอย่าใช้คำว่าสังเวยได้หรือเปล่าครับรุ่นพี่? มันรู้สึกเหมือนโดนเอาไปบูชายันชอบกลนะครับ" ฟุริฮาตะกรอดตาไปมา
"ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะ..." อิสึกิบ่นเบาๆ ก่อนที่จะชะงันเล็กน้อยสายตาของเห็นว่าในกลุ่มรุ่นน้องตนที่นั่งรออยู่นั้นมีก้อนกลมๆ ของอะไรสักอยู่ตรงวงล้อม "...พวกนั้นนั่งดูอะไรล่ะนั้น? แล้วที่กองๆ อยู่นั้น...โคงะ!?"
"เอ๊ะ!?" ฟุริลองรี่ตามองอีกคน "รุ่นพี่โคงาเนะอิจริงๆ ด้วย!"
"ในที่สุดก็เจอตัวสักที!" อิสึกิเริ่มก้าวเท้าวิ่ง "รีบวิ่งไปกันเถอะฟุริ!"
"อ่ะ! ครับ!" ฟุริฮาตะขานรับก่อนที่จะวิ่งตามอิสึกิที่ออกตัวไปก่อนอย่างทันทวนที และในไม่กี่วิต่อมา...เด็กหนุ่มทั้งสองก็กลับมารวมกลุ่มเป็นคู่สุดท้าย
"มาถึงสักทีนะครับรุ่นพี่อิสึกิ ฟุริ" เด็กหนุ่มผมเพลิงเอ่ยทักคนที่วิ่งมาหากลุ่มพวกตน
"โทษทีๆ พอดีไม่คิดว่าพวกนายเจอโคงะแล้วเลยตามหานานไปหน่อยน่ะ" อิสึกิเอ่ย "ว่าแต่พวกนายหาโคงะเจอได้ไงเนี่ย? ขนาดฉันหาโคงะในที่ๆ โคงะน่าจะไปตั้งนานยังไม่เจอเลย"
"ไม่ใช่พวกผมครับ...กลับมานี่ก็เห็นคุโรโกะนั่งรอโดยมีรุ่นพี่โคงาเนะอิถูกมัดข้างๆ แบบนี้แล้วครับ" คางามิบู้ใบ้ไปที่เด็กหนุ่มผมฟ้า
"หื้อ? คุโรโกะเหรอ?" ดวงตาสีดำสนิกของอิสึกิเหล่มองไปที่คุโรโกะที่เริ่มเก็บหนังสือของตนเข้ากระเป๋า "นายหาโคงะเจอได้ไง?"
"ผมเจอรุ่นพี่โคงาเนะอิตั้งแต่ตอนตามหารอบแรกแล้วครับ แต่ผมแกล้งทำเป็นไม่เห็นเพื่อล่อรุ่นพี่เขาออกมาให้ผมจับมัดง่ายๆ น่ะครับ" คุโรโกะอธิบายอย่างง่ายๆ สั้นๆ แต่ก็เรียกเหงื่อจากชาวบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะนี่ทำให้ทุกคนได้เห็นว่า...คุโรโกะ เท็ตสึยะนั้นความจริงร้ายกว่าที่คิด
"นายเลยพูดเป็นเชิงว่าจะให้อาคาชิช่วยสินะ?" ฟุริฮาตะรู้สาเหตุที่เพื่อนผมฟ้าของตนเอ่ยก่อนหน้านี้แล้ว...ถึงว่าสิ ปกติคุโรโกะมักจะไม่ขอความช่วยเหลือจากอาคาชินักหรอกถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่ชนิดเด็กม.ปลายปกติธรรมดาทั่วๆ ไปจัดการไม่ได้เท่านั้น ที่แท้แค่เพื่อล่อรุ่นพี่โคงาเนะอิให้ติดกับนี่เอง
"ก็ตามนั้นแหละครับ" คุโรโกะพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย "เมื่อหมดข้อสงสัยกันแล้ว...เราก็มาเค้นคอ เอ้ย! ถามถึงเรื่องก่อนหน้านี้กันเถอะครับ"
"นี่กะเค้อคอกันจริงๆ เด้!?" คนที่โดนมัดปานดักแดดิ้นดอทแดทราวหนอนตัวน้อยไปมา
"ก็จริงสิครับ คิดว่าผมพูดเล่นเหรอครับ?" คุโรโกะถามกลับหน้าตาย
"นี่นายน่ากลัวไปแล้วนะเฟ้ย! ไปติดใครมาเนี่ย!!?" โคงาเนะอิโวยขึ้น
"ไม่ได้ติดจากใครมาจากใครหรอกครับ นี่คือนิสัยผมมาตั้งนานแล้วครับ" คุโรโกะทำเมินเสียงโวยวายของคนหน้าแมวไป "อย่ามัวแต่พยายามเปลี่ยนเรื่องเลยครับ...เรามาพูดเรื่องที่คุยกันก่อนหน้านี้ต่อดีกว่าครับ"
"ลืมๆ บ้างก็ได้!" โคงาเนะอิที่รู้ว่าเรื่องที่คุยก่อนหน้านี้ที่อีกฝ่ายพูดถึงคืออะไรแทบอยากร้องไห้เลย...นี่อนาคตนายอย่าไปเป็นมาเฟียเชียวนะ! ไม่งั้นได้เป็นที่สยองทั้งวงการแน่! ขนาดตอนนี้เป็นแค่นักเรียนธรรมดายังหลอนซะ!
"เรื่องแบบนี้ไม่มีทางลืมง่ายๆ ในเวลาไม่นานแบบนี้หรอกครับ...และช่วยเลิกเล่นแล้วบอกมาดีๆ ด้วยครับว่าตกลงทะเละอะไรกับรุ่นพี่มิโตเบะกันแน่ครับ?" คุโรโกะถามตรงประเด็นสุดๆ
"นั้นสิ...ฉันก็อยากรู้นะโคงะ..." อิสึกิเอ่ยเสริมอย่างเห็นด้วย "...ปกติฉันเคยไม่เห็นนายจะเป็นถึงขนาดนี้เลย...ตกลงนายทะเลาะอะไรกันเนี่ย?"
"เออ...ไม่ตอบได้ไหมอ่ะ?" โคงาเนะอิถามอย่างรู้สึกอึดอัดนิดๆ จากสายของเพื่อนและรุ่นน้องทั้งหกของตน
"ไม่ได้!!! / ไม่ได้ครับ!!!" เด็กหนุ่มทั้งหลายต่างตอบกลับมาเป็นเสียงเดียวกัน
"ง...ง่ะ" โคงาเนะอิทำหน้ามุ่ย
"ไม่ต้องมาง่ะเลยโคงะ!" อิสึกิค้อนใส่เพื่อนตน "ช่วยบอกมาสักทีเถอะว่าตกลงทะเลาะอะไรกัน!? อยากรู้จะตายแล้ว!"
