คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : [HayaMiya] Love Kid!!! (2)
Title : Love Kid!!! (2)
Fandom : Kuroko no Basket
Paring : Hayama x Miyaji
Notes : คู่นี้หาอ่านยากจริงๆ เนอะ?
http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1144887&chapter=18
http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1144887&chapter=32
http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1144887&chapter=40
http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1144887&chapter=41
................................................................
Love Kid!!! (2)
ฮายามะ โคทาโร่เดินเข้าหอพักตนเอง ไม่สิ สำหรับคนทั่วไปมันคือคอนโดหรูดีๆ นี่เอง โดยไม่สนใจคนในหอตนเองมองมาที่ตนด้วยสายตาแปลกใจอยู่...
...ก็เล่นหิ้วเด็กที่ดิ้นพล่านๆ มาด้วยนี่หว่า!...
"ก็บอกว่าให้ปล่อยไงเล่า! ผมเดินเองได้น่า!" เด็กน้อยผมสีน้ำผึ้งโวยลั่นเมื่อถูกอุ้มเท้าไม่แตะพื้นอย่างนี้ นึกแล้วก็โมโหตัวเองที่ยอมให้อีกฝ่ายหิ้วมาง่ายๆ...
...ทั้งที่ปกติเขาจะไม่ตามคนแปลกหน้าไปง่ายๆ แต่สำหรับรายนี้ทำไมเขารู้สึกคุ้นเคยนักนะ? ไม่เข้าในตัวเองจริงๆ
"เดี๋ยวมิยาจิซังก็หลงสิ..." ฮายามะตอบกลับไปอย่างนั้นก่อนที่จะเดินเข้าลิฟท์ไป...ทั้งที่จริงที่อุ้มก็แค่หาโอกาสกอดอีกฝ่ายแค่นั้นแหละ
"แค่นี้ใครจะหลงกัน!" มิยาจิขู่ฟ่อคล้ายแมวตัวน้อย
"มิยาจินั้นแหละคร้าบบ" ว่าแล้วฮายามะก็โดนมิยาจิดึงแก้มซะยืด ข้อหามาว่าเขา! "เจ็บนะคร้าบบบบ"
และแล้วลิฟท์ก็ส่งเสียงตื๊ด บ่งบอกว่าถึงชั้นที่ตนพักแล้ว...
เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกฮายามะก็เดินฉับๆ มายังประตูบานเดียวที่ติดเด่นหลาอยู่ในชั้นนี้ และไขกุญแจและกดรหัสเปิดประตู พอปลงล็อกแล้วก็เข้าห้องตัวเองทันที ส่วนมิยาจิก็หยุดดิ้นเปลี่ยนเป็นอ้าปากค้างแทนเมื่อเข้ามาในห้องของฮายามะ...
...ห้องจะใหญ่ไปไหนฟะ!!!...
มิยาจิมองห้องของอีกฝ่ายที่ใหญ่กว่าบ้านเขาเสีย!!! ถึงว่าทำไมทั้งชั้นมีประตูบานเดียวนี้มันกินพื้นที่ทั้งชั้นเลยนี่หว่า!!! แถมของในห้องมีครบทุกอย่าง แต่ล่ะอย่างก็หรูหราทั้งนั้น...จะฟุ่มเฟือยไปแล้ว!!!
"นี่ๆ มิยาจิซัง..."
เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตน เด็กน้อยก็เงยหน้าขึ้นมองคนอายุมากกว่าแต่สมองท่าจะน้อยกว่าเขาที่ตอนนี้ก็ยังไม่ปล่อยเขาลงเลย! คิดว่าเขาจะหลงในห้องๆ เดียวหรือไง?! (ที่จริงก็น่าหลงนะ เล่นใหญ่ซะขนาด...)
"มีอะไร?" มิยาจิถาม
"...ผมลืมหาเสื้อผ้าให้มิยาจิซังน่ะคร้าบบบ ไว้พรุ่งนี้ค่อยหาให้นะคร้าบบบ" ฮายามะพูดพร้อมวางมิยาจิลงพื้น ก่อนที่จะโดนดึงแก้มอีกรอบเพราะมีสัญญาณบอกจากร่างเด็กน้อยว่าถ้ายังไม่ปล่อยลงโดนอีกแน่ จึงจำใจต้องปล่อยมิยาจิไปอย่างช่วยไม่ได้
"...เอางั้นก็ได้..." มิยาจิตอบอย่างไม่ใส่ใจ ยังไงเขาคงมีทางเลือกไม่มากนักหรอก ก็ตอนนี้มันดึกแล้วคงไม่มีทางหาซื้อเสื้อผ้าสำหรับเขาได้ง่ายๆ หรอก
"งั้นมิยาจิซังไปอาบน้ำก่อนเลยครับ หรือให้ผมอาบให้?" ว่าแล้วฮายามะก็โดนเตะแข้งไปทีหนึ่ง จนเจ้าตัวกระโดดหยองแหยดคาดว่าคงได้รอยแดงเพิ่มอีกรอยแล้ว
"ผมอาบเองได้น่า!" มิยาจิโวย
"งั้นห้องน้ำอยู่ทางนั้นครับ...ผ้าเช็ดตัวเก็บไว้บนชั้นถ้าหยิบไม่ถึงก์เรียกผมนะคร้าบบ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าใส่เสื้อผมไปก่อนแล้วกัน..." ฮายามะผายมือไปที่ห้องๆ หนึ่งที่...ใหญ่กว่าห้องนอนบ้านเขาเสียอีก มิยาจิเห็นแล้วถึงกับคิ้วกระตุก
...ห้องนายมันจะใหญ่ไปไหนฟะ!!! เห็นแล้วหงุดหงิดเฟ้ย!!!....
"มิยาจิซางงง นี่อาบน้ำนานจังนะครับ คิดว่าหลับในห้องน้ำเสียอีก..." ฮายามะพูดพลางเช็ดผมเด็กน้อยที่อยู่บนตักตน
"ใครจะไปหลับกัน!" มิยาจิหน้ามุ่ยและรู้สึกอยากหาอะไรปาหัวคนเหลือเกิน...
