คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #174 : [All] HNY 2017
Title : HNY 2017
Fandom : Kuroko no Basket
Paring : All
Notes : สุขสันต์วันปีใหม่ล่วงหน้าจ้า!!!
.....................................................................................
HNY 2017
“เฮ้อ~~ แป๊บๆ ก็ปีใหม่แล้วเนอะ~~~” เสียงลากยาวๆ ดังออกจากปากเด็กหนุ่มผมสีเหลืองสดใส
“นั้นสินะ~” คนผิวคล้ำผมน้ำเงินขานรับ
“แล้วปีนี้จะโดนแกล้งอีกไหมน่อ~~~” เด็กหนุ่มผมน้ำตาลสูงสองเมตรกว่าเอาคางวางพาดบนเรือนผมสีทองหม่นของคนที่อยู่ด้านหน้าตนพลางเอ่ยถามเช่นนี้ออกมา และ...
“ไม่เหลือ!!!” ...นี่คือคำตอบที่ได้รับกลับมาจากเหล่าเด็กหนุ่มทั้งหลายในกลุ่ม...หรือก็คือจากคิเสะ อาโอมิเนะ คุโรโกะ คางามิ ฟุริฮาตะ ฟุคุอิ ฮิมุโระ มุราซากิบาระ มิบุจิ มายุสุมิและอาคาชิที่บังเอิญมาปะเจอกันที่นี่พอดีนั้นเอง
“ตอบพร้อมเพรียงจังเลยน่อ” หลิว เหว่ยหัวเราะออกมาเบาๆ กับเสียงตอบรับที่ได้
“นั้นสิๆ ว่าแบบนี้น่าแกล้งจริงๆ ...” หญิงสาวคนหนึ่งที่...โผล่มากลางวงเมื่อไหร่ไม่รู้พยักหน้ารับ
“เฮ้ย!?” เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยงแล้วหันไปยังต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียง “มาอยู่นี่ได้ไง!? ยัยชิโกะ!!!”
...พูดถึงก็มาเป็นตัวเป็นตนเลยวุ้ย!!!...
“มุดหน้าจอมือถือมาเอาคราวนี้” หญิงสาวหรือชิโกะ อาคากิผู้แต่งฟิคยิ้มร่า
“แล้วมาทำไมมิทราบ!?” เด็กหนุ่มผมเงินถามด้วยท่าทีไม่ไว้ใจ...ก็รายนี้มาทีไรต้องมีสักคนซวยตลอดนี่หว่า!
“แหมๆ อย่าดุกันสิตัวเธอ...เดี๋ยวแม่ให้มิบุจิจับกดเสียหรอก” ชิโกะเอ่ยพร้อมหยิบแท็บเล็ดออกมาเตรียมพิมพ์
“อย่าเชียวนะเว้ย!!!” มายุสุมิรีบห้ามก่อนที่จะไม่แคล้วนอนปวดเอวในวันถัดไป
“ความคิดดีนี่ชิโกะ” มิบุจิที่ดูจะชอบใจกับความคิดนี่ยิ้มหวาน...หวานเสียจนคนผมเงินขนลุกเลย!
“อย่าแกล้งมายุสุมิซังสิชิโกะ...” ชิวาว่าน้อยผมน้ำตาล (?) เอ่ยติดดุเล็กน้อย...ซึ่งแน่นอนว่าหาความน่ากลัวไม่เจอสักนิด “...แล้วคราวนี้มุดเข้ามาทำอะไรล่ะ? ฉันมั่นใจว่าเธอคงไม่ได้เข้ามาป่วนเล่นๆ แน่”
...เพราะปกติรายนี้ชอบดูคนอื่นซวย (?) เสียมากกว่า...
“ไม่มีอะไรมากหรอกจ้า แค่...”
“แค่?” เหล่าเด็กหนุ่มทวนคำเมื่อครู่
“แค่...เราจะจัดโปรเจค All Furi ขึ้นอีกครั้งจ้า!” ชิโกะยิ้มร่าราวกับประกาศว่าใครถูกหวยอย่างไรอย่างนั้น
“อ๋อ~~” เด็กหนุ่มทั้งหลายขานรับ เว้นแต่...