"ช่วยบอกหน่อยเถอะครับรุ่นพี่..." ฟุริฮาตะช่วยพูดอีกแรง โดยหวังว่ารุ่นพี่ของตนนี้จะยอมเปิดใจพูดถึงปัญหาในครั้งนี้ก่อนที่เพื่อนผมฟ้าของตนจะใช้วิธี...ที่เรียกได้ว่าโหดมาบังคับให้อีกฝ่ายพูด "...ผมว่ารุ่นพี่คงต้องเข้าใจอะไรกันผิดอยู่นะครับ"
"นั้นสิครับ ไม่งั้นรุ่นพี่มิโตเบะไม่พยายามอธิบาย (แบบคนปกติไม่มีทางได้ยิน) ขนาดนั้นหรอกครับ" ฟุคุดะเอ่ยเสริม
"มีปัญหาอะไรก็ลองบอกพวกผมเถอะครับ เผื่อว่าจะช่วยอะไรกันได้บ้าง" คาวาฮาระพยายามกล่อมอีกคน
"ลองบอกพวกเรามาเถอะครับ..." คางามิเอ่ยขออีกคน "...และเรื่องนี้ผมว่าควรหาทางจัดการเร็วๆ นะครับ รุ่นพี่เล่นพูดแรงซะจนรุ่นพี่มิโตเบะซ็อกจนสลบไปเลยเนี่ย"
"คางามิคุง! พูดมากไปแล้วครับ!" คุโรโกะค้อนใส่คู่หูตนที่พูดเกินควร
"ห๊า!?" โคงาเนะอิเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดของคางามิ "มิโตเบะซ็อกจนสลบเลยเหรอ!? ล...แล้วมิโตเบะเป็นไงบ้างล่ะ!? นี่ฉันพูดแรงไปขนาดนั้นเลยเหรอ!?"
"ไอ้เป็นไงบ้างไม่รู้หรอก แต่ถ้าถามที่น่าเถียงกับมิโตเบะนั้นแรงไปไหมนั้น...ไอ้คำว่า 'ฉันเกลียดนายที่สุด' เนี่ยขอบอกเลยว่าแรงเกินไปสำหรับมิโตเบะมากเลย" อิสึกิที่เห็นท่าทางตกใจของเพื่อนตนก็ถอนหายใจออกมา...ดูท่าจะไม่รู้ตัวสินะ? "แล้วนี่นายโกรธอะไรมิโตะถึงขนาดทำไปโดยไม่รู้ตัวเนี่ย?"
"คือ..." โคงาเนะอิทำหน้าจ๋อยลงเมื่อรู้ตัวว่าตนเผลอว่าคนรักตนแรงไปมากเลย "...ฉันไปเห็นมิโตเบะคล่อมบนตัวผู้หญิงคนหนึ่งน่ะ...แล้วจากนั้นเป็นไงมาไงไม่รู้ รู้แค่ว่าฉันหงุดหงิดมาก ยิ่งตอนที่มิโตเบะพูดเหมือนแก้ตัวนั้นยิ่งทำฉันระเบิดลงเลยอ่ะ"
"โคงะ..." อิสึกิคุมขมับ "...ไอ้อาการแบบที่นายว่านั้นเขาเรียกว่าหึงเฟ้ย! ให้ตายสิ! นี่นายเพิ่งมาเคยหึงมิโตเบะเพราะเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ!!? อีกอย่างใช่ว่าเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่ไหงนายเพิ่งมาหึงปานนี้เนี่ย!?"
"เดี๋ยวรุ่นพี่อิสึกิ...เรื่องแบบที่รุ่นพี่โคงาเนะอิพูดเนี่ยไม่ได้เกิดครั้งแรก?" ฟุคุดะถาม
"อื้อ มิโตเบะมักโดนผู้หญิงจีบแบบรุกเต็มๆ มาจีบตลอดน่ะก็เลยพากันชินไปหมดแล้ว..." อิสึกิอธิบายสั้นๆ "...แต่ไหงคราวนี้นายหึงได้ล่ะโคงะ? เท่าที่ฟังมันก็ไม่ค่อยต่างจากทุกครั้งนี่?"
"ผมว่าที่รุ่นพี่โคงาเนะอิหงุดหงิดคงเพราะ...รุ่นพี่เห็นผู้หญิงคนนั้นวนเวียนอยู่ใกล้ๆ รุ่นพี่มิโตเบะบ่อยๆ แถมยังมักไปเจอรายนั้นอยู่กับรุ่นพีในสภาพล่อแหลมสินะครับ? ล่าสุดยังโดนผู้หญิงคนนั้นพูดใส่ทำนองว่า 'มิโตเบะเลือกฉันมากกว่าเธอแน่นอน' อีกต่างหากก็เลยกดดันมั้งครับ?" คุโรโกะเอ่ยด้วยสีหน้าครุ่นคิด "ถ้าให้เดา...รุ่นพี่โคงาเนะอิคงเก็บกดมากไปจนระเบิดทีตูมเดียวเลยมั้งครับ?"
"..." โคงาเนะอิอ้าปากค้างพลางมองเด็กหนุ่มผมฟ้า "นายรู้ได้ไง!?"
...เขาไม่เคยบอกใครสักหน่อย! รู้ได้ไงเนี่ย!? ขนาดมิโตเบะยังไม่รู้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นพูดแบบนั้นกับเขาน่ะ!...
"ก็ผู้หญิงคนนั้นมักไปอ่อยรุ่นพี่มิโตะเบะตอนที่ผมยืนอยู่ด้วยนี่ครับ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นผมแค่นั้นเองครับ" คุโรโกะตอบอย่างเคยชิน...ก็ปกติใครๆ ก็ไม่สังเกตถึงตัวตนของเขามาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นา "ทุกซ๊อกที่พูดมาเนี่ยคือที่เกิดขึ้นต่อหน้าผมทั้งนั้นแหละครับ"
"นายจืดจางจนน่ากลัวไปหน่อยไหม!?" โคงาเนะกล้าสาบานเลย...ว่าเขาไม่ยักเห็นเรือนผมสีฟ้าของใครอยู่ในบริเวณนั้นในตอนนั้นเลยนะ!
