ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #153 : [??] เรื่องวุ่นวายของ S กับคนจากต่างมิติ (9) [END]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 713
      11
      27 พ.ค. 59

    Title : เรื่องวุ่นวายของ S กับคนจากต่างมิติ (9) [END]

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : All + Shiko

    Notes : ตอนสุดท้ายจ้า...

    ................................................................

    เรื่องวุ่นวายของ s กับคนจากต่างมิติ (9) [END]

     

    ในยามเช้ามืดอันแสนสดใส ณ บ้านทรงไทยที่ตั้งเด่นหราอยู่กลางทุ่งซึ่งตลอดหนึ่งสัปดาห์มีเสียงเอะอะโวยวายเกือบทุกวัน และวันนี้ก็มีเสียงโวยวายไม่ต่างจากเดิมนัก จะมีที่ต่างจากเดิมคือ...ตรงบริเวณหน้าบ้านที่มีหญ้าขึ้นสูงท่วมหัวที่ในตอนนี้...

    ...มีเด็กหนุ่มหลายคนถูกจับมัดอยู่วงกลมซึ่งมีรูปดาวหกแฉกอยู่ด้านในราวกับกำลังเตรียมพิธีบูชายันน่ะสิ!

    นี่ชิโกะ...เธอจะจับพวกฉันมัดทำมายยยยย!?” เสียงโหยหวน (?) ดังลั่นออกจากปากเด็กหนุ่มผมน้ำเงินที่ถูกลากมาโยนเข้าไปในวงกลมเป็นคนสุดท้าย

    ก็ไม่มีอะไร...แค่เตรียมส่งพวกนายกลับโลกเดิมเมื่อถึงเวลาและที่จับมัดเนี่ยเพราะจะได้ไม่หนีไปเล่นแถวไหนกันจนคนตกหล่นแค่นั้นเองหญิงสาวเพียงนางเดียวของกลุ่มยักไหล่เล็กน้อย

    งั้นบอกกันดีๆ ไม่ต้องจับมัดก็ได้!เด็กหนุ่มที่ถูกจับมัดหลายคนเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน

    ไม่เอา ไม่งั้นตอนส่งกลับพวกนายหนีกันแหงชิโกะเกาหัวตัวเองนิดหน่อยพอดีเราเขียนเพิ่มเติมไปว่าทั้งพวกนายทั้งเราจะถูกดินสูบไปเมื่อถึงเวลาน่ะ...และเพื่อกันข้าวของพังเลยจำกัดขอบเขตแค่ในวงกลมนี่แหละ

    “...แล้วทำไมไม่เขียนที่ดีๆ กว่านี่เล่า!?” เด็กหนุ่มทั้งหลายทำหน้าปวดจิตปวดใจขึ้นมาเมื่อรู้ว่าจะโดนอะไรต่อจากนี้

    ก็เราอยากลองแบบแปลกใหม่ดูบ้างอ่ะ!ชิโกะเอ่ยอย่างร่าเริง

    นี่เธอสมองเสื่อมใช่ไหมเนี่ย!? ขนาดตัวเองก็โดนเหมือนกันยังเล่นอีก!คนคิ้วหนา (?) แว๊ดลั่นพร้อมพยายามหาทางแกะเชือก

    ยังไม่เสื่อมเสียหน่อย และนายไม่ต้องหาทางแกเชือกออกเลย...ทำให้ตายยังไงก็ไม่ออกหรอก~~~” ชิโกะลากเสียงยาว

    อย่าทำหน้าเหมือนกำลังจะเชือดฉันเด้! หลอนนะเว้ย!!!ฮานามิยะดิ้นพล่านๆ

    ให้ตายสิ...เมื่อวานก็เล่นทำตัวเหมือนผีให้หลอน วันนี้ทำตัวเป็นฆาตกรโรคจิตอีก...เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งเบ้หน้าเล็กน้อย “...ชักอยากกินพาราสักกำแฮะ

    “...สักวันฉันจะสร้างยาล้างสมองให้เธอกินแน่เด็กหนุ่มผมเขียนถอนหายใจออกมาเบาๆ

    แล้วเรื่องอะไรเราจะกินล่ะตัวเธอ?” ชิโกะยิ้มร่าพลางยกนาฬิกาข้อมือของตนขึ้นมาดูอา เหลือเวลาอีกชั่วโมงหนึ่งแฮะ...หาอะไรทำดีกว่า

    ถ้ากำลังคิดเล่นอะไรพิเรนท์ๆ ล่ะก็ขอล่ะ...อย่าเลยมิโดริมะที่กลัวเจอเรื่องปวดหัวกว่าเดิมเอ่ย

    นั่นดิๆ ฉันว่ามา...มาคุยกันเล่นดีกว่าเนอะ!ฮานามิยะซึ่งมักเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ถูกแกล้งรีบหาทางไม่ให้หญิงสาวคิดเล่นอะไรแปลกๆ ขึ้นมาจริงๆ อย่างรวดเร็ว

    “...เอางั้นก็ได้~~~” ชิโกะลากเสียงยาวคล้ายกับว่าขี้เกียจเถียง ทำให้เด็กหนุ่มทั้งหลายถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ไม่เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อ (?) “แล้วนี่ใครจะเปิดประเด็นก่อนล่ะ?”

    อ่ะ! ฉันเองๆ!ทาคาโอะเอ่ยขึ้นมาทันทีราวกับกลัวคนแย่งพูดหรือไม่ก็...กลัวว่าถ้าหญิงสาวเปิดประเด็นเองจะกลายเป็นการแกล้งพวกตนทางอ้อมแค่นั้นแหละเริ่มประเด็นไหนดีนะ...งั้นเอาไอ้บ้านที่เธอขับผ่านหลังเล่นบาสเสร็จเมื่อวานแล้วกัน!