“เอาอีกแล้วเหรอ!?” ...นายฟุริฮาตะ โคกิผู้ที่จะต้องรับบทหนักเจ้าเก่ารายเดิมนั้นเอง
...นี่กะจะจิ้นฉันให้ครบทุกคนเลยใช่ไหมเนี่ย!?...
“จ้า! แถมคราวนี้พิเศษกว่าครั้งอีกด้วยนะ!” ชิโกะเมินคำบ่นของคนผมน้ำตาลไป
“พิเศษกว่า? หมายความว่าไงครับ?” คนจืดจางผมฟ้าถาม
“คือว่าเรากะจะแบ่งโปรเจคคราวนี้เป็นสองโปรเจคไปเลยน่ะ” ชิโกะเอ่ย
“สองโปรเจค?” เหล่าเด็กหนุ่มทวนอย่างไม่เข้าใจ
“อื้อ พอดีคู่ที่เรากะจะเขียนน่ะมันเยอะเกิน เราเลยแบ่งครึ่งหนึ่งมาเป็นโปรเจค All Furi ครั้งที่ 3 ซึ่งจะลงในปีนี้กับ ครั้งที่ 4 ในปีหน้าน่ะ” ชิโกะอธิบาย
“...เออ ไม่เข้าใจอยู่ดี อธิบายเพิ่มได้เปล่าอ่ะ?” คนผมสีเพลิงถาม
“เอาง่ายๆ นะ...ปกติกี่โปรเจคๆ ก็จะเอาคู่เดิมมาร่วมโหวตด้วยใช่ไหม?” ชิโกะถามกลับ
“อื้อ” คางามิพยักหน้ารับ
“แต่คราวนี้เป็นแบบใครอยู่ในโปรเจครอบนี้ก็จะไม่มีชื่อในรอบหน้าน่ะ...ถ้ายังนึกไม่ออกอีกก็ให้นึกถึงตอนแข่งวินเทอร์คัพที่เพิ่งผ่านมานี่แบบไม่มีรอบชิงแชป์มแล้วกัน คิดซะว่าโปรเจคในปีนี้คือสาย A ส่วนปีหน้าคือสาย B เอา เราขี้เกียจอธิบายแล้ว” ชิโกะอธิบายไปแบบลวกๆ
“อื้อ ก็ได้” คางามิพยายามจินตนาการตามแบบที่หญิงสาวบอก...ซึ่งมันพอทำให้เจ้าตัวเข้าใจแค่คราวๆ เท่านั้นเอง
“แล้วในปีนี้มีคู่ไหนบ้างล่ะครับ?” คโรโกะมองสีหน้าคู่หูตนที่แสดงความงุนงงเล็กน้อยก่อนที่จะหันมาพูดกับหญิงสาวแทน
“ผลจากการจับฉลากสายได้แบบนี้จ้า” ชิโกะยื่นแท็บเล็ดให้คนผมฟ้า
“ไหนๆ” ทันทีที่คุโรโกะรับแท็บเล็ดมาเหล่าเด็กหนุ่มก็มามุงดูทันที โดยที่ข้อมูลภายในนั้นแสดงรายชื่อทั้งคนที่ต้องแสดงปีนี้และปีหน้าเอาไว้
‘ปีนี้ - Akafuri ปีหน้า - KagaFuri
KuroFuri MayuFuri
MibuFuri TsukiFuri
HayaFuri MidoFuri
TakaFuri KiFuri
MiyaFuri MoriFuri
KasaFuri MuraFuri
HimuFuri FukuFuri
AoFuri LiuFuri
ImaFuri NijiFuri
HanaFuri HaiFuri’
“11 คู่...เยอะอยู่นะครับ” คุโรโกะเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมแบ่งครึ่ง เพราะถ้าเกิดใส่มาทั้งหมดไม่คนเขียน เขียนจนหมดมุขก็คงกินเวลาทั้งปีแน่
“ว่าแต่ไหงฉันได้ปีหน้าอ่ะ!?” คางามิทำหน้างอ
“อ่ะๆ มีอั๊วกับฟุคุอิด้วย!” หลิวเอ่ยอย่างลันล้า
“เธอจิ้นอีท่าไหนเนี่ย?” ฟุริฮาตะคุมขมับ...ทำไมนับปีคู่จิ้นเขาถึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนดอกเห็ดเนี่ย?!