"แต่ความจืดจางของคุโรโกะก็เป็นประโยชน์นะงานนี้ เพราะอย่างน้อยก็รู้แน่ชัดแล้วว่าที่โคงะปื้ดแตกเนี่ยก็ไม่ไร้เหตุผลซะทีเดียวล่ะ..." อิสึกิถอนหายใจออกมายาวๆ "...แต่ก็ยังมีอีกปัญหานะ...คืองานนี้มิโตเบะจะโกรธตามอีกคนหรือเปล่านี่สิ"
"นั้นแหละน่าห่วงสุด" โคงาเนะอิเอ่ยเสียงอ๋อย "ตอนที่ทำไปก็ไม่ทันรู้ตัวหรอก แต่มาตอนนี้...ฉันนึกวิธีง้อมิโตะเบะไม่ออกน่ะ"
"นึกไม่ออกหรือไม่กล้าง้อ" อิสึกิเอ่ยดักอย่างรู้ทัน
"ทั้งคู่นั้นแหละ" โคงาเนะอิตอบกลับไปตามตรง
"...แล้ว...แบบนี้จะเอาไงดีล่ะครับ?" คาวาฮาระเริ่มคิดแล้วว่า...ปัญญาเพียงเล็กน้อยพอสะสมมามากๆ มากลายเป็นปัญญาใหญ่ได้เหมือนกันแฮะ
"ก็ไม่เอาไงหรอกครับ...ตอนนี้ผมว่าควรรีบๆ กลับบ้านกันก่อนดีกว่าครับ ฟ้าเริ่มมืดแล้วเนี่ย..." คุโรโกะเอ่ยพร้อมแกะเชือกที่มัดตัวรุ่นพี่หน้าแมวของตนไว้ออก "...ส่วนเรื่องรุ่นพี่โคงาเนะอิกับรุ่นพี่มิโตเบะ...ไว้ค่อยคุยกันต่อพรุ่งนี้แล้วกันนะครับ"
"จะว่าไปก็ดีเหมือนกัน..." อิสึกิพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "...งั้นไว้ว่ากันพรุ่งนี้แล้วกันนะโคงะ และไม่ต้องห่วง...เดี๋ยวพวกฉันหาทางช่วยนายแน่นอน"
"ก็ได้..." โคงาเนะอิทำหน้ามุ่ยพร้อมลูบแขนตนอย่างเจ็บๆ ...คุโรโกะเนี่ยมัดแน่ชะมัด "...แต่...อย่าบอกเพิ่งบอกอะไรมิโตะเบะได้ไหมอ่ะ? ...ฉันอยากขอโทษเองน่ะ"
"เออๆ ตามแต่นายเลย" อิสึกิขานรับแบบขอไปทีไป
จากนั้นเด็กหนุ่มทั้งหลายก็พากันแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมันไปตามระเบียบ โดยที่อิสึกิก่อนที่จะกลับก็ต้องทำหน้าที่โทรรายผู้เป็นโค้ชว่าเจอตัวโคงาเนะอิแล้วตามหน้าที่ (?) นั้นเอง
ในเช้าวันต่อมาที่แสนสดใส เหล่านักเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายเซย์รินต่างพากันเดินทางมาโรงเรียนตามปกติ...เว้นเพียงภายในโรงยิมที่เป็นสถานที่ฝึกซ้อมของชมรมบาสนั้นที่บรรยากาศดูมาคุมากจนถึงมากที่สุด เมื่อเด็กหนุ่มสองคนที่ยามปกติมักตัวติดกันยิ่งกว่าอะไรในตอนนี้กลับไม่ยอมเข้าใกล้กันเลย
"รุ่นพี่โคงาเนะอิ...ถ้าอยากขอโทษรุ่นพี่มิโตเบะช่วยกรุณาเลิกเดินหนีทุกครั้งที่รุ่นพี่เขาเข้ามาใกล้สักทีเถอะครับ" คาวาฮาระเหล่มองคนที่ปกตินิ่งเงียบนั้นด้วยอาการเหงื่อตกนิดๆ เมื่อได้รับรังสีอาฆาตมาเต็มๆ ...
...นี่หึงที่เขาเข้าใกล้รุ่นพี่โคงาเนะอิได้หรือไงครับ!? รุ่นพี่มิโตเบะ! ถึงได้ส่งสายตามาซะน่ากลัวเลย!...
"ก...ก็มันไม่กล้าอ่ะ" โคงาเนะอิเอ่ยเสียงอ้อมแอ๋ม
"แล้วแบบนี้มันจะรู้เรื่องสักทีไหมครับเนี่ย?" คาวาฮาระกรอดตาไปมา
"เอาน่า...จะพยายามขอโทษมิโตเบะมันวันนี้แหละ" โคงาเนะอิเอ่ยก่อนที่จะเนียนหนีไปซ้อมคนเดียว
"...ดูแล้วไม่ให้ความรู้สึกว่ารุ่นพี่เขาจะขอโทษกับรุ่นพี่มิโตเบะได้ในวันนี้เลยแฮะ" คาวาฮาระเกาหัวนิดๆ พลางมองคนที่แอบปนีออกห่างจากตน
"นั้นสินะครับ..." เสียงนิ่งๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆ คาวาฮาระ
"เหวอ!?" คาวาฮาระสะดุ้งโหยงและหันไปมองนังต้นเสียง "นายมาเมื่อไหร่เนี่ยคุโรโกะ!?!"
"สักพักแล้วล่ะครับ..." คุโรโกะตอบกลับหน้าตาย
"คราวหลังให้ซุ่มให้เสียงก่อนบ้างเถอะ! ไม่งั้นฉันได้หัวใจวายตายเพราะนายเข้าสักวันแหงๆ!" คาวาฮาระแว๊ดใส่คนผมฟ้า
"ต่อให้ซุ่มให้เสียงก่อนคุณก็ตกใจอยุ่ดีครับ ผมว่าคุณพยายามชินๆ ไว้น่าจะง่ายกว่านะครับ" คุโรโกะเอ่ย "แต่เรื่องของผมเอาไว้ก่อนเถอะครับ ตอนนี้เราหาทางช่วยรุ่าพี่โคงาเนะอิกับรุ่นพี่มิโตเบะก่อนเถอะครับ"
"ก็จริง...แต่จะช่วยไงดีล่ะ? ฉันไม่มีแผนหรืออะไรเลยนะขอบอก" คาวาฮาระเองก็อยากช่วยรุ่นพี่ตัวเองอยู่หรอก แต่งานนี้ก็ไม่รู้ว่าควรทำไงดีเหมือนกัน
"ก็บอกสาเหตุที่รุ่นพี่โคงาเนะอิงอนกับรุ่นพี่มิโตเบะสิครับ...รับรองเดี๋ยวรุ่นพี่มิโตเบะก็ไปหาทางง้อรุ่นพี่โคงาเนะอิทันทีเลยครับ" คุโรโกะชี้ไปทางมิโตเบะที่ยังหาทางเข้าหาโคงาเนะอิอยู่ "และถ้ารู้สาเหตุทั้งหมดรุ่นพี่เขาคงหาทางง้อง่ายขึ้นล่ะครับ...ถึงไม่แน่ใจว่ารุ่นพี่มิโตเบะจะจับตัวรุ่นพี่โคงาเนะอิได้เมื่อไหร่ก็เถอะ"
"แต่รุ่นพี่โคงาเนะอิบอกว่าห้ามบอกรุ่นพี่มิโตเบะนี่?" คาวาฮาระจำได้ว่าเมื่อวานนี้รุ่นพี่หน้าแมวของตนเอ่ยขอไว้เช่นนี้
"ห้ามบอกรุ่นพี่มิโตเบะ แต่ไม่ได้บอกว่าห้ามบอกโค้ชหรือใครขณะที่รุ่นพี่มิโตเบะยืนอยู่ด้วยนี่ครับ? ดั่งนั้นไม่เป็นไรหรอกครับ" เด็กหนุ่มผมฟ้าทำหน้าตาย
"...นายนี่น่ากลัวขึ้นทุกทีแฮะ" คาวาฮาระเบ้หน้านิดๆ
"นั้นผมนับเป็นคำชมแล้วกันนะครับ..." ดวงตาสีฟ้าเหล่มองคนหน้าแมวที่หนีออกจากโรงยิมไปแล้วหลังจากที่โดนคนที่มักเงียบตลอดเวลาไล่ตามอยู่นานสองนาน "...และดูท่า...ได้เวลาทำตามแผนแล้วนะครับ"
"..." คาวาฮาระมองคนที่ง้อแฟนตัวเองไม่สำเร็จแล้วหง่อยกลับมารวมตัวกับคนอื่นๆ ก่อนถอนหายใจออกมา "...เอาเถอะ...รีบไปทำตามแผนนายกันดีกว่า ฉันไม่ค่อยอยากให้พวกรุ่นพี่เขาทะเลาะกันนานนักหรอก"
"โอเคครับ..." คุโรโกะเอ่ยก่อนที่จะวิ่งไปหามิโตเบะที่เริ่มน้ำตาตกพร้อมกับคาวาฮาระ "...โค้ชครับ! ขอเวลาสักเดี๋ยวได้ไหมครับ?"
