ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #19 : [HayaMiya] Love Kid!!! (2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.07K
      76
      2 ส.ค. 57

    Title : Love Kid!!! (2)

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Hayama x Miyaji

    Notes : คู่นี้หาอ่านยากจริงๆ เนอะ?

    http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1144887&chapter=18

    http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1144887&chapter=32

    http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1144887&chapter=40

    http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1144887&chapter=41

     


     

    ................................................................

    Love Kid!!! (2)

     

    ฮายามะ โคทาโร่เดินเข้าหอพักตนเอง ไม่สิ สำหรับคนทั่วไปมันคือคอนโดหรูดีๆ นี่เอง โดยไม่สนใจคนในหอตนเองมองมาที่ตนด้วยสายตาแปลกใจอยู่...

    ...ก็เล่นหิ้วเด็กที่ดิ้นพล่านๆ มาด้วยนี่หว่า!...

    "ก็บอกว่าให้ปล่อยไงเล่า! ผมเดินเองได้น่า!" เด็กน้อยผมสีน้ำผึ้งโวยลั่นเมื่อถูกอุ้มเท้าไม่แตะพื้นอย่างนี้ นึกแล้วก็โมโหตัวเองที่ยอมให้อีกฝ่ายหิ้วมาง่ายๆ...

    ...ทั้งที่ปกติเขาจะไม่ตามคนแปลกหน้าไปง่ายๆ แต่สำหรับรายนี้ทำไมเขารู้สึกคุ้นเคยนักนะ? ไม่เข้าในตัวเองจริงๆ

    "เดี๋ยวมิยาจิซังก็หลงสิ..." ฮายามะตอบกลับไปอย่างนั้นก่อนที่จะเดินเข้าลิฟท์ไป...ทั้งที่จริงที่อุ้มก็แค่หาโอกาสกอดอีกฝ่ายแค่นั้นแหละ

    "แค่นี้ใครจะหลงกัน!" มิยาจิขู่ฟ่อคล้ายแมวตัวน้อย

    "มิยาจินั้นแหละคร้าบบ" ว่าแล้วฮายามะก็โดนมิยาจิดึงแก้มซะยืด ข้อหามาว่าเขา! "เจ็บนะคร้าบบบบ"

    และแล้วลิฟท์ก็ส่งเสียงตื๊ด บ่งบอกว่าถึงชั้นที่ตนพักแล้ว...

    เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกฮายามะก็เดินฉับๆ มายังประตูบานเดียวที่ติดเด่นหลาอยู่ในชั้นนี้ และไขกุญแจและกดรหัสเปิดประตู พอปลงล็อกแล้วก็เข้าห้องตัวเองทันที ส่วนมิยาจิก็หยุดดิ้นเปลี่ยนเป็นอ้าปากค้างแทนเมื่อเข้ามาในห้องของฮายามะ...

    ...ห้องจะใหญ่ไปไหนฟะ!!!...

    มิยาจิมองห้องของอีกฝ่ายที่ใหญ่กว่าบ้านเขาเสีย!!! ถึงว่าทำไมทั้งชั้นมีประตูบานเดียวนี้มันกินพื้นที่ทั้งชั้นเลยนี่หว่า!!! แถมของในห้องมีครบทุกอย่าง แต่ล่ะอย่างก็หรูหราทั้งนั้น...จะฟุ่มเฟือยไปแล้ว!!!

    "นี่ๆ มิยาจิซัง..."

    เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตน เด็กน้อยก็เงยหน้าขึ้นมองคนอายุมากกว่าแต่สมองท่าจะน้อยกว่าเขาที่ตอนนี้ก็ยังไม่ปล่อยเขาลงเลย! คิดว่าเขาจะหลงในห้องๆ เดียวหรือไง?! (ที่จริงก็น่าหลงนะ เล่นใหญ่ซะขนาด...)

    "มีอะไร?" มิยาจิถาม

    "...ผมลืมหาเสื้อผ้าให้มิยาจิซังน่ะคร้าบบบ ไว้พรุ่งนี้ค่อยหาให้นะคร้าบบบ" ฮายามะพูดพร้อมวางมิยาจิลงพื้น ก่อนที่จะโดนดึงแก้มอีกรอบเพราะมีสัญญาณบอกจากร่างเด็กน้อยว่าถ้ายังไม่ปล่อยลงโดนอีกแน่ จึงจำใจต้องปล่อยมิยาจิไปอย่างช่วยไม่ได้

    "...เอางั้นก็ได้..." มิยาจิตอบอย่างไม่ใส่ใจ ยังไงเขาคงมีทางเลือกไม่มากนักหรอก ก็ตอนนี้มันดึกแล้วคงไม่มีทางหาซื้อเสื้อผ้าสำหรับเขาได้ง่ายๆ หรอก

    "งั้นมิยาจิซังไปอาบน้ำก่อนเลยครับ หรือให้ผมอาบให้?" ว่าแล้วฮายามะก็โดนเตะแข้งไปทีหนึ่ง จนเจ้าตัวกระโดดหยองแหยดคาดว่าคงได้รอยแดงเพิ่มอีกรอยแล้ว

    "ผมอาบเองได้น่า!" มิยาจิโวย

    "งั้นห้องน้ำอยู่ทางนั้นครับ...ผ้าเช็ดตัวเก็บไว้บนชั้นถ้าหยิบไม่ถึงก์เรียกผมนะคร้าบบ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าใส่เสื้อผมไปก่อนแล้วกัน..." ฮายามะผายมือไปที่ห้องๆ หนึ่งที่...ใหญ่กว่าห้องนอนบ้านเขาเสียอีก มิยาจิเห็นแล้วถึงกับคิ้วกระตุก

    ...ห้องนายมันจะใหญ่ไปไหนฟะ!!! เห็นแล้วหงุดหงิดเฟ้ย!!!....

     

     

     

     

     

    "มิยาจิซางงง นี่อาบน้ำนานจังนะครับ คิดว่าหลับในห้องน้ำเสียอีก..." ฮายามะพูดพลางเช็ดผมเด็กน้อยที่อยู่บนตักตน

    "ใครจะไปหลับกัน!" มิยาจิหน้ามุ่ยและรู้สึกอยากหาอะไรปาหัวคนเหลือเกิน...