“ท่านอนมั้ง?” ชิโกะยักคิ้วอย่างกวนๆ “เอาล่ะ เรามาแจ้งแค่นี้เราไป...”
“ทุกคน~~~” ระหว่างที่ชิโกะกำลังจะหนีกลับนั้นเอง...เด็กสาวผมชมพูคนหนึ่งก็วิ่งมาหาเสียก่อน “ฉันทำโมจิปีใหม่มาให้แหน่ะ~~~ ลองชิมหน่อยไหม~~~”
“ไม่ล่ะ!” เด็กหนุ้มทั้งหลายรีบปฏิเสธทันควันกับสะสารสีดำสนิกในมือสาวเจ้า
“ไหงงั้นอ่ะ!” โมโมอิทำแก้มป่อง ดวงตาสีชมพูใสเริ่มกวาดมองหาเป้าหมายใหม่ “อ่ะ! ชิโกะ! มาเมื่อไหร่เนี่ย? แต่ช่างเถอะๆ มาลองกินนี่หน่อยสิ~~~”
“เออ...เรา...” ชิโกะเหงื่อตกนิดๆ พลางคิดว่า...ระหว่างทางปฏิเสธหรือเผ่นเลยอันไหนดีกว่ากัน
“ว้าย!!!” แต่ในขณะที่คิดอยู่นั้น...โมโมอิก็ดันสะดุดขาตัวเองล้มซะงั้น
“เฮ้ย! อุบ! อึก!” ไอ้ของในมือโมโมอิเมื่อครู่ก็ดันกระเด็นเข้าปากชิโกะอีกต่างหาก ส่วนผลที่ได้คือ...
โครม!
...หญิงสาวน็อกกลางอากาศไปในทันที
“เฮ้ย!!! ชิโกะ!!!” คางามิหลุดอุทานออกมาเสียงดังลั่น
“ตายๆๆ ตายแน่” ฟุริฮาตะเหงื่อแตกซิกๆ
“ใครเอาน้ำมากรอกปากยัยนี่ที!” อาโอมิเนะมองซ้ายมองขวาหาน้ำกะจะมากรอดปากรายนี่จริงๆ
“ถ้ากรอดจริงได้สำลักตายแหง!” มิบุจิแว๊กกลับ
“ชิโกจจิจะเป็นไรไหมเนี่ย?” คิเสะเบ้หน้า
“ไม่มั้ง ยัยนี่บ้าจะตาย โดยแค่นี้คงไม่ตายล่ะมั้ง?” มายุสุมิตอบอย่างไม่มั่นใจนัก
“ก็ไม่แน่นะเว้ย!!!” ฟุคุอิเถียงกลับ
“อื้อ...” ขณะที่ความวุ่นวายกำลังจะไปถึงขีดสุด เสียงครางเบาๆ ก็ดังขึ้นจากหญิงสาวของมรณะ (?) ลอยเข้าหา
“อ่ะ ฟื้นแล้ว!” ทุกสายตาหันมาจับจ้องที่หญิงสาวทันที
“ฟื้นเร็วดีนี้ครับ...” คุโรโกะถอนหายใจอย่างโล่งอก “...เป็นไงบ้างครับ? ชิโกะ?”
“เออ...” ชิโกะสะดุ้งเล็กน้อย สายตาดูลุกลี้ลุกรนจนทำให้เหล่าเด็กหนุ่มอมขมวดคิ้วมิได้ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นความตื่นตนกในเวลาต่อด้วยคำพูดที่หลุดออกมาจากปากหญิงสาว “...ชิโกะนี่ใครคะ? แล้วพวกคุณเป็นใครเหรอคะ?”