    บ้านหลังไหนเหรอ?” ชิโกะถาม

    ไอ้หลังที่ติดอยู่ประตูทางออกที่เธอพาออกเมื่อวานไงทาคาโอะตอบ

    อ๋อ ไอ้หลังที่ติดประตูหลังของรั้วมหาลัยนั่นนะ? ทำไมเหรอ?” ชิโกะถามต่อ

    ก็บ้านนั่นเป็นบ้านร้างเหรอ? เห็นเมื่อวานดูวังเวงเหลือเกินทาคาโอะถามกลับ

    จะว่าไปก็จริงแฮะ...ทั้งๆ ที่บ้านก็ดูใหม่ดีนะ แต่กลับดูวังเวงแปลกๆฟุคุอิพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

    คงเพราะตอนไปมันค่ำแล้วมั้งเลยดูน่ากลัวไปหน่อยน่ะโมริยามะลองเสนอความเห็นดู

    ก็อาจจะนะฟุคุอิไม่เถียงว่ามันอาจเป็นเช่นนั้นจริงๆ

    แต่ผมว่ามันไม่ใช่แค่นั้นนะครับ...คุโรโกะเอ่ยแย้ง “...ชิโกะ...ผมว่าคุณบอกมาเลยดีกว่าครับว่าตกลงบ้านหลังนั้นเป็นบ้านร้างหรืออะไร จะได้กระจ่างไปเลยครับ

    อื้อ ตอบยากแฮะ...เพราะไอ้บ้านนั่นจะว่าร้างก็ร้างจะว่าไม่ร้างก็ไม่ร้างนะชิโกะทำหน้าเหมือนไม่รู้จะตอบเช่นไรดี

    หมายความว่าไงอ่ะ?” ดวงตาสีฟ้าอมเทาของทาคาโอะทอประกายระยิบระยับอย่างอยากรู้อยากเห็น

    ก็บ้านนั่นเป็นบ้านพักและมีคนมาลงชื่ออยู่ด้วย แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมอยู่น่ะสิชิโกะเอ่ย

    เอ๊ะ? ทำไมล่ะ?” ฮายามะเริ่มมีท่าทีสนใจอีกคน

    เห็นบอกว่ามีผีน่ะ...แถมผีดุด้วย...ชิโกะตอบไปตามตรง “...แต่เราว่าถึงมีก็ไม่น่าใช่ผีดุอย่างที่เขาว่าหรอก เพราะที่นั่นเป็นบ้านพักที่เราเคยอยู่มาก่อนที่จะย้ายมานี่น่ะ...อยู่ตั้งสิบห้าปีไม่เห็นเจออะไรเลย

    “...ไหงวกมาเรื่องผีได้ฟะ!?” มิยาจิเบ้หน้า...นี่เขายังหลอนที่โดนแกล้งเมื่อวานนะเฮ้ย!...

    ...ถึงเมื่อวานยัยชิโกะไม่ได้ตั้งใจแกล้งแต่มันก็หลอนเว้ย!!!...

    เอาน่าๆ มิยาจิซัง...อย่างน้อยมันก็ฟังหน้าสนใจดีนะทาคาโอะหัวเราะร่าแล้วนี่...คนเช่าต่อจากเธออยู่ได้นานเท่าไหร่เหรอ?”

    เห็นว่าสี่ห้าเดือนนะชิโกะยักไหล่แต่จะว่าไปก็ขำเนอะ...คนบ้านเราเนี่ยมักจะไม่เจออะไรแบบนี้อย่างคนอื่นเขา (ซึ่งก็ดีแล้ว ยังไม่บ้าพอที่จะอยากลองดีอะไรแบบนั้นหรอก) อย่างเมื่อก่อนบ้านพักที่แม่เราอยู่พอย้ายออก คนไปอยู่ใหม่ก็เจอดีทันทีและเจอหลายรายจนต้องรื้อบ้านพักทิ้ง ทางพ่อเราก็เหมือนกันแต่ของพ่อเรานั่นต่อให้ไม่มีบ้านพักก็ว่าผีดุอยู่แล้วเพราะทางผ่านเข้าไปเป็นป่าช้าน่ะและถ้าอ้อมต้องอ้อมหลายเมตรด้วย ทางพี่เรายังไม่เจออะไรแต่มักผ่านทางที่เขาว่ามีผีบ่อยๆ คนเดียวโดยที่ไม่เจออะไรคนเดียวน่ะ ส่วนเรานอกจากมักผ่านไปผ่านมาในที่ที่เขาว่ามีผีบ่อยๆ กับหูแว่วในบริเวณที่ว่านั่นก็ไม่มีอะไรนะ

    “...บ้านเธอไปทำบุญครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เนี่ย?” ยูยะคิดกระตุกนิดๆ ...ถึงไม่ได้เจอเป็นตัวเป็นตนแต่เคยผ่านทางเคยอยู่แบบนั้นทั้งบ้านนี่น่าคิดนะเฮ้ย!

    ถ้าไม่นับที่โรงเรียนจัดก็...น่าจะประมาณสามปีก่อนมั้ง?” ชิโกะตอบแบบจำไม่ค่อยได้เหมือนกัน

    งั้นแนะนำไปทำบุญซะ...ถึงเธอไม่เจออะไรแต่ฉันเสียวๆ ว่าจะมีไอ้อย่างว่านั้นเกาะติดเธอมาโดยไม่รู้ตัวชอบกลมิโดริมะเบ้หน้าเล็กน้อยถ้าให้ดีพกลักกี้ไอเทมด้วยล่ะ วันนี้ลักกี้ไอเทมคือสีเขียว (พอดีเกิดราศีเดียวกันเลยรู้)

    เดี๋ยวพกนายติดตัวเลยดีไหมพ่อหัวเขียว?” ชิโกะแซวอีกฝ่ายเล่นอ่ะๆ อย่าเพิ่งหึงนะทาคาโอะ เราไม่แย่งสามีนายหรอกน่า...จิ้นพวกนายมันส์กว่าเยอะ

    อันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้! เฮ้ย! ไม่สิ! ฉันไม่ได้หึงชินจังนะ!ทาคาโอะแว๊ดกลับ...โธ่! อุตสาห์เปิดประเด็นอื่นที่ไม่คิดว่าจะเข้าหาตัวยังโดนแกล้งจนได้!