    กริ้งงงงงงง!!!

    เสียงโทรศัพท์ดังลั่นขัดบทสนทนาของทั้งสอง ฮายามะหยิบมือถือตนขึ้นมาดูก่อนที่จะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาคือกัปตันทีมตนนั้นเอง...

    "ไง! อาคาชิ! โทรมามีอะไรเหรอ?" ฮายามะถามทันทีที่รับสาย...ปกติอาคาชิไม่ค่อยจะโทรหาเขานักหรอก

    'โคทาโร่ พรุ่งนี้ไปที่โรงเรียนด้วย...'

    "เอ๋? ไปทำไมอ่ะ?..." พรุ่งนี้ไม่มีซ้อมนี่หว่า

    'จู่ๆ โค้ชก็เปลี่ยนกำหนดการให้พวกตัวจริงซ้อมในวันพรุ่งนี้น่ะสิ...ห้ามโดดเด็ดขาดเข้าใจไหม?'

    "อืม เข้าใจแล้ว" ฮายามะตอบรับ เท่าที่ฟังจากน้ำเสียงอีกฝ่ายแล้วอย่าไปกวนอีกฝ่ายตอนนี้ดีสุด ดูท่าจะเซ็งเหมือนกันที่ต้องซ้อม...ไม่สิ น่าจะเซ็งที่ไม่ได้ไปหาชิวาว่าคุงมากกว่า

    'เข้าใจก็ดี...แค่นี้นะ แล้วเจอกันที่โรงยิมตอนแปดโมง อย่าสายล่ะ...'

    "อื้อ บายอาคาชิ" และแล้วสายก็ถูกตัดไป...

    "นี่ ใครโทรมาเหรอ?" มิยาจิถามอีกฝ่ายที่เริ่มทำท่าเซ็งสุดกู่

    "กัปตันทีมผมน่ะคร้าบบบบ โทรมาบอกว่าโค้ชให้ไปซ้อมวันพรุ่งนี้ที่โรงเรียนตอนแปดโมง...เซ็งเลยยย อุตสาห์เป็นวันหยุดทั้งที" ฮายามะบ่น...แล้วเขาจะเอาเวลาไหนไปหาเสื้อผ้าให้อีกฝ่ายเนี่ย!

    "เหรอ แล้วนายอยู่ชมรมอะไรล่ะ?" มิยาจิแน่ใจว่าคงไม่พ้นชมรมกีฬาแน่

    "ชมรมบาสเก็ตบอลครับ" ฮายามะตอบทันที...ก็นะ นานๆ ทีเด็กน้อยตรงหน้าจะถามเขานี่

    "นายเป็นตัวจริง หรือตัวสำรองล่ะ?" มิยาจิดูท่าจะสนใจเรื่องนี้เสียแล้ว

    "ผมเป็นตัวจริงครับ" ฮายามะมองยังเด็กน้อยที่เงยหน้ามองเขา ทำหน้าเหมือนจะไม่เชื่อว่าอย่างเขาจะเป็นตัวจริงในทีมได้ "ผมพูดจริงน้าคร้าาาบบบ ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมพามิยาจิซังไปที่ชมรมด้วย ให้เห็นความสามารถผมกันจะๆ เลยดีไหมครับ?"

    "ดี!" มิยาจิก็ตอบรับทันทีอย่างเต็มใจ

    "งั้นเอาตามนั้นนะครับ" ฮายามะพูดขณะที่มือกดปุ่มมือถือในมือหาใครบางคน "เดี๋ยวผมขอคุยโทรศัพท์แป๊บนะครับ...ผมจะคุยเรื่องหาชุดให้มิยาจิซังน่ะ"

    มิยาจิพยักหน้าอย่างว่าง่ายพร้อมกับที่ปลายสายรับโทรศัพท์พอดี

    'โคทาโร่จัง? มีอะไรเหรอ? โทรมาซะดึกเชียว...' คนที่ฮามายะโทรหาไม่พ้นมิบุจิ เรโอะผู้ที่เป็นเหมือนพี่สาว (?) ของทีมนั้นเอง

    "พี่เรโอะคร้าบบบบบ ช่วยผมเรื่องหนึ่งได้ไหมคร้าบบ"

    'ถ้าไม่ยากมากก็คงได้นะจ๊ะ'

    "งั้นช่วยหาชุดเด็กให้หน่อยได้ไหมครับ?"

    'เอ๋?' เสียงปลายสายแสดงถึงความแปลกใจในสิ่งที่ได้ยิน 'ไอ้ได้มันได้จ้า แต่จะเอาไปทำไมล่ะ?'

    "คือว่าก่อนหน้านี้..." แล้วฮายามะก็เล่าเรื่องที่มิยาจิกลายเป็นเด็กให้มิบุจิฟัง "เรื่องก็เป็นอย่างนี้แหละคร้าบบบ"

    'เข้าใจแล้วจ้า เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาไปให้ที่โรงยิมนะจ๊ะ'

    "ขอบคุณคร้าบบบ" ฮายามะก็กดวางสาย ก่อนที่จะอุ้มเด็กน้อยที่อยู่บนตักตนขึ้น "มิยาจิซัง พวกเรานอนกันเลยดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสายเอา..."

    ฮายามะอุ้มมิยาจิที่ดิ้นพล่านๆ พร้อมบอกว่าให้ปล่อย แต่เจ้าต้วก็ไม่สนพามิยาจิไปที่ห้องนอนตน...

    และเมื่อเห็นห้องนอนของฮายามะ มิยาจิก็ต้องคิ้วกระตุกเป็นรอบที่สอง...

    ...ถามจริง! นายอยู่คนเดียวแล้วจะห้องใหญ่ไปไหนห๊ะ!!! เห็นแล้วอยากเอาระเบิดมาปาเฟ้ย!!!...

     

     

     

     

     

    กริ้งงงงงงงง กริ้งงงงงงงง กริ้งงงงงงง กริ้งงงงงงงง

    เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเสียงดังปลุกให้เด็กน้อยผมสีน้ำผึ้งตื่นจากนิทรา โดยที่คนผมสีคาราเมลข้างๆ ยังหลับสนิกอยู่เลย

    "อืมมม เช้าแล้วเหรอ" มิยาจิ คิโยิในร่างเด็กน้อยลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย ทั้งที่ยังหลับตาอยู่มือก็พลางคว้านาฬิกาปลุกมาปิด...