“ห๊า!?” อาโอมิเนะหลุดโวยวายออกมาเป็นคนแรก “นี่เธอถามว่าอะไรนะ!? ชิโกะ!!!”
“อ...อึก!” หญิงสาวสะดุ้งเฮือกก่อนรีบคลานไปหลบหลังสาวเจ้าผมชมพูอย่างรวดเร็ว “ค...คือชิโกะนี่ใครคะ? ฉันไม่ได้ชื่อนี่นะคะ ล...แล้วพวกคุณเป็นใครคะ?”
“...คุณจำพวกผมไม่ได้?” คุโรโกะถามอย่างอึ้งๆ
“ฉันไม่รู้จักพวกคุณนะคะ...” ชิโกะตอบย้ำอีกครั้งแบบชัดเจน
“...” เหล่าเด็กหนุ่มบวกหนึ่งเด็กสาวมองหน้ากันเองด้วยอาการ จุด จุด จุด
“เออ...ฉันว่าเราย้ายที่คุยกันดีกว่า” อาคาชิที่เริ่มดึงสติสตางค์ตนกลับเข้าร่างได้เอ่ย
“นั้นสิเนอะ...” อาโอมิเนะพยักหน้าเห็นด้วยและจะเดินเข้าหาชิโกะ...หากแต่ว่าสาวกลับรีบเผ่นไปหลบหลังต้นไม้ทันทีที่อาโอมิเนะขยับตัว “...เอ๊ะ?”
“...ดูท่าชิโกะจะกลัวไดจังนะ” โมโมอิยิ้มแห้งๆ
“...” คำพูดของโมโมอิเล่นทำเอานายอาโอมิเนะ ไดกิไปหลบอยู่มุมมืดเลยทีเดียวซึ่งก็ไม่มีใครคิดปลอบเพราะทุกคนหันไปมุ่งความสนใจไปที่หญิงสาวที่ตอนนี้ดูหวาดระแวงทุกคนอยู่...ทุกคนเลยต้องหาวิธีการพาตัวรายนี่ไปที่อื่นที่รายนี่จะไม่หนีหายไปเฉยๆ ได้ง่ายๆ ได้ก่อนและหลังจากพยายามหลอกล่ออยู่นาน ในที่สุดทุกคนก็สามารถพาตัวชิโกะมาในสถานที่หนึ่งได้...
...สถานที่ที่ว่าก็ไม่ใช่ที่ไหน...ห้องพักของคางามินั้นแหละ
“...สรุป...ยับนี่ความจำเสื่อมใช่ไหมเนี่ย?” คางามิถามขึ้นเป็นคนแรกเมื่อถึงห้องพลางนึกหญิงสาวที่ปกติบ้าๆ บอๆ ...ในตอนนี้กลัวดูกลัวพวกตนเลยจนน่าขนลุกเลย แถมยังกลัวพวกเขามากจนเขาต้องให้ชิโกะไปอยู่ในอีกห้องหนึ่งเพื่อไม่ให้รายนั้นประสาทกินไปก่อนโดยมีโมโมอิที่เป็นเสมือนตัวต้นเหตุคอยดูแลเอาไว้
“คงงั้นล่ะมั้ง” อาโอมิเนะถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยอาการหม่นหมองไม่หาย...ไม่คิดเลยว่าก็โดนเพื่อนตัวเองกลัวเนี่ยมันทำให้รู้สึกจิตตกได้ขนาดนี้!
“อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจเลย...ฉันว่าเราลองตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนดีกว่าไหมว่าชิโกะความจำเสื่อมจริงหรือเปล่า?” ฟุคุอิเอ่ยแย้ง
“จะตรวจสอบทำไมอ่ะฟุคุจิน~~ เห็นๆ อยู่ว่าชิโกะจินจำเราไม่ได้อ่ะ~~~ แง~~~” มุราซากิบาระร้องไห้งอแงราวเด็กอนุบาล
“โอ๋ๆ ใจเย็นสิอัตสึชิ” ฮิมุโระทำหน้าที่ปลอบตามปกติ...ที่จริงก็เข้าใจนะว่าซ็อก ขนาดเขายังอยากร้องไห้เลยกับท่าทีรายนั้นในตอนนี้ แต่ร้องไปก็ไม่ได้อะไรนี่หว่า สู้หาทางแก้ยังดีกว่าเสียอีก
“...เอาเป็นว่าเรามาลองดูตามที่ฟุคุอิบอกก่อนดีกว่าน่อ...ดีไม่ดีชิโกะอาจแค่กำลังเบลอๆ หรือแค่สายตาเพี้ยนเพราะของพิศวงก็ได้น่อ” หลิวเอ่ย
“อาจจะแฮะ” อาโอมิเนะเกาหัวตัวเองแกร๊กๆ
“แต่เราจะพิสูจน์ยังไงล่ะ? ยัยนั้นทำท่ากลัวเรายังกับจะไปกิบตับงั้นแหละ!” คางามิสบถอย่างหัวเสีย
“ง่ายๆ ให้โมโมอิไปตีสนิกหาข้อมูลสิ...เท่าที่สังเกตก่อนหน้านี่ ชิโกะคงจะไว้ใจผู้หญิงด้วยกันมากกว่าพวกเราน่ะนะ” อาคาชิเอ่ย
“งั้นรีบให้โมโมอิไปหาข้อมูลเลย!” มายุสุมิเอ่ยเร่ง...สำหรับเขาตอนนี้ยัยนั้นหลอนจะตายชัก! ถ้าแค่หายบ้าเฉยๆ คงไม่เท่าไหร่แต่ดันลืมพวกเขาด้วยนี่สิที่น่าปวดหัว!
“โอเค...” อาคาชิพยักหน้ารับพลางคว้ามือถือโทรหาสาวเจ้าผมชมพูแทนการเดินไปหาเนื่องจากคนที่อยู่กับรายนั้นตอนนี้กลัวพวกตนเลยเดินไปหาไม่ได้ คนผมแดงคุยกับปลายสายสักสองสามนาทีก่อนจะวางสายไปและ...ก็มีการโทรกลับมาภายในสิบนาทีต่อมา อาคาชิไม่รอช้ารีบรับสายนั้นเพื่อฟังข่าวจากโมโมอิ สักพักดวงหน้าหล่อเหลาแสดงถึงความตึงเครียดพลางเอ่ยอะไรเล็กน้อยจะกดตัดสายไปเมื่อฟังข่าวที่ได้รับจบ “...ทุกคน...ฉันมีข่าวมาบอกแล้วล่ะ”
“ว่าไง? ตกลงชิโกะความจำเสื่อมจริงเปล่า?” เด็กหนุมทั้งหลายถามด้วยความอยากรู้
“ผลที่ได้คือ...ความจริงชิโกะตอนนี้มีความจำถึงอายุ 14 เท่านั้น หรือก็คือตอนนั่นยัยนั้นยังไม่รู้จักพวกเรา...” อาคาชิถอนหายใจออกมาเบาๆ “...และเท่าที่รู้มาคือ...ยัยนั่นตอนนั้นเป็นพวกกลัวคนแปลกหน้า แถมโลกส่วนตัวสูงด้วยดังนั้นไม่แปลกที่ชิโกะจะกลัวพวกเรา”
“แสดงว่า...สมองย้อนกลับไปตอนที่ยังปกติดี (?) อยู่” ฟุคุอิถอนหายใจออกมาอีกคน
“ถูก...แต่ไม่คิดเลยว่าชิโกะตอนไม่บ้ามันทำให้รู้สึกหลอนได้ขนาดนี้” อาคาชิส่ายหน้าไปมา
“เห็นด้วยเลยวะ” อาโอมิเนะยอมรับเลยว่า...โคตรหลอน!
“แล้วจะเอายังไงให้ชิโกะเป็นเหมือนเดิมดีล่ะ?” ฮิมุโระทำหน้าเครียด
“ลองทำแบบการฟื้นความจำของผู้ป่วยความจำเสื่อมดีไหม?” มุราซากิบาระเสนอ
“ก็ดีเหมือนกัน...ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยล่ะ” คิเสะพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
“โอเค ตกลงตามนี้” ทุกคนเอ่ยสรุปดังนี้ โดยที่ในใจแอบคิดว่า...