    เอ้าๆ อย่าเพิ่งแกล้งคาสึนาริสิชิโกะ...มาคุยเรื่องผีกันต่อดีกว่าอาคาชิยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดีเนื่องจาก...พอเข้าสู่เรื่องผีฟุริฮาตะก็กระดึบมาซุกตัวจนแทบรวมร่างกับคนผมแดงนี่เอง

    เอาเรื่องอื่นแทนเรื่องผีได้เปล่า?” คางามิเบ้หน้าเนื่องจากเจ้าตัวกลัวผีสุดกู่

    ไม่ได้ เพราะเราอยากแกล้งนายชิโกะเอ่ยเรื่องผีเอาอะไรดีน้า...เอาที่ใกล้ๆ ตัวอย่างเรื่องในมหาลัยที่เราไปใช้สนามเมื่อวานแล้วกันเนอะ

    เอาเลยๆเด็กหนุ่มหลายคนที่อยากแกล้งคนกลัวผี (?) รีบสนับสนุน

    งั้นเรื่องแรก...เรื่องเจ้าที่ของห้องสมุดภาษาอังกฤษแล้วกัน ตรงนั้นเขาว่าถ้าไปลบลู่จะเจอดีน่ะชิโกะมองคางามิที่เริ่มหน้าซีดอย่างขำๆ

    แล้วมันจริงไหม?” อิมาโยชิถามโดยที่...ในยามนี่คาซามัตสึแทบมุดไปซ่อนในเสื้อเจ้าตัวแล้ว

    เอาตามความคิดเราคือ...จริง...ชิโกะพยักหน้ารับ “...มีครั้งหนึ่งพวกนักศึกษาใหม่ไปลบลู่เข้า แล้วพอตกดึกขณะกำลังรับน้องกันอยู่ อยู่ดีๆ ก็ชักกระแด๊วๆ เหมือนถูกผีเข้าทั้งหมู่เลย ตอนนั้นเราก็ยังอยู่ไอ้บ้านพักหลังเดิมนั่นก็งงๆ อยู่ว่าไหงเสียงรถพยาบาลดังกันจังแต่ไม่ได้ออกจากบ้านมาดูกว่าจะรูเรื่องต่อวันต่อมาน่ะ

    “...มันจะฟังดูน่ากลัวดีนะครับ ถ้าไม่มีตรงไอ้ชักกระแด๊วๆ น่ะครับ...พอใช้คำแบบนี้แล้วดูฮาขึ้นมาเลยครับคุโรโกะที่ตอนนี้โดนทั้งคนผมเหลือง ผมน้ำเงินและผมสีเพลิงเบียดอยู่เอ่ยแล้วต่อจากนั้นพวกคนที่โดนรถพยาบาลหามไปเป็นไงครับ?

    พอรู้สึกตัวก็ไปขอขมายกหมู่น่ะสิชิโกะหัวเราะออกมาเบาๆ

    อื้อ ดูท่าเจ้าที่จะแรงน่าดูแล้วนี่เธอ...เคยผ่านไปแถวนั้นไหม?” ยูยะซึ่งยามนี่กลายเป็นบังเกอร์เต็มเนื่องจากโดนทั้งพี่ทั้งแฟนพี่ทั้งคนที่มาจีบตนสองหน่อซุกซะจนแทบหายใจไม่ออก

    บ่อยสิ แต่เราไม่โดนอะไรหรอก...เพราะเราก็ไม่รู้ว่าตรงนั้นเป็นศาลเจ้าที่จนมีคนมาบอกน่ะ แถมเราเป็นพวกที่ไม่ลบลู่สิ่งที่มองไม่เห็นด้วย ประมาณว่าอยู่ทางใครทางมันอย่างสงบๆ ดีสุดชิโกะตอบ

    “...นี่เธอคิดแบบคนปกติเป็นด้วยแฮะมายุสุมิกรอกตาไปมา

    ก็มีบ้างน่า...ชิโกะยักไหล่ “...แล้วนี่...จะฟังเรื่องต่อไปไหม?”

    ฟังมายุสุมิตอบ

    ต่อไปเป็นเรื่องที่ตอนสร้างตึกแล้วเจอโครงกระดูกจำนวนมาใต้ดินแล้วกันชิโกะเอ่ย

    น่าสนใจดี เรื่องว่ายังไงล่ะ?” ฟุคุอิถาม

    ก็ไม่มีอะไรมากแค่หลังสร้างตึกเสร็จก็มันมีคนเห็นเงาเดินไปมาตอนกลางคืนแค่นั้นแหละ ไม่ค่อยน่ากลัวหรอกชิโกะตอบ

    นั้นไม่น่ากลัวเหรอ?” คางามิทำหน้าตูม

    แค่เงาสำหรับเราไม่น่ากลัวหรอก เราเห็นเงาวูบวาบบ่อยๆ เลยไม่รู้สึกอะไรและเพราะสายตาไม่ค่อยดีเลยมองอะไรผิดๆ ถูกๆ บ่อยน่ะชิโกะอธิบาย

    สายตาเธอนี่เป็นไงเนี่ย? สั้นหรือยาวเท่าไหร่?” อาคาชิถาม...ถ้าเห็นมั่วขนานนั้นคงสายตาไม่ดีเอามากๆ เลยแหง...

    ...แต่สายตาไม่ดีดันยิงปืนแม่นนี่สิ...ที่น่าแปลกกว่า...

    เราสายตาสั้นน่ะ ข้างหนึ่งสั้นสามร้อย อีกข้างห้าร้อย สายตาเอียง แถมเมื่อก่อนมีตาเหล่ด้วยแต่ผ่าตัดดึงสูญตากลับมาเป็นปกติแล้วชิโกะเอ่ยตามที่จำได้

    “...ปัญหาด้านสายตานี่มันกระทบไปถึงสมองหรือเปล่าเนี่ย? เป็นเยอะเหลืออาโอมิเนะถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

    พูดแบบนี่หมายความว่าไงย่ะ? เดี๋ยวแกล้งซะนิชิโกะทำปากจู๋

    อย่าเพิ่งแกล้งอาโอมิเนะคุงเลยครับ คุณเล่าเรื่องผีต่อดีกว่าครับ...ผมอยากฟังคุโรโกะรีบเอ่ยขึ้นมาก่อนที่เพื่อนผมเหลืองของตนจะกลายเป็นม่าย (?)

    เอางั้นก็ด้ายยยยย งั้นต่อไปเราเอาแบบสยองเลยน้าาาาาาชิโกะลากเสียงยาว

    “...ฉันขอไม่ฟังได้ไหมเนี่ย?” อาโอมิเนะที่ไม่ไว้ใจกับคำพูดของหญิงเท่าไหร่เอ่ย...รู้สึกว่าเรื่องที่อีกฝ่ายกำลังจะเล่ามันจะชวนให้ฝันร้ายชอบกล

    ไม่สนจ้า! เราจะเล่า! งั้นต่อไปก็...ชิโกะยิ้มร่าพร้อมเล่าเรื่องผีต่อไปเพื่อรอให้ถึงเวลาแบบไม่สนใจพวกที่ตัวผีที่ดูอยากจะเป็นอยู่รอมร่อเลยแม้แต่น้อย และเมื่อเล่าจบเจ้าตัวก็ยิ้มร่าพลางมองเด็กหนุ่มทั้งหลายที่บ้างส่วนดูตั้งอกตั้งใจฟังดีบ้างส่วนก็หน้าซีดราวกับไข่ต้ม “...เท่าที่เรารู้ก็มีแค่นี้ล่ะนะ