    ...แต่ทำไมเสียงถึงยังดังอยู่นะ?

    มิยาจิยกมือขยี้ตาก่อนที่จะลืมตามองรอบๆ จนไปสะดุ้ดกับนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงเข้า และรู้สึกปวดหัวกับคนที่ยังหลับอยู่เล็กน้อย...

    ...นายจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ทำไมตั้งสี่เรือนฟะ! ไม่สิ ที่จริงที่หน้าทึ่งกว่าคือเสียงดังขนาดนี้ยังอุตสาห์หลับได้เนอะ!!!...

    มิยาจิปิดนาฬิกาทุกเรือนก่อนที่จะปีนลงจากเตียงไปทำธุระของตน พร้อมอาบน้ำแต่งตัว (ใส่เสื้อฮายามะนั้นแหละ) และค่อยปีนขึ้นเตียงอีกรอบเพื่อปลุกคนอายุมากกว่าที่ยังคงหลับอยู่...

    "ตื่นได้แล้ว! ตื่น!"

    "ขออีกครึ่งชั่วโมงนะคร้าบบบ" ฮายามะตอบคล้ายละเมอก่อนที่จะมุดหัวเข่าไปในผ้าห่ม

    "ปกติเขาต้องบอกว่าห้านาทีไม่ใช่เหรอ!" มิยาจิโวยขึ้น และพยายามปลุกอีกฝ่ายอยู่นาน จนมิยาจิเริ่มหัวเสียแล้ว ก็เลย...

    พลั่ก!

    บาทาน้อยๆ แต่แรงไม่น้อยตามถีบเข้าหลังของคนที่ไม่ยอมตื่นจนสะดุ้งลุกพรวกขึ้นมา...

    "โอ้ย! มิยายิซังมันเจ็บนะคร้าบบบ" เมื่อเจออย่างนี้ฮายามะก็ตื่นเต็มตาทันที พร้อมลูบหลังตัวเองจากที่โดนถีบเมื่อครู่ "ถีบผมทำไมอ่ะคร้าบบบ"

    "ก็น่าไหมล่ะ! ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น!" มิยาจิแทบอยากเอานาฬิกาปลุกมาปาหัวคนตรงหน้าเหลือเกิน "แล้วนายต้องไปฝึกตอนกี่โมงห๊า!"

    "แปดโมงเช้าครับ...นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย?" ฮายามะคว้านาฬิกาขึ้นมาดู "อืม เจ็ดโมงสี่สิบห้า...เฮ้ย! จะสายแล้วนี่หว่า!!!"

    "เพิ่งรู้เหรอ! รีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว!" มิยาจิสั่ง ไม่ต่างจากตอนปกติสักเท่าไหร่นัก แสดงให้เห็นว่าตอนเด็กเป็นยังไงตอนโตก็เป็นอย่างนั้น...

    "ครับ!!!" ฮายามะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปในทันที และเพียงเวลาไม่ถึงสามนาทีก็ออกมาพร้อมคว้าตัวมิยาจิวิ่งออกจากห้อง

    "อย่าลืมปิดล็อกประตูด้วยเซ่!!!" มิยาจิโวยทันทีที่ออกจากห้องแล้วเห็นฮายามะไม่ล็อกห้อง...ที่จริงไม่แม้จะปิดประตูด้วยซ้ำ

    "ครับ!!!" ฮายามะรีบปิดประตูล็อกก่อนที่จะวิ่งไปลงลิฟท์...

    สิบนาทีต่อมาฮายามะยืนหอบแฮ่กอยู่หน้าโรงเรียนของตน โดยมีมิยาจิมองโรงเรียนนี้อย่างทึ่งๆ สลับกับคนข้างๆ...

    ...ราคุซัน...โรงเรียนพวกคนรวยนี่หว่า มิน่าล่ะหมอนี่ถึงพักห้องหรูแท้...

    ฮายามะเดินลากขาเข้าไปจนถึงโรงยิม...ซึ่งฮายามะเห็นร่างถึกๆ อันคุ้นเคยนั่งตัวสั่นหน้ายิ้มเบี้ยวๆ เหมือนกลั่นหัวเราะอยู่หน้าโรงยิม

    "เฮ้! มาทำอะไรหน้าโรงยิมล่ะ?" ฮายามะถาม

    "ง...ไง เดี๋ยวเข้าไปนายก็รู้ อุ๊บ! ฮาๆๆๆๆ ดันนึกถึงเรื่องนั้นซะได้! ฮาๆๆๆๆๆ" เนบุยะ เคอิจิ หัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลักจนฮายามะเริ่มสงสัยว่าเพื่อนตนอาจบ้าจริงๆ ก็ได้ ซึ่งแน่นอนมิยาจิก็คิดว่าคนตรงหน้านี่อาจบ้าก็ได้

    จนผ่านไปพักหนึ่งเนบุยะจึงค่อยควบคุมตัวเองได้ และสังเกตเห็นสิ่งที่ฮายามะอุ้มมาด้วย "แล้วนายพาเด็กที่ไหนมาด้วยเนี่ย?"

    "เดี๋ยวบอก แล้วพี่เรโอะมาหรือยัง?"

    "มาแล้ว...และรายนั้นแหละที่ทำเอาฉันหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลักเนี่ย..." เนบุยะตอบพลางทำท่าคล้ายจะหลุดก๊ากออกมาอีกรอบ

    ฮายามะรีบเปิดประตูโรงยิมเข้าไปทันที เพราะกลัวจะได้ยินเสียงหัวเราะแสบแก้วหูอีกรอบ ถึงจะไม่เข้าใจก็เถอะว่าอะไรทำให้เพื่อนตนหัวเราะขนาดนั้น แต่เมื่อเห็นภาพบุคคลผู้หนึ่งที่อยู่ในโรงยิมทำให้เขามีสภาพไม่ต่างจากเพื่อนตนเท่าไหร่นัก

    "ฮาๆๆๆๆ คุณคิ้วบาง! ไหงแต่งตัวแบบนั้นล่ะ! ฮาๆๆๆๆๆ" ฮายามะหัวเราะจนแทบหายใจไม่ทัน ส่วนมิยาจิก็รู้สึกอึ้งกับภาพที่เห็น...