กริ้งงงงงงง!!!
เสียงโทรศัพท์ดังลั่นขัดบทสนทนาของทั้งสอง ฮายามะหยิบมือถือตนขึ้นมาดูก่อนที่จะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาคือกัปตันทีมตนนั้นเอง...
"ไง! อาคาชิ! โทรมามีอะไรเหรอ?" ฮายามะถามทันทีที่รับสาย...ปกติอาคาชิไม่ค่อยจะโทรหาเขานักหรอก
'โคทาโร่ พรุ่งนี้ไปที่โรงเรียนด้วย...'
"เอ๋? ไปทำไมอ่ะ?..." พรุ่งนี้ไม่มีซ้อมนี่หว่า
'จู่ๆ โค้ชก็เปลี่ยนกำหนดการให้พวกตัวจริงซ้อมในวันพรุ่งนี้น่ะสิ...ห้ามโดดเด็ดขาดเข้าใจไหม?'
"อืม เข้าใจแล้ว" ฮายามะตอบรับ เท่าที่ฟังจากน้ำเสียงอีกฝ่ายแล้วอย่าไปกวนอีกฝ่ายตอนนี้ดีสุด ดูท่าจะเซ็งเหมือนกันที่ต้องซ้อม...ไม่สิ น่าจะเซ็งที่ไม่ได้ไปหาชิวาว่าคุงมากกว่า
'เข้าใจก็ดี...แค่นี้นะ แล้วเจอกันที่โรงยิมตอนแปดโมง อย่าสายล่ะ...'
"อื้อ บายอาคาชิ" และแล้วสายก็ถูกตัดไป...
"นี่ ใครโทรมาเหรอ?" มิยาจิถามอีกฝ่ายที่เริ่มทำท่าเซ็งสุดกู่
"กัปตันทีมผมน่ะคร้าบบบบ โทรมาบอกว่าโค้ชให้ไปซ้อมวันพรุ่งนี้ที่โรงเรียนตอนแปดโมง...เซ็งเลยยย อุตสาห์เป็นวันหยุดทั้งที" ฮายามะบ่น...แล้วเขาจะเอาเวลาไหนไปหาเสื้อผ้าให้อีกฝ่ายเนี่ย!
"เหรอ แล้วนายอยู่ชมรมอะไรล่ะ?" มิยาจิแน่ใจว่าคงไม่พ้นชมรมกีฬาแน่
"ชมรมบาสเก็ตบอลครับ" ฮายามะตอบทันที...ก็นะ นานๆ ทีเด็กน้อยตรงหน้าจะถามเขานี่
"นายเป็นตัวจริง หรือตัวสำรองล่ะ?" มิยาจิดูท่าจะสนใจเรื่องนี้เสียแล้ว
"ผมเป็นตัวจริงครับ" ฮายามะมองยังเด็กน้อยที่เงยหน้ามองเขา ทำหน้าเหมือนจะไม่เชื่อว่าอย่างเขาจะเป็นตัวจริงในทีมได้ "ผมพูดจริงน้าคร้าาาบบบ ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมพามิยาจิซังไปที่ชมรมด้วย ให้เห็นความสามารถผมกันจะๆ เลยดีไหมครับ?"
"ดี!" มิยาจิก็ตอบรับทันทีอย่างเต็มใจ
"งั้นเอาตามนั้นนะครับ" ฮายามะพูดขณะที่มือกดปุ่มมือถือในมือหาใครบางคน "เดี๋ยวผมขอคุยโทรศัพท์แป๊บนะครับ...ผมจะคุยเรื่องหาชุดให้มิยาจิซังน่ะ"
มิยาจิพยักหน้าอย่างว่าง่ายพร้อมกับที่ปลายสายรับโทรศัพท์พอดี
'โคทาโร่จัง? มีอะไรเหรอ? โทรมาซะดึกเชียว...' คนที่ฮามายะโทรหาไม่พ้นมิบุจิ เรโอะผู้ที่เป็นเหมือนพี่สาว (?) ของทีมนั้นเอง
"พี่เรโอะคร้าบบบบบ ช่วยผมเรื่องหนึ่งได้ไหมคร้าบบ"
'ถ้าไม่ยากมากก็คงได้นะจ๊ะ'
"งั้นช่วยหาชุดเด็กให้หน่อยได้ไหมครับ?"
'เอ๋?' เสียงปลายสายแสดงถึงความแปลกใจในสิ่งที่ได้ยิน 'ไอ้ได้มันได้จ้า แต่จะเอาไปทำไมล่ะ?'
"คือว่าก่อนหน้านี้..." แล้วฮายามะก็เล่าเรื่องที่มิยาจิกลายเป็นเด็กให้มิบุจิฟัง "เรื่องก็เป็นอย่างนี้แหละคร้าบบบ"
'เข้าใจแล้วจ้า เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาไปให้ที่โรงยิมนะจ๊ะ'
"ขอบคุณคร้าบบบ" ฮายามะก็กดวางสาย ก่อนที่จะอุ้มเด็กน้อยที่อยู่บนตักตนขึ้น "มิยาจิซัง พวกเรานอนกันเลยดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสายเอา..."
ฮายามะอุ้มมิยาจิที่ดิ้นพล่านๆ พร้อมบอกว่าให้ปล่อย แต่เจ้าต้วก็ไม่สนพามิยาจิไปที่ห้องนอนตน...
และเมื่อเห็นห้องนอนของฮายามะ มิยาจิก็ต้องคิ้วกระตุกเป็นรอบที่สอง...
...ถามจริง! นายอยู่คนเดียวแล้วจะห้องใหญ่ไปไหนห๊ะ!!! เห็นแล้วอยากเอาระเบิดมาปาเฟ้ย!!!...
กริ้งงงงงงงง กริ้งงงงงงงง กริ้งงงงงงง กริ้งงงงงงงง
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเสียงดังปลุกให้เด็กน้อยผมสีน้ำผึ้งตื่นจากนิทรา โดยที่คนผมสีคาราเมลข้างๆ ยังหลับสนิกอยู่เลย
"อืมมม เช้าแล้วเหรอ" มิยาจิ คิโยิในร่างเด็กน้อยลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย ทั้งที่ยังหลับตาอยู่มือก็พลางคว้านาฬิกาปลุกมาปิด...