    ลื้อนี่สุดๆ เลย...ผ่านที่ที่เขาว่าผีดุหน้าตาเฉยโดยไม่รู้เรื่องอะไรตลอดเนี่ยนะ? แถมเดินไปคนเดียวอีกน่อหลิวไม่เข้าใจระบบความคิดของรายนี่จริงๆ

    ถูก ทั้งตอนกลางวันและกลางคืนเลยชิโกะยอมรับหน้าตาเฉยจะมีที่ที่เขาว่าผีดุแล้วเราไม่เคยเดินไปมีแต่ริมอ่างเก็บน้ำข้างวิทยาลัยเท่านั้นแหละ เพราะเราว่ายน้ำไม่เป็นกลัวตกน้ำตายน่ะ

    ไม่ไปน่ะดีแล้ว ไม่งั้นเธอกลายเป็นคนล่าท้าผีแน่...มิบุจิถอนหายใจออกมาเบาๆ “...ว่าแต่...พูดก็พูดเถอะ ไหงไปๆ มาๆ บริเวณโรงเรียนเธอผีดุสุดเนี่ย?”

    ...เล่นพอมาถึงส่วนที่ใกล้ตัว (เพราะไปเรียนมันทั้งสัปดาห์) แล้วเล่าไม่ละเอียดเนี่ยมันยิ่งกระตุกต่อมอยากรู้นะ!...

    อ๋อ มันพวงมาจากไอ้เรื่องผีริมอ่างเก็บน้ำน้ำแหละ...ชิโกะเอ่ย “...พอดีตอนสร้างอ่างเก็บน้ำเนี่ยไม่รู้เป็นอะไรสร้างไม่สำเร็จทุกทีเลยมีใครไม่รู้ไปบนกับศาลเจ้าแม่แถวนั้นว่าถ้าสร้างสำเร็จจะสังเวยมนุษย์ปีล่ะหนึ่งคนน่ะ จากนั้นไม่นานก็สร้างได้สำเร็จจริงๆ แต่ว่า...ก็มีคนตายที่นั้นหรือบริเวณทุกปีนับจากนั้นเป็นต้นมาอย่างที่เล่านั้นแหละ

    และผีที่เหลือก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาจากไอ้นี่สินะ?” มายุสุมิเริ่มนึกกลัวขึ้นมานิดๆ

    ก็เกือบทั้งหมด ส่วนหนึ่งเป็นมาจากที่วิทยาลัยเคยเป็นเรือนจำและลานประหารมาก่อนที่จะมาสร้างเป็นที่เรียนกับเจ้าที่ของที่นั่นน่ะชิโกะยักไหล่

    “...น่ากลัวกว่าที่คิดแฮะฮานามิยะถอนหายใจออกมาเบาๆ

    ก็นะ...ชิโกะหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่จะยกนาฬิกาขึ้นมาดู  “...ใกล้ถึงเวลา...ทุกคนเตรียมตัวเตรียมใจให้ดีล่ะ

    ใกล้แล้วสิ?” เด็กหนุ่มทั้งหลายเริ่มพากันหน้าซีดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้...หญิงสาวจะใช้วิธีใดส่งพวกตนกลับ

    เตรียมตัวโดนดินสูบเนี่ย...ไม่ค่อยอยากทำตามเลยฟุคุอิเบ้หน้า

    น่าๆ อย่าบ่น เดี๋ยวแป๊บเดียวก็เสร็จ...ชิโกะยิ้มหวาน...หวานจนหลอนเลย! “...เอาเตรียมตัว! สาม! สอง! หนึ่ง! ศูนย์!!!

    เฮ้ย! มาแบบปุ๊บปั๊บแบบนี้เลยเหรอ!?” เด็กหนุ่มแว๊ดออกมาดังลั่นเมื่อทันทีที่สิ้นเสียงหญิงสาว...ดินที่พวกตนนั้นอยู่ก็ค่อยๆ ดูดร่างพวกตนลงไปราวกับทรายดูด!

    ถูกเผงจ้า! อ๋อ! พอจมลงไปแล้วช่วยเงียบๆ สักนิดด้วยล่ะ! ไม่งั้นดินเข้าปากไม่รู้ด้วยนะ!ชิโกะเอ่ยอย่างเริงร่า

    ไม่บอกก็รู้เฟ้ย!!!เด็กหนุ่มทั้งหลายค้อนใส่ตัวต้นเหตุขณะที่บัดนี้เริ่มจมดินไปจนเหลือแค่หัวที่โผล่พ้นดินแล้ว

    น่าๆ อย่าเครียดกันดิตัวเธอชิโกะหัวเราะร่าพลางมองร่างของแต่ล่ะคนจมลงไปอย่างช้าๆ และเมื่อจมดินกันไปหมดแล้วเจ้าตัวก็ค่อยมุดดิน (?) ตามลงไปอีกคน




     

    เฮ้อ...พวกนั่นหายไปไหนกันนะ?” เสียงบ่นเบาๆ ดังขึ้นภายในห้องที่กว้างใหญ่ขนาดยัดคนเป็นสิบได้สบายๆ ซึ่งมีหญิงสาวผมทองหุ่นสะบึม (...) คนหนึ่งนั่งดูทีวีอย่างเบื่อหน่ายอยู่ปกติไม่เคยหายไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอย่างนี้นี่นา...แถมรายนั่นยังไม่เห็นโผล่มาป่วน (?) มาพักใหญ่แล้วด้วย เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าเนี่ย?”

    แว๊ดดดดด!!!!!!!

    ตุ๊บๆๆๆๆ! ตั๊บ! โครม!!!!

    ว้าย!หญิงสาวผมทองสะดุ้งโหยงเมื่อทันทีที่ตนบ่นกับตัวเองเสร็จอยู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นหลายเสียงทั้งๆ ที่ตนอยู่ภายในห้องนี่เพียงคนเดียวและพอหันกลับไปดูด้านหลังตนก็พบว่า...บัดนี้บนเพดานห้องได้มีหลุมแปลกๆ ดำๆ โผล่ขึ้นมา จากนั้นไม่นานก็...