...สาธุ...ขอให้ยัยนี่ความจำกลับคืนมาเร็วๆ เถอะ! แบบนี้มันสยองนะเฟ้ย!!!...
“เออ...พวกคุณจะพาฉันไปไหนเหรอคะ?” เสียงถามสั่นๆ ดังออกมาจากปากหญิงสาว
“สตรีทบาส” เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินตอบห้วนๆ พลางเหล่มองคนที่เคยกวนจนน่าถีบซึ่งบัดนี้กลับดูหลอนจนอยากเอาหัวโขกพื้นตายแทน...ถึงแม้ว่าตอนนี้จะหาทางทำให้รายนี่กลัวพวกตนน้อยลงได้แล้วแต่มันก็หลอน สยองเกินรับอยู่ดี และเพราะแบบนี้อาโอมิเนะที่โดนให้เป็นคนช่วยหาทางฟื้นความจำให้หญิงสาวคนแรกเลยเลือกที่จะพาชิโกะมาที่สตรีทบาสนี่ก็ไม่ใช่อะไรมากแค่เมื่อก่อนรายนี่เคยบอกว่า...
‘บาสเหรอ? ที่จริงเราไม่ชอบดูกีฬาหรอก แต่ดูพวกนายมันสนุกดีนะ 555’
...อาโอมิเนะเลยคิดว่ามันอาจกระตุ้นต่อมบ้า (?) ของรายนี่ขึ้นมาได้สักนิด
“ฉันเล่นกีฬาไม่เป็นนะคะ” ชิโกะเถียงกลับด้วยสีหน้าบ้องแบ๋วเสียจนหลายๆ คนรู้สึกรับไม่ได้ขึ้นมาตงิกๆ
“แค่นั่งดูเฉยๆ ก็ได้” อาโอมิเนะเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนที่จะจับชิโกะไปนั่งที่เก้าอี้ข้างสนามแล้วแต่ละคนที่ร่วมขบวนการฟื้นความบ้า (?) ให้ชิโกะมาร่วมเล่นบาสด้วยกันเผ่อทำให้สาวเจ้านึกอะไรออก แต่ว่าหลังจากเล่นกันจนจบแล้วนั้น...
“ว้าว สุดยอดเลยค่า!” ...ชิโกะดันตบมือตามประสาผู้ชมให้ซะงั้น
“ดูท่าแผนนี้ไม่ได้ผลนะ” คางามิมองหญิงสาวที่ดูมีมารยาทดีเกินกว่าที่คิดพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ ...ถ้าที่เขาถอนหายใจออกมาบ่อยๆ แล้วอายุสั้น เขาตอนนี้คงสั้นจนไม่รู้จะสั้นยังไงแล้วมั้ง
“งั้นไปแผนต่อไป” อาโอมิเนะทำการส่งไม้ต่อ (?) ให้คางามิเมื่อเห็นว่าแผนของตนนั้นไม่ได้ผล
“โอเค...” คางามิพยักหน้ารับแล้วหันไปหาชิโกะแทน “...ชิโกะ...ไปกินข้าวกัน”
“เออ...ฉันชื่อนิชนะคะ ไม่ใช่ชิโกะ” ชิโกะเอ่ยแก้ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจว่าตนชื่อนี่จริงๆ
“น่าๆ เอาเป็นว่าฉันอยากเรียกเธอแบบนี้แล้วกัน” คางามิกรอกตาไปมา...ไอ้ที่ว่าชิโกะมีชื่อจริงว่านิชน่ะเขาก็รู้อยู่หรอก แต่เรียกชิโกะๆ จนชิน จะให้เปลี่ยนวิธีเรียกมันก็แปลกๆ ล่ะ
“...งั้นตามแต่เถอะค่ะ” ชิโกะพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะโดนคางามิลากไป...และก็แป้วไม่ต่างจากอาโอมิเนะเลย ทำให้หลังจากนั้นตลอดวันเหล่าเด็กหนุ่มพยายามหาทางเรียกความจำของอีกฝ่ายกลับมาด้วยวิธีเท่าที่ตนจะคิดได้....