"ขอเอาไว้ทีหลังเถอะนะคุโรโกะคุง..." เด็กสาวผมน้ำตาลเอ่ยพลางเอาผ้าเช็ดหน้าไปซับน้ำตาคนที่น้ำตาแตกหลังจากโดนแฟนเมินมาหมานๆ
"แต่ผมมีเรื่องรุ่นพี่โคงาเนะอิมาบอกนะครับ" คุโรโกะเอ่ยเช่นนี้ออกมา เป็นดั่งตัวเรียกความสนใจของทุกคนมาที่เจ้าตัว
"ฮ...เฮ้ คุโรโกะ แต้เมื่อวานโคงะ..." อิสึกิทำท่าเหมือนจะห้ามแต่...
"รุ่นพี่เขาห้ามบอกรุ่นพี่มิโตเบะแต่ไม่ได้บอกว่าห้ามบอกคนอื่นในขณะที่รุ่นพี่มิโตเบะยืนอยู่ด้วยนี่ครับ? เพราะงั้นถือว่านี่ผมบอกกับโค้ชไม่ได้บอกกับรุ่นพี่มิโตเบะนะครับ" ...คุโรโกะกลับแทรกขึ้นมาก่อนที่คนอายุมากกว่าจะพูดจบ
"..." มิโตเบะหรี่ตามองคุโรโกะคล้ายกำลังกดดันอีกฝ่าย
"...ขอคำแปลหน่อยสิครับ รุ่นพี่มิโตเบะพูดว่าอะไรน่ะ?" คางามิที่เห็นริมฝีปากของมิโตเบะเอ่ยถาม
"มิโตเบะบอกว่า 'เรื่องที่โคงะห้ามนั้นมันเรื่องอะไรเหรอ?' น่ะ" อิสึกิเป็นคนแปลให้คางามิฟัง
"นั้นสิ...เรื่องที่โคงะว่ามันคือเรื่องอะไรเหรอ?" ริโกะถามขึ้นมา...ก็ในเมื่อบอกว่าห้ามบอกมิโตเบะคุงแสดงว่าถ้ามิโตเบะคุงเป็นคนถามจะไม่ได้คำตอบ แต่ถ้าเธอถามคงได้คำตอบสินะ?
"สาเหตุที่รุ่นพี่โคงาเนะอิงอนรุ่นพี่มิโตเบะไงครับ" คุโรโกะเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา
"..." มิโตเบะทำหน้างงๆ แล้วชี้ตัวเอง
"มิโตเบะบอกว่า 'โคงะงอนฉัน? ไม่ใช่โกรธฉันหรอกเหรอ?' น่ะ" อิสึกิที่ยามนี้ทำหน้าที่ล่ามแทนที่โคงาเนะอิเอ่ย
"ที่จริงแค่งอนสินะ? แล้วที่งอนนั้นเพราะอะไรล่ะ?" ริโกะถามต่อ
"เพราะรุ่นพี่โคงาเนะอิเห็นผู้หญิง...คนที่รุ่นพี่มิโตเบะล้มทับน่ะครับ วนเวียนอยู่ใกล้ๆ รุ่นพี่มิโตเบะบ่อยๆ ถึงแม้รุ่นพี่มิโตเบะอาจไม่รู้ตัวว่าที่วนเวียน (?) รอบๆ ตลอดเนี่ยคือคนคนเดียวกัน แถมรุ่นพี่โคงาเนะอิยังมักไปเจอรายนั้นอยู่กับรุ่นพีมิโตเบะในสภาพล่อแหลมด้วย ล่าสุดยังโดนผู้หญิงคนนั้นพูดใส่ทำนองว่า 'มิโตเบะเลือกฉันมากกว่าเธอแน่นอน' แล้วยังเรื่องเมื่อวานอีก..." คุโรโกะอธิบายขณะที่หน้ามิโตเบะเริ่มเจี้ยนลงทุกขณะ "...รุ่นพี่โคงาเนะอิที่เก็บกดมานานเลยระเบิดตูมมันทีเดียวเลยนั้นแหละครับ"
"..." มิโตเบะเบ้หน้านิดๆ พร้อมเอ่ย (?) ออกมาว่า...
...ฉันชักอยากร้องไห้แล้วสิ...นี่ตกลงฉันทำให้โคงะกลุ้มใจคนเดียวขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?...
"ทำใจเถอะมิโตเบะคุง...ถ้าเป็นฉันก็คงไม่รู้ตัวพอๆ กับนายนั้นแหละ..." ริโกะปลอบลูกทีมหน้านิ่งของตน "...คิดแง่ดี...ตอนนี้รู้สาเหตุที่โดนงอนแล้วนายคงง้อได้ง่ายขึ้นล่ะนะ"
"แต่ที่สำคัญต้องจับตัวโคงะให้ได้ก่อนล่ะนะ" ฮิวงะที่ยืนเงียบมานานส่ายหน้าไปมาอย่างปลงในความซวยของเพื่อนตนทั้งสอง
"นั้นสินะ...จะตามจับตัวไงดีเนี่ย?" สึจิดะเอ่ยอย่างเห็นด้วย
"..." มิโตะเบะมองนาฬิกาที่บ่งบอกเวลา...
...ฉันจะไปตามจับตัวโคงาถึงห้องเรียนแล้วค่อยลากไปคุยกันเอา...พอดีไม่ค่อยอยากให้โคงะงอนฉันนานเท่าไหร่นักหรอกนะ...
"อ้าว? แล้วเรื่องเรียนล่ะ?" ริโกะถาม
"..." มิโตเบะทำสีหน้าจริงจัง
...เพื่อโคงะฉันยอมโดด...
"โดนอาจารย์โวยขึ้นมาฉันไม่ช่วยนะ" ริโกะกรอกตาไปมา
"..." มิโตเบะโบกมือไปมา
...ไม่เป็นไร ถ้าโคงะหายงอนฉัน ฉันยอมโดนอาจารย์โวย...
"งั้นตามแต่นายเถอะ" ริโกะถอนหายใจออกมาเบาๆ ในขณะเดียวกันนั้น...