...แต่ทำไมเสียงถึงยังดังอยู่นะ?
มิยาจิยกมือขยี้ตาก่อนที่จะลืมตามองรอบๆ จนไปสะดุ้ดกับนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงเข้า และรู้สึกปวดหัวกับคนที่ยังหลับอยู่เล็กน้อย...
...นายจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ทำไมตั้งสี่เรือนฟะ! ไม่สิ ที่จริงที่หน้าทึ่งกว่าคือเสียงดังขนาดนี้ยังอุตสาห์หลับได้เนอะ!!!...
มิยาจิปิดนาฬิกาทุกเรือนก่อนที่จะปีนลงจากเตียงไปทำธุระของตน พร้อมอาบน้ำแต่งตัว (ใส่เสื้อฮายามะนั้นแหละ) และค่อยปีนขึ้นเตียงอีกรอบเพื่อปลุกคนอายุมากกว่าที่ยังคงหลับอยู่...
"ตื่นได้แล้ว! ตื่น!"
"ขออีกครึ่งชั่วโมงนะคร้าบบบ" ฮายามะตอบคล้ายละเมอก่อนที่จะมุดหัวเข่าไปในผ้าห่ม
"ปกติเขาต้องบอกว่าห้านาทีไม่ใช่เหรอ!" มิยาจิโวยขึ้น และพยายามปลุกอีกฝ่ายอยู่นาน จนมิยาจิเริ่มหัวเสียแล้ว ก็เลย...
พลั่ก!
บาทาน้อยๆ แต่แรงไม่น้อยตามถีบเข้าหลังของคนที่ไม่ยอมตื่นจนสะดุ้งลุกพรวกขึ้นมา...
"โอ้ย! มิยายิซังมันเจ็บนะคร้าบบบ" เมื่อเจออย่างนี้ฮายามะก็ตื่นเต็มตาทันที พร้อมลูบหลังตัวเองจากที่โดนถีบเมื่อครู่ "ถีบผมทำไมอ่ะคร้าบบบ"
"ก็น่าไหมล่ะ! ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น!" มิยาจิแทบอยากเอานาฬิกาปลุกมาปาหัวคนตรงหน้าเหลือเกิน "แล้วนายต้องไปฝึกตอนกี่โมงห๊า!"
"แปดโมงเช้าครับ...นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย?" ฮายามะคว้านาฬิกาขึ้นมาดู "อืม เจ็ดโมงสี่สิบห้า...เฮ้ย! จะสายแล้วนี่หว่า!!!"
"เพิ่งรู้เหรอ! รีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว!" มิยาจิสั่ง ไม่ต่างจากตอนปกติสักเท่าไหร่นัก แสดงให้เห็นว่าตอนเด็กเป็นยังไงตอนโตก็เป็นอย่างนั้น...
"ครับ!!!" ฮายามะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปในทันที และเพียงเวลาไม่ถึงสามนาทีก็ออกมาพร้อมคว้าตัวมิยาจิวิ่งออกจากห้อง
"อย่าลืมปิดล็อกประตูด้วยเซ่!!!" มิยาจิโวยทันทีที่ออกจากห้องแล้วเห็นฮายามะไม่ล็อกห้อง...ที่จริงไม่แม้จะปิดประตูด้วยซ้ำ
"ครับ!!!" ฮายามะรีบปิดประตูล็อกก่อนที่จะวิ่งไปลงลิฟท์...
สิบนาทีต่อมาฮายามะยืนหอบแฮ่กอยู่หน้าโรงเรียนของตน โดยมีมิยาจิมองโรงเรียนนี้อย่างทึ่งๆ สลับกับคนข้างๆ...
...ราคุซัน...โรงเรียนพวกคนรวยนี่หว่า มิน่าล่ะหมอนี่ถึงพักห้องหรูแท้...
ฮายามะเดินลากขาเข้าไปจนถึงโรงยิม...ซึ่งฮายามะเห็นร่างถึกๆ อันคุ้นเคยนั่งตัวสั่นหน้ายิ้มเบี้ยวๆ เหมือนกลั่นหัวเราะอยู่หน้าโรงยิม
"เฮ้! มาทำอะไรหน้าโรงยิมล่ะ?" ฮายามะถาม
"ง...ไง เดี๋ยวเข้าไปนายก็รู้ อุ๊บ! ฮาๆๆๆๆ ดันนึกถึงเรื่องนั้นซะได้! ฮาๆๆๆๆๆ" เนบุยะ เคอิจิ หัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลักจนฮายามะเริ่มสงสัยว่าเพื่อนตนอาจบ้าจริงๆ ก็ได้ ซึ่งแน่นอนมิยาจิก็คิดว่าคนตรงหน้านี่อาจบ้าก็ได้
จนผ่านไปพักหนึ่งเนบุยะจึงค่อยควบคุมตัวเองได้ และสังเกตเห็นสิ่งที่ฮายามะอุ้มมาด้วย "แล้วนายพาเด็กที่ไหนมาด้วยเนี่ย?"
"เดี๋ยวบอก แล้วพี่เรโอะมาหรือยัง?"
"มาแล้ว...และรายนั้นแหละที่ทำเอาฉันหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลักเนี่ย..." เนบุยะตอบพลางทำท่าคล้ายจะหลุดก๊ากออกมาอีกรอบ
ฮายามะรีบเปิดประตูโรงยิมเข้าไปทันที เพราะกลัวจะได้ยินเสียงหัวเราะแสบแก้วหูอีกรอบ ถึงจะไม่เข้าใจก็เถอะว่าอะไรทำให้เพื่อนตนหัวเราะขนาดนั้น แต่เมื่อเห็นภาพบุคคลผู้หนึ่งที่อยู่ในโรงยิมทำให้เขามีสภาพไม่ต่างจากเพื่อนตนเท่าไหร่นัก
"ฮาๆๆๆๆ คุณคิ้วบาง! ไหงแต่งตัวแบบนั้นล่ะ! ฮาๆๆๆๆๆ" ฮายามะหัวเราะจนแทบหายใจไม่ทัน ส่วนมิยาจิก็รู้สึกอึ้งกับภาพที่เห็น...