...ไม่ว่าจะเป็นการพามาสตรีทบาสของอาโอมิเนะ การพาไปกินข้าวที่ร้านที่ชิโกะชอบแว่บแอบมากินของคางามิ ร้านหนังสือโดยคุโรโกะ ร้านอนิเมะด้วยความคิดของมายุสุมิ การจีบกันต่อหน้าโดยอาคาชิและฟุริฮาตะ ร้านขนมเสนอโดยมุราซากิบาระ โรงเรียนไคโจวจากความคิดคิเสะ หนังสือวายที่ไม่รู้เอามาจากไหนโดยมิบุจิ ฟุคุอิพาเดินวนรอบสถานที่ที่ชิโกะชอบมาใช้คิดมุขในการเขียนฟิค หลิวลองเอานามาฮาเงะมาหลอกชิโกะเล่นจนโดนฟุคุอิเขกหัวแทน...
...แตจนแล้วจนรอด...สุดท้ายความจำของชิโกะก็ยังไม่คืนมาอยู่ดี
“เฮ้อ...” เหล่าเด็กหนุ่มที่ลากหญิงสาวไปมาเป็นเวลาจากยามเช้ามาจนตอนนี้ที่ท้องฟ้าเป็นสีแดงเสียแล้วพากันถอนหายใจออกมาอย่างพร้อมเพรียง
“เหนื่อยเหรอคะ? ให้ฉันไปซื้อน้ำให้ไหมคะ?” หญิงสาวที่เป็นดังตัวต้นเหตุให้ชาวบ้านกลุ้มใจเล่นเอียงคอน้อยๆ พลางเอ่ยถาม
“ก็ดี” เหล่าเด็กหนุ่มขานรับส่งๆ ไป ทางหญิงสาวก็พยักหน้ารับแล้วเดินแยกออกจากกลุ่ม ดวงตาหลายสีจับจ้องมองคนที่เดินห่างออกไปพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ “เฮ้อ~~~”
“ไม่มีท่าทีจะจำได้สักนิด” คิเสะเอนศรีษะไปพิงไหล่อาโอมิเนะอย่างเหนื่อยอ่อน
“ถึงชิโกะแบบนี้จะดูเป็นผู้เป็นคนดี แต่ฉันชอบแบบเดิมมากกว่าแฮะ” ฟุคุอิรู้สึกว่าตอนนี้ไมเกรนขึ้นยิ่งกว่าตอนโดนแกล้งอีก
“นั้นสิน่อ~ อาชิโกะไม่กวนแล้วเป็นคนสุภาพเรียบร้อยแบบนี่สยองน่อ” หลิวพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“แล้ว...เอาไงต่อดี” มายุสุมิเหล่มองคนผมแดง
“ม...” อาคาชิส่ายหน้าไปมาและกำลังจะบอกว่าตนไม่รู้อย่างจำยอมหากแต่ว่า...
“เฮ้ย! ระวัง!!!” ...ดันมีเสียงอันดังของใครสักคนดังขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปยังมองทางที่คิดว่าเป็นจุดที่เสียงดังมา...และเห็นขวดใบน้อยขวดหนึ่งลอยมาแล้วไปกระแทกหน้าชิโกะเต็มๆ
“เฮ้ย! ชิโกะ!!!” ว่าแต่เด็กหนุ่มทั้งหลายก็วิ่งไปหาหญิงสาวที่สลบไปแล้วทันที
“นี่! มีใครเป็นอะไรหรือเปล่า!?” เด็กหนุ่มผมเทาคนหนึ่งมาตามขวดมรณะ (?) มาหาเหล่าเด็ก
“โชโงะคุง...” คิเสะหันไปมองผู้มาใหม่ “...โยนขวดกระแทกหน้าชิโกจจิทำไมอ่ะ?”