    ...ภาพที่ปรากฏสู่สายตาเขาคือภาพคนร่างสูงที่มีผมและตาสีเงิน ถึงหน้าหวานไปนิดแต่ดูยังไงก็ผู้ชายแน่กลับสวมชุดกระโปงฟูฟองสีหวานที่คาดว่าน่าจะเป็นชุดเมด ด้วยท่าทางเหมือนอยากจะหายๆ ไปซะเดี๋ยวนี้

    "อย่าหัวเราะน่าใช่ว่าฉันอยากแต่งสักหน่อย..." มายุสุมิ จิฮิโระพูดด้วยท่าทางอยากเอาหัวมุดดินเต็มแก่แล้ว

    ...ทั้งที่ปกติเขาจืดจางมากแท้ๆ แต่ทีแบบนี้ทำไมเขาไปจืดจางจนหายไปเลยนะ!!!...

    "...แต่ก็ดูดีนะ" บุคคลผู้มีผมสีดำดุจอีกาเดินเข้ามาหา พร้อมรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าตัวการที่จับคนผมเงินแต่งหญิงคือตนนี่แหละ...

    "ไอ้ดูดีมันก็ดูดีนะ แต่มันก็ขำด้วย...ฮาๆๆ" ฮายามะไม่เถียงหรอก ถึงอีกฝ่ายจะสวมชุดผู้หญิงแต่กลับเข้ากันยิ่งกว่าผู้หญิงแท้ๆ อีก ที่จริงเขาขำหน้าที่เหมือนจะมุดดินของอีกฝ่ายมากกว่าการที่อีกฝ่ายถูกจับแต่งหญิงเสียอีก! (พูดง่ายๆ คือขำในความโชคร้ายของคนอื่นนั้นแหละ)

    "มิบุจิ...เอาชุดฉันคืนมาได้ยัง!" มายุสุมิถามทันทีที่เห็นตัวการที่จับเขาแต่งอย่างนี้...เขาไม่น่าเผลอหลับระหว่างพักเลย! ไม่งั้นตื่นมาอีกทีคงไม่โดนจับใส่ชุดนี้หรอก! แถมเอาชุดเขาไปซ่อนไหนก็ไม่รู้!

    "ไม่เอาน่า ทีเด็กคนนั้นยังไม่บ่นเลย..." มิบุจิบ่น ดูท่าจะไม่เอาชุดคืนอีกฝ่ายง่ายๆ แน่

    "ไม่ใช่ไม่บ่น แต่พูดไม่ออกมากกว่า..." มายุสุมินึกถึงคนที่โดนจับแต่งหญิงเหมือนเขา

    "เดี๋ยวๆ ที่พูดกันอยู่เนี่ยพูดถึงใคร?" ฮายามะแทรกบทสนทนาของทั้งสอง...เขารู้สึกว่าไอ้คำว่า 'เด็กคนนั้น' มีคนเดียวที่ถูกเรียกแบบนี้นะ

    "ก็พูดถึงนี่ไงล่ะ!" มิบุจิตอบอย่างร่าเริงพร้อมคว้าคนคนหนึ่งที่หลบมุมจนไม่มีใครทันสังเกตในตอนแรกออกมา

    ร่างของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทุกขณะ สวมชุดนักเรียนหญิงสีขาวอยู่...

    "เฮ้ย! ชิวาว่าคุง! มาไงเนี่ย!?" ฮายามะทักทันทีที่เห็นว่าคนที่โดนอีกคนที่ว่าคือคนรักของกัปตันทีมตนนั้นเอง คาดว่าคนที่พามาก็คงไม่พ้นกัปตันทีมเขานั้นแหละ

    "ฟุริฮาตะต่างหากล่ะครับ..." ฟุริฮาตะอยากจะร้องไห้จริงๆ ทำไมเขาต้องโดนจับแต่งแบบนี้ด้วยเนี่ย!

    "...ทีมนายนี่มันอะไรกัน..." เด็กน้อยผมสีน้ำผึ้งที่เกือบถูกลืมบ่นออกมาอย่างเหนื่อยใจชอบกล...ปนกับสงสารคนที่ถูกจับแต่งหญิงทั้งสองด้วย

    "ว้าว! นี่เหรอที่โคทาโร่จังโทรมาบอกเมื่อวาน...น่ารักจังเลย!" มิบุจิคว้าตัวเด็กน้อยจากฮายามะมากอด

    "เด็กคนนี้ใครกัน?" มายุสุมิรู้สึกว่าเด็กที่มิบุชิกอดอยู่นั้นหน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

    "นั้นสิน้าา" เนบุยะเดินเข้ามาในโรงยิม แม้ยังขำทันทีที่เห็นมายุสุมิก็เถอะ จนมายุสุมิอยากถีบสักทีจริงๆ

    "โคทาโร่...นายพาเด็กที่ไหนมาด้วยเนี่ย?" ร่างของเด็กหนุ่มผมแดงเดินเข้ามาหา "เรโอะ...เอาชุดคืนจิฮิโระซังได้แล้ว เดี๋ยวเราต้องไปซ้อมกับโรงเรียนอื่นแล้ว..."

    "จ้าาาา" มิบุจิยัดมิยาจิให้ฟุริฮาตะอุ้ม ก่อนที่จะเดินหายไปในห้องแต่งตัว...และได้ยินเสียงเหมือนรื้อบางอย่างแว่วออกมา

    "เอ่อ สวัสดีครับ..." ฟุริฮาตะทักเด็กน้อยที่ถูกยัดให้เขาอุ้มเมื่อครู่ "พี่ชื่อฟุริฮาตะ โคกินะครับ แล้วหนูชื่ออะไรครับ?"