...ภาพที่ปรากฏสู่สายตาเขาคือภาพคนร่างสูงที่มีผมและตาสีเงิน ถึงหน้าหวานไปนิดแต่ดูยังไงก็ผู้ชายแน่กลับสวมชุดกระโปงฟูฟองสีหวานที่คาดว่าน่าจะเป็นชุดเมด ด้วยท่าทางเหมือนอยากจะหายๆ ไปซะเดี๋ยวนี้
"อย่าหัวเราะน่าใช่ว่าฉันอยากแต่งสักหน่อย..." มายุสุมิ จิฮิโระพูดด้วยท่าทางอยากเอาหัวมุดดินเต็มแก่แล้ว
...ทั้งที่ปกติเขาจืดจางมากแท้ๆ แต่ทีแบบนี้ทำไมเขาไปจืดจางจนหายไปเลยนะ!!!...
"...แต่ก็ดูดีนะ" บุคคลผู้มีผมสีดำดุจอีกาเดินเข้ามาหา พร้อมรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าตัวการที่จับคนผมเงินแต่งหญิงคือตนนี่แหละ...
"ไอ้ดูดีมันก็ดูดีนะ แต่มันก็ขำด้วย...ฮาๆๆ" ฮายามะไม่เถียงหรอก ถึงอีกฝ่ายจะสวมชุดผู้หญิงแต่กลับเข้ากันยิ่งกว่าผู้หญิงแท้ๆ อีก ที่จริงเขาขำหน้าที่เหมือนจะมุดดินของอีกฝ่ายมากกว่าการที่อีกฝ่ายถูกจับแต่งหญิงเสียอีก! (พูดง่ายๆ คือขำในความโชคร้ายของคนอื่นนั้นแหละ)
"มิบุจิ...เอาชุดฉันคืนมาได้ยัง!" มายุสุมิถามทันทีที่เห็นตัวการที่จับเขาแต่งอย่างนี้...เขาไม่น่าเผลอหลับระหว่างพักเลย! ไม่งั้นตื่นมาอีกทีคงไม่โดนจับใส่ชุดนี้หรอก! แถมเอาชุดเขาไปซ่อนไหนก็ไม่รู้!
"ไม่เอาน่า ทีเด็กคนนั้นยังไม่บ่นเลย..." มิบุจิบ่น ดูท่าจะไม่เอาชุดคืนอีกฝ่ายง่ายๆ แน่
"ไม่ใช่ไม่บ่น แต่พูดไม่ออกมากกว่า..." มายุสุมินึกถึงคนที่โดนจับแต่งหญิงเหมือนเขา
"เดี๋ยวๆ ที่พูดกันอยู่เนี่ยพูดถึงใคร?" ฮายามะแทรกบทสนทนาของทั้งสอง...เขารู้สึกว่าไอ้คำว่า 'เด็กคนนั้น' มีคนเดียวที่ถูกเรียกแบบนี้นะ
"ก็พูดถึงนี่ไงล่ะ!" มิบุจิตอบอย่างร่าเริงพร้อมคว้าคนคนหนึ่งที่หลบมุมจนไม่มีใครทันสังเกตในตอนแรกออกมา
ร่างของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทุกขณะ สวมชุดนักเรียนหญิงสีขาวอยู่...
"เฮ้ย! ชิวาว่าคุง! มาไงเนี่ย!?" ฮายามะทักทันทีที่เห็นว่าคนที่โดนอีกคนที่ว่าคือคนรักของกัปตันทีมตนนั้นเอง คาดว่าคนที่พามาก็คงไม่พ้นกัปตันทีมเขานั้นแหละ
"ฟุริฮาตะต่างหากล่ะครับ..." ฟุริฮาตะอยากจะร้องไห้จริงๆ ทำไมเขาต้องโดนจับแต่งแบบนี้ด้วยเนี่ย!
"...ทีมนายนี่มันอะไรกัน..." เด็กน้อยผมสีน้ำผึ้งที่เกือบถูกลืมบ่นออกมาอย่างเหนื่อยใจชอบกล...ปนกับสงสารคนที่ถูกจับแต่งหญิงทั้งสองด้วย
"ว้าว! นี่เหรอที่โคทาโร่จังโทรมาบอกเมื่อวาน...น่ารักจังเลย!" มิบุจิคว้าตัวเด็กน้อยจากฮายามะมากอด
"เด็กคนนี้ใครกัน?" มายุสุมิรู้สึกว่าเด็กที่มิบุชิกอดอยู่นั้นหน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
"นั้นสิน้าา" เนบุยะเดินเข้ามาในโรงยิม แม้ยังขำทันทีที่เห็นมายุสุมิก็เถอะ จนมายุสุมิอยากถีบสักทีจริงๆ
"โคทาโร่...นายพาเด็กที่ไหนมาด้วยเนี่ย?" ร่างของเด็กหนุ่มผมแดงเดินเข้ามาหา "เรโอะ...เอาชุดคืนจิฮิโระซังได้แล้ว เดี๋ยวเราต้องไปซ้อมกับโรงเรียนอื่นแล้ว..."
"จ้าาาา" มิบุจิยัดมิยาจิให้ฟุริฮาตะอุ้ม ก่อนที่จะเดินหายไปในห้องแต่งตัว...และได้ยินเสียงเหมือนรื้อบางอย่างแว่วออกมา
"เอ่อ สวัสดีครับ..." ฟุริฮาตะทักเด็กน้อยที่ถูกยัดให้เขาอุ้มเมื่อครู่ "พี่ชื่อฟุริฮาตะ โคกินะครับ แล้วหนูชื่ออะไรครับ?"