“ฉันเปล่า! นู้นต่างหาก!” ไฮซากิ โชโงะผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นตนเหตุชี้ไปยังจุดที่ตนวิ่งตามขวดมา...ซึ่งมีชายหนุ่มผมดำกำลังไล่ตื้บคนผมน้ำตาลอยู่
“อ๋อ พี่นายกับพี่เขยนายทะเลาะกันอีกแล้วว่างั้น?” อาโอมิเนะมองการทะเลาะกันของคู่สามีภรรยา (?) ที่อยู่ห่างออกไปอย่างสนใจ
“เออ!” ไฮซากิขานรับห้วนๆ
“มันใช่เวลาทะเลาะกันไหมครับ?” คุโรโกะค้อนใส่ผู้ที่ดูจะหลงประเด็นในตอนนี้ไปเล็กน้อย แต่ก่อนที่คุโรโกะจะได้บ่นอะไรก็...
“อื้อ...” ...ถูกเสียงครางเบาๆ จากคนที่โดนขวดอัดหน้าจนถึงขั้นสลบดึงความสนใจ ดวงตาสีฟ้าใสเบนกลับมามองยังหญิงสาว เช่นเดียวกับดวงตาคู่อื่นๆ
“ชิโกะ...ไม่เป็นอะไรนะครับ?” คุโรโกะถามด้วยความกังวลนิดๆ ...หวังว่าสมองคงไม่ย้อนกลับไปกว่าเดิมนะ?
“หื้อ? คุโรโกะ...นี่เราเป็นอะไรไปอ่ะ?” หญิงสาวสะบับหัวอย่างมึนๆ พลางยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง
“เอ๊ะ?” เด็กหนุ่มทั้งหลายถึงกับหลุดร้องออกเมื่ออีกฝ่ายยามนี่...ดูต่างเมื่อไม่กี่นาทีก่อนลิบลับเลย...
...เดี๋ยวนะ...ใช้คำว่าเราแทนฉัน แสดงว่า...
“ชิโกะ!!!”
“โอ๊ย! ตะโกนอะไรเนี่ย? กลัวเราลืมชื่อตัวเองหรือไง?” หญิงสาวแว๊ดกลับเมื่อถูกเหล่าเด็กหนุ่มตะโกนจนหูแทบดับ
“...” ...เล่นมุขแบบนี้ได้...แสดงว่าความจำกลับมาแล้วจริงๆ น่ะสิ!!! “เย้!”
“หว่า! เป็นอะไรกันไปเนี่ย!?” ชิโกะสะดุ้งโหยง
“ไม่มีอะไร! แต่เราไปเลี้ยงฉลองกันเถอะ!” อาโอมิเนะยิ้มร่า...ในที่สุดก็ไม่ต้องทนเห็นยัยนี่กลัวกูแล้วเว้ย! และไม่ต้องทนฟังคำน่าขนลุกแล้วเว้ยเฮ้ย! เย้!
“นั้นสิ! จัดไป...และห้องนายเหมือนเดิมนะคางามิ!” ฟุริฮาตะยิ้มร่าอีกคนด้วยความโล่งอกที่คนคุ้นเคยคนนี้กลับมาจำพวกตนได้แล้ว
“ร้แล้วน่า!” คางามิหัวเราะร่า
“ไปๆ โชโงะคุง! ไปฉลองกันเถอะ!” คิเสะดึงแขนไฮซากิหมายลากไปเลี้ยงฉลองกับพวกตน
“ด...เดี๋ยวเซ่!” ไฮซากิที่ไม่รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโวยลั่น
“นี่! อธิบายเราก่อน! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกานนนนนนน!?” ชิโกะเองก็โวยไม่ต่างกันขณะที่เริ่มโดนอาคาชิลากไปด้วย แต่...อนิจา ไม่มีใครคิดจะอธิบายให้หญิงสาวและเด็กหนุ่มผมเทาฟังเลยแม้แต่น้อย...
...และแน่นอนว่า...คนที่อยู่เหตุการณ์ในครั้งนี้ทั้งหมดต่างไม่มีใครคิดรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นครั้งที่สองให้สยองเล่นแน่นอน
End
ความคิดเห็น