    ดวงตาสีน้ำผึ้งของเด็กเงยหน้าขึ้นมองสบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลของอีกฝ่าย...และอดคิดไม่ได้ว่าคนคนนี้ดูปกติที่สุดแล้ว "ผมมิยาจิ คิโยชิครับ"

    เท่านั้นแหละทุกคนชะงั้น ก่อนที่จะเบนสายตาไปมองยังคนผมสีคาราเมลที่ยืนหน้ายิ้มอยู่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

    "เอ่อ ช่วยบอกอีกทีได้ไหมครับว่าชื่ออะไรนะ?" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ รู้สึกไม่อยากเชื่อหูตัวเองชอบกลทั้งที่ได้ยินอย่างชัดเจน

    "มิยาจิ คิโยชิครับ" เด็กน้อยตอบยืนยัดคำเดิมอย่างไม่เข้าใจ...ชื่อเขามันแปลกตรงไหนเหรอ? โดยไม่รู้เลยทุกคนในที่นี่สติเริ่มหลุดกันแล้ว

    "โคทาโร่...นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? เอาแบบย่อๆ " มีเพียงอาคาชิเท่านั้นที่พอคุมสติตัวเองเอาไว้ได้

    "อ๋อ เห็นบอกว่าข้าวกล่องตกใส่มิยาจิซังกับทาคาโอะแล้วก็กลายเป็นแบบนี้แหละ" ฮายามะก็เล่าย่อๆ จริงๆ ซึ้งแน่นอนไม่มีใครเข้าใจที่ฮายามะพูด มีแต่อาคาชิอีกนั้นแหละที่พอประติดประต่อเรื่องได้

    "...ตอนนั้นมีใครอยู่บ้าง?" อาคาชิชักคิ้วกระตุก

    ...ชักสังหรณ์ใจแปลกๆ แหะ...

    "พวกชูโตกุกับพวกโอโทวน่ะ" ฮายามะตอบทันที

    "...งั้นคงเป็นข้าวกล่องที่โมโมะอิทำแหง" อาคาชิคุมขมับอย่างเหนื่อยใจ

    "อาคาชิเดาเก่งจัง! ถูกด้วย!" ฮายามะพูดอย่างตื่นเต้นโดยไม่รู้เลยว่าใครเคยอยู่ทีมปาฏิหาริย์ล่ะก็รู้กันตั้งแต่ตรงข้าวกล่องแล้วล่ะ

    "แล้วมันเกี่ยวอะไรเนี่ย..." มายุสุมิถามทันทีหลังดึงสติตนกลับมาได้

    "คือว่ามันเป็นแบบนี้..." แล้วอาคาชิก็เล่าวีรกรรมการทำอาหารของโมโมอิให้ทุกคนฟัง ซึ่งแน่นอนเมื่อฟังจบทุกคนก็ตัดสินใจในทันทีว่าจะไม่มีวันกินกับข้าวฝีมืออดีตผู้จัดการทีมบาสของเทย์โควเด็ดขาด

    พร้อมกันนั้นเองมิบุจิก็เดินกลับมาพร้อมถุงเสื้อผ้าของมายุสุมิ ซึ่งแน่นอนเจ้ารีบคว้าถุงมาพร้อมเดินไปเปลี่ยนชุดทันที

    "น่าเสียดายจังแหะ นานๆ ทีมายุซังจะเผลอสักที..." มิบุจิบ่นอย่างเสียดายที่ได้จับอีกฝ่ายแต่งหญิงแค่แป๊บเดียว

    "เอาน่า...ก็แอบถ่ายรูปไว้เป็นกระตั่งเลยไม่ใช่หรือไง" เนบุยะบอกพร้อมเอาขนมปังจากไหนไม่รู้ยัดเข้าปากตน

    "เอ่อ...มิบุจิซัง เมื่อไหร่จะคืนชุดผมมาล่ะครับ~" ฟุริฮาตะเริ่มโวยที่ตนยังต้องแต่งหญิงคนเดียว

    "โทษทีนะ ชุดของฟุริจังไม่ได้อยู่ที่ฉัน...อยู่ที่เซย์จังต่างหาก" มิบุจิส่งยิ้มให้

    "อาคาชิ..." ฟุริฮาตะกำลังจะขอชุดคืนจากคนผมแดง แต่กลับโดนดักไว้ก่อน

    "อย่ามาขอซะให้ยากเลยโคกิ ยังไงฉันก็ไม่คืนให้หรอก" อาคาชิยิ้มอย่างผู้มีชัย

    "แต่..."

    "ถ้าขออีกเดี๋ยวคืนนี้เจอจัดหนักแน่..." พอเจอประโยคนี้ของอาคาชิ ฟุริฮาตะก็ถึงปิดปากเงียบทันที ได้แต่ประท้วงในใจ

    ...อาคาชิ...จงใจแกล้งใช่ไหมเนี่ย!?!...

    "มิยาจิซังลองใส่ชุดนี้หน่อยไหม?" มิบุจิหยิบชุดกระโปงเด็กสีหวานออกมา

    "เอ่อ ขอบายดีกว่าคับ..." มิยาจิปฏิเสธทันทีอย่างไม่ต้องผ่านสมองเลย เขายอมใส่ชุดของคนผมสีคาราเมลดีกว่าใส่ชุดผู้หญิง!

    "ทำไมล่ะ น่าจะดูดีนะ"

    "ใครเขาอยากโดนจับแต่งเป็นผู้หญิงกันล่ะ" มายุสุมิเดินออกมาด้วยชุดทีมของราคุซันที่เห็นกันจนชินตา

    "เอ้า เลิกเล่นกันได้แล้ว ไปเตรียมตัวฝึกได้แล้ว" อาคาชิสั่งทุกคน และเพียงไม่นานทุกคนก็ออกเดินทางไปยังโรงเรียนที่จะเป็นคู่ซ้อมแข่งในวันนี้ทันที ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากราคุซันไปถึงสองชั่วโมง

     

     

     

     

     

    ผลการซ้อมแข่งขันของโรงเรียนคือราคุซันชนะด้วยคะแนน 120 ต่อ 30 ซึ่งความห่างของคะแนนยังคงได้ทำให้ผู้ที่มาชมการแข่งตกตะลึงได้เหมือนเดิม

    "สุดยอด"

    "คะแนนห่างกันสุดๆ ไปเลย"

    "สมแล้วที่เป็นราชันไร้มงกุล"

    "แถมกัปตันทีมยังเคยเป็นกัปตันทีมปาฏิหาริย์ด้วย"

    "เป็นทีมที่แกร่งสุดๆ ไปเลย"

    "พวกนี้เป็นปีศาจหรือไงนะ"

    "ฯลฯ" คำวิจารณ์ต่างๆ นาๆ จากปากผู้ชมทั้งหลายดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ

    ฟุริฮาตะ (ที่ยังสวมชุดนักเรียนหญิงอยู่) กับมายาจิ (ในเสื้อของฮายามะ) นั่งบนตักฟุริฮาตะชมการแข่งขันเงียบๆ ชนิดติดขอบสนาม (ที่นั่งจัดโดยอาคาชิ)

    ดวงตาสีน้ำผึ่งจ้องไปยังผู้เล่นในสนามอย่างสนอกสนใจ "นี่ พวกนั้นเก่งขนาดนี้เลยหรอกคับ?"