ดวงตาสีน้ำผึ้งของเด็กเงยหน้าขึ้นมองสบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลของอีกฝ่าย...และอดคิดไม่ได้ว่าคนคนนี้ดูปกติที่สุดแล้ว "ผมมิยาจิ คิโยชิครับ"
เท่านั้นแหละทุกคนชะงั้น ก่อนที่จะเบนสายตาไปมองยังคนผมสีคาราเมลที่ยืนหน้ายิ้มอยู่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
"เอ่อ ช่วยบอกอีกทีได้ไหมครับว่าชื่ออะไรนะ?" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ รู้สึกไม่อยากเชื่อหูตัวเองชอบกลทั้งที่ได้ยินอย่างชัดเจน
"มิยาจิ คิโยชิครับ" เด็กน้อยตอบยืนยัดคำเดิมอย่างไม่เข้าใจ...ชื่อเขามันแปลกตรงไหนเหรอ? โดยไม่รู้เลยทุกคนในที่นี่สติเริ่มหลุดกันแล้ว
"โคทาโร่...นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? เอาแบบย่อๆ " มีเพียงอาคาชิเท่านั้นที่พอคุมสติตัวเองเอาไว้ได้
"อ๋อ เห็นบอกว่าข้าวกล่องตกใส่มิยาจิซังกับทาคาโอะแล้วก็กลายเป็นแบบนี้แหละ" ฮายามะก็เล่าย่อๆ จริงๆ ซึ้งแน่นอนไม่มีใครเข้าใจที่ฮายามะพูด มีแต่อาคาชิอีกนั้นแหละที่พอประติดประต่อเรื่องได้
"...ตอนนั้นมีใครอยู่บ้าง?" อาคาชิชักคิ้วกระตุก
...ชักสังหรณ์ใจแปลกๆ แหะ...
"พวกชูโตกุกับพวกโอโทวน่ะ" ฮายามะตอบทันที
"...งั้นคงเป็นข้าวกล่องที่โมโมะอิทำแหง" อาคาชิคุมขมับอย่างเหนื่อยใจ
"อาคาชิเดาเก่งจัง! ถูกด้วย!" ฮายามะพูดอย่างตื่นเต้นโดยไม่รู้เลยว่าใครเคยอยู่ทีมปาฏิหาริย์ล่ะก็รู้กันตั้งแต่ตรงข้าวกล่องแล้วล่ะ
"แล้วมันเกี่ยวอะไรเนี่ย..." มายุสุมิถามทันทีหลังดึงสติตนกลับมาได้
"คือว่ามันเป็นแบบนี้..." แล้วอาคาชิก็เล่าวีรกรรมการทำอาหารของโมโมอิให้ทุกคนฟัง ซึ่งแน่นอนเมื่อฟังจบทุกคนก็ตัดสินใจในทันทีว่าจะไม่มีวันกินกับข้าวฝีมืออดีตผู้จัดการทีมบาสของเทย์โควเด็ดขาด
พร้อมกันนั้นเองมิบุจิก็เดินกลับมาพร้อมถุงเสื้อผ้าของมายุสุมิ ซึ่งแน่นอนเจ้ารีบคว้าถุงมาพร้อมเดินไปเปลี่ยนชุดทันที
"น่าเสียดายจังแหะ นานๆ ทีมายุซังจะเผลอสักที..." มิบุจิบ่นอย่างเสียดายที่ได้จับอีกฝ่ายแต่งหญิงแค่แป๊บเดียว
"เอาน่า...ก็แอบถ่ายรูปไว้เป็นกระตั่งเลยไม่ใช่หรือไง" เนบุยะบอกพร้อมเอาขนมปังจากไหนไม่รู้ยัดเข้าปากตน
"เอ่อ...มิบุจิซัง เมื่อไหร่จะคืนชุดผมมาล่ะครับ~" ฟุริฮาตะเริ่มโวยที่ตนยังต้องแต่งหญิงคนเดียว
"โทษทีนะ ชุดของฟุริจังไม่ได้อยู่ที่ฉัน...อยู่ที่เซย์จังต่างหาก" มิบุจิส่งยิ้มให้
"อาคาชิ..." ฟุริฮาตะกำลังจะขอชุดคืนจากคนผมแดง แต่กลับโดนดักไว้ก่อน
"อย่ามาขอซะให้ยากเลยโคกิ ยังไงฉันก็ไม่คืนให้หรอก" อาคาชิยิ้มอย่างผู้มีชัย
"แต่..."
"ถ้าขออีกเดี๋ยวคืนนี้เจอจัดหนักแน่..." พอเจอประโยคนี้ของอาคาชิ ฟุริฮาตะก็ถึงปิดปากเงียบทันที ได้แต่ประท้วงในใจ
...อาคาชิ...จงใจแกล้งใช่ไหมเนี่ย!?!...
"มิยาจิซังลองใส่ชุดนี้หน่อยไหม?" มิบุจิหยิบชุดกระโปงเด็กสีหวานออกมา
"เอ่อ ขอบายดีกว่าคับ..." มิยาจิปฏิเสธทันทีอย่างไม่ต้องผ่านสมองเลย เขายอมใส่ชุดของคนผมสีคาราเมลดีกว่าใส่ชุดผู้หญิง!
"ทำไมล่ะ น่าจะดูดีนะ"
"ใครเขาอยากโดนจับแต่งเป็นผู้หญิงกันล่ะ" มายุสุมิเดินออกมาด้วยชุดทีมของราคุซันที่เห็นกันจนชินตา
"เอ้า เลิกเล่นกันได้แล้ว ไปเตรียมตัวฝึกได้แล้ว" อาคาชิสั่งทุกคน และเพียงไม่นานทุกคนก็ออกเดินทางไปยังโรงเรียนที่จะเป็นคู่ซ้อมแข่งในวันนี้ทันที ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากราคุซันไปถึงสองชั่วโมง
ผลการซ้อมแข่งขันของโรงเรียนคือราคุซันชนะด้วยคะแนน 120 ต่อ 30 ซึ่งความห่างของคะแนนยังคงได้ทำให้ผู้ที่มาชมการแข่งตกตะลึงได้เหมือนเดิม
"สุดยอด"
"คะแนนห่างกันสุดๆ ไปเลย"
"สมแล้วที่เป็นราชันไร้มงกุล"
"แถมกัปตันทีมยังเคยเป็นกัปตันทีมปาฏิหาริย์ด้วย"
"เป็นทีมที่แกร่งสุดๆ ไปเลย"
"พวกนี้เป็นปีศาจหรือไงนะ"
"ฯลฯ" คำวิจารณ์ต่างๆ นาๆ จากปากผู้ชมทั้งหลายดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ
ฟุริฮาตะ (ที่ยังสวมชุดนักเรียนหญิงอยู่) กับมายาจิ (ในเสื้อของฮายามะ) นั่งบนตักฟุริฮาตะชมการแข่งขันเงียบๆ ชนิดติดขอบสนาม (ที่นั่งจัดโดยอาคาชิ)
ดวงตาสีน้ำผึ่งจ้องไปยังผู้เล่นในสนามอย่างสนอกสนใจ "นี่ พวกนั้นเก่งขนาดนี้เลยหรอกคับ?"