'ประกาศ...เนื่องจากมีการประชุมด่วนของคณะอาจารย์ขึ้น ดั่งนั้นในภาคเช้านี้จะจึงไม่มีการเรียนการสอน นักเรียนทุกคนเชิญทำตัวตามอัธยาสัย แต่กรุณาอย่าก่อเรื่องหรือหนีไปเที่ยวนอกโรงเรียน ประกาศอีกครั้ง เนื่องจาก...'
...ดันมีประกาศของทางโรงเรียนดังขึ้นมาเสียก่อน
"...ดูท่าต่อให้นายไปหาโคงาเนะอิคุงที่ห้องก็อาจไม่เจอตัวแล้วล่ะ" ริโกะเอ่ยด้วยท่าทางเห็นใจ...ดวงอะไรจะซวยปานนี้! ดันมีประชุมอาจารย์พอดีเนี่ย! ว่าแต่ไหงวันนี้ประชุมในเวลาเรียนเนี่ย!!?
"..." มิโตเบะถอนหายใจออกมาเบาๆ
...คงงั้น แต่ฉันว่าฉันจะลองไปตามหาโคงะรอบๆ ดูก่อน เดี๋ยวเจอไม่เจอยังไงตอนบ่ายค่อยไล่จับอีกที...
"งั้นเดี๋ยวพวกฉันช่วยนะ" ฮิวงะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหาคนคนเดียวในโรงเรียนใหญ่ขนาดนี้ได้หรอก
"..." มิโตเบะส่ายหน้าไปมา
...ไม่ล่ะ...งานนี้ฉันจะหาโคงะเอง...
"เอางั้นเหรอ?" ฮิวงะขมวดคิ้วเป็นปม...นี่กะจะวิ่งหาให้หอบตายเลยหรือไง?
"..." มิโตเบะพยักหน้ารับ
...อื้อ แบบนั้นมันดูจริงใจกว่าน่ะ...และอาจช่วยให้โคงะหายงอนฉันได้ง่ายหน่อยด้วย...
"โอเค ตามนั้นก็ได้" ฮิวงะเมื่อเห็นว่าเพื่อนตนตอนนี้อยากจัดการปัญหาด้วยตัวเองก็ไม่คิดจะขัดอะไร
"..." มิโตเบะส่งยิ้มบางๆ ออกมา
...ขอบใจนะ...
"ไม่เป็นไรหรอกน่า รีบไปได้แล้ว...เดี๋ยวโคงะไปมุดหนีไปไหนก่อนหรอก" ฮิวงะเอ่ย
"..." มิโตเบะพยักหน้ารับก่อนที่จะรีบวิ่งออกจากโรงยิมไป
"ให้ตายสิ...ไม่คิดเลยว่าพอโคงะระเบิดทีจะวุ่นวายขนาดนี้เนอะ" ฮิวงะหันมาถามเพื่อนสาวของตน
"นั้นสิเนอะ" ริโกะเห็นด้วยเลยเรื่องนี้
"...นี่...คุโรโกะ" คางามิที่เงียบมานานเอ่ยเรียกคนผมฟ้า
"ครับ?" เจ้าของชื่อขานรับขึ้นมาเบาๆ
"พวกรุ่นพี่เขาฟังกันออกได้ไงอ่ะ?" คางามิถามอย่างข้องใจ
"เรื่องนี้อย่าถามผมเลยครับ ผมไม่รู้" คุโรโกะเอ่ยตอบคู่หูตนไป พลางมองประตูที่รุ่นพี่ผู้ที่ตนไม่เคยได้ยินเสียงสักครั้งเดียววิ่งออกไปด้วยแววตาที่ดูกังวล
"ไม่เป็นไรหรอกน้าคุโรโกะ...มิโตเบะง้อโคงะสำเร็จแน่นอน" อิสึกิที่เห็นสายตาของคนผมฟ้าตบบ่าอีกฝ่ายเบาๆ
"ไม่คิดว่าจะแป๋วบ้างเหรอครับ?" คุโรโกะเลิกคิ้วขึ้น
"ไม่หรอกน่า...นายก็น่าจะรู้นิสัยมิโตเบะกับโคงะนะ สองคนนั้นถ้าได้ง้อกันแล้วคงโกรธต่อไม่ลงหรอก" อิสึกิยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ "แต่เรื่องมิโตเบะจะจับตัวโคงะมาคุยกันได้หรือเปล่านั้นอีกเรื่องนะ"
"นั้นสินะครับ" คุโรโกะเอ่ยอย่างเห็นด้วยก่อนที่จะถอนหายใจออกมาพร้อมๆ กับคนอื่นๆ ในโรงยิมที่เมื่อได้ยินคำพูดของอิสึกิก็ถอนหายใจออกมาอย่างพร้อมเพรียง...กับเรื่องที่น่าจะเล็กๆ แต่กลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วนั้น...
...และหวังว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดีแทนที่จะวิ่งไล่กันเป็นหนังอินเดียไปอีกสองสามวัน...ไม่งั้นไม่เป็นอันซ้อมกันต่อทั้งทีมเพราะห่วงสองคนนั้นแน่
"อยากบ้า...สุดท้ายก็ไม่กล้าสู้หน้ามิโตเบะสิน่า" เด็กหนุ่มหน้าแมวบ่นพึมพำกับตัวเองขณะที่เดินลากขาไปเรื่อยเปื่อย "ยังดีที่เช้านี้ไม่มีเรียนนะเนี่ย ไม่งั้นไม่รู้จะหลบมิโตเบะยังไงเลยแหง"
"หลบอะไรเหรอ?"
"ก็หลบ..." โคงาเนะอิเพิ่งตอบกลับอย่างลืมตัวเล็กน้อย ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าตนนั้นเดินมาคนเดียวจึงหันไปมองยังต้นเสียง "...อ้าวเฮ้ย!? ชิกิงะ!!? นายมาทำอะไรที่นี่เนี่ย!? ไม่สิ! นายเข้ามาได้ไงกัน!? ไม่ได้เรียนที่นี่ไม่ใช่เหรอ!?"
"ก็ไม่ได้เรียนที่นี่อ่ะเด้" เด็กหนุ่มในชุดสูทสีเขียวเข้มที่ถูกเรียกว่าชิกิงะเอ่ย "ส่วนเข้ามาได้ไง เอาง่ายๆ คือปีนรั้วเข้ามาแล้วกัน และที่ว่ามาทำอะไรก็...แค่ตื่นสายเลยวิ่งมาทางนี้แล้วเห็นนายทำหน้าราวกับแมวหง่อยจึงเข้ามาทักน่ะ"
"ว่าใครเป็นแมวหง่อยอ่ะ!?" โคงาเนะอิค้อนใส่คนที่ว่าตน "ถ้าเสร็จธุระแล้วจะไปไหนก็ไปเลย!"
"อย่าพูดงั้นดิโคงะ..." ชิกิงะยิ้มบางๆ ออกมา "...นี่นายไม่คิดทักทาย 'แฟนเก่า' ของตัวเองดีๆ หน่อยเหรอ?"
"ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับนาย! อีกอย่างใครเป็นแฟนนายกัน!? อย่ามาพูดมั่วๆ เอาเองนะเฟ้ย!" โคงาเนะอิแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่ายก่อนที่จะตั้งท่าเตรียมจะหนี
"ไม่มั่วสักหน่อย..." ชิกิงะรีบคว้ามือของคนหน้าแมวไว้
"ไอ้ปฏิเสธไปทันทีเนี่ยโลกไหนเขาเรียกแฟนเก่าห๊า!?" โคงาเนะอิพยายามชักมือของตนกลับ "ปล่อยสิเว้ย! ฉันจะกลับห้องเรียนแล้ว!"
"ไม่ปล่อย อีกอย่างอยู่กับฉันต่อจะเป็นไรไป? ยังไงเมื่อกี้ได้ยินประกาศว่าเช้านี้นายไม่มีเรียนนิ" ชิกิงะเอ่ยพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้โคงาเนะอิ แถมมืออีกข้างเริ่มคืบคลานไปโอบเอวอีกฝ่ายอีกต่างหาก "รังเกียจกันหรือไงหื้อ?"
"เออดิ! ใครจะไปอยากเข้าใครคนที่ตามจีบตัวเอง แถมพอปฏิเสธก็จะฉุดเข้ามุมมืดเหมือนละครหลังข่าวล่ะ!" โคงาเนะอิแว๊ดใส่พร้อมพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของคนตรงหน้า
"ไม่รู้ไม่ชี้" เด็กหนุ่มแสยะยิ้ม "รู้แค่ว่า...ฉันยังไม่เลิกคิดที่จะเอานายเป็นของฉันหรอกนะ ต่อให้นายมีแฟนหรืออะไรแล้วฉันก็ไม่สนหรอก"
"นายไม่สนแต่ฉันสนเว้ย!" โคงาเนะอิโวย "นี่นายมันบ้าเกินเยียวยา! จะมาจีบบ้าอะไรกับฉันเนี่ย!? ถ้านายหันไปจีบคนอื่นปานนี้ได้แฟนเป็นตัวเป็นตนไปนานแล้ว!"
...เขามั่นใจว่าหน้าอย่างเขาเนี่ยถ้าเทียบกับชาวบ้าน...มีคนที่ดีกว่าให้ไอ้นี่ไปจีบเยอะแยะไป! หน้าตามันก็ดี! ฐานะมันก็ดี! แล้วทำไมต้องเจาะจงที่เขาด้วยเนี่ย!!?...
"มันก็จริง แต่..." ชิกิงะยื่นหน้าเข้ามาใกล้คนในอ้อมแขนมากกว่าเดิมจนลมหายใจร้อนๆ ปะทะหน้าอีกฝ่าย "...สำหรับฉัน...คนที่ได้มาง่ายๆ มันไม่น่าสนใจนักหรอก ยิ่งขัดขืนมาตลอดแบบนายนี่ยิ่งทำให้ฉันอยากได้เป็นของตัวเองอ่ะนะ"
"นายมันบ้าไปแล้ว!!!" โคงาเนะอิเริ่มรู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาตงิกๆ ...ใครก็ได้เอาไอ้บ้านี่ไปเก็บที!!!
"เออ ยอมรับ..." ชิกิงะเอ่ยยอมรับอย่างง่ายดาย "...แต่ถ้าฉันทำให้นายเป็นของฉันได้...มันก็ไม่เลวเนอะ?"
"เลวร้ายที่สุดเลยต่างหาก!" โคงาเนะอิสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือที่โอบเอวตนเมื่อครู่ลูบลงต่ำมาที่บั้นท้าย "ม...ไม่เอานะ! ใครก็ได้ช่วยด้วย! มิโตเบะ! ช่วยฉันด้วย!!!"
"อย่าร้องสิ..." ชิกิงะยิ้มอย่างพอใจกับผลที่ได้รับ "...อยากให้ฉันเป็นคนปิดปากให้หรือไง?"
"ไม่!" โคงาเนะอิปฏิเสธเสียงดังพร้อมพยายามหาทางหลุดออกจากสถานการณ์ให้ได้ แต่แล้ว...
วืด...โครม!!!
...ก็มีพระบาทางามๆ ถีบเข้าที่สีข้างของเด็กหนุ่มผู้ที่เหมือนคนโรคจิตเข้าทุกขณะอย่างแรงจนกลิ้งเป็นลูกขนุน พร้อมกับที่อ้อมแขนของใคสักคนดึงตัวโคงาเนะอิเข้าไปกอด
"..." โคงาเนะอิเงยขึ้นไปมองคนที่มาช่วยตนไว้ ดวงตาฉายแววดีใจระคนงุนงงยามเห็นว่าใครคือผู้ที่ช่วยตนไว้อย่างชัดเจน "...มิโตเบะ?"
"..." มิโตเบะก้มหน้าลงมาและส่งยิ้มบางๆ ให้คนในอ้อมแขน พร้อมขยับปากพูด...ซึ่งแปลได้ใจความว่า...
...นายไม่เป็นไรใช่ไหมโคงะ?...
"อื้อ...ไม่เป็นไร" โคงาเนะอิส่ายหน้าไปมา
"..." มิโตเบะเหล่มองคนที่ตนถีบไปเมื่อครู่เล็กน้อยก่อนที่จะอุ้มตัวอีกฝ่ายขึ้นมา...
...ค่อยยังชั่ว...งั้นตอนนี้เราลี้ภัยไปที่อื่นก่อนที่ไอ้บ้านี่จะฟื้นกันเถอะ...
"เป็นความคิดที่ดี" โคงาเนะอิเองก็ไม่อยากอยู่ใกล้คนที่เกือบกดตนมากนักหรอก
"..." มิโตเบะพยักหน้ารับพร้อมนำตัวโคงาเนะอิออกจากจุดอันตราย (?) อย่างรวดเร็ว
"..." เด็กหนุ่มผู้เงียบได้ตลอดมองหน้าคนหน้าแมวที่อยู่ตรงหน้าตนด้วยรอยยิ้ม
"อื้อ แค่นี้คงพ้นแล้วมั้ง? ก็หมอนั่นไม่ใช่คนในโรงเรียนคงหาที่นี่ไม่เจอหรอก" เด็กหนุ่มหน้าแมวที่แปลคำพูดอีกฝ่ายออกได้อย่างไรก็ไม่ทราบพยักหน้ารับ
"..." มิโตเบะพยักหน้า ซึ่งแปลได้ว่า...
...นั้นสิเนอะ หมอนั่นคงไม่คิดว่าเรามาแอบที่ห้องชมรมมั้ง? แถมคงไม่รู้ด้วยว่าเราอยู่ชมรมอะไรสินะ?...
"มันไม่รู้หรอก...มั้ง?" โคงาเนะอิไม่แน่ใจเหมือนกัน...
...ว่าแต่รู้สึกเหมือนลืมอะไรสักอย่างไปแฮะ? เหมือนว่าจะเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญกว่าไอ้บ้านั่นด้วยสิ? เรื่องอะไรน้า...อ๊ากกกก! จริงสิ! ยังไม่ได้ขอโทษมิโตเบะเรื่องเมื่อวานเลยนี่หว่า!? ชิบ! ลืมสนิก! เพราะไอ้บ้านั้นแท้ๆ!!!...