    "ใช่ครับ" ฟุริฮาตะตอบขณะเอามือจับตัวเด็กน้อยไว้กันตกจากตักเขา

    พร้อมกันนั้นเองฮายามะก็วิ่งเข้ามาคว้าตัวเด็กน้อยมากอดทันที "มิยาจิซัง! ผมแข่งเป็นไงบ้างครับ! ผมเก่งใช่ไหม!"

    "เอ่อ! ไอ้เก่งน่ะเก่ง...แต่ช่วยปล่อยผมก่อนได้ไหม!? มันอึดอัดน้าาา!" มิยาจิโวยพร้อมส่งกำปั้นใส่หน้าอีกฝ่าย ซึ่งผลออกมาคือได้รอยกำปั้นเด่นชัดประดับหน้าเป็นที่เรียบร้อย

    "โอ๊ย! เจ็บนะครับ ไหงผมกอดไม่ได้คนเดียวล่ะ?" ฮายามะถามอย่างคล่องใจ...ก็ทั้งพี่เรโอะทั้งชิวาว่าคุงกอดได้แต่ไหงเขากอดทีไรก็โดนตลอดเลยล่ะ?

    "...ไม่รู้เหมือนกันแหะ มันไปของมันเอง" ที่จริงมิยาจิก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม...

    "หรือว่าเขินตอนถูกโคทาโร่มันอุ้ม?" เนบุยะลองเสนอความคิดเห็นดู

    "บ้าสิ! ผมจะเขินหมอนี่ทำไมล่ะ!" มิยาจิปฏิเสธ ทั้งที่หน้าบ่งบอกว่าเป็นอย่างที่เนบุยะคิดเลย

    เมื่อเห็นท่าทางอย่างนั้นของมิยาจิ ฮายามะก็ยิ้มกว้างกับท่าทางน่ารักของอีกฝ่าย "แบบนี้...โดนกี่ดอกก็ยอมคร้าบบบ!"

    "อย่าเข้ามาใกล้นะ! หยะแหยงเฟ้ย!" มิยาจิที่โดนคว้ามากอดอีกรอบพยายามดันอีกฝ่ายออกห่าง...แต่ดูเหมือนดันออกไปกี่ทีฮายามะก็กลับเข้ามากอดเหมือนเดิม...

    "อาคาชิ...ทำอะไรอยู่น่ะ?" ฟุริฮาตะละสายตาจากการทะเลาะของเด็กกับผู้ใหญ่ มาถามคนผมแดงที่ถือโทรศัพท์ไว้ในมือ

    "จะลองโทรหาชินทาโร่ดู...ฉันสังหรณ์ว่าชินทาโร่น่าจะรู้วิธีทำให้มิยาจิซังกลับมาเป็นเหมือนเดิม..." อาคาชิตอบ เขาไม่รู้ทำไมเมื่อกันว่าทำไมรู้สึกอย่างนี้

    "ถ้ามิโดริมะรู้ก็น่าจะทำให้ทาคาโอะกลับเป็นเหมือนเดิมแต่แรกสิ..." ฟุริฮาตะจำได้ว่าฮายามะบอกว่าทาคาโอะก็โดนด้วยนี่

    "ไม่รู้สินะ...ฉันแค่สังหรณ์เท่านั้น..." ...และถ้าเป็นดังที่เขาสังหรณ์ล่ะก็ ชินทาโร่คงจะเพิ่งรู้วิธีแก้ก็ได้

    อาคาชิกดปุ่มโทรออก เสียงรอสายดังอยู่สักพัก ไม่นานเกินรอก็มีคนรับ 'อาคาชิ? นายโทรหาฉันทำไมเนี่ย?'

    "ฉันได้ฟังเรื่องเมื่อวานจากโคทาโร่เลยจะลองถามวิธีแก้จากนาย..."

    'ไหงนายคิดว่าฉันรู้วิธีแก้ล่ะ?' น้ำเสียงจากปลายสายแสดงถึงความงุนงงของตนเองได้อย่างชัดเจน

    "ลางสังหรณ์..." อาคาชิตอบอย่างตรงไปตรงมา

    '...' ปลายสายเงียบไปสักพัก ท่าจะอึ้งกับคำตอบที่ได้รับ 'ฉันขอบอกเลยนะว่าลางสังหรณ์ของนายแม่นมาก ฉันเพิ่งรู้จากนิจิมุระซังวันนี้เอง..."

    "สรุปคือรู้วิธีแก้ใช่ไหม?"

    'อืม ใช่ ช่วยบอกฮายามะซังด้วยว่าวิธีแก้คือจูบ'

    "วิธีแก้เหมือนในนิทานดีเนอะ" อาคาชิอดคิดไม่ได้ว่าอาหารที่โมโมอิทำอาจเหมือนพวกแม่มดในนิทานก็ได้

    '...ฉันก็ว่างั้น และอย่าลืมบอกฮายามะซังด้วยล่ะว่าอย่าทำอะไรเกินเลยล่ะ'

    "พูดแบบนี้แสดงว่านายทำไปแล้วสินะ..." อาคาชิพูดเย้าแหย่เล่น แต่ได้ผลลักณ์คือเสียงที่ฟังแล้วเดาสีหน้าของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย

    'ร...เรื่องนั้นช่างฉันเถอะน่า! แค่นี้นะอาคาชิ!" แล้วก็วางสายไปในทันทีก่อนที่อาคาชิจะได้แกล้งต่อ

    "อาคาชิ...เป็นไงบ้าง?" ฟุริฮาตะถาม ขณะที่อาคาชิเก็บมือถือเข้ากระเป๋า

    "ชินทาโร่บอกว่าวิธีแก้คือจูบ..." อาคาชิยิ้มให้ ราวกับคาดได้ว่าหลังจากนี้อีกฝ่ายจะมีปฏิริยาอย่างไร

    "ห๊า!?!" ฟุริฮาตะถึงกับหน้าเหวอ...อะไรวิธีแก้จะคล้ายกับในนิทานปานนั้น!