"ใช่ครับ" ฟุริฮาตะตอบขณะเอามือจับตัวเด็กน้อยไว้กันตกจากตักเขา
พร้อมกันนั้นเองฮายามะก็วิ่งเข้ามาคว้าตัวเด็กน้อยมากอดทันที "มิยาจิซัง! ผมแข่งเป็นไงบ้างครับ! ผมเก่งใช่ไหม!"
"เอ่อ! ไอ้เก่งน่ะเก่ง...แต่ช่วยปล่อยผมก่อนได้ไหม!? มันอึดอัดน้าาา!" มิยาจิโวยพร้อมส่งกำปั้นใส่หน้าอีกฝ่าย ซึ่งผลออกมาคือได้รอยกำปั้นเด่นชัดประดับหน้าเป็นที่เรียบร้อย
"โอ๊ย! เจ็บนะครับ ไหงผมกอดไม่ได้คนเดียวล่ะ?" ฮายามะถามอย่างคล่องใจ...ก็ทั้งพี่เรโอะทั้งชิวาว่าคุงกอดได้แต่ไหงเขากอดทีไรก็โดนตลอดเลยล่ะ?
"...ไม่รู้เหมือนกันแหะ มันไปของมันเอง" ที่จริงมิยาจิก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม...
"หรือว่าเขินตอนถูกโคทาโร่มันอุ้ม?" เนบุยะลองเสนอความคิดเห็นดู
"บ้าสิ! ผมจะเขินหมอนี่ทำไมล่ะ!" มิยาจิปฏิเสธ ทั้งที่หน้าบ่งบอกว่าเป็นอย่างที่เนบุยะคิดเลย
เมื่อเห็นท่าทางอย่างนั้นของมิยาจิ ฮายามะก็ยิ้มกว้างกับท่าทางน่ารักของอีกฝ่าย "แบบนี้...โดนกี่ดอกก็ยอมคร้าบบบ!"
"อย่าเข้ามาใกล้นะ! หยะแหยงเฟ้ย!" มิยาจิที่โดนคว้ามากอดอีกรอบพยายามดันอีกฝ่ายออกห่าง...แต่ดูเหมือนดันออกไปกี่ทีฮายามะก็กลับเข้ามากอดเหมือนเดิม...
"อาคาชิ...ทำอะไรอยู่น่ะ?" ฟุริฮาตะละสายตาจากการทะเลาะของเด็กกับผู้ใหญ่ มาถามคนผมแดงที่ถือโทรศัพท์ไว้ในมือ
"จะลองโทรหาชินทาโร่ดู...ฉันสังหรณ์ว่าชินทาโร่น่าจะรู้วิธีทำให้มิยาจิซังกลับมาเป็นเหมือนเดิม..." อาคาชิตอบ เขาไม่รู้ทำไมเมื่อกันว่าทำไมรู้สึกอย่างนี้
"ถ้ามิโดริมะรู้ก็น่าจะทำให้ทาคาโอะกลับเป็นเหมือนเดิมแต่แรกสิ..." ฟุริฮาตะจำได้ว่าฮายามะบอกว่าทาคาโอะก็โดนด้วยนี่
"ไม่รู้สินะ...ฉันแค่สังหรณ์เท่านั้น..." ...และถ้าเป็นดังที่เขาสังหรณ์ล่ะก็ ชินทาโร่คงจะเพิ่งรู้วิธีแก้ก็ได้
อาคาชิกดปุ่มโทรออก เสียงรอสายดังอยู่สักพัก ไม่นานเกินรอก็มีคนรับ 'อาคาชิ? นายโทรหาฉันทำไมเนี่ย?'
"ฉันได้ฟังเรื่องเมื่อวานจากโคทาโร่เลยจะลองถามวิธีแก้จากนาย..."
'ไหงนายคิดว่าฉันรู้วิธีแก้ล่ะ?' น้ำเสียงจากปลายสายแสดงถึงความงุนงงของตนเองได้อย่างชัดเจน
"ลางสังหรณ์..." อาคาชิตอบอย่างตรงไปตรงมา
'...' ปลายสายเงียบไปสักพัก ท่าจะอึ้งกับคำตอบที่ได้รับ 'ฉันขอบอกเลยนะว่าลางสังหรณ์ของนายแม่นมาก ฉันเพิ่งรู้จากนิจิมุระซังวันนี้เอง..."
"สรุปคือรู้วิธีแก้ใช่ไหม?"
'อืม ใช่ ช่วยบอกฮายามะซังด้วยว่าวิธีแก้คือจูบ'
"วิธีแก้เหมือนในนิทานดีเนอะ" อาคาชิอดคิดไม่ได้ว่าอาหารที่โมโมอิทำอาจเหมือนพวกแม่มดในนิทานก็ได้
'...ฉันก็ว่างั้น และอย่าลืมบอกฮายามะซังด้วยล่ะว่าอย่าทำอะไรเกินเลยล่ะ'
"พูดแบบนี้แสดงว่านายทำไปแล้วสินะ..." อาคาชิพูดเย้าแหย่เล่น แต่ได้ผลลักณ์คือเสียงที่ฟังแล้วเดาสีหน้าของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
'ร...เรื่องนั้นช่างฉันเถอะน่า! แค่นี้นะอาคาชิ!" แล้วก็วางสายไปในทันทีก่อนที่อาคาชิจะได้แกล้งต่อ
"อาคาชิ...เป็นไงบ้าง?" ฟุริฮาตะถาม ขณะที่อาคาชิเก็บมือถือเข้ากระเป๋า
"ชินทาโร่บอกว่าวิธีแก้คือจูบ..." อาคาชิยิ้มให้ ราวกับคาดได้ว่าหลังจากนี้อีกฝ่ายจะมีปฏิริยาอย่างไร
"ห๊า!?!" ฟุริฮาตะถึงกับหน้าเหวอ...อะไรวิธีแก้จะคล้ายกับในนิทานปานนั้น!