    ...มีร่างของมนุษย์ที่ถูกนับสิบที่ถูกมัดราวดักแด (?) ร่วงลงมาก่อนจะตามด้วยหญิงสาวคนหนึ่งที่ไม่ได้ถูกมัดเพียงคนเดียวร่วงลงมาเป็นคนสุดท้าย...แล้วจากนั่นหลุมดำนั้นก็ค่อยๆ หดตัวและหายไปในที่สุด

    ในที่สุดก็กลับมายังมิติที่คุ้นเคยนี่ได้เสียที!หญิงสาวผมสีออกน้ำตาลเอ่ยอย่างร่าเริงโดยที่...

    ยัยชิโกะ...ก่อนที่จะดีใจช่วยมาแก้มัดพวกฉันก่อนได้ไหม!?”

    มิยาจิซัง! ก่อนแว๊ดใครช่วยกลิ้งลงจากหลังผมก่อนเถอะครับ! จะตายแล้ว! แอ๊ก!

    แว๊ด! เฮ้ยๆ! อย่าเพิ่งตายนะเว้ยฮานามิยะ!

    ช่างหัวมันเถอะยูยะ...ปล่อยมันตายไปเลย!

    ช่วยเลิกเถียงกันแล้วสงสารฉันที่อยู่ล่างสุดหน่อยเซ่!!!

    ไหงอาคาจินลงดีคนเดียวอ่ะ? ทั้งที่ถูกจับมัดเหมือนกันแท้ๆ

    ฯลฯ” ...มีเสียงโวยวายจากเด็กหนุ่มทั้งหลายดังขึ้นต่อมาเป็นพวงเลย

    เอ้าๆ อย่าบ่นน่า เดี๋ยวแก้มัดให้ชิโกะสะบับมือทีหนึ่งแล้ว...เชือกที่มัดตัวเด็กหนุ่มทั้งหลายก็ขาดออกทันทีแล้วนี่ฮานามิยะกับเนบุยะมันตายยังเนี่ย?”

    ย...ยังเฟ้ย!เด็กหนุ่มทั้งสองที่โดนทับจนแทบแบนรีบเอ่ยขึ้นมาก่อนที่จะโดนเข้าใจว่าตายจริงๆ ขึ้นมา

    อ้าว? เห็นนิ่งคิดว่าตายแล้วเสียอีกชิโกะหัวเราะออกมาเบาๆ พลางกวาดตามองเด็กหนุ่มทั้งหลายแล้วนี่มาครบไหมเนี่ย? มีใครหล่นหายระหว่างทางหรือเปล่า?”

    เท่าที่ดู...ครบอาคาชิเอ่ยตอบแล้วที่นี่...ห้องไทกะ?”

    ถูก...ชิโกะพยักหน้ารับ “...ก็ให้ลงที่สนามบาสที่พวกนายหลุดไปนู้นทางจะมีความวุ่นวายตามมาเลยให้ลงที่นี่น่ะ

    ยังดีนะเนี่ยที่เธอยังมีหัวคิดคางามิบ่นขึ้นมาเบาๆ ขณะนั่นเอง...

    ไทกะ~~~~!!! ทัตสึยะ~~~~~!!!” ...หญิงสาวผมทองที่อยู่ภายในห้องนี่ตั้งแต่แรกก็พุ่งเข้ากอดคนผมสีเพลิงกับคนหน้าหวานผมดำอย่างรวดเร็วหายไปไหนกันมาตั้งนานเนี่ย~~~~!?”

    โอ๊ย! เป็นสาวเป็นนางอย่าพุ่งเข้ากอดแบบนี้สิ! อเล็กซ์!คางามิพยายามดันสาวผมทองที่เกาะตนอยู่ออกและยังมาถามว่าหายไปไหนอีก! เพราะเธอไม่ใช่เหรอที่ทำให้พวกฉันหลุดไปที่แปลกๆ น่ะ!

    เอ๊ะ?” อเล็กซ์ทำหน้างงๆฉันทำอะไรเหรอ? แล้วที่บอกหลุดไปที่แปลกๆ นี่อะไร?”

    ก็ที่เธอแอบไปพิมพ์แท็บเล็ตของชิโกะเล่นไงฮิมุโระตอบอาจารย์สาวของตน

    ห๊า? ฉันเปล่านะ! ฉันไม่เคยไปเล่นไอ้แท็บเล็ตของชิโกะเลย!อเล็กซ์ปฏิเสธด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าไม่รู้จริงๆ

    อ้าว!เด็กหนุ่มทั้งหลายกับหญิงสาวหลุดร้องออกมาเมื่อรู้ความจริงข้อนี่

    เดี๋ยวนะอเล็กซ์...งั้นไหงมีชื่อเธอลงท้ายล่ะ?” ชิโกะถามพลางยื่นแท็บเล็ตที่เปิดหน้าที่เขียนฟิคเป็น PDF ให้สาวผมทองดู

    ไหนๆอเล็กซ์รีบรับมาดูทันทีชิโกะ...เธอลืมหรือเปล่าว่าฉันเขียนชื่อตัวเองภาษาญี่ปุ่นไม่ได้น่ะ? ดังนั้นถ้าเขียนชื่อฉันเป็นฮิรางานะทั้งดุ้นแบบนี้ไม่ใช่ฉันเขียนแน่

    เออแฮะ จริงด้วยชิโกะเกาหัวตัวเองนิดๆ ...ไอ้ตอนแรกมัววุ่นๆ กับไอ้พวกที่โผล่มานี่เลยลืมนึกเรื่องนี้ไปเลยแฮะ

    เดี๋ยวนะ...ถ้าอเล็กซ์ไม่ได้ทำ...คางามิเหล่มองชิโกะ “...แล้วใครทำล่ะ?”

    ไม่ต้องมามองเราเลย เราไม่ได้เมาแล้วเขียนเองแน่ล่ะเพราะเราเขียนชื่ออเล็กซ์เป็นฮิรางานะไม่ได้เหมือนกันชิโกะส่ายหน้าวืด

    แล้วใครเป็นตัวการล่ะทีนี่?” คาซามัตสึถอนหายใจออกมาเบา

    ไม่รู้ แต่เดี๋ยวคงรู้แล้วล่ะชิโกะกดแท็บเล็ตในมือตนอย่างรวดเร็ว

    จะทำอะไรน่ะชิโกะ?” อิสึกิถาม

    ย้อนดูวันที่ไอ้บทนี่ถูกเขียนขึ้นมาน่ะ...ในโลกนี่เราทำเรื่องแบบนี้ได้สบายๆ อยู่แล้วชิโกะตอบพร้อมกับ...มีภาพสามมิติถูกฉายออกมาจากแท็บเล็ต...