    "ก็อย่างที่บอกนั้นแหละ เดี๋ยวไปบอกโคทาโร่ก่อนแล้วกัน..." อาคาชิเดินจูงมือฟุริฮาตะไปหายังคนที่ฟัดกับเด็กไม่เลิก

    "อ...อืม" ฟุริฮาตะตอบอย่างสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

    "โคทาโร่..." อาคาชิเรียกคนที่ยังคงกอดรัดฟัดเหวี่ยเด็กอยู่

    "หือ? มีอะไรเหรอ?" ฮายามะถามทั้งที่หน้าถูกบาทาน้อยๆ ถีบอยู่

    "รู้วิธีแก้แล้ว..." อาคาชิพูดสั้นๆ แต่ทุกคนก็เข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายสื่อออกมาทันที

    "จริงสิ!?!" เนบุยะถามอย่างไม่แน่ใจ

    ...ไหงรู้เร็วจังฟะ!...

    "เซย์จังแล้ววิธีแก้คืออะไรเหรอ?" มิบุจิถามอย่างอยากรู้มากกว่าอยากที่จะให้มิยาจิกลับเป็นอย่างเดิมเสียอีก

    "วิธีแก้คือจูบน่ะ" อาคาชิตอบ

    ..........

    .........

    ........

    .......

    ......

    .....

    ....

    ...

    ..

    .

    "ห๊า!?!" คำตอบที่ได้รับเล่นเอาทุกคนสมองหยุดไปเลยทีเดียว โดยเฉพาะฮายามะที่เกือบเผลอปล่อยมิยาจิตกพื้นท่าจะหนักกว่าคนอื่น

    "พูดจริงสิ..." มายุสุมิเอามือคุมขมับ ไหงเรื่องมันกลายเป็นคล้ายกับไลท์โนเวล์ที่เขาเพิ่งอ่านจบไปได้ฟะ!!!

    "ผมพูดจริงแน่นอน" อาคาชิตอบอย่างสนุกที่ได้เห็นคนสติหลุด

    "อ...เอาจริงสิ?" ฮายามะกลืนน้ำลาย อ่า นี่เขาต้องจูบมิยาจิซังจริงๆ เหรอเนี่ย? แล้วหลังมิยาจิซังกลับร่างเดิมแล้วจะโดนฆ่าหมกศพไหมเนี่ย?

    "...คงต้องเอางั้น" เนบุยะตอบอย่างสติยังไม่เข้าร่างดีนัก

    "ถ้านายไม่กล้าเดี๋ยวฉันทำใหแทนดีไหม?" มายุสุมิกะลองพูดเล่นๆ แต่ผลที่ได้รับคือ...

    "ไม่มีทาง!!!" ฮายามะขู่ฟ่อพร้อมอุ้มมิยาจิที่ไม่เข้าในบทสนทนาของเหล่านักบาสทีมราคุซันขยับออกห่าง

    "มายุซัง..." มิยุจิยังคงยิ้มแต่บรรยากาศกลับเย็นยะเยือกจนมายุสุมิขนลุก "...อยากจะลุกไม่ขึ้นในวันพรุ่งนี้ใช่ไหม?"

    "ฉันล้อเล่น!!!" มายุสุมิรีบถอยห่างและกำลังจะหนี...

    ...แต่ไม่ทัน มิบุจิจับคอเสื้ออีกฝ่ายไว้ได้ก่อนพร้อมดึงเข้ามารัดคอกันหนีด้วย "หนีไม่พ้นหรอกนะมายุซัง...ฉันกลับก่อนนะเซย์จัง"

    "ครับ ขอให้โชคดี" อาคาชิเอ่ยพร้อมโบกมือลามิบุจิที่เดินจากไปพร้อมลากมายุสุมิไปด้วย คาดว่าดีไม่ดีวันจันทร์มายุสุมิคงอาจจะยังลุกขึ้นจากเตียงไม่ไหวก็ได้

    หลังจากมายุสุมิกลับไปได้สักพักทุกคนก็แยกย้ายกลับบ้านกลับหอของตนเองอย่างสติยังไม่เข้าร่างดีนัก...

     

     

     

     

     

    "เอาไงดีล่ะคราวนี้..." ฮายามะที่กลับมาถึงหอพักของตนเองแล้ว นั่งค้มหัวอย่างกลุ้มใจ ตั้งแต่กลับมายังตอนนี้ก็เป็นเวลาทุ่มกว่าแล้ว...

    ...เอาไงดีฟะ! จะทำตอนนี้เลยหรือเอาไงดี!?!...

    "นี่!" ฮายามะหันไปมองยังคนที่เรียกตน

    เด็กน้อยที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำ ชุดที่สวมโพรนกว่าเดิมคาดว่าคงหยิบผิดตัวเอาเสื้อตัวที่ใหญ่สุดมาใส่แทน ขนาดเจ้าของเสื้อใส่แล้วยังหลวมมากเพราะซื้อผิด แล้วเด็กน้อยตรงหน้าจะเหลือเหรอ

    "เป็นอะไรไปเหรอ?" ฮายามะมองไปยังดวงตาสี้ำผึ้งที่จ้องมองเขาอยู่...นี่เขาคงดูผิดปกติมากสินะ?

    "เปล่าครับ ผมไม่เป็นไรหรอก..."

    "แต่หน้านี่บอกเลยนะว่ามีอะไรแน่ๆ" พอเจอมิยาจิขัดแบบนี้ ฮายามะก็อดคิดไม่ได้ว่ามิยาจิช่างเซ้นร์ดีแต่เด็กแท้

    "เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ มิยาจิซัง...ผมขออะไรหน่อยได้ไหมครับ?"