"ก็อย่างที่บอกนั้นแหละ เดี๋ยวไปบอกโคทาโร่ก่อนแล้วกัน..." อาคาชิเดินจูงมือฟุริฮาตะไปหายังคนที่ฟัดกับเด็กไม่เลิก
"อ...อืม" ฟุริฮาตะตอบอย่างสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
"โคทาโร่..." อาคาชิเรียกคนที่ยังคงกอดรัดฟัดเหวี่ยเด็กอยู่
"หือ? มีอะไรเหรอ?" ฮายามะถามทั้งที่หน้าถูกบาทาน้อยๆ ถีบอยู่
"รู้วิธีแก้แล้ว..." อาคาชิพูดสั้นๆ แต่ทุกคนก็เข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายสื่อออกมาทันที
"จริงสิ!?!" เนบุยะถามอย่างไม่แน่ใจ
...ไหงรู้เร็วจังฟะ!...
"เซย์จังแล้ววิธีแก้คืออะไรเหรอ?" มิบุจิถามอย่างอยากรู้มากกว่าอยากที่จะให้มิยาจิกลับเป็นอย่างเดิมเสียอีก
"วิธีแก้คือจูบน่ะ" อาคาชิตอบ
..........
.........
........
.......
......
.....
....
...
..
.
"ห๊า!?!" คำตอบที่ได้รับเล่นเอาทุกคนสมองหยุดไปเลยทีเดียว โดยเฉพาะฮายามะที่เกือบเผลอปล่อยมิยาจิตกพื้นท่าจะหนักกว่าคนอื่น
"พูดจริงสิ..." มายุสุมิเอามือคุมขมับ ไหงเรื่องมันกลายเป็นคล้ายกับไลท์โนเวล์ที่เขาเพิ่งอ่านจบไปได้ฟะ!!!
"ผมพูดจริงแน่นอน" อาคาชิตอบอย่างสนุกที่ได้เห็นคนสติหลุด
"อ...เอาจริงสิ?" ฮายามะกลืนน้ำลาย อ่า นี่เขาต้องจูบมิยาจิซังจริงๆ เหรอเนี่ย? แล้วหลังมิยาจิซังกลับร่างเดิมแล้วจะโดนฆ่าหมกศพไหมเนี่ย?
"...คงต้องเอางั้น" เนบุยะตอบอย่างสติยังไม่เข้าร่างดีนัก
"ถ้านายไม่กล้าเดี๋ยวฉันทำใหแทนดีไหม?" มายุสุมิกะลองพูดเล่นๆ แต่ผลที่ได้รับคือ...
"ไม่มีทาง!!!" ฮายามะขู่ฟ่อพร้อมอุ้มมิยาจิที่ไม่เข้าในบทสนทนาของเหล่านักบาสทีมราคุซันขยับออกห่าง
"มายุซัง..." มิยุจิยังคงยิ้มแต่บรรยากาศกลับเย็นยะเยือกจนมายุสุมิขนลุก "...อยากจะลุกไม่ขึ้นในวันพรุ่งนี้ใช่ไหม?"
"ฉันล้อเล่น!!!" มายุสุมิรีบถอยห่างและกำลังจะหนี...
...แต่ไม่ทัน มิบุจิจับคอเสื้ออีกฝ่ายไว้ได้ก่อนพร้อมดึงเข้ามารัดคอกันหนีด้วย "หนีไม่พ้นหรอกนะมายุซัง...ฉันกลับก่อนนะเซย์จัง"
"ครับ ขอให้โชคดี" อาคาชิเอ่ยพร้อมโบกมือลามิบุจิที่เดินจากไปพร้อมลากมายุสุมิไปด้วย คาดว่าดีไม่ดีวันจันทร์มายุสุมิคงอาจจะยังลุกขึ้นจากเตียงไม่ไหวก็ได้
หลังจากมายุสุมิกลับไปได้สักพักทุกคนก็แยกย้ายกลับบ้านกลับหอของตนเองอย่างสติยังไม่เข้าร่างดีนัก...
"เอาไงดีล่ะคราวนี้..." ฮายามะที่กลับมาถึงหอพักของตนเองแล้ว นั่งค้มหัวอย่างกลุ้มใจ ตั้งแต่กลับมายังตอนนี้ก็เป็นเวลาทุ่มกว่าแล้ว...
...เอาไงดีฟะ! จะทำตอนนี้เลยหรือเอาไงดี!?!...
"นี่!" ฮายามะหันไปมองยังคนที่เรียกตน
เด็กน้อยที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำ ชุดที่สวมโพรนกว่าเดิมคาดว่าคงหยิบผิดตัวเอาเสื้อตัวที่ใหญ่สุดมาใส่แทน ขนาดเจ้าของเสื้อใส่แล้วยังหลวมมากเพราะซื้อผิด แล้วเด็กน้อยตรงหน้าจะเหลือเหรอ
"เป็นอะไรไปเหรอ?" ฮายามะมองไปยังดวงตาสี้ำผึ้งที่จ้องมองเขาอยู่...นี่เขาคงดูผิดปกติมากสินะ?
"เปล่าครับ ผมไม่เป็นไรหรอก..."
"แต่หน้านี่บอกเลยนะว่ามีอะไรแน่ๆ" พอเจอมิยาจิขัดแบบนี้ ฮายามะก็อดคิดไม่ได้ว่ามิยาจิช่างเซ้นร์ดีแต่เด็กแท้
"เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ มิยาจิซัง...ผมขออะไรหน่อยได้ไหมครับ?"