    ...และภาพที่ปรากฏออกมาคือภาพหญิงสาวสองคนกำลังนั่งดื่มกันอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่,...ซึ่งหญิงสาวสองคนที่ว่าไม่ใช่ใครอื่น อเล็กซ์กับชิโกะนั้นเอง

    อื้อ...วิธีนี่สะดวกดีแฮะโมริยามะจ้องมองภาพสามมิติตรงหน้าอย่างสนอกสนใจ

    ก็นะชิโกะยักไหล่เกน้อยพลางมองภาพที่ถูกฉายออกมา...โดยที่ภาพช่วงแรกๆ ก็พากันดื่มน้ำสีอำพันเอาไปตามปกติ แต่ช่วงหลังๆ ชิโกะก็เดินจากไปคาดว่าไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้อเล็กซ์นั่งสัปงกอยู่และจังหวะนั้น...ก็มีมือของบ้างคนยื่นมาหยิบแท็บเล็ตบนโต๊ะไปอย่างรวดเร็วและเอาแท็บเล็ตที่ดูคล้ายๆ กันอีกอันมาวางแทน

    “...ดูท่าเราเจอตัวการแล้วล่ะฮิมุโระแสยะยิ้มเล็กน้อย

    งั้นเราเปลี่ยนมุมมาดูดีกว่าว่าใครเป็นคนทำชิโกะเอ่ยพลางกดๆ พิมพ์ๆ เพื่อเปลี่ยนมุมให้ชัดๆ ว่าใครเป็นคนทำพร้อมเพิ่มออฟชั่นเสียงมาให้ด้วยจากตอนแรกที่มีแค่ภาพธรรมดา...และเมื่อเปลี่ยนมุมก็ทำให้เห็นว่าคนที่แอบฉกแท็บเล็ตไปนั่นเป็นเด็กหนุ่มที่ไว้ผมทรงเดสร็อกสีออกดำๆ เทาๆ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก...

    ...ไฮซากิ โชโงะนั้นเอง

    แหม~~ ไฮซากิเองเหรอเนี่ย~~~” ชิโกะแสยะยิ้มเล็กน้อย...แต่นั้นก็มากพอทำให้แต่ล่ะคนภายในห้องรู้สึกขนลุกขึ้นมาได้ไหนดูสิ...ว่าคิดบ้าอะไรถึงหยิบไปเล่นเนี่ย?”

    “...” คนอื่นๆ ภายในห้องนิ่งเงียบไปแบบไม่คิดตอบอะไรทั้งสิ้น...ถึงแม้ตอนแรกยอมรับว่าคิดจะเอาคืนรายนี่...

    ...แต่ว่าตอนนี้เมื่อรู้ว่าชิโกะ อาคากิคิดจะเอาคืนรายนี่ขึ้นมาแล้ว...ทำให้อาฆาตต่อไม่ลงจริงๆ

    ไอ้นี่มันทำให้พวกฉันไปแสดงไอ้บทปวดจิตนั่นได้ไงหว่า?’

    ง้นลองพิมพ์เล่นๆ ดีกว่าแฮะ...ดูสิ มันจะเป็นไง

    ไอ้นี่มันเปิดไงวะ!? แม่ง! เครื่องโคตรอืด! อัพครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เนี่ย!?’

    พิมพ์ยากชิบ! ยัยนั่นทนพิมพ์ได้ไงวะ!?’

    เฮ้อ! พิมพ์ลวกๆ ไปนี่แหละวะ!...ว่าแต่เชฟแบบปกติยัยนั่นรู้ตัวแล้วมาโวยแหง งั้นเปลี่ยนเป็น PDF แล้วกัน อ่ะลงท้ายชื่อของเจ๊ผมทองนั้นด้วยดีกว่า เผื่อยัยเตี๊ยนั้นรู้ตัวแล้วจะได้มาโวยช้าหน่อย

    เสร็จล่ะ...ต่อไปก็เอาไปวางคืนก่อนยัยนั่นจะกลับ

    อ้าว! กดโดนอะไรเนี่ย?...อ้าวเฮ้ย! ร...รูปนี่มันไปแอบถ่ายตอนไหนวะ!?’

    โธ่เว้ย! ยัยนั่นตั้งอะไรไว้ถึงลบไม่ได้เนี่ย!?’

    ยัยเตี๊ยนั้นทำแสบอีกแล้ว! โว้ย! ไอ้เครื่องนี้มันทำไมใช้ยากจังวะ!?’

    ว่าแต่ตอนแรกยัยนั่นเปิดหน้าไหนทิ้งไว้เนี่ย?’

    อะจึ๋ย! ยัยนั้นจะไปแล้ว! งั้นกดเปิดมั่วๆ มันโลด!

    เสียงบ่นพึมพำพร้อมการกระทำของไฮซากิเผยออกมาอย่างชัดเจนตลอดที่ภาพที่ชิโกะเสกออกมานั้นทำงานอยู่และสุดท้ายภาพก็ถูกตัดไปเมื่อไฮซากิแอบคืนแท็บเล็ตให้เมื่อชิโกะเผลอ

    ดูแล้ว...ไฮซากิก็ไม่รู้สินะว่าแค่พิมพ์มันก็มีผล?” คาซามัตสึถอนหายใจออกมาเบาๆ

    แต่ความคิดที่โยนความผิดให้อเล็กซ์นี่น่าถีบชะมัดคางามิทำหน้างอ

    นิสัยไม่ดีเหมือนเคยฮิมุโระทำหน้ามุ่ย

    ไม่เป็นลูกผู้ชายเลยอเล็กซ์หักไม้หักมือเหมือนอยากชกคน

    โชโงะคุงเนี่ยจริงๆ เลยคิเสะเอ่ย

    เออ...ฉันว่าก่อนว่าไฮซากิน่ะเรามาสวดส่งกันก่อนดีไหม?” ฟุริฮาตะชี้ไปยังหญิงสาวเพราะดูท่าชิโกะจะโกรธแล้วล่ะ

    หื้อ?” ทุกคนหันไปมองเด็กหนุ่มผมน้ำตาลอย่างงงๆ ก่อนที่จะเลื่อนสายตาไปยังคนที่เจ้าตัวเอ่ยถึง...แล้วถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อได้เห็นสีหน้าราวฆาตกรโรคจิตเข้าสิงกับได้รับรังสีอาฆาตรุนแรงกว่าก่อนหน้านี่สามเท่า!!!ช...ชิโกะ! เป็นไรปายยยยย!?”