"..." มิโตเบะที่เห็นสีหน้าแปลกๆ ของโคงาเนะอิเอียงคอน้อยๆ พลางเอามือไปโบกไปมาตรงหน้าอีกฝ่าย...
...โคงะ? เป็นอะไรไปน่ะ?...
"เออ...แค่นึกเรื่องสำคัญขึ้นได้น่ะ" โคงาเนะอิยิ้มแห้งๆ
"..." มิโตะเบะมองคนตรงหน้าตาแป๋ว
...เรื่องอะไร? หรือเรื่องเมื่อกี้?...
"ถ้าเป็นเรื่องไอ้บ้านั้นฉันไม่บอกว่าเป็นเรื่องสำคัญหรอกนะมิโตเบะ" โคงาเนะอิเอ่ย "ที่เรื่องสำคัญที่ว่าคือ..."
"..." มิโตเบะส่งสีหน้าสงสัยออกมา
...คือ...คืออะไร?...
"คือว่าฉัน...เออ..." โคงาเนะอิทำท่าทางลัวเล...บ้าเอ้ย! แค่พูดขอโทษทำไมปากมันหนักจังวะ!? จะเอาไว้พูดทีหลังก็มีแววจะไม่กล้าพูดอีกตามเคยแหง!
"..." มิโตเบะส่งสายตากดดันโคงาเนะอิ
...นี่โคงะ...เรื่องสำคัญที่นายว่าคงไม่ใช่จะขอเลิกฉันนะ? เพราะนั้นฉันไม่ยอมแน่!...
"จะบ้าเหรอ!? ใครจะเลิกกับนายล่ะ!?" โคงาเนะอิค้อนใส่คนรักของตน "ฉันจะพูดว่าฉันขอโทษที่ทำตัวงี่เง้าใส่นาย! แค่นั้นแหละ!"
"..." มิโตเบะถอนหายใจด้วยท่าทีโล่งอกก่อนที่จะดึงอีกฝ่ายมากอด
...เฮ้อ กังวลแทบตายว่านายจะมาขอเลิกฉัน ส่วนเรื่องเมื่อวานไม่ต้องขอโทษหรอกนะ ฉันไม่ได้โกรธอะไรสักหน่อย...
"จริงดิ? แต่เมื่อวานฉันได้ยินคางามิบอกว่านายซ็อกสลบไปเลยนิ?" โคงาเนะอิเอียงคอน้อยๆ
"..." มิโตเบะเอาหน้าถูไถ่อีกฝ่าย
...ก็ฉันกลัวโคงะโกรธฉันอ่ะ...
"กลัวมากจนซ็อกสลบไปเนี่ยนะ?" โคงาเนะอิกรอดตาไปมา
"..." มิโตเบะตอบกลับ (?)
...ใช่สิ! ถ้าโคงะทิ้งฉันไปฉันคงไม่รู้ต้องทำไงเลยล่ะ!...
"...ที่จริงคนที่ควรจะกลัวน่าจะเป็นฉันมากกว่านะ" โคงาเนะอิเอ่ย "ตอนแรกฉันคิดว่านายจะเป็นฝ่ายโกรธฉันที่ไม่ยอมฟังนายจนขอเลิกกับฉันเสียอีก"
"...ไม่...มีทาง" เสียงอันแผ่วเบาที่แฝงไปด้วยความจริงจังดังออกมาจากปากมิโตเบะ "ฉันไม่มีทางทิ้งโคงะหรอก...ไม่มีวัน"
"งั้นเหรอ? ถ้างั้น...ฉันก็ไม่มีวันทิ้งนายเหมือนกัน" โคงาเนะอิส่งยิ้มให้คนรักของตนที่นานๆ ทีจะยอมเปล่งเสียงออกมา
"อื้อ..." มิโตเบะส่งเสียงในลำคอเบาๆ "...โคงะ...รักนะ"
"อื้อ! ฉันก็รักนาย!" โคงาเนะอิเอ่ยตอบรับอย่างเริงร่า และจากนั้นทั้งคู่...ก็เริ่มจีบกัน (?) ต่อแบบลืมเรื่องที่เมื่อวานพวกตนทะเลาะกันและเรื่องของคนบ้า (?) ที่แอบเข้ามาจีบเด็กหนุ่มหน้าแมวเมื่อครู่ไปเรียบร้อยแล้ว
"...ดูท่าจะคืนดีกันแล้วเนอะ?" เสียงหนึ่งดังออกมาจากเด็กหนุ่มผู้สวมแว่น "ว่าแต่...ตกลงมิโตเบะพูดได้ด้วยเหรอเนี่ย?"
"ได้ยินเสียงเมื่อกี้...ก็แสดงว่าพูดได้นั้นแหละ" เด็กหนุ่มหน้าหวานเอ่ย
"เสียงก็เพราะดีนะ ไหงถึงไม่ชอบพูดหว่า?" เด็กหนุ่มตาตี๋ขมวดคิ้วเป็นปม
"คงอายมั้ง" คนหน้ายิ้มราวกรามค้าง (?) เอ่ยออกมาอย่างไม่ใส่ใจนัก
"ถ้าแบบนั้นก็แสดงว่าอายกับทุกคนยกเว้นโคงาเนะอิคุงสินะ?" เด็กสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ "จะว่าไป...คุโรโกะคุงไปเอาเครื่องดักฟังนี่มาจากไหนเนี่ย?"
"จากอาคาชิคุงครับ...พอดีคราวก่อนเจออาคาชิคุงพยายามแอบติดเครื่องดักฟังที่ห้องฟุริฮาตะคุงน่ะครับ ผมเลยยึดมา" เด็กหนุ่มผมฟ้าตอบกลับราวกับที่พูดนี่เป็นเรื่องปกติธรรมดา
"นี่อาคาชิจะติดเครื่องดักฟังที่ห้องฉันเหรอเนี่ย!? แบบนี้ทำไมไม่ลากฉันไปอยู่ด้วยเลยล่ะฟะ!?" ชิวาว่าน้อยสีน้ำตาล (?) ทำท่าเหมือนจะเป็นลม
"ฉันว่าถ้าไม่กลัวนายโกรธอาคาชิคงทำไปนานแล้วแหง" เด็กหนุ่มหัวโล้นเอ่ย
"ก็อาคาชิหลงนายคนเดียวนิ" เด็กหนุ่มหัวตั้งเอ่ยสนับสนุนเพื่อนตน
"นายควรทำใจตั้งแต่คบกับไอ้บ้านั้นแล้วล่ะฟุริ" เด็กหนุ่มผมสีเพลิงกรอกตาไปมา "แล้ว...ถามหน่อยเถอะเราจะทำไงกับไอ้บ้าที่ถูกรุ่นพี่มิโตเบะถีบสลบดีล่ะ?"