"หือ? คงได้มั้ง...มีอะไรล่ะ?" มิยาจิมองอย่างไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะขออะไรถึงได้ถามเขาก่อน ทั้งที่อีกฝ่ายน่าจะทำโดยไม่สนใจอะไรเลยมากกว่า
"มิยาจิซัง...จูบผมหน่อยได้ไหมครับ..." ฮายามะขอกันตรงๆเลย
...ก็เขาไม่อยากเป็นฝ่ายจูบมิยาจิซังก่อนนิ มันอายนะ!...
"อ๋อ...เฮ้ย! จะบ้าเหรอ!?" มิยาจิที่เกือบเอ่ออ๋อตามว๊ากใส่
"นะคร้าบบ มิยาจิซัง!" ฮายามะขอร้องอีกฝ่าย...ถ้ามิยาจิซังไม่จูบเขา เขาก็ต้องเป็นฝ่ายจูบมิยาจิซังเองน่ะสิ!
"ไม่มีทาง!" มิยาจิหันหน้าหนีด้วยใบหน้าแดงก่ำ สุดท้ายก็เลยเหลือทางเหลือเดียวให้ฮายามะ...
...ขอโทษล่วงหน้านะครับ! มิยาจิซัง! ถึงร่างเด็กจะน่ารักก็เถอะ แต่ผมอยากให้มิยาจิซังเป็นแบบเดิมมากกว่า!!!...
"งั้นผมไม่มีทางเลือกแล้วนะครับ!" ฮายามะคว้าตัวเด็กน้อยมาและ...
...ประกอบริมฝีปากลงไป ก่อนที่จะถอนริมฝีปากออกมาอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าแดงแจ๋ พร้อมกันนั้นเองก็มีควันปรากฏขึ้นรอบตัวเด็กน้อยและค่อยๆ หนาขึ้นเรื่อยๆ
ปุ๊ด...
มีเสียงดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่ควันจะเริ่มจางลง ปรากฏร่างอันคุ้นเคยบ่งบอกว่าสิ่งที่เขาทำนั้นสำเร็จแล้ว
"โอ้ย! นี่มันอะไรกันฟะ!?!" เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งนั่งคุมหัวอย่างงงๆ เขาจำได้ว่าตนถูกข้าวกล่องสยองขวัญนั้นตกใส่นี่น่า...แล้วที่นี่มันที่ไหนฟะ?
ดวงตาสีน้ำผึ้งกวาดมองรอบๆ ห้อง ก่อนที่จะมองคนคุ้นเคยที่อยู่ตรงหน้าตน
"ฮายามะ? นี่มันที่ไหนเนี่ย? แล้วเป็นอะไรหน้าแดงเชียว?" มิยาจิถามอย่างงุนงง แต่อีกฝ่ายก็ยังเงียบเหมือนจะไม่ได้ยินที่เขาพูด ทำให้เส้นเลือดเริ่มปูดขึ้นที่ขมับ "ฮายามะ! ได้ยินไหมโวย!!!!!!"
"คร้าบ! ได้ยินแล้วครับ! แต่มิยาจิซังช่วยดูสภาพตัวเองก่อนเถอะครับ!" ฮายามะพูดทั้งที่มือปิดตาตัวเองอยู่
"เอ๋?" มิยาจิลองก้มมองตัวเอง ก่อนที่จะหน้าแดงตามอีกฝ่าย "เฮ้ย! กางเกงฉันหายไปหนายยยย!!!"
มิยาจิรีบเอามือและดึงเสื้อลงมาปิดส่วนสำคัญของตนเองไว้...ฮายามะรู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่มิยาจิใส่เสื้อตัวใหญ่อยู่
"นี่มันเรื่องอะไรกาาาานนนน!!!" มิยาจิหน้าแดง พยายามดึงเสื้อลงมาปิดมากที่สุด จ้องอีกฝ่ายตาเขม็งดวงน้ำตาคลอจากความอาย และท่าทางแบบนั้นทำให้...
พรูด!!!
เลือดกำเดาพุ่งออกมาจากคนผมสีคาราเมล ก่อนที่จะล้มตึงสลบไปทั้งอย่างนั้นเลย
"เฮ้ย! ฮายามะ!"
"สรุปว่าฉันกลายเป็นเด็กแล้วนายก็มาแก้ให้สินะ..." มิยาจิที่สวมชุดที่ซื้อมาผิดของฮายามะนั่งอยู่บนโซฟาสรุปเรื่องราวทั้งหมด ที่คนผมสีคาราเมลเล่าหลังจากที่เจ้าตัวฟื้นขึ้นมาแล้ว
"ใช่คร้าบบบ" ฮายามะพุ่งเข้ากอดมิยาจิตามปกติ และโดนมิยาจิดันหัวไว้อีกตามเคย...
"...แล้วนายใช้วิธีไหนแก้ล่ะ? นายยังไม่ได้บอกเลยนะ" มิยาจิถาม และทันใดนั้นใบหน้าของฮายามะก็เปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้ง
"คือ...ว่า...ผม...เอ่อ...ผมไปอาบน้ำก่อนนะคร้าบบบ" ฮายามะวิ่งเข้าห้องน้ำไปในทันที เพื่อเลี่ยงทำถามที่อาจทำให้ตนตายก่อนวัยอันควร
"เฮ้ย! ฮายามะ! โว้ย! นี่มันอะไรกันฟะ!" มิยาจิได้แต่โวยวายอยู่คนเดียว ไหงต้องหนีด้วยฟะ!
สุดท้ายมิยาจิก็ไม่ได้คำตอบในเรื่องนี้จากฮายามะเลย...และกลายเป็นว่าฮายามะขอให้มิยาจิอยู่ด้วยไม่ให้กลับโตเกียวซะงั้นจนกว่าจะถึงวันเรียนของชุโตกุ
ด้วยลูกอ้อนของฮายามะและด้วยเหตุที่ฮายามะไม่ได้เอาทั้งมือถือทั้งกระเป๋าตังส์ของมิยาจิมาด้วย เป็นเหตุให้มิยาจิติดแหงะอยู่ที่นี่ไปโดยปริยาย จนกว่าฮายามะจะจ่ายเงินค่าตั๋วรถไฟขากลับให้...
End
ความคิดเห็น