    "หือ? คงได้มั้ง...มีอะไรล่ะ?" มิยาจิมองอย่างไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะขออะไรถึงได้ถามเขาก่อน ทั้งที่อีกฝ่ายน่าจะทำโดยไม่สนใจอะไรเลยมากกว่า

    "มิยาจิซัง...จูบผมหน่อยได้ไหมครับ..." ฮายามะขอกันตรงๆเลย

    ...ก็เขาไม่อยากเป็นฝ่ายจูบมิยาจิซังก่อนนิ มันอายนะ!...

    "อ๋อ...เฮ้ย! จะบ้าเหรอ!?" มิยาจิที่เกือบเอ่ออ๋อตามว๊ากใส่

    "นะคร้าบบ มิยาจิซัง!" ฮายามะขอร้องอีกฝ่าย...ถ้ามิยาจิซังไม่จูบเขา เขาก็ต้องเป็นฝ่ายจูบมิยาจิซังเองน่ะสิ!

    "ไม่มีทาง!" มิยาจิหันหน้าหนีด้วยใบหน้าแดงก่ำ สุดท้ายก็เลยเหลือทางเหลือเดียวให้ฮายามะ...

    ...ขอโทษล่วงหน้านะครับ! มิยาจิซัง! ถึงร่างเด็กจะน่ารักก็เถอะ แต่ผมอยากให้มิยาจิซังเป็นแบบเดิมมากกว่า!!!...

    "งั้นผมไม่มีทางเลือกแล้วนะครับ!" ฮายามะคว้าตัวเด็กน้อยมาและ...

    ...ประกอบริมฝีปากลงไป ก่อนที่จะถอนริมฝีปากออกมาอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าแดงแจ๋ พร้อมกันนั้นเองก็มีควันปรากฏขึ้นรอบตัวเด็กน้อยและค่อยๆ หนาขึ้นเรื่อยๆ

    ปุ๊ด...

    มีเสียงดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่ควันจะเริ่มจางลง ปรากฏร่างอันคุ้นเคยบ่งบอกว่าสิ่งที่เขาทำนั้นสำเร็จแล้ว

    "โอ้ย! นี่มันอะไรกันฟะ!?!" เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งนั่งคุมหัวอย่างงงๆ เขาจำได้ว่าตนถูกข้าวกล่องสยองขวัญนั้นตกใส่นี่น่า...แล้วที่นี่มันที่ไหนฟะ?

    ดวงตาสีน้ำผึ้งกวาดมองรอบๆ ห้อง ก่อนที่จะมองคนคุ้นเคยที่อยู่ตรงหน้าตน

    "ฮายามะ? นี่มันที่ไหนเนี่ย? แล้วเป็นอะไรหน้าแดงเชียว?" มิยาจิถามอย่างงุนงง แต่อีกฝ่ายก็ยังเงียบเหมือนจะไม่ได้ยินที่เขาพูด ทำให้เส้นเลือดเริ่มปูดขึ้นที่ขมับ "ฮายามะ! ได้ยินไหมโวย!!!!!!"

    "คร้าบ! ได้ยินแล้วครับ! แต่มิยาจิซังช่วยดูสภาพตัวเองก่อนเถอะครับ!" ฮายามะพูดทั้งที่มือปิดตาตัวเองอยู่

    "เอ๋?" มิยาจิลองก้มมองตัวเอง ก่อนที่จะหน้าแดงตามอีกฝ่าย "เฮ้ย! กางเกงฉันหายไปหนายยยย!!!"

    มิยาจิรีบเอามือและดึงเสื้อลงมาปิดส่วนสำคัญของตนเองไว้...ฮายามะรู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่มิยาจิใส่เสื้อตัวใหญ่อยู่

    "นี่มันเรื่องอะไรกาาาานนนน!!!" มิยาจิหน้าแดง พยายามดึงเสื้อลงมาปิดมากที่สุด จ้องอีกฝ่ายตาเขม็งดวงน้ำตาคลอจากความอาย และท่าทางแบบนั้นทำให้...

    พรูด!!!

    เลือดกำเดาพุ่งออกมาจากคนผมสีคาราเมล ก่อนที่จะล้มตึงสลบไปทั้งอย่างนั้นเลย

    "เฮ้ย! ฮายามะ!"

     

     

     

     

     

    "สรุปว่าฉันกลายเป็นเด็กแล้วนายก็มาแก้ให้สินะ..." มิยาจิที่สวมชุดที่ซื้อมาผิดของฮายามะนั่งอยู่บนโซฟาสรุปเรื่องราวทั้งหมด ที่คนผมสีคาราเมลเล่าหลังจากที่เจ้าตัวฟื้นขึ้นมาแล้ว

    "ใช่คร้าบบบ" ฮายามะพุ่งเข้ากอดมิยาจิตามปกติ และโดนมิยาจิดันหัวไว้อีกตามเคย...

    "...แล้วนายใช้วิธีไหนแก้ล่ะ? นายยังไม่ได้บอกเลยนะ" มิยาจิถาม และทันใดนั้นใบหน้าของฮายามะก็เปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้ง

    "คือ...ว่า...ผม...เอ่อ...ผมไปอาบน้ำก่อนนะคร้าบบบ" ฮายามะวิ่งเข้าห้องน้ำไปในทันที เพื่อเลี่ยงทำถามที่อาจทำให้ตนตายก่อนวัยอันควร

    "เฮ้ย! ฮายามะ! โว้ย! นี่มันอะไรกันฟะ!" มิยาจิได้แต่โวยวายอยู่คนเดียว ไหงต้องหนีด้วยฟะ!

    สุดท้ายมิยาจิก็ไม่ได้คำตอบในเรื่องนี้จากฮายามะเลย...และกลายเป็นว่าฮายามะขอให้มิยาจิอยู่ด้วยไม่ให้กลับโตเกียวซะงั้นจนกว่าจะถึงวันเรียนของชุโตกุ

    ด้วยลูกอ้อนของฮายามะและด้วยเหตุที่ฮายามะไม่ได้เอาทั้งมือถือทั้งกระเป๋าตังส์ของมิยาจิมาด้วย เป็นเหตุให้มิยาจิติดแหงะอยู่ที่นี่ไปโดยปริยาย จนกว่าฮายามะจะจ่ายเงินค่าตั๋วรถไฟขากลับให้...

     

     

     

     

     

    End

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×