    อื้อ? พูดว่าอะไรนะ?” หญิงสาวที่กำลังกระตุกยิ้มเหี้ยมชวนหลอนจิตที่สุดถาม

    เออ...เด็กหนุ่มทั้งหลายเริ่มออกอาการพูดไม่ออกเนื่องจากอีกฝ่ายในยามนี่ดูน่ากลัวยิ่งกว่าผีสาวปากฉีกฟิวชั่นกับฮานาโกะซังเสียอีก

    ถ้าไม่มีอะไรเราขอจัดการคิดบัญชีกับไฮซากิก่อนนะชิโกะเอ่ยพร้อมเริ่มกดพิมพ์บทให้คนผมเทาที่ดูน่าจะถึงฆาตในไม่ช้านี่หึๆ กล้าดีมากที่แอบว่าเราเตี๊ย...ปากแบบนี้ต้องจัดให้หนักๆ เอาให้ร้องครวญคราญไปเลย อิๆๆๆๆๆๆๆ

    “...นี่เธอโกรธตรงจุดนี้เหรอ!?” เด็กหนุ่มทั้งหลายทำหน้าราวกับจะเป็นลม

    ใช่สิย่ะ! มีปัญหาไหม!?” ชิโกะหันไปค้อนแต่ล่ะหน่อที่ถามออกมาขัดจังหวะการแก้แค้น (?) ของตน

    ม...ไม่มีจ้าทุกคนทำเสียงแผ่วและรีบหาทางกระดึบหนีออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วกันทั้งหมู่ ปล่อยให้หญิงสาวจัดการอาฆาตชาวบ้านต่อไปคนเดียว

    น...นี่คิดว่าโชโงะคุงจะรอดไหมเนี่ย?” พอออกมาจากพื้นที่ชวนสยองและดึงสติกลับเข้าร่างได้เด็กหนุ่มผมเหลืองก็ถามทันที

    เอาตามความคิดฉัน...ไม่วะอาโอมิเนะไม่คิดว่าคนที่กล้าลองดีกว่าสาวเจ้าแกจะรอดได้ง่ายๆ หรอก

    งั้นเตรียมสวดให้ตามที่ฟุริบอกเป็นดีสุดคางามิถอนหายใจออกมาเบาๆ

    ว่าแต่...ไหงชิโกะถึงเดือดเรื่องคำว่า...อเล็กซ์ทำท่าจะเอ่ยถามแต่ถูกฮิมุโระปิดปากไว้เสียก่อน

    อย่าพูดเลยอเล็กซ์ เดี๋ยวชิโกะมาได้ยินก็โดนอีกคนหรอกฮิมุโระเดาได้เลยว่าผู้ใดพูดคำต้องห้าม (?) นั่นออกมาล่ะก็...ได้นั้นจัดการหมดทุกคนแน่!

    แลัวแทนที่จะห่วงไฮซากิคุง ผมว่าเราไปหาอะไรกินระหว่ารอชิโกะเขาจัดกานเรื่องนี่เสร็จเถอะครับคุโรโกะเอ่ยหน้าตาย

    เออ...คุโรโกะคุง...ฉันว่าห่วงว่ารายนั้นจะถูกฆ่าสักนิดก็ดีนะมิบุจิยิ้มแห้งๆ

    ไม่หรอกครับ แค่ฆ่าไม่สาแก่ใจชิโกะหรอกครับ...คุโรโกะส่ายหน้าไปมา “...อย่างชิโกะน่ะ...ต้องทำให้ไฮซากิคุงถูกใครสักคนกดสามวันสามคืนหรือไม่ก็ถูกรุมโทรมมากกว่าครับ เพราะแบบนั้นนอกจากทำให้เจ้าตัวสะใจแล้วยังฟินต่ออีกครับ”  

    จะว่าไปก็จริงเด็กหนุ่มทั้งหลายไม่เถียงว่าสาวเจ้านิสัยแบบนั้นจริงๆ

    งั้นแบบนั้นก็ไม่ต้องห่วงแล้วล่ะ...อาคาชิเอ่ย “...งั้นไป...ไปหาอะไรกินกัน เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง

    เฮ้! งั้นไปกินซูชิกัน!!!เด็กหนุ่มทั้งหลายเอ่ยอย่างร่าเริงก่อนจะพากันไปหาร้านชูชิใกล้ๆ โดยไม่คิดสนใจผู้โชคร้าย (?) อีกเลย




     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

    เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเบาๆ ทำให้เด็กหนุ่มที่มีผมเป็นเส้นๆ หลอดๆ เต็มหัวเหมือนหนอนมาทำรัง (?) สีดำปนเทาหันไปมองที่ประตูห้องของตนที่ไม่ยักเคยเห็นมีใครมาเคาะสักทีอย่างแปลกใจก่อนจะลุกไปเปิดประตูตามมารยาท

    ครับ ใครค...เด็กหนุ่มเปิดประตูออกแล้วปิดประตูใส่หน้าคนที่มาหาทันที เมื่อรู้ว่าใครมา

    เฮ้~ เดี๋ยวนี้กล้าจังนะ ที่มาปิดประตูใส่หน้าฉันเนี่ย~~~ ไฮซากิ~~~” เสียงที่ลากยาวจนน่าสยองดังขึ้นพร้อมกับประตูถูกดึงให้เปิดออกอย่างแรงเสียจนเด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของห้องที่กำลังพยายามปิดล็อกประตูถูกดึงออกไปด้วย

    น...นิจิมุระซัง...มาไงอ่ะ? ถ...แถมไอ้ด้านหลังนั้นอีกไฮซากิยิ้มแห้งๆ พลางเหงื่อแตกพลั่กๆ ยิ่งกว่าเมื่อเมื่อสายตานั้นดันสังเกตเห็นว่าด้านหลังมีชายรูปร่างใหญ่อีกหลายคน...และจะดูไม่น่าแปลกเลยถ้าไม่ติดว่า...

    ...เฮียแกดันพาพวกทีม jabberwock (จากในภาค Extra Game) มาทั้งหมู่เลยเนี่ย!