"ไม่ต้องห่วง...เรียกคนมาจัดการแล้วล่ะ" ริโกะเอ่ยด้วยรอยยิ้มเหี้ยมๆ
"...นี่ไม่ต้องทำหน้ากลัวแบบนั้นก็ได้ ริโกะแค่เรียกให้อาจารย์ที่ยังเหลือ (หนีประชุม) ไปตรงที่ไอ้บ้านั้นสลบอยู่แล้วบอกว่า 'ไอ้นี่ลวมลามเพื่อนหนู!' แค่นั้นแหละ" ฮิวงะที่เห็นใหน้าเหมือนสยองของรุ่นน้องตนรีบเอ่ยดักขึ้นมาก่อนที่จะมีใครจินตนาการว่าเพื่อนสาวของตนไปฆาตกรรมชาวบ้านเข้า
"ฟู่..." เด็กหนุ่มปีหนึ่งทั้งหลายเมื่อได้รับคำตอบดั่งนี้ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"ท่าทางแบบนั้นหมายความว่าไงย่ะ?" ริโกะค้อนใส่รุ่นน้องทั้งหลาย ก่อนที่จะหันไปหาเด็กหนุ่มผู้มีแฟนเป็นผู้หญิงคนเดียวของกลุ่ม (เพราะที่เหลือกินกันอ... // s , เงียบซะ! แล้วไปเขียนต่อเลย! // ทุกคนในทีมเซย์ริน ยกเว้นสึจิดะ) "สึจิดะคุง...ได้ยินว่าเมื่อก่อนเคยอยู่โรงเรียนเดียวกับโคงะนี่? พอรู้หรือเปล่าว่าไอ้บ้าที่โมเมว่าเป็นแฟนโคงาเนะอิคุงนั้นมันเป็นใครแล้วมาไง?"
"อื้อ...อธิบายยากนะ ถึงถามฉันก็ไม่รู้รายละเอียดมากนักหรอกเพราะตอนม.ต้น ฉันกับโคงะไม่เคยคุยกันหรอก ดีไม่ดีโคงะจำฉันไม่ได้ด้วยว่าฉันอยู่โรงเรียนเดียวกันน่ะ..." สึจิดะเกาหัวตนเองนิดๆ "...รู้แค่ว่าหมอนั่นเมื่อก่อนอยู่ชมรมเดียวกับโคงะน่ะ และตอนที่เพิ่งเข้าเรียกม.ต้นได้ไม่ถึงเดือนหมอนั่นอยู่ๆ ก็บ้าอะไรไม่รู้ไปสารภาพรักกับโคงะน่ะ"
"แล้วโคงะก็ปฏิเสธไปแล้วอย่างที่ได้ยินโคงะโวยเมื่อกี้สินะ?" ฮิวงะพอเดาสถานการณ์ต่อไปได้เลย
"แหงสิ ก็ใครจะบ้าคบกับคนที่รู้จักได้แค่เดือนเดียวเหล่า..." สึจิดะกรอดตา (?) ไปมา "...แต่เจ้านั้นก็พยายามกล่อมให้โคงะคบกับตัวเองสักพัก จากนั้นเมื่อเห็นว่าโคงะไม่มีท่าทีจะเล่นด้วยก็เป็นอย่างที่ได้ยินโคงะโวยนั้นแหละ หมอนั้นลากโคงะเข้ามุมมืด ตอนนั้นฉันเองก็ผ่านไปเห็นเลยเรียกอาจารย์มาช่วย...แต่พอไปถึงก็เจอมิโตเบะตื้บหมอนั่นไปแล้วน่ะ"
"โคงะเลยรอดจากการเสียตัวไปอย่างหวุดหวิด..." อิสึกิพยักหน้าอย่างเข้าใจในเหตุการณ์ "...อ่ะ! เพราะอกหักเลยรอดอย่างหวุดหวิด! แจ่มเลยมุขนี้!" (มุขที่อิสึกิเล่นนี่คือคำว่า '擦れ擦れ = suresure' ที่แปลว่าหวุดหวิด กับคำว่า '失恋する = shitsurensuru' ที่แปลว่าอกหักมาต่อกัน...หรือก็คือมุขเล่นเสียงแบบแป๊กๆ ที่เราพอคิดออกนั้นแหละ // s)
"เงียบไปเลยอิสึกิ!" ฮิวงะแยกเขี้ยวใส่คนที่เล่นมุขไม่ดูเวล่ำเวลา
"เอ้าๆ อย่าเพิ่งเล่นกันสิ..." ริโกะรีบเอ่ยห้าม "...สรุปคือไอ้บ้านั้นบ้ามากขนาดที่ว่าโคงะปฏิเสธไปแล้วก็ยังมาตามราวีจนถึงตอนนี้ใช่ไหมสึจิดะคุง?"
"ตามนั้นแหละโค้ช" สึจิดะยักไหล่ "แต่ฉันว่าหลังจากนี่คงไม่ตามมาแล้วล่ะมั้ง...เนอะ คุโรโกะ"
"คงงั้นมั้งครับ..." คุโรโกะแสยะยิ้มออกมา "...แต่มาอีกก็ไม่ว่านะครับ...เดี๋ยวผมจัดการให้"
"ค...คุโรโกะ...นายไปทำอะไรหมอนั่นเหรอ?" คางามิกลืนน้ำลายอย่างฝืนคอเมื่อเห็นสีหน้าราวฆาตกรโรคจิตของคู่หูตน
"ไม่มีอะไรมากครับ...ผมแค่หยิบบัตรนักเรียนของคนเมื่อกี้มาดูแล้วติดต่อไปทางโรงเรียนที่คนเมื่อกี้เรียนอยู่พร้อมส่งเสียงรุ่นพี่โคงาเนะอิที่ผมแอบอัดไว้ไปให้ แถมบอกให้อาจารย์ช่วยพาคนเมื่อกี้ไปส่งถึงที่แค่นั้นเองครับ" คุโรโกะเอ่ยด้วยท่าทาง...สะใจมาก
"...รายนั่นคงไม่พ้นต้องเข้าห้องปกครองแน่" ฟุริฮาตะคุมขมับเมื่อได้ยินสิ่งที่คนผมฟ้าทำลงไป
"...นายขอความร่วมมือจากคุโรโกะได้อย่างน่ากลัวมาก" ฮิวงะทำหน้าราวกับกินยาขมมาทั้งขวด
"เอาน่าๆ อย่าเครียดกันดิ คิดแง่ดีว่าอย่างน้อยโคงะน่าจะปลอดภัยจากหมอนั่นแล้วอ่ะนะ" คิโยชิเอ่ยปลอบแต่ล่ะคนที่ทำหน้าเหมือนคนไมเกรนขึ้น
"เออ...จะพยายามคิดอย่างนั้นแล้วกัน" ฮิวงะถอนหายใจออกมา...
...ชาตินี่เขากล้าพูดเลย...ว่าเขาจะไม่เป็นศัตรูกับคุโรโกะเด็ดขาด! รวมทั้งสึจิดะที่โน้มน้าวให้คุโรโกะช่วยได้อย่างรวดเร็วด้วย! ต่อให้ขู่ด้วยอะไรก็ไม่มีวัน! ค่อยดูเถอะ!!!...
End
CR. Kuroko's Basketball ภาค 2 ตอนที่ 7 [ซับไทยโดย Crim
ความคิดเห็น