    โดนอัญเชิญมา...นิจิมุระแสยะยิ้มพร้อมจับไฮซากิแบกขึ้นบ่า “...เพื่อกดแกวะ...ทั้งหมดนี่เลย

    เฮ้ย! โดนรุมขนาดนี้ก็ตายดิ!ไฮซากิดิ้นพล่านๆ

    ไม่ตายหรอกน่าคนหัวทอง (ชื่ออะไรไม่รู้...ลืม // s , ฉันชื่อแนชเฟ้ย! ยัยคนเขียน! พอหลุดบทตัวเองก็มาป่วนเชียว! // แนช , เป็นธรรมดาน่อ! หรืออยากให้ป่วนนายด้วย? พ่อหัวทองเปลว? // s , ไม่ต้องเว้ย! กลับเข้าบทต่อเลยเถอะ! // แนช , จ้าาาา // s) ที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา

    ตาย...ตายชัวท์!!!ไฮซากิโวยลั่น

    ไม่หรอก อย่างน้อยยัยคนเขียนต...ตัวเล็กนั้นก็ไม่ให้นายตายง่ายๆ แน่นายยักษ์ตัวเกรียม (ฉันชื่อเจสันเฟ้ย! นี่ยังไม่วายแกล้งกันเนอะ! // เจสัน , ไม่ได้แกล้ง แต่เราจำชื่อพวกนายไม่ได้จริงๆ ต่างหาก // s) ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

    ฝีมือยัยชิโกะเหรอ!?” ไฮซากิทำหน้าเหมือนคนใกล้ตาย

    ถูก...แถมฝากบอกมาว่าสำหรับนิจิมุระเนี่ยเป็นการลงโทษเรื่องแอบจิ๊กแท็บเล็ตเราไปเล่น ส่วนไอ้พวกน่าฆ่าหมกท่อเนี่ยเป็นบทลงโทษที่มาว่าเรื่องความสูงเรา!น่ะนิจิมุระอธิบาย

    นี่แค้นเรื่องนั้นมากกว่าเหรอฟะ!? ถ้าไม่อยากให้ว่าก็ไปกินนมเยอะๆ ให้สูงเด้!ไฮซากิแว๊ดลั่น

    “...ดูท่าพวกเราจะโดนเกลียดขี้หน้าเหมือนกันแฮะเจสันทำหน้าปุเลี่ยนๆ

    งั้นเราพอโดนเชิญมาเนี่ยทำตัวดีๆ หน่อยดีกว่า...ดูท่าถ้าเกิดยัยนั้นคิดอยากแกล้งพวกเราขึ้นมาคงปวดจิตจนอยากโดดน้ำตายแหง...แนชเอ่ย “...เพราะงั้น...มากดหมอนี่ให้จมเตียงตามที่ชิโกะบอกดีกว่า

    อย่านะเว้ย!!!ไฮซากิร้องลั่น

    ไม่สน! ฉันกลัวยัยคนเขียนแกล้งมากกว่านายวะ!!!เด็กหนุ่มทั้งหลายเอ่ย ขณะที่นิจิมุระโยนไฮซากิลงบนเตียง

    อย่าบ่นเลยไฮซากิ...ถือว่าทำตัวเองแล้วกัน...นิจิมุระหยิบขวดเล็กๆ ที่มีน้ำยาสีฟ้าๆ ด้านในออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “...และดื่มนี่ซะ...ยัยชิโกะสั่งมาน่ะ

    ไม่...อุ๊บ!ไฮซากิที่กำลังจะปฏิเสธไม่ลืมไอ้น้ำยาสีประหลาดนั้นก็ถูกนิจิมุระยัดยาเข้าปากทันทีแค่กๆ ทำบ้าอะไรเนี่ย!?”

    ก็นายถ้าให้ดื่มเองดีๆ ดูท่าจะไม่ยอมนินิจิมุระยักไหล่ในขณะนั้นเองก็มีควันปรากฏขึ้นรอบตัวไฮซากิ และเมื่อควันจางจน...นิจิมุระก็พบว่าตรงหน้าตนกลายเป็นเด็กหนุ่มผมเทาที่ไว้ผมทรงรังนกแทนอา...ยาลดอายุสินะเนี่ย?”

    ไม่ต้องมาสินะเนี่ยเลย! ปล่อยผมนะนิจิมุระซัง!!!ไฮซากิเริ่มอยากร้องไห้แล้วสิงานนี้

    ไม่ ไม่อยากโดนชิโกะแกล้ง แถมฉันอยากกดนายด้วยนิจิมุระยิ้มเหี้ยมพร้อมดึงเสื้อออกจากตัวคนผมเทาอย่างรวดเร็ว

    ก...กรี้ดดดดดด!!! (?) จะทำอะรายยยยยย!?!” ไฮซากิพยายามถีบตัวนิจิมุระออก

    กดนายนิจิมุระตอบสั้นๆ พร้อมเอาเสื้อของไฮซากิมามัดมือคนผมเทาไว้

    “...ดูท่าเราจะได้ลาบลอยกันนะแนชหัวเราะออกมาเบาๆ

    คงงั้น...แต่คนที่เอาความบริสุทธิของไฮซากิคนแรกต้องฉันนะเว้ย! ถ้าจำไม่ผิดหมอนี่ตอนม.ต้นยังซิ่งอยู่นิจิมุระเอ่ย

    ก็ได้แนชพยักหน้ารับด้วยคสามขี้เกียจเถียง

    พูดอะไรอายปากกันบ้างเถอะ~~~~” ไฮซากิร้องโหยหวนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเสียงเครือครางตลอดวันตลอดคืน















     

    End

     

     

    Cr. วาดเอง พอดีไม่รู้จะเอารูปอะไรเลยเอาอันนี้มาลง

     

     

    ตอบเม้นตอนที่ 152
     

    seisho ซัง = ใช่จ้า! ทั้งอึดทั้งถึกเลยล่ะ! #หลบรองเท้าบิน

    Phatonepiece ซัง = วิธีส่งกลับก็อย่างที่เห็นอ่ะนะ ส่วนเรื่องแกล้งคน...เราย่อมแกล้งอยู่แล้วจ้า!

    pinwaris ซัง = ทาคาโอะทำตัวเองนะที่ซวยน่ะ (เธอแกล้งฉันมากกว่า!!! // ทาคาโอะ

    กุหลาบสีดำ นิรนามทมิฬ ซัง = คำตอบคือนายหัวหนอนของเราจ้า หุๆ (ไม่ต้องมาหุๆ เลยยัยบ้า! // ไฮซากิ)

    YU NAMI ซัง = เราก็อยากเห็นนะ... (ไม่ต้องมาพูดเลย! ต่อให้ตายยังไงฉันจะไม่มีวันรับไอ้บ้านั้นมาเป็ยน้องเขยเด็ดขาด! ต่อให้มันหลบยังไงฉันก็จะตามไปขวางทุกที่ทุกเวลาเลย!!! // มิยาจิ )

     
    จบการตอบเม้